Share

บทที่ 483

Author: มู่โร่ว
หวังเซิ่งและสวีจู้เดินเตร่มาถึงยังบริเวณใกล้ ๆ กับที่พักหยางชิงเหอ เห็นทหารรักษาการณ์ของมู่ฉีซิวห้อมล้อมเป็นชั้น ๆ

เรือนเล็ก ๆ ไม่กี่ตารางเมตร ทว่าด้านนอกกลับมีคนหลายร้อยคนห้อมล้อม

สำหรับมู่ฉีซิวสตรีนางนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

หลีชิงวิ่งเข้ามาทั้งหอบฮื้ด ๆ พร้อมกับส่งสายตาให้พวกเขา

พวกเขาถอยออกมาจากในตรอกเล็ก ๆ แล้วข้าไปในกระโจม ให้เสียวอู่เฝ้าอยู่ด้านนอกคอยดูต้นทาง

“พี่เซิ่ง สืบถามได้ความแล้ว แม่นางหยางชิงเหอผู้นี้นอกจากจะเป็นคนรักที่รู้จักกันแต่เด็กของหัวหน้าแล้ว ยังเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของการวิจัยและผลิตดินปืนด้วย”

“ใช่แล้ว ปืนนางก็เป็นผู้วิจัยและพัฒนา”

“ตอนนี้ ทั้งภูเขาเหมืองเหล็กและโรงงานถูกท่านแม่ทัพชิงมาหมดในคราวเดียวแล้ว ขอเพียงคนยังอยู่ มู่ฉีซิวก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้ทุกเมื่อ วันนี้มีคนออกจากเมืองไปเสาะหาที่ตั้งโรงงานปืนใหม่กลุ่มหนึ่ง ”

“สตรีนางนี้คือกุญแจสำคัญ!”

“ท่านก็รู้ แค่ปืนล่าสัตว์ก็มีอานุภาพมหาศาลเช่นนี้แล้ว หากนางยังวิจัยและพัฒนาปืนออกมาอีก สิ่งที่จะฆ่าก็คือกองทัพตระกูลจ้านของเรา!”

สวีจู้กล่าวขึ้นอย่างโหดเหี้ยม “ไม่เช่นนั้น คืนนี้เราไปฆ่านาง?”

“ทางท่านแม่ทัพใหญ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 484

    อย่างไรไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกรก็ฮิตมากอยู่แล้ว!หลังส่งคังเจียสงและลูกน้องกลับไป เมื่อเย่มู่มู่มายังห้องชั้นบน เธอก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนส่งมาในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า “มู่ฉีซิวมีเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคนหนึ่ง เป็นทาสที่เกิดจากทาสในบ้านของเขา โตมาด้วยกันกับเขา”“ตามข่าวที่หวังเซิ่งส่งมา สตรีที่ชื่อหยางชิงเหอต่างหาก ที่เป็นคนวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดออกมา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของปืนและกระสุน!”เมื่อเห็นข้อความนี้ นัยน์ตาของเย่มู่มู่ก็สั่นคลอน!ไม่สิ มู่ฉีซิวเป็นผู้ที่ย้อนยุคไป แถมยังเป็นหนุ่มวิศวะการศึกษาสูงไม่คิดเลยว่าจะยังมีอีกคน...แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย!และเธอต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดกับปืนโลกใบนี้ช่างลึกลับเกินไปแล้ว!เย่มู่มู่ตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น “หยางชิงเหอกับมู่ฉีซิวเป็นอะไรกัน?”จ้านเฉิงอิ้นเคาะแจกัน “ว่ากันว่าเป็นเพื่อนในวัยเด็ก ทว่า นับตั้งแต่มู่ฉีซิวก่อกบฏ ก็สนิทสนมมากกว่าคุณหนูตระกูลขุนนางมีอิทธิพลคนใด!”“ดึงนางมาเป็นพวกได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้น “...หากนางภักดีต่อมู่ฉีซิวเล่า ขาดสตรีผู้นี้ไป กำลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 485

