ใบหน้าของพวกนางไม่ได้ล้างหน้ามานาน แต่มวยผมก็ถูกหวีอย่างพิถีพิถันฮูหยินเฉินกวาดตามอง กวักมือเรียกฮูหยินทั้งสาม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มมีเมตตา “มาสิ ฮูหยินทั้งสามมานี่!”สามีของฮูหยินทั้งสามมีตำแหน่งขุนนางระดับเดียวกับเฉินขุยเฉินขุยเกิดมาในตระกูลโหวที่มีสถานะทางครอบครัวสูงกว่าทหารธรรมดา แคว้นต้าฉี่ให้ความสำคัญกับภูมิหลัง สถานะของฮูหยินเฉินสูงกว่าสตรีชั้นสูงทั้งสามคนนี้พวกนางเดินไปที่รถม้า แล้วทำความเคารพต่อฮูหยินเฉิน“ข้าน้อยคารวะฮูหยินเฉิน”ฮูหยินเฉินหยิบลูกอมหนึ่งกำมือออกมามอบให้ฮูหยินคนแรกด้วยรอยยิ้ม“มานี่สิ เอาไปแบ่งให้ลูก ๆ กินเถอะ!”เมื่อฮูหยินคนแรกเห็นว่าเป็นลูกอม นางตกใจมาก ไม่คิดว่าในด่านเจิ้นกวนจะมีลูกอมนางปฏิเสธอยู่หลายครั้ง “นี่จะรับได้อย่างไรเจ้าคะ?”ลูกอมในฐานะที่เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นางรู้ว่ามันมีค่าเพียงใดฮูหยินเฉินหยิบข้าวห้าชั่งสามถุงและน้ำแร่สามขวดออกมาจากห้องโดยสารรถม้า มอบให้ฮูหยินทั้งสามคน“จริง ๆ แล้วของพวกนี้เก็บไว้ให้อวิ๋นเหนียง ในเมื่อนางไปกับข้าแล้ว ฮูหยินทั้งสามเอาไปเถอะ”“วันหน้า หากมีเรื่องทุกข์ร้อนอันใดก็ไปหาข้า ข้าช่วยได้ข้าจะช
เช้าตรู่ เย่มู่มู่รับสายจากผู้อาวุโสมู่และรองผู้อำนวยการจางผู้อาวุโสมู่มาถึงหน้าประตูพร้อมกับรองผู้อำนวยการจางและผู้อำนวยการนักสะสมรายใหญ่สองคนจากคราวที่แล้วก็ตามมาด้วย ผู้อาวุโสจางสวมแว่นตา ผู้อาวุโสสวี่บุคลิกสุภาพและสง่างามกลุ่มคนขับรถมาถึงนอกคฤหาสน์ของเย่มู่มู่อย่างยิ่งใหญ่พนักงาน บอดีการ์ด และคนขับรถรออยู่ด้านนอกเย่มู่มู่พาพวกเขาไปที่ห้องอาหาร พนักงานในครัวของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวน ส่งอาหารเช้ามาเรียบร้อยแล้วผู้อาวุโสมู่หยิบซาลาเปานึ่งร้อน ๆ บนโต๊ะขึ้นมา พลางถามเย่มู่มู่ขณะกิน“เครื่องลายครามโบราณล่ะครับ?”เย่มู่มู่เปิดประตูบานเลื่อนที่เชื่อมระหว่างห้องครัวและห้องรับแขก“นี่ค่ะ อยู่ในห้องรับแขก มาดูเองเลยค่ะ!”พวกเขาคิดว่าของโบราณที่เย่มู่มู่จะให้ยืมนั้นเป็นเพียงชามกระเบื้องไม่กี่ใบเท่านั้นใครก็คิดไม่ถึงว่า จะมีของโบราณหลายร้อยชิ้นวางอยู่ในห้องรับแขกของเธอนี่มันหลายร้อยชิ้นเชียวนะ!นักเล่นของโบราณเหล่านี้ จะเคยเห็นจำนวนมากเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันตอนนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนกับหนูตกถังข้าวสารวิ่งไปที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายสักพักก็ดูข
ไม่คิดเลยว่าจะมีค่ามากขนาดนี้ผู้อาวุโสจางเสนอราคา “หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ “สองพันห้าร้อยล้าน!”ผู้อำนวยการหลิวก็อยากประมูลด้วยเช่นกันแต่ใช้เงินจำนวนมากไปกับการปรับปรุงและบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์ กองทุนที่จังหวัดจัดสรรมาให้ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนพวกเขาซื้อของโบราณราคาแพงอีกเมื่อของโบราณล้ำค่าไปตกอยู่ในมือของนักสะสม เขายังปวดใจมาก“คุณหนูเย่ พวกเราหารือกันหน่อยได้ไหมครับ กาน้ำชาสามารถจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สักระยะหนึ่งก่อนค่อยนำออกไปขายได้ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ผู้ซื้อก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย!”