ภายใต้ม่านราตรี ทั่วทั้งภูเขาเฮยเฟิงพลันเกิดม่านหมอกสีเขียวภายใต้แสงจันทร์อันเย็นเยียบ ภูเขาเฮยเฟิงดูมืดมนน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาบนผืนแผ่นดินใหญ่ หมอกสีเขียวที่สังเกตเห็นไม่ง่ายค่อย ๆ ผุดออกมาจากใต้ดิน ต้นไม้รอบด้านแห้งเหี่ยวในพริบตาไม่นานนัก ขบวนรถของพวกฉู่เฉินก็ทยอยกันจอดอยู่ใต้ตีนภูเขาเฮยเฟิง ฉู่เฉินกับพวกถานเฟยพากันกระโดดลงจากรถออฟโรด แล้วเดินไปหาพวกเซียวเสวี่ยอิ๋งที่อยู่ไม่ไกล“ข้ามสันเขาลูกนี้ไปก็คือภูเขาเฮยเฟิง ฉันคิดว่าพวกเรามากันเยอะขนาดนี้ เคลื่อนไหวมากก็จะไม่สะดวก ไม่สู้แบ่งกำลังออกเป็นสามทาง โจมตีขนาบข้างภูเขาเฮยเฟิงดีกว่าค่ะ” เซียวเสวี่ยอิ๋งกางแผนที่ทางทหารออก แล้วพูดพลางชี้ไปยังจุดสีแดงที่ทำเครื่องหมายไว้ตรงกลางเรียบร้อยแล้ว“แบ่งกำลัง?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณคิดว่านี่เป็นแค่การปราบโจรจริง ๆ หรือไง?”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็กวาดตามองสมาชิกแก๊งมังกรหลายสิบคนกับทหารชั้นยอดจากกองทหารรักษาการณ์หลายร้อยคนที่อยู่รอบ ๆ แล้วเอ่ยเสียงขรึมว่า “ผมยอมรับว่าคนที่พวกคุณพามาเป็นคนชั้นยอดในหมู่คนชั้นยอด แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเพียร พวกเขาไม่ต่างอะไรกับคนธรร
เธอเองก็เคยเข้าร่วมสงครามมาหลายครั้ง และสร้างผลงานมากมาย มีความจำเป็นอะไรต้องเชื่อฟังฉู่เฉินด้วย?โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงบนเวทีประลองในวันนั้นที่โดนฉู่เฉินเอาเปรียบยกใหญ่ เซียวเสวี่ยอิ๋งก็บันดาลโทสะขึ้นมา“ผู้นำเซียว คุณอยากใช้ชีวิตคนหลายร้อยคนที่อยู่ด้านหลังคุณมาซื้อการยอมของคุณเหรอ? ถ้าเกิดคุณดื้อรั้นมาก ตอนนี้ผมจะใช้ฐานะหัวหน้าใหญ่ของแก๊งมังกรถอดถอนอำนาจบัญชาการของคุณ” “คุณ ไปได้แล้ว” ถานเฟยพูดจบก็หันหน้าไปทางฉู่เฉิน ไม่แม้แต่จะมองเซียวเสวี่ยอิ๋งอีกสักแวบหนึ่งนี่...เซียวเสวี่ยอิ๋งตัวแข็งทื่อเธอไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าถานเฟยกับเซียวเฟิงจะยืนอยู่ข้างฉู่เฉิน“ทุกคนตามผมมา ห้ามเดินแยกเด็ดขาด ไอพิฆาตด้านหน้าน่ากลัวมาก ๆ ถ้าไม่ระวังนิดเดียวจะมีอันตรายถึงชีวิตได้” ฉู่เฉินพูดจบก็วาดยันต์ผนึกวิญญาณขนาดยักษ์กลางอากาศ ครอบคลุมรัศมีร้อยเมตร“ทุกคนตามไป”เซียวเฟิงโบกมือให้ทุกคนในแก๊งมังกรตามหลังฉู่เฉิน เดินไปทางภูเขาเฮยเฟิง“ฮึ!”เซียวเสวี่ยอิ๋งโมโหจนกระทืบเท้า ผู้ช่วยหานหลิงก็มองฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูแคลนเช่นกันแล้วเอ่ยว่า “ทำตัวหยิ่งอะไรกัน ก็แค่คนหลอกลวงเท่านั้นเอง พวกเราไม่ต้องต
“แม่ จะมาอาบน้ำด้วยกันไหม? น้ำร้อนกำลังดีเลย”ในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วหรูเยียนเปลือยเปล่านั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังพูดกับหลิ่วชิงเหอที่สวมชุดนอนลายลูกไม้อยู่หน้าประตู“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ลูกอาบก่อนเลย” หลิ่วชิงเหอรับโทรศัพท์ หันไปตอบลูกจากนั้นเดินออกจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนหันไปมองฉู่เฉินในถังยาข้างๆ ที่โผล่ให้เห็นแค่ศีรษะ“มองอะไร! ถ้ายังมองอีก ฉันจะควักลูกตาแกออกมาให้หมากิน!” หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นจากอ่างน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโสเธอไม่ได้ปกปิดร่างกายขาวนวลราวหิมะและหน้าอกที่ใหญ่โตของตัวเองแม้แต่น้อย ยืนโชว์ให้ฉู่เฉินเห็นกับตา“เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนสะบัดฝ่ามือตบลงที่แผลเป็นบนใบหน้าของฉู่เฉิน “ยังกล้ามองอีก! ไอ้ขันที เดี๋ยวฉันจะควักตาสุนัขของแกออกมาเลยนี่!”