    จ้านเฉิงอิ้นรับกระดาษมา อ่านอยู่ครึ่งคืน“สุราอวี้เย่แห่งราชวัง หนึ่งจอกเก้าร้อย!”นี่มันสุราอะไรกัน เหตุใดจึงแพงเช่นนี้!“ราชาเหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น ผู้ถือเจดีย์สะกดปีศาจแห่งหนองน้ำ”ไม่มีความสัมพันธ์กัน และไม่สัมผัสกันแต่อย่างใด!“รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด รักที่เจ้าไม่คุกเข่า รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!”ทว่าประโยคสุดท้าย รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด...เขาหน้าแดงระเรื่อขึ้นมานี่ นี่ท่านเทพกำลังสารภาพรักอยู่หรือเปล่า กำลังบอกว่ารักเขา...ใช้คำเร่าร้อนและกล้าหาญ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงรักที่เขาไม่คุกเข่าก็ตามท่านเทพเคยกล่าวว่า ใต้เข่าของบุรุษมีทองคำคนปัจจุบันอย่างพวกเขา คุกเข่าให้เพียงฟ้าดินและพ่อแม่เท่านั้น...ไม่ให้เขาคุกเข่า!สิ่งที่นางชอบคือการที่เขาไม่คุกเข่า!เขาเข้าใจแล้วนับตั้งแต่วันนี้ไป จะคุกเข่าให้เพียงฟ้า ดิน พ่อแม่และท่านเทพเท่านั้น...ประโยคสุดท้าย รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!ท่านเทพกล่าวว่า แม้เขาจะลำบาก จะเหนื่อยอีกสักเพียงใด ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมาวันหลัง เขาจะไม่หลั่งน้ำตาอีกเป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 486

    ใบหน้าน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวงแสงยามค่ำคืนมืดเกินไป หวังเซิ่งคิดว่าแม่นางผู้นี้หน้าตาสะสวยมากทีเดียวนางซูบผอม นัยน์ตาทั้งสองสุกสกาวมีชีวิตชีวา ในคืนแสนมืดมิดเปล่งประกายเป็นอย่างมากจมูกน่ารัก ริมฝีปากแดงระเรื่อเล็กน้อย ผิวคล้ำนิดหน่อยทว่าดวงหน้าประณีตงดงามหวังเซิ่งเอ่ยกับหยางชิงเหอว่า “ชู่ว์ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย!”พูดพลางก็ล้วงน้ำแร่สองขวด โจ๊กธัญพืชแปดชนิดหนึ่งขวด และขนมแผ่นแป้งไส้ผักและเนื้อออกมาจากในอก“ข้าสังเกตเห็นว่า หัวหน้าไม่ส่งของกินมาให้พวกเจ้าหนึ่งวันแล้ว หิวแย่เลยใช่หรือไม่ กินอะไรสักหน่อยก่อนสิ!”เมื่อหยางชิงเหอเห็นเขาล้วงน้ำแร่วะฮะฮ่าแสนคุ้นเคยออกมา น้ำตาก็ไหลพรากลงมาเป็นเรื่องจริง!ที่เธอคาดไว้ทั้งหมดถูกต้อง ไม่มีผิดเลย...กองทัพตระกูลจ้านมีคนเชื่อมต่อยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้จริง ๆ พร้อมทั้งสามารถส่งของในยุคปัจจุบันมายังยุคโบราณได้อีกด้วยในสองพันปีที่เกิดทุพภิกขภัยแห้งแล้งมานาน เรื่องนี้แก้ไม่ได้อยู่แล้วเธอเดินหน้าขึ้นมาคลายชุดพลางตัวตอนกลางคืนของหวังเซิ่งออกด้านในเผยเกราะกันกระสุนออกมาหวังเซิ่งตกใจ รีบถอยหลังออกไปอย่างแรงหลายก้าวทันทีแม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 487

