งานรับปริญญาถูกจัดขึ้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย
บรรยากาศดีมากอากาศหนาวเย็น ให้ความรู้สึกสดชื่น ผู้คนเดินไปมาอย่างครึกครื้น เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตจบใหม่ หลังจากที่เข้ารับปริญญาบัตรเสร็จเหล่าบัณฑิตก็ทยอยเดินออกมาจากหอประชุม แล้วมาถ่ายรูปร่วมเฟรมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับกลุ่มเพื่อนและญาติพี่น้อง รถหรูค่อยๆขับเข้ามาจอด จากนั้นคนในรถก็ยื่นเท้าลงมาเหยียบบนพื้น ปรากฏรูปร่างสูงใหญ่ราวๆ185 ใบหน้าเรียคมสัน ดั้งจมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป ดูหล่อเหลาไร้ที่ติ มาในชุดสูทสีขาว แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มแก๊งของบัณฑิตสาวหน้าใสที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่ ในมือเขา ถือช่อดอกไม้ราคาแพงกับตุ๊กตาหมี สีขาวหูชมพูอุ้งเท้าชมพู เดินตรงไปยังบัณฑิตสาวหน้าใสคนหนึ่ง แล้วยื่นช่อดอกไม้กับตุ๊กตาหมีไปให้เธอ พร้อมกับเอ่ย " ยินดีด้วยนะพิม เรียนจบแล้วขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะ " คนได้รับช่อดอกไม้ถึงกับตะลึง อึ้งไป หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เพราะคนตรงหน้าของเธอคือ อาจารย์หนุ่มสุดหล่อ ที่เพิ่งจบปริญญาโทมาหมาดๆ เป็นคนที่เพื่อนร่วมห้องไม่ว่าจะสาวแท้สาวเทียมหรือเก้งกวาง ต่างพากันกรี๊ดกร๊าดในความหล่อ และมีบุคลิกสุขุม สุภาพ รูปร่างสูงสง่าผ่าเผย อาจารย์ประจำวิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานและธุรกิจ นักศึกษาแฮปปี้ทุกครั้งที่เข้าเรียนวิชานี้ ทุกคนจะกรี๊ดกร๊าด และแซวอาจารย์กันตลอดโดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนสาวของพิม " อาจารย์ขา คือหนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ " อาจารย์หนุ่มจึงเอ่ยว่า " ว่ามาสิ " " หนูจะต้องทำยังไงคะถึงจะมี แฟนหล่อๆแบบอาจารย์ " เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนในห้องก็พากันโห่เขาเสียงดังพร้อมกัน นัศึกษาสาวสองอีกคนไม่ยอม ก็เอ่ยขึ้นบ้าง " อาจารย์ขา หนูถูกผู้ทิ้งขอซบไหล่อาจารย์หน่อยนะคะ " เอ่ยจบก็ทำท่าจะลุกเข้าไปซบไหล่อาจารย์ พิมจึงรั้งเพื่อนสาวไว้ให้กลับมานั่งแล้วเอ่ย " ไม่ต้องเลยๆ อย่าเว่อร์ " เพื่อนสาวหันกลับมามองเธอพร้อมกับทำท่าเบะปากใส่แล้วเอ่ย " อีชะนี ไม่ต้องมาทำเป็นห้ามเลย อย่ามาตอแหลทำเป็นใสซื่อ ฉันเห็นไส้เห็นพุงเธอหมดแล้วย่ะ " เธอไม่เถียง ได้แต่ทำท่าไม่ใส่ใจพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้อะไร แล้วเพื่อนสาวอีกคนก็ยกมือขึ้นแล้วเอ่ย " อาจารย์ขา วิชาของอาจารย์หนูไม่เอา A ก็ได้ค่ะ หนูขอติด F จะได้เรียนกับอาจารย์ทั้งปี " เหมือนทุกคนจะเห็นด้วยจึงพากันส่งเสียง " ฮิ้ววว " พร้อมกันอย่างครึกคื้น พิมและเพื่อนสาวสองอีกสองคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เพื่อเรียกสติเพื่อนสาว " อีกะเทย!!! " ทำเอาเพื่อนสาวถึงกับสะดุ้ง ยิ้มยิงฟันแหยๆให้พวกเขาทันที อาจารย์ได้แต่ยิ้มแบบไม่ถือสาอะไร