ฉู่เฉินขบฟันแน่น จ้องมองหญิงสาวงดงามที่อยู่ตรงหน้า พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “หลิ่วหรูเยียน ต้องมีสักวันที่ฉันเหยียบพวกเธอสองแม่ลูกให้จมดิน! และชิงทุกอย่างที่เป็นของตระกูลฉู่ฉันคืนมา!”“แกกำลังฝันอะไรอยู่? แกก็เป็นแค่สมุนไพรมนุษย์ให้ฉันกับแม่ แขนขาก็ถูกตีหักไปหมดแล้ว ยังจะเอาอะไรมาชิงกลับไปอีก?”หลิ่วหรูเยียนหัวเราะด้วยคว
ฉู่เฉินสลบไปนานมาก เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเหมือนฝันประหลาดเป็นเวลายาวนานในความฝัน เขากลายร่างเป็นราชันมังกรแห่งแดนเหนือ ทำสงครามทั้งเก้าสวรรค์สิบพิภพ ล้มสำนักนิกายใหญ่ต่างๆ ภายในวันเดียว รวมทั้งสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ด้วย...“โอ๊ย ปวดหัวจัง...” ฉู่เฉินร้องอย่างเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นถึงพบว่าตัวเองยังอยู่ในหลุม บาดแผลและความเจ็บปวดตรงแขนขาและบนร่างทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ห่างจากความตายไม่ไกลแล้ว “เจ้าหนู ข้าได้มอบวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ วิชานี้ครอบคลุมทุกแขนง ทั้งวิชาแพทย์แห่งต้าหลัว ตำราลับวรยุทธ์โบราณ วิชาหยินหยางห้าธาตุ วิชาลึกลับฮวงจุ้ย วิชาหลอมโอสถและสร้างอาวุธวิชาเหล่านี้ข้ามอบให้เจ้าหมดแล้ว...” “เจ้าหนู จำเอาไว้! รอเจ้าฝึกฝนถึงระดับเก้าชั้นฟ้า เจ้าต้องไปนอนกับสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่หยิ่งยโสคนนั้นแทนข้าให้ได้!”ข้างหูของเขายังมีเสียงสะท้อนของมังกรฟ้าที่เรียกตัวเองว่าเป็นราชามังกรแห่งแดนเหนือที่เขาเห็นในฝันก่อนหน้านี้ วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์หรือ?ฉู่เฉินย้อนกลับมาครุ่นคิดเล็กน้อย ทันใดนั้นข้อมูลมหาศาลก็พรั่งพรูเข้ามาในสมองของเขาวิชาลับบำเพ็ญคู่ เพิ่มคว
หลิ่วชิงเหอในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฉู่เฉินแอบมองอยู่ตรงระเบียง เธอเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเปิดเผย ต่อหน้าสายตาของฉู่เฉิน เช็ดผมที่เปียกชุ่ม รูปร่างที่สมบูรณ์แล้วราวกับเป็นประติมากรรม เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าสมบูรณ์แบบอยู่บนโซฟา ปลดปล่อยเสน่หาที่มีเฉพาะหญิงสาวผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ชายรู้สึกเลือดร้อนหลิ่วชิงเหออายุสามสิบห้าสามสิบหกปีแล้ว แต่ยังคงสวยงาม รูปร่างและผิวพรรณล้วนบำรุงดูแลอย่างดี ผิวขาวนวลราวกับสาวน้อยอายุยี่สิบปีเท่านั้นตรงระเบียงห้อง ฉู่เฉินมองภาพนี้จนปากแห้ง ท้องน้อยร้อนผ่าวถึงแม้เขาจะอายุยี่สิบสองปีแล้ว แต่ยังไม่เคยแตะต้องผู้หญิงมาก่อนโดยเฉพาะสามปีมานี้ถูกหลิ่วหรูเยียนทรมาน ทำลายศักดิ์ศรีของผู้ชาย ตอนนี้เมื่อเขาเห็นภาพที่งดงามนี้ ความแค้นที่สั่งสมมาสามปีก็ระเบิดออกมาทันที!อึกเสียงหนึ่งฉู่เฉินกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ว่ากันว่าสาวน้อยน่าเย้ายวน แต่มีเพียงผู้ชายที่โตแล้วถึงรู้ว่า ผู้หญิงแบบหลิ่วชิงเหอถึงจะเย้ายวนมากที่สุดรู้มาก เป็นเยอะ ยังเอาใจฉู่เฉินยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวหลิ่วชิงเหอนะหลิ่วชิงเหอ เธอไม่ใช่ผู้หญิงปกติจริงๆเธอที่อยู่ในสายตาคนนอกสูงส่งไม่อาจเอื
