หวังเซิ่งและสวีจู้เดินเตร่มาถึงยังบริเวณใกล้ ๆ กับที่พักหยางชิงเหอ เห็นทหารรักษาการณ์ของมู่ฉีซิวห้อมล้อมเป็นชั้น ๆเรือนเล็ก ๆ ไม่กี่ตารางเมตร ทว่าด้านนอกกลับมีคนหลายร้อยคนห้อมล้อมสำหรับมู่ฉีซิวสตรีนางนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่งหลีชิงวิ่งเข้ามาทั้งหอบฮื้ด ๆ พร้อมกับส่งสายตาให้พวกเขาพวกเขาถอยออกมาจากในตรอกเล็ก ๆ แล้วข้าไปในกระโจม ให้เสียวอู่เฝ้าอยู่ด้านนอกคอยดูต้นทาง“พี่เซิ่ง สืบถามได้ความแล้ว แม่นางหยางชิงเหอผู้นี้นอกจากจะเป็นคนรักที่รู้จักกันแต่เด็กของหัวหน้าแล้ว ยังเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของการวิจัยและผลิตดินปืนด้วย”“ใช่แล้ว ปืนนางก็เป็นผู้วิจัยและพัฒนา”“ตอนนี้ ทั้งภูเขาเหมืองเหล็กและโรงงานถูกท่านแม่ทัพชิงมาหมดในคราวเดียวแล้ว ขอเพียงคนยังอยู่ มู่ฉีซิวก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้ทุกเมื่อ วันนี้มีคนออกจากเมืองไปเสาะหาที่ตั้งโรงงานปืนใหม่กลุ่มหนึ่ง ”“สตรีนางนี้คือกุญแจสำคัญ!”“ท่านก็รู้ แค่ปืนล่าสัตว์ก็มีอานุภาพมหาศาลเช่นนี้แล้ว หากนางยังวิจัยและพัฒนาปืนออกมาอีก สิ่งที่จะฆ่าก็คือกองทัพตระกูลจ้านของเรา!”สวีจู้กล่าวขึ้นอย่างโหดเหี้ยม “ไม่เช่นนั้น คืนนี้เราไปฆ่านาง?”“ทางท่านแม่ทัพใหญ
อย่างไรไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกรก็ฮิตมากอยู่แล้ว!หลังส่งคังเจียสงและลูกน้องกลับไป เมื่อเย่มู่มู่มายังห้องชั้นบน เธอก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนส่งมาในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า “มู่ฉีซิวมีเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคนหนึ่ง เป็นทาสที่เกิดจากทาสในบ้านของเขา โตมาด้วยกันกับเขา”“ตามข่าวที่หวังเซิ่งส่งมา สตรีที่ชื่อหยางชิงเหอต่างหาก ที่เป็นคนวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดออกมา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของปืนและกระสุน!”เมื่อเห็นข้อความนี้ นัยน์ตาของเย่มู่มู่ก็สั่นคลอน!ไม่สิ มู่ฉีซิวเป็นผู้ที่ย้อนยุคไป แถมยังเป็นหนุ่มวิศวะการศึกษาสูงไม่คิดเลยว่าจะยังมีอีกคน...แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย!และเธอต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดกับปืนโลกใบนี้ช่างลึกลับเกินไปแล้ว!เย่มู่มู่ตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น “หยางชิงเหอกับมู่ฉีซิวเป็นอะไรกัน?”จ้านเฉิงอิ้นเคาะแจกัน “ว่ากันว่าเป็นเพื่อนในวัยเด็ก ทว่า นับตั้งแต่มู่ฉีซิวก่อกบฏ ก็สนิทสนมมากกว่าคุณหนูตระกูลขุนนางมีอิทธิพลคนใด!”“ดึงนางมาเป็นพวกได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้น “...หากนางภักดีต่อมู่ฉีซิวเล่า ขาดสตรีผู้นี้ไป กำลั
