Share

บทที่ 237

Penulis: มู่โร่ว
หลังจากที่เย่มู่มู่ส่งรถกลับไปแล้ว เธอก็ได้รับสายจากเถ้าแก่หลิน เจ้าของร้านขายธนูทดกำลัง

“คุณหนูเย่ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ ผมไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อของท่านได้”

“ช่วงนี้การควบคุมเข้มงวดมาก พวกเขาได้ยินว่าต้องการปืนล่าสัตว์หนึ่งหมื่นกระบอก ก็ไม่ยอมทำการค้าด้วยแล้ว ทั้งยังเตือนผมว่าให้ระวังตัว อย่าให้เป็นเป้าสายตาจากเบื้องบน”

“แต่ท่านวางใจได้ ผมจะใช้เส้นสายที่มี ซื้อปืนจากสิบสองร้าน ร้านละสิบกระบอก รวมเป็นหนึ่งร้อยยี่สิบกระบอก!”

หนึ่งร้อยยี่สิบกระบอก... จำนวนนี้ยังน้อยเกินไป!

แต่ในตอนนี้ก็ต้องใช้เท่าที่มีไปก่อน

“ได้ค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่หลินมาก อย่าลืมส่งกระสุนมาเพิ่มด้วยนะคะ!”

“ผมจะจัดกระสุนให้หนึ่งพันนัดต่อปืนหนึ่งกระบอก เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอนครับ!”

หนึ่งหมื่นกว่านัด!

ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทว่าเธอก็กลัวการถูกจับตามอง เลยต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้!

หลังจากจัดการธุระเสร็จแล้ว เธอจึงเดินทางลงเขาไปดูห้องรักษาความปลอดภัยที่พี่ซุนและภรรยากำลังควบคุมงานก่อสร้าง

ห้องรักษาความปลอดภัยวางรากฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมก่อสร้างได้เรียกระดมหนุ่มสาวในหมู่บ้านที่ว่างงานมารวมตัวกัน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 238

    ระหว่างนั้น เย่มู่มู่ได้รับสายจากโรงงานผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนเจ้าของโรงงานแจ้งว่า เสื้อเกราะกันกระสุนใกล้จะจัดส่งแล้วเธอขับรถกระบะบรรทุกหนักไปยังโกดังเก็บของชานเมือง เปิดประตูม้วนขึ้น และรออยู่ที่นั่นไม่นานนัก เจ้าของโรงงานพาคนขับรถ ขับรถบรรทุกขนาดเล็กบรรทุกเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวจำนวนหนึ่งพันชุดมาส่งที่โกดังเก็บของเพราะเย่มู่มู่เป็นลูกค้ารายแรก เจ้าของโรงงานจึงมาลงมือขนของด้วยตนเอง พร้อมสาธิตคุณสมบัติกันไฟ กันน้ำของเสื้อเกราะกันกระสุนให้ดู...เจ้าของโรงงานเป็นคนใจกล้า เขาราดน้ำมันเบนซินลงบนเสื้อเกราะกันกระสุน จากนั้นโยนออกไปที่ลานหน้าโกดังเก็บของ แล้วจุดไฟเผา...เปลวไฟลุกโชนทันที แต่เสื้อเกราะกลับไม่ไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไฟเผาเพียงน้ำมันที่อยู่บนเสื้อเท่านั้น!เย่มู่มู่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้หลังจากน้ำมันไหม้หมดแล้ว เจ้าของโรงงานสวมถุงมือ หยิบเสื้อเกราะขึ้นมา สะบัด ๆ...คราบเขม่าที่ติดอยู่ก็ตกลงไปเสื้อเกราะกลับมาดูเหมือนใหม่ ทำให้เย่มู่มู่ประหลาดใจมากเจ้าของโรงงานหยิบขวดน้ำแร่ขึ้นมา แล้วให้เย่มู่มู่จับมุมเสื้อเกราะแล้วขึงไว้ จากนั้นก็เทน้ำ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 239

    เวลาบ่ายสี่โมง จ้านเฉิงอิ้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขามองไปในกระโจม พบวัตถุทรงกระบอกสีดำปรากฏขึ้นมีป้ายห้อยระบุว่า “ปืนล่าสัตว์”ทุกกระบอกบรรจุอยู่ในกล่องไม้สีดำ ปูด้วยฟองน้ำสีดำ บรรจุหีบห่อดูหรูหรา ราคาย่อมแพงไม่ใช่น้อยที่มุมกระโจมยังมีกล่องวัตถุกว่าหนึ่งร้อยใบวางซ้อนกันเมื่อจ้านเฉิงอิ้นเปิดดู พบว่าข้างในบรรจุกระสุนปรายที่ทำจากเหล็กเขาไม่รู้ว่าปืนล่าสัตว์นี้ใช้ประโยชน์อย่างไร แต่เพียงแค่สัมผัสก็รู้ว่าสิ่งนี้ทรงพลังยิ่งนักตัวปืนหนัก หล่อขึ้นจากเหล็กกล้าสีดำทั้งกระบอกจากนั้น ชุดเกราะกันกระสุนจำนวนหนึ่งพันชุดร่วงลงมาจากฟ้าเกราะกันกระสุนชุดนี้แตกต่างจากชุดก่อนที่ได้รับมา วัสดุดูแข็งแรงทนทานกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นดึงกริชออกมากรีดลงบนเกราะกันกระสุน แต่เกราะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนแม้แต่น้อยเขาจ้องมองด้วยความตะลึงมีดไม่สามารถบาดเกราะได้เลย!เกราะกันกระสุนชุดที่สองเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเสื้อกั๊กธรรมดาเช่นครั้งก่อน ระดับการป้องกันสูงมาก ครั้งก่อนส่วนแขนและขายังสามารถถูกฟันถูกบาดได้แต่เกราะกันกระสุนที่ส่งมาครั้งนี้เป็นเกราะที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย สามารถป้องกันส่วนแขนขาได้อีกด้ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 240

    กระสุนนั้นยิงเข้าเป้า แต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เลย“นี่มันปาฏิหาริย์ชัด ๆ!”“ชุดเกราะนี้มีระดับการป้องกันที่สูงกว่าชุดก่อน ๆ มันทำได้อย่างไร?”เหอหงหยิบปืนล่าสัตว์ออกมาวางบนโต๊ะ ปืนยาวหนึ่งหมี่ สร้างจากเหล็กกล้า น้ำหนักหลายกิโลกรัมนี่คืออาวุธที่หนักและทรงพลังยิ่ง“นี่คือสิ่งที่ใช้ยิงใส่เกราะกันกระสุนหรือ? ท่านแม่ทัพ ข้าอยากลองใช้ปืนล่าสัตว์ดู!”จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิดีโอสอนการใช้งานปืนล่าสัตว์ให้ทุกคนชมวิดีโอแรกแสดงภาพปืนล่าสัตว์ที่ใช้ยิงสัตว์ร้ายเพียงกระสุนนัดเดียว หมีขนาดหลายร้อยชั่งล้มลงไปดิ้นเพียงไม่กี่ครั้งก็สิ้นใจตายวิดีโอที่สอง เป็นการยิงกระสุนนัดเดียวเข้าที่ศีรษะหมูป่าขนาดสองสามร้อยชั่ง มันล้มลงกับพื้นและไม่ลุกขึ้นอีกวิดีโอแสดงภาพการล่าสัตว์ในแอฟริกาจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นช้างที่สูงใหญ่เหมือนขุนเขา หรือสิงโตตัวผู้ที่ทรงพลัง… ล้วนถูกล้มด้วยกระสุนนัดเดียว!ทุกคนจ้องมองหน้าจอด้วยความตะลึงปืนล่าสัตว์ในวิดีโอทรงพลังมากช้างที่สูงใหญ่ราวภูเขา เมื่อโดนยิงเข้าที่ศีรษะ ก็ล้มลงและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลยหมีดำตัวใหญ่ที่พวกเขาเคยล่าก่อนหน้านี้ เพียงตัวเดียวมันสังหารมนุษย์นับสิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 241