แสงแดดส่องร่างกายที่ขาวนวลของหลิ่วชิงเหอ ผิวพรรณของเธอภายใต้แสงอาทิตย์ขาวใสราวกับหิมะ“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ปล่อยฉันนะ! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก อื้อ ๆ ๆ...” หลิ่วชิงเหอตะโกนขัดขืน ใช้ทั้งมือทั้งเท้าต่อยแตะฉู่เฉินไม่หยุดแต่วินาทีต่อมาปากสีชมพูของเธอก็ถูกอุดเอาไว้ ทำได้แค่ร้องเสียงอู้อี้หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงความเผด็จการและความรุนแรงของอีกฝ่าย พยายามอ้าปากตัวเอง ใบหน้าของเธอมีแต่ลมหายใจร้อนรุ่มของฉู่เฉินยิ่งขัดขืนฉู่เฉินก็ยิ่งรุนแรงหลิ่วชิงเหอที่ไม่เคยถูกผู้ชายจูบอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอจึงอ่อนแรงทันทีเหมือนกับพื้นดินที่แห้งแล้งมานานถูกคนรดน้ำให้“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ฉันจะฆ่าแกแน่ อื้อ ๆ ๆ...” หลิ่วชิงเหอทำได้เพียงร้องอู้อี้“แม่หนูกลับมาแล้ว” ทันใดนั้นด้านล่างก็มีเสียงของหลิ่วหรูเยียนจากนั้นก็มีเสียงหลิ่วหรูเยียนขึ้นบันไดมา เสียงเดินเท้าสวบสาบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆหลิ่วชิงเหอลนลานแล้ว เธอออกแรงแตะฉู่เฉินออกไป จ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้นก่นด่าออกมา “ไอ้สารเลว! ฉันเป็นแม่บุญธรรมของแก แกทำแบบนี้ฟ้าผ่าแกตายแน่!”ฉู่เฉินเลียริมฝีปาก หัวเราะอย่างชั่วร้าย “แม่บุญธรรมเหรอ? หลิ่วช
หลิ่วชิงเหอร้องคร่ำครวญ จากนั้นคุกเข่าลงที่พื้น ถอนหายใจเสียงดังเธอมองฉู่เฉินด้วยสายตาเคียดแค้นพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกมันสัตว์เดรัจฉาน! ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”“เพียะ!”ฉู่เฉินสะบัดมือออกไป ตบใบหน้าของหลิ่วชิงเหออย่างแรง เขาเสยคางเธอขึ้น พูดว่า “ฆ่าฉันงั้นเหรอ? เธอไม่อยากได้ชีวิตลูกสาวแล้วเหรอ?”“แก!”หลิ่วชิงเหอโมโหมาก เมื่อถูกคนจับจุดอ่อนได้แบบนี้ รู้สึกคับข้องใจนักเธอเป็นถึงราชินีแห่งวงการการค้า ผู้บริหารฉู่ซื่อกรุ๊ป เป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าใครเห็นล้วนต้องยำเกรงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่สูงส่งอย่างเธอ วันนี้กลับต้องมาคุกเข่าต่อหน้าไอ้บ้าคนนี้!น่าอับอาย!น่าอับอายที่สุด!ความเกลียดชังและจิตสังหารในใจของหลิ่วชิงเหอพุ่งถึงขีดสุด“หลิ่วชิงเหอ ความแค้นระหว่างเธอกับฉัน ฉันจะค่อยๆ คิดบัญชีกับเธอช้าๆ ฉู่ซื่อกรุ๊ป ฉันก็จะชิงมันกลับมา!” ฉู่เฉินสวมกางเกง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลิ่วชิงเหอจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบ ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ป่านนี้เธอคงจ้องทะลุหัวใจฉู่เฉินไปแล้ว“พอใจหรือยัง? ตอนนี้รีบช่วยลูกฉันซะ! ถ้าแกกล้าโกหกฉัน ต่อให้ต้องไล่ฆ่าแกไปสุดขอบโลก ฉันก็จะฆ่าแกให้ได้!”