    หวังเซิ่งส่ายศีรษะ “ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เราส่งเจ้ากลับไป...”“ส่วนเรื่องอื่น เจ้าไปคุยกับท่านแม่ทัพใหญ่เถิด วางใจได้ ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอำมหิตอะไร เขาบอกว่าจะส่งเจ้ากลับบ้าน ก็ต้องทำได้แน่!”ครั้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอึกทึกดังขึ้นมาจากด้านนอกช่างวังที่คอยดูต้นทางอยู่ ก็โยนหินก้อนเล็กไปใต้หน้าต่างเตือนว่าหวังเซิ่งควรไปได้แล้ว!หวังเซิ่งมองไปยังนอกหน้าต่าง “ข้าต้องไปแล้ว!”เขาเปิดหน้าต่าง ขณะกำลังจะกระโดดลงไป ก็หันหลังกลับมาอีกครั้งเขาทิ้งไฟฉายเอาไว้“ต่อให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ช่วยเจ้า เจ้าก็ควรออกไป เจ้าทุ่มเทและจริงใจต่อมู่ฉีซิว แต่เขากลับสั่งไม่ให้โรงครัวส่งของกินให้เจ้า!”“แม่ทัพใหญ่ไม่มีทางทำกับลูกน้องของตัวเองเช่นนี้ ทุกคนมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน”“เขายังล้วงขนมปังแข็งที่อยู่ในอกออกมาวางอีก”ขณะที่เขากำลังจะเปิดหน้าต่างออกไป หยางชิงเหอก็รีบเอ่ยถามเขาขึ้นว่า“เจ้าชื่ออะไร?”หวังเซิ่งโบกมือ “ต่อไปเรายังเจอกันอีก!”พูดจบก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างหวังเซิ่งปีนออกไปจากกำแพงอย่างรวดเร็ว เมื่อโรยตัวมาถึงยังหลังคาของห้อง ก็อาศัยแสงยามค่ำคืนหนีไปการกระทำของเขาร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 488

    “ชิงเหอ เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”“ขอเพียงผ่านช่วงเวลานี้ไป รับมือกับตระกูลชุยได้แล้ว ฉันจะทำดีกับเธอให้มาก ๆ”“หลังฉันแต่งงานกับชุยลั่วซิน เธอจะต้องระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปะทะกับเขา ไม่งั้นถ้าเขาไม่ผ่อนปรนให้เธอ ฉันเองก็ช่วยเธอไม่ได้เหมือนกัน!”“เธอเชื่อฟังนะ! เพื่อธุรกิจของเรา อดทนเอาไว้ก่อน!”หยางชิงเหอขมวดคิ้วมุ่น เธอยิ่งฟังก็ยิ่งสะอิดสะเอียนหากไม่ใช่เพราะออกไปไม่ได้ เธอคงถึงค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านนานแล้ว!“ตัดสินใจเลือกฐานที่ตั้งโรงงานเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเธอกับช่างย้ายไปแล้วกัน”“ฉันกับลั่วซินกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้าจะผลิตปืนออกมา เธอก็อยู่ที่นั่นไปก่อน อย่าปรากฏตัวอีก”“ฉันกลัวว่าตระกูลชุยกับลั่วซินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป!”“เอาละ วันนี้ฉันยุ่งมาก อยู่เป็นเพื่อนเธอแพล็บเดียวก็เสียเวลาไปเยอะมากแล้ว!”“จำเอาไว้ อย่าสร้างเรื่องให้ฉัน ไม่งั้นฉันเองก็รับประกันให้เธอไม่ได้เหมือนกัน!”หลังพูดจบ มู่ฉีซิวก็เดินออกไปก่อนหน้านี้เขาใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง แถมยังสัญญาลอย ๆ และยังปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตอนนี้ กระทั่งสัญญาลอย ๆ เขายังขี้เกียจ และขี้เกียจแสร้ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 489

    หลังหวังเซิ่งจากไป ทุกคนก็ดำดิ่งสู่ความเงียบงันอันที่จริง ช่างวังอยากไปเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านตั้งนานแล้ว กระทั่งซุนเฮ่อคนหมู่บ้านเดียวกันยังอยู่ดีกินดีขนาดนั้นเขาเป็นช่างตีเหล็ก มีความสามารถติดตัว ไม่มีทางไม่มีข้าวกินทว่าพวกเขาล้วนเป็นคนที่หยางชิงเหอเสนอขึ้นมาตอนนี้เห็นท่าทีที่ท่านหัวหน้ามีต่อนาง เรียกได้ว่าตกลงมาจากฟ้าเลยทีเดียวมิหนำซ้ำ เขายังไปตบแต่งคุณหนูของตระกูลชุยแห่งป๋อหลิงด้วยเช่นนั้นตำแหน่งภรรยาเอกของแม่นางหยางก็ไม่มีแล้วมิหนำซ้ำยังต้องหาวิธีเอาตัวรอดภายใต้เงื้อมมือชุยลั่วซินอีกกระทั่งพวกเขายังร้องขอความเป็นธรรมแทนแม่นางหยางท่านหัวหน้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยุติธรรมเลยทั้งสามคนตัดสินใจ!หนีคืนนี้จะแสร้งตาย!*ตอนพลบค่ำ ที่พักของหยางชิงเหอเกิดเพลิงใหญ่ลุกโชนเพลิงไหม้รุนแรง พลันลุกโชนเผาขึ้นมาถึงขั้นที่ทหารรักษาการณ์ที่ปิดล้อมอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงตะโกนร้องขอให้ช่วยโหยหวนอยู่เลือนรางอยากจะบุกเข้าไปช่วยคน...ทว่าเพลิงลุกไหม้รุนแรง ไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไปเมื่อซาเทียนอี้ได้ยินข่าว ก็รีบควบม้ากลับมาจากสนามฝึกการต่อสู้ทันที เขาควบจนม้าเหนื่อยทรุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 490