“พวกเขาจะยินดีให้ความร่วมมือแน่นอนครับ!”ตอนนี้เป็นตลาดของผู้ขายแล้วเธอยังมีของโบราณมากมายหากนักสะสมรายใหญ่หลายรายอยากทำธุรกิจกับเธอ พวกเขาจะร่วมมืออย่างแน่นอนเป็นไปตามคาด พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าตกลง“ตราบใดที่ขายให้ผม อย่าว่าแต่แสดงในพิพิธภัณฑ์ ต่อให้ต้องจัดแสดงอีกสองสามปีผมก็ยินดีครับ”ในที่สุดผู้อาวุโสจางก็ซื้อกาน้ำชารูปทรงน่าเกลียดในราคาสามพันล้านเขาเซ็นสัญญากับผู้อำนวยการหลิวเจิ้งชิงโดยจะจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาสามปี มีค่าชดเชยความเส
เมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นว่าเย่มู่มู่จะเปิดร้านขายวัตถุโบราณ ก็ถามทันทีว่า “ร้านค้าข้าง ๆ ผมจะเซ้งออกไป คุณต้องการหรือเปล่าครับ?”เย่มู่มู่เคยไปย่านวัตถุโบราณเพียงครั้งเดียว เธอลืมไปแล้วว่า ร้านค้าที่อยู่ติดกับร้านของผู้อาวุโสมู่เป็นแบบไหนผู้อาวุโสมู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดคลิปของร้านค้าด้านข้างให้เย่มู่มู่ ๆ ดู“เถ้าแก่ร้านข้าง ๆ วางแผนจะปล่อยร้านให้คนอื่น พื้นที่ร้อยกว่าตารางเมตร มีสองชั้น เทียบกับร้านเล็ก ๆ ของผมแล้วกว้างขวางกว่ามาก”“ร้านค้าต่าง ๆ ในย่านวัตถุโบราณเป็นที่ต้องการมาก ถ้าคุณต้องการ ผมจะโทรหาเถ้าแก่ ช่วยคุณเซ้งต่อมา”ผู้อาวุโสสวี่และผู้อาวุโสจาง สองตาแก่ ต่างพากันเดาะลิ้นโดยไม่ได้นัดหมายตาแก่นี่คิดจะเอายัยหนูไว้ใกล้ ๆ จะได้ประโยชน์ก่อนใครเขานี่ถึงขนาดช่วยคนเขาเซ้งร้านที่อยู่ข้าง ๆ แล้วช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆเย่มู่มู่ดูคลิปอย่างตั้งใจ ร้านค้าแบ่งออกเป็นชั้นบนกับชั้นล่างสองชั้น แต่ละชั้นมีขนาดร้อยกว่าตารางเมตรสำหรับถนนย่านวัตถุโบราณและเครื่องหยก ถือได้ว่ากว้างขวางแล้วการตกแต่งดูมีระดับเป็นอย่างมาก บนชั้นวางของจัดแสดงของชิ้นเล็ก ๆ จากสมัยราชวงศ์ชิงไว้เธอแยกข
ส่งไปให้จ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายว่า “เด็กกำพร้าสองพันคน จะต้องสร้างโรงเรียนสักแห่ง”ส่วนโรงเรียนคืออะไรนั้น เย่มู่มู่แกะโทรศัพท์เครื่องใหม่ออก จากนั้นดาวน์โหลดคำแนะนำของโรงเรียนสิบกว่าแห่งลงไปรวมถึงโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย และโรงเรียนที่เด็กในวัยต่าง ๆ เข้าเรียนหลังจากเธอส่งโทรศัพท์มือถือไปให้จ้านเฉิงอิ้นแล้ว ก็หยิบกระดาษใบที่สามบนพื้นขึ้นมาเป็นมั่วฝานส่งจดหมายมา บอกว่าประทัดและอากาศยานไร้คนขับใกล้จะหมดแล้ว จำเป็นจะต้องรีบเติมของส่วนสาเหตุว่าทำไมอากาศยานไร้คนขับถึงถูกใช้หมดเร็วขนาดนี้นั้นเพราะเขาใช้อากาศยานไร้คนขับบรรทุกระเบิด บุกเข้าไปในทัพของศัตรูโดยตรง ดังนั้นตอนนี้ จึงมีอากาศยานไร้คนขับเหลืออยู่เพียงสิบสามลำเท่านั้น!ฟ้าด้านนอกยังไม่มืด เย่มู่มู่อุ้มแจกันลงไปชั้นล่าง ขับรถกระบะตรงไปที่ร้านค้าออฟฟิเชียลของแบรนด์ที่ขายอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งเป็นศูนย์ขนาดใหญ่และมีสินค้าครบครันในเมืองโดยตรงเธอซื้ออากาศยานไร้คนขับบรรทุกหนัก ที่สามารถส่งสินค้า พ่นยาฆ่าแมลง และบรรทุกของได้ถึงห้าสิบกิโลกรัมแต่ราคาที่ขายนั้นแพงมาก ลำละสี่แสนเก้าหมื่นเก้าพันบาท อีกนิดเดียวก็จะห้า