    เจียงหยวนมองจ้านเฉิงอิ้นด้วยขอบตาแดงแม้เขาจะเป็นหน่วยกล้าตายของรัฐทายาทอยู่ในด่านเจิ้นกวนมานานเพียงนี้ เขาก็เกิดความผูกพันอันลึกซึ้งต่อท่านแม่ทัพและทหารทั้งหลายพวกเขามิได้ปฏิบัติต่อเขาดังเช่นข้าทาสแต่เห็นเขาเป็นคนที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน เป็นสหายร่วมรบที่มีฐานะความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันเจียงหยวนชอบความรู้สึกชนิดนี้เป็นอย่างมากอยู่ที่นี่ไม่มีการกลั่นแกล้งกดดัน ไม่มีการลงทัณฑ์ลงโทษ ไม่มีวรยุทธ์ที่ฝึกไม่มีวันจบ ไม่มีภารกิจที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่หมดเดิม เขาเป็นหน่วยกล้าตายของไทเฮาเป็นรัฐทายาทน้อยของตัวเขามาจากไทเฮาในชีวิตอันมืดมิดของเขา การเดินทางมาด่านเจิ้นกวน ทำให้ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างออกไปเขาตัดใจจากไปไม่ได้ตัดใจจากท่านแม่ทัพ ตัดใจจากเหล่าทหารไม่ได้!ขอบตาของเจียวหยวนแดงระเรื่อ พูดเสียงเครือว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าขอรั้งอยู่ที่นี่ได้หรือไม่? ก่อนเปิดศึกในคืนนี้ ข้าจะต้องสอนพวกเขาให้ขับรถเป็น จนส่งครอบครัวของเหล่าทหารออกไปได้สำเร็จแน่ขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่ของเขา “หากพวกเราล้มเหลวในการรบ เจ้าก็จงจากไปพร้อมกับมั่วฝานและจวงเหลียงเสีย!”นับตั้งแต่แคว้นต้าฉี่สถาปนา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 242

    ทหารทุกนายล้วนได้รับแบ่งไปคนละหนึ่งชามเล็กจ้านเฉิงอิ้นยืดหลังตรง มือทั้งสองข้างยกจอกขึ้นมา คารวะทหารทุกนายว่า “ทุกท่าน คืนนี้ เป็นศึกสุดท้ายที่เกี่ยวพันถึงความเป็นตาย การคงอยู่หรือล่มสลายของด่านเจิ้นกวน”“หากพวกเราชนะ ก็จะไม่ถูกปิดล้อมอยู่ในด่านเจิ้นกวนอีกต่อไป”“พวกท่านก็จะสามารถกลับไปที่บ้านเกิด มอบเสบียงที่ได้รับเป็นรางวัลมอบให้เหล่าญาติ อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัว”“ทุกคนจะได้รับการจัดสรรบ้านเรือนและที่ดิน ผู้ที่แสดงออกได้โดดเด่น ยังจะได้รับการแต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งด้วย!”“ทว่า หากพ่ายแพ้”“เผ่าหมานก็จะบุกสังหารเข้าสู่ต้าฉี่ทางด่านเจิ้นกวน ฆ่าล้างราษฎรชาวต้าฉี่ กำจัดราชวงศ์…แคว้นฉี่ ก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป!”“ดังนั้น ข้าหวังว่า คืนนี้แม้นพลีชีพก็จะต้องปกป้องด่านเจิ้นกวน ไม่อาจปล่อยให้เผ่าหมานยึดครองเป็นอันขาด!”“ตัวข้า ขอคารวะทุกท่านจอกหนึ่ง ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง ที่พวกท่านได้ทำเพื่อด่านเจิ้นกวน!”จ้านเฉิงอิ้นดื่มหมดในอึกเดียวเหล่าทหารต่างก็ดื่มหมดในคำเดียว ทุกคนต่างเปล่งเสียงอย่างพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันว่า“พวกเราจะต้องชนะ จักไม่ยอมให้เผ่าหมานยึดคร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 243

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ไม่ต้อง บอกให้มั่วฝานใช้อากาศยานไร้คนขับบินไปดูก่อน หากยังไม่เห็นเผ่าหมานอีก ถึงเวลานั้นค่อยพาคนออกจากเมือง”“เขายังเลี้ยงเหยี่ยวไว้ด้วย ถ้าแม้แต่เหยี่ยวก็ยังหาตำแหน่งของเผ่าหมานไม่เจอ ถึงเวลานั้นค่อยนำกำลังคนออกจากเมือง”“ขอเพียงกองทัพตระกูลจ้านยังอยู่ จะปล่อยให้เจ้าออกไปเสี่ยงอันตรายนอกเมืองคนเดียวได้อย่างไร!”เขาเห็นคนทั้งสามมิได้สวมชุดเกราะกันกระสุนรุ่นใหม่ที่ท่านเทพส่งมาให้จึงสั่งการพวกเขาว่า “ไปที่กระโจมทัพของข้า ข้าเหลือชุดกันกระสุนไว้ให้พวกเจ้าสามตัว”เว่ยกวงรู้ว่าชุดกันกระสุนรุ่นใหม่ล่าสุดล้ำค่าอย่างมาก และมีจำนวนไม่มากเขาเห็นด้วยตาตัวเอง ว่ามีทหารลองสวมแล้วใช้ดาบฟันกันเอง เพื่อทดลองความแข็งแกร่งของชุด!ผลลัพธ์ที่ได้พบน่าตกตะลึงอย่างมาก เพราะชุดเกราะกันกระสุนถึงกับฟันไม่เข้าเนื้อผ้าที่อยู่ชั้นนอกไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย!นั่นเป็นของหายากที่ทวยเทพประทานมาเลยนะ!เขาจึงรีบลากน้องชายทั้งสองคน บึ่งไปที่กระโจมทัพของท่านแม่ทัพเพื่อไปเปลี่ยนชุดเกราะกันกระสุนทันที!ในตอนที่จ้านเฉิงอิ้นหาตัวมั่วฝานพบนั้น…เมื่อเขาเห็นเจียงหยวนเก็บของรักชิ้นเล็ก ๆที่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 244

