ซ่งอวิ๋นฮุยรีบป้อนยาให้จ้านเฉิงอิ้น รอเขาสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย ค่อยจับชีพจรต่อเขากล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ต้องห้ามมีอารมณ์พลุ่งพล่านเกินไปเป็นอันขาด มันไม่ดีต่อการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า!ต่อต้านต้องต่อต้าน!ทว่าตอนนี้ต้องจัดการกองทัพธงเหลืองก่อนและต้องพาครอบครัวที่อยู่เมืองหลวงออกมาบัดนี้บิดามารดาของเฉินขุยเฉินอู่...และมารดา พี่ใหญ่ ทั้งครอบครัวพี่รองของเขา...ถูกขังอยู่ในวัง!จวนตระกูลจ้านยังมีท่านย่า น้องชายสี่ น้องหญิงห้า...ต้องพาทุกคนออกมาครอบครัวของนายทหารส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ต้องลอบย้ายคนออกมาอย่างลับ ๆจ้านเฉิงอิ้นมองไปที่เฉินขุย เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลินและซ่งตั๋ว...“เฉินขุย เฉินอู่ พวกเจ้าไปถามพวกทหารผ่านศึกว่า ผู้ใดยังมีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวงอีกบ้าง และทำบันทึกเอาไว้”“นายทหารที่ตายไปเหล่านั้นหากมีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวง ก็อย่าให้ตกหล่นเป็นอันขาด”“เฉินจวิ้นหลิน เจ้านำกองกำลังกองหนึ่งล่วงหน้าเข้าเมือง โยกย้ายครอบครัวออกมาจากเมืองหลวงอย่างลับ ๆ ก่อน ไม่จำเป็นต้องโยกย้ายจำนวนมาก นำคนออกจากเมืองชุดหนึ่งทุก ๆ สองสามวัน กระทั่งจะ
จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้พูดตอบใด ๆเปลี่ยนไปจิตใจดีอะไรกัน เพียงแต่นึกไปถึงว่าหากต้าฉี่ต้องล่มสลาย เลยจะดึงเขามาเป็นพวกล่วงหน้าเท่านั้นหากมีไทเฮาคอยดูแลท่านแม่และบ้านน้องรองอยู่ในวัง เขาก็จะได้เบาใจไปสองสามส่วนจ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับจวงเหลียงว่า “เจ้าเผยข่าวเรื่องที่ข้าถูกลอบโจมตี และได้รับบาดเจ็บหนักให้ไทเฮาทรงทราบเสีย”“แจ้งลงไป พักอยู่ที่ช่องเขาเป้าเสียสามวัน จนกว่าท่านเทพจะนำวัตุระเบิดมาไว้ในที่ว่างเปล่า แล้วค่อยออกเดินทาง”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”*ตอนบ่ายเย่มู่มู่ไปยังพื้นที่ก่อสร้างท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาเธอเห็นรัฐทายาทน้อยที่เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยโคลน กำลังเข็นรถเข็นสามล้อคันน้อยพร้อมออกแรงสุดชีวิตภายในรถเข็นคันน้อยใส่หินเอาไว้เต็มคันรถเขากำลังเข็นไปยังใต้กำแพงทั้งเหงื่อท่วมหัว จากนั้นก็ย้ายขึ้นไปกองยังชั้นสามทีละก้อน ๆก่อนจะเดินลงมาทั้งขากะเผลกตลอดทั้งทางอีกครั้งส้นเท้าถูกบดจนเลือดออก นิ้วเต็มไปด้วยตุ่มพอง“มั่วฝาน หลูซี...ไป ข้าจะพาพวกเจ้าไปทำซิมการ์ดกับบัตรธนาคาร!”ทั้งสองคนวางงานในมือลง แล้วรีบวิ่งมาทันทีบนใบหน้ามอมแมมไปหมด บนร่างกายเองก็ไม่มีจุดไหนที่สะอาดเช่นกัน
