เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยัน
แล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่ จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้น เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็น เบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย " ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า " เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัว เธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้ แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไป เธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า " ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก ฉันเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของบริษัท และเป็นคนที่เหมาะสมกับพี่ที่สุด หากพี่คิดจะปฏิเสธการหมั้นระหว่างเรา นอกจากจะเสียหุ้นไป30%แล้ว อาจจะเสียทั้งนักลงทุนและผู้ถือหุ้นรายอื่นไปด้วย หากข่าวการตัดความสัมพันธ์ของตระกูลเราสองคน ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อฉันลาออกตำแหน่งรองประธานบริษัท บริษัทพี่อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยนะ พี่กลับไปคิดทบทวนให้ดีๆ " ณัชชารู้ดีว่าจุดอ่อนของเตชินคือบริษัท เพื่อบริษัทแล้วเตชินยอมทุ่มเทสุดกำลังแรงใจที่มี ต่อให้ต้องเลือกระหว่างคนรักกับบริษัทเตชินก็เลือกบริษัท เพราะเตชินจะไม่ทิ้งความสำเร็จในอนาคตเพื่อคนรักคนเดียวข้อนี้เธอรู้ดี เตชินบีบแขนณัชชาด้วยความเดือดดาล เขาคิดไม่ถึงว่าโตมาเธอจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ถึงขั้นมาขู่เขาแบบนี้ เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้จนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้ว แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นอย่างไร้หัวใจว่า " ณัชชาเธอคิดว่าคุ้มแล้วเหรอ ที่จะมาบีบบังคับกันด้วยวิธีนี้ ได้หมั้นกับฉันสมใจเธอแล้วยังไง เธอรับได้เหรอที่จะถูกทิ้งไว้บนหิ้ง อยู่อย่างแม่หม้าย มีสามีแต่ก็เหมือนไม่มี เธอคิดดีแล้วเหรอ หากคิดดีแล้วคิดจะหมั้น จะแต่งงานกับฉันให้ได้งั้นก็เตรียมรับชะตากรรมที่น่ารังเกียจได้เลย " ณัชชาจ้องมองเตชินด้วยแววตาที่แข็งกร้าวแต่ลึกๆแล้วกลับแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ แล้วเธอก็เอ่ยขึ้น " แค่ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ถึงต้องอยู่บนหิ้ง ฉันก็ยอม " ได้ยินแบบนี้เตชินถึงกับผลักเธอออกห่างจากตัวด้วยความรังเกียจ เอ่ยเพียงว่า " ดี ดีมาก เธอเลือกเองนะ " เอ่ยจบก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีณัชชาอีกต่อไป ปล่อยให้เธอยืนร้องให้ด้วยความน้อยใจอยู่ข้างหลังคนเดียว ระหว่างทางเตชินนั่งในรถด้วยสีหน้านิ่งและเงียบขรึม เขากำลังคิดแก้ปัญหาเกี่ยวกับการหมั้นที่จะเกิด หมั้นไม่เท่าไหร่แต่หลังจากแต่งงานไปแล้วนี่สิ เขาจะต้องทำยังไงให้ณัชชายอมแพ้และหมดความอดทนจนเลิกรักเขาไป เมื่อกลับไปถึงบ้านก็หกโมงเย็นแล้ว เขาเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็น แล้วยกขึ้นมาดื่มเพื่อให้ตนเองสดชื่น ดื่มน้ำเสร็จเขาก็เดินขึ้นไปบนห้องทันทีด้วยความเหนื่อยหน่าย ผู้ช่วยคังส่งข้อความไปหาพิม ( คุณพิม