เพื่อให้นักเรียนเรียนอย่างแฮปปี้ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น " พิม แล้วฟ้าใส ไปไหนล่ะ " ปกติสองคนนี้จะนั่งใกล้กันตลอด อาจารย์จึงสงสัย เธอจึงเอ่ยตอบไปว่า " วันนี้ฟ้าใสลาค่ะ เธอบอกว่ามีธุระต้องไปทำค่ะ " คำถามของอาจารย์ทำให้ทุกคนต่างเข้าใจในทางเดียวกันว่า อาจารย์ป๊อบของพวกเขาคงจะชอบฟ้าใสเข้าแล้ว ทำเอาพิมและเหล่าเพื่อนสาวฝันสลายกันเป็นแถว พิมมองอาจารย์ที่ยื่นช่อดอกไม้ให้อยู่อย่างนั้นด้วยความเหม่อลอย แล้วเพื่อนสาวปากไวของเธอที่ชื่อ มีมี่ ก็เอ่ยขึ้นอย่างอิจฉาว่า " อีพิม ถ้าเธอไม่อยากได้ช่อดอกไม้กับตุ๊กตาของอาจารย์ เอามาให้ฉันก็ได้นะ ฉันอยากได้ " เอ่ยจบหล่อนก็ส่งยิ้มหวานให้อาจารย์ทันที เพื่อนสาวอีกคนที่ชื่อ มิกเกล ก็ยื่นมือไปหยิกมีมี่เบาๆใช้สายตาเตือนให้มีมี่เงียบปาก จากนั้นเพื่อนสาวที่ดูจะเป็นผู้นำหน่อยและไม่แต่งหญิง อย่าง เทเท่ ก็เอ่ยขึ้น " เอ่อ อาจารย์ป๊อบมาถ่ายรูปกับพวกเราหน่อยนะคะ " อาจารย์ยิ้มหล่อแล้วเอ่ย " ได้สิ " มิกเกลจึงสะกิดพิมให้รีบรับช่อดอกไม้ พิมรับช่อดอกไม้มาแล้วเอ่ย " ขอบคุณค่ะ " จากนั้นพวกเพื่อนสาวก็เบียดเธอให้เขยิบเข้าไปใกล้และตัวเธอแนบชิดกับอาจารย์ ทำเอาเธอถึงกับเขินอายทำอะไรไม่ถูก ใจเต้นกระหน่ำจนแทบจะเด้งออกมาข้างนอก แก้มเธอแดงระเรื่อไปหมด แล้วช่างภาพก็กดถ่ายรัวๆ แชะ! แชะ! แชะ! จากนั้นฟ้าใสที่ไม่ยอมมารับปริญญากับเพื่อน ก็ลงจากรถแล้วเข้ามาหากลุ่มเพื่อนพร้อมกับเอ่ย " นี่พวกเธอลืมไปแล้วเหรอว่ายังมีฉันอีกคน " เมื่อเห็นเธอ พิมจึงเอ่ยด้วยความดีใจพร้อมกับดึงเธอเข้ามาถ่ายรูป " ฟ้าใส มาสิ เรามาถ่ายรูปกัน " แล้วพวกเขาก็โพสท่าถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน พิมปลีกตัวออกมานั่งพัก อาจารย์ป๊อปจึงเดินมาหาเธอแล้วเอ่ยขึ้น " พิม อาจารย์ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้มั้ย " เธอหันมามองเขาแล้วพยักหน้าเอ่ยตอบว่า " ได้ค่ะ " จากนั้นอาจารย์ป๊อบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที ฟ้าใสจึงเดินเข้ามาแล้วเอ่ย " ทุกคนฉันมีอะไรจะบอก " ทุกคนรอฟังอย่างตั้งใจ แล้วฟ้าใสก็เอ่ยขึ้น " ฉันกับพี่ป๊อปเราจะไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกัน วันนี้ฉันจึงมาลาพวกเธอ " พิมได้แต่ฝืนยิ้มแสดงความยินดีกับพวกเขา " ดีใจด้วยนะ มีโอกาสก็ทำให้ดีที่สุดนะ พวกเราจะรอวันที่เธอกลับมานะ " แต่ในใจกลับแอบเศร้า ที่เห็นเพื่อนเรียกอาจารย์อย่างสนิทสนม อาจารย์ป๊อบมองยังพิม เมื่อไม่เห็นความผิดปกติใดเขานิ่งเฉยไป ฟ้าใสยิ้มร่าพร้อมกับไปควงแขนอาจารย์ป๊อบแล้วเอ่ย " งั้นพวกเราไปก่อนนะ จะเดินทางวันนี้แล้ว ไว้มีเวลาค่อยเจอกันใหม่นะ " ทุกคนจึงพยักหน้าเอ่ยตอบอย่างมึนงง ยิ้มไม่เต็มหน้า พร้อมกับยกมือขึ้นมาโบกลากันแบบงงๆ " อื้ม ไว้ค่อยพบกันใหม่ " ในเช้าวันต่อมา พิมตื่นขึ้นมาแล้วเธอก็นั่งคุยกับตุ๊กหมีราวกับมันเป็นสิ่งมีชีวิต " เจ้าหมี นายรู้มั้ย เจ้านายของนายทำให้ฉันสับสนมากแค่ไหน สรุปแล้ว มันยังไงกันแน่ เขาชอบฉันมั้ย หรือว่าฉันคิดไปเองฝ่ายเดียว " จากนั้นเธอก็หน้าจ่อย คอตกไปแล้วจับไปที่หูของมันแล้วเอ่ยต่อว่า " เฮ้อ ฉันรู้ว่าฉันคิดไปเองคนเดียว