Share

บทที่ 261

Author: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร

ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...

กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร

ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต

แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน

ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก

ปลาจึงกลายเป็นของหายาก!

จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลา

ปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง

วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย

นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย

ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน

สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 262

    “ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 263

    หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว นางกอดลูกไว้ในอ้อมอก ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา จ้องมองคมดาบที่ยกสูง! ฟิ้ว ลูกธนูพุ่งทะลุหน้าอกของทหารที่ชูดาบ ร่างของเขาทรุดลงในทันที เฉินอู่ถือลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมือง พร้อมตวาดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าเคยสังหารกองทัพศัตรูมาแล้วห้าแสนคน! กล้าลงมือหน้าประตูเมืองของข้า พวกเจ้าคิดว่าชีวิตตัวเองยืนยาวนักหรือไง?” “ทุกคนวางอาวุธลงให้หมด หากกล้าทำร้ายสตรีและเด็ก ข้าจะสังหารโดยไม่ละเว้น...!” บนกำแพงเมืองตะวันตก พลธนูยืนเรียงเป็นแถวดึงธนูเล็งเป้าที่ประตูเมืองตะวันตก กองทัพตระกูลจ้านยกดาบม่อเตาขึ้นทหารใต้บัญชาของสวีหวย ต่างชักอาวุธทองสัมฤทธิ์ออกมา หมายจะขัดขวางครอบครัวทหารที่พยายามหนีไปพึ่งพาด่านเจิ้นกวนบรรยากาศทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียด ดาบและธนูถูกเตรียมพร้อมจะปะทะกัน สวีหวยถูกหามขึ้นเปล มือกุมหน้าอก พลางเอ่ยสั่งหลี่หู่ด้วยน้ำเสียงยากลำบาก “อย่า...อย่าให้ผู้ใด ออกจากค่ายไปได้!” “ผู้ใดฝ่าฝืน สังหารทันที!” สิ้นคำสั่งของเขา เฉิงจื่อเซียวพาทหารที่สูญเสียภรรยาและลูกจากการสังหารหมู่ของกองทัพเผ่าหมานเมื่อคืน รวมถึงหัวหน้าทหาร เดินออ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 264

    “นับตั้งแต่วันที่เจ้าตกลงร่วมมือกับฉีซวนเหิง เจ้าก็กลายเป็นคนตายสำหรับข้าไปแล้ว!”“ตอนนี้ข้าจะพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ใครอยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน คืนนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า”“ผู้ที่ปฏิเสธ สังหารให้หมด!”ตูม~เมื่อเสียงจบลง ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดรีบเข้าไปในกระโจมเพื่อเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็วส่วนคนใต้อาณัติของหลี่หู่ที่ถือดาบ จะเข้าเมืองก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็ไม่เหมาะเฉิงจื่อเซียวถลึงตาใส่พวกเขา “ยังไม่รีบไปอีก รอให้ถูกยิงตายหรือไง?"พวกเขาถึงได้สติกลับมา แม้แต่ของก็ยังไม่ทันเก็บ รีบตามกองทัพส่วนใหญ่เข้าไปในเมือง*หนึ่งแสนชีวิต~ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดเคลื่อนพลเข้าสู่ด่านเจิ้นกวนขบวนทัพอันยิ่งใหญ่และคึกคักเดินผ่านประตูเมืองไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขามองถนนในเมืองที่กว้างขวางและเรียบเนียนใต้ฝ่าเท้าด้วยความประหลาดใจ พื้นทางเดินปูด้วยปูนซีเมนต์อย่างเรียบเนียนสองฝั่งของถนนเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ถูกทาด้วยสีขาวสดใหม่ ภายใต้แสงไฟในยามค่ำคืนดูโดดเด่นสะดุดตาสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เสาไฟริมถนน...มันไม่ใช่โคมไฟที่ต้องจุดด้วยน้ำมัน แต่กลับเป็นไฟพลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 265

