เช้าวันนี้..เป็นเช้าวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน
"ตื่นๆ"เด็กหญิงดารินใช้หมอนเขี่ยๆ คนตัวโตที่ยังนอนคุดคู้ไม่ต่างจากเด็กน้อย..แต่ผู้ชายที่เธอรับรู้ว่าเป็นพ่อก็ยังไม่ตื่น..คิ้วได้รูปสวยขมวดยุ่ง..ริมฝีปากรูปกระจับเหมือนคนเป็นแม่เม้มแน่น
ดวงตาดำขลับกลอกกลิ้งคิดหาวิธี 'แกล้ง'..ปลุกดีๆ ไม่ตื่น..งั้นลองวิธีนี้ละกัน..ร่างเล็กกระโดดลงจากเตียง..ก่อนเดินบนปลายเท้าไม่ให้เกิดเสียงลงไปเอา'บางอย่าง'ที่ชั้นล่าง
พอถึงห้องนอน..เด็กน้อยกลับมานั่งข้างฟูก..คนเป็นพ่อก็ยังไม่ตื่น..ใบหน้าสวยหวานยังคงอมยิ้มเจ้าเล่ห์
มือเรียวเล็กจัดการฉีดฟ็อกกี้ใส่น้ำเย็น..ใส่ใบหน้าหล่อเหลาของคนเป็นพ่อ..ฉีดครั้งแรก..ผู้ชายตัวโตก็ยังไม่ตื่น..ฉีดครั้งที่สอง..ขนตาหนาเริ่มกะพริบ..จนฉีดครั้งที่สามคนเป็นพ่อจึงกระเด้งตัวตื่น
พอเห็นว่าใครเป็นคนทำก็ถึงกับสบถ..รามิลลูบหน้าที่เต็มไปด้วยละอองน้ำ ซึ่งตอนนี้ชุ่มฉ่ำไปทั่วหน้า..เขาอยากจะร้องไห้
'บ้านหลังนี้มันอะไรวะเนี่ย..เมียก็ปลุกแบบหื่นๆ ส่วนลูกสาวก็ปลุกแบบรุนแรง'
"เธอกำลังทำอะไร!!"
"ปลุกคุณไง"
"แล้วทำไมไม่ปลุกดีๆ"
"ฉันเรียกคุณหลายรอบแล้ว..คุณไม่ยอมตื่นเอง"เสียงหวานพูดพร้อมพยายามดึงแขนเขาขึ้น..ไอ้ต้าวตัวโตได้แต่ลุกอย่างจำใจ..ดวงตาคมหันไปมองนาฬิกาข้างฝา..มันบอกเวลาตี5!!! และในห้องเหลือแค่เขากับลูกสาว
"ฟ้ายังไม่สว่างเลยจะรีบตื่นไปไหน"
"คิดจะอยู่บ้านนี้คุณก็ต้องทำตามกฎบ้านนี้..เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณต้องตื่นละตามหนูมา"เสียงหวานเด็ดขาด
"..."
'เขาสามารถไปร้องเรียนที่ไหนได้บ้าง..ที่โดนรังแกทั้งร่างกายและจิตใจขนาดนี้'
ส่วนลูกสาวจอมเคร่งครัดกับชีวิต..เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืด..กางเกงขาสั้นเรียบร้อยนานแล้ว
เป้าหมายของเธอนั้นง่ายมาก..ในเมื่อเปลี่ยนพ่อแท้ๆไม่ได้..ก็ต้องเปลี่ยนผู้ชายคนนึงให้เลิกเหยาะแหยะให้ได้..เพื่อแม่ของเธอจะได้ไม่ต้องลำบากในอนาคต!
เด็กหญิงวัยประถมปลายเดินกะเผลกๆลงบันได..ดวงตาคู่สวยแอบเหล่มองเขาเป็นระยะ..เหมือนที่คนเป็นลูกพูด..คนในบ้านตื่นกันหมดแล้ว..รามิลถามยัยตัวเล็กตรงหน้าด้วยความเซ็ง
"เธอจะพาฉันไปไหน"
"อื่อ..ตามมาเดี๋ยวรู้เอง"
ไม่พูดเปล่าเธอโยนรองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่อุตส่าห์รื้อมาจากห้องเก็บของที่คงเก็บไว้หลายปีมาให้
"มันเป็นของขวัญวันปีใหม่นะ..คุณลองใส่ซิใส่ได้มั้ย"เสียงหวานถาม เขาถอนหายใจอีกรอบอย่างอดไม่ได้..รองเท้าผ้าใบเก่าๆ สภาพยังพอดูดีอยู่..และเขาใส่มันได้..สร้างความประหลาดใจกับคนตัวโตเป็นอย่างมาก
"ปะ"เสียงคนเป็นลูกเรียก..ทั้งยังลากผู้ชายตัวโตออกจากบ้าน
"ไปไหนกันจ๊ะ คุณพ่อคุณลูก"
"หนูจะพาเขาไปออกกำลังกายค่ะ"เสียงหวานของคนเป็นลูกพูดพร้อม..โบกไม้โบกมือให้คนเป็นแม่..อันธิยาส่งยิ้มสดใสมาให้ ทั้งยังตะโกนอย่างยินดี
"อย่าให้ป๊ะป๋าหักโหมมากไปนะลูก..ป๊ะป๋ายังไม่หายป่วยน้า"
คนเป็นแม่ได้เพียงแต่การพยักหน้าเป็นการตอบรับ..ทั้งสองตัดสินใจโดยไม่ปรึกษาเขาเลย!!!
เดินได้ไม่ถึง5นาที ร่างบอบบางกับคนเป็นพ่อก็มาถึงชายหาดที่เวลานี่ยังร้างผู้คน..มีเพียงฟ้ามัวๆที่เริ่มเห็นแสง..เด็กน้อยทรุดลงที่พื้นทราย..พร้อมตั้งนาฬิกาจับเวลา..เสียงหวานเย็นชาส่งมาจากคนเป็นลูก
"ที่บ้านเราปกติ..หนูกับม๊ะม๊าจะมาวิ่งกัน..ไม่เช้าก็เย็น..ม๊ะม๊าสอนหนูตั้งแต่เด็ก..สุขภาพที่แข็งแรงเป็นรากฐานที่สำคัญของการใช้ชีวิต"
"..."
"เพราะฉะนั้น..วันนี้คุณต้องวิ่งต่ำๆ 30นาที และต้องวิ่งทุกวัน"
"แล้วถ้าฉันไม่ทำ"น้ำเสียงคนพูดหงุดหงิด..ทำไมเขาต้องมาเชื่อฟังยัยเด็กที่อายุยังไม่ถึง15ปีด้วยละ..เด็กหญิงดารินยังคงตีหน้าตาย..ราวกับไม่ใช่เด็กวัยประถม
"อื่อ..คุณไม่ทำก็ได้..แต่ถ้าคุณไม่เชื่อฟังกฎบ้าน คุณไม่ช่วยทำงาน..คุณก็จะไม่ได้กินข้าว..ง่ายๆ และหนูหวังว่าคุณจะเข้าใจ?"
"..."
"อ้อ..หนูลืมบอกไป..บ้านนี้หนูใหญ่สุด..โอเคนะคะ"
"..."
สุดท้ายร่างสูงใหญ่ได้แต่จำใจวิ่งตามคำสั่งยัยตัวแสบหมายเลข2..แรกๆคนป่วยมีเหนื่อยหอบบ้าง
แต่พอพ้น15นาที..มา30นาที..ความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคยก็โผล่เข้ามา..มันทำให้เขารู้สึกดีมาก..ที่แน่ๆ ร่างกายมันบอกว่าเขาเป็นคนที่ 'เคย' ออกกำลังกายเป็นประจำ..ช่างต่างจากที่คนเป็นเมียเคยเล่าว่าอดีตเขาไม่เก่งกีฬา
10ปีที่เขาห่างครอบครัว..เกิดอะไรขึ้น?
