ลมและน้ำค้างในด่านเจิ้นกวน ดูเหมือนจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้บนใบหน้าของนางนางสวมชุดหรูหรา ท่วงท่าดูสง่างามไม่ได้ต่างจากตอนก่อนแต่งงานเลยไม่สิ สวยยิ่งกว่าตอนอยู่ในเมืองหลวงเสียอีก!ล้วนแต่แต่งงานกับแม่ทัพเหมือนกัน แต่อวิ๋นเหนียงกลับดูซูบผอมเหมือนจะล้มได้ตลอดเวลาลูกในอ้อมแขนของนาง ร้องไห้ออกมาจนไม่มีแรงจะร้องแล้ว ราวกับจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อนางอุ้มลูกพร้อมกับร้องไห้พุ่งเข้าไปกอดอาเล็กของนางฮูหยินเฉินรีบประคองเด็กเอาไว้ แล้วปลอบใจนางเสียงของนางแหบแห้ง ริมฝีปากแตกอย่างรุนแรงเพราะความแห้งกร้านฮูหยินเฉินเรียกสาวใช้ ให้เปิดขวดน้ำแร่ให้นางดื่มอวิ๋นเหนียงไม่ได้ดื่มน้ำรสหวานเช่นนี้มานานแล้ว จึงหยิบขวดน้ำขึ้นมากรอกใส่ปาก ดื่มลงไปทั้งเร็วและรีบร้อน เมื่อน้ำใกล้จะถึงก้นขวด ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าสามีไม่ได้ดื่มน้ำดี ๆ เช่นนี้มานานแล้วนางส่งน้ำที่เหลือให้เฉิงจื่อเซียวเฉิงจื่อเซียวรับขวดน้ำแร่โปร่งแสงมา แล้วดื่มน้ำหมดในอึกเดียวเขาใช้ลิ้นเลียน้ำหยดสุดท้าย ก่อนจะวางขวดน้ำลงอย่างไม่เต็มใจฮูหยินเฉินพูดกับเฉิงจื่อเซียว “ข้าอยากพาอวิ๋นเหนียงกับลูกกลับไปที่ด่านเจิ้นกวน เจ้าอยากไปกับพวก
ดวงตาทั้งสองของสวีหวยเบิกกว้างราวกับกลองนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำพูดที่ทรยศเช่นนี้ ต้าฉี่ไม่มีฮ่องเต้น้อยได้ แต่ขาดแม่ทัพใหญ่ไม่ได้หมายความว่าอย่างไรพวกเขาไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา นี่คือการกบฏอย่างเปิดเผย!เฉินขุยจัดการให้ฮูหยิน หลานสาวและเด็กขึ้นรถม้าแล้วส่วนตนก็ขึ้นไปบนหลังม้า แล้วมองไปที่สวีหวยอย่างมองลงไปเบื้องล่าง“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้ข้ามาบอกเจ้าว่า ถ้าอยากได้อาหารและน้ำ ต้องมาที่ด่านเจิ้นกวนเอง...”“เอาแต่ซ่อนตัวอยู่นอกด่านเจิ้นกวน มองดูเศษซากที่ล่มสลายของด่านเจิ้นกวน เจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ทัพแคว้นต้าฉี่ มีสิทธิ์มั่นอกมั่นใจอะไรจะไปเสวยสุขการสนับสนุนของท่านแม่ทัพ!”สวีหวยปกป้องด่านถงกวนมายี่สิบปี เป็นแม่ทัพสูงที่สุดไม่มีใครกล้าพูดขนาดนี้กับเขาแม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังต้องให้เกียรติเขาอยู่สามส่วนเฉินขุยเป็นเพียงสุนัขรับใช้ของจ้านเฉินอิ้น ที่ทรยศต่อฮ่องเต้ กล้ามาดูถูกเขาถึงเพียงนี้สองมือเขากำเป็นหมัดแน่น แล้วพูดด้วยความโกรธ “หุบปาก เจ้ากล้าขัดต่อราชโองการของฮ่องเต้ กำลังเตรียมจะก่อกบฏอยู่ใช่หรือไม่?”เฉินขุยเลี้ยวหัวม้า แล้วยิ้มอย่างประชดประชัน“เจ้าต้องการใช้อ