คุณชายให้ผมไปส่งคุณไปซื้ออาหารและของใช้ส่วนตัวครับ ผมรออยู่หน้าบ้านนะ ) พิมเปิดอ่านข้อความเสร็จเธอก็ตอบไปว่า ( โอเคค่ะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ ) ตอบข้อความเสร็จเธอก็ไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป ด้วยชุดลำลองที่ใส่สบายๆ สวมรองเท้าผ้าใบเก๋ๆรวบผมขึ้นหลวมๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที เมื่อไปถึงเธอก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งในรถ เตชินที่อยู่ข้างบนมองออกไปนอกหน้าต่างพอดีเห็นแผ่นหลังของพิมแวบหนึ่ง ก็บ่นพึมพำออกมาคนเดียวว่า " ป้าแม่บ้านคนนี้รูปร่างผอม แต่ดูแลผิวดีใช้ได้ " จากนั้นเขาก็หันมาสนใจงานในคอมของเขาต่อ พิมกับผู้ช่วยคัง เข็นรถเข็นเดินซื้อของจำพวกอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม รวมถึงของใช้ส่วนตัว ผู้ช่วยคังจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเอ่ย " คุณพิมเอาคิวอาร์โค้ดบัญชีคุณมาสิ คุณชายโอนเงินค่าอาหารคุณเข้ามาให้แล้ว ผมจะโอนไปให้คุณสแกนจ่าย " พิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วยื่นคิวอาร์โค้ดบัญชีของตัวเองให้ผู้ช่วยคังทันที เมื่อสแกนเสร็จเธอจึงเอ่ยตามมารยาทว่า " ขอบคุณค่ะ " แล้วทั้งสองก็เข็นรถเข็นไปยังจุดชำระเงิน พนักงานคิดเงินเสร็จ เธอก็สแกนจ่ายเงินทันที เมื่อกลับมาที่รถ ผู้ช่วยคังก็เอาของขึ้นมาไว้ในรถ จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ขึ้นไปนั่งในรถ ผู้ช่วยคังก็ขับออกไปทันที เธอจึงเอ่ยขอบคุณผู้ช่วยคังว่า " คุณคัง ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่ง ไว้คุณว่างฉันจะทำอาหารเลี้ยงเพื่อเป็นการตอบแทนดีมั้ยคะ " ผู้ช่วยคังยิ้มแล้วเอ่ย " ไม่เป็นไรครับคุณพิม แค่คุณพิมกินอิ่ม นอนอุ่น อยู่แล้วมีความสุข แค่นี้ก็ตอบแทนผมมากแล้ว อีกอย่างนี่เป็นหน้าที่ผมที่ต้องดูแลคุณพิมครับ " " อย่างงั้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณหิว ก็สามารถทานอาหารที่ฉันทำได้เลยนะคะ หรือคุณอยากทำกินเองก็ได้ตามสบายเลยนะ " " ครับ " ผู้ช่วยคังมองดูพิมเอ่ยพูดอย่างไร้เดียงสาด้วยความไม่รู้อะไร เขาได้แต่ยิ้มให้เธอและคิดในใจอย่างเงียบๆ [ ในบ้านคุณชายมีตู้เย็นเครื่องเดียวห้องครัวแค่ห้องเดียว คุณพิมจะลำบากมั้ยนะ แล้วจะไปขัดใจอะไรกับคุณชายหรือเปล่า ] คุณชายของเขาที่รักอิสระ ต้องการความเป็นส่วนตัว จะรำคาญพิมที่เป็นแม่บ้านประจำของเขามั้ย เรื่องนี้เขายากที่จะรู้ได้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน พิมและผู้ช่วยคังก็ช่วยกันขนของลงจากรถ เสร็จผู้ช่วยคังก็เดินออกไป เหลือพิมที่อยู่ในห้องครัวคนเดียว จัดเรียงทุกอย่างเข้าตูเย็น จนเต็มตู้ มีแต่เครื่องดื่มที่เธอชอบ ชาเลมอนน้ำผึ้งมะนาว ของหวาน น้ำอัดลม อาหารก็จะมี หมูสามชั้น ซีโครง ผักผลไม้มีเล็กน้อย นอกนั้นก็เป็นขนมทานเล่น จำพวกช็อกโกแลต ทั้งแบบแผ่น แบบแท่ง แบบกลม แบบเม็ด ล้วนเป็นของที่เธอชอบ ที่ใส่ในตู้เก็บของนอกตู้เย็นก็จะมีขนมมันฝรั่งทอดกรอบ รสสาหร่ายที่เธอชอบมาก และซื้อบะหมี่ไว้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย เรียงเสร็จเธอก็หยิบขนมกับน้ำไปที่ห้องของตัวเองทันที ในตอนเช้า เตชินตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้า