ตอนที่ชายหนุ่มกลับถึงบ้าน..ใบหน้าหล่อเหลาซับสีแดงระเรื่อจากการออกกำลังกาย..อารมณ์คนป่วยเริ่มกลับมาดี..เขาเดินนำลูกสาวเข้าบ้าน
เด็กหญิงดารินมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างแปลกใจ..จากความตั้งใจที่จะบังคับให้เขาวิ่งออกกำลังกายวันแรกครึ่งชั่วโมง..แต่ป๊ะป๋าที่เธอคิดว่า 'ไม่ได้เรื่อง' คนนี้กลับออกกำลังกายได้เกือบชั่วโมง..จนเธอขอร้องให้หยุด..เพราะกลัวว่าอาการป่วยของคนเป็นพ่อจะทรุด
อาหารเช้าวันนั้นเป็นโจ๊กง่ายๆเหมือนเช่นทุกวัน..พอได้ออกกำลังกายเรียกเหงื่อ..ความเจริญอาหารก็เข้ามาครอบงำ..คนตัวโตเบิ้ลไปสองชาม..ทำคนเป็นเมียยิ้มแก้มแทบแตก ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยเบ้ปากบ่นงุบงิบว่า 'เปลือง'
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมองมาที่คนตัวโตด้วยความเห็นใจ
พี่มิลของเธอตอนออกจากโรงพยาบาลแก้มซูบลงไปเยอะ..ผิวเริ่มคล้ำลงจากปกติ..ไม่รู้ว่าเวลาสิบปีเขาต้องระเหเร่ร่อนไปใช้ชีวิตลำบากขนาดไหน..เขาผู้ไม่สู้งาน..ทำงานอะไรก็ไม่ทน..จะได้กินข้าวครบทุกมื้อมั้ยนะ?
ยิ่งคิดยิ่งสะเทือนใจ..บ้านเขาและเธอ..อาจจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง..แต่ที่มีแน่ๆ..ผู้ชายของเธอไม่เคยอด! สมัยเด็กถ้ายายหม่อนไม่มีเงิน..บ้านเธอก็มักแบ่งปันกับข้าวอาหารให้กันเสมอ
ภารกิจแรกที่เธอจะทำคือต้องขุนเขาให้อ้วนขึ้น..สุขภาพต้องกลับมาแข็งแรง..และผิวต้องกับมาขาวอมชมพูเหมือนเดิม!!!
ไอ้ต้าวตัวใหญ่ผู้ชายคนเดียวของบ้าน..เริ่มรู้สึกขนลุกซู่อย่างไม่รู้สาเหตุ..สังหรณ์ใจตงิดๆ ว่าชีวิตเขาคงจะไม่เหมือนเดิม
"ม๊ะม๊าคะ..วันนี้เราต้องทำ big cleaning day นะคะ"
"จ้าลูก"คนเป็นแม่ตอบรับ..ก่อนจะอธิบายให้รามิลที่หายไปหลายปีฟัง
"คืองี้คะ ทุกวันอาทิตย์ของเดือน..บ้านเราจะงดรับงาน..จะเป็นวันทำความสะอาดใหญ่ของบ้านคะ..แต่ถ้าอาทิตย์ติดวันหยุดยาวเราจะเปลี่ยนเป็นอาทิตย์อื่นแทน..แล้วก็อาทิตย์ที่สองของเดือนวันเสาร์อาทิตย์จะเป็นหยุดของครอบครัว..อาจไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือพากันไปตั้งแคมป์ค่ะ"
"เพราะฉะนั้น..วันนี้คุณต้องช่วยพวกเราทำงานบ้านเข้าใจมั้ย!"เสียงหวานแกมดุ..เขารับคำอย่างจำยอม
"อย่างแรกสุด คุณกินคุณต้องเก็บจะมาใช้ม๊ะม๊ากับยายยายให้เก็บแทนไม่ได้!"คนเป็นแม่ได้ฟัง..รีบช่วยปฏิเสธทันที..อาการหลงผัวกำเริบอีกรอบ
"ไม่เป็นไรแค่นี้เอง..ม๊ะม๊าทำได้"
"ม๊ะม๊ารู้ตัวมั้ยคะ..ม๊ะม๊าสปอยเขาเกินไป..เคยคิดถึงเวลาที่ไม่มีเราอยู่มั้ย..เขาจะอยู่ยังไง"ยัยลูกสาวตัวเล็กยังอธิบายคนเป็นแม่อย่างใจเย็น
รามิลได้แต่กลืนน้ำลายดังเฮือก..ที่เด็กน้อยบอกว่าบ้านนี้เธอใหญ่สุดคงเป็นความจริง
แต่หน้าที่บทบาทมันสลับกันมั้ยนะ?