จ้านเฉิงอิ้นรับกระดาษมา อ่านอยู่ครึ่งคืน“สุราอวี้เย่แห่งราชวัง หนึ่งจอกเก้าร้อย!”นี่มันสุราอะไรกัน เหตุใดจึงแพงเช่นนี้!“ราชาเหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น ผู้ถือเจดีย์สะกดปีศาจแห่งหนองน้ำ”ไม่มีความสัมพันธ์กัน และไม่สัมผัสกันแต่อย่างใด!“รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด รักที่เจ้าไม่คุกเข่า รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!”ทว่าประโยคสุดท้าย รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด...เขาหน้าแดงระเรื่อขึ้นมานี่ นี่ท่านเทพกำลังสารภาพรักอยู่หรือเปล่า กำลังบอกว่ารักเขา...ใช้คำเร่าร้อนและกล้าหาญ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงรักที่เขาไม่คุกเข่าก็ตามท่านเทพเคยกล่าวว่า ใต้เข่าของบุรุษมีทองคำคนปัจจุบันอย่างพวกเขา คุกเข่าให้เพียงฟ้าดินและพ่อแม่เท่านั้น...ไม่ให้เขาคุกเข่า!สิ่งที่นางชอบคือการที่เขาไม่คุกเข่า!เขาเข้าใจแล้วนับตั้งแต่วันนี้ไป จะคุกเข่าให้เพียงฟ้า ดิน พ่อแม่และท่านเทพเท่านั้น...ประโยคสุดท้าย รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!ท่านเทพกล่าวว่า แม้เขาจะลำบาก จะเหนื่อยอีกสักเพียงใด ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมาวันหลัง เขาจะไม่หลั่งน้ำตาอีกเป
ใบหน้าน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวงแสงยามค่ำคืนมืดเกินไป หวังเซิ่งคิดว่าแม่นางผู้นี้หน้าตาสะสวยมากทีเดียวนางซูบผอม นัยน์ตาทั้งสองสุกสกาวมีชีวิตชีวา ในคืนแสนมืดมิดเปล่งประกายเป็นอย่างมากจมูกน่ารัก ริมฝีปากแดงระเรื่อเล็กน้อย ผิวคล้ำนิดหน่อยทว่าดวงหน้าประณีตงดงามหวังเซิ่งเอ่ยกับหยางชิงเหอว่า “ชู่ว์ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย!”พูดพลางก็ล้วงน้ำแร่สองขวด โจ๊กธัญพืชแปดชนิดหนึ่งขวด และขนมแผ่นแป้งไส้ผักและเนื้อออกมาจากในอก“ข้าสังเกตเห็นว่า หัวหน้าไม่ส่งของกินมาให้พวกเจ้าหนึ่งวันแล้ว หิวแย่เลยใช่หรือไม่ กินอะไรสักหน่อยก่อนสิ!”เมื่อหยางชิงเหอเห็นเขาล้วงน้ำแร่วะฮะฮ่าแสนคุ้นเคยออกมา น้ำตาก็ไหลพรากลงมาเป็นเรื่องจริง!ที่เธอคาดไว้ทั้งหมดถูกต้อง ไม่มีผิดเลย...กองทัพตระกูลจ้านมีคนเชื่อมต่อยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้จริง ๆ พร้อมทั้งสามารถส่งของในยุคปัจจุบันมายังยุคโบราณได้อีกด้วยในสองพันปีที่เกิดทุพภิกขภัยแห้งแล้งมานาน เรื่องนี้แก้ไม่ได้อยู่แล้วเธอเดินหน้าขึ้นมาคลายชุดพลางตัวตอนกลางคืนของหวังเซิ่งออกด้านในเผยเกราะกันกระสุนออกมาหวังเซิ่งตกใจ รีบถอยหลังออกไปอย่างแรงหลายก้าวทันทีแม่
หวังเซิ่งส่ายศีรษะ “ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เราส่งเจ้ากลับไป...”“ส่วนเรื่องอื่น เจ้าไปคุยกับท่านแม่ทัพใหญ่เถิด วางใจได้ ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอำมหิตอะไร เขาบอกว่าจะส่งเจ้ากลับบ้าน ก็ต้องทำได้แน่!”ครั้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอึกทึกดังขึ้นมาจากด้านนอกช่างวังที่คอยดูต้นทางอยู่ ก็โยนหินก้อนเล็กไปใต้หน้าต่างเตือนว่าหวังเซิ่งควรไปได้แล้ว!หวังเซิ่งมองไปยังนอกหน้าต่าง “ข้าต้องไปแล้ว!”เขาเปิดหน้าต่าง ขณะกำลังจะกระโดดลงไป ก็หันหลังกลับมาอีกครั้งเขาทิ้งไฟฉายเอาไว้“ต่อให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ช่วยเจ้า เจ้าก็ควรออกไป เจ้าทุ่มเทและจริงใจต่อมู่ฉีซิว แต่เขากลับสั่งไม่ให้โรงครัวส่งของกินให้เจ้า!”“แม่ทัพใหญ่ไม่มีทางทำกับลูกน้องของตัวเองเช่นนี้ ทุกคนมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน”“เขายังล้วงขนมปังแข็งที่อยู่ในอกออกมาวางอีก”ขณะที่เขากำลังจะเปิดหน้าต่างออกไป หยางชิงเหอก็รีบเอ่ยถามเขาขึ้นว่า“เจ้าชื่ออะไร?”หวังเซิ่งโบกมือ “ต่อไปเรายังเจอกันอีก!”พูดจบก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างหวังเซิ่งปีนออกไปจากกำแพงอย่างรวดเร็ว เมื่อโรยตัวมาถึงยังหลังคาของห้อง ก็อาศัยแสงยามค่ำคืนหนีไปการกระทำของเขาร
“ชิงเหอ เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”“ขอเพียงผ่านช่วงเวลานี้ไป รับมือกับตระกูลชุยได้แล้ว ฉันจะทำดีกับเธอให้มาก ๆ”“หลังฉันแต่งงานกับชุยลั่วซิน เธอจะต้องระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปะทะกับเขา ไม่งั้นถ้าเขาไม่ผ่อนปรนให้เธอ ฉันเองก็ช่วยเธอไม่ได้เหมือนกัน!”“เธอเชื่อฟังนะ! เพื่อธุรกิจของเรา อดทนเอาไว้ก่อน!”หยางชิงเหอขมวดคิ้วมุ่น เธอยิ่งฟังก็ยิ่งสะอิดสะเอียนหากไม่ใช่เพราะออกไปไม่ได้ เธอคงถึงค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านนานแล้ว!“ตัดสินใจเลือกฐานที่ตั้งโรงงานเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเธอกับช่างย้ายไปแล้วกัน”“ฉันกับลั่วซินกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้าจะผลิตปืนออกมา เธอก็อยู่ที่นั่นไปก่อน อย่าปรากฏตัวอีก”“ฉันกลัวว่าตระกูลชุยกับลั่วซินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป!”“เอาละ วันนี้ฉันยุ่งมาก อยู่เป็นเพื่อนเธอแพล็บเดียวก็เสียเวลาไปเยอะมากแล้ว!”“จำเอาไว้ อย่าสร้างเรื่องให้ฉัน ไม่งั้นฉันเองก็รับประกันให้เธอไม่ได้เหมือนกัน!”หลังพูดจบ มู่ฉีซิวก็เดินออกไปก่อนหน้านี้เขาใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง แถมยังสัญญาลอย ๆ และยังปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตอนนี้ กระทั่งสัญญาลอย ๆ เขายังขี้เกียจ และขี้เกียจแสร้ง
