Share

บทที่ 532

Author: มู่โร่ว
ตราบใดที่เขายังรักษาสภาพเดิมไว้ ก็จะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งได้อย่างแน่นอน

แต่ด้วยนิสัยของฉีซวนเหิง เขาจะยอมทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป ยกดินแดนแคว้นเยี่ยนที่ไม่มีใครเฝ้า ซึ่งเป็นเนื้อชิ้นโตให้กับแคว้นฉู่อย่างนั้นหรือ?

เป็นไปไม่ได้!

ฉีซวนเหิงจะต้องโจมตีแคว้นเยี่ยนอย่างแน่นอน

ถึงตอนนั้นก็หวังแค่ว่าจ้าวเฉียนจะสามารถรักษาแคว้นเยี่ยนไว้ได้

ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางฝั่งจ้าวเฉียนเป็นอย่างไรบ้าง?

แคว้นฉู่และแคว้นฉีตั้งอยู่ทางใต้และเหนือของแคว้นเยี่ยน

แคว้นฉู่อยู่ทางใต้ แคว้นฉีอยู่ทางเหนือ

โดยมีแคว้นเยี่ยนอันกว้างใหญ่อยู่ตรงกลาง

ขณะที่แม่ทัพทั้งสามกำลังหารือกันว่าจะทำการโจมตีในตอนกลางคืนเพื่อบีบให้เจียงเหว่ยส่งกองทัพออกไป...

“รายงาน...”

ทหารน้อยตะโกนเข้ามา ทำให้ทหารหลายคนในค่ายได้ยิน

เซี่ยเวย จางเฉา และเฉินเซียนซงหยุดดูแผนที่ในมือ หันไปมองทหารที่มารายงาน

เห็นทหารผิวคล้ำแดด หน้าตาเบิกบาน ฟันขาวสะอาดของเขาดูสดใสเป็นพิเศษภายใต้แสงแดด

“รายงาน ท่านแม่ทัพ แม่ทัพจ้าวเฉียนส่งข่าวดีมา...”

เมื่อแม่ทัพทั้งสามได้ยินว่าเป็นข่าวจากจ้าวเฉียน พวกเขาก็รีบเข้าไปถามทหาร

“ข่าวอะไร?”

ทหารผ่านศึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 533

    เหมืองแร่ ทหารนายหนึ่งวิ่งมาจากที่ไกลโพ้น ในมือกำจดหมายแน่น เร่งฝีเท้ามายังหน้ากระโจมบัญชาการของจ้านเฉิงอิ้นด้วยท่าทางร้อนรน“ท่านแม่ทัพ รายงาน รายงานขอรับ...”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินดังนั้นก็วางแผนที่ลงทันที ก่อนจะก้าวออกจากกระโจมบัญชาการพร้อมกับเฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว และจวงเหลียง บนใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏแววแห่งความยินดี“ว่าอย่างไร? หลี่หยวนจงส่งข่าวมาแล้วหรือ?”สีหน้าของทหารที่นำข่าวมาถึงกับชะงักแข็งค้าง ก่อนจะยื่นจดหมายในมือส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือ แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่ข่าวจากแม่ทัพหลี่ขอรับ แต่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของแคว้นเยี่ยน! แม่ทัพเซี่ยเวยและจ้าวเฉียนสามารถต้านทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉีไว้ได้แล้ว!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา“พวกเขาชนะแล้วหรือ? ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องชนะได้แน่!”เขาคลี่จดหมายออกอ่าน...เป็นจดหมายจากเซี่ยเวย ใจความระบุว่า “เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าถึงด่านเจิ้นกวนในวันแรก ก็ได้ปะทะกับเจียงเหว่ยจากแคว้นฉู่โดยบังเอิญ เขานำทัพหนึ่งแสนมาเผชิญหน้ากับทหารสองหมื่นห้า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 534

