ผู้ช่วยคังนั่งดูรูปผู้สมัครแต่ละคนอย่างตั้งใจ
เพราะเขาไม่รู้ว่าคุณชายของเขาต้องการแม่บ้านแบบไหน เขาจึงต้องคัดหลายรอยเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดให้คุณชายเขาและพิจารณาในหลายๆด้าน " คนนี้อ้วนไป " กดเลื่อนผ่าน " คนนี้ขี้เหร่ไป เดี๋ยวจะทำให้คุณชายไม่สบายตาเอาได้ " " คนนี้สวยดี หน้าตาใช้ได้ แต่ดูแล้วคงมีแต่จะทำให้คุณชายหงุดหงิดใจ " " คนนี้รูปร่างหน้าตาใช้ได้เลย แต่แต่งตัวไปหน่อย ใช่มาสมัครงานแม่บ้านมั้ยเนี่ย " " คนนี้ก็หน้าตาใช้ได้ดูสบายตาดี แต่โหงวเฮ้งบนใบหน้ายังไม่ผ่าน " สุดท้ายเลื่อนมาถึงข้อความของพิม ทำเอาเขาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่ออ่านเนื้อหาข้อความก็เกิดสนใจจนเผลอยิ้มออกมาแล้วเอ่ย " นี่ตั้งใจมาสมัครงานมั้ย รูปที่เห็นหน้าชัดๆก็ไม่แนบมา แต่ดูจากเนื้อหาข้อความแล้ว คงจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน ดูซื่อตรงดี เอาเธอแล้วกัน ดูสิว่าจะเก่งอย่างที่คุยโม้ไว้หรือเปล่า " แล้วเขาก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาพิมว่า ( ผมรับคุณเข้าทำงาน พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย ) พิมนั่งอ่านข้อความที่ผู้ช่วยคังส่งมาด้วยความงงแล้วเอ่ย " ไว้ใจได้หรือเปล่าเนี่ย ไม่สัมภาษณ์แต่รับเข้าทำงานเลย แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ " เพราะเกิดมาเธอไม่เคยเห็นการสมัครงานที่ไหนง่ายเช่นนี้มาก่อน แล้วเธอก็พิมพ์ข้อความส่งกลับไปว่า ( ฉันอยู่เชียงใหม่ค่ะ ขอรายละเอียดที่อยู่ของคุณหน่อยได้มั้ยคะ ) ข้อความจากผู้ช่วยคัง ทำเอาเธอถึงกับหงุดหงิดแล้วบ่นออกมาเสียงดังว่า " บ้านรึเปล่า อยู่ตั้งกรุงเทพ จะให้เริ่มงานพรุ่งนี้เลย เชียงใหม่ไปกรุงเทพ ใช้เวลาตั้งกี่ชั่วโมงคิดค่ะคิด ใครจะไปไวขนาดนั้น " แล้วเธอจึงส่งข้อความตอบไปว่า ( ไม่ทันค่ะ ) ผู้ช่วยคังจึงส่งข้อความมาว่า ( ค่าตั๋วเครื่องบินทางเราจะออกให้ เราต้องการแม่บ้านด่วน ที่สามารถเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เท่านั้น หากคุณยังสนใจงานนี้ ส่งหมายเลขบัญชีคุณมา ผมจะโอนค่าตั๋วไปให้ ) ทำเอาเธอถึงกับตาลุกวาวแล้วเอ่ยออกมาว่า " โห ต้องรวยขนาดไหนกัน ถึงไม่กลัวถูกหลอกเลย สงสัยจะต้องการแม่บ้านด่วนจริงๆ เอาก็เอาเริ่มงานพรุ่งนี้ก็ได้ " เอ่ยจบเธอก็ส่งหมายเลขพร้อมเพย์ไปให้เขาทันที แล้วข้อความจากธนาคารก็แจ้งเตือนเข้ามาทันที ข้อความในแชทที่ส่งจากผู้ช่วยคังก็เด้งขึ้น ( เดินทางวันนี้ ถึงแล้วโทรมาที่เบอร์ 095640×××× เลยนะครับ ผมจะออกไปรับที เมื่อคุณมาถึงสนามบิน ) ( ค่ะ งั้นขอตัวไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะ ) จากนั้นเธอก็ทำการจองตั๋ว เสร็จแล้วก็เดินไปอาบน้ำ จัดกระเป๋า เสื้อผ้า แล้วออกเดินทางทันที เธอเรียกรถมารับที่หอแล้วให้ไปส่งเธอที่สนามบิน เมื่อถึงสนามบิน เธอก็เข้าไปติดต่อสอบถามพนักงานเพราะเป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรก จากนั้นก็ทำการเช็คอิน รอไม่นาน เครื่องก็ออกผู้โดยสารทยอยเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเธอที่ได้นั่งเครื่องบินไปกรุงเทพ เธออยู่บนเครื่องแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ มองดูก้อนเมฆและวิวทิวทัศน์จากที่สูงแล้วพึมพำในใจ " มันช่างสวยงามราวกับภาพวาดจริงๆ " จากนั้นเธอก็หลับตาลงช้าๆ ไม่นานก็ถึงสนามบินดอนเมือง เธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อเครื่องบินจอดสนิท ประตูเปิด ผู้คนเริ่มทยอยลง เธอจึงลุกขึ้นแล้วตามผู้คนลงจากเครื่องไป จากนั้นเธอก็กดโทรหาผู้ช่วยคังเมื่อเขารับสายเธอจึงเอ่ย " สวัสดีค่ะ ฉันเป็นแม่บ้านที่คุณรับเข้าทำงานค่ะ ตอนนี้ฉันถึงสนามบินแล้ว คุณมารับฉันได้เลยค่ะ " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า " ครับ ผมจะออกไปรับเดี๋ยวนี้เลย ส่งพิกัดของคุณมาผมจะเข้าไปหา " " ค่ะ " เมื่อวางสายเธอก็ส่งพิกัดไปให้ผู้ช่วยคังในแชททันที เมื่อผู้ช่วยคังมาถึง เขามองดูพิกัดในโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามองคนที่ยืนหันหลังให้ มองแผ่นหลังตรงหน้าด้วยความสงสัย ไม่แน่ใจ ว่าใช่แม่บ้านที่จะมาเป็นแม่บ้านหรือเปล่า เพราะหุ่นเธอดีมาก ที่สำคัญผิวเธอขาวมาก แม้จะแต่งตัวสบายๆ ธรรมดา กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดตัวใหญ่และหมวกแก๊ปปกปิดศรีษะไว้ แต่ความขาว ออร่าที่มือ ทำให้รู้ได้เลยว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ผิวสวยมากๆ เขาจึงลองโทรออกไปยังเบอร์ของเธอเพื่อความแน่ใจ แล้วโทรศัพท์ของคนตรงหน้าเขาก็ดังขึ้น พิมเห็นว่าเป็นเบอร์ผู้ช่วยคัง จึงกดรับสาย แล้วเอ่ยถามขึ้น " คุณมาถึงหรือยังคะ " เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า " ถึงแล้วอยู่ข้างหลังคุณ " เขาลุ้นมากว่าแม่บ้านที่เขาหาให้คุณชายเขานั้นนอกจากจะผิวสวยแล้ว หน้าตาจะสวยด้วยมั้ย เมื่อได้ยินดังนั้น พิมจึงหมุนตัวหันมามองข้างหลังทันที แต่ผู้ช่วยคังกลับต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็นใบหน้าของเธอ เพราะเธอสวมแมสก์ปิดจมูกไว้ พิมจึงเดินไปหาเขาแล้วยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ย " สวัสดีค่ะ " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยขึ้นว่า " สวัสดีครับ เชิญคุณพิมตามผมมาเลยครับ " แล้วเขาก็เดินนำไปที่รถ เมื่อถึงรถก็จัดกระเป๋าใส่ท้ายรถอย่างเรียบร้อย แล้วพากันขึ้นรถและขับออกไปจากสนามบินทันที เมื่อถึงบ้านพักของเตชิน ผู้ช่วยคังก็พาพิมไปยังห้องพักเล็กๆสำหรับคนใช้ แล้วเอ่ยกำชับกับเธอว่า " นี่คือห้องพักของคุณ หากคุณอยากจะอยู่ที่นี่นานๆขอให้จำไว้ว่า คุณชายจะตื่น หกโมงเช้าทุกวัน และออกจากบ้านไปทำงานในเวลา เจ็ดโมงครึ่ง ดังนั้นคุณสามารถตื่นสายได้ เพราะคุณชายไม่ชอบให้ใคร มารบกวนหรือทำอะไรเกะกะสายตา ตอนเย็นหลังจากที่คุณทำอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปพักอยู่ในห้องของตัวเองได้เลย คุณไม่ต้องทำอาหารให้คุณชาย เพราะคุณชายจะทานที่บริษัท หน้าที่ของคุณคือทำเฉพาะ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า เท่านั้น ทุกวันเสาร์ คุณชายจะไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน คุณอย่าเข้าไปเด็ดขาด หากไม่เข้าใจอะไรหรือมีอะไรสงสัยอีก ก็ถามผมได้ตลอดเลยครับ " เธอจึงเอ่ยตอบผู้ช่วยคังว่า " ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆค่ะ " จากนั้นผู้ช่วยคัง ก็หันหลังเดินออกไป แต่เธอเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเรียกให้เขาหยุด