“ทุกท่าน เพื่อให้อนาคตมีอาวุธที่หลอมจากเหล็กใช้ไม่ขาดมือ ต้องชิงที่แห่งนี้มาให้ได้!”“ข้าคิดจะชิงตัดแหล่งที่มาของอาวุธพวกเขา ก่อนจะโจมตีกองทัพธงเหลือง”“ต้องส่งคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าติดตามทางนั้นก่อน หานายทหารที่ไหวพริบดี ชำนาญการซ่อนตัวไปไปบางส่วน”“ให้ซุนเฮ่อหาชาวบ้านที่เคยขุดเหมืองมาสักสองสามคน ขับรถไปพร้อมกัน เตรียมเสบียงอาหารให้เยอะขึ้นอีกหน่อย!”เหล่านายทหารได้ยินดังนั้น นี่คือภูเขาเหมืองแร่เหล็กที่กลั่นเหล็กกล้าเลยนะหัวเซี่ยผืนแผ่นดินใหญ่ มีกองทหารของแว่นแคว้นมากมาย ทว่ายังใช้อาวุธทองสัมฤทธิ์อยู่หากเอาภูเขาเหมืองแร่หินมาได้ ก็เท่ากับแหล่งที่มาของอาวุธที่มีให้ใช้ไม่ขาดมือต้องชิงที่นี่มาให้ได้จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิง เฉินเซียนซง จางเฉา หลัวอวี๋...ต่างคุกเข่าลงในทันใดอยากจะขอคำสั่งบุกแม้อยู่ด้วยกันมาก็ช่วงหนึ่งแล้ว ทว่าอันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นก็ไม่ได้เข้าใจนิสัยของบรรดาผู้นำทัพเยี่ยนมากมายนักเขามองไปที่เซี่ยเวย “แม่ทัพเซี่ยคิดว่าจะส่งผู้ใดล่วงหน้าไป?”เซี่ยเวยตอบ “ท่านแม่ทัพ ระเบิดโรงงานดินปืน ให้จางเฉานำคนไปเถิด เขาคุ้นเคยกับการสู้รบตอนกลางคืน หากเป็นตอนกลางคืนอัตราความส
“ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่ชอบไปเที่ยวที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังหน้าแดงอีกเล่า?”หลูซีมองหญิงสาวที่สวมกระโปรงสั้น เผยให้เห็นต้นขาขาวผ่องออกมา เขากล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านเทพ ที่ต้าฉี่ไม่มีผู้ใดใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ แม้จะเป็นขอทานก็ปิดมิดชิดทุกส่วน!”เย่มู่มู่ตอบกลับ “นั่นถือว่ายังมีจรรยาบรรณทางวิชาชีพทีเดียว”“แม้ท่านรัฐทายาทจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ไปค้างคืนที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่เคยค้างคืนกับหญิงสาวที่หอโคมเขียว...”“ฉะนั้น นี่เขายังซิงอยู่หรือ?”หลูซีไม่เข้าใจอะไรที่เรียกว่าซิง เขาเอียงศีรษะน้อย ๆ พลางครุ่นคิดแล่วเอ่ยขึ้นว่า “อืม เขาบอกว่าผู้หญิงที่หอโคมเขียวเองก็ไม่ง่าย หากเขาค้างคืนด้วย แล้วรู้ว่านี่คือคนของเขา ก็จะไม่มีขุนนางชั้นสูงและคนตระกูลชั้นสูงผู้อื่นมาซื้อ และอาจมารังแกพวกนางได้!”เย่มู่มู่อดไม่ได้ที่จะมองรัฐทายาทน้อยตรง ๆ “นับว่าเขาเป็นคนดีทีเดียว!”“แน่นอนอยู่แล้วขอรับ...เขาเองก็ปฏิบัติกับหน่วยกล้าตายไม่เลวเช่นกัน!”ทันใดนั้น หลูซีก็ยืนตัวตรงพร้อมกำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือแน่นสีหน้าเคร่งเครียด เขาแหงนหน้าขึ้นไป สายตาของนัยน์ตาดำขลับมองไปยังที่ที่