    เหล่าสตรีอาบน้ำอยู่ต้นน้ำ บุรุษอาบน้ำอยู่ปลายน้ำ ห่างกันสองลี้ฮูหยินเฉินยังส่งคนนำผ้าเช็ดตัวและสบู่อาบน้ำมาให้พวกเขาบรรดาหญิงสาวต่างประหลาดใจเมื่อพบว่า สบู่ก้อนหนึ่งเหมือนกับไขมันหยก สามารถถูจนเกิดฟองและล้างคราบสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดแถมยังทิ้งกลิ่นหอมจาง ๆ ไว้อีกด้วยพวกผู้ชายก็ได้พบเช่นกัน เมื่อถูสบู่ให้เกิดฟองตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายของพวกเขาก็สะอาดหมดจดหลังจากที่ทุกคนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว โจ๊กที่เตรียมไว้สำหรับหนึ่งแสนคนก็พร้อมพอดีเพื่อป้องกันกระเพาะอาหารที่ยังอ่อนแอของพวกเขา ในโจ๊กจึงใส่เพียงไข่ไก่และเกลือเล็กน้อยเท่านั้นคนหนึ่งแสนคนที่หิวโหยมากว่าหนึ่งปี เมื่อได้ประคองถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ไว้ในมือ หลายคนถึงกับน้ำตาคลอเด็กน้อยคนหนึ่งที่ประคองโจ๊กข้าวขาวอยู่ในมือ ร้องไห้พูดกับสตรีว่า “ท่านแม่ นี่คือโจ๊กข้าวขาว หากท่านพ่ออยู่ได้นานอีกสักสองสามเดือน ท่านก็คงจะได้กินโจ๊กนี้ด้วย!”หญิงสาวประคองโจ๊กข้าวขาว ร้องไห้ออกมาทันที!หากพ่อของลูกในตอนนั้นยอมเป็นทหารหนีทัพหนีมาที่ด่านเจิ้นกวน...ก็คงจะมีชีวิตรอดส่วนเหล่าทหารผ่านศึกบางคนก็ลอบปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 266

    แม่ทัพที่ชื่อสวีจือ พูดขึ้นด้วยเสียงสะอื้น เบ้าตาแดงก่ำ “แม่ทัพเฉิน ข้านำอาหารกลับไปให้ภรรยาได้หรือไม่? นางแต่งงานกับข้ามา ไม่เคยมีวันไหนได้อยู่ดีมีสุขเลย เมื่อคืนยังตกใจจนสลบไปอีก!”“นางเกือบถูกพวกเผ่าหมานฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะคนรับใช้เข้ามาขวางดาบ เกรงว่าคงต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้ว!”เฉินขุยได้ยินดังนั้นก็ด่าสวีหวย “เจ้าแก่นี่! ครั้งก่อนที่ข้าไปถึงค่าย ข้าน่าจะแทงเขาให้ตายตั้งแต่ตอนนั้น จะได้ไม่ต้องมีคนต้องตายมากมายแบบนี้”“พวกเจ้าอยากนำอาหารกลับไปให้ครอบครัว ก็เอาไปเถิด!”“ถ้าไม่พอ บอกให้พ่อครัวทำเพิ่มได้เลย!”เหล่าผู้บังคับบัญชาหลายคนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าในทันที ตั้งท่าจะคุกเข่าลงขอบคุณแต่เฉินขุยรีบยื่นมือมาประคองไว้พวกเขาใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ขอบคุณท่านแม่ทัพเฉินเป็นอย่างมาก!”เฉินขุยโบกมือ “ต่อไปวันดี ๆ แบบนี้จะมีให้มาก!”เขาไม่รบกวนการกินอาหารของพวกเขา เมื่อเขาเดินออกจากกระโจมเฉิงจื่อเซียวก็ตามเขาออกมาด้วย“ท่านน้าเขย...”เฉินขุยมองเจ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นักหลานสาวของเขาต้องทนลำบากมากมายเพราะเขา แถมลูกน้อยร่างกายก็อ่อน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 267

    จ้านเฉิงอิ้นมองสายตาแน่วแน่ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เป็นไปไม่ได้! ท่านเทพเป็นเทพองค์เดียวในโลก!”มั่วฝานยักไหล่ พลางวางขวดเปล่าลง“ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้น เพราะกองทัพธงเหลืองไม่เพียงแต่มีอาวุธที่ล้ำหน้าเท่านั้น”“กองทัพธงเหลืองยังมีเสบียงอาหาร...ที่จำนวนคนในกองทัพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เพราะชาวบ้านใกล้จะอดตายกันหมด ขอแค่มีคนให้ข้าวกิน ไม่ใช่แค่ยอมเข้าร่วมกองทัพ แต่ถึงขั้นยอมสละชีวิตให้ด้วยซ้ำ!”“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกท่าน แม่ทัพลู่เคยนำทหารสองแสนไปต่อสู้กับกองทัพธงเหลืองเมื่อครึ่งเดือนก่อน แต่พ่ายแพ้...”“ตอนนั้นกองทัพธงเหลืองมีคนแค่หลักหมื่นเท่านั้น เหตุที่ไม่มีข่าวแพร่ออกไป เพราะทางราชสำนักปิดเรื่องนี้ไว้”“ตอนนี้กองกำลังภายใต้แม่ทัพลู่ ไม่เหลือสองแสนอีกแล้ว คงราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นเท่านั้น”“หากพวกเขาไม่เปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่านี้ การเผชิญหน้ากับกองทัพธงเหลืองจะไม่มีทางชนะได้!”“ท่านแม่ทัพ คิดว่าวิธีนี้คล้ายกับวิธีที่ท่านใช้ในการปกป้องด่านเจิ้นกวนจากศัตรูหรือไม่?”เมื่อคำพูดของมั่วฝานจบลงแล้ว คิ้วของจ้านเฉิงอิ้นก็ขมวดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 268

    เจียงหยวนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นว่า “รัฐทายาท ท่านไม่กลัวหรือว่าฝ่ายนั้นก็มีท่านเทพเหมือนกัน?”“ถึงจะมี แต่จะแข็งแกร่งกว่าท่านเทพของเราหรือไม่เล่า?”เจียงหยวนย่อมปกป้องท่านเทพของฝ่ายตน“แน่นอนว่าไม่มี!”“นั่นก็พอแล้ว!”“ไป กลับจวนไปพักผ่อนกัน!”*ในที่สุดเย่มู่มู่ก็ได้รับอาวุธชุดที่สามในครั้งนี้ มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินจำนวนห้าหมื่นคัน ดาบม่อเตาเตาสามหมื่นเล่ม ลูกธนูหนึ่งล้านห้าแสนดอกอาวุธหลากหลายชนิด เช่น หอก โล่ เกอ และง้าว...อย่างละหนึ่งพันชิ้นชุดเกราะอีกห้าพันชุด!ยังมีดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังส่งมาอีกสองพันกว่าเล่ม ซึ่งทั้งหมดลับคมพร้อมใช้งานเขานำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเหล่านี้มาให้เย่มู่มู่ลอง หากเธอไม่รับ ก็จะส่งคืนกลับไปเย่มู่มู่ชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมาทดลอง!เพียงโบกดาบ เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังมีคมดาบที่แหลมคม ลับคมทางด้านซ้าย ตัวดาบยาวมาก กว่าหนึ่งหนึ่งจุดหกหมี่...น้ำหนักเบากว่าดาบม่อเตา สะดวกต่อการพกพาเย่มู่มู่รับดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังสองพันเล่มไว้ทั้งหมด และสั่งเพิ่มอีกสามหมื่นเล่มเธอคิดว่าจ้านเฉิงอิ้นและพลทหารใต้บัญชาของเขาน่าจะชื่นชอบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 269

    “ปลายข้าวนี้เป็นข้าวใหม่หรือข้าวเก่า?” เย่มู่มู่เอ่ยถาม“เป็นข้าวใหม่ครับ เป็นฤดูเดียวกันกับข้าวสารที่ผมขายให้คุณ”“ปลายข้าวจากโรงงานของพี่เขยผมที่ขายให้คุณจะไม่เป็นที่จับตามองของทางการแน่นอน”ปลายข้าวในแต่ละปีมักถูกขายให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ จะไม่นำเข้าตลาด แต่ปีนี้ คนเลี้ยงหมูลดน้อยลง โรงงานผลิตอาหารสัตว์จึงลดการผลิต ดังนั้นปลายข้าวจึงเหลือมากขึ้นพี่เขยของเขาที่เป็นเจ้าของโรงงาน มองกองปลายข้าวเหล่านี้ กังวลจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับเขาได้แต่ลองขายให้เย่มู่มู่ดู!เย่มู่มู่ถามเขาว่า “ตอนนี้มีปลายข้าวเหลืออยู่เท่าไหร่?”“มีเยอะเลยครับ ราว ๆ ห้าร้อยตัน!”“ถ้างั้นฉันขอซื้อทั้งหมด คุณไปเอาปลายข้าวไปส่งที่บ้านพักตากอากาศ!”“ได้เลยครับ!”หลังจากพูดคุยกับเจ้าของร้านขายข้าวเสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็ได้รับข้อความจากนักออกแบบร้านขายวัตถุโบราณบอกว่า การปรับปรุงพื้นหลังและตกแต่งภายในร้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งวิดีโอถ่ายทั่วร้านมาให้เธอตรวจสอบตู้สินค้าไม้สีดำสนิท แท่นจัดวางโชว์สินค้า ห้องน้ำชา...การตกแต่งสไตล์จีนโบราณที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ช่างเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศของร้านขา

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 701

    แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 700

    นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 699

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 698

    อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 697

    “รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 696

    พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 695

    ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 694

    พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status