ผู้ช่วยคังนั่งดูรูปผู้สมัครแต่ละคนอย่างตั้งใจ
เพราะเขาไม่รู้ว่าคุณชายของเขาต้องการแม่บ้านแบบไหน เขาจึงต้องคัดหลายรอยเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดให้คุณชายเขาและพิจารณาในหลายๆด้าน " คนนี้อ้วนไป " กดเลื่อนผ่าน " คนนี้ขี้เหร่ไป เดี๋ยวจะทำให้คุณชายไม่สบายตาเอาได้ " " คนนี้สวยดี หน้าตาใช้ได้ แต่ดูแล้วคงมีแต่จะทำให้คุณชายหงุดหงิดใจ " " คนนี้รูปร่างหน้าตาใช้ได้เลย แต่แต่งตัวไปหน่อย ใช่มาสมัครงานแม่บ้านมั้ยเนี่ย " " คนนี้ก็หน้าตาใช้ได้ดูสบายตาดี แต่โหงวเฮ้งบนใบหน้ายังไม่ผ่าน " สุดท้ายเลื่อนมาถึงข้อความของพิม ทำเอาเขาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่ออ่านเนื้อหาข้อความก็เกิดสนใจจนเผลอยิ้มออกมาแล้วเอ่ย " นี่ตั้งใจมาสมัครงานมั้ย รูปที่เห็นหน้าชัดๆก็ไม่แนบมา แต่ดูจากเนื้อหาข้อความแล้ว คงจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน ดูซื่อตรงดี เอาเธอแล้วกัน ดูสิว่าจะเก่งอย่างที่คุยโม้ไว้หรือเปล่า " แล้วเขาก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาพิมว่า ( ผมรับคุณเข้าทำงาน พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย ) พิมนั่งอ่านข้อความที่ผู้ช่วยคังส่งมาด้วยความงงแล้วเอ่ย " ไว้ใจได้หรือเปล่าเนี่ย ไม่สัมภาษณ์แต่รับเข้าทำงานเลย แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ " เพราะเกิดมาเธอไม่เคยเห็นการสมัครงานที่ไหนง่ายเช่นนี้มาก่อน แล้วเธอก็พิมพ์ข้อความส่งกลับไปว่า ( ฉันอยู่เชียงใหม่ค่ะ ขอรายละเอียดที่อยู่ของคุณหน่อยได้มั้ยคะ ) ข้อความจากผู้ช่วยคัง ทำเอาเธอถึงกับหงุดหงิดแล้วบ่นออกมาเสียงดังว่า " บ้านรึเปล่า อยู่ตั้งกรุงเทพ จะให้เริ่มงานพรุ่งนี้เลย เชียงใหม่ไปกรุงเทพ ใช้เวลาตั้งกี่ชั่วโมงคิดค่ะคิด ใครจะไปไวขนาดนั้น " แล้วเธอจึงส่งข้อความตอบไปว่า ( ไม่ทันค่ะ ) ผู้ช่วยคังจึงส่งข้อความมาว่า ( ค่าตั๋วเครื่องบินทางเราจะออกให้ เราต้องการแม่บ้านด่วน ที่สามารถเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เท่านั้น หากคุณยังสนใจงานนี้ ส่งหมายเลขบัญชีคุณมา ผมจะโอนค่าตั๋วไปให้ ) ทำเอาเธอถึงกับตาลุกวาวแล้วเอ่ยออกมาว่า " โห ต้องรวยขนาดไหนกัน ถึงไม่กลัวถูกหลอกเลย สงสัยจะต้องการแม่บ้านด่วนจริงๆ เอาก็เอาเริ่มงานพรุ่งนี้ก็ได้ " เอ่ยจบเธอก็ส่งหมายเลขพร้อมเพย์ไปให้เขาทันที แล้วข้อความจากธนาคารก็แจ้งเตือนเข้ามาทันที ข้อความในแชทที่ส่งจากผู้ช่วยคังก็เด้งขึ้น ( เดินทางวันนี้ ถึงแล้วโทรมาที่เบอร์ 095640×××× เลยนะครับ ผมจะออกไปรับที เมื่อคุณมาถึงสนามบิน ) ( ค่ะ งั้นขอตัวไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะ ) จากนั้นเธอก็ทำการจองตั๋ว เสร็จแล้วก็เดินไปอาบน้ำ จัดกระเป๋า เสื้อผ้า แล้วออกเดินทางทันที เธอเรียกรถมารับที่หอแล้วให้ไปส่งเธอที่สนามบิน เมื่อถึงสนามบิน เธอก็เข้าไปติดต่อสอบถามพนักงานเพราะเป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรก จากนั้นก็ทำการเช็คอิน รอไม่นาน เครื่องก็ออกผู้โดยสารทยอยเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเธอที่ได้นั่งเครื่องบินไปกรุงเทพ เธออยู่บนเครื่องแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ มองดูก้อนเมฆและวิวทิวทัศน์จากที่สูงแล้วพึมพำในใจ " มันช่างสวยงามราวกับภาพวาดจริงๆ " จากนั้นเธอก็หลับตาลงช้าๆ ไม่นานก็ถึงสนามบินดอนเมือง เธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อเครื่องบินจอดสนิท ประตูเปิด ผู้คนเริ่มทยอยลง เธอจึงลุกขึ้นแล้วตามผู้คนลงจากเครื่องไป จากนั้นเธอก็กดโทรหาผู้ช่วยคังเมื่อเขารับสายเธอจึงเอ่ย " สวัสดีค่ะ ฉันเป็นแม่บ้านที่คุณรับเข้าทำงานค่ะ ตอนนี้ฉันถึงสนามบินแล้ว คุณมารับฉันได้เลยค่ะ " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า " ครับ ผมจะออกไปรับเดี๋ยวนี้เลย ส่งพิกัดของคุณมาผมจะเข้าไปหา " " ค่ะ " เมื่อวางสายเธอก็ส่งพิกัดไปให้ผู้ช่วยคังในแชททันที เมื่อผู้ช่วยคังมาถึง เขามองดูพิกัดในโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามองคนที่ยืนหันหลังให้ มองแผ่นหลังตรงหน้าด้วยความสงสัย ไม่แน่ใจ ว่าใช่แม่บ้านที่จะมาเป็นแม่บ้านหรือเปล่า เพราะหุ่นเธอดีมาก ที่สำคัญผิวเธอขาวมาก แม้จะแต่งตัวสบายๆ ธรรมดา กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดตัวใหญ่และหมวกแก๊ปปกปิดศรีษะไว้ แต่ความขาว ออร่าที่มือ ทำให้รู้ได้เลยว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ผิวสวยมากๆ เขาจึงลองโทรออกไปยังเบอร์ของเธอเพื่อความแน่ใจ แล้วโทรศัพท์ของคนตรงหน้าเขาก็ดังขึ้น พิมเห็นว่าเป็นเบอร์ผู้ช่วยคัง จึงกดรับสาย แล้วเอ่ยถามขึ้น " คุณมาถึงหรือยังคะ " เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า " ถึงแล้วอยู่ข้างหลังคุณ " เขาลุ้นมากว่าแม่บ้านที่เขาหาให้คุณชายเขานั้นนอกจากจะผิวสวยแล้ว หน้าตาจะสวยด้วยมั้ย เมื่อได้ยินดังนั้น พิมจึงหมุนตัวหันมามองข้างหลังทันที แต่ผู้ช่วยคังกลับต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็นใบหน้าของเธอ เพราะเธอสวมแมสก์ปิดจมูกไว้ พิมจึงเดินไปหาเขาแล้วยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ย " สวัสดีค่ะ " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยขึ้นว่า " สวัสดีครับ เชิญคุณพิมตามผมมาเลยครับ " แล้วเขาก็เดินนำไปที่รถ เมื่อถึงรถก็จัดกระเป๋าใส่ท้ายรถอย่างเรียบร้อย แล้วพากันขึ้นรถและขับออกไปจากสนามบินทันที เมื่อถึงบ้านพักของเตชิน ผู้ช่วยคังก็พาพิมไปยังห้องพักเล็กๆสำหรับคนใช้ แล้วเอ่ยกำชับกับเธอว่า " นี่คือห้องพักของคุณ หากคุณอยากจะอยู่ที่นี่นานๆขอให้จำไว้ว่า คุณชายจะตื่น หกโมงเช้าทุกวัน และออกจากบ้านไปทำงานในเวลา เจ็ดโมงครึ่ง ดังนั้นคุณสามารถตื่นสายได้ เพราะคุณชายไม่ชอบให้ใคร มารบกวนหรือทำอะไรเกะกะสายตา ตอนเย็นหลังจากที่คุณทำอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปพักอยู่ในห้องของตัวเองได้เลย คุณไม่ต้องทำอาหารให้คุณชาย เพราะคุณชายจะทานที่บริษัท หน้าที่ของคุณคือทำเฉพาะ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า เท่านั้น ทุกวันเสาร์ คุณชายจะไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน คุณอย่าเข้าไปเด็ดขาด หากไม่เข้าใจอะไรหรือมีอะไรสงสัยอีก ก็ถามผมได้ตลอดเลยครับ " เธอจึงเอ่ยตอบผู้ช่วยคังว่า " ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆค่ะ " จากนั้นผู้ช่วยคัง ก็หันหลังเดินออกไป แต่เธอเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเรียกให้เขาหยุด