ใบหน้าของพวกนางไม่ได้ล้างหน้ามานาน แต่มวยผมก็ถูกหวีอย่างพิถีพิถันฮูหยินเฉินกวาดตามอง กวักมือเรียกฮูหยินทั้งสาม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มมีเมตตา “มาสิ ฮูหยินทั้งสามมานี่!”สามีของฮูหยินทั้งสามมีตำแหน่งขุนนางระดับเดียวกับเฉินขุยเฉินขุยเกิดมาในตระกูลโหวที่มีสถานะทางครอบครัวสูงกว่าทหารธรรมดา แคว้นต้าฉี่ให้ความสำคัญกับภูมิหลัง สถานะของฮูหยินเฉินสูงกว่าสตรีชั้นสูงทั้งสามคนนี้พวกนางเดินไปที่รถม้า แล้วทำความเคารพต่อฮูหยินเฉิน“ข้าน้อยคารวะฮูหยินเฉิน”ฮูหยินเฉินหยิบลูกอมหนึ่งกำมือออกมามอบให้ฮูหยินคนแรกด้วยรอยยิ้ม“มานี่สิ เอาไปแบ่งให้ลูก ๆ กินเถอะ!”เมื่อฮูหยินคนแรกเห็นว่าเป็นลูกอม นางตกใจมาก ไม่คิดว่าในด่านเจิ้นกวนจะมีลูกอมนางปฏิเสธอยู่หลายครั้ง “นี่จะรับได้อย่างไรเจ้าคะ?”ลูกอมในฐานะที่เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นางรู้ว่ามันมีค่าเพียงใดฮูหยินเฉินหยิบข้าวห้าชั่งสามถุงและน้ำแร่สามขวดออกมาจากห้องโดยสารรถม้า มอบให้ฮูหยินทั้งสามคน“จริง ๆ แล้วของพวกนี้เก็บไว้ให้อวิ๋นเหนียง ในเมื่อนางไปกับข้าแล้ว ฮูหยินทั้งสามเอาไปเถอะ”“วันหน้า หากมีเรื่องทุกข์ร้อนอันใดก็ไปหาข้า ข้าช่วยได้ข้าจะช
เช้าตรู่ เย่มู่มู่รับสายจากผู้อาวุโสมู่และรองผู้อำนวยการจางผู้อาวุโสมู่มาถึงหน้าประตูพร้อมกับรองผู้อำนวยการจางและผู้อำนวยการนักสะสมรายใหญ่สองคนจากคราวที่แล้วก็ตามมาด้วย ผู้อาวุโสจางสวมแว่นตา ผู้อาวุโสสวี่บุคลิกสุภาพและสง่างามกลุ่มคนขับรถมาถึงนอกคฤหาสน์ของเย่มู่มู่อย่างยิ่งใหญ่พนักงาน บอดีการ์ด และคนขับรถรออยู่ด้านนอกเย่มู่มู่พาพวกเขาไปที่ห้องอาหาร พนักงานในครัวของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวน ส่งอาหารเช้ามาเรียบร้อยแล้วผู้อาวุโสมู่หยิบซาลาเปานึ่งร้อน ๆ บนโต๊ะขึ้นมา พลางถามเย่มู่มู่ขณะกิน“เครื่องลายครามโบราณล่ะครับ?”เย่มู่มู่เปิดประตูบานเลื่อนที่เชื่อมระหว่างห้องครัวและห้องรับแขก“นี่ค่ะ อยู่ในห้องรับแขก มาดูเองเลยค่ะ!”พวกเขาคิดว่าของโบราณที่เย่มู่มู่จะให้ยืมนั้นเป็นเพียงชามกระเบื้องไม่กี่ใบเท่านั้นใครก็คิดไม่ถึงว่า จะมีของโบราณหลายร้อยชิ้นวางอยู่ในห้องรับแขกของเธอนี่มันหลายร้อยชิ้นเชียวนะ!นักเล่นของโบราณเหล่านี้ จะเคยเห็นจำนวนมากเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันตอนนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนกับหนูตกถังข้าวสารวิ่งไปที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายสักพักก็ดูข
ไม่คิดเลยว่าจะมีค่ามากขนาดนี้ผู้อาวุโสจางเสนอราคา “หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ “สองพันห้าร้อยล้าน!”ผู้อำนวยการหลิวก็อยากประมูลด้วยเช่นกันแต่ใช้เงินจำนวนมากไปกับการปรับปรุงและบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์ กองทุนที่จังหวัดจัดสรรมาให้ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนพวกเขาซื้อของโบราณราคาแพงอีกเมื่อของโบราณล้ำค่าไปตกอยู่ในมือของนักสะสม เขายังปวดใจมาก“คุณหนูเย่ พวกเราหารือกันหน่อยได้ไหมครับ กาน้ำชาสามารถจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สักระยะหนึ่งก่อนค่อยนำออกไปขายได้ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ผู้ซื้อก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย!”“พวกเขาจะยินดีให้ความร่วมมือแน่นอนครับ!”ตอนนี้เป็นตลาดของผู้ขายแล้วเธอยังมีของโบราณมากมายหากนักสะสมรายใหญ่หลายรายอยากทำธุรกิจกับเธอ พวกเขาจะร่วมมืออย่างแน่นอนเป็นไปตามคาด พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าตกลง“ตราบใดที่ขายให้ผม อย่าว่าแต่แสดงในพิพิธภัณฑ์ ต่อให้ต้องจัดแสดงอีกสองสามปีผมก็ยินดีครับ”ในที่สุดผู้อาวุโสจางก็ซื้อกาน้ำชารูปทรงน่าเกลียดในราคาสามพันล้านเขาเซ็นสัญญากับผู้อำนวยการหลิวเจิ้งชิงโดยจะจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาสามปี มีค่าชดเชยความเส
เมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นว่าเย่มู่มู่จะเปิดร้านขายวัตถุโบราณ ก็ถามทันทีว่า “ร้านค้าข้าง ๆ ผมจะเซ้งออกไป คุณต้องการหรือเปล่าครับ?”เย่มู่มู่เคยไปย่านวัตถุโบราณเพียงครั้งเดียว เธอลืมไปแล้วว่า ร้านค้าที่อยู่ติดกับร้านของผู้อาวุโสมู่เป็นแบบไหนผู้อาวุโสมู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดคลิปของร้านค้าด้านข้างให้เย่มู่มู่ ๆ ดู“เถ้าแก่ร้านข้าง ๆ วางแผนจะปล่อยร้านให้คนอื่น พื้นที่ร้อยกว่าตารางเมตร มีสองชั้น เทียบกับร้านเล็ก ๆ ของผมแล้วกว้างขวางกว่ามาก”“ร้านค้าต่าง ๆ ในย่านวัตถุโบราณเป็นที่ต้องการมาก ถ้าคุณต้องการ ผมจะโทรหาเถ้าแก่ ช่วยคุณเซ้งต่อมา”ผู้อาวุโสสวี่และผู้อาวุโสจาง สองตาแก่ ต่างพากันเดาะลิ้นโดยไม่ได้นัดหมายตาแก่นี่คิดจะเอายัยหนูไว้ใกล้ ๆ จะได้ประโยชน์ก่อนใครเขานี่ถึงขนาดช่วยคนเขาเซ้งร้านที่อยู่ข้าง ๆ แล้วช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆเย่มู่มู่ดูคลิปอย่างตั้งใจ ร้านค้าแบ่งออกเป็นชั้นบนกับชั้นล่างสองชั้น แต่ละชั้นมีขนาดร้อยกว่าตารางเมตรสำหรับถนนย่านวัตถุโบราณและเครื่องหยก ถือได้ว่ากว้างขวางแล้วการตกแต่งดูมีระดับเป็นอย่างมาก บนชั้นวางของจัดแสดงของชิ้นเล็ก ๆ จากสมัยราชวงศ์ชิงไว้เธอแยกข