“นี่แก!”หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”ฮ่าๆๆ!พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถามชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่ง
เธอเองก็เคยเข้าร่วมสงครามมาหลายครั้ง และสร้างผลงานมากมาย มีความจำเป็นอะไรต้องเชื่อฟังฉู่เฉินด้วย?โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงบนเวทีประลองในวันนั้นที่โดนฉู่เฉินเอาเปรียบยกใหญ่ เซียวเสวี่ยอิ๋งก็บันดาลโทสะขึ้นมา“ผู้นำเซียว คุณอยากใช้ชีวิตคนหลายร้อยคนที่อยู่ด้านหลังคุณมาซื้อการยอมของคุณเหรอ? ถ้าเกิดคุณดื้อรั้นมาก ตอนนี้ผมจะใช้ฐานะหัวหน้าใหญ่ของแก๊งมังกรถอดถอนอำนาจบัญชาการของคุณ” “คุณ ไปได้แล้ว” ถานเฟยพูดจบก็หันหน้าไปทางฉู่เฉิน ไม่แม้แต่จะมองเซียวเสวี่ยอิ๋งอีกสักแวบหนึ่งนี่...เซียวเสวี่ยอิ๋งตัวแข็งทื่อเธอไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าถานเฟยกับเซียวเฟิงจะยืนอยู่ข้างฉู่เฉิน“ทุกคนตามผมมา ห้ามเดินแยกเด็ดขาด ไอพิฆาตด้านหน้าน่ากลัวมาก ๆ ถ้าไม่ระวังนิดเดียวจะมีอันตรายถึงชีวิตได้” ฉู่เฉินพูดจบก็วาดยันต์ผนึกวิญญาณขนาดยักษ์กลางอากาศ ครอบคลุมรัศมีร้อยเมตร“ทุกคนตามไป”เซียวเฟิงโบกมือให้ทุกคนในแก๊งมังกรตามหลังฉู่เฉิน เดินไปทางภูเขาเฮยเฟิง“ฮึ!”เซียวเสวี่ยอิ๋งโมโหจนกระทืบเท้า ผู้ช่วยหานหลิงก็มองฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูแคลนเช่นกันแล้วเอ่ยว่า “ทำตัวหยิ่งอะไรกัน ก็แค่คนหลอกลวงเท่านั้นเอง พวกเราไม่ต้องต
ภายใต้ม่านราตรี ทั่วทั้งภูเขาเฮยเฟิงพลันเกิดม่านหมอกสีเขียวภายใต้แสงจันทร์อันเย็นเยียบ ภูเขาเฮยเฟิงดูมืดมนน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาบนผืนแผ่นดินใหญ่ หมอกสีเขียวที่สังเกตเห็นไม่ง่ายค่อย ๆ ผุดออกมาจากใต้ดิน ต้นไม้รอบด้านแห้งเหี่ยวในพริบตาไม่นานนัก ขบวนรถของพวกฉู่เฉินก็ทยอยกันจอดอยู่ใต้ตีนภูเขาเฮยเฟิง ฉู่เฉินกับพวกถานเฟยพากันกระโดดลงจากรถออฟโรด แล้วเดินไปหาพวกเซียวเสวี่ยอิ๋งที่อยู่ไม่ไกล“ข้ามสันเขาลูกนี้ไปก็คือภูเขาเฮยเฟิง ฉันคิดว่าพวกเรามากันเยอะขนาดนี้ เคลื่อนไหวมากก็จะไม่สะดวก ไม่สู้แบ่งกำลังออกเป็นสามทาง โจมตีขนาบข้างภูเขาเฮยเฟิงดีกว่าค่ะ” เซียวเสวี่ยอิ๋งกางแผนที่ทางทหารออก แล้วพูดพลางชี้ไปยังจุดสีแดงที่ทำเครื่องหมายไว้ตรงกลางเรียบร้อยแล้ว“แบ่งกำลัง?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณคิดว่านี่เป็นแค่การปราบโจรจริง ๆ หรือไง?”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็กวาดตามองสมาชิกแก๊งมังกรหลายสิบคนกับทหารชั้นยอดจากกองทหารรักษาการณ์หลายร้อยคนที่อยู่รอบ ๆ แล้วเอ่ยเสียงขรึมว่า “ผมยอมรับว่าคนที่พวกคุณพามาเป็นคนชั้นยอดในหมู่คนชั้นยอด แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเพียร พวกเขาไม่ต่างอะไรกับคนธรร