เมื่อเห็นม๊ะม๊าสุดที่รักทำหน้าหงอย..เด็กน้อยก็ไม่พูดอะไรเพิ่ม เพียงแต่เดินกะเผลก..ถือชามข้าวของตัวเองเข้าครัว
คนเป็นแม่หันมากระซิบเสียงแผ่วเบากับเขา
"รองเท้าผ้าใบใส่ได้มั้ยพี่"
"อื่อ..พอดีเท้าเลย"
"อัญมีความลับจะบอก..ตอนที่ยัยหนูเก็บเงินก้อนแรกได้..ลูกซื้อของของขวัญเป็นรองเท้าผ้าใบให้คนในครอบครัว..อัญ..ยายยาย..ตัวเอง..และให้พี่มิล..น้องอายบอกว่า"
"..."
"มันเป็นเงินก้อนแรกที่หนูเก็บได้..หนูอยากซื้อของให้คนในครอบครัว"คนเป็นแม่ทวนคำพูดของเด็กน้อย
"..."
"อัญดีใจนะที่พี่กลับมา..ลูกเองก็คงดีใจไม่แพ้กัน"น้ำเสียงใส พร้อมรอยยิ้มละไม
ในอกเขาอุ่นวาบ..ทำไมเขาจะไม่รู้บ้านนี้ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร..เด็กประถมจะต้องเก็บเงินนานแค่ไหนกว่าจะซื้อของขวัญให้ครอบครัว..รามิลไม่รู้ตัวเลย..เขากำลังอมยิ้มดีใจ..กับของขวัญที่ได้รับจาก 'ลูกสาว'
big cleaning day..ของเด็กน้อยก็สมเป็นวันทำความสะอาดของบ้านจริงๆ สมาชิกแต่เดิมมีแค่สามคน..เพิ่มเขาอีกคนเป็นสี่..มีเป้าหมายทำความสะอาดบ้านทั้งหลังให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมงเพียงแต่ว่าวันนี้ลูกสาวตัวแสบยังเดินกะเผลก..เถียงให้ตายยังไงคนเป็นแม่ กับยายก็ไม่ยอมให้เธอช่วย เด็กหญิงดารินหน้ามู่ทู่..แต่ร่างเล็กยังมีแรงเรียกคนเป็นพ่อให้ตามเธอไปหลังบ้าน..ขนไม้กวาด..ไม้ถูพื้น..ถังน้ำ..และเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้..ส่วนคนเป็นเมียกับแม่ยายก็แยกย้ายกันไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสอง..กับห้องนอนทั้งหมดรามิลได้แต่ถอนหายใจ..ร่างสูงใหญ่จำใจต้องเดินตามลูกสาว ถือข้าวของพะรุงพะรัง..มาห้องด้านหลังที่เหมือนจะเป็นห้องเก็บของ..ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากเขาเป๊ะสั่งการเสียงเย็นชา"วันนี้คุณต้องทำความสะอาดห้องนี้..แล้วถ้าเกิดว่ามีอะไรก็ไปหาหนูที่ห้องครัวนะ หนูจะเตรียมของสำหรับทำมื้อกลางวันไว้ให้ยายยายก่อน""...""อ้อ..ต้องทำให้สะอาดด้วยนะ..เดี๋ยวหนูทำอะไรเสร็จหนูจะมาดู"พูดจบร่างเล็กของคนเป็นลูกก็ทิ้งเขาให้ยืนมึน..กับบรรดาสารพัดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านแล้ว..ต้องทำอะไรก่อนละ?ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งทันที..พยายามรื้อค้นความทรงจำ..คิดยังไง