ส่งไปให้จ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายว่า “เด็กกำพร้าสองพันคน จะต้องสร้างโรงเรียนสักแห่ง”ส่วนโรงเรียนคืออะไรนั้น เย่มู่มู่แกะโทรศัพท์เครื่องใหม่ออก จากนั้นดาวน์โหลดคำแนะนำของโรงเรียนสิบกว่าแห่งลงไปรวมถึงโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย และโรงเรียนที่เด็กในวัยต่าง ๆ เข้าเรียนหลังจากเธอส่งโทรศัพท์มือถือไปให้จ้านเฉิงอิ้นแล้ว ก็หยิบกระดาษใบที่สามบนพื้นขึ้นมาเป็นมั่วฝานส่งจดหมายมา บอกว่าประทัดและอากาศยานไร้คนขับใกล้จะหมดแล้ว จำเป็นจะต้องรีบเติมของส่วนสาเหตุว่าทำไมอากาศยานไร้คนขับถึงถูกใช้หมดเร็วขนาดนี้นั้นเพราะเขาใช้อากาศยานไร้คนขับบรรทุกระเบิด บุกเข้าไปในทัพของศัตรูโดยตรง ดังนั้นตอนนี้ จึงมีอากาศยานไร้คนขับเหลืออยู่เพียงสิบสามลำเท่านั้น!ฟ้าด้านนอกยังไม่มืด เย่มู่มู่อุ้มแจกันลงไปชั้นล่าง ขับรถกระบะตรงไปที่ร้านค้าออฟฟิเชียลของแบรนด์ที่ขายอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งเป็นศูนย์ขนาดใหญ่และมีสินค้าครบครันในเมืองโดยตรงเธอซื้ออากาศยานไร้คนขับบรรทุกหนัก ที่สามารถส่งสินค้า พ่นยาฆ่าแมลง และบรรทุกของได้ถึงห้าสิบกิโลกรัมแต่ราคาที่ขายนั้นแพงมาก ลำละสี่แสนเก้าหมื่นเก้าพันบาท อีกนิดเดียวก็จะห้า
ฮ่องเต้ทั้งสุภาพและมีมารยาท เจตนาจะดึงเขาไปเป็นพวกเขาเริ่มจากการชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการป้องปรามเผ่าหมานของจ้านเฉิงอิ้นก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับความสำคัญ เป็นเพราะฮ่องเต้แคว้นฉี่ตาบอด มองคนไม่เป็นจึงคิดจะยึดอำนาจการทหาร ของแม่ทัพใหญ่ที่มีผลงานการรบอันเกรียงไกรเช่นนี้หากจ้านเฉิงอิ้นเต็มใจออกจากแคว้นฉี่ ฮ่องเต้แคว้นอวี่จะมอบงานสำคัญให้เขา ให้เขาควบคุมอำนาจทหารของแคว้นอวี่ทั้งหมดและจะรับกองทัพตระกูลจ้านและราษฎรในด่านเจิ้นกวนทั้งแปดหมื่นชีวิตภายใต้การดูแลของเขา ไว้ทั้งหมดเช่นกันและจะแบ่งที่นาให้ชาวบ้านทุกคนด้วยแม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ใต้หล้าแร้นแค้น ไร่นาไม่อาจเพาะปลูกเสบียงอาหาร ที่ดินนี้จะให้หรือไม่ แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างกันมากนักแต่หากจ้านเฉิงอิ้นไม่เต็มใจไปจากด่านเจิ้นกวน ประสงค์จะทำงานให้แคว้นฉี่ต่อไป เยี่ยงนั้นก็ไม่เป็นไรเขาได้ให้คณะทูตเตรียมเงินทองและเครื่องใช้ที่ทำจากหยกจำนวนมาก มาเจรจาค้าขายกับจ้านเฉิงอิ้นแคว้นอวี่ต้องการซื้อเสบียง กับหญ้าและอาหารที่วัวม้ากิน หากสามารถขนน้ำกลับไปด้วยจำนวนหนึ่งก็ยิ่งดีส่วนเงินทองและเครื่องหยกนั้น คณะท