มั่วฝานเห็นสีหน้าเย่มู่มู่ไม่สู้ดี นางเลื่อนดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรไม่มีเลยหลูซีซ้อมคนไปยกหนึ่ง ได้ระบายความโกรธไปไม่น้อยอาหารอร่อย ๆ เต็มโตะ เขาก็กินอย่างมีความสุขน้ำเสียงที่กล่าวก็เปลี่ยนไปเยอะเช่นกัน!“คนผู้นั้นยังปากแข็ง ข้าอัดเขายกหนึ่ง เขายังหัวเราะร่า บอกว่าถ้าแน่จริงข้าก็อัดเขาให้ตายสิ...”“เขายังบอกอีกว่าข้าไม่กล้าฆ่า เพราะหากฆ่าเขา ต้องคิดถึงผลที่ตามมาด้วย!”“ฮึ เขาหลอกคนโบราณเยี่ยงข้า เมื่อวานที่สถานีตำรวจ พวกพี่สาวบอกเกร็ดความรู้แก่ข้าแล้ว ข้ายังอายุไม่ถึงสิบแปดปีเต็ม หากพลั้งมือฆ่าคนจริง ๆ ปัญหาไม่ใหญ่...”“ข้าบอกกับเขาว่า บนหลังเขาแบกชีวิตคนเอาไว้ ข้ารู้จักคนที่สถานีตำรวจไม่น้อย พี่ชายที่ใส่กุญแจมือให้ข้าเมื่อวาน เอาเบอร์โทรให้ข้าแล้ว ข้าจะโทรให้เขามาจับคน”“ข้าส่งตัวนักฆ่าให้พี่ชายผู้นั้นไปโดยตรง...”เย่มู่มู่ฟังแล้วต้องถอนหายใจ“กระถางนั่นเล่าเจ้าคิดว่าอย่างไร จะตกใส่หัวข้าหรือ?”“องศา นักฆ่าอย่างเราจะฝึกใช้อาวุธลับ มุมและองศาในการออกแรงเรามองออกในพริบตาเดียว เขามุ่งเป้ามาหาท่าน!”“กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขาฉุนยิ่งนัก หาคนเช่นนี้บนถนนไม่พบ
“เปล่านะครับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนหนึ่งของทางเรา ได้ติดตั้งโปรแกรมไว้ในโทรศัพท์ของพวกเขา เนื้อหาที่พวกเขาคุยกันคือ จะเอาเงินจากทางฝั่งคุณยังไง วิธีที่คิดขึ้นมาเรียกได้ว่าสกปรกสุด ๆ นอกเหนือจากนี้เหมือนจะไม่มีอย่างอื่นแล้วครับ”“พวกเขาไม่ได้จ้างวานฆ่าฉันจริง ๆ เหรอคะ?”ครั้นผู้รับเหมาได้ยินดังนั้น นี่ถึงขั้นจ้างวานฆ่าแล้วเหรอ?นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะเย่มู่มู่บอกเรื่องที่เมื่อครู่เธอเกือบถูกจัดฉากให้ตายด้วยอุบัติเหตุและเรื่องที่นักฆ่ามืออาชีพถูกจับให้กับผู้รับเหมาฟังผู้รับเหมารีบก่นด่าขึ้นมา “ผมให้คนฟังเนื้อหาที่พวกเขาคุยกันทุกวัน ต้องไม่กล้าฆ่าคนแน่ ๆ วางใจได้ครับ คุณคือคนให้ที่อยู่ที่กินของเรา ใครกล้าลอบทำร้ายคุณ ก็เท่ากับจงใจหาเรื่องเรา!”“ผมจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคส่งเนื้อหาที่ตระกูลเย่พูดคุยกันให้คุณนะครับ!”“โอเคค่ะ”เย่มู่มู่ถามขึ้นอีกว่า “ฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?”“เขาเก่งมากครับ ไม่ได้เรียนอะไรมา แต่เรียนด้วยตัวเองทั้งนั้น เป็นแฮกเกอร์ที่เชื่อถือได้!”“งั้นคุณพาเขามาหน่อยนะคะ ทางฉันมีโทรศัพท์ที่ต้องการให้เขาแฮกเครื่องหนึ่ง ถ้าแฮก
มั่วฝานและหลูซีต่างตาเบิกโพลง พวกเขาได้ยินอะไรกันตระกูลใหญ่โตตระกูลหนึ่งแย่งสมบัติกัน โดยใช้วิธีให้ยายเฒ่าผู้หนึ่งฆ่าตัวเอง บีบให้ท่านเทพยกเลิกการทวงหนี้ของพวกเขาพวกเขาเคยเห็นผู้ที่ไร้ยางอาย ทว่าไม่เคยเห็นผู้ที่ไร้จิตใจเช่นนี้มาก่อนพายายเฒ่าอายุเจ็ดสิบขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้นสามสิบ ไปกระโดดฆ่าตัวตาย?แม้เบื้องล่างจะมีเบาะรองรับการกระโดดปูเอาไว้ ทว่าคนแก่คนชราแค่ล้มก็กระดูกหักได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกระโดดลงมาจากตึกสูงเช่นนี้เลยวันนี้หลูซียังนับความสูงของชั้นอย่างตั้งใจอีกด้วยเขารู้ว่าสามสิบชั้นสูงเท่าไรกันแน่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ในโลกของท่านเทพบ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!