แล้วเอ่ยถามขึ้น " เอ่อ เดี๋ยวก่อนค่ะ คือ ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณกับคุณชายเลย ฉันคิดว่าฉันควรจะรู้ชื่อของพวกคุณไว้ด้วยค่ะ " ผู้ช่วยคังหันมายิ้มให้เธอ แล้วเอ่ย " คุณเรียกผมว่า คุณคังหรือผู้ช่วยคังก็ได้ ส่วนคุณชาย ชื่อ คุณเตชิน อัศววัฒน์สกุล ครับ " เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับอ้าปากเอ่ยเพียง " อ้อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณคัง " " ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ " " อ่อ ค่ะ " ผู้ช่วยคังหันหลังแล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้นทันที เขายอมรับว่านอกจากเธอเป็นคนผิวสวยแล้ว ยังมีแววตาที่สวยสดใสอีกด้วย เขาอยากเห็นใบหน้าของเธอ จนอยากจะเสียมารยาทถอดหน้ากากของเธอออกเลย ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจะงดงามหรือไม่ ในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เตชินออกไปทำงานแล้ว พิมก็เปิดประตูห้องเดินออกมาสำรวจบ้านที่เธอต้องทำงาน จากนั้นเธอก็เริ่มจับเครื่องไม้เครื่องมือมาเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานวันแรก เข้าไปในห้องของเตชินแล้วนำเสื้อผ้าในตะกร้าไปซัก แล้วกลับมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน จัดเตียงให้อย่างเรียบตึง เสร็จแล้วก็เริ่มกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ทุกห้อง ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เสร็จแล้วก็นำผ้าไปตัก แล้วเริ่มรีดๆเสื้อผ้าทุกตัวกว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นพอดี เมื่อนำเสื้อผ้าที่รีดแล้วไปแขวนในตู้เสร็จ เธอก็กลับเข้าไปอยู่ในห้องของตัวเอง รอคุณชายเจ้าของบ้านกลับมาแล้วเธอถึงจะสามารถออกมาทานข้าวในครัวได้ เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้วเอ่ย " ดีที่บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่มาก ไม่งั้นคงได้เหนื่อยตายกันพอดี " ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานบ้านทั้งวัน เธอจึงเผลอหลับไป รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว เธอจึงลุกไปอาบน้ำ แต่งตัว สวมใส่ชุดนอนแล้วเดินออกมาหาอะไรทานในครัว เตชินกำลังจะไปอาบน้ำ ก็เหลือบไปเห็นเสื้อผ้าที่รีดเรียบร้อยแขวนไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผ้าปูเตียงก็เปลี่ยนใหม่ ห้องดูโล่งสะอาดตา มีกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาถูพื้น ให้ความรู้สึกสะอาด ในห้องน้ำก็จัดเรียงสิ่งต่างๆอย่างเรียบร้อย เขารู้สึกพอใจมาก จึงโทรไปหาผู้ช่วยคัง เมื่อผู้ช่วยคังรับสายเขาก็เอ่ยขึ้น " แม่บ้านคนนี้ทำงานใช้ได้ " ผู้ช่วยคังได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเอ่ยตอบไปว่า " ครับ " เขาดีใจแทนพิม ที่เธอทำงานถูกใจคุณชายของเขา แล้วเตชินก็กดวางสายไป หลังจากสายถูกวางผู้ช่วยคังยิ้มแล้วบ่นพึมพำออกมาว่า " คุณพิมทำงานใช้ได้ ตามที่โม้ไว้จริงๆด้วย "ในเช้าวันต่อมา เมื่อเตชินเข้าไปในบริษัท ผู้ช่วยคังก็เข้ามา แล้วรายงานเวลาการประชุมของวันนี้" คุณชาย วันนี้เก้าโมงตรง มีประชุมผู้ถือหุ้น และในตอนบ่าย มีประชุมเกี่ยวกับโครงการใหม่ครับ "เตชินหูฟังตาดู