ตกบ่ายอันธิยาจัดแจงยัดคุณสามีขึ้นรถ..เพื่อเตรียมไปช็อปปิ้งที่ห้าง..เดิมรามิลเองก็คร้านจะไปไหน..เขายังไม่อยากไปเจอผู้คน..แต่คนตัวเล็กแต่แรงเยอะขู่ว่า'ถ้าพี่มิลไม่ไป..อัญเลือกเสื้อกับกางเกงมาไม่ถูกใจ..จะมาบ่นกันไม่ได้นะ'นั่นแหละคือเหตุผลที่คนตัวโตยอมขึ้นรถมากับยัยกระเปี๊ยก..ส่วนลูกสาวคนสวยกลับส่งสายตาเห็นใจมาให้..ทำให้เริ่มตะหงิดใจว่า...ที่ตามมาด้วยนะ..คิดถูกใช่มั้ยห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด..ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่..ถูกจูงโดยหญิงสาวตัวเล็กที่พลังงานไม่เล็กตาม..รามิลเริ่มเข้าใจแล้วทำไมลูกสาวคนสวยถึงส่งสายตาเห็นใจมาให้เพราะแม่คุณเล่นลากเขาเข้าทุกร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่เจอ"ตัวนี้ก็สวยนะ..พี่ชอบมั้ย?"เสื้อที่เธอยื่นมาให้เป็นเสื้อกล้ามลายม้าลายสุดเฉียบ..ที่ทำเอาเขาพูดไม่ออก..ไอ้แสบโยนใส่ตะกร้าโดยไม่รอคำตอบ..ทั้งยังไปคว้าเสื้อยืดสีเขียวสะท้อนแสง..แล้วก็โยนลงตะกร้าไปอีกตัว ตามด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียวหม่น..กางเกงขาเดฟ"..."'ดูๆไปสไตล์มันชักยังไงไม่รู้'"พี่ช่วยถือตะกร้านะ"น้ำเสียงคนพูดประจบ..พร้อมรอยยิ้มหล่อเหลา..ทำคนเป็นเมียใจละลาย พอแม่คุณแม่ทูนหัวเผลอ..เขาจัดแจงนำเสื้อผ้าในตะกร้ากล
เช้าวันจันทร์อันแสนสดใสเสียงนาฬิกาจากมือถือเครื่องใหม่ที่คุณภรรยาตัวแสบซื้อให้ก็ดังลั่น..เขางัวเงียลุกขึ้นนั่ง..พลางคิดถึงหญิงสาวที่ซื้อโทรศัพท์ให้เขา'อ๊ะ..ของขวัญฉันให้พี่'เมื่อวานในรถยัยตัวแสบยัดกล่องมือถือเครื่องใหม่มาให้..เขารับมันมาอย่างลังเล..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลพราวระยับ..เต็มไปด้วยความตื่นเต้นคาดหวังว่าพี่เขาจะชอบ'พี่แกะดูซิชอบมั้ย''อื่อ..ขอบคุณนะ''พี่ชอบมั้ย''อื่ม' เขารับคำอย่างหดหู่..มือถือเครื่องเดียวยังต้องให้สาวซื้อให้..ช่างเป็นผู้ชายไร้ค่าโดยแท้..ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความกลุ้มใจตอนที่เขาเหลือบตาขึ้น..กับเห็นลูกสาวจอมแสบซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง..ดวงตาที่เหมือนเขาเป๊ะมองกลับมาที่คนเป็นพ่ออย่างแปลกใจ..เขาหรี่ตา..ทั้งยังเอียงคอมองฟ็อกกี้ที่โผล่แวบๆ"คิดจะทำอะไรหื้อ""ปะ...เปล่า...คุณตื่นก็ดีแล้วนี้"ใบหน้าสวยหวานเต็มไปด้วยความเซ็ง..ที่อดแกล้ง..รามิลส่ายหน้าอย่างปลงๆ..ร่างสูงใหญ่ลุกเตรียมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"เดี๋ยวก่อน""....""คุณลืมพับผ้าห่ม..เก็บที่นอน"เสียงคนเป็นลูกดุเสียงเข้มคนเป็นพ่อถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย..ตั้งแต่มาอยู่บ้านหลังนี้..รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจไม่น้อย.