เพื่อเงิน...บ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!ในต้าฉี่ของพวกเขา แม้เงินจะสำคัญมาก ๆ ทว่าเสบียงอาหารและน้ำสำคัญยิ่งกว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อน้ำและเสบียงอาหารได้...ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่ยกให้เงินเป็นอันดับแรก ทว่าเสบียงอาหารและน้ำต่างหากที่เป็นอันดับแรก!มั่วฝานเองก็รู้สึกว่าคนในครอบครัวของท่านเทพ เสียสติไปแล้วเพียงเพราะเงินตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้ท่านเทพเป็นเด็กกำพร้าข้างกายยังมีญาติพี่น้องชั้นหนึ่งอีกกลุ่มหนึ่ง
ครั้นมั่วฝานได้ยินว่าหลูซีได้รับรางวัล ในใจก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งทว่าก็ไม่ได้เป็นเพราะอิจฉา ในบัตรของเขายังมีสี่ร้อยล้าน ไม่จำเป็นต้องอิจฉาเขาเพียงแต่...เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมการดำเนินชีวิตใหม่ ดูสิ หลูซีเพิ่งจะสิบหก ก็จับผู้ต้องการหนีคดีได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วส่วนเขาได้แต่พึ่งการขายของมีมูลค่าที่ตัวประทังชีวิตเห็นได้ชัดว่าตนไร้ประโยชน์ขนาดนั้น!เฮ้ออารมณ์เสียชะมัด!กลุ้มใจจริง ๆ!เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมา แล้วกระดกหมดในรวดเดียวในขณะนี้เอง ผู้รับเหมาก็พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคมาด้วยกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคร่างเล็ก ค่อนข้างผอม สีหน้าซีดเผือดราวกับไม่ได้เจอแสงแดดมานานเขาไม่ได้สวมแว่น สวมเสื้อลายสก็อตธรรมาดา ๆ พร้อมนั่งลงอย่างเหนียมอาย เมื่อเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ไม่ใช่หนุ่มหล่อทว่าเป็นสาวสวย ก็วางมือลงบนเข่าด้วยความรู้สึกอึดอัดส่วนผู้รับเหมาย้ายเก้าอี้มานั่งข้างเย่มู่มู่อย่างสนิทสนมทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานเขาหยิบเบียร์ขึ้นมาเองขวดหนึ่ง จากนั้นก็รินใส่จนเต็มแก้ว“คุณบอกว่านักฆ่าคนนั้นถูกจับแล้ว?”“ใช่ค่ะ เพิ่งโทรเข้ามา มีคดีฆาตกรรมติด
แต่ก่อนเป็นผู้สูงอายุที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่รู้ทำไม เย่มู่มู่รู้สึกว่าเขาเย็นชาลงมากอาจเป็นเพราะลู่ฉีหยางพาเธอไปปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไม่พอใจพนักงานเก่าของบริษัทหายไปหลายคน มีพนักงานหน้าใหม่เข้ามามากมายเย่มู่มู่ถามรองประธาน เขาพูดว่า “บริษัทต้องการลดขนาด ช่วงนี้ธุรกิจทำยาก แม้ว่าบริษัทจะพัฒนาไปได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็ควรประหยัด ปีที่แล้วมีบริษัทปิดตัวลงมากมาย”เย่มู่มู่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหาร จึงไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากเยี่ยมชมบริษัท