เมื่อออกกำลังกายเสร็จ เขาเดินเข้าไปในห้องครัวเปิดตู้เย็นออกมาเพื่อหยิบน้ำดื่ม แต่ก็ต้องตกใจกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยอะไรก็ไม่รู้มีแต่ของไร้ประโยชน์ในสายตาเขา แล้วเขาก็พึมพำออกมาอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะเข้าใจว่าคนแก่ไม่รู้เรื่อง " ป้าแม่บ้านคนนี้นี่ ไม่รู้หรือไงว่าการที่ทานแต่ของพวกนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพน่ะ สงสัยจะต้องเตรียมไว้ให้เองซะแล้วจะได้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่ช่วยดูแลงานบ้านไปนานๆ " พึมพำเสร็จก็ไปหยิบถุงขยะ เอาของที่ไม่มีประโยชน์ในตู้เย็นทิ้งจนหมดเกลี้ยง แล้วออกไปซื้อของคนเดียวในซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้ออาหารที่มีประโยชน์ เครื่องดื่มก็ซื้อแบบไม่มีน้ำตาล โยเกิร์ตก็ซื้อ ที่แคลลอรี่ต่ำ ไขมัน0% ซื้อนมที่บำรุงกระดูกสำหรับคนแก่มาให้เธอ รวมถึงซื้อข้าวกล้องและธัญพืชต่างๆไว้ให้พร้อม แล้วกลับมาจัดใส่ในตู้เย็นให้อย่างเป็นระเบียบเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปห้องไปเพื่อไปอาบน้ำ ไม่นานเขาก็ออกมาจากห้อง เดินลงมาแล้วออกจากบ้าน ไปขึ้นรถแล้วขับรถออกไป พิมตื่นขึ้นมาเธอไปอาบน้ำแต่งตัว ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วเริ่มทำงานบ้านตามปกติ ตอนบ่ายเธออยากกินส้มตำ จึงคิดจะทำส้มตำกิน แต่พอเธอไปเปิดตูเย็น ก็ถึงกับไม่มีความอยากอาหารอีกต่อไป เมื่อของโปรด ของชอบเธอหายเกลี้ยงไปเพียงแค่ชั่วค่ำคืนเดียว ถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่เธอไม่ชอบเกือบทั้งหมด เธอกัดฟันมองตู้เย็นอย่างอารมณ์เสียแล้วบ่นออกมา " เป็นฝีมืออิตาเจ้าของบ้านแน่เลย นี่กะจะให้เรากินแต่ของพวกนี้รึไง ไม่รู้หรือไงว่าคนทำงานเหนื่อยๆร่างกายก็ต้องการน้ำตาล เพลียจิตกับอิตาคนนี้ " จากั้นเธอก็ทำสีหน้ายอมจำนนพร้อมกับเอ่ยอย่างคอตกปลอบใจตัวเองว่า " ช่างเหอะ เขาเป็นเจ้าของบ้านแถมเป็นนายจ้างที่ให้เงินดี ทนๆ ยอมๆเขาไปก่อนแล้วกัน กินเท่าที่มีไปก่อนนะเรา " พูดจบเธอก็เริ่มทำส้มตำรสแซ่บ เผ็ด เปรี้ยว หวานหน่อยๆ หอมปลาร้านิดๆ รสชาตินัวๆแซ่บๆ แล้วเธอก็นั่งกินคนเดียวอย่างเอร็ดอร่อย เพลินจนลืมความไม่พอใจไปเลยเมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอมแต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจงานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆเพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปากเธอจึงกระซิบกับเขาว่า" วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ "เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย" คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้วไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ "เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่งที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียงแล้วเขาก็เอ