    ผลปรากฏว่า ทันทีที่พวกเขามาถึงก็เข้าปะทะทันทีขบวนรถศึกขนาดมหึมา พร้อมด้วยการยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินจากบนรถ ทำให้ทหารแคว้นฉีที่ยังเตรียมตัวไม่พร้อมต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนักศึกแรกยังไม่ทันได้ปะทะกันโดยตรง ข้าศึกก็แตกพ่ายหนีตายไปเสียแล้วคาดว่าความพ่ายแพ้ครั้งแรกคงสร้างความอัปยศอดสูไม่น้อยกองทัพแคว้นฉีที่มีกำลังพลมหาศาล กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับขบวนรถศึกเพียงร้อยกว่าคัน และเหล่าทหารที่ยังไม่ได้ลงจากรถ เพียงแค่การยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ก็ทำให้พวกมันสูญเสียกำลังพลไปมหาศาลเช้าวันถัดมา ฉีซวนเหิงเร่งระดมพลอย่างรวดเร็ว เปิดฉากโจมตีอีกครั้ง เป้าหมายของเขาคือกองทัพที่เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยล้าและยังไม่ทันได้ฟื้นตัวเต็มที่บางทีอาจเป็นเพราะกองทัพแคว้นฉีอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพแม้จ้าวเฉียนและทหารสองหมื่นกว่าคนจะยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ยังคงฮึกเหิมพร้อมเข้าสู่สนามรบทว่าเมื่อได้ปะทะกันจริง ๆ บรรดาทหารผ่านศึกก็พลันเข้าใจว่า สาเหตุที่กองทัพแคว้นฉีทำผลงานได้ย่ำแย่เมื่อวันก่อน ไม่ใช่เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะกองทัพของพวกเขามีอาวุธที่ได้เปรียบ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่มีระยะยิงไกลและพลังท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 535

    เซี่ยเวยปะทะกับเจียงเหว่ยแห่งแคว้นฉู่ กองทัพหนึ่งแสนของเจียงเหว่ยถูกเซี่ยเวยสังหารไปกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลืออีกห้าหมื่นคนแตกพ่ายหนีเตลิดไปเท่จริง ๆ!เย่มู่มู่เพิ่งเคยได้ยินชื่อเจียงเหว่ยเป็นครั้งแรก แม่ทัพหนุ่มที่สามารถเผยตัวขึ้นมาใต้ร่มเงาของหลิงเสี่ยวเฟิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้ คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!แต่การพ่ายแพ้อย่างยับเยินในศึกแรก คงเป็นเพราะเขาประเมินเซี่ยเวยต่ำเกินไปเย่มู่มู่เปิดจดหมายฉบับที่สอง ก็พบว่าคู่ปรับเก่าอย่างฉีซวนเหิงกลับมาอีกแล้วเขานำทัพมาถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย แต่กลับแพ้ติดต่อกันถึงหกครั้ง!เย่มู่มู่เองก็ไม่เข้าใจเลยว่าคนผู้นี้คิดอะไรอยู่คนทั่วไปแค่แพ้สามครั้งก็คงยอมถอดใจแล้ว อย่าว่าแต่สามเลย แค่เธอเล่นเกมแพ้ติดกันสองรอบยังไม่อยากเล่นต่อเลยด้วยซ้ำ!พี่ชายคนนี้แพ้ไปหกครั้งแล้วยังไม่ถอยทัพอีกเขากะจะแพ้จนหมดตัวเลยหรือไง!?เย่มู่มู่มองจดหมายจากจ้านเฉิงอิ้น ขณะที่สองพี่น้องหลูหมิงและหลูซีต่างก็จับจ้องมาอย่างใจจดใจจ่อพวกเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ภูเขาเหมืองเป็นอย่างไรบ้างหรือว่ากองทัพเผ่าหมานของแคว้นเยี่ยนกับกองทัพธงเหลืองยังคงปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 536