"แต่อัญบอกก่อนนะ..หนูไม่ให้พี่ไปทำงานเป็นไกด์แล้ว" น้ำเสียงคนพูดจริงจังกว่า..ใบหน้าเล็กๆนั้นเต็มไปด้วยความไม่สบายใจรามิลรับคำ..ให้เขาไปเทคแคร์พวกนักท่องเที่ยว..เขาก็นึกสภาพตัวเอง..ที่ทำงานแบบนั้นไม่ออกเหมือนกัน..แต่จะให้ทำอะไรเขาก็ยังนึกไม่ออก..ได้แต่พักเรื่องหาเงินไว้ก่อนวันนี้ชีวิตประจำวันแทบไม่ต่างจากทุกวันจวบจนช่วงราวหนึ่งทุ่ม..สมาชิกในบ้านต่างแยกย้ายเข้าห้องอันธิยาเองก็พยายามหาข้อมูล 'เลี้ยงลูกวัยรุ่น' ตามอ่านเพจต่างๆ ที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก รวมถึงเพจคุณหมอ ไอ้ต้าวตัวเล็กสรุปกับตัวเองได้ความว่า'ฉันจะเข้าไปอยู่ในโลกของลูก'แต่วันๆลูกสาวตัวน้อยก็เอาแต่อ่านหนังสือเตรียมสอบ..พอเธอเปิดหนังสือพวกนั้นดู..เจอทั้งสูตรคณิตศาสตร์ที่เธอนึกเครียด..ทั้งบทความภาษาอังกฤษ..พอมาเปิดวิทยาศาสตร์เจอวงจรไฟฟ้า สสารและสาร..เธอแทบจะปิดหนังสือไม่ทันคนเป็นแม่เลยหาวิธีใหม่..ถ้าเธอเข้าไปในโลกของลูกไม่ได้..ก็สร้างมันขึ้นมาซิ!!คิดได้ดังนั้น..ร่างบอบบางในเสื้อนอนตัวโคร่งลายตุ๊กตาน่ารักกับกางเกงนอนลายเดียวกัน..ดูราวกับหญิงสาววัย20ต้นๆ เธอขอมือถือจากคนเป็นสามีรามิลยื่นให้..ไม่แปลกใจเท่าไร..ถ้าคนเป็นเมียจะเ
แล้วเครื่องหมาย'DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT'ยังขึ้นไม่หยุด..มันผ่านไปเกือบสามชั่วโมงแล้ว..ที่แพ้สิบกว่าเกมติดต่อกัน...ริมฝีปากรูปกระจับของคนเป็นลูกสั่นด้วยความโกรธเธอไม่เข้าใจทำไมถึงแพ้...ส่วนคนเป็นพ่อขมวดคิ้วยุ่ง..จริงๆเขาไม่ชอบเล่นเกม..แต่..เขาแค่ไม่ชอบแพ้!!!บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความมาคุ..เว้นก็แต่...'ไอ้คนชวนชาวบ้านเขาเล่น' ยังอารมณ์ดีไม่ผิดจากตอนเริ่มเล่นคนเป็นเมียและแม่มองนาฬิกาข้างผนัง..มันบอกเวลาสี่ทุ่ม ตาโตสีน้ำตาลเริ่มหรี่ด้วยความง่วง..ตามมาด้วยเสียงหาว"อื่อ...แค่นี้ก่อนนะ...ม๊ะม๊าง่วงแล้ว"ไม่พูดเปล่ายัยตัวแสบปิดมือถือ..แล้วทิ้งหัวลงหมอน..หลับไปดื้อๆซะงั้น..ทิ้งให้อารมณ์คนในห้องยังคงคุกรุ่นพ่อลูกมองหน้ากันอย่างจนใจ"ฉันว่า..วันนี้..เราพอก่อนมั้ย?"เสียงคนตัวโตแหบพร่า..คนเป็นลูกรับคำอย่างจำใจร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นไปปิดไฟ..ก่อนจะมานอนพลิกไปพลิกมาบนฟูกด้วยอารมณ์หงุดหงิด..แทบไม่ต่างจากคนเป็นลูกที่ปกติเป็นคนนอนง่าย..พ่อกับลูกถอนหายใจพร้อมกัน"คุณนอนไม่หลับเหรอ?"เด็กน้อยวัยประถมปลายถาม"อื่อ""อีกเกมดีมั้ย?"น้ำเสียงคนเป็นลูกลังเล..แต่ถ้าให้นอนทั