เมื่อไฟสว่างขึ้น เตชินมองไปยังผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองต้องการจะพูดอะไรเขาจึงเข้ามากระซิบว่า" เธอคือแม่บ้านของคุณชายครับ "เมื่อได้ยินดังนั้น เตชินก็อึ้งไป ไม่คิดว่าแม่บ้านของตัวเองจะหน้าตาดีและดูเด็กขนาดนี้เมื่อนึกภาพอาหารในตู้เย็น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ทิ้งของกินเธอไปจนหมด เขารู้สึกตะลึงในความงามตรงหน้าจนต้องกลบเกลื่อนโดยการหันไปเอ่ยกับเธอว่า" ยืนนิ่งอยู่ทำไม ตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานสิ "" ค่ะ "พิมเอ่ยตอบแล้วลงมือตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานเธอเดินไปเสิร์ฟเค้กให้เพื่อนของเตชินที่นั่งดื่มเหล้า วางเค้กลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกมา แต่เพื่อนของเตชินที่กำลังเมากลับคว้าข้อมือเธอไว้แล้วเอ่ย" สาวน้อย มานั่งคุยกับพี่ก่อนสิ มาบริการพี่รับรองพี่ไม่ทำให้น้องเหนื่อยฟรี มีแต่คุ้มกับคุ้ม "เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วดึงเธอลงมานั่งบนตักเธอดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ย" ขอโทษนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่มาทำหน้าที่บริการแบบที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ "ไตรภพยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจแล้วเอ่ย" ไม่เป็นไร
ปู่ของเตชินรู้ข่าวว่าหลานชายแต่งงานแล้วก็รีบบินมาไทยทันที เมื่อผู้ช่วยคังรู้ก็รีบมารายงายเตชินทันทีเช่นกันเตชินว่ายน้ำอยู่สระว่ายน้ำหลังบ้าน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเดินขึ้นมาจากสระ เตรียมจะไปอาบน้ำล้างตัว ผู้ช่วยคังก็เอ่ยขึ้น" คุณชายครับ คืนนี้คุณหญิงให้คุณกลับบ้านครับ บอกว่าคุณท่านหลิวมาไทย อยากให้กลับไปร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครับ "เตชินหยุดชะงัก แววตาฉายแววแข็งกร้าวและดูร้ายกาจขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย" ในที่สุด พวกเขาก็ใช้คุณปู่ มาเป็นเครื่องมือบังคับให้ผมกลับบ้านจนได้ "ผู้ช่วยคังกลัวเจ้านายจะไม่ยอมกลับไปเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า" คุณชายไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนแล้ว กลับไปพบคุณท่านหลิวสักหน่อย ไม่ดีเหรอครับ "เตชินยิ้มเย็นแล้วเอ่ย" อืม ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าณัชชากับคุณแม่คิดวางแผนจะทำอะไรต่อ "" คุณไปเตรียมรถเถอะ "พูดจบเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมากำชับกับผู้ช่วยคังว่า" อ้อ แล้วอย่าลืมบอกแม่บ้านด้วยล่ะ ให้เธอเตรียมตัวตามผมกลับไปบ้าน แล้วคุณช่วยเตรียมชุดดีๆให้เธอไว้สำหรับดินเนอร์ครอบครัวในค่ำคืนนี้ด้วย "ผู้ช่วยคังยืนมองเจ้านายตัวเองอย่าง งงงันด้
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุณท่านหลิวก็เอ่ยขึ้น" เตชิน หลานก็แต่งงานแล้ว รีบๆมีเหลนให้ปู่อุ้มนะ แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมหนูณัชชาล่ะ หนูณัชชาเองก็ด้วยอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เตชิน เข้าใจมั้ย ปู่แก่แล้วเห็นคนอื่นอุ้มหลาน อุ้มเหลนก็อยากจะอุ้มกับเขาบ้าง "เตชินนั่งฟังนิ่ง ตอบเพียง" ครับ "ส่วนณัชชาเธอยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า" ค่ะ "เธอแอบเยาะเย้ยพิมในใจ คิดว่าพิมคงจะเสียใจและอิจฉาเธอที่ทุกคนดีต่อเธอ แต่เมื่อเหลือบมองมาทางพิมเธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพิมนั่งนิ่ง