แล้วเอ่ยถามขึ้น " เอ่อ เดี๋ยวก่อนค่ะ คือ ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณกับคุณชายเลย ฉันคิดว่าฉันควรจะรู้ชื่อของพวกคุณไว้ด้วยค่ะ " ผู้ช่วยคังหันมายิ้มให้เธอ แล้วเอ่ย " คุณเรียกผมว่า คุณคังหรือผู้ช่วยคังก็ได้ ส่วนคุณชาย ชื่อ คุณเตชิน อัศววัฒน์สกุล ครับ " เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับอ้าปากเอ่ยเพียง " อ้อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณคัง " " ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ " " อ่อ ค่ะ " ผู้ช่วยคังหันหลังแล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้นทันที เขายอมรับว่านอกจากเธอเป็นคนผิวสวยแล้ว ยังมีแววตาที่สวยสดใสอีกด้วย เขาอยากเห็นใบหน้าของเธอ จนอยากจะเสียมารยาทถอดหน้ากากของเธอออกเลย ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจะงดงามหรือไม่ ในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เตชินออกไปทำงานแล้ว พิมก็เปิดประตูห้องเดินออกมาสำรวจบ้านที่เธอต้องทำงาน จากนั้นเธอก็เริ่มจับเครื่องไม้เครื่องมือมาเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานวันแรก เข้าไปในห้องของเตชินแล้วนำเสื้อผ้าในตะกร้าไปซัก แล้วกลับมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน จัดเตียงให้อย่างเรียบตึง เสร็จแล้วก็เริ่มกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ทุกห้อง ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เสร็จแล้วก็นำผ้าไปตัก แล้วเริ่มรีดๆเสื้อผ้าทุกตัวกว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นพอดี เมื่อนำเสื้อผ้าที่รีดแล้วไปแขวนในตู้เสร็จ เธอก็กลับเข้าไปอยู่ในห้องของตัวเอง รอคุณชายเจ้าของบ้านกลับมาแล้วเธอถึงจะสามารถออกมาทานข้าวในครัวได้ เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้วเอ่ย " ดีที่บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่มาก ไม่งั้นคงได้เหนื่อยตายกันพอดี " ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานบ้านทั้งวัน เธอจึงเผลอหลับไป รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว เธอจึงลุกไปอาบน้ำ แต่งตัว สวมใส่ชุดนอนแล้วเดินออกมาหาอะไรทานในครัว เตชินกำลังจะไปอาบน้ำ ก็เหลือบไปเห็นเสื้อผ้าที่รีดเรียบร้อยแขวนไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผ้าปูเตียงก็เปลี่ยนใหม่ ห้องดูโล่งสะอาดตา มีกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาถูพื้น ให้ความรู้สึกสะอาด ในห้องน้ำก็จัดเรียงสิ่งต่างๆอย่างเรียบร้อย เขารู้สึกพอใจมาก จึงโทรไปหาผู้ช่วยคัง เมื่อผู้ช่วยคังรับสายเขาก็เอ่ยขึ้น " แม่บ้านคนนี้ทำงานใช้ได้ " ผู้ช่วยคังได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเอ่ยตอบไปว่า " ครับ " เขาดีใจแทนพิม ที่เธอทำงานถูกใจคุณชายของเขา แล้วเตชินก็กดวางสายไป หลังจากสายถูกวางผู้ช่วยคังยิ้มแล้วบ่นพึมพำออกมาว่า " คุณพิมทำงานใช้ได้ ตามที่โม้ไว้จริงๆด้วย "ในเช้าวันต่อมา เมื่อเตชินเข้าไปในบริษัท ผู้ช่วยคังก็เข้ามา แล้วรายงานเวลาการประชุมของวันนี้" คุณชาย วันนี้เก้าโมงตรง มีประชุมผู้ถือหุ้น และในตอนบ่าย มีประชุมเกี่ยวกับโครงการใหม่ครับ "เตชินหูฟังตาดู