    ไม่ว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า นางจะอยู่บนรถม้านอกเมืองหวังเซิ่งพยายามสุดความสามารถที่จะหารถม้ามาเขานำรถม้ามาสองคัน ม้าแต่ละตัวผ่ายผอมจนเห็นกระดูก ไม่มีกำลังวังชาอะไรหวังเซิ่งกลัวว่าพวกมันจะวิ่งไม่ออก เมื่อคืนจึงให้อาหารและขนมแผ่นแป้งไปมากมาย พร้อมให้น้ำไปจนเพียงพอแล้ววันนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เลวทั้งหมดแปดคน แบ่งเป้นรถม้าสองคัน ม้าหนึ่งตัวลากหนึ่งคันหยางชิงเหอ เสี่ยวเถา หวังเซิ่ง เสียวอู่นั่งคันเดียวกันสวีจู้จัดการให้ช่างทั้งสองคนนั่งคันเดียวกันเดิมทีจะเดินทางตอนกลางคืนทว่าขณะที่หวังเซิ่งหาศพมายัดเข้าไปในเตียงหยางชิงเหอกล่าวว่า “เดินทางตอนกลางคืนอันตรายเกินไป เดินทางตอนบ่ายเถอะ!”หวังเซิ่งไม่เข้าใจนางกล่าวว่า “ตอนกลางคืนออกจากเมืองไม่ได้ ตอนบ่ายใช้อาหารมาติดสินบนทหารรักษาการณ์ประตูเมืองนิดหน่อย ก็ออกไปได้ตามใจชอบแล้ว!”“หลังออกไป อย่าใช้ถนนสายหลัง ความเป็นไปได้ที่จะถูกจับมีเยอะเกินไป!”หวังเซิ่งตัดสินใจฟังนางจากนั้นก็ราดน้ำมันเบนซินที่เตรียมเอาไว้ไปทั่วทั้งห้อง และพลันจุดไฟขึ้นมาฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนเบนความสนใจไปที่ห้องด้านหน้า อยากจะช่วยดับไฟพวกหวังเซิ่งก็เคลื่อนย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 491

    ภายในรถ เด็กน้อยถูกมารดาอุ้มไว้ในอ้อมอกและสวีจู้ขับรถอยู่ข้างหน้าเสี่ยวเถากำลังงีบหลับ หวังเซิ่งกับหยางชิงเหออยู่ในห้องเดียวกันอย่างอึดอัดหวังเซิ่งหยิบอากาศยานไร้คนขับออกมาหนึ่งเครื่องจากสัมภาระและยื่นให้หยางชิงเหอหยางชิงเหอเห็นอากาศยานไร้คนขับแล้วเบิกตาโพลงราวกับแผ่นดินไหว“นะ นี่มัน อากาศยานไร้คนจับจริงด้วย พวกเจ้ามีแม้กระทั่งสิ่งนี้?”เขาพยักหน้า “นี่เป็นเพียงรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ที่สามารถพกพาสิ่งของหนักหนึ่งร้อยชั่งอยู่กับท่านรัฐทายาทตรงนั้นอีก!”“เจ้าบังคับมันบินออกไปแล้วดูว่ามีทหารไล่ตามมาด้านหลังหรือไม่”“ข้าจะบังคับหนึ่งเครื่อง คอยสังเกตว่าทางเล็กด้านหน้ามีคนหมอบซุ่มหรือไม่…”“เจ้าบังคับการบินเป็นใช่ไหม?”หยางชิงเหอพยักหน้า “เป็น เมื่อก่อนข้าเคยมีหนึ่งเครื่อง!”*เย่มู่มู่เตรียมตัวบินไปเมืองหลวงในตอนแรก แต่ไม่คาดคิดว่า จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่าแม่นางหยางผู้นั้นเดินทางถึงฐานทัพเมืองหยงโจวอย่างราบรื่นเหมืองแร่ถูกกองกำลังหนึ่งแสนคนของกองทัพตระกูลจ้านยึดครองดึงดูดพลเมืองของหมู่บ้านบริเวณใกล้ ๆ และพลเมืองขุดเหมืองมาได้นับไม่ถ้วน