ฮ่องเต้ทั้งสุภาพและมีมารยาท เจตนาจะดึงเขาไปเป็นพวกเขาเริ่มจากการชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการป้องปรามเผ่าหมานของจ้านเฉิงอิ้นก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับความสำคัญ เป็นเพราะฮ่องเต้แคว้นฉี่ตาบอด มองคนไม่เป็นจึงคิดจะยึดอำนาจการทหาร ของแม่ทัพใหญ่ที่มีผลงานการรบอันเกรียงไกรเช่นนี้หากจ้านเฉิงอิ้นเต็มใจออกจากแคว้นฉี่ ฮ่องเต้แคว้นอวี่จะมอบงานสำคัญให้เขา ให้เขาควบคุมอำนาจทหารของแคว้นอวี่ทั้งหมดและจะรับกองทัพตระกูลจ้านและราษฎรในด่านเจิ้นกวนทั้งแปดหมื่นชีวิตภายใต้การดูแลของเขา ไว้ทั้งหมดเช่นกันและจะแบ่งที่นาให้ชาวบ้านทุกคนด้วยแม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ใต้หล้าแร้นแค้น ไร่นาไม่อาจเพาะปลูกเสบียงอาหาร ที่ดินนี้จะให้หรือไม่ แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างกันมากนักแต่หากจ้านเฉิงอิ้นไม่เต็มใจไปจากด่านเจิ้นกวน ประสงค์จะทำงานให้แคว้นฉี่ต่อไป เยี่ยงนั้นก็ไม่เป็นไรเขาได้ให้คณะทูตเตรียมเงินทองและเครื่องใช้ที่ทำจากหยกจำนวนมาก มาเจรจาค้าขายกับจ้านเฉิงอิ้นแคว้นอวี่ต้องการซื้อเสบียง กับหญ้าและอาหารที่วัวม้ากิน หากสามารถขนน้ำกลับไปด้วยจำนวนหนึ่งก็ยิ่งดีส่วนเงินทองและเครื่องหยกนั้น คณะท
ทันทีที่เริ่มเปิดการแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นการเปิดเผยไพ่ใบสำคัญที่สุดของจ้านเฉิงอิ้นออกไปท่านเทพไม่ต้องการให้เขาตกอยู่ในอันตราย จึงได้ปฏิเสธแล้วนางดีเหลือเกินจริง ๆคิดแทนตัวเขา คิดแทนราษฎรของด่านเจิ้นกวนอยู่เสมอเหมือนกับวันนี้ ที่เขาปรารถนาจะขอเพียงหนังสือและปากกาเท่านั้นแต่นางกลับคิดถึงการสร้างโรงเรียน โรงอาหาร หอพัก…เพื่อบ่มเพาะเลี้ยงดูบรรดาเด็กกำพร้าอย่างจริงจังหากนางไม่เห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยน เช่นนั้นก็ช่างเถอะจ้านเฉิงอิ้นเรียกสวี่หมิงมา “เจ้าจงไปบอกทูตแคว้นอวี่ที่ประตูเมืองว่า ข้าไม่ตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยน”“แน่นอนว่า พวกเขาเดินทางมาไกลนับพันลี้ จงหาน้ำเต้ามาใส่น้ำและมอบขนมปังสักสองสามชิ้นให้พวกเขาเถอะ“แล้วค่อยส่งคนกลับไป!”สวี่หมิงรับคำ “ขอรับ ท่านแม่ทัพ”เขาออกจากกระโจมไปจัดการแล้วเดิมคิดว่าไล่แคว้นอวี่ไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าต่อมา แคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่ง…ก็ส่งคณะทูตมาซื้อเสบียงด้วยเช่นกันทว่าท่าทางของทูตจากสองแคว้นก้าวร้าวอย่างยิ่ง แม้แต่เทียบคารวะก็ไม่มี เมื่อมาถึงด่านเจิ้นกวนก็ให้คนทุบประตูดังปัง ๆ ๆ ทันทีกระทั่งหน้าไม้ราชวงศ์ฉินถูกยิงลงมาจากกำแพงเมือง ยิงท
เมื่อเย่มู่มู่ส่งอากาศยานไร้คนขับเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์วันถัดมา เธอไปที่ร้านวัตถุโบราณ หานักออกแบบภายในมาออกแบบร้านใหม่อีกครั้งผู้อาวุโสมู่ก็อยู่ด้วยเช่นกัน เขาช่วยออกความเห็นให้เธออย่างแข็งขันว่าวัตถุโบราณในร้านของเธอมีมูลค่าสูง จะต้องติดตั้งกระจกกันกระสุน และจะต้องติดตั้งสองชั้นด้วยสัญญาณเตือนภัยก็ต้องมีการติดตั้งให้พร้อมพรักส่วนกล้องวงจรปิดนั้น ไม่อาจปล่อยหลุดรอดมุมอับใดไปแม้แต่มุมเดียววัตถุโบราณส่วนใหญ่เป็นเครื่องกระเบื้องเคลือบ ต้องออกแบบตามแนวทางของงานนิทรรศการเครื่องลายครามฐานล่างของถาดต้องหมุนได้ แสงไฟต้องส่องถึงในองศาและทิศทางต่าง ๆ เพื่อแสดงความงดงามของเครื่องลายครามออกมานักออกแบบทำตามข้อเรียกร้อง ดีไซน์แบบแปลนออกมาเมื่อเย่มู่มู่และผู้อาวุโสมู่ได้เห็นก็ล้วนรู้สึกพอใจเธอจึงมอบการตกแต่งร้านให้เธออย่างวางใจ และบอกนักออกแบบลงมือทำได้อย่างเต็มที่ ผู้อาวุโสมู่ก็อยู่ที่ร้านข้าง ๆ เมื่อมีเวลาว่างก็จะมาช่วยตรวจดูงานด้วยหลังจากบอกลาผู้อาวุโสมู่ เย่มู่มู่ก็กลับไปที่รถ แล้วจึงได้เห็นกระดาษข้อความแผ่นเล็ก ๆ ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาเรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเ
เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด
จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก
หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื
จางเฉินซีร้องออกมาพลางกล่าวว่า “คุณปู่ คุณปู่โดนเธอล้างสมองยังไงกันครับ ถึงกับให้หลานแท้ ๆ ไปเป็นผู้ช่วยให้เธอ!”ผู้อาวุโสจางโกรธเสียจนเอาไม่เท้าไปเคาะที่ศีรษะของหลานชายคนเล็ก“แกเงียบปากไปเลย แกจะรับปากหรือไม่รับปาก?”“งั้นผมต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอ!”แน่นอนว่า เขาไม่ได้ไม่ชอบเย่มู่มู่ ผู้เธอเป็นผู้หญิงที่สวย รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบมาโดยกำเนิด ไม่เหมือนกับความงามประดิษฐ์ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้บุคลิกดี สะอาดใสบริสุทธิ์ทำงานเคียงข้างหญิงสาวที่สวยแบบนี้ คงอารมณ์ดีมีความสุขทุกวันแต่ว่า แค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อที่เป็นอยู่ในตอนนี้ผู้อาวุโสจางโขกศีรษะจางเฉินซีอีกครั้ง“แกดูตัวเองซิ วัน ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ในบัตรของแกมียอดเงินอยู่เท่าไร?”“แกเป็นคนแต่ทำตัวเหมือนหมาไม่มีผิด เอาแต่รูดบัตรเครดิตของพ่อแม่แก มูลค่าของทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของแกก็ติดลบ”“ลองดูมู่มู่ซิ วันนี้เธอโอนเงินหนึ่งหมื่นล้านไปที่บัญชีกองทุนส่วนบุคคล!”“แกเอาแต่พูดว่าอยากจะเข้าบริษัท อยากจะรับช่วงต่อจากพ่อกับแม่ของแก วัน ๆ เอาแต่คุยโม้โอ้อวด แค่เพื่อนเลว ๆ ของแกพวกนั
ไม่เช่นนั้นต่อไปพอทั้งสองคนแบ่งปันของดี ๆ กันแล้ว เขาก็คงจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น! “เย่เย่ ตอนนี้คุณก็มีผู้จัดการกับมีเลขาแล้ว ขาดก็แต่ผู้ช่วย วางใจเถอะ ผมช่วยคุณเลือกผู้ช่วยเอาไว้แล้วละ!”“ผมให้คน ๆ นั้นเข้ามาแล้ว จะถึงในอีกครึ่งชั่วโมง ต่อจากนี้ไปหากมีเรื่องอะไร คุณให้ผู้ช่วยเป็นคนไปทำก็พอแล้ว!”เย่มู่มู่ “...”“การศึกษา ความสามารถในการทำงาน และประสบการณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่พวกเขาแนะนำมา หากคุณไม่พอใจ จะส่งคืนและเปลี่ยนคนก็ได้!”เย่มู่มู่ครุ่นคิด คนของผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสมู่ต่างก็รับเอาไว้ทั้งหมดจึงไม่อาจปฏิบัติต่อผู้อาวุโสจางแตกต่างออกไปได้เธอพยักหน้า “ค่ะ งั้นก็มารายงานตัวได้เลย!”ผู้อาวุโสจางเผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง พลางเหลือบมองไปยังชายชราทั้งสองคนไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประมาณสิบกว่านาที ก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้านพักตากอากาศของผู้อาวุโสสวี่เกิดความเคลื่อนไหวขนานใหญ่เมื่อเย่มู่มู่กับผู้อาวุโสทั้งสามคนออกมาดูก็มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลงจอดตรงลานจอดอย่างมั่นคง มีชายหนุ่มรูปงามสวมชุดนักบินคนหนึ่งลงมากจากภายในห้องโดยสารเขาถอดหมวกกันน็อก
ยังมีสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกไม่กี่อย่าง พวกเขาแบ่งสิ่งของร่วมกันของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งของของแคว้าต้าฉี่ แต่เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแคว้นไม่กี่แคว้นที่อยู่โดยรอบมีความล้ำค่าและเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางการศึกษาวิจัยอย่างยิ่งเมื่อวานส่งขวัญขวัญให้ฟรี วันนี้ยังส่งของโบราณหนึ่งกล่องมาถึงหน้าประตูอีกสาวน้อยคนนี้รู้จักทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงใจ จนเป็นที่ชื่นชอบของชายชราทั้งหลายแน่นอนว่า ยอดรวมหลังจากการชำระเงินครั้งสุดท้าย เธอทำเงินได้มากกว่าสองหมื่นกว่าล้านบาทสิ่งของในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ยกตัวอย่างเช่นดาบประจำพระองค์ของฮ่องเต้าแคว้นฉี่ บนโลกนี้มีเพียงดาบประจำพระองค์เล่มนี้เท่านั้นที่มีอายุสองพันหกร้อยกว่าปี บวกกับงานฝีมือตกแต่งที่ประดับประดาด้วยอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์แบบหากนำไปประมูล จะต้องมีมูลค่ามากกว่าห้าพันล้านบาทอย่างแน่นอนดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงรู้สึกว่าตนเองทำเงินได้มากแล้วเย่มู่มู่นำเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทที่อยู่ในสองหมื่นสามพันล้านบาทให้กับผู้อาวุโสจาง ณ ตรงนั้น เพื่อลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล และให้ผู้อาวุโสจางเป็นผู้ทำการซื้อขายให้กับเธอแน่
ฝักดาบประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เมื่อดึงฝักดาบออก แสงสีเงินอันเย็นยะเยือกสะท้อนอยู่บนตัวดาบที่ตกแต่งด้วยไหมสีเงิน…ผู้อาวุโสจางอดรนทนไม่ไหว เมื่อหยิบเล่มนี้ดาบขึ้นมาก็มองเห็นด้านบนเขียนเพียงว่า ‘ดาบจงกั๋วกง ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ทรงพระราชทาน’ “ดาบเล่มนี้ฮ่องเต้แคว้นฉู่เป็นผู้ทรงพระราชทาน ฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงพระราชทาน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เรื่องของคุณผมจะจัดการให้เอง เตรียมเงินเอาไว้ห้าพันล้าน อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนผมจะทำให้คุณได้กำไรเป็นเท่าตัว!”เย่มู่มู่ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ “ขอบคุณมากค่ะผู้อาวุโสจาง!”ผู้อาวุโสสวี่มองดูดาบด้วยใจที่คันคะเยอ เขาก็อยากได้เหมือนกันนี่นาของที่ดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยจะมีของล้ำค่าอยู่ก้นหีบ ทั้งยังเอาเสื้อคลุมสองตัวมาปิดเอาไว้อีกหลอกลวงกันนี่นาผู้อาวุโสจางหัวเราะพลางกล่าวว่า “เบื้องหลังของเหล่าสวี่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แม้ว่าผมจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็เป็นเพียงนักธุรกิจที่ไร้อำนาจเท่านั้น ไม่เหมือนกันกับเขา”“ก่อนที่จะเกษียณ ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพก็เป็นแบบนี้ ลูก ๆ ของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมืองแล้วก็การทหาร ทั้งยังเชื่
ผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสจางรู้ดีว่าทำไมเย่มู่มู่ถึงได้ต้องการขายของเก่าดูเหมือนว่าเธอจะขาดเงินอย่างหนัก ต้องการเงินเป็นจำนวนมากว่ากันตามเหตุผลแล้ว ของโบราณที่เธอขายในช่วงสามเดือนมานี้ มีมูลค่าห้าหมื่นล้านบาทเข้าไปแล้วสาวน้อยเพียงคนเดียว ถึงจะใช้เงินเก่งแค่ไหน แต่จะใช้เงินหลายหมื่นล้านหมดภายในสามเดือนเชียวเหรอ?แต่ว่าเธอดันใช้จ่ายไปแล้ว!และก็ใช้ไปจนหมดแล้วด้วย!นี่ก็เอาของโบราณมาขายอีกหนึ่งกล่องแล้วเธอทำอะไรกันแน่?ถึงได้ใช้เงินเก่งขนาดนี้!ต่อให้ลงทุนในบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร บริษัทก็มีกำไร และกำไรก็ไม่ได้ต่ำด้วย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง พวกต่างก็ลงทุนไปแล้ว เงินพวกนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารเธอยังลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรของหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ อีกด้วย ไม่กี่ล้านบาทนั่นก็เพียงพอแล้วต่อให้ลงทุนกับหน่วยขนส่ง หน่วยขนส่งใหม่ทั้งหมดบวกกับเงินเดือนและค่าน้ำมัน ห้าสิบกว่าล้านก็นับว่าสูงแล้วเธอทำอะไรกันแน่ชายชราทั้งสามคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมาก!ตอนนี้ เธอเอาของโบราณมาหนึ่งกล่อง บวกกับของขวัญที่ส่งมาเมื่อวานก็ถือว่าได้แสดงความความจริงใจ
และหลูซีจะถูกพวกเขาตราหน้าว่ามีภูมิหลังของครอบครัวในระดับที่ต่ำที่สุดแน่นอนว่าหลูซีไม่ถึงขั้นที่จะเกิดเรื่อง ด้วยฝีมือของเขา เย่มู่มู่เป็นห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเกิดเรื่องเสียมากกว่าดังนั้น จึงพยายามที่จะมารับไปส่งเขาเท่าที่จะทำได้และบอกกับนักเรียนคนอื่น ๆ ว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาแค่ไม่ยินยอมเท่านั้น!สาวน้อยน่ารักคนนั้นร่ำลาเย่มู่มู่ “พี่สาวลาก่อนค่ะ?”เย่มู่มู่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ลาก่อน!”หลังจากที่หลูซีเข้าประตูโรงเรียนไปแล้ว เย่มู่มู่ถึงได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสสวี่เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสวี่...ว้าว คฤหาสน์ใหญ่มากจริง ๆ !ที่ดินในเมืองทุกตารางนิ้วล้วนมีราคาสูง คฤหาสน์ที่ใหญ่โตหรูหรา และครอบคลุมพื้นที่เกือบสิบไร่เช่นนี้ ไม่อาจวัดมูลค่าได้ภูเขาที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ พื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ ล้วนแต่เป็นของผู้อาวุโสสวี่ทันทีที่รถของเย่มู่มู่ขับเข้าประตู ผู้อาวุโสสวี่กับผู้ช่วยพ่อบ้านก็ออกมาตอนรับพร้อมกันเย่มู่มู่รีบลงมาจากรถสวี่หมิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอ กำลังถือกล่องไม้กล่องหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างลวดลายแกะสลักสไตล์โบราณบนกล่องไม้ ทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสสวี่เป็น