หลังหวังเซิ่งจากไป ทุกคนก็ดำดิ่งสู่ความเงียบงันอันที่จริง ช่างวังอยากไปเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านตั้งนานแล้ว กระทั่งซุนเฮ่อคนหมู่บ้านเดียวกันยังอยู่ดีกินดีขนาดนั้นเขาเป็นช่างตีเหล็ก มีความสามารถติดตัว ไม่มีทางไม่มีข้าวกินทว่าพวกเขาล้วนเป็นคนที่หยางชิงเหอเสนอขึ้นมาตอนนี้เห็นท่าทีที่ท่านหัวหน้ามีต่อนาง เรียกได้ว่าตกลงมาจากฟ้าเลยทีเดียวมิหนำซ้ำ เขายังไปตบแต่งคุณหนูของตระกูลชุยแห่งป๋อหลิงด้วยเช่นนั้นตำแหน่งภรรยาเอกของแม่นางหยางก็ไม่มีแล้วมิหนำซ้ำยังต้องหาวิธีเอาตัวรอดภายใต้เงื้อมมือชุยลั่วซินอีกกระทั่งพวกเขายังร้องขอความเป็นธรรมแทนแม่นางหยางท่านหัวหน้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยุติธรรมเลยทั้งสามคนตัดสินใจ!หนีคืนนี้จะแสร้งตาย!*ตอนพลบค่ำ ที่พักของหยางชิงเหอเกิดเพลิงใหญ่ลุกโชนเพลิงไหม้รุนแรง พลันลุกโชนเผาขึ้นมาถึงขั้นที่ทหารรักษาการณ์ที่ปิดล้อมอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงตะโกนร้องขอให้ช่วยโหยหวนอยู่เลือนรางอยากจะบุกเข้าไปช่วยคน...ทว่าเพลิงลุกไหม้รุนแรง ไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไปเมื่อซาเทียนอี้ได้ยินข่าว ก็รีบควบม้ากลับมาจากสนามฝึกการต่อสู้ทันที เขาควบจนม้าเหนื่อยทรุด
ไม่ว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า นางจะอยู่บนรถม้านอกเมืองหวังเซิ่งพยายามสุดความสามารถที่จะหารถม้ามาเขานำรถม้ามาสองคัน ม้าแต่ละตัวผ่ายผอมจนเห็นกระดูก ไม่มีกำลังวังชาอะไรหวังเซิ่งกลัวว่าพวกมันจะวิ่งไม่ออก เมื่อคืนจึงให้อาหารและขนมแผ่นแป้งไปมากมาย พร้อมให้น้ำไปจนเพียงพอแล้ววันนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เลวทั้งหมดแปดคน แบ่งเป้นรถม้าสองคัน ม้าหนึ่งตัวลากหนึ่งคันหยางชิงเหอ เสี่ยวเถา หวังเซิ่ง เสียวอู่นั่งคันเดียวกันสวีจู้จัดการให้ช่างทั้งสองคนนั่งคันเดียวกันเดิมทีจะเดินทางตอนกลางคืนทว่าขณะที่หวังเซิ่งหาศพมายัดเข้าไปในเตียงหยางชิงเหอกล่าวว่า “เดินทางตอนกลางคืนอันตรายเกินไป เดินทางตอนบ่ายเถอะ!”หวังเซิ่งไม่เข้าใจนางกล่าวว่า “ตอนกลางคืนออกจากเมืองไม่ได้ ตอนบ่ายใช้อาหารมาติดสินบนทหารรักษาการณ์ประตูเมืองนิดหน่อย ก็ออกไปได้ตามใจชอบแล้ว!”“หลังออกไป อย่าใช้ถนนสายหลัง ความเป็นไปได้ที่จะถูกจับมีเยอะเกินไป!”หวังเซิ่งตัดสินใจฟังนางจากนั้นก็ราดน้ำมันเบนซินที่เตรียมเอาไว้ไปทั่วทั้งห้อง และพลันจุดไฟขึ้นมาฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนเบนความสนใจไปที่ห้องด้านหน้า อยากจะช่วยดับไฟพวกหวังเซิ่งก็เคลื่อนย
ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย
เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั
ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค
เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ
ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั
ด่านเจิ้นกวน...อันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นหย่อนจดหมายไปสองฉบับฉบับหนึ่งเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ให้ทหารขับรถกลับไปยังด่านเจิ้นกวน ส่งให้หลี่หยวนจงให้เขาอ่านออกมาต่อหน้าทุกคนผ่านการฝึกมาระยะหนึ่ง พวกอู๋ลี่หนึ่งแสนกว่าคน ก็มีท่าทางของทหารประจำการแล้วกลับกันกองกำลังหนึ่งแสนนายไม่ทราบมาจากที่ใดของสวีหวย กลับเกียจคร้านขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากกองกำลังหลักกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่พวกเขาไม่ยอมรับการอบรมของพวกหลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงทว่าให้พวกเขาออกไปจากด่านเจิ้นกวน ออกไปจากสถานที่ที่มีอาหารและน้ำ พวกเขาก็ไม่มีผู้ใดยินดีขณะแจกจ่ายเสบียงทหารในทุกเดือน มาเร็วกว่าใครทั้งสิ้นตามแบบฉบับ ให้ผลประโยชน์เอาหมดให้ทำงาน ขอประทานโทษทำไม่เป็น!มิหนำซ้ำยังไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วยอย่างเช่นวันนี้ หลี่หยวนจงอ่านจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นออกมาก็มีคนต่อต้านทันที รองแม่ทัพนามว่าเว่ยโจวรีบเป็นผู้นำคัดค้านขึ้นมา“พวกเราไปโจมตีเผ่าหมาน...ท่านแม่ทัพกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?”“เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เหตุใดต้องไปรนหาที่ตายด้วย?”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทัพใหญ่ของเผ่าหมานไม่อยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี่ หากเข
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายรู้สึกว่าเรื่องนี้เหลวไหลเกินไปอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเมืองหลวงบนรถม้าก็ยังมีทหารผ่านศึกต่อให้พวกเขาจะไม่เอาไหนเพียงใด ก็ไม่ถึงขนาดหาทางกลับบ้านตัวเองไม่เจอจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ครอบครัวในเมืองหลวงต้องอพยพก่อน ไม่ต้องพูดถึงมารดาและพี่รองของข้า ทั้งครอบครัวตระกูลเฉิน ครอบครัวของทหารผ่านศึกในเมืองหลวงอีกมากมาย!”“พวกเขาออกรบฆ่าศัตรู ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ได้มีชีวิตที่ดี!”“พวกเราไม่ได้ก่อกบฏ ฮ่องเต้น้อยวิกลจริต จะจับพ่อแม่ของพวกเขาไปแขวนคอบนกำแพงเมือง!”เมื่อจ้านเฉิงอิ้นกล่าวจบ เหล่าทหารทั้งหลายก็เงียบงันจริง ฮ่องเต้น้อยสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องท้อแท้ ได้ติดต่อกับเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงที่ด่านเจิ้นกวนไปแล้ว!”“ทันทีที่กองทัพแคว้นเยี่ยนของพวกเผ่าหมานปรากฏตัวในแคว้นต้าฉี่ เปี้ยนจื่อผิงจะนำทหารห้าหมื่นนาย บุกไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยน จัดการราชวงศ์และขุนนางของพวกเขาให้สิ้น!”“หลี่หยวนจงจะนำทัพบุกโจมตีม่อเป่ย แหล่งกำลังพลและที่อยู่ของราชวงศ์ของพวกเขา แล้วสังหารให้หมดอีกครั้ง!”“หากพวกเผ่าหมานแคว้นเยี่ยนไม่กลับไปป
จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!