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 688

    นางตะโกนด้วยความยินดี “เสี่ยวเถา ชีเหนียง หยางซี... ข่าวดี! ต่อไปข้าจะเป็นแม่ทัพที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก เป็นแม่ทัพหญิงเพียงหนึ่งเดียว!”“ข้าก็จะมีที่ดินศักดินาและคฤหาสน์!!”“ชื่อของข้าจะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ปรากฏอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”“ข้าดีใจมาก รู้อย่างนี้ ข้าควรจะเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านให้เร็วกว่านี้!”ทุกคนมองดูหยางชิงเหอวิ่งออกไปด้วยความยินดี ต่างก็เผยรอยยิ้มสตรีในยุคนี้ ส่วนใหญ่อยู่แต่ในเรือนอย่างสงบ ไม่ค่อยออกไปเผชิญโลกภายนอกจุดจบของพวกนางก็ไม่พ้นการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์หากมีสตรีอย่างหยางชิงเหอกลายเป็นแม่ทัพหญิงขึ้นมาจริง ๆ จะต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดินนี่เป็นเรื่องดี!ท่านเทพเคยกล่าวไว้ โลกของพวกเขามีความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงท่านเทพสืบทอดทรัพย์สมบัติมหาศาลจากบิดามารดา จึงมีเงินมากมายมาช่วยเหลือพวกเขาและมั่วฝาน ผู้ที่เคยเห็นโลกที่ชายหญิงเท่าเทียมกัน เป็นผู้ที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุดเพราะเขาอาศัยอยู่ในยุคปัจจุบันเป็นเวลาหนึ่งเดือนบนถนนหนทาง เขาเห็นสตรีขับรถยน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 687

    อันที่จริง ฮ่องเต้ทรงต้องการให้จ้านเฉิงอิ้นกำจัดกองทัพเผ่าหมานเผ่าหมานต่างหากที่จะสั่นคลอนรากฐานของต้าฉี่แน่นอนว่า เผ่าหมานเข้ามาในต้าฉี่ได้ก็เพราะฮ่องเต้ทรงอนุญาต เพื่อที่จะล้อมปราบจ้านเฉิงอิ้นใครจะไปรู้...การล้อมปราบกลับล้มเหลว!เชิญเทพมาง่าย แต่ส่งเทพกลับยาก!กองทัพเผ่าหมานสองแสนนายหันกลับมาโจมตีเมืองหลวง ตอนนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงสองร้อยลี้ดังนั้น ข้อเสนอของจ้านเฉิงอิ้น ฮ่องเต้จะต้องทรงยินยอมอย่างแน่นอนกองทัพตระกูลจ้านสังหารกองทัพธงเหลือง เป็นการขจัดเสี้ยนหนามในพระทัยของฮ่องเต้หากกำจัดเผ่าหมานได้ ฮ่องเต้ก็จะไม่มีอะไรต้องกังวลอีกดังนั้น ไม่ว่าจ้านเฉิงอิ้นจะเสนออะไร ตราบใดที่ไม่ใช่การยึดราชบัลลังก์เขาก็จะทรงยินยอม!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ผู้บัญชาการลั่วกลับไปรายงานเขา ข้าจะกำจัดเผ่าหมาน และจะช่วยเหลือตัวประกันหลายหมื่นคนออกมา”“เพียงแค่ฮ่องเต้ทรงอนุญาตตามข้อเสนอของข้า!”ผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงก็วางใจลงได้ในที่สุดใครจะคาดคิด จ้านเฉิงอิ้นกลับเปลี่ยนน้ำเสียง “การปราบปรามผู้ลี้ภัยคือทอง เงิน และอัญมณีล้ำค่าหนึ่งร้อยหีบ แต่การสังหารเผ่าหมานม่อเป่ยเป็นราคาอีกอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 686