หลังจากกลุ่มคนจากไป จวงเหลียงก็หยิบพระราชโองการลับของไทเฮาออกมาไทเฮาทรงเขียนถึงมั่วฝาน เพียงแต่เขาไม่อยู่ จวงเหลียงจึงเปิดพระราชโองการออกด้านบนเขียนไว้ว่า แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน เผ่าหมาน... ล้วนส่งสาส์นตราแผ่นดินมายังฮ่องเต้แคว้นต้าฉี่พวกเขามีเจตนาที่จะผูกมิตรไมตรีกับแคว้นต้าฉี่ยินดีลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามเป็นเวลาห้าสิบปีพวกเขายินดีที่จะยกเมืองบางเมืองให้ เผ่าหมานส่งวัวและแกะมาถวาย...ข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียวของข้อตกลงหยุดสงคราม เนื่องมาจากจ้านเฉิงอิ้นสังหารทหารของพวกเขาไปมากมายในเมื่อลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็ไร้ประโยชน์พวกเขาเรียกร้องให้ฮ่องเต้น้อยสังหารจ้านเฉิงอิ้นแล้วค่อยลงนามในข้อตกลงจ้านเฉิงอิ้นเห็นจดหมายลับฉบับนี้ โทสะก็ลุกโชน เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนเขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อแคว้นต้าฉี่กองทัพตระกูลจ้านสองแสนนายของเขา บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน เหลือไม่ถึงสองหมื่นนายฮ่องเต้น้อยไม่เพียงแต่ไม่เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เขาผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงแต่ยังแสดงเจตนาสังหารอย่างชัดเจน!ในจดหมายลับ ไทเฮากล่าวถึงฮ่องเต้น้อยทรงสนพระทัยการเจรจาสันติภ
ซุนหลินก็เข้ามาในกระโจมด้วย รีบคุกเข่าลงข้าง ๆ ซุนเฮ่อ“ท่านแม่ทัพ ท่านลุงสามรู้สถานที่ตั้งของเหมืองแร่เหล็กจริง ๆ ขอท่านให้โอกาสเขา เขาเพียงแค่ถูกกองทัพธงเหลืองล้างสมอง ถึงได้บังอาจซ่อนระเบิดเพื่อระเบิดท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพูดกับซุนเฮ่อ “ลุกขึ้นก่อน!”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”พวกเขาสี่ร้อยคนถูกทิ้งไว้ในกองทัพตระกูลจ้าน มีหน้าที่ต้มโจ๊กให้ทหารโดยเฉพาะได้เห็นว่าทรัพยากรของกองทัพตระกูลจ้านนั้นอุดมสมบูรณ์เพียงใดได้รู้ว่าน้ำของกองทัพตระกูลจ้าน บรรจุด้วยรถคันใหญ่ มีไม่จำกัด ดื่มได้ไม่อั้นทุกวัน!แค่สองวันนี้ พวกเขาอ้วนขึ้นแล้วแก้มที่ตอบก็มีเนื้อขึ้นมาและตอนต้มโจ๊ก อ้างว่าชิมรสชาติ ใช้ชามเล็กแอบกิน ถูกคนในโรงครัวเห็น ก็ไม่มีใครว่าพวกเขาพวกเขาล้วนอยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากกลับไปยังเมืองที่กองทัพธงเหลืองยึดครองอีกแล้วซุนเฮ่อเตรียมตัวมาอย่างดี หยิบแผนที่ที่ซ่อนไว้ออกมาเป็นแผนที่ที่วาดบนหนังวัวที่ตั้งอยู่ในภูเขาลึกทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหยงโจวท่านเทพส่งเหมืองแร่เหล็กให้เขา หนังสือเหมืองถ่านหินก็ถูกระบุไว้เช่นกันท่านเทพระบุไว้ว่า เหมืองแร่เหล็กหมู่บ้านฮั่นจงโกว...จ้านเฉิงอิ้นหยิ