ไม่พบปัญหาพิเศษอะไร จึงจากไปเธอใกล้จะต้องกลับไปเรียนหนังสือที่เมืองหลวงแล้วไม่มีเวลาอยู่ที่นี่มากนักบริษัทไลฟ์สดได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะ ตอนนี้ทีมขยายเป็นสองสามร้อยคนสร้างพื้นที่สำนักงานไว้ใต้บ้านพักตากอากาศ สร้างบ้านตามสไตล์โบราณ กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมพื้นหลังของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนเธอมอบบริษัทไลฟ์สดให้กับอดีตผู้จัดการบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนยังรับสมัครรองประธานที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดอีกคนหลังจากมอบบริษัทให้พวกเขา เธอก็สบายใจเย่มู่มู่จะไปเรียนหนังสือที่เมืองหลวง แต่อายุของหลูซี เขาต้องไปโ
เรื่องราวเหล่านี้ พวกเขาแอบสืบมาอย่างลับๆ โดยใช้บุญคุณเล็กๆ น้อยๆ กับทหารที่ติดตามมู่ฉีซิวมานานหลังจากที่รู้แน่ชัดถึงตัวตนของมู่ฉีซิว พวกเขาก็รู้ว่า คนผู้นี้ไม่ควรปล่อยให้เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดแม้แต่รัฐทายาทก็ยังดีกว่าเขา อย่างน้อยรัฐทายาทก็ยังรักษาความดีงามไว้แต่มู่ฉีซิวกลับไม่มีความดีงามขั้นพื้นฐานเลยหลังจากที่กลุ่มคนปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ก็แยกย้ายกันไป และมอบขนมปังกรอบให้กับทหารเด็กที่ช่วยเฝ้ายามให้เขานำกลับบ้านไปให้แม่กินทหารเด็กก็วิ่งกลับไปอย่างมีความสุขค่ำคืนมาเยือน~หวังเซิ่งเปลี่ยนชุดดำ สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ด้านใน หยิบธนูราชวงศ์ฉินขึ้นไปบนหลังคาอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเขาหมอบราบอยู่บนนั้นเขาใช้กล้องส่องทางไกล มองเห็นห้องประชุมของแม่ทัพสูงสุดของกองทัพลู่เจ๋อภายในห้องสว่างไสวกองทัพลู่เจ๋อทำเช่นนี้มาหลายวันติดต่อกัน!พวกเขาคงรู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก หากยังคงโจมตีต่อไป เกรงว่าจะไม่ได้อะไรเลย และยังจะสูญเสียไพ่ตายแปดหมื่นคนทั้งหมดที่นี่หวังเซิ่งคำนวณระยะทาง ใช้ปลายลูกธนูราชวงศ์ฉินสอดจดหมายกระดาษสีขาว เล็งไปที่ห้องฟิ้ว~เสียงแหวกอากาศดังขึ้นในยามค
“มี!”“คืนนี้ ข้าจะยิงธนูหนึ่งดอก ผูกจดหมายไว้ที่ลูกธนู ให้แม่ทัพลู่เจ๋อไปสวามิภักดิ์กับกองทัพตระกูลจ้าน คนของพวกเขาหนีไปไม่น้อย เหลือเพียงแปดหมื่น หากยังสู้ต่อไป เฮอะ ไม่เกินครึ่งเดือน ตายเรียบแน่!”“ต้องการให้พวกเราช่วยกำบังหรือไม่?”“ไม่ต้อง ข้ารู้ว่าควรยิงธนูจากมุมไหน จึงจะตรงไปยังกระโจมแม่ทัพลู่เจ๋อ!”“เอาล่ะ อาหารที่ท่านแม่ทัพมอบให้พวกเรา เก็บซ่อนไว้ให้ดี อย่าให้ใครพบ หัวหน้าอาจเป็นคนจากโลกของท่านเทพ!”