ตกเย็นภรรยาตัวน้อย..พาคุณสามีตัวโตไปฝึกขี่รถมอเตอร์ไซต์ ขาไปให้เขาซ้อนท้ายเช่นเดิม..มือหนาหยาบโอบเอวแน่งน้อย..ลมทะเลตีหน้าเขาและเธอ..เป้าหมายคือลานเปล่าในโรงเรียนประถมบรรยากาศช่วงเย็นค่อนข้างอบอ้าว..ตอนไปถึงโรงเรียนเหลือเพียงคุณลุงยาม เช่นเคยพอคุณลุงเห็นว่าเป็นเด็กเก่าก็อนุญาตให้เข้าไปใช้สถานที่ชั่วคราวได้อันธิยาจอดรถไม่ไกลจากร่มไม้ ร่างบอบบางพยายามช่วยทบทวนความทรงจำ..พร้อมอธิบายให้พี่ชายข้างบ้านฟัง..ถึงตำแหน่งต่างๆบนรถมอเตอร์ไซต์รามิลพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจอาจเพราะเคยขี่มาก่อน..รอบเดียวคนตัวโตก็ทำได้เลย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสุกใส..รอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาให้"สงสัยคนสอนจะเก่ง"ไอ้ต้าวตัวเล็กเริ่มชมตัวเองอุบอิบ เมื่อเห็นคุณสามีขับวนไปวนมาได้หลายรอบ..สักพักก็มาจอดตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเปื้อนรอยยิ้ม'ผัวฉันหล่อเกินกว่าใคร'สายตาที่ยัยตัวแสบส่งมาให้..ทำรามิลขนลุกซู่ ใบหูคนตัวโตขึ้นสีอย่างอดไม่ได้ เขามั่นใจว่าตัวเขาในอดีตไม่ใช่คน 'ขี้อาย' แต่..พอโดนสาวจีบทุกวันก็พาเขินไม่น้อย..เขาเสมองทางอื่น"พี่ว่า..พี่น่าจะเคยขี่มาก่อนนะ"เสียงเข้มแหบพร่า ร่างบอบบางนั่งบนเก้าอี้หิน เท้าแกว่งไปมา..ว
ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพ่อส่งยิ้มเขินๆ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเด็กหญิงตัวน้อย..มือหนาหยาบยื่นถุงใส่พวงมาลัยสำหรับใช้ไหว้พ่อมาให้..ดวงตาคู่สวยของคนเป็นลูกเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย.. ดีใจ..ประหลาดใจ..สงสัย..ก่อนจะส่งคำถามแผ่วเบา"คะ...คุณมาได้ไง""นั่งรถมากับม๊ะม๊าหนูนั่นแหละ"ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเปื้อนยิ้ม..ช่างผิดจากวันแรกที่เธอเจอที่โรงพยาบาล"แล้วม๊ะม๊าละคะ""วนหาที่จอดรถอยู่ ม๊ะม๊ากลัวจะสาย..