ในสายตาของนักปราชญ์อย่างจวงเหลียง การแต่งกายเช่นนี้ถือว่าผิดจริยธรรมมันยิ่งกว่าการแต่งตัวของขอทานที่...ขาดรุ่งริ่งเสียอีกทายาทตระกูลมั่วผู้สง่างาม หลานชายแท้ ๆ ของไทเฮา เหตุใดจึงตกต่ำถึงเพียงนี้“ท่านแม่ทัพ ให้รัฐทายาทน้อยกลับมาเถิด!”แต่จ้านเฉิงอิ้นกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องดี อย่างน้อยในโลกของท่านเทพ มั่วฝานก็สามารถหางานทำเลี้ยงตัวเองได้อย่างน้อยก็ไม่ต้องให้ท่านเทพเลี้ยงดู และเพิ่มภาระให้ท่านเทพ!“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้เขาทำงานได้ ก็ดีแล้ว!”“แต่...”“มั่วฝานสมัครใจเอง หากเขาไม่ต้องการทำงาน ท่านเทพก็คงบังคับเขาไม่ได้”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่จวงเหลียงมองดูแล้วก็อดปวดใจไม่ได้เขาอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างไร ทุกวันนั่งอยู่ในรถ เปิดแอร์เย็น ดื่มเครื่องดื่มเย็นกินข้าวสวย มีคนจากจวนรัฐทายาทคอยปรุงอาหารวันละสามมื้อให้เขากินเขาเคยลำบากแบบนี้เมื่อไหร่กันจ้านเฉิงอิ้นเห็นเขายังคงเหม่อลอย จึงถามว่า “เป็นอะไร?”เขาส่งจดหมายลับในมือให้ด้วยมือทั้งสอง“หวังเซิ่งจากกองทัพธงเหลืองส่งข่าวมา พวกเขาเพิ่มกำลังการผลิตระเบิด สถานที่ผลิตระเบิดอยู่ในภูเขาของอวิ๋นโจว ห่างจากเมืองทั้งห้ามาก อยู่ห่างจา
เย่มู่มู่ยังโยนแท็บเล็ตเข้าไปในแจกันด้วยตุ้บ แท็บเล็ตหล่นลงมาจ้านเฉิงอิ้นหยิบขึ้นมา เปิดอัลบั้มรูปในแท็บเล็ตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสองคนสวมเสื้อยืดแขนสั้นรูปแบบทันสมัย ร่างกายสกปรกมีจุดปูนซีเมนต์ติดอยู่พวกเขากำลังขนอิฐในพื้นที่ก่อสร้างใหม่โดยเฉพาะมั่วฝาน ที่มองไม่ออกเลยว่าเคยเป็นรัฐทายาทเมืองหลวงเจ้าสำราญมาก่อนมีภาพถ่ายหลายภาพที่แสดงให้เห็นว่า มีคนงานคนหนึ่งส่งบุหรี่ให้มั่วฝาน แต่เขากลับโบกมือปฏิเสธ และยังโค้งคำนับเพื่อขอบคุณอีกด้วยสองหนุ่มน้อยทั้งสุภาพและนอบน้อม อีกทั้งยังหน้าตาดี ทำให้พวกเขาได้รับความชื่นชอบจากเพื่อนร่วมงานในพื้นที่ก่อสร้างเป็นอย่างมากเย่มู่มู่เคาะแจกันเบา ๆ แล้วพูดว่า “เห็นหรือเปล่า?”จ้านเฉิงอิ้นมองมั่วฝานที่ใบหน้าเลอะเทอะไปด้วยคราบสกปรก และอดถามไม่ได้ “นี่มั่วฝานจริง ๆ หรือ?”“ของแท้แน่นอน ไม่ใช่ของปลอม!”“ดีมาก ปล่อยให้เขาอยู่ทางนั้น หาเงินสร้างบ้านต่อไปเถอะ หากเขาอยู่สบายเกินไปเมื่อไร ก็ค่อยส่งเขากลับมา!”เย่มู่มู่ “…”นางรู้สึกเหมือนจะได้ยินน้ำเสียงของจ้านเฉิงอิ้นแฝงความอิจฉาเล็กน้อยนี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหม?การแบกอิฐในพื้นที่ก่อสร้างม