หวังเซิ่งพูดจบ กระโจมก็เงียบกริบใช่ พวกเขาได้ยินกันหมดมู่ฉีซิวไม่ใช่คนของโลกนี้ดังนั้น เขาจึงมีความคิดแปลกใหม่มากมายเขาเปลี่ยนเกลือหยาบให้เป็นเกลือขาวละเอียด วางขายในเมืองหลวง และยังส่งออกไปขายแคว้นอื่นได้ ทำเงินได้มากมายเขายังผลิตสบู่ ที่คล้ายกับของที่ท่านเทพมอบให้เพียงแต่ว่างานหยาบกว่า กลิ่นหอมสู้ของที่ท่านเทพประทานมาไม่ได้สบู่เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางแคว้นต่างๆทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลเขายังเปิดโรงเตี๊ยมและร้านอาหาร ปรุงอาหารที่ขุนนางต้าฉี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่น หม้อไฟ บาร์บีคิว ตลาดกลางคืน...เงินที่เขาหาได้ กองเป็นภูเขา!เขาเริ่มต้นสะสมความมั่งคั่งอย่างรวดเร็
หวังเซิ่งและหลีชิงสบตากัน พวกเขาเห็นความตกตะลึงในดวงตาของกันและกันแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าผู้ชายสายวิศวะคืออะไร!แต่พวกเขาจดจำคำพูดของมู่ฉีซิวไว้ได้หัวหน้ากองทัพกบฏ เขาไม่ใช่คนในยุคนี้อาจมาจากโลกของท่านเทพในยุคปัจจุบันไม่น่าแปลกใจที่ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไป กองทัพธงเหลืองล้มล้างอำนาจของต้าฉี่และสถาปนาแคว้นกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด!ข่าวนี้สำคัญมาก ทั้งคู่สบตากันแล้วถอยออกจากกระโจมขณะกำลังจากไป ได้พบกับรองแม่ทัพเซวียเหวินเต๋อ ผู้ที่เคยสนับสนุนหวังเซิ่ง!เซวียเหวินเต๋อเรียกหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ “พวกเจ้าไม่ได้จะไปพบหัวหน้าหรือ? ทำไมถึงกลับมา!”หวังเซิ่งย่องเข้าไปกระซิบข้างหูเซวียเหวินเต๋อเบา ๆ ว่า “ชู่... ตอนนี้หัวหน้ากำลังโกรธอยู่ในกระโจม กาน้ำชาและชุดจอกสุราถูกปาทิ้งหมดแล้ว อารมณ์เขาไม่ดี เราอย่าไปหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า”“รอเขาอารมณ์ดีแล้ว พวกเราค่อยไปพบ!”หวังเซิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงชั้นวางตกแตกดังมาจากข้างในเซวียเหวินเต๋อลูบจมูก หันหลังกลับ และเดินจากไปพร้อมกับคนอื่น ๆเขายังรู้สึกกลัว “โชคดีที่เจ้าเตือนข้า หัวหน้าเขาเป็นอะไร? ทำไมถึงโกรธขนาดนี้!”ปกติหัวหน้าอารมณ์ค
ตอนนี้ฮ่องเต้โตแล้ว เผด็จการและหยิ่งผยอง รวบอำนาจไว้ในมือตนเองเขาฆ่าพรรคพวกของเสนาบดีไปมากมาย แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังไม่แตกหักแต่ฮ่องเต้องค์น้อยก็รวบอำนาจ และค่อย ๆ คิดจะกำจัดเขาฮ่องเต้องค์น้อยในวัยเยาว์กับตอนนี้ เหมือนเป็นคนละคนวัยเยาว์เป็นเพียงหุ่นเชิด ควบคุมได้ง่ายพอโตขึ้น เหมือนคนวิกลจริต อารมณ์แปรปรวน พร้อมที่จะชักดาบฆ่าคนได้ทุกเมื่อเรื่องที่เขาสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพธงเหลือง หากถูกเปิดโปงต่อหน้าฮ่องเต้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพียงแค่ฮ่องเต้จับผิดเขาได้ เขาจะต้องถูกประหารชีวิตเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสนาบดีซูก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมาเขาเดินวนเวียนในห้องหนังสือ สถานการณ์ตอนนี้เขาจะพลิกฟื้นได้อย่างไร จะรอดชีวิตก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงพิโรธได้อย่างไรหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็บอกหลี่สวิน “เรียกนายบัญชีสิบคนมา ภายในหนึ่งชั่วยาม ให้ตรวจนับทรัพย์สินทั้งหมดในจวน โฉนดที่ดิน โฉนดบ้าน คฤหาสน์ ร้านค้าหลายแห่งบนถนนไม่กี่สาย และสถานที่เก็บเสบียง...”“จัดทำเป็นบัญชี ข้าจะเข้าวังตอนค่ำ เพื่อเข้าเฝ้าฝ่าบาท!”“อีกอย่าง หวยหนานอ๋องชอบอนุคนใหม่ไม่ใช่หรือ? เจ้าสั่งคนให้อนุแต่งตัวให้สว
ตอนนี้เขากำลังตื่นตระหนก หวาดกลัว หากไม่สำเร็จหากฮ่องเต้น้อยรู้ว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพธงเหลือง ด้วยความหวาดกลัวและความเกลียดชังที่ฮ่องเต้องค์น้อยมีต่อกองทัพธงเหลืองเขาจะต้องถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอน!ตอนนี้เขานั่งกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ กินไม่ได้!*ภายในพระราชวังหลวงแห่งแคว้นเยี่ยน เยี่ยนซวี่ถือขวดสุรา เอนกายอยู่ในอ้อมกอดของสนมคนโปรด เยี่ยนเย่ น้องชายของเขาตายแล้วเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับเขา กลับถูกจ้านเฉิงอิ้นสังหารพวกเขามีคนสองแสนคน มีระเบิดอยู่ในมือ แต่เพราะแคว้นฉู่ แคว้นฉี เผ่าหมาน... หลบหนีไป ทิ้งน้องชายไว้เผชิญหน้ากับกองทัพตระกูลจ้านเพียงลำพังน้องชายและคนหนึ่งแสนคนคนถูกจ้านเฉิงอิ้นสังหารที่ช่องเขาเป้าเสียปล่อยให้เขากลายเป็นศพไร้ญาติ ไม่สามารถกลับคืนสู่บ้านเกิดได้เขาขอโทษฮ่องเต้องค์ก่อน!ขอโทษเสด็จแม่!ขอโทษบรรพบุรุษ...เขากอดเอวของอวิ๋นเฟย แล้วร้องไห้เสียงดัง“อวิ๋นเอ๋อร์ ข้ามันขี้ขลาดใช่หรือไม่ น้องชายตายเพื่อข้า ข้ากลับไม่สามารถแม้แต่จะเก็บศพเขา ฝังไว้ในสุสานหลวงได้!” อวิ๋นเฟยปลอบโยนเขาด้วยเสียงอ่อนโยน “ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน! ต้องโทษพ
“แม่ทัพ ข้าคิดว่าพวกเราไม่ควรมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงอีก ใครจะรู้ว่าฮ่องเต้น้อยจะวางกับดักอะไรไว้”“ตอนนี้หลักฐานที่แสดงว่าเสนาบดีซูกับกองทัพธงเหลืองร่วมมือกันก็อยู่ตรงหน้าแล้ว นี่เป็นเพราะฮ่องเต้องค์น้อยมาขอร้องพวกเรา ถ้าเราไม่ก่อเรื่องขึ้นมาสักหน่อย จะมีเหตุผลอะไรไปช่วยเขาปราบกองทัพธงเหลือง!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “เมืองต่อไปคือที่ใด?”“เมืองเย่ขอรับ!”“กองทัพจะพักผ่อนที่เมืองเย่สักระยะ หากราชสำนักไม่ให้คำอธิบาย ข้าจะยื่นฎีกาว่าข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวสักระยะ!”เฉินขุยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอรับ ข้าจะทูลฮ่องเต้!”เนื่องจากการระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวทุกคนจึงหาเส้นทางที่ราบเรียบใหม่ อ้อมหัวเมืองไป เดินทางจนถึงบ่ายจึงพบสถานที่พักตั้งค่ายพักแรม ต้มน้ำและโจ๊ก*ณ เมืองหลวง เสนาบดีซูรอข่าวจากเมืองต้ายงในห้องหนังสือที่ตกแต่งด้วยสมบัติแปลกตาต่าง ๆ เรื่องที่เขาสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพธงเหลือง มีเพียงคนสนิทเท่านั้นที่รู้หากมีคนเปิดโปงเรื่องนี้ แล้วนำไปทูลฮ่องเต้น้อยจากนี้ไปเขาจะถูกฮ่องเต้น้อยทอดทิ้ง ถูกริบทรัพย์สินและเนรเทศ...นี่ยังถือว่าดีตระกูลซูข