ฉันรู้ว่าอาจารย์คบอยู่กับฟ้าใส พวกเขารวยเหมือนกัน ดูเหมาะสมกันมาก แต่ยังไงฉันก็ยังชอบอาจารย์มากๆอยู่ดี และจะแอบชอบแบบนี้ตลอดไป จากนี้ไปคงไม่มีโอกาสได้เจอกับอาจารย์แล้ว อย่างน้อยก็มีนายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของอาจารย์เน้อ " แล้วเธอก็ไปหยิบเข็มกับด้ายมา เพื่อปักชื่อของอาจารย์ลงตรงป้ายแบรนด์ ที่เป็นผ้าเล็กๆอยู่หลังตุ๊กตา เธอจึงปักเป็นชื่อภาษาอังกฤษว่า POP ดูเด่นชัดทีเดียว เธอมองดูชื่ออาจารย์ที่เธอปักลงบนตัวตุ๊กตาแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจในฝีมือตนเอง พร้อมกับกอดตุ๊กตาไว้อย่างอบอุ่นหัวใจแล้วเอ่ย " ต่อไปนายคือ อาจารย์ป๊อบ ไปไหนฉันจะพานายไปทุกที่เลย โอเคมั้ย " แล้วเธอก็เอาตุ๊กตาวางไว้ที่หัวเตียง จากนั้นเธอก็เดินไปเปิดโน๊ตบุ๊ค แล้วหางานในกลุ่มหางานแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก เธอไปเห็นโพสที่น่าสนใจโพสหนึ่ง ซึ่งในโพสระบุไว้ว่า ( นายจ้างหาเอง รับสมัครแม่บ้าน อายุยี่สิบ ไม่เกินสามสิบ เป็นคนสะอาดสะอ้าน รักความสะอาด ทำหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ดูแลความเป็นอยู่ของนายจ้าง มีความซื่อสัตย์ ไม่พูดมาก ทุ่มเทกับงานที่ได้รับ เงินเดือนสองหมื่นบาท หยุดทุกวันอาทิตย์ ขอคนที่รับแรงกดดันไหว มีความเข้มแข็ง อดทน สู้คน ไม่กลัวใคร เข้าสังคมได้ หากใครคิดว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ เชิญส่งประวัติ สมัครกันเข้ามาได้ ทางแชทส่วนตัวของเจ้าของโพสนี้เลยครับ ) หลังจากอ่านจบเธอก็บ่นพึมพำออกมาว่า " ชิ! รับสมัครแม่บ้าน บ้าอะไร ยังกับรับสมัครนักรบ ถ้าไม่ระบุว่า รับสมัครแม่บ้าน ฉันคงคิดว่ารับสมัครบอดี้การ์ด ไม่ก็รับสมัครคู่ต่อสู้แล้ว " จากนั้นเธอก็ไม่สนใจอีกแล้วเลื่อนผ่านไป แต่ละโพสไม่น่าสนใจเลย เงินเดือนก็น้อย แค่หมื่นถึงหมื่นสอง เธอคำนวณวันเวลาและงานที่ต้องทำในแต่ละวัน เธอถึงกับส่ายหัวอย่างหงุดหงิดแล้วเอ่ยตัดพ้อออกมาอย่างยาวเหยียด " มันจะเอาเปรียบกันมากเกินไปแล้ว ใจดี ลูกจ้างให้สักหมื่นสี่ก็แทบจะไม่มีเลย งานข้าราชงานหลวงก็ด้วย ระหว่างรอสอบบรรจุได้เงินเดือนแค่เก้าพัน แล้วแบบนี้คนจนๆอย่างเราจะเอาอะไรกิน เมื่อไหร่ฉันจะรวย เมื่อไหร่ฉันจะมีเงินเก็บ ฮือๆๆ ทำไมโชคชะตาต้องใจร้ายกับสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างเราด้วยนะ ให้ถูกรางวัลที่หนึ่งสักครั้งก็ไม่ได้ ทำไมเราไม่รวยเหมือนฟ้าใสนะ แล้วแบบนี้เราจะกล้าไปหวังกับอาจารย์ได้อย่างไร ฮือๆๆ " จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียง ทิ้งตัวนอนลงอย่างหมดหวัง กับอนาคตที่วาดไว้ในหัวสมองของพิม มีแต่เรื่องของเงินๆๆแล้วก็เงิน เธอกำลังคิดว่าถ้าเธอทำงานได้หนึ่งปี เธอก็จะมีเงินเก็บถึงสองแสน สี่หมื่นบาทเมื่อกินอยู่กับเขาหมด หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวไป ก็จะเหลือเก็บ สองแสนเธออายุยี่สิบสาม เธอจะต้องมีรถก่อนจากนั้นค่อยเก็บเงินซื้อที่ดิน แล้วก็เก็บเงินซื้อบ้านคิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกมานั่งอีกครั้งแล้วพึมพำกับตัวเอง" อันดับแรกต้องเก็บเงินซื้อรถก่อน