    เวลานั้น หลูหมิงหยิบกริชที่ฝังอัญมณีออกมา “ท่านเทพ โปรดนำกริชเล่มนี้ไปแลกเป็นเสบียงเถิด เวลาทำศึก สิ่งที่หมดเร็วที่สุดก็คือเสบียงกับน้ำ รวมถึงอาวุธและเสบียงอื่น ๆ ด้วย...”“ข้าไม่อยากให้กองทัพตระกูลจ้าน ต้องสิ้นหวังเหมือนตอนที่ถูกล้อมอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนอีก!”เย่มู่มู่ดันกริชกลับไป“พอแล้ว ข้าอยู่นี่ทั้งคน ไม่มีทางให้เจ้าต้องออกเงินหรอก แค่ช่วยกันทำความสะอาดลานบ้านของข้าก็พอแล้ว!”คราวก่อน เย่มู่มู่รับสต็อกสินค้าจากร้านที่สองของเจ้าของร้านขายข้าวมาแล้วของมีเยอะก็จริง แต่หากเกิดสงครามหลายด้านขึ้นพร้อมกัน ก็ยังไม่เพียงพอแน่นอนเธอจึงสั่งซื้อเสบียงจากนอกทะเลมายี่สิบตู้คอนเทนเนอร์เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ แม้แต่พวกที่ฝรั่งไม่นิยมกินอย่าง น่องไก่ กระเพาะหมู และขาหมู...ก็ซื้อมาเหมือนกัน!กินพื้นที่ไปประมาณสิบกว่าตู้คอนเทนเนอร์แต่เสบียงเหล่านี้ยังล่องลอยอยู่กลางทะเล ยังมาไม่ถึงท่าเรือตอนนี้สถานการณ์สงครามตึงเครียด เธอต้องซื้อเสบียงจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังต้องเตรียมซื้อของอีกมากมาย ยา อุปกรณ์ และวัสดุก่อสร้างสำหรับสร้างกำแพงเมือง เช่น ปูนซีเมนต์กับเหล็กเส้น ให้พร้อมนอกจากนี้ย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 537

    เย่มู่มู่เป็นคนลงมือทำมากกว่าพูด เธอเปิดรายงานการเงินประจำเดือนที่ได้รับจากทีมไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรนับตั้งแต่เปิดตัวมา ยอดขายเป็นไปได้ด้วยดีแต่ละวันสามารถขายสินค้าได้หลายสิบล้าน ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการไลฟ์สดเพียงแต่ว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีกำไรขั้นต้นต่ำ ต่างจากเครื่องสำอางหรือสินค้าแม่และเด็กที่ทำกำไรได้ถึงสี่สิบถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์แต่สินค้าเกษตรทั่วไปมีกำไรเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หรือสูงสุดแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์หักค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าแรงแล้ว กำไรที่เหลือก็แทบจะนับเป็นเศษเสี้ยวเท่านั้น!แม้ว่ายอดขายจะสูงมาก แต่กำไรที่ได้ก็ยังเทียบไม่ได้กับเหล่าบรรดาไลฟ์ขายสินค้าแม่และเด็ก หรือเครื่องสำอางและสกินแคร์แบบนี้ไม่ได้! แค่ช่วยขายสินค้าเกษตรยังไม่พอ ต้องขยายธุรกิจหลายด้านควบคู่กันไป!เธอไม่รอช้ารีบโทรหาผู้จักการทันทีเธออยากจะตั้งบริษัทเครือข่ายสร้างคอนเทนต์ ต้องเซ็นสัญญานักไลฟ์สดหน้าใหม่ให้มากขึ้น ขยายธุรกิจหลายช่องทาง! ผู้จัดการเองก็อยากจะคุยกับเธอเรื่องนี้อยู่พอดี!เพราะไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรกำลังได้รับความนิยมอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 538

    แม้แต่ฝ้ายฤดูใหม่ของปีนี้ก็ใกล้จะออกสู่ตลาดแล้ว เธอยังสามารถจองล่วงหน้าได้เลยร้านค้าทั้งหมด เย่มู่มู่ได้กำหนดเรียบร้อยแล้วหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เธอถึงตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น“จ้านเฉิงอิ้น หวังว่าจดหมายนี้จะถึงมือเจ้าอย่างราบรื่นและนำพาความสุขไปให้ ข้าโล่งใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าแคว้นเยี่ยนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี...”“เจ้าคิดว่า หลี่หยวนจงจะสามารถพิชิตแคว้นเยี่ยนได้หรือไม่?”*ภายในห้องพักชั่วคราวใต้ภูเขาเหมือง~จ้านเฉิงอิ้นจ้องมองจดหมายตอบกลับที่เย่มู่มู่ส่งมาให้ เขาเงียบไปชั่วขณะ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีแปดวันแล้วแม้แต่เปี้ยนจื่อผิงที่เดินทางไปยังราชสำนักม่อเป่ย ก็ส่งข่าวดีมาถึง พวกเขาใช้ไฟโจมตี เผากระโจมของม่อเป่ยให้ลุกไหม้ จากนั้นจึงใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงเข้าไป บีบให้เหล่าทหารเผ่าหมานด้านในต้องออกมาไม่นึกเลยว่าจะมีเผ่าหมานถึงห้าหมื่นนายศึกโจมตีแบบสายฟ้าแลบของเปี้ยนจื่อผิงครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนแล้ว กองทัพหกพันนายต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังห้าหมื่น อีกทั้งชาวม่อเป่ยยังมีพรสวรรค์ด้านการขี่ม้าและยิงธนูโดยกำเนิดการโจมตีครั้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 539