สายตาเขาให้ความสนใจกับเอกสารที่อยู่ในมือเพราะเป็นงานที่เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปเมื่อผู้ช่วยรายงานเสร็จเขาเอ่ยตอบผู้ช่วยคังเพียงสั้นๆว่า" อืม " แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป เตชินเป็นคนที่ละเอียดยิบเคร่งกฎระเบียบของบริษัทพนักงานจึงรู้สึกยำเกรงเมื่อเจอเขา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะยืนชื่นชมความหล่อบนใบหน้าของเขาเลยสายตาดุจพญาเหยี่ยว ที่สามารถมองเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยได้ในระยะไกลทำให้พนักงานต่างก็ต้องเนี๊ยบตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเพราะบริษัทนี้ไม่มีโอกาสให้ผิดพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียวแต่พนักงานทุกคนกลับยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้นอกจากจะได้เงินเดือนสูงแล้วเมื่อลาออกไป แล้วไปสมัครงานที่บริษัทอื่นเมื่อเขาเห็นประวัติว่าเป็นพนักงานเก่าจากบริษัทของเตชินทุกบริษัทต่างอ้าแขนรับเพราะพนักงานบริษัททุกคนล้วนคัดจากคนเก่งๆหัวกะทิ ท
เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยันแล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้นเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็นเบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย" ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า "เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัวเธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไปเธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า" ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก ฉันเป็นคนสำคัญคนห
เมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอมแต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจงานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆเพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปากเธอจึงกระซิบกับเขาว่า" วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ "เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย" คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้วไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ "เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่งที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียงแล้วเขาก็เอ
เมื่อไฟสว่างขึ้น เตชินมองไปยังผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองต้องการจะพูดอะไรเขาจึงเข้ามากระซิบว่า" เธอคือแม่บ้านของคุณชายครับ "เมื่อได้ยินดังนั้น เตชินก็อึ้งไป ไม่คิดว่าแม่บ้านของตัวเองจะหน้าตาดีและดูเด็กขนาดนี้เมื่อนึกภาพอาหารในตู้เย็น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ทิ้งของกินเธอไปจนหมด เขารู้สึกตะลึงในความงามตรงหน้าจนต้องกลบเกลื่อนโดยการหันไปเอ่ยกับเธอว่า" ยืนนิ่งอยู่ทำไม ตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานสิ "" ค่ะ "พิมเอ่ยตอบแล้วลงมือตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานเธอเดินไปเสิร์ฟเค้กให้เพื่อนของเตชินที่นั่งดื่มเหล้า วางเค้กลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกมา แต่เพื่อนของเตชินที่กำลังเมากลับคว้าข้อมือเธอไว้แล้วเอ่ย" สาวน้อย มานั่งคุยกับพี่ก่อนสิ มาบริการพี่รับรองพี่ไม่ทำให้น้องเหนื่อยฟรี มีแต่คุ้มกับคุ้ม "เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วดึงเธอลงมานั่งบนตักเธอดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ย" ขอโทษนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่มาทำหน้าที่บริการแบบที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ "ไตรภพยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจแล้วเอ่ย" ไม่เป็นไร
ปู่ของเตชินรู้ข่าวว่าหลานชายแต่งงานแล้วก็รีบบินมาไทยทันที เมื่อผู้ช่วยคังรู้ก็รีบมารายงายเตชินทันทีเช่นกันเตชินว่ายน้ำอยู่สระว่ายน้ำหลังบ้าน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเดินขึ้นมาจากสระ เตรียมจะไปอาบน้ำล้างตัว ผู้ช่วยคังก็เอ่ยขึ้น" คุณชายครับ คืนนี้คุณหญิงให้คุณกลับบ้านครับ บอกว่าคุณท่านหลิวมาไทย อยากให้กลับไปร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครับ "เตชินหยุดชะงัก แววตาฉายแววแข็งกร้าวและดูร้ายกาจขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย" ในที่สุด พวกเขาก็ใช้คุณปู่ มาเป็นเครื่องมือบังคับให้ผมกลับบ้านจนได้ "ผู้ช่วยคังกลัวเจ้านายจะไม่ยอมกลับไปเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า" คุณชายไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนแล้ว กลับไปพบคุณท่านหลิวสักหน่อย ไม่ดีเหรอครับ "เตชินยิ้มเย็นแล้วเอ่ย" อืม ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าณัชชากับคุณแม่คิดวางแผนจะทำอะไรต่อ "" คุณไปเตรียมรถเถอะ "พูดจบเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมากำชับกับผู้ช่วยคังว่า" อ้อ แล้วอย่าลืมบอกแม่บ้านด้วยล่ะ ให้เธอเตรียมตัวตามผมกลับไปบ้าน แล้วคุณช่วยเตรียมชุดดีๆให้เธอไว้สำหรับดินเนอร์ครอบครัวในค่ำคืนนี้ด้วย "ผู้ช่วยคังยืนมองเจ้านายตัวเองอย่าง งงงันด้
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุณท่านหลิวก็เอ่ยขึ้น" เตชิน หลานก็แต่งงานแล้ว รีบๆมีเหลนให้ปู่อุ้มนะ แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมหนูณัชชาล่ะ หนูณัชชาเองก็ด้วยอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เตชิน เข้าใจมั้ย ปู่แก่แล้วเห็นคนอื่นอุ้มหลาน อุ้มเหลนก็อยากจะอุ้มกับเขาบ้าง "เตชินนั่งฟังนิ่ง ตอบเพียง" ครับ "ส่วนณัชชาเธอยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า" ค่ะ "เธอแอบเยาะเย้ยพิมในใจ คิดว่าพิมคงจะเสียใจและอิจฉาเธอที่ทุกคนดีต่อเธอ แต่เมื่อเหลือบมองมาทางพิมเธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพิมนั่งนิ่ง ยิ้มอย่างสดใสไม่มีร่องรอยของความอิจฉาริษยาใดๆเลย และดูเหมือนพิมจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดจนเธอเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของพิมกับเตชินจากนั้นเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า" นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกับพิม ขอตัวกลับก่อนนะครับ "พูดจบเขาก็จับมือพิมลุกออกจากโต๊ะอาหารไปณัชชามองหน้าคุณหญิงจารวีด้วยสีหน้าผิดหวังและแฝงไปด้วยความเสียใจคุณหญิงจารวีมองเธออย่างเห็นใจ แล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้ตามเตชินไปแล้วเอ่ยเรียก" เตชิน ลูกจะรีบกลับไปทำไมในเมื่อที่นี่ก็คือบ้านของลูก วันนี้ลูกนอนที่นี่เถอะนะ "เตชินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงหันมา
ในวันรุ่งขึ้น เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองสำรวจตัวเองเขาจำได้ว่า คนที่อยู่กับเขาคนสุดท้ายเมื่อคืน คือ พิม เขายังจำได้อีกว่าพยายามจะปลดปล่อยอารมณ์กับเธอจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย [ เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรเกินเลยขึ้นใช่มั้ย ]เขาพึมพำในใจ แล้วมองหาโทรศัพท์ พอเจอก็รีบส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยคังทันที( ขึ้นมาหาผมหน่อย)สักพักผู้ช่วยคังก็มาเคาะประตู เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น" เข้ามา "พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละ รอยแผลที่ปากที่ดูเหมือนจะแห้งแล้วได้ฉีกออกอีกครั้งเขาถึงกับร้อง" ซี๊ดดด "เขารู้สึกเจ็บ จึงแตะไปที่ปากเบาๆ แล้วภาพเมื่อคืน ที่เขาพยายามจูบพิม ก็ผุดขึ้นมาในหัว เขาพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด[ นี่เธอเกิดปีหมาหรือไง กัดไม่เลือกที่จริงๆ ]ผู้ช่วยคังเข้ามาเห็นคุณชายตัวเอง ยังอยู่ในสภาพเดิม สภาพไม่เหมือนคนผ่านเรื่องอย่างว่ามา เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง" เอ่อ คุณชาย แล้ว แล้วคุณพิมล่ะครับ "เตชินมองตาเขียว สีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" คุณยังกล้ามาถามหาเธอกับผมอีกเหรอ ไปเรียกเธอขึ้นมาพบผมเดี๋ยวนี้ "" ครับ "ผู้ช่วยคังรีบออกจากห้องไปอย่างไว เพราะดูแ
พิมเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเงินในมือ พอเธอกลับเข้าไปในห้องของตัวเองก็แกะซอง นั่งนับเงินอย่างมีความสุข เธอยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น" ไม่คิดว่าจะได้เงินมาง่ายดายขนาดนี้ คนรวยนี่มีห่วงเยอะจังเลยแฮะ "แล้วเธอก็จูบไปที่เงินแป็ดหมื่นอย่างชื่นใจ เอาเงินเก็บใส่กระเป๋าแล้วเอ่ย" เรื่องไม่ดีผ่านพ้นไป ก็มีเรื่องให้ยิ้มได้ผ่านเข้ามา โบราณว่า ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ ดูแล้วน่าจะจริง "เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เดินออกจากห้อง ไปรีดเสื้อผ้าให้เตชินต่อที่บริษัท ณัชชาเธอแทบจะไม่กล้าสู้หน้าเตชินแล้วแม้เธอได้สถานะภรรยา แต่เธอรู้ตัวเองดีที่สุด ว่าเป็นได้แค่ภรรยาในนามที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนภายนอกรู้ได้ เป็นเพียงภรรยาลับๆที่รอวันหย่าขาดเมื่อถึงเวลาเท่านั้นการประชุมในตอนเช้าเตชินไม่แม้แต่จะมองหน้าณัชชาเลยพอออกจากห้องประชุม ณัชชาจึงเดินตามเขาออกมาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ณัชชาจึงเอ่ยขึ้น" คุณเตชิน ฉันขอโทษ สำหรับเรื่องเมื่อคืน "เตชินหยุดเดินพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาโดยไม่ไม่เหลียวมองเธอเลยแม้แต่น้อย" คนที่คุณควรขอโทษ คือพิม ไม่ใช่ผม "ได้ยินดังนั้น ณัชชากำมือแน่นด้วยความโกรธและไม่พอใจ ที่เต
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