“จริงแท้แน่นอน ข้าน้อยไม่กล้าปิดบัง!”“เจ้าเห็นด้วยตาตัวเองหรือ?”“ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่เพียงสัมผัสแจกัน จากนั้นแจกันก็พ่นกล่องอาหารออกมา และ...และยัง...”“และอะไร?”“ซ่งอวิ๋นฮุยหมอประจำกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจ รีบหยิบกล่องอาหารขึ้นมาให้ข้าน้อยสามกล่อง และยังแบ่งอีกยี่สิบกว่ากล่องไปให้แม่ทัพคนอื่นได้ร่วมรับประทานด้วย!”“ท่านแม่ทัพ ตำนานกระถางวิเศษเป็นเรื่องจริง แจกันนี้สามารถพ่นสิ่งของที่ต้องการออกมาได้ตามใจ!”เมื่อทหารผ่านศึกพูดจบ บรรยากาศในกระโจมก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างประหลาด“แบบนี้ก็หมายความว่า รถและสิ่งของทั้งหมดอาจถูกท่านแม่ทัพเก็บไว้ในกระถางวิเศษ”“ใช่ รถคันใหญ่ขนาดนั้น ในพื้นที่รกร้างแบบนี้ไม่มีทางซ่อนได้แน่!”“แล้วอาหารพวกนี้กินได้หรือเปล่า? ข้าหิวมากแล้ว”ข้าวสิบกล่องพอดีสำหรับแบ่งกันคนละกล่องพอดีเซี่ยเวยเลือกที่จะประหยัดเสบียง โดยหยิบอาหารออกมาเพียงห้ากล่อง และให้ทุกคนเอาชามสเตนเลสของตัวเองออกมาข้าวแต่ละคนได้แบ่งเพียงครึ่งกล่องกับข้าวก็แบ่งกันคนละครึ่งกล่องเช่นกันจ้าวเฉียนเป็นคนแรกที่เริ่มกิน เขาหยิบน่องไก่ชิ้นใหญ่ขึ้นมา และกัดไปหนึ่งคำ รสชาติหอมกรุ
จ้านเฉิงอิ้นรู้ดีว่า ความลับที่แจกันสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ คงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วการหายตัวไปของมั่วฝานและหน่วยกล้าตายน้อย!แม่ทัพเซี่ยเวย จ้าวเฉียน และสวีจื่อหลิง...รวมถึงพวกแม่ทัพกองทัพเยี่ยนล้วนได้เห็นกับตาซ่งอวิ๋นฮุยรีบพาหมอกองทัพสองคนมาด้วยความเร่งรีบ และช่วยกันพาจ้านเฉิงอิ้นกลับไปยังกระโจมเพื่อทำการตรวจบาดแผลให้เขา...เขาทำงานไม่หยุดมือจนดึกดื่นเกือบถึงเที่ยงคืนเป็นทหารผ่านศึกที่ป้อนยาและช่วยพันแผลให้จ้านเฉิงอิ้น โดยมีซ่งอวิ๋นฮุยอยู่เป็นเพื่อนเฝ้ายามในคืนนั้นต่อมา ทหารผ่านศึกคนนั้นก็ค้นพบความลับของแจกันวิเศษปากแจกันปล่อยข้าวสวยร้อน ๆ ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมาสมองของทหารผ่านศึกถึงกับหยุดทำงานชั่วขณะซ่งอวิ๋นฮุยที่โดนเสียงดังปลุกตื่นขึ้นมา เห็นกล่องอาหารหล่นลงมาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาเคยชินแล้วเขาหยิบกล่องขึ้นมา ยื่นให้ทหารผ่านศึก มีทั้งกุ้งตุ๋น หมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยร้อน ๆ หนึ่งกล่องใหญ่“เอาไปกินเถอะ!”ทหารผ่านศึกอุ้มกล่องอาหารสามกล่องไว้ในอ้อมแขน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยกินอะไรที่ดีขนาดนี้มาก่อนซ่งอวิ๋นฮุยเห็นเขายืนนิ่ง ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเก็บ