เลยให้ฉันมาหาหนูก่อน"ก่อนที่คนเป็นลูกจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม ร่างอวบอ้วนในชุดข้าราชการครูก็เดินเข้ามาหา"คุณพ่อ ของคุณหญิงดารินเหรอคะ"น้ำเสียงคนเป็นคุณครูประจำชั้นตั้งคำถามตื่นเต้นแล้วเมื่อชายหนุ่มหันมายิ้มละไมให้..ใบหน้าวัยสี่สิบกว่าของคนเป็นครูประจำชั้นขึ้นสี..ถ้าเธอจำไม่ผิด พ่อของเด็กน้อยเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว"ใช่ครับ..ผมเป็นพ่อที่หายตัวไปของดารินครับ"ชายหนุ่มรับคำทันที เรียกเสียงฮือฮารอบข้างไม่น้อยเด็กหญิงปรายพันแสงหน้าซีดทันที..ปมที่เคยใช้ล้อคู่แข่งคนสวยมาตลอดสิบปี..จบกันวันนี้..แถมคุณพ่อของเพื่อนทั้งหล่อเหลา หุ่นดีราวกับดารานักแสดงไม่มีผิด..ช่างต่างจากพ่อของเธอที่อ้วนราวกับหมู..เด็กน้อยนึกเหย
แม่คุณแม่ทูลหัวที่สนับสนุนให้เขาตั้งวง..จัดแจงทอดหมูแดดเดียว หาถั่วลิสง ตั้งเตาหน้าบ้านให้พร้อม..เขาควรดีใจใช่มั้ยที่มีเมียสปอยขนาดนี้?"เบียร์หมดบอกได้นะพี่ เดี๋ยวอัญออกไปซื้อให้""..."ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนยิ้ม..ทั้งยังเอาหมูที่หมักพึ่งเสร็จ กับถาดอาหารทะเลพวกปลาหมึก กุ้ง ปู มาให้อีก..ส่วนเจ้าตัวทยอยขนเอาผ้าที่รีดเรียบร้อยแล้ว..จัดแจงไปส่งลูกค้า..ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดคอกลมพอดีตัวรีบลุกทันที"เดี๋ยวพี่ช่วย""ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้เองพี่นั่งดื่มไปเถอะ..ฟังเรื่องสมัยก่อนเยอะๆ เพื่อพี่จะจำได้ไง"เสียงใสส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนที่รามิลจะทันได้ตอบอะไร..ร่างบอบบางตัวเล็กก็ขับรถหนีเขาไปแล้ว..ทิ้งให้ไอ้พี่ข้างบ้านจมอยู่บรรยากาศชวนอึดอัด"ดื่มดิมึง ชน!!!"น้ำเสียงวิญญูทัก พร้อมทั้งยกแก้วเป็นเชิงขอชนกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาชักกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจต้องจิบเบียร์เป็นเพื่อนส่วนไอ้เพื่อนผอมชอบกินกับแกล้มมากกว่าเริ่มชวนคุย..เขาเงยหน้าจากแก้วเบียร์มองมัน"เมียมึงยังแสนดีไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้มิล..พวกกูโคตรอิจฉามึงเลยอะ""ยังไง?""ดูดิ..มึงอยากตั้งวงก็ไม่บ่น เป็นอิหมวยเมียกูนะ..บ่นจนบ้านบึ้มละ..คงไม่มีกั
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