เหล่านายทหารลุกขึ้นและคุกเข่าพร้อมกัน “ขอรับ แม่ทัพ!”“ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้าออกไปได้”“ภายในสามวัน ถ้ายอมกลับเมืองหลวงกับแม่ทัพข้า สามารถแจ้งก่อนได้ ถ้าไม่ยินยอม ก็ไม่ต้องฝืนตนเอง”“ผู้ที่อยู่ต่อ ต้องรักษาด่านเจิ้นกวนด้วยชีวิต!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวประโยคนี้ มีน้ำหนักเป็นอย่างยิ่งผู้ที่นั่งอยู่ไม่มีใครโง่เขลา ใต้ฟ้าเกิดภัยแล้ง แต่มีเพียงด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารก็เหมือนหมาป่าที่หิวกระหายไส้แทบขาด ไม่ง่ายเลยที่จะพบคอกลาและอยากตะครุบกินเนื้อลาและดื่มเลือดลาอย่างทนรอไม่ไหว!เพียงแต่หมาป่าหารู้ไม่ว่า ลาก็กระทืบหมาป่าตายได้เช่นกัน!พวกเขาต้องใช้ชีวิตพิทักษ์ด่านเจิ้นกวน จึงจะสร้างความน่าตกใจให้กับแคว้นต่าง ๆ ที่จ้องตาเป็นมันได้เหล่านายทหารตอบเสียงพร้อมกัน “ขอรับ ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!”จ้านเฉิงอิ้นให้พวกเขาออกไปก่อนเฉินขุยเฉินอู่และคนอื่น ๆ อยู่ต่อสองพี่น้องยังอยู่ในอาการโมโห ตระกูลเฉินเป็นถึงครอบครัวตระกูลขุนนางที่มีผลงาน ในตอนนั้นปู่ตระกูลเฉินบุกเหนือตีใต้ร่วมกับฮ่องเต้ต้าฉี่ สร้างความดีความชอบในการรบไว้อย่างเกรียงไกรครั้นมีการสถาปนาแคว้นต้าฉี่ ปู่ส่งคืนอำนาจทางทหารและถอยกลั
“หนิงกวนโหวจ้านเฉิงอิ้นชิดใกล้ฉี่ ข้าไม่อาจหลับนอนหลายคืนวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ฝันถึงกองทัพธงเหลืองบุกทะลวงพระราชวัง เลือดไหลดั่งธารา เพลิงไฟสูงเสียดฟ้า”“ราชวงศ์ต้าฉี่ดับสูญ!”“หากวันนั้นมีจริง ช่วยดูแลมั่วฝานให้ดี อย่ากลับเมืองหลวง ต่อให้หนีไปแคว้นอื่น ก็อย่าได้ช่วยคนในครอบครัวที่เมืองหลวง จงปกป้องเขาและมีชีวิตต่อไป!”ลายมือลงนามเป็นของซวนเต๋อไทเฮา มีตราประทับไทเฮาประทับไว้มั่วฝานหงุดหงิดมาก!“ข้าไม่ควรนำทิศทางของประวัติศาสตร์บอกเล่าแก่ท่าน ข้าเพียงเขียนจดหมายกล่าวถึงคำทำนายท่านเทพ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากองทัพธงเหลืองจะบุกเข้าเมืองหลวง ขอให้ไทเฮารีบออกจากเมืองหลวง…”“ไม่คิดเลยว่าท่านจะกังวลกลัว กินไม่ได้นอนไม่หลับ!”จ้านเฉิงอิ้นเผาสารลับทิ้งพร้อมพูดกับมั่วฝานที่กำลังโทษตัวเองอย่างหนัก “ในใจของผู้อาวุโสไทเฮานั้นเข้าใจดี กองทัพธงเหลืองพัฒนาเร็วไปมาก ในเวลาสี่เดือนรับสมัครคนกับม้าได้ถึงห้าแสนกว่าคน มีอาวุธทันสมัยและยังมีเสบียงอาหาร…”“ครั้นกองกำลังสองแสนของแม่ทัพลู่พ่ายแพ้ ไทเฮาคงเข้าใจ กองทัพธงเหลืองบุกเข้าเมืองหลวงเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า บังคับข้ากลับเมืองหลวงมาปราบ
วันนี้เย่มู่มู่ส่งหนังสือ “สี่ยอดสิ่งประดิษฐ์จีน” ยี่สิบเล่มให้จ้านเฉิงอิ้นการผลิตกระดาษต้องใช้น้ำกับท่อนไม้จำนวนมาก ใต้ฟ้าเกิดภัยแล้ง ต้นไม้เหี่ยวเฉา!หรือไม่ก็ถูกพลเมืองผู้หิวโหยบดละเอียดเป็นผงกินเข้าไปต้าฉี่หรือหัวเซี่ยมีต้นไม้เหลืออยู่ไม่มากสำหรับทำกระดาษ มีแต่ไม้เฉินเก่า ๆ ที่นำมาใช้ได้แต่พวกเขาต้องเรียนรู้ก่อนหากวันหนึ่งรอดพ้นจากภัยแล้ง ใต้ฟ้าเกิดความสันติ พลเมืองอยู่เย็นเป็นสุขสี่ยอดสิ่งประดิษฐ์จะทำให้อารยธรรมหัวเซี่ยก้าวหน้าเร็วขึ้นถึงหลายร้อยปีจ้านเฉิงอิ้นเปิดหนังสือเกี่ยวกับการพิมพ์เชิงเรียงพิมพ์หนึ่งในนั้น พลางรู้สึกประหลาดใจมาก เขาจึงอ่านต่อไปอย่างดื่มด่ำ!แท้จริงแล้วการพิมพ์หนังสือ พิมพ์ออกมาเช่นนี้นี่เอง!*เย่มู่มู่เตรียมตัวกลับไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยในเมืองหลวง เธออยากเช่าบ้านหนึ่งหลังใกล้ ๆ วิทยาลัยล่วงหน้าต้องเป็นคฤหาสน์เดี่ยวที่มีความเป็นส่วนตัวสูงและมีชั้นใต้ดินในเมืองหลวง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้วิทยาลัย การเช่าคฤหาสน์เป็นเรื่องที่ยากเธอเข้าเรียนในวิทยาลัยสาขาศิลปะ ในวิทยาเขตมีคนรวยรุ่นสองจากทั่วประเทศอยู่ทุกหนทุกแห่งพวกเขาหรือไม่ก็ซื้อบ้าน
สิบกว่าคนเอิกเกริกอย่างยิ่ง!แต่ละคนหน้าบึ้งถลึงตาจ้องเย่มู่มู่!พวกเขาถูกจับขังครึ่งเดือน ความโมโหที่เก็บสะสมมานาน ระบายออกหมดเมื่อพบเย่มู่มู่!เย่มู่มู่ช่วยเกษตรกรถ่ายทอดสดเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ หาเงินได้ถึงหลายร้อยล้านบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนขยายการสร้างเพิ่มขึ้นหลายสิบหลัง แต่ละหลังต้นทุนรวมค่าตกแต่งสูงมากกว่าหลายล้าน!เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำมากถึงเพียงนี้พวกเขากลับกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ในห้องขัง ฟังเสียงกรีดร้องและคร่ำครวญด้านข้างตลอดทั้งวันสาเหตุที่พวกเขามาก่อความวุ่นวาย ไม่มีเหตุผลอื่นเย่มู่มู่หาเงินเก่งเกินไป!ถ่ายทอดสดช่วยเหลือเกษตรกรดังเป็นพลุแตกในโลกออนไลน์มีคนทำสถิติเกี่ยวกับเงินหมุนเวียนของห้องถ่ายทอดสดสิบอันดับแรกโดยเฉพาะ ว่ามีกี่ร้อยล้าน!เย่มู่มู่เพิ่งให้สัมภาษณ์ข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนเกี่ยวกับความหมายเบื้องหลังการถ่ายทอดสดช่วยเหลือเกษตรกรในสายตาของสาธารณชน เจ้าของที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทอดสด ล้วนเป็นวัยกลางคนพุงพลุ้ยหรือเป็นผู้หญิงประดิษฐ์สวยและฉลาดแต่เย่มู่มู่ยังสาวและสวย สวยกว่าหญิงถ่ายทอดสดในห้องถ่ายทอดสดเธอเพิ่งจะอายุ
หัวหน้าผู้รับเหมาฟาดพลั่วลงกับพื้นดังโครม ทำเอาหญิงชราตกใจจนกรีดร้องเสียงหลงแค่ไม่กี่เซนติเมตร พลั่วนั่นก็เกือบจะปาดเอาหนังศีรษะของเธอไปแล้ว!หญิงชราหน้าซีดเผือด รีบหุบปาก ไม่กล้าส่งเสียงเรียกร้องค่าเสียหายอีกแม้แต่นิดเดียวหัวหน้าคนงานที่ผ่านการทำงานกลางแดดกลางลมมานานจนผิวคล้ำกร้าน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งหนา แค่รูปลักษณ์ของเขาเพียงอย่างเดียว พอหญิงชราเผลอสบตาเข้า ก็ถึงกับหวาดกลัวจนตัวสั่นเธอรีบจับมือลูกชายแน่น พูดเสียงสั่นเครือ “ไปกันเถอะ รีบไปจากที่นี่!”แต่ลุงใหญ่กับลุงสามยังยืนกรานไม่ยอมถอย ในเมื่อจับตัวเย่มู่มู่ได้ทั้งที จะปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ ได้ยังไง?ถึงจะมีพวกคนงานกลุ่มใหญ่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ก็ตามพวกเขากล้าลงมือเหรอ?กล้าจริง ๆ เหรอ?แม้หญิงชราจะอ้อนวอนให้รีบกลับ แต่สองพี่น้องก็ยังไม่ยอมขยับแม้แต่นิดเดียว!เย่มู่มู่มองญาติทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา “ฉันจะบอกให้ ถ้าฉันส่งพวกคุณเข้าคุกได้ครั้งหนึ่ง ฉันก็ทำได้อีกครั้ง!”“ยังไม่รีบไสหัวไปอีกเหรอ?!”ลุงใหญ่เดือดดาล ตะโกนกลับมาทันที “ขู่พวกเรางั้นเหรอ?! ต่อให้เธอเรียกคนมาจัดการพวกเรา พวกเราก็ไม่ไป!”“ถ้าย
“พวกนี้ช่างตามหลอกหลอนไม่เลิกราเลยจริง!”เย่มู่มู่มองดูเหล่าคนงานกว่าสองร้อยชีวิตที่เพิ่งช่วยเธอสลายสถานการณ์ตึงเครียด ก่อนจะโอนเงินให้หัวหน้ารับเหมาทันทีห้าแสน“ขอบคุณทุกคนที่ช่วยฉันแก้สถานการณ์ครั้งนี้ ฉันจะแบ่งให้คนละพันห้าเป็นค่าตอบแทน ส่วนเงินที่เหลือ วันนี้ฉันขอเลี้ยงอาหารดี ๆ ทุกคนสักมื้อ ถือว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจ!”หัวหน้ารับเหมาได้ยินเย่มู่มู่พูดอย่างใจกว้างก็ถึงกับตกตะลึง แค่เสียเวลาช่วยไม่กี่นาที เธอกลับให้ค่าตอบแทนคนละพันห้า สองร้อยคนรวมกันเป็นสามแสน ยังเหลือเงินอีกสองแสนถึงจะเลี้ยงข้าวทุกคน ยังไงค่าอาหารสำหรับสองร้อยคนก็ไม่น่าจะเกินห้าหมื่น!เงินส่วนที่เหลือทั้งหมดกลายเป็นของเขาหัวหน้ารับเหมาพยายามเก็บซ่อนความดีใจในใจ ก่อนจะถามเย่มู่มู่ว่า “คุณหนูเย่ คุณรู้ไหมว่าทำไมคนแถวนี้ถึงชอบมาจ้างผมสร้างบ้าน?”เย่มู่มู่ส่ายหน้าด้วยความสงสัย“ก็ผมน่ะ สู้บริษัทใหญ่ ๆ ในเมืองไม่ไหวหรอก แต่สำหรับโครงการเล็ก ๆ ไม่มีใครสู้ผมได้ ไม่ใช่เพราะแผนงานของผมดี หรือการออกแบบวางผังอะไรเลิศเลอนักหรอก...”“แต่เพราะหมัดผมหนักพอ! ก่อนจะมารับงานก่อสร้าง ผมก็เคยเป็นนักเลงบนถนนมาก่อน ไม่มีใครกล
เมื่อเย่มู่มู่กลับถึงบ้าน ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนเรื่องนี้บอกกับจ้านเฉิงอิ้น เพื่อระบายความอึดอัดในใจที่เก็บไว้ไม่ไหว!ใบหน้าชั่วร้ายของคนตระกูลเย่ เหมือนผีดูดเลือดที่คอยเกาะกินเธอและพ่อ พยายามหาวิธีดูดเอาทุกสิ่งจากพวกเขา!ปัจจุบัน การไลฟ์ขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างมาก เย่มู่มู่กลัวว่าหากเรื่องราวของนางถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ อาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการไลฟ์ขายสินค้าได้ ครั้งก่อนที่มีคนสืบประวัติของเธอ ก็ได้นำคำกล่าวหาของครอบครัวเย่ที่ให้สัมภาษณ์สื่อออกมาแฉ แม้ในภายหลังเรื่องราวจะถูกพลิกกลับ แต่บัญชีของเย่มู่มู่ในหลายแพลตฟอร์มก็ยังคงเต็มไปด้วยคำด่าทอและวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างหนักหน่วงแม้แต่ภาพของจ้านเฉิงอิ้นที่โพสต์ไปก็ยังถูกคอมเมนต์ด่าทอจำนวนมาก ไม่ได้แค่ด่าเธอ แต่ยังด่าจ้านเฉิงอิ้นด้วย เย่มู่มู่จะทนได้อย่างไร! ด่าเธอได้ก็จริง แต่มีสิทธิ์อะไรถึงมาดูถูกแม่ทัพหนุ่มของเธอ!เธอโกรธจนอยากจะโต้กลับกับชาวเน็ต แต่ผลที่ออกมากลับเป็น...เพราะมีข้อความส่วนตัวหลังไมค์เข้ามามากเกินไป จนถูกปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นเธอรู้สึกเหมือนมีก้อนความอึดอัดติดอยู่ในลำคอ ดังนั้นเมื
จนกระทั่งกองสมบัติสูงขึ้นมาถึงครึ่งตัวคน กลืนแจกันจนมิด มันถึงได้หยุดลงเงินพวกนี้!เป็นเงินทั้งนั้นเลย!ช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก!เธอไม่อาจคำนวณได้เลยว่า ทรัพย์สินที่กองเต็มห้องฉายภาพยนตร์นี้มีมูลค่ามากแค่ไหนบริเวณที่เธอยืนอยู่ ขาทั้งสองข้างของเธอถูกกองสมบัติถมจนแทบถึงหัวเข่า!เธอก้มลงคว้าทองคำขึ้นมาสองมือ พลางหัวเราะออกมานี่สินะ วิธีปลอบใจคนของแม่ทัพน้อย?เขาขนคลังสมบัติทั้งโกดังมามอบให้เธอหมดเลยเหรอ?นี่มันจะมีมูลค่ามากมายขนาดไหนกันนะ!ถ้าไม่นับของโบราณ แค่ทองคำแท่งที่หลอมจากก้อนทองคำเหล่านี้ก็ต้องนับเป็นพันล้านเป็นอย่างน้อย!ถึงแม้บ้านเธอจะร่ำรวยอยู่แล้ว พ่อแม่ไม่เคยทำให้เธอขาดแคลนสิ่งใดมาตั้งแต่เด็กแต่พอมาเห็นกองทองคำมหาศาลเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากได้เห็นทองคำกองโตขนาดนี้ ก็คงยากจะสงบนิ่งได้!ฮ่า ฮ่า ฮ่า...เธอรวยอีกแล้ว!รวยจริง ๆ!ทั้งชีวิตนี้เธอคงใช้เงินเหล่านี้ไม่หมดแน่นอน!เธอค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปยังจุดใจกลางของกองสมบัติ กลัวว่าจะเผลอเหยียบปิ่นปักหงส์หรือสร้อยไข่มุกจากนั้นจึงดึงแจกันออกมาจ
ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก
เมื่อครู่พวกเขาต่างตั้งใจฟังอย่างจดจ่อซุนหลินได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารกว่าพันชั่ง!นี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านไม่ได้ขาดแคลนเสบียงสำหรับชาวแคว้นต้าฉี่ที่เผชิญกับภัยแล้งมาเกือบปี ข้าวปลาอาหารและแหล่งน้ำมีเสน่ห์ดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้พวกเขาหิวและกระหายเกินกว่าจะอดทนไหว แม้ในเมืองหยงโจวจะมีโจ๊กแจก แต่ในแต่ละวันกลับได้เพียงถ้วยเล็ก ๆ ของโจ๊กข้าวโพด ซึ่งไม่พอให้ประทังความหิวได้เลยผู้คนมากมายต่างพยายามทุกวิถีทางที่จะลอกเปลือกไม้ หรือขุดหาผักป่า...ในเมืองหยงโจว เมื่อจำนวนผู้คนเพิ่มมากขึ้น ผู้คนถึงกับทะเลาะวิวาทแย่งชิงรากหญ้าและเปลือกไม้ จนถึงขั้นมีการฆ่ากันตายก็ไม่น้อยขณะนั้น ชาวบ้านสี่ร้อยคนต่างจ้องมองด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง หลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้ปากถ้ำโดยไม่รู้ตัวเฉินจวิ้นหลินและเหล่าทหารผ่านศึกอีกสิบกว่าคน ได้นำเสบียงอาหารที่เหลือจากคนสองร้อยกว่าชีวิตที่เสียชีวิตไปแล้วออกมาแจกจ่ายนอกจากสิ่งที่ถูกระเบิดจนเสียหายและไม่สามารถกินได้ พวกเขายังนำแป้งห่อจำนวนมาก โจ๊กธัญพืชแปดชนิดสองร้อยกระป๋อง และขนมปังแข็งกว่าสองร้อยกล่องออกมาแจกจ่ายเฉินจวิ้นหลินพูด
“ครอบครัวและชาวบ้านในหมู่บ้านจะอยู่รอดไปได้อีกสักระยะ!”ซุนหลินยังคงจินตนาการถึงความสุขในการที่ตนนำเสบียงกลับไปให้ครอบครัวแต่เมื่อชาวบ้านสี่ร้อยคนได้ยินเรื่องเสบียงกว่าหนึ่งพันชั่งดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองไปที่ซุนหลินอย่างแน่วแน่เสบียงอาหาร หนึ่งพันกว่าชั่งเชียวนะหากนำไปต้มเป็นโจ๊ก จะเลี้ยงคนได้มากแค่ไหนกันเมื่อซุนเฮ่อได้ยินคำพูดของซุนหลิน ริมฝีปากก็ขยับ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว“ท่านลุงสาม เหตุใดถึงไม่พูดอะไรเลยเล่า ครอบครัวสบายดีหรือไม่?”ซุนหลินยังคงจมอยู่ในจินตนาการของตัวเอง พอเห็นซุนเฮ่อไม่พูดอะไร จึงเงยหน้ามองเขาแต่สิ่งที่เห็นคือ ดวงตาของซุนเฮ่อเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง เขาดูเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่หยาดน้ำตาในดวงตานั้นกลับแห้งเหือดไปหมดแล้วเขาเบิกตาแดงก่ำ ก่อนจะก้มศีรษะหนักอึ้งลงต่ำก้มหน้าอยู่นานก่อนจะพูดว่า “พวกเจ้า... ครอบครัวของพวกเจ้า... ตายหมดแล้ว!”“คนทั้งหมู่บ้าน... มีเพียงสามชีวิตที่รอด หนึ่งคือข้า และอีกสองคน...”ซุนหลินกระชากคอเสื้อของซุนเฮ่ออย่างแรง ยกตัวเขาที่ผอมแห้งลอยขึ้นจากพื้นดวงตาของซุนหลินแดงฉานเต็มไปด้วยความ
จ้านเฉิงอิ้นและคนอื่น ๆ อีกหลายคนเดินออกมาส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึก ซึ่งมีคนหนึ่งจำซุนเฮ่อได้เขาตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ลุง ลุงสาม... ทำไมถึงเป็นท่าน?”“ท่านมาที่ช่องเขาเป้าเสียได้อย่างไร?”คนที่จำซุนเฮ่อได้ ชื่อซุนหลิน อายุยี่สิบกว่าปี เข้าร่วมกองทัพมาห้าปีแล้ว!เขาเป็นนายกองพันภายใต้การบังคับบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน แต่พบว่าตนเองไม่ได้สังหารศัตรูมากเท่าคนอื่น จึงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีอย่างมากหลังจากนั้น ก็อาสาเป็นทหารทัพหน้าบุกทะลวงแม้จะต้องเสี่ยงอันตรายแม้ว่าทหารทัพหน้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ก็พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเขาเป็นคนกล้าหาญ พยายามเป็นทหารทัพหน้าและสังหารศัตรูมากมายสะสมเสบียงอาหารได้มากกว่าหนึ่งพันชั่ง แป้งสาลีแปดร้อยชั่งได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองพันครั้งนี้ที่เข้าไปในหุบเขา ซุนหลินก็ลุงสามาเองเขาอยากได้พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีกสองสามชุด เพื่อมอบให้กับคนในหมู่บ้านแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับซุนเฮ่อที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่นี่ซุนเฮ่อเป็นลุงสามของเขา เป็นคนในตระกูลเดียวกัน!เขาวิ่งออกมาด้วยความดีใจ วิ่งไปหาซุ
“ใครก็ได้ ไปเฝ้าบริเวณใกล้ถ้ำที่จ้านเฉิงอิ้นซ่อนตัวอยู่ หากเกิดระเบิดแล้วยังไม่ตาย ให้คอยสกัดไม่ให้คนด้านในหลบหนีออกมาได้...”มู่ซาถาม “จะให้ส่งไปกี่คน?”“ยี่สิบคน ล้อมเอาไว้อย่าให้เหลือไปแม้แต่คนเดียว”“ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนี้ก็ได้กระมัง?”แม่ทัพแคว้นฉู่เจียงเหว่ยพูดว่า “เจ้าไม่รู้อะไร เกราะป้องกันของจ้านเฉิงอิ้นอยู่ในระดับสูงมาก สามารถต้านทานการโจมตีจากคนสิบคนได้เพียงลำพัง และอาวุธก็แหลมคม สามารถฟันดาบเสี้ยวของพวกเผ่าหมานได้ง่ายดายราวกับหั่นผักหั่นปลา”“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เมื่อระบุตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว ทุกคนจงล้อมที่นี่ไว้ให้แน่นหนา ห้ามปล่อยให้คนข้างในหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว”แม่ทัพทั้งสี่แคว้นต่างก็ให้ความสำคัญพวกเขารู้ดีว่า หากฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้ ประชาชนต้าฉี่ก็จะกลายเป็นเสบียงของแคว้นต่าง ๆ ของพวกเขาไม่มีเสบียงแล้วจะทำไม?ชาวต้าฉี่มีจำนวนมาก เพียงพอให้พวกเขากินได้อีกนานผ่านพ้นช่วงความอดอยากไปได้อย่างไม่มีปัญหาเลยยิ่งไปกว่านั้น ราชวงศ์ต้าฉี่ก็ร่ำรวยได้ยินมาว่า ทรัพย์สมบัติในวังหลวงนั้นกองสูงเป็นภูเขาเสนาบดีซูยังรวบรวมสมบัติล้ำค่าหายากให้กับฮ่องเต้น้อย
ในที่สุดซุนเฮ่อและคนสี่ร้อยคนก็ถูกเยี่ยนเย่ปล่อยตัวไปทำไมหรือ?พวกเขาก็กลัวตายเหมือนกันในถ้ำมีคนมากกว่าสามหมื่นคน ซุนเฮ่อและพรรคพวกมีเพียงสี่ร้อยกว่าคนหากมีคนใดคนหนึ่งจุดชนวนดินระเบิด ทุกคนจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ดินระเบิดสี่ร้อยห่อ ใครก็หนีไม่รอดจะทำให้ภูเขาถล่ม ทุกคนจะถูกฝังอยู่ใต้ภูเขาไม่คุ้มค่าพวกเขามาเพื่อสกัดกั้นจ้านเฉิงอิ้น ไม่ใช่มาตายตามดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยให้ซุนเฮ่อและคนอื่น ๆ แบกพลั่วเดินออกจากถ้ำเมื่อเดินออกมา มีคนรายงานเยี่ยนเย่“ท่านอ๋อง พบตำแหน่งของคนสองพันคนของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว”“เจ้าหนูพวกนั้นตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” เยี่ยนเย่ดีใจมาก“ที่ทางเข้าด้านหน้าห่างไปห้าลี้ เดิมทีเรามีคนซุ่มอยู่ตรงนั้น แต่ถูกจ้านเฉิงอิ้นเก็บกวาดจนหมด ตอนระเบิดที่หน้าประตู คนของเขาก็ซ่อนตัวเข้าไปหมดแล้ว!”เดิมทีซุนเฮ่อที่เดินออกจากปากถ้ำได้ยินดังนั้น ก็ก้าวเท้าออกไปแล้วก็หดกลับมาเขาหันกลับไปมองทหารที่ส่งข่าว“จริงหรือ?”“ขอรับ พวกเราเพิ่งรีบมาจากที่นั่น!”“เขาซ่อนตัวอยู่ในปากถ้ำนั้นหรือ?”“ปากถ้ำที่ใหญ่ที่สุดห่างจากทางเข้าห้าลี้ ทางเข้ามีศิลาจารึกสิบแผ่น เมื่อก่อนเคยเ
ทันใดนั้น เสื้อตัวในของซุนหย่าปาก็ถูกถอดออก เผยให้เห็นคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปื้อนอยู่ เสื้อชั้นในสีขาวถูกย้อมจนกลายเป็นสีเข้มจวงเหลียงใช้เสื้อตัวในสัมผัสกับกระดาษ แล้วใส่ลงในแจกันกระดาษพลันหายไปส่งผ่านไปได้จริง ๆการค้นพบนี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายมีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาได้จริงด้วย แม้ว่าท่านแม่ทัพจะไม่อยู่แล้ว แต่การใช้สิ่งของที่เปื้อนเลือดของเขาก็สามารถส่งกระดาษไปได้ ส่วนสิ่งของอื่น ๆ พวกเขายังไม่ได้ลอง ไม่รู้ว่าได้หรือไม่จวงเหลียงใช้ปากกาลูกลื่นเขียน“ท่านเทพ ข้าคือจวงเหลียง กุนซือของรัฐทายาท ท่านแม่ทัพได้เข้าไปในช่องเขาเป็นเวลาครึ่งก้านธูปแล้ว ภายในช่องเขามีเสียงดินระเบิด พวกเราไม่สามารถติดต่อเขาได้”“กองทัพธงเหลืองร่วมมือกับแคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไร กองทัพธงเหลืองสามารถผลิตดินระเบิดได้ ตอนนี้ช่องเขามีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง”*เย่มู่มู่เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตนเองส่งไป ถูกส่งกลับมาด้านหลังว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยจากนั้น ไม่กี่นาทีต่อมา กระดาษอีกแผ่นก็ร่วงลงมาบนนั้นเขียนว่า จ้านเฉิงอิ้นเข้าไปในช่องเขาแล้วและ...ฝ่ายตร
เย่มู่มู่เขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นหลายฉบับ แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับแม้แต่ฉบับเดียวเธอเดาว่า จ้านเฉิงอิ้นเข้าไปในช่องเขาแล้วหรือไม่?หากในช่องเขามีการซุ่มโจมตี จ้านเฉิงอิ้นกำลังเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเองนี่มันอันตรายเกินไปเย่มู่มู่ยังหวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะสามารถก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ทีละขั้น สามารถรวมหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่น และสร้างเรือออกทะเลอีกครั้ง...ให้ทุกที่ที่แสงอาทิตย์ส่องถึง กลายเป็นแผ่นดินหัวเซี่ยนี่คือเรื่องสำคัญต่อคนรุ่นหลัง จะเป็นไปได้ไหมที่จะรวมสมาชิกวิดีโอคอลทั้งหมดไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้หัวชาร์จแบบเดียวกัน ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษอีกต่อไปจ้านเฉิงอิ้นห้ามเกิดเรื่องเด็ดขาด!แต่เขาไม่มีจดหมายตอบกลับมาเลย!ส่งกระดาษเปล่าไปสิบกว่าแผ่น เขาก็ยังไม่มีข่าวเย่มู่มู่เดินเท้าเปล่าไปมาในห้องนั่งเล่น อาหารเช้าเย็นลงแล้ว แต่เธอก็กินไม่ลงเธอมองอาหารเช้าที่เย็นชืดอีกครั้งหยิบซาลาเปา ซุปกระดูกหมู ก๋วยเตี๋ยวหลอด เกี๊ยว... ทั้งหมดใส่ลงในแจกันไม่มีความรู้สึกฝืดเคืองเหมือนครั้งก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่การส่งไปราบรื่นมากหมายความว่า สถานการณ์ของจ้านเฉิงอิ้นอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น
“พวกเจ้าฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”จากนั้นเขากล่าวกับสมุน “เก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวกลับ!”กองทัพธงเหลืองหลายร้อยคนเตรียมเก็บพลั่วกับเครื่องมืออื่น ๆ และออกเดินทางทันใดนั้น คนอื่น ๆ พากันหยิบอาวุธและขวางทางเดินพวกเขาซุนเฮ่อยิ้มหยัน “ทำไม? พวกเจ้าคิดขวางพวกเรา?”ต่อจากนั้น ซุนเฮ่อเปิดเสื้อผ้าออก บนหน้าท้องมีระเบิดติดไว้หนึ่งห่อ“พวกเจ้าเห็นหมดแล้วว่าระเบิดมีอนุภาพยิ่งใหญ่เพียงใด ชนเผ่าหมาน แคว้นฉู่และแคว้นฉีห้าแสนห้าหมื่นคนทำไมถึงสู้กำลังพลห้าหมื่นของจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ ก็เพราะว่าเขามีระเบิดในมือไงหล่ะ!”“วันนี้ถ้าพวกเจ้ากล้าขัดขวางข้า พวกเจ้าจงมองให้ชัดเจน…”ช่างสี่ร้อยคนพากันเปิดเสื้อผ้าออก บนตัวมีระเบิดติดไว้ทุกคนพวกเขาแต่ละคนจ้องคนถืออาวุธและปิดกั้นทางเดินด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม“คิดจะขัดขวาง ได้ อย่างมากก็แค่ตายไปพร้อมกัน พวกเจ้ามีคนอยู่ในถ้ำเท่าไหร่ ไม่มีสองหมื่นคนก็น่าจะมีสามหมื่นคน พวกเรามีแค่ไม่กี่ร้อยคน”“ถึงจะตายกันหมดและถูกฝังไว้ที่นี่ พวกเราก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ฮ่องเต้พูดกับพวกเราก่อนมาที่นี่ ถ้าเกิดสิ่งใดขึ้น ท่านจะวางแ