ยิ้มอย่างสดใสไม่มีร่องรอยของความอิจฉาริษยาใดๆเลย และดูเหมือนพิมจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดจนเธอเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของพิมกับเตชินจากนั้นเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า" นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกับพิม ขอตัวกลับก่อนนะครับ "พูดจบเขาก็จับมือพิมลุกออกจากโต๊ะอาหารไปณัชชามองหน้าคุณหญิงจารวีด้วยสีหน้าผิดหวังและแฝงไปด้วยความเสียใจคุณหญิงจารวีมองเธออย่างเห็นใจ แล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้ตามเตชินไปแล้วเอ่ยเรียก" เตชิน ลูกจะรีบกลับไปทำไมในเมื่อที่นี่ก็คือบ้านของลูก วันนี้ลูกนอนที่นี่เถอะนะ "เตชินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงหันมา
ในวันรุ่งขึ้น เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองสำรวจตัวเองเขาจำได้ว่า คนที่อยู่กับเขาคนสุดท้ายเมื่อคืน คือ พิม เขายังจำได้อีกว่าพยายามจะปลดปล่อยอารมณ์กับเธอจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย [ เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรเกินเลยขึ้นใช่มั้ย ]เขาพึมพำในใจ แล้วมองหาโทรศัพท์ พอเจอก็รีบส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยคังทันที( ขึ้นมาหาผมหน่อย)สักพักผู้ช่วยคังก็มาเคาะประตู เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น" เข้ามา "พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละ รอยแผลที่ปากที่ดูเหมือนจะแห้งแล้วได้ฉีกออกอีกครั้งเขาถึงกับร้อง" ซี๊ดดด "เขารู้สึกเจ็บ จึงแตะไปที่ปากเบาๆ แล้วภาพเมื่อคืน ที่เขาพยายามจูบพิม ก็ผุดขึ้นมาในหัว เขาพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด[ นี่เธอเกิดปีหมาหรือไง กัดไม่เลือกที่จริงๆ ]ผู้ช่วยคังเข้ามาเห็นคุณชายตัวเอง ยังอยู่ในสภาพเดิม สภาพไม่เหมือนคนผ่านเรื่องอย่างว่ามา เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง" เอ่อ คุณชาย แล้ว แล้วคุณพิมล่ะครับ "เตชินมองตาเขียว สีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" คุณยังกล้ามาถามหาเธอกับผมอีกเหรอ ไปเรียกเธอขึ้นมาพบผมเดี๋ยวนี้ "" ครับ "ผู้ช่วยคังรีบออกจากห้องไปอย่างไว เพราะดูแ
พิมเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเงินในมือ พอเธอกลับเข้าไปในห้องของตัวเองก็แกะซอง นั่งนับเงินอย่างมีความสุข เธอยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น" ไม่คิดว่าจะได้เงินมาง่ายดายขนาดนี้ คนรวยนี่มีห่วงเยอะจังเลยแฮะ "แล้วเธอก็จูบไปที่เงินแป็ดหมื่นอย่างชื่นใจ เอาเงินเก็บใส่กระเป๋าแล้วเอ่ย" เรื่องไม่ดีผ่านพ้นไป ก็มีเรื่องให้ยิ้มได้ผ่านเข้ามา โบราณว่า ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ ดูแล้วน่าจะจริง "เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เดินออกจากห้อง ไปรีดเสื้อผ้าให้เตชินต่อที่บริษัท ณัชชาเธอแทบจะไม่กล้าสู้หน้าเตชินแล้วแม้เธอได้สถานะภรรยา แต่เธอรู้ตัวเองดีที่สุด ว่าเป็นได้แค่ภรรยาในนามที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนภายนอกรู้ได้ เป็นเพียงภรรยาลับๆที่รอวันหย่าขาดเมื่อถึงเวลาเท่านั้นการประชุมในตอนเช้าเตชินไม่แม้แต่จะมองหน้าณัชชาเลยพอออกจากห้องประชุม ณัชชาจึงเดินตามเขาออกมาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ณัชชาจึงเอ่ยขึ้น" คุณเตชิน ฉันขอโทษ สำหรับเรื่องเมื่อคืน "เตชินหยุดเดินพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาโดยไม่ไม่เหลียวมองเธอเลยแม้แต่น้อย" คนที่คุณควรขอโทษ คือพิม ไม่ใช่ผม "ได้ยินดังนั้น ณัชชากำมือแน่นด้วยความโกรธและไม่พอใจ ที่เต
ในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนหลายรายในบริษัทเริ่มทยอยถอนข่าวตัวออกเพราะไม่กล้าเสี่ยงซื้อหุ้นของบริษัทเตชิน หุ้นของบริษัทเตชินดิ่งลงทุกวันจนเตชินเริ่มเครียดณัชชาพยายามเดินสายคุยเจรจากับนักลงทุนให้มาร่วมลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทแต่กลับไม่เป็นผล บริษัทเริ่มเข้าขั้นวิกฤติ ในแต่ละวันเตชินเรียกประชุมผู้บริหารและผู้ร่วมลงทุนที่เหลือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นช่วงนี้เตชินไม่ค่อยได้กลับบ้าน และณัชชาก็เคียงข้างร่วมเผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามาจนเขารู้สึกว่าไม่ควรให้ณัชชามาเสียเวลากับเขา เขารู้ดีว่าณัชชาชอบเขามาตลอดแต่เขาไม่สามารถรับรักเธอได้ และไม่อยากให้ณัชชามาลำบากด้วยเขาคิดว่าณัชชาควรตัดใจจากเขาและเปิดใจให้คนอื่นได้เข้ามาดูแลหัวใจเขานั่งมองณัชชาที่นั่งช่วยงานเขาจนเผลอหลับไปอย่างเงียบๆเขาทำทุกวิธีทั้งพูดไม่ดี ทำร้ายจิตใจ แต่ณัชชากลับไม่เคยยอมแพ้เพราะนิสัยเธอดื้อรั้นมาตลอดเขารู้ดีเขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ แล้วหยิบเสื้อคลุมมาห่มให้ณัชชา จากนั้นก็เดินออกจากห้องเตชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยของณัชชาแล้วเอ่ย" คุณมาอยู่เป็นเพื่อนคุณณัชชาที่บริษัทหน่อย "ปลายสายเอ่ยตอบว่า" ค่ะ "เตชินขับ
ในตอนเช้า พิมกำลังฝันหวาน เธอฝันว่าอาจารย์ได้ไปเดทกับอาจารย์ป๊อบ โดยอาจารย์ป๊อบพูดกับเธอว่า" พิม คบกับผมนะ ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ผมเฝ้ามองคุณมานานหลายปี รอวันที่คุณเรียนจบ เพื่อขอคุณเป็นแฟน ตอนนี้คุณไม่ใช่นักเรียนของผมแล้ว เราเป็นแฟนกันนะ "เธอยิ้มและรู้สึกมีความสุขที่สุดที่ความฝันของเธอเป็นจริง จึงเอ่ยตอบไปว่า" ค่ะ ฉันก็ชอบอาจารย์เหมือนกัน "แล้วอาจารย์ป๊อบก็ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็ก้มลงจะจูบเธอแต่ยังไม่ทันได้ประกบปาก เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมดันดังขึ้นมาขัดจังหวะเธอ ปลุกให้เธอตื่นจากฝันเธอตื่นขึ้นมาอย่างเสียดายและเสียใจที่อดจูบกับคนที่เธอชอบเธอมองไปยังเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาขัดจังหวะด้วยความหงุดหงิดใจกดรับสายแล้วเอ่ย" สวัสดีค่ะ "ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า" แค่วันแรกคุณก็คิดจะอู้งานแล้วเหรอ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณต้องทำอะไร "เมื่อได้ยินเสียงปลายสายเธอก็สะดุ้งลุกขึ้นมานั่งทันทีแล้วเอ่ย" คุณเตชิน! "ปลายสายจึงเอ่ยต่อว่า" เมื่อไหร่คุณจะมาส่งอาหารเช้า "[ ตายละ ลืมสนิทเลย ]เธอพึมพำในใจ นั่งนิ่ง ใช้ความคิดสักพัก จึงเอ่ยขึ้น" ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ อ
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