    ในเวลานั้นเอง เหล่าทหารก็พากันรายล้อมเข้ามา มองดูภาพด้านล่างกล้องสอดแนมเฉินขุยพูดด้วยความโมโหว่า “ตอนนั้น ข้าก็ควรใช้ระเบิด ระเบิดพวกมันไปให้หมดเสียเลย ดีกว่าต้องมาตายใต้คมดาบของพวกเผ่าหมาน”เฉินอู่กล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ เคลื่อนทัพเถิดขอรับ ออกจากเมืองไปช่วยกองทหารของสวีหวยที่ถูกล้อม!”แม้สวีหวยจะไม่ถูกกับพวกเขาแต่เมื่อเห็นเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง ถูกสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียวล้วนเป็นทหารของแคว้นเดียวกัน ในใจของพวกเขาก็รู้สึกไม่ดีเช่นกันมั่วฝานคอแข็ง แค่นเสียงเย็นออกมาอย่างยืนหยัดไม่ยอมแพ้“ช่วยอะไร? ตอนนั้นมันยังเบิกตามองด่านเจิ้นกวนถูกสามฝ่ายล้อมโจมตีโดยไม่ทำสิ่งใดสักอย่าง ไม่ส่งทหารมาสักคน แล้วตอนนี้พอตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกบ้าง ก็คิดจะให้พวกเราเคลื่อนทัพ! ”“มันฝันเฟื่องผิดไปแล้ว! คนแบบมัน ถ้าตายในสนามรบ ยังพอจะได้ชื่อเสียงที่ดีอยู่บ้าง!”“แต่ถ้าเรื่องที่สมคบกับแคว้นฉีถูกเปิดโปงออกไป แคว้นต้าฉี่ของข้าจะต้องขายหน้าไปด้วย!”“ข้าเต็มใจให้มันตายไปให้จบ ๆ ดีกว่ามาอยู่ขายหน้าผู้คน!”คำพูดของมั่วฝาน พูดจนเหล่าแม่ทัพนายทหารที่มีหัวใจอันร้อนระอุเงียบงันไปสวีหวยโง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 245

    จ้านเฉิงอิ้นตะโกนเสียงดังอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เร็วเข้า หมอบลง!”เฉินขุยอยากถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้นแต่เมื่อเห็นสีหน้าของจ้านเฉิงอิ้นเครียดตึง คิ้วขมวดอย่างหนัก…เขาก็รีบลงจากม้าก่อน แล้วหมอบลงบนพื้นพร้อมกับม้าครู่เดียว ลูกธนูนับไม่ถ้วนก็ถูกยิงเข้ามาทหารส่วนใหญ่พกโล่ จึงใช้โล่ปกคลุมร่างของพวกเขาไว้ในชั่วพริบตาแต่ม้าศึกถูกยิงตายไปพันกว่าตัว บรรดาม้ากรีดร้องระงมด้วยความเจ็บปวดมีม้าบางตัวได้รับความตื่นตระหนก ลุกขึ้นมา เพียงครู่เดียวก็ถูกยิงจนพรุนไปหมดเหล่าทหารยินยอมใช้โล่ปกป้องม้าศึก แต่ไม่เต็มใจจะให้ม้าศึกได้รับบาดเจ็บอีกมั่วฝานพูดไปด่าไปว่า “ข้าบอกแต่แรกแล้วว่าสวีหวยเชื่อถือไม่ได้ ก็ยืนกรานจะยกทัพออกมาให้ได้ เฉินขุย เจ้าเห็นแล้วหรือไม่?”“เขาใช้คนของตัวเองกับกองทัพชาวหมาน มาสร้างกับดัก ‘ดาบนั้นคืนสนอง!’ ใช้แผนการของเขาจัดการตัวเขาเอง“พวกเรามีหกพันคน พวกมันมีสามแสนคน! นี่จะสู้ยังไง?”“เฉินขุย หากข้าต้องตายอยู่ที่นี่ ต่อให้เป็นผีข้าก็ไม่มีทางละเว้นเจ้าแน่!”คำพูดพวกนั้น พูดจนเฉินขุยรู้สึกผิดไปหมดแล้ว!เขาอยากบุกออกไป อยากนำเหล่าพี่น้องบุกฝ่าระยะธนูออกไปเข่นฆ