กองทัพหนึ่งแสนนายต่างก็ถอยหลังทั้งหมด ถอยไปสามลี้ทุกคนหมอบราบพลธนูหนึ่งร้อยนายยิงธนู จุดไฟที่หัวลูกศร ยิงไปยังศพที่ประตูเมืองฟิ้ว~ลูกธนูจำนวนมากพุ่งไปยังประตูเมืองศพที่ประตูเมืองพลันลุกไหม้อย่างรวดเร็วแต่ไม่มีการระเบิด!เซี่ยเวยและคนอื่น ๆ ก็หมอบราบมองดูอยู่บนพื้น คิดว่าแม่ทัพคาดการณ์ผิด และกำลังจะลุกขึ้น!เฉินขุยบอกให้ทุกคนเงียบ“ชู่ อย่าพูด รอก่อน...”เฉินขุยพูดจบ ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นที่ประตูเมือง กำแพงเมืองเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ไม่รู้ว่าพวกเขาฝังระเบิดไว้มากแค่ไหน แผ่นดินไหวสะเทือน ประตูเมืองและกำแพงเมืองพังทลายลงในทันที กลายเป็นซากปรักหักพังพวกเขาอยู่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร ยังมีเศษหินกระเด็นตกลงมาทหารผ่านศึกยกโล่ขึ้นมาป้องกันเศษหินกระแทกโล่อย่างต่อเนื่อง เสียงดังไม่หยุดจากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ติดต่อกัน ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง!ลุกลามจากประตูเมืองไปยังใจกลางเมืองถนนหลายสายที่ตัดกันถูกฝังระเบิด...ในชั่วพริบตา ครึ่งหนึ่งของเมืองถูกทำลายพวกเขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงร้องไห้ของชาวบ้านจำนวนมากที่หลบหนีจ้านเฉิงอิ้นบอกซ่งตั๋ว “รีบบินอากาศย
เฉินอู่กล่าวเตือน “ถ้าทางข้างหน้ามีกองทัพธงเหลืองขวางทาง ข้างหลังจะมีทหารไล่ตาม?”“พวกเราจะกลัวพวกมันรึ? เรามีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและระเบิดอยู่ในมือ!”“ถ้าพวกเขากล้าไล่ตาม เราก็ฝังระเบิดไว้ที่ข้างหลัง!”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้านเฉิงอิ้นพลางกล่าว “ใช้ทางอ้อม ก็แค่ต้องเดินเพิ่มขึ้นไม่กี่วันแค่นั้น ไม่ทำให้ขาดแคลนละครโทรทัศน์นี่หรอก!”ซ่งตั๋วยิ้มแย้มกล่าว “แม่ทัพช่างฉลาดเลิศ!”เฉินขุยยังลืมหญิงเต้นรำจากเขตตะวันตกไม่ลืม “เสียดายจัง คงไม่ได้เห็นหน้าอีกแล้ว!”ซ่งตั๋วมองตาขวางเฉินขุยอย่างแรงหนึ่งที“ฮึ หญิงเต้นรำจากเขตตะวันตกอะไร ข้าจะบอกฮูหยินเฉินตอนนี้เลย ให้นางควบคุมเจ้าให้เข้มงวด!”กองกำลังชุดใหญ่หยุดเดินทาง ทุกคนเริ่มหาสถานที่ตั้งค่ายพักพื้นที่ผืนนี้เป็นที่ราบ ไม่มีภูเขาและถ้ำและไม่มีสถานที่ให้ความร่มเงาจึงจำต้องกางกระโจมโชคดีที่เย่มู่มู่ส่งกระโจมกันแดดมาให้ทุกคน ทุก ๆ กระโจมจะมีพัดลมตัวเล็กหนึ่งเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ครั้นติดตั้งกระโจมเสร็จ พัดลมก็เริ่มทำงานทันที ทุกคนปูเสื่อที่พื้นและคลุมทับด้วยผ้าห่มจ้านเฉิงอิ้นให้เถียนฉินบังคับอากาศยานไร้คนขับอีกครั้งภายใ