“ฉู่เฉินคนนั้นค่อนข้างน่าสนใจอยู่ อยากให้เขายอมจำนนก็ต้องทำความเข้าใจเขาก่อน การทำความเข้าใจที่ฉันพูดถึงก็คือทำความเข้าใจในทุก ๆ ด้าน เข้าใจหรือเปล่า?”ซ่งหนิงซวงพูดพลางโยนยามทิ้งไปทันที ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถออฟโรดสีดำ เฉินเยว่เอ๋อร์อึ้งไปพักใหญ่ถึงค่อยเข้าใจความหมายของซ่งหนิงซวงมีเพียงรู้จุดอ่อนของฉู่เฉินถึงจะสามารถใช้กลยุทธ์ที่คาดไม่ถึง จู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว มอบ “เซอร์ไพรส์” ใหญ่ให้เข เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเยว่เอ๋อร์ก็รีบเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง “คุณไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเถอะ ฉันจะขับรถเอง”ซ่งหนิงซวงกล่าวจบก็ไล่เฉินเยว่เอ๋อร์ไปยังที่นั่งข้างคนขับทันที จากนั้นก็เหยียบคันเร่งไปยังเส้นทางลัด แล่นตรงไปยังภูเขาเฮยเฟิง .....เวลานี้เอง ภูเขาเฮยเฟิงที่อยู่ห่างจากเจียงจงไม่ถึงร้อยลี้ ภายในห้องโถงใหญ่ทำจากไม้ที่สร้างขึ้นได้ไม่นาน มีชายชราผมสีเงินสวมชุดคลุมดำกำลังนั่งตัวตรงข้างกายเขายังมีชายสวมชุดคลุมดำสี่คนที่ทั่วทั้งใบหน้าถูกหมวกบดบังไว้ ทำให้มองเห็นหน้าตาไม่ชัด ชายชราผมสีเงินคนนั้นก็คือโจวว่านหลี่เจ้าสำนักรุ่นที่สามของสำนักว่านเซี๋ยมีฉายาเลวร้ายในโลกแห่งการหยั่งรู้ว่าจ
โฮ่วเจี้ยนอิงถลึงตาใส่เซียวเสวี่ยอิ๋งแล้วกล่าวเสียงเข้มว่า “ครั้งนี้เป็นปฏิบัติการร่วมกันระหว่างพวกเรากับแก๊งมังกร แม้แต่แก๊งมังกรก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณฉู่ คุณยังมีอะไรไม่ยอมอีก!”“จำไว้ว่านี่คือคำสั่ง ผมไม่ได้ขอความเห็นจากคุณ!”โฮ่วเจี้ยนอิงพูดจบก็เอ่ยกับถานเฟยอีกครั้งว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน ถ้าเกิดสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง หรือว่าต้องการกำลังเสริม สามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อ ศูนย์บัญชาการกองทหารรักษาการณ์เจียงจงเตรียมพร้อมรบแล้ว สามารถไปเป็นกำลังเสริมที่ภูเขาเฮยเฟิงได้ตลอดเวลาครับ” ถานเฟยพยักหน้ากล่าวว่า “ขอบคุณผู้บังคับบัญชาสูงสุดโฮ่วที่ให้ความร่วมมือครับ” พอกล่าวจบก็โบกมือให้แก๊งมังกรพลางพูดว่า “ขึ้นรถ” สมาชิกแก๊งมังกรที่ติดอาวุธพรั่งพร้อมหลายสิบคนพากันเข้าไปนั่งในรถตำรวจ เซียวเสวี่ยอิ๋งก็กระโดดขึ้นรถทหารอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยเสียงดังว่า “ทั้งหมดออกเดินทางได้!”รถทหารหลายสิบคันและรถตำรวจสิบกว่าคันแล่นไปทางภูเขาเฮยเฟิงอย่างยิ่งใหญ่ จนกระทั่งขบวนรถจากไปแล้ว ถานเฟยถึงค่อยผายมือเชื้อเชิญฉู่เฉินพลางกล่าวว่า “คุณฉู่ พวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะครับ”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเข้าไป