หลูซีมองห้องอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเทพ ห้องแบบนี้ข้าอยู่ได้จริง ๆ หรือ?”“แน่นอน ห้องนี้เป็นของเจ้า จากนี้ไปก็นอนที่นี่ได้เลย!”หลูซีถึงกับทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเย่มู่มู่ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยได้อยู่ในห้องที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลยห้องนี้ใหญ่กว่าห้องในจวนของรัฐทายาทเสียอีกแถมยังมีโคมไฟ ชั้นหนังสือ โต๊ะหนังสือ...และยังมีของชิ้นใหญ่ที่ดูเหมือนแท็บเล็ต ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรเย่มู่มู่พยุงหลูซีให้ลุกขึ้น และสังเกตว่าเขากำลังจ้องมองทีวีด้วยความสนใจเธอหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาแล้วกดเปิด...สองคนจากยุคโบราณเหมือนได้เห็นโลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน~ ทั้งคู่ย่อตัวลงนั่ง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอทีวีด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาไม่กล้าแตะต้อง เพราะกลัวจะทำให้ทีวีเสียหาย! “ใหญ่กว่าแท็บเล็ตเสียอีก แถมยังคมชัดกว่ามาก นี่มันคืออะไร?” “ถ้านำสิ่งนี้ไปถวายให้ไทเฮา ไทเฮาคงจะดีใจมากแน่ ๆ!” เย่มู่มู่อธิบายว่า “นี่คือทีวี มันต้องใช้ไฟฟ้า ถ้าจะย้ายไปในยุคโบราณ แค่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่พอหรอก พวกเจ้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นช่
เย่มู่มู่ตอบอย่างใจเย็นว่า “ใช่แล้ว!”“ข้าอยากลอง...”เย่มู่มู่พูดขัดจังหวะอย่างหมดอารมณ์ “แต่เจ้าไม่มีใบขับขี่!"เดิมทีมั่วฝานที่กำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นท่าทางหงอยเหงาของชายหนุ่ม เธอก็พูดอีกว่า “แต่ขับในบริเวณคฤหาสน์ได้ รอจนสว่างแล้ว ค่อยขับวนรอบหมู่บ้าน แต่ห้ามขึ้นถนนใหญ่”“ถ้าตำรวจจราจรจับได้ เสียค่าปรับเป็นเรื่องเล็ก แต่รถจะถูกยึด...”“รถคันนี้แพงมาก!”เมื่อมั่วฝานได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างดีใจครั้งแล้วครั้งเล่า“ท่านเป็นใคร พรุ่งนี้ข้าสามารถขับรถในหมู่บ้านได้หรือ?”“ใช่!”“ตราบใดที่ไม่ขึ้นถนนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา?”“ใช่ ถนนใหญ่มีตำรวจจราจรคอยกั้นรถตรวจสอบใบขับขี่!”“ดีมาก ข้าจะลองขับแค่สองสามรอบ จะไม่ขับรถของท่านพังแน่นอน”เย่มู่มู่หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าแล้วโยนให้เขาเขารับกุญแจรถอย่างกระตือรือร้น แล้วเข้าไปนั่งในห้องคนขับมองดูการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างตื่นเต้นเขาค่อย ๆ สตาร์ทรถ และรถก็สตาร์ทติดจริง ๆฮ่า ฮ่า...เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ถอยรถออกจากโรงรถ แล้วค่อย ๆ ขับวนรอบสวนของคฤหาสน์ หลังจากขับครบสองรอบจริง ๆ แล้ว ก็ถอยรถกลั
“ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน