คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก
จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ
จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้
หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมาพ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอโชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไปยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไรห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึกบอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกันคุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้นเธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้วบอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เธอนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของพ่อแม่ บนหมอนยังคงเปียกชื้นเธอคิดถึงพวกเขามากเกินไปจนร้องไห้ระหว่างหลับฝันอีกแล้วตีสองครึ่ง ตอนลงมาชั้นล่างไฟในห้องรับแขกยังคงสว่างอยู่แต่มีกระดาษเหลืองโบราณเพิ่มมาหลายแผ่นอ้าก!เจ้าแจกันนี่เอาขยะมาทิ้งในบ้านอีกแล้ว!เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกชั้นล่างด้วยความเดือดดาล คว้ากระดาษเหลืองเขรอะฝุ่นแผ่นนั้นลงมาตัวอักษรเป็นแบบตัวเต็ม เขียนตามแนวตั้งลักษณะรอยหมึกขาด ๆ หาย ๆ เหมือนใช้ขี้เถ้าเขียนรอบก่อนมีแค่ไม่กี่ตัวอักษร รอบนี้กลับเขียนมายาวพรืด รอยพู่กันคมกริบ ตัวอักษรหวัดฉวัดเฉวียนมีทั้งหมดสี่หน้ากระดาษ เธอไม่รู้ว่าเขียนอะไรบ้างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาเข้าโปรแกรมแปลภาษาค่อยทราบว่าคือคำอธิษฐานขอพรแคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม กองทัพตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านสำคัญบริเวณชายแดน ถูกกองทัพสามแสนของเผ่าหมานปิดล้อมกลายเป็นเมืองที่ปิดตายทหารหาญสองแสนคนพลีชีพในสมรภูมิเหลือเพียงสองหมื่นคนด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งรุนแรง แม่น้ำเหือดแห้งพืชพรรณเฉาตายราษฎรเพาะปลูกไร้ผลเก็บเกี่ยว กินเปลือกไม้ใบหญ้าจนหมดเกลี้ยงในเมื
เมื่อเห็นกองทองคำที่เหลืองอร่ามกองนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้หลงใหลในเงินตรา แต่ก็ยากที่จะปล่อยออกจากมือใครจะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับอัญมณีได้ล่ะ?เธอวิ่งไปสัมผัสกับก้อนทองคำอย่างมีความสุข แล้วลองสวมสร้อยข้อมือทองคำมีสร้อยคอหลายเส้นห้อยอยู่รอบคอของเธอ เส้นผมของเธอก็ประดับประดาเต็มไปด้วยปิ่นปักผมทองและปิ่นระย้ารวยแล้ว!ตามราคาทองคำในปัจจุบัน ทองคำกองนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านยิ่งเป็นของโบราณ เมื่อเอาไปขาย ก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้อ๊า หนิงกวนโหวช่างเป็นคนดีจริง ๆ!ตอนนี้เธอชอบการช่วยเหลือคนเสียแล้วสิ!ชอบทำบุญสุด ๆ!ชอบเลี้ยงคนโบราณหนึ่งแสนคน!ไม่หวังอะไรอย่างอื่น การได้มองดูทองคำเหลืองอร่ามระยิบระยับแสนน่ารัก ก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่งแล้ว!*เย่มู่มู่ยกลังไม้ใบใหญ่สามใบลงมาจากชั้นบน แล้วนำทองคำออกมาจัดระเบียบแค่ทองก้อน เหรียญทอง ทองหยวนเป่า ก็ใส่เต็มสองลังใหญ่แล้วจากนั้นก็นำลังใบใหญ่อีกใบมาใส่เครื่องประดับมุกและทอง แยกใส่ถุงซิปล็อค แล้ววางไว้เป็นระเบียบแต่ใส่ไม่หมดมันไม่สามารถใส่ให้หมดได้อยู่แล้ว!ของที่เหลือล้วนเป็นของที่ทำด้วยทองคำ รวมถึงชุดจอกสุรากาสุรา กาสุราแ
ทหารสิบนายเดินกลับมาจากบ้าน พวกเขาขอบตาแดงก่ำ ต่างผ่านการร้องไห้มาเมื่อวานนี้สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าปนความสิ้นหวังทว่าตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ต่อให้ขอบตาจะแดงก่ำ แต่ปากกลับฉีกยิ้มพวกเขากำลังรอให้เย่มู่มู่ส่งน้ำมาให้!ในเวลานี้ ที่หน้าประตูจวนแม่ทัพเกิดเสียงดังวุ่นวาย มีผู้ลี้ภัยกำลังสร้างปัญหาจ้านเฉิงอิ้นให้เถียนฉินออกไปดูพวกเขาออกไปได้ไม่นาน คนที่มารวมตัวกันสร้างปัญหาก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงดังเข้ามาในจวนด้านในได้ยินกันชัดเจนจ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้น เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงทุกคนร้องตะโกนว่า “ขอท่านแม่ทัพได้โปรดเปิดยุ้งฉางแจกจ่ายธัญพืชออกมาด้วยเถอะ”“ท่านแม่ทัพ ทั้งที่จวนของท่านมีข้าวสาร เหตุใดต้องซ่อนไว้กินเพียงคนเดียว? หรือว่าท่านอยากจะมองดูชาวบ้านด่านเจิ้นกวนหิวตายทั้งเป็นไปต่อหน้าต่อตาหรือ?”“ท่านแม่ทัพ ได้โปรดช่วยพวกชาวบ้านด้วยเถอะ พวกเราไม่อยากหิวตาย!”หน้าประตูจวนแม่ทัพ ชาวบ้านที่สร้างปัญหาก็มีถึงสองร้อยคนแล้ว!ผู้นำก็คือชายที่มีนามว่าหลิวซื่อ ภายใต้ใบหน้ายาวนั้นคือดวงตาสามขาวและโหนกแก้มโดดเด่นเขารู้จักกับพ่อที่แลก
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
หยางชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางหยุดฝีเท้ามู่ฉีซิวถึงกับจะร่วมมือกับฮ่องเต้ แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน เพื่อปราบปรามจ้านเฉิงอิ้น...เรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดีแต่ก็สมจริงอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่มู่ฉีซิวสามารถทำได้เขาเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหากสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจที่สุดอย่างจ้านเฉิงอิ้นได้ ฆ่าให้ตายตั้งแต่ยังอยู่ในเปลไม่ต้องพูดถึงการร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย ต่อให้ต้องไปเป็นชายบำเรอของฮ่องเต้น้อย เขาก็คงจะยอมเขารู้ว่าในโลกนี้ เขาไม่ใช่ผู้ข้ามกาลเวลามาเพียงคนเดียวหยางชิงเหอก็ใช่จ้านเฉิงอิ้นก็ใช่~เขาเห็นโรงงานถลุงเหล็กที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ในใจคงจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมถึงได้ร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย!เนื่องจากมีจดหมายลับส่งมา เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียง เซี่ยเวย จ้าวเฉียน และคนอื่น ๆ...เมื่อได้รับข่าว ก็มายังเรือนพักชั่วคราวของจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายลับให้พวกเขาดูเฉินขุยอ่านก่อนเป็นคนแรกทันใดนั้น ความโกรธก็พุ่งขึ้นถึงกระหม่อม!“ข้าจะนำคนกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ยิงไอ้สุนัขเนรคุณนั่นให้ตาย! ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเขาปราบปรามกองทัพธงเห
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เย่มู่มู่รายการสิ่งของที่หยางชิงเหอต้องการ ทั้งหมดถูกเขียนไว้อย่างครบถ้วนเย่มู่มู่ได้รับกระดาษแผ่นนั้น ก็เปิดออกดูดวงตาก็เบิกกว้าง“สายพานลำเลียงแร่...”ไม่เคยเห็นมาก่อน!“แม่พิมพ์ แม่พิมพ์สำหรับผลิตดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง!”เจ้าของโรงงานผลิตของเลียนแบบโบราณ จะเปิดเผยความลับทางการค้าให้เธอเหรอ?“เชือกลวดเหล็ก อะไรนะ? หลายพันเมตร?”เธอจะไปหาซื้อที่ไหน?“โรงไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก...”ถ้าเธอมีของแบบนี้ จะต้องซื้อเครื่องปั่นไฟทำไม?“สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัวต้านทานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่อสาย ท่ออ่อน...”ของพวกนี้ดูเหมือนจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด!และหยางชิงเหอก็ได้วาดภาพให้เย่มู่มู่ดูเป็นภาพการขนแร่ลงมาจากยอดเขาใช้ปั้นจั่นหอสูงขนส่งแร่ลงมาทีละตะกร้ายังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการขึงเชือกลวดเหล็กไว้บนยอดเขา ใช้รอก และกระบะเลื่อนลงมาจากด้านบนวิธีนี้ยังพอเป็นไปได้มากกว่าปั้นจั่นหอสูง ถึงแม้จะสามารถขนส่งสิ่งของได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะนี้เธอทำเครื่องหมายถูกที่แผนการที่สอง แล้วส่งภาพวาดกลับไปให้จ้านเฉิงอิ้น“แผนการที่สอง ข้าจะหาคนไปทำ!”“จริงสิ หยางชิงเหอไม่ได้บอก
จ้านเฉิงอิ้นก็ตกตะลึงกับราคาบ้านที่หยางชิงเหอพูดถึงเช่นกันไม่คิดว่าโลกของท่านเทพ ราคาบ้านจะสูงลิ่วเช่นนี้หากเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แล้วซื้อบ้านไม่ได้เล่า?เขาจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอนท่านเทพจะยังคบหากับเขาอยู่หรือไม่?ไม่ได้ เขาต้องเก็บเงินส่วนตัวไว้บ้าง จะได้ซื้อบ้านได้จะย้ายไปแล้วกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนไม่ได้เด็ดขาด!เขากล่าวว่า “ได้ หากเจ้าตกลงจะอยู่ต่อหนึ่งปี ข้าจะบอกท่านเทพให้เงินเดือนปีละสิบห้าล้านให้เจ้า! พร้อมทั้งสวัสดิการห้าอย่าง”“หากภายในหนึ่งปีเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลพิเศษเป็นทองคำหนึ่งหีบ”หยางชิงเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งสิบห้าล้าน แถมด้วยทองคำอีกหนึ่งหีบฮ่า ฮ่า ฮ่า รวยแล้ว!แค่ปีเดียวเอง เธอทำงานให้กับมู่ฉีซิวมาสิบปี มู่ฉีซิวไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนเลยสักอย่างเงินเก็บที่เธอสะสมได้มาจากการทำลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งขาย ให้เสี่ยวเถาแอบนำไปขาย ถึงได้เงินมาบ้างแต่ลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งก็ถูกมู่ฉีซิวค้นพบอย่างรวดเร็ว เขาข่มขู่ให้เธอมอบสูตรให้ และยังห้ามไม่ให้เธอขายข้างนอกอีก เพราะจะไปรบกวนราคาตลาดของเขาและยังสัญญาว่าจะแบ่งผลก
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ 985 ผ่านไป 10 ปี ไม่รู้ว่าความสามารถในการแข่งขันในตลาดยังคงมีอยู่หรือไม่มิเช่นนั้น เธอคงต้องหารายได้สักหน่อยก่อนกลับไปถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำวัตถุโบราณไปขายจะกลับไปยุคปัจจุบันมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดมิฉะนั้น สิบปีของวัยสาวจะสูญเปล่า เงินเก็บก็ไม่มี บ้านก็ซื้อไม่ได้ ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้วจะกลับไปทำไมกัน!ถ้าเกิดพ่อแม่ถามขึ้นมาว่า สิบปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหนจะตอบอย่างไร?เธอพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นว่าในคลังยังมีแม่พิมพ์เก่าอยู่ หากจะสร้างใหม่คงจะยุ่งยาก แต่ข้าสามารถสอนพวกท่านลับแม่พิมพ์ได้!”“แม่พิมพ์นั้นแข็งมาก แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ยังต้องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต!”“ข้าจะช่วยพวกท่านสร้างแม่พิมพ์หัวลูกศรของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ท่านจะให้เงินข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะได้เลื่อนเวลากลับไปอีกสักสองสามวัน!”เหล่าแม่ทัพต่างเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยเดิมทีพวกเขาอยากจะรั้งตัวแม่นางหยางไว้สักระยะหนึ่งแต่เมื่อได้เอ่ยปากสัญญาว่าจะส่งนางกลับในตอนค่ำไปแล้วตอนนี้เมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเขาก็ไม่อาจกลับคำพูดได้ตอนนี้แม่นางหยางเอ่ยปา
ในขณะที่ทุกคนกำลังโห่ร้องยินดี...หยางชิงเหอกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องตีขึ้นรูปใหม่ แค่เทเหล็กหลอมลงในแม่พิมพ์ แล้วเปิดออกก็จะได้ดาบเล่มใหม่แล้ว”“เพียงแต่ว่า โรงงานถลุงเหล็กแห่งนี้ เดิมทีผลิตมีดทำครัว ซึ่งมีดทำครัวนั้นมีความเหนียวและความแข็งแกร่งสูง โดยเฉพาะมีดทำครัวในยุคแปดศูนย์ ทนทานมาก”“หากเราเปลี่ยนแม่พิมพ์เป็นดาบม่อเตา ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง หรือกระบี่...”“ก็จะสามารถผลิตออกมาได้อย่างไม่ขาดสาย คนงานเพียงแค่ร่วมแรงกันเปิดแม่พิมพ์ออกเท่านั้นก็พอ”“แม่พิมพ์นี้ต้องขนส่งมาจากยุคปัจจุบัน และต้องทำให้มันเข้ากับเครื่องจักรด้วย ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก!”เธอหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น~เธออยู่ในกองทัพตระกูลจ้านมานานพอสมควร จึงรู้เรื่องราวเบื้องลึกอยู่บ้างเช่น สิ่งของจากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าจ้านเฉิงอิ้นสามารถเชื่อมต่อระหว่างยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้!แต่เป็นเพราะเขามีแจกันที่สามารถเชื่อมต่อกับยุคปัจจุบันได้...มีหญิงสาวคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เป็นลูกเศรษฐี คอยส่งเสบียงมาให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องข้อเรียกร้องเดียวคือจ้านเฉิงอิ้นต้องรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นหญิงสาวคนนั้นช่างใจดีเหลือเกิน ส่งทั้งน้ำ
“แต่ท่านแม่ทัพวางใจเถิด เขาสู้ท่านไม่ได้หรอก!”หยางชิงเหอคิดถึงอนาคตที่มู่ฉีซิวจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแย่งชิงบัลลังก์...ความฝันอันสวยงามของเขาถูกจ้านเฉิงอิ้นทำลายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้นเพียงคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็มีความสุข“ท่านแม่ทัพ ท่านกลับไปเถิด พรุ่งนี้พวกเราจะเลือกฤกษ์งามยามดี แล้วลองเผาหม้อน้ำกัน!”“ได้!”คืนนี้ หวังเซิ่งกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังนอนเฝ้าหน้ากระโจมของหยางชิงเหอทั้งคืนอีกสี่คนที่อยู่กับเขาก็ไม่ได้หลับเช่นกันคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้แม่นางหยางก็จะจากไปแล้วพวกเขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องกับนางอีกไม่ได้ จะต้องส่งนางกลับไปอย่างปลอดภัย*วันรุ่งขึ้น ประชาชนต่างก็วุ่นวายตั้งแต่เช้าตรู่ขนแร่จากภูเขาแร่และใส่ลงในหม้อน้ำขนาดใหญ่ใต้หม้อน้ำมีการจุดไฟเผาถ่านหิน...เนื่องจากถ่านหินเป็นก้อนเล็ก จึงใช้เวลานานกว่าจะลุกไหม้จนแดงปล่องควันหนึ่งเริ่มมีควันดำลอยขึ้นมาตามมาด้วยปล่องที่สอง สาม และสี่...ปล่องควันทั้งสี่ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้า ต่างพ่นควันดำออกมาถ่านหินลุกไหม้จนแดงช่างตีเหล็กต่างตักแร่ใส่หม้อน้ำทีละพลั่วหลังจากการเผาไหม้หลายชั่วยาม หม้อน้
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้รับรายงานจากเถียนฉินว่า มู่ฉีซิวพยายามลักพาตัวหยางชิงเหอ และเกือบจะทำสำเร็จทั้ง ๆ ที่รอบตัวหยางชิงเหอมีหวังเซิ่ง อดีตไส้ศึกที่เคยแทรกซึมเข้ากองทัพธงเหลืองคอยคุ้มกัน!แต่เขาก็เกือบทำสำเร็จจ้านเฉิงอิ้นรีบลุกจากเตียง และรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุหยางชิงเหอได้รับผลจากยากล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงและมือทั้งสองข้างถูกมัดเนื่องจากถูกโยนลงจากหลังม้า ร่างกายจึงมีรอยถลอกจากการขูดขีดกับก้อนหินหลายแห่งที่คอมีรอยนิ้วมือจากการบีบเค้นอย่างชัดเจนถึงกระนั้น สภาพจิตใจของนางก็ยังถือว่าดีอยู่แม่นางน้อยชุบน้ำจนผ้าเปียกแล้วส่งให้เสี่ยวเถาเสี่ยวเถาร้องไห้ไปพร้อมกับเช็ดรอยถลอกที่หลังมือของหยางชิงเหอจ้านเฉิงอิ้นถามหวังเซิ่ง “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าทั้งห้าคนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมั่วฝาน มีทั้งความระมัดระวังและฝีมือ แต่ทำไมถึงปล่อยให้มู่ฉีซิวทำสำเร็จ?”หวังเซิ่งก้มหน้าและกล่าวขออภัยต่อจ้านเฉิงอิ้น“ท่านแม่ทัพ พวกเราทั้งห้าคนถูกหลอกให้แยกย้ายกันไป ตอนที่แม่นางหยางกำลังตรวจงานที่โรงงาน พวกเรากระจายกำลังกันเฝ้าระวังอยู่รอบนอก แต่แล้วก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้นและแยก
เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ เห็นตะเกียงน้ำมันแกว่งอยู่ข้างในรถม้าเสียงประหนึ่งปีศาจร้ายที่คุ้นเคยดังขึ้น “ตื่นแล้ว?”หยางชิงเหอตื่นตกใจลืมตาทันทีเธอ มองเห็นมู่ฉีซิวม่านรถม้าไม่ได้เปิดออก แต่มั่นใจได้ว่าเธอยังอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารของกองทัพตระกูลจ้านร่างกายเธออ่อนปวกเปียกไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อยไม่รู้ว่ามู่ฉีซิวป้อนยาอะไรเข้าไปให้เธอกิน!“นะ นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”มู่ฉีซิวใช้สายตาชั่วร้ายจับจ้องหยางชิงเหอ ทันใดนั้น เขาเอามือบีบคางเธออย่างแรงและดึงเธอขึ้นมาจนได้สบตาเข้ากับแววตาแดงก่ำ โกรธเคืองและชั่วร้ายของเขา“หยางชิงเหอ เธอกล้าแกล้งตายได้ยังไง เธอกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”หยางชิงเหอหัวเราะ“ทำไมล่ะ พอไม่มีฉัน กองทัพธงเหลืองของนายก็ทำอะไรไม่เป็นแล้วเหรอ?”เขาคลายมือจากหยางชิงเหอและดึงผ้าไหมม้วนออกมาเช็ดมือพร้อมกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่ามองตนเองสำคัญขนาดนั้น ไม่มีเธอ ฉันก็ผลิตออกมาได้เหมือนกัน”“แต่ฉันมองเธอเป็นแฟน ทะนุถนอมดั่งของล้ำค่า ถึงกระทั่งไปสู่ขอกับตระกูลชุยที่ป๋อหลิง พูดคุยกับบิดาและมารดาตระกูลชุยว่าเธอมีความสำคัญกับฉันมากและต้องมาเป็นอนุภรรยารับใช้ของฉันให้ได้!!”“ฉันไปมา