    ทว่าหวงกงกงก็ทำได้เพียงตะโกนก้องอยู่ในใจ ไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำนี่คือดินแดนของกองทัพตระกูลจ้าน ด้านนอกมีกองทหารสองแสนนาย หากเขาพูดมากไปกว่านี้แม้เพียงประโยคเดียว วันนี้คงไม่ได้ออกจากที่นี่เขาสั่นเทาพลางกล่าวขออภัยต่อเฉินขุย “ขะ...ข้าน้อยจะกลับไปทูลฝ่าบาทขอรับ”“เอาเถิด ข้าก็จะไม่ทำร้ายขันทีอย่างเจ้า เอาอย่างนี้ ให้เขาส่งตัวบิดามารดาของข้า และครอบครัวของท่านแม่ทัพใหญ่ รวมถึงพี่ใหญ่... ส่งมาให้หมด!”“อีกอย่าง ราชโองการสำนึกผิดอย่าได้ลืม ต้องเขียนก็ต้องเขียน ตอนที่ราชบัลลังก์และชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ยังคิดจะนั่งอยู่ในตำแหน่งอย่างสบาย ๆ อีกหรือ ให้เขาทำอะไรก็ต้องทำ!”“สุดท้าย ท่านแม่ทัพใหญ่และเหล่าแม่ทัพสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่แก่ต้าฉี่ สมควรได้รับการเลื่อนบรรดศักดิ์ ได้รับบำเหน็จรางวัล จะงดเว้นที่ดินพันครัวเรือนไม่ได้เลย แม้แต่หนึ่งหมู่ก็ต้องมอบให้ครบ!” “เจ้ากลับไปบอกเขา หากตกลงตามนี้ กองทัพตระกูลจ้านจะส่งทหารไปปราบปรามผู้ลี้ภัยทันที”“หากไม่ตกลง ก็ให้เขาหาทางอื่นเอาเอง ก็รอให้ผู้ลี้ภัยในเมืองหลวงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน!”หวงกงกงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไม่หยุด สั่นเท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 685

    มั่วฝานทอดสายตาไปยังหวงกงกง ก่อนจะเหลือบมองลั่วปิน แล้วคลี่พัดออกโบกเบา ๆรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้า“เฮอะ ทำไม ยามนี้ราชสำนักคิดจะใช้งานท่านแม่ทัพใหญ่อีกแล้วหรือ?”“ตอนที่เชื้อเชิญแคว้นเยี่ยนและเผ่าหมานมาร่วมกันกำจัดกองทัพตระกูลจ้าน เหตุใดจึงไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะต้องพึ่งพาท่านแม่ทัพใหญ่?”“ตอนนี้เพียงแค่มีราชโองการก็คิดจะให้ท่านแม่ทัพไปปราบปรามผู้ลี้ภัย ไยถึงได้คิดตื้นเขินยิ่งนัก?”“ราชสำนักมัวแต่กอบโกยผลประโยชน์ พอถึงคราวที่ต้องพึ่งพาท่านแม่ทัพใหญ่ ก็ใช้เพียงราชโองการฉบับเดียว หวังจะให้ท่านแม่ทัพใหญ่เอาชีวิตเข้าแลก”“ยามที่ไม่ต้องการใช้งานท่านแม่ทัพใหญ่ แม้แต่กองกำลังรักษาเมืองก็ยังถูกส่งออกมา เพียงเพื่อหวังจะกำจัดท่านแม่ทัพใหญ่ให้สิ้นซาก!”“ฮ่องเต้ไม่เคยคิดถึงวันนี้เลยหรือ?”“แล้วนี่อะไรกัน ไม่มีสิ่งใดตอบแทน เพียงกระดาษแผ่นเดียวก็หวังจะให้ท่านแม่ทัพใหญ่เอาชีวิตเข้าแลก เจ้ากลับไปบอกเขา....”“ให้ฮ่องเต้ทรงเขียนราชโองการสำนึกผิด ประกาศต่อใต้หล้า ขอโทษต่อบรรพบุรุษและราษฎรของราชวงศ์ต้าฉี่”“ต้องเขียนให้ชัดเจนว่า ฮ่องเต้ทรงร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองอย่างไร เชิญแคว้นเยี่ยน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 684