    หลี่หยวนจงขาดการติดต่อไป~พูดให้ถูกคือหลงทาง!ตอนแรกที่พวกเขาออกจากเมือง ทุกอย่างยังราบรื่นถึงแม้จะต้องเดินทางทุกวัน แต่ก็ให้ทหารได้พักผ่อนอย่างเพียงพอเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พวกเขาขับรถทางไกล จึงไม่ค่อยชำนาญในการขับรถบนภูมิประเทศแบบต่าง ๆหลังจากออกจากเมืองได้ไม่นาน คนขับรถบรรทุกคันหน้าก็ประมาท ทำให้รถติดหล่มทรายทุกคนช่วยกันขุดหลุม ลองใช้ม้าลากรถ แต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายก็มีคนเสนอให้ใช้รถสองคันลากพวกเขาไม่มีเชือกเหล็ก มีเพียงเชือกป่าน ผลคือดึงทีเดียวก็ขาดต้องใช้เชือกหลายเส้นมัดรวมกัน แล้วเหยียบคันเร่งลากรถรถก็หลุดออกมาได้ แต่เสียเวลาไปครึ่งค่อนวันหลี่หยวนจงร้อนใจ พวกเขากำลังจะไปยึดเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนได้สุดท้าย การออกศึกกลับเริ่มต้นด้วยลางร้ายรถคันที่นำทาง ไม่กล้าให้คนเดิมขับแล้ว จึงให้คนที่ขับรถคล่องที่สุดเป็นคนนำทางผลคือ พาพวกเขาหลงทางกองทัพเดินทางออกนอกเส้นทางของแคว้นเยี่ยนไปไกล พวกเขากลับมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ไม่มีใครกล่าวถึงได้ระหว่างทาง ขบวนรถติดหล่ม ซ่อมรถ และหยุดพัก จนเสียเวลาไปถึงสามวันแต่เมื่อเดินหน้าต่อไป เส้นทางก็ยังคงผิดเพี้ยนสุดท้าย ไม่เพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 540

    ชาวบ้านต่างพากันนำทางพวกเขาไปยังถ้ำ แล้วเดินลึกลงไปอีกภาพของบ่อน้ำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเนื่องจากอยู่ลึกจากพื้นดินมาก แสงแดดส่องไม่ถึง และผนังหินช่วยป้องกันการระเหย น้ำจึงยังคงอยู่ ไม่แห้งขอดหลี่หยวนจงและเหล่าทหารดีใจมากที่เห็นน้ำมากมายขนาดนี้โชคดีที่พวกเขานำเครื่องสูบน้ำมาด้วย!พวกเขาดึงท่อสูบน้ำยาว ๆ สองท่อไปที่ปากถ้ำ ตั้งหม้อขนาดใหญ่ แล้วต้มข้าวต้มแจกจ่ายให้ทุกคน!เนื่องจากหลายคนอดอยากมานาน จึงให้คนละเพียงเล็กน้อยถึงอย่างนั้น ก็ใช้เสบียงของกองทัพไปไม่น้อยชาวเมืองทั้งเมืองอิ่มหนำสำราญ ต่างก็ดีใจอาหารมื้อนี้ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องอดตายไปอีกสองวันเมื่อรู้ว่าหลี่หยวนจงและคณะกำลังจะไปเมืองหลวง ชาวบ้านก็อาสาเป็นผู้นำทาง...แม้แต่ชายฉกรรจ์ก็อาสาเข้าร่วมกับพวกเขา เพียงเพื่อแลกกับอาหาร!ในบรรดาประชากรกว่าสองแสนคน ที่รอดชีวิตมาได้ห้าหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ คนชรา ผู้หญิง และเด็กมีไม่ถึงหนึ่งในสามหลี่หยวนจงมองดูผู้คนที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ถึงแม้จะกินข้าวต้มหมดแล้ว ก็ยังเลียชามอยู่...ผู้หญิงแต่ละคนหน้าเหลืองซีดเซียว ท้องป่องโต หลบอยู่ตามมุมเด็ก ๆ ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ หลบอย

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status