รถคันละแป็ดแสน เป็นแม่บ้านสักสี่ปี พอได้รถแล้วค่อยกลับมาทำอาชีพที่เรียนมา ก็ไม่สาย ทำไงได้ ก็เกิดมาจนทำไมล่ะในเมื่อเลือกเกิดไม่ได้ ก็เลือกที่จะเดิน เลือกที่จะเก็บหอมรอมริบได้หนิเน้อ "แล้วเธอก็เดินไปนั่งหน้าโน๊ตบุ๊คอีกครั้ง พ่นลมหายใจออกมาทางปาก แล้ววางมือลงบนแป้นพิมพ์ ตัดสินใจสมัครเป็นแม่บ้านคลิกไปยังเจ้าของโพส ทักเข้าไปในแชทของผู้โพสโดยพิมพ์ว่า( สวัสดีค่ะ ดิฉันสนใจงานแม่บ้านที่คุณประกาศรับสมัครค่ะ ฉันมีคุณสมบัติครบตามที่คุณต้องการเลยเป็นคนไทยแท้ ไม่มีประวัติอาชญากรรม เรียนจบมัธยมปลาย ถนัดทำงานบ้านและเคยทำงานบ้านมาแล้ว อายุยี่สิบสามปี หากคุณยังไม่ได้คน โปรดรับดิฉันไว้พิจารณาด้วยคนนะคะ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลย ถ้าคุณมอง
ผู้ช่วยคังนั่งดูรูปผู้สมัครแต่ละคนอย่างตั้งใจเพราะเขาไม่รู้ว่าคุณชายของเขาต้องการแม่บ้านแบบไหน เขาจึงต้องคัดหลายรอยเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดให้คุณชายเขาและพิจารณาในหลายๆด้าน" คนนี้อ้วนไป "กดเลื่อนผ่าน" คนนี้ขี้เหร่ไป เดี๋ยวจะทำให้คุณชายไม่สบายตาเอาได้ "" คนนี้สวยดี หน้าตาใช้ได้ แต่ดูแล้วคงมีแต่จะทำให้คุณชายหงุดหงิดใจ "" คนนี้รูปร่างหน้าตาใช้ได้เลย แต่แต่งตัวไปหน่อย ใช่มาสมัครงานแม่บ้านมั้ยเนี่ย "" คนนี้ก็หน้าตาใช้ได้ดูสบายตาดี แต่โหงวเฮ้งบนใบหน้ายังไม่ผ่าน "สุดท้ายเลื่อนมาถึงข้อความของพิม ทำเอาเขาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่ออ่านเนื้อหาข้อความก็เกิดสนใจจนเผลอยิ้มออกมาแล้วเอ่ย" นี่ตั้งใจมาสมัครงานมั้ย รูปที่เห็นหน้าชัดๆก็ไม่แนบมา แต่ดูจากเนื้อหาข้อความแล้ว คงจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน ดูซื่อตรงดีเอาเธอแล้วกัน ดูสิว่าจะเก่งอย่างที่คุยโม้ไว้หรือเปล่า "แล้วเขาก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาพิมว่า( ผมรับคุณเข้าทำงาน พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย )พิมนั่งอ่านข้อความที่ผู้ช่วยคังส่งมาด้วยความงงแล้วเอ่ย" ไว้ใจได้หรือเปล่าเนี่ย ไม่สัมภาษณ์แต่รับเข้าทำงานเลย แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ "เพราะเกิดมาเธอไม่เคยเ
ในเช้าวันต่อมา เมื่อเตชินเข้าไปในบริษัท ผู้ช่วยคังก็เข้ามา แล้วรายงานเวลาการประชุมของวันนี้" คุณชาย วันนี้เก้าโมงตรง มีประชุมผู้ถือหุ้น และในตอนบ่าย มีประชุมเกี่ยวกับโครงการใหม่ครับ "เตชินหูฟังตาดู สายตาเขาให้ความสนใจกับเอกสารที่อยู่ในมือเพราะเป็นงานที่เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปเมื่อผู้ช่วยรายงานเสร็จเขาเอ่ยตอบผู้ช่วยคังเพียงสั้นๆว่า" อืม " แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป เตชินเป็นคนที่ละเอียดยิบเคร่งกฎระเบียบของบริษัทพนักงานจึงรู้สึกยำเกรงเมื่อเจอเขา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะยืนชื่นชมความหล่อบนใบหน้าของเขาเลยสายตาดุจพญาเหยี่ยว ที่สามารถมองเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยได้ในระยะไกลทำให้พนักงานต่างก็ต้องเนี๊ยบตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเพราะบริษัทนี้ไม่มีโอกาสให้ผิดพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียวแต่พนักงานทุกคนกลับยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้นอกจากจะได้เงินเดือนสูงแล้วเมื่อลาออกไป แล้วไปสมัครงานที่บริษัทอื่นเมื่อเขาเห็นประวัติว่าเป็นพนักงานเก่าจากบริษัทของเตชินทุกบริษัทต่างอ้าแขนรับเพราะพนักงานบริษัททุกคนล้วนคัดจากคนเก่งๆหัวกะทิ ท
เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยันแล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้นเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็นเบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย" ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า "เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัวเธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไปเธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า" ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก ฉันเป็นคนสำคัญคนห
เมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอมแต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจงานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆเพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปากเธอจึงกระซิบกับเขาว่า" วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ "เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย" คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้วไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ "เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่งที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียงแล้วเขาก็เอ
เมื่อไฟสว่างขึ้น เตชินมองไปยังผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองต้องการจะพูดอะไรเขาจึงเข้ามากระซิบว่า" เธอคือแม่บ้านของคุณชายครับ "เมื่อได้ยินดังนั้น เตชินก็อึ้งไป ไม่คิดว่าแม่บ้านของตัวเองจะหน้าตาดีและดูเด็กขนาดนี้เมื่อนึกภาพอาหารในตู้เย็น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ทิ้งของกินเธอไปจนหมด เขารู้สึกตะลึงในความงามตรงหน้าจนต้องกลบเกลื่อนโดยการหันไปเอ่ยกับเธอว่า" ยืนนิ่งอยู่ทำไม ตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานสิ "" ค่ะ "พิมเอ่ยตอบแล้วลงมือตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานเธอเดินไปเสิร์ฟเค้กให้เพื่อนของเตชินที่นั่งดื่มเหล้า วางเค้กลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกมา แต่เพื่อนของเตชินที่กำลังเมากลับคว้าข้อมือเธอไว้แล้วเอ่ย" สาวน้อย มานั่งคุยกับพี่ก่อนสิ มาบริการพี่รับรองพี่ไม่ทำให้น้องเหนื่อยฟรี มีแต่คุ้มกับคุ้ม "เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วดึงเธอลงมานั่งบนตักเธอดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ย" ขอโทษนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่มาทำหน้าที่บริการแบบที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ "ไตรภพยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจแล้วเอ่ย" ไม่เป็นไร