    แม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นหวังให้เขาอย่าเพิ่งมองการณ์ไกล ยึดเมืองหลวงแคว้นฉู่ให้ได้เสียก่อนเมื่อยึดได้แล้ว จงรักษาเมืองไว้ให้มั่นครั้นจ้านเฉิงอิ้นสะสางเรื่องราวในแคว้นต้าฉี่เสร็จสิ้น แคว้นแรกที่จะยกทัพไปตีก็คือต้าฉู่สำหรับกองทัพตระกูลจ้านผู้เกรียงไกรในใต้หล้า การเปิดฉากศึกแรกด้วยชัยชนะอันงดงาม ยึดครองแคว้นต้าฉู่ที่เคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งมาไว้ในกำมือ จะเป็นขวัญและกำลังใจอันยอดเยี่ยมแก่เหล่าทหารขณะนั้นเอง พลทหารนายหนึ่งควบม้าเข้ามาหน้าประตู “รายงาน ท่านแม่ทัพใหญ่ มีราชโองการจากฮ่องเต้ขอรับ”บรรดาแม่ทัพต่างลุกขึ้นยืน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์พวกเขาเพิ่งมาถึงที่นี่ได้เพียงสามวัน เมื่อวานเพิ่งสังหารกองทัพธงเหลืองจนสิ้น วันนี้ฮ่องเต้ก็ทรงมีราชโองการมาหรือว่าฮ่องเต้ทรงมีสายลับอยู่ในกองทัพ?ข่าวช่างรวดเร็วเหลือเกินครั้งนี้ กองกำลังรักษาพระองค์เป็นผู้นำขันทีคนสนิทของฮ่องเต้มาอ่านราชโองการด้วยตนเององครักษ์มีจำนวนสองร้อยนาย ขันทีสามคน!เหล่าองครักษ์และขันทีต่างเหลือบมองรถม้าบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเรียงรายอยู่ตามถนนพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูไม่ธรรมดาอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 683

    ครั้งก่อนที่เขาส่งเสบียงไปให้ จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้หลี่หยวนจงบุกเข้าไปในพระราชวังต้าฉู่ กวาดล้างจวนขุนนางต่าง ๆ และยึดเมืองหลวงของแคว้นฉู่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?ถ้าเขายังคงโง่เขลารอให้ฉู่อ๋องกลับมา เพื่อที่จะวางระเบิดสังหารเขากลางทางพวกเขาอาจจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นหวังว่าหลี่หยวนจงจะฉลาดพอและยังมีอีกเรื่องหนึ่ง มั่วฝานได้รับจดหมายลับจากด้านเจิ้นกวน!นักฆ่าสองคนที่มั่วฝานส่งไป ฉือซานและฉือลิ่ว เดินทางถึงด่านเจิ้นกวนอย่างราบรื่นพวกเขาจอดรถไว้นอกเมืองก่อน และลอบเข้าไปในเมืองในตอนกลางคืนพวกเขาไม่ได้รบกวนใครขณะเข้าเมือง และตรงไปยังค่ายพักของอดีตลูกน้องสวีหวยสังหารคนไปหลายคนในคืนเดียววันรุ่งขึ้น เมื่ออดีตลูกน้องของสวีหวยตื่นขึ้นมา พบว่ามีแม่ทัพเสียชีวิตถึงสามคน ทุกคนต่างตกตะลึงพวกเขาบอกว่าอู๋ลี่เป็นคนฆ่าคนของพวกเขาแต่คนของอู๋ลี่กลับไม่ยอมรับพวกเขาก็เลยสู้กันอีกจากเดิมที่มีแม่ทัพสิบคน เหลืออยู่เจ็ดคน ในระหว่างการต่อสู้ ก็มีคนถูกฆ่าตายไปอีกสองคนอย่างปริศนาคนที่เหลืออีกห้าคนถึงได้รู้ตัวคนของพวกเขากำลังถูกปองร้าย ถูกลอบสังหาร!พวกเขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป และย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 682

    เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 681

    จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 680

    หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status