Bab terbaru

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 596

    “แม้ว่าเขาจะไม่ขยายอิทธิพลในแคว้นต้าฉี่ แต่หากไปยังแคว้นอื่น ก็ยังคงเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากอยู่ดี!”ถูกแล้ว มั่วฝานพูดไม่ผิดหากมู่ฉีซิวยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ต้องตายถึงสามร้อยครั้งก็ยังฟื้นคืนมาได้ด้วยนิสัยของเขา ไม่ว่าไปอยู่ที่ใดก็ต้องตั้งหลักได้อย่างแน่นอนหากปล่อยให้เขามีโอกาสเติบใหญ่ เกรงว่าจะกลับมาแก้แค้นได้อีก!เฉียนเซียงตัวตะโกนบอกเหล่าทหาร “ไป ไป ไป ไปกินข้าวก่อน กินเสร็จแล้วพวกเราจะออกเดินทางทันที ไปฆ่ามู่ฉีซิวให้ได้ จะได้ล้างแค้นให้กับสี่เดือนที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะเขา!”เหล่าทหารต่างขานรับพร้อมเพรียง ก่อนจะพากันนั่งล้อมวงที่โต๊ะอาหารเมื่อเห็นกับข้าวมากมายจัดเรียงเต็มโต๊ะทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง“โห ข้าเกิดมาในตระกูลมั่งคั่ง ไม่เคยขาดแคลนเงินทอง แต่ไม่เคยเห็นโต๊ะอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!”“กระต่ายตัวใหญ่ทั้งตัวถูกย่างแบบนี้เลยหรือ?”“ห่านนี่ก็ด้วย พวกเราปกติเอาไปต้มซุปกันแท้ ๆ!”“กลิ่นเครื่องเทศนี่มันอะไรกัน หอมเหลือเกิน! หากสามารถนำเครื่องเทศพวกนี้ไปขายยังดินแดนต่าง ๆ คงทำเงินได้มหาศาลแน่!”หยางชิงเหอมองคนกลุ่มนี้ “พวกเขาสู้กับมู่ฉีซิวมา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 595

    “คืนนี้ ข้ากับทหารผ่านศึกตระกูลจ้านจะลงมือ ออกเดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อสกัดพวกเขา”“ส่วนภารกิจตามหามู่ฉีซิว...”เฉียนเซียงตัวคิดตามทันที ก่อนหันไปรับรองกับจ้านเฉิงอิ้น “วางใจเถิด แม่ทัพใหญ่ ข้าจัดการเรื่องนี้ให้ได้แน่นอน”จากนั้นเขาบ่นพึมพำ “มู่ฉีซิวผู้นี้ช่างต่ำช้าไร้ยางอายเสียจริง ตัวเองเป็นคนเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมด ดึงให้ฮ่องเต้ต้าฉี่ส่งทัพมาปราบท่าน แล้วผลลัพธ์ล่ะ!”“เขายังแอบเก็บกำลังทหารส่วนหนึ่งไว้ เพื่อบุกโจมตีเมืองหลวงต้าฉี่ เอาฮ่องเต้น้อยมาเล่นเป็นตัวตลกเสียด้วย!”“เชอะ! ฮ่องเต้ผู้นี้ไร้ความสามารถ ส่วนมู่ฉีซิวนั้นไร้ยางอายเกินจะกล่าว ข้าพ่ายแพ้ให้เขามากว่าสิบศึก ก็สมควรแล้ว!”“แต่ตราบใดที่ข้าชนะในศึกสุดท้าย ข้าย่อมเป็นผู้ชนะตัวจริง!”ความมองโลกในแง่ดีของเฉียนเซียงตัวทำให้จ้านเฉิงอิ้นประทับใจลึกซึ้งแม้ชายผู้นี้อาจไม่มีความเป็นผู้นำมากนัก แต่เรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิตกลับไม่มีที่ติจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยถาม “เจ้าต้องการอะไรอีกหรือไม่? ขอมาได้เลย!”ดวงตาคู่เล็กของเฉียนเซียงตัวที่ปกติหรี่เป็นเส้นเล็ก ตอนนี้กลับเบิกกว้างขึ้นมาในทันที“ท่านพูดเองนะ ข้าจะไม่เกรงใจแล้ว!”“ไม่ม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 594

    ที่แท้ขั้นตอนในโรงงานเป็นแบบนี้นี่เอง สะดวกและรวดเร็วกว่าช่างตีดาบตีเหล็กมากนักพวกเขายังได้เห็นรถเครนยกของที่ยกแร่เหล็กลงมาจากยอดเขาเป็นตะกร้า ๆ เข้าไปในโกดังของโรงงานยังมีรอกเชือกสลิงที่ขนแร่ลงมาจากเหมืองคนกลุ่มนี้สงสัยว่าขุดแร่กันอย่างไร ทำไมถึงขนลงมาเป็นตะกร้า ๆ ได้รวดเร็วขนาดนี้เมื่อไปถึงยอดเขา ทุกคนก็เบิกตากว้าง มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วมันเกินจริงมาก!แม่ทัพคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ เฉียนเซียงตัวอ้าปากค้าง “โห... นี่มันรถอะไร แขนยาวขนาดนี้!”“ดูนั่นสิ รถแขนยาวคันนั้นมีหัวสว่านติดอยู่ สามารถเจาะเข้าไปในแร่เหล็ก ตีแร่ให้แตก แล้วขุดออกมาได้!”เดิมทีพวกเขาคิดว่า คนงานเหมืองต้องลำบากมากแต่พอมาเห็นกับตาก็พบว่า มันลำบากจริง ๆ!พวกเขาต้องบรรจุแร่ใส่รอกแล้วปล่อยลงไปส่วนการขุดแร่ การบรรจุใส่ตะกร้า หรือแม้แต่การขึ้นรถเครนยกของ พวกเขาก็ไม่ต้องลงมือทำเองสิ่งที่พวกเขาทำมีเพียงแค่หยิบตะกร้าเปล่าออกจากรอก แล้ววางตะกร้าที่บรรจุแร่เต็มลงไป ปล่อยลงไป...พวกเขาเดินกลับลงมาจากเขาเป็นขบวนใหญ่ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไร“เพราะกองทัพตระกูลจ้านทำให้พวกเขาตกต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 593

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวต่อว่า “ยังมีรถอีกสองร้อยคัน ข้าและทหารผ่านศึกห้าหมื่นคนจะนั่งรถบรรทุกขนาดใหญ่สองร้อยคัน พร้อมกับม้าศึกที่เหลืออยู่ในฐาน ไปสกัดคนที่มู่ฉีซิวส่งไปแทรกซึมเข้าเมืองหลวง คนเหล่านั้นมีประมาณสองแสนสามหมื่นคน แม้จะปลอมตัวมา แต่จำนวนมากขนาดนั้น น่าจะหาได้ไม่ยาก!”“ต้องหยุดพวกเขาให้ได้ หวังเซิ่ง หลีชิง เสียวอู่ และคนอื่น ๆ ที่เคยแทรกซึมเข้าไปในกองทัพธงเหลือง ให้ไปด้วยกัน!”เมื่อหยางชิงเหอได้ยินดังนั้น นางก็วางตะเกียบลงและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ข้าไปด้วย!”เฉินอู่ต้องการจะปฏิเสธหวังเซิ่งและเสียวอู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ลุกขึ้นยืนทันทีหวังเซิ่งไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป!”เสียวอู่ก็กล่าวว่า “พี่ชิงเหอ ข้าไม่ได้มีอคติกับเจ้า แต่เจ้าเป็นสตรี ไม่มีวรยุทธ์ติดตัว พวกเราต้องเสียสมาธิมาคอยปกป้องเจ้า”“พวกเขามีสองแสนกว่าคน แต่เรามีแค่ห้าหมื่นคน เกรงว่าจะดูแลไม่ทั่วถึง”หยางชิงเหอกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้ามาปกป้องข้า ถ้าหาก...”“ข้าสามารถโน้มน้าวให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านได้ ท่านแม่ทัพจะไว้ชีวิตพวกเขาได้หรือไม่”“แม้ว่าจะต้องซ่อนตัวอยู่ในภูเขานี้ตลอดชีวิต ท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 592

    “ถึงแม้จะถืออาวุธเหล็กกล้าก็ไม่มีประโยชน์!”“อาวุธเย็นไม่อาจสู้กับอาวุธร้อนได้ เจ้าคิดจะทำให้ชนเผ่าหมานม่อเป่ยกลายเป็นพวกที่ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร?"“รอให้ข้าสร้างปืนและปืนใหญ่ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาจะต้องเต้นเก่งทุกคน!”เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว รวมถึงจวงเหลียง...ทุกคนตาเป็นประกายเฉินอู่ถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”“แน่นอน แค่ทำให้พวกเขากลัว ข้าถึงต้องการท่อเหล็กหมื่นท่อ เพราะว่าแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันท่อ ไม่สามารถข่มขู่คนเจ็ดแสนกว่าคนได้!”“ถ้ามีปืนใหญ่หมื่นกระบอก ก็เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิว เขาถึงจะถอยทัพ!”“บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของเรามีคำกล่าวที่แพร่หลายว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ“มีอาวุธที่ทรงพลังพอ พวกเผ่าหมานจะกล้าสู้กับเราหรือไม่? พวกเขายังไม่ทันขี่ม้ามาถึงหน้าเรา ข้ายิงปืนใหญ่ทีเดียวก็ตายไปสิบกว่าคนแล้ว!”“ในอนาคตเจอเราก็ต้องวิ่งหนี!”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดถึงคำพูดของหยางชิงเหอที่ว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ...ตอนนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ของเขาก็เหนือกว่าทุกแคว้นแล้ว แต่แคว้นเหล่านั้นยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทำไม~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 591

    ทหารผ่านศึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังคงฮึกเหิมในการต่อสู้ในวันนี้ คนส่วนใหญ่กินไปก็หลับไปคนที่ยังดื่มได้ก็ดื่มไปไม่กี่แก้วแล้วก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะพวกชาวบ้านกลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพืชที่ปลูกยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กองทัพตระกูลจ้านเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร แต่ปกติแล้วทุกคนกินแค่ขนมปังแป้งสาลีและโจ๊กเนื้อ... บางครั้งก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเส้นบะหมี่รวมกัน อาหารเหล่านั้นดีกว่าก่อนภัยแล้งเสียอีก!ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยกินอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุข กินและหยิบอาหารกลับบ้าน!ทหารผ่านศึกที่ยังกินอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ห้าม ปล่อยพวกเขาไปทหารแคว้นเยี่ยนที่มาถึงคนสุดท้าย อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะหนึ่งร้อยยี่สิบตัว เป็นของพวกเขาทหารผ่านศึกกินไม่หมดก็รีบกลับไปนอน เหลืออาหารบนโต๊ะขนาดใหญ่พวกเขาและชาวบ้านก็เหมือนกัน ไปที่โต๊ะข้าง ๆ กินและหยิบอาหารทหารแคว้นเยี่ยนบางคนเปิดถุงใสที่คลุมโต๊ะออก งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติก็ปรากฏแก่สายตาหมูหันย่างตัวนั้น พวกเขาหยิบหนังกรอบมากินชิ้นหนึ่งเคี้ยวจนเสียงกรอบดังออกมา...

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 590

    เพียงพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร ทั้งยังสามารถนำพาให้ครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งได้ด้วยหากพวกเขาลังเล ก็คงเป็นแค่คนโง่เง่าเท่านั้นทุกคนคุกเข่าลง พลางกล่าวกับเฉินขุยอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกข้าน้อยยินดีเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้าน แม้เป็นตายก็ไม่กลัวขอรับ!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้พวกข้าน้อยทำอันใด พวกเราก็จะทำทั้งนั้น!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราคือทหารภายใต้ธงของกองทัพตระกูลจ้าน!”เฉินขุยพึงพออย่างยิ่งกับท่าทีของเหล่าเชลยศึกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังลังเลตอนที่กลับมาพวกเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ คุมตัวกลับมาต่างก็ต้องผลักดันให้กลับพอถามจึงได้รู้ว่าเป็นองครักษ์คนสนิทของแม่ทัพผู้เฒ่าถึงกระนั้น เฉินขุยก็ไม่ได้ฝืนใจพวกเขา ให้ทหารแคว้นเยี่ยนคนอื่น ๆ นำตัวมาที่ด้านหน้าของโอ่งน้ำเมื่อพวกเขามองเห็นโอ่งน้ำเป็นแถวเป็นแนว ก็สงสัยในตัวเองเป็นอย่างแรกในตอนแรกค่อนข้างดื้อดึงดีทีเดียวทว่าเมื่อมองเห็นคนอื่นดื่มน้ำ ก็ไม่ใส่ใจศักดิ์ศรีและก้มศีรษะลงเพื่อดื่มน้ำด้วยคำพูดของเฉินขุยเมื่อครู่นี้ ทำให้เชลยศึกทั้งหมดของกองทัพแคว้นเยี่ยนคลายความสงสัย และสมัตรใจเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 589

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ผอมแห้ง อีกทั้งยังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทว่าเตี้ยกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งช่วงหัวเป็นผู้ที่มีชีวิตยากลำบากคนหนึ่งเฉินขุยให้ทหารพยุงเขาขึ้นมาเมื่อเขามองไปก็เห็นเหล่าทหารจำนวนมาก ดื่มน้ำไปถอดทอนใจไปมีบางคนที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อ ทว่าเมื่อคิดถึงจุบจบว่าอาจจะถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกทำงานหนักจนตายพวกเขาแต่ละคนก็ไร้ชีวิตชีวาแม้ว่าจะดื่มน้ำจนพอแล้ว แต่จุดจบของเชลยศึกล้วนไม่ค่อยดีนักเมื่อสองพันกว่าปีก่อน จุดจบของเชลยศึกจะต้องตกไปเป็นทาสทาสจำนวนมากมักจะถูกสังหารเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยตั้งแต่อายุยังน้อยจุดจบของพวกเขา คงจะหนีไม่พ้นการถูกสังหารเพื่อนำไปเป็นเครื่องบูชายัญ!อย่างไรก็ตาม เฉินขุยเคยอ่านหนังสือที่มาจากยุคปัจจุบันมาหลายเล่ม คนในยุคปัจจุบันนั้นเท่าเทียมกัน ทว่าที่ต้าฉี่ยังไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาอันสั้นแต่การเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์นั้น จะไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นเป็นเหมือนทาสได้อีกท่านแม่ทัพใหญ่เคยพูดไว้ด้วยว่า เขาจะหาวิธียกเลิกการสังหารทาสเพื่อมาเป็นเครื่องบูชายัญดังนั้นเขาจึงหยิบลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ แล้วพูดกับเชลยศึกด้วยเสียงอันเปี่ยมพลังว่า“ตาม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 588

    ทหารผ่านศึกหลายคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน บนหลังคาติดตั้งแผงไฟโซลาร์เซลล์ มีหน้าต่างกระจก จุดตะเกียง และพัดลมเพดาน…เมื่อเข้ามาข้างในไม่ร้อนอบอ้าวเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ยังมีพัดลมเพดานที่สามารถพัดได้ด้วยเตียงของพวกเขาล้วนแต่ทำมาจากโครงเหล็กเสื่อของพวกเขา สานมาจากไม้ไผ่อีกทั้งแต่ละคนต่างก็มีแก้วน้ำที่ทำมาจากเหล็กผ้าขนหนูหนึ่งผืน กะละมังเคลือบเซรามิกหนึ่งใบ แก้วน้ำพลาสติกหนึ่งใบ ที่ภายในใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันเอาไว้เฉียนเซียงตัวหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วถามมั่วฝานด้วยความสงสัย“สหายมั่ว สิ่งนี้คืออันใดกัน?”มั่วฝานหัวเราะพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเล่นโฆษณายาสีฟันชิ้นหนึ่งในจอภาพนั้น สตรีงดงามนางหนึ่งกำลังบีบยาสีฟัน หลังจากนั้นก็เป็นฉากแปรงฟันเฉียนเซียงตัวตะลึงจนอ้าปากค้าง สายตาถูกสาวงามดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์เขาเดินไปอย่างงุนงง พลางใช้มือสัมผัสไปที่หน้าจอวิดีโอหยุดลงจากนั้นเมื่อแตะเบา ๆ อีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อเขาประหลาดใจถึงขีดสุด “นะ นี่มันคือสิ่งใดกันแน่ ช่างอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”“ใส่คนลงไปข้างในได้ด้วยงั้นหรือ?”มั่วฝานเปิ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status