นี่ก็คือสาเหตุสำคัญว่าทำไมแก๊งมังกรถึงได้โดดเดี่ยวไร้พันธมิตรมานานขนาดนี้ถ้าพูดให้ละเอียด ซ่งหนิงซวงก็เป็นคนของโลกแห่งการหยั่งรู้เช่นกันไม่ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในขุนพลใหญ่ทั้งแปด หรือว่าเป็นขุนพลเทพพิทักษ์ชาติก็เปลี่ยนแปลงภูมิหลังไม่ได้ว่าเธอเป็นศิษย์ของวังจื่อเซียวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งหนิงซวงพลันมองไปทางฉู่เฉินด้วยสายตาซับซ้อน ก่อนจะขมวดคิ้วกล่าวว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน คุณคงไม่ได้คิดจะบอกว่าคุณฉู่คนนี้ก็จะเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วยหรอกใช่ไหม?” ถานเฟยหันตัวไปมองฉู่เฉินแวบหนึ่ง เมื่อเห็นฝ่ายหลังพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ถานเฟยถึงค่อยเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “พูดตามตรง คุณฉู่เป็นคนแรกที่ให้แหล่งกบดานของสำนักว่านเซี๋ยกับแก๊งมังกรก่อนครับ” “ดังนั้น ปฏิบัติการในครั้งนี้ย่อมต้องมีคุณฉู่อย่างแน่นอน ทำไมครับ? ท่านขุนพลมีความเห็นอะไรเหรอครับ?”ซ่งหนิงซวงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเฉยชา “ไม่มีความเห็นอะไรค่ะ เพียงแต่ว่าเมื่อกี้คุณฉู่คนนี้พูดเอาไว้ไม่ใช่เหรอ? ตัวเขาก็คือที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้น ปฏิบัติการในครั้งนี้น่าจะไม่ต้องให้ฉันไปลงมือทำอะไรเกินความจำเป็นแล้วสินะ”เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทั่วทั้งงา
เมื่อทุกคนได้ยินคำกล่าวก็พากันมองไปทางหน้าประตูจากนั้นก็เห็นเพียงถานเฟยนำเซียวเฟิงและสมาชิกแก๊งมังกรอีกแปดคนเดินเข้ามาในโถงจัดเลี้ยงอย่างองอาจผึ่งผาย“ถานเฟย?”ซ่งหนิงซวงกำหมัด กัดฟันแน่นก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดกับฉู่เฉินว่า “นี่ก็คือที่พึ่งของคุณในการท้าทายฉันเหรอ?”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เห็นด้วยว่า “ผมไม่เคยพึ่งพาใครทั้งนั้น ผมเป็นที่พึ่งของตัวผมเอง”บ้า!แม่งบ้าเกินไปแล้ว!ซ่งหนิงซวงรู้สึกแค่ว่าในหน้าอกเหมือนซ่อนภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุเอาไว้ หน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมติดต่อกัน“ขุนพลเทียนเฟิ่ง ผมหวังว่าคุณใจเย็นลงได้นะครับ”ถานเฟยก้าวมาข้างหน้า ขวางอยู่ระหว่างซ่งหนิงซวงกับฉู่เฉิน ก่อนจะมองซ่งหนิงซวงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในขุนพลทั้งแปด ผมหวังว่าคุณจะสำรวมตัวเองด้วยนะครับ”“ยาโลหิตวิญญาณคืออะไร คุณรู้ดีแก่ใจตัวเอง คุณฉู่ปฏิเสธคุณก็สมเหตุสมผลแล้ว” เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็เหมือนกับมีไฟลุกโชนอยู่ภายในดวงตางดงามของซ่งหนิงซวงถึงแม้ถานเฟยจะไม่ได้พูดชัดเจน แต่คำพูดของเขายืนยันคำพูดของฉู่เฉินทางอ้อม นี่ไม