สายตาเขาให้ความสนใจกับเอกสารที่อยู่ในมือเพราะเป็นงานที่เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปเมื่อผู้ช่วยรายงานเสร็จเขาเอ่ยตอบผู้ช่วยคังเพียงสั้นๆว่า" อืม " แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป เตชินเป็นคนที่ละเอียดยิบเคร่งกฎระเบียบของบริษัทพนักงานจึงรู้สึกยำเกรงเมื่อเจอเขา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะยืนชื่นชมความหล่อบนใบหน้าของเขาเลยสายตาดุจพญาเหยี่ยว ที่สามารถมองเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยได้ในระยะไกลทำให้พนักงานต่างก็ต้องเนี๊ยบตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเพราะบริษัทนี้ไม่มีโอกาสให้ผิดพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียวแต่พนักงานทุกคนกลับยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้นอกจากจะได้เงินเดือนสูงแล้วเมื่อลาออกไป แล้วไปสมัครงานที่บริษัทอื่นเมื่อเขาเห็นประวัติว่าเป็นพนักงานเก่าจากบริษัทของเตชินทุกบริษัทต่างอ้าแขนรับเพราะพนักงานบริษัททุกคนล้วนคัดจากคนเก่งๆหัวกะทิ ท
เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยันแล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้นเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็นเบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย" ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า "เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัวเธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไปเธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า" ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก ฉันเป็นคนสำคัญคนห
เมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอมแต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจงานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆเพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปากเธอจึงกระซิบกับเขาว่า" วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ "เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย" คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้วไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ "เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่งที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียงแล้วเขาก็เอ
เมื่อไฟสว่างขึ้น เตชินมองไปยังผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองต้องการจะพูดอะไรเขาจึงเข้ามากระซิบว่า" เธอคือแม่บ้านของคุณชายครับ "เมื่อได้ยินดังนั้น เตชินก็อึ้งไป ไม่คิดว่าแม่บ้านของตัวเองจะหน้าตาดีและดูเด็กขนาดนี้เมื่อนึกภาพอาหารในตู้เย็น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ทิ้งของกินเธอไปจนหมด เขารู้สึกตะลึงในความงามตรงหน้าจนต้องกลบเกลื่อนโดยการหันไปเอ่ยกับเธอว่า" ยืนนิ่งอยู่ทำไม ตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานสิ "" ค่ะ "พิมเอ่ยตอบแล้วลงมือตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานเธอเดินไปเสิร์ฟเค้กให้เพื่อนของเตชินที่นั่งดื่มเหล้า วางเค้กลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกมา แต่เพื่อนของเตชินที่กำลังเมากลับคว้าข้อมือเธอไว้แล้วเอ่ย" สาวน้อย มานั่งคุยกับพี่ก่อนสิ มาบริการพี่รับรองพี่ไม่ทำให้น้องเหนื่อยฟรี มีแต่คุ้มกับคุ้ม "เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วดึงเธอลงมานั่งบนตักเธอดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ย" ขอโทษนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่มาทำหน้าที่บริการแบบที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ "ไตรภพยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจแล้วเอ่ย" ไม่เป็นไร
ปู่ของเตชินรู้ข่าวว่าหลานชายแต่งงานแล้วก็รีบบินมาไทยทันที เมื่อผู้ช่วยคังรู้ก็รีบมารายงายเตชินทันทีเช่นกันเตชินว่ายน้ำอยู่สระว่ายน้ำหลังบ้าน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเดินขึ้นมาจากสระ เตรียมจะไปอาบน้ำล้างตัว ผู้ช่วยคังก็เอ่ยขึ้น" คุณชายครับ คืนนี้คุณหญิงให้คุณกลับบ้านครับ บอกว่าคุณท่านหลิวมาไทย อยากให้กลับไปร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครับ "เตชินหยุดชะงัก แววตาฉายแววแข็งกร้าวและดูร้ายกาจขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย" ในที่สุด พวกเขาก็ใช้คุณปู่ มาเป็นเครื่องมือบังคับให้ผมกลับบ้านจนได้ "ผู้ช่วยคังกลัวเจ้านายจะไม่ยอมกลับไปเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า" คุณชายไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนแล้ว กลับไปพบคุณท่านหลิวสักหน่อย ไม่ดีเหรอครับ "เตชินยิ้มเย็นแล้วเอ่ย" อืม ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าณัชชากับคุณแม่คิดวางแผนจะทำอะไรต่อ "" คุณไปเตรียมรถเถอะ "พูดจบเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมากำชับกับผู้ช่วยคังว่า" อ้อ แล้วอย่าลืมบอกแม่บ้านด้วยล่ะ ให้เธอเตรียมตัวตามผมกลับไปบ้าน แล้วคุณช่วยเตรียมชุดดีๆให้เธอไว้สำหรับดินเนอร์ครอบครัวในค่ำคืนนี้ด้วย "ผู้ช่วยคังยืนมองเจ้านายตัวเองอย่าง งงงันด้
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุณท่านหลิวก็เอ่ยขึ้น" เตชิน หลานก็แต่งงานแล้ว รีบๆมีเหลนให้ปู่อุ้มนะ แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมหนูณัชชาล่ะ หนูณัชชาเองก็ด้วยอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เตชิน เข้าใจมั้ย ปู่แก่แล้วเห็นคนอื่นอุ้มหลาน อุ้มเหลนก็อยากจะอุ้มกับเขาบ้าง "เตชินนั่งฟังนิ่ง ตอบเพียง" ครับ "ส่วนณัชชาเธอยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า" ค่ะ "เธอแอบเยาะเย้ยพิมในใจ คิดว่าพิมคงจะเสียใจและอิจฉาเธอที่ทุกคนดีต่อเธอ แต่เมื่อเหลือบมองมาทางพิมเธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพิมนั่งนิ่ง ยิ้มอย่างสดใสไม่มีร่องรอยของความอิจฉาริษยาใดๆเลย และดูเหมือนพิมจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดจนเธอเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของพิมกับเตชินจากนั้นเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า" นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกับพิม ขอตัวกลับก่อนนะครับ "พูดจบเขาก็จับมือพิมลุกออกจากโต๊ะอาหารไปณัชชามองหน้าคุณหญิงจารวีด้วยสีหน้าผิดหวังและแฝงไปด้วยความเสียใจคุณหญิงจารวีมองเธออย่างเห็นใจ แล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้ตามเตชินไปแล้วเอ่ยเรียก" เตชิน ลูกจะรีบกลับไปทำไมในเมื่อที่นี่ก็คือบ้านของลูก วันนี้ลูกนอนที่นี่เถอะนะ "เตชินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงหันมา
ในวันรุ่งขึ้น เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองสำรวจตัวเองเขาจำได้ว่า คนที่อยู่กับเขาคนสุดท้ายเมื่อคืน คือ พิม เขายังจำได้อีกว่าพยายามจะปลดปล่อยอารมณ์กับเธอจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย [ เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรเกินเลยขึ้นใช่มั้ย ]เขาพึมพำในใจ แล้วมองหาโทรศัพท์ พอเจอก็รีบส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยคังทันที( ขึ้นมาหาผมหน่อย)สักพักผู้ช่วยคังก็มาเคาะประตู เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น" เข้ามา "พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละ รอยแผลที่ปากที่ดูเหมือนจะแห้งแล้วได้ฉีกออกอีกครั้งเขาถึงกับร้อง" ซี๊ดดด "เขารู้สึกเจ็บ จึงแตะไปที่ปากเบาๆ แล้วภาพเมื่อคืน ที่เขาพยายามจูบพิม ก็ผุดขึ้นมาในหัว เขาพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด[ นี่เธอเกิดปีหมาหรือไง กัดไม่เลือกที่จริงๆ ]ผู้ช่วยคังเข้ามาเห็นคุณชายตัวเอง ยังอยู่ในสภาพเดิม สภาพไม่เหมือนคนผ่านเรื่องอย่างว่ามา เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง" เอ่อ คุณชาย แล้ว แล้วคุณพิมล่ะครับ "เตชินมองตาเขียว สีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" คุณยังกล้ามาถามหาเธอกับผมอีกเหรอ ไปเรียกเธอขึ้นมาพบผมเดี๋ยวนี้ "" ครับ "ผู้ช่วยคังรีบออกจากห้องไปอย่างไว เพราะดูแ
พิมเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเงินในมือ พอเธอกลับเข้าไปในห้องของตัวเองก็แกะซอง นั่งนับเงินอย่างมีความสุข เธอยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น" ไม่คิดว่าจะได้เงินมาง่ายดายขนาดนี้ คนรวยนี่มีห่วงเยอะจังเลยแฮะ "แล้วเธอก็จูบไปที่เงินแป็ดหมื่นอย่างชื่นใจ เอาเงินเก็บใส่กระเป๋าแล้วเอ่ย" เรื่องไม่ดีผ่านพ้นไป ก็มีเรื่องให้ยิ้มได้ผ่านเข้ามา โบราณว่า ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ ดูแล้วน่าจะจริง "เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เดินออกจากห้อง ไปรีดเสื้อผ้าให้เตชินต่อที่บริษัท ณัชชาเธอแทบจะไม่กล้าสู้หน้าเตชินแล้วแม้เธอได้สถานะภรรยา แต่เธอรู้ตัวเองดีที่สุด ว่าเป็นได้แค่ภรรยาในนามที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนภายนอกรู้ได้ เป็นเพียงภรรยาลับๆที่รอวันหย่าขาดเมื่อถึงเวลาเท่านั้นการประชุมในตอนเช้าเตชินไม่แม้แต่จะมองหน้าณัชชาเลยพอออกจากห้องประชุม ณัชชาจึงเดินตามเขาออกมาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ณัชชาจึงเอ่ยขึ้น" คุณเตชิน ฉันขอโทษ สำหรับเรื่องเมื่อคืน "เตชินหยุดเดินพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาโดยไม่ไม่เหลียวมองเธอเลยแม้แต่น้อย" คนที่คุณควรขอโทษ คือพิม ไม่ใช่ผม "ได้ยินดังนั้น ณัชชากำมือแน่นด้วยความโกรธและไม่พอใจ ที่เต
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