ปู่ของเตชินรู้ข่าวว่าหลานชายแต่งงานแล้วก็รีบบินมาไทยทันที เมื่อผู้ช่วยคังรู้ก็รีบมารายงายเตชินทันทีเช่นกันเตชินว่ายน้ำอยู่สระว่ายน้ำหลังบ้าน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเดินขึ้นมาจากสระ เตรียมจะไปอาบน้ำล้างตัว ผู้ช่วยคังก็เอ่ยขึ้น" คุณชายครับ คืนนี้คุณหญิงให้คุณกลับบ้านครับ บอกว่าคุณท่านหลิวมาไทย อยากให้กลับไปร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครับ "เตชินหยุดชะงัก แววตาฉายแววแข็งกร้าวและดูร้ายกาจขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย" ในที่สุด พวกเขาก็ใช้คุณปู่ มาเป็นเครื่องมือบังคับให้ผมกลับบ้านจนได้ "ผู้ช่วยคังกลัวเจ้านายจะไม่ยอมกลับไปเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า" คุณชายไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนแล้ว กลับไปพบคุณท่านหลิวสักหน่อย ไม่ดีเหรอครับ "เตชินยิ้มเย็นแล้วเอ่ย" อืม ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าณัชชากับคุณแม่คิดวางแผนจะทำอะไรต่อ "" คุณไปเตรียมรถเถอะ "พูดจบเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมากำชับกับผู้ช่วยคังว่า" อ้อ แล้วอย่าลืมบอกแม่บ้านด้วยล่ะ ให้เธอเตรียมตัวตามผมกลับไปบ้าน แล้วคุณช่วยเตรียมชุดดีๆให้เธอไว้สำหรับดินเนอร์ครอบครัวในค่ำคืนนี้ด้วย "ผู้ช่วยคังยืนมองเจ้านายตัวเองอย่าง งงงันด้
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุณท่านหลิวก็เอ่ยขึ้น" เตชิน หลานก็แต่งงานแล้ว รีบๆมีเหลนให้ปู่อุ้มนะ แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมหนูณัชชาล่ะ หนูณัชชาเองก็ด้วยอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เตชิน เข้าใจมั้ย ปู่แก่แล้วเห็นคนอื่นอุ้มหลาน อุ้มเหลนก็อยากจะอุ้มกับเขาบ้าง "เตชินนั่งฟังนิ่ง ตอบเพียง" ครับ "ส่วนณัชชาเธอยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า" ค่ะ "เธอแอบเยาะเย้ยพิมในใจ คิดว่าพิมคงจะเสียใจและอิจฉาเธอที่ทุกคนดีต่อเธอ แต่เมื่อเหลือบมองมาทางพิมเธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพิมนั่งนิ่ง ยิ้มอย่างสดใสไม่มีร่องรอยของความอิจฉาริษยาใดๆเลย และดูเหมือนพิมจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดจนเธอเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของพิมกับเตชินจากนั้นเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า" นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกับพิม ขอตัวกลับก่อนนะครับ "พูดจบเขาก็จับมือพิมลุกออกจากโต๊ะอาหารไปณัชชามองหน้าคุณหญิงจารวีด้วยสีหน้าผิดหวังและแฝงไปด้วยความเสียใจคุณหญิงจารวีมองเธออย่างเห็นใจ แล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้ตามเตชินไปแล้วเอ่ยเรียก" เตชิน ลูกจะรีบกลับไปทำไมในเมื่อที่นี่ก็คือบ้านของลูก วันนี้ลูกนอนที่นี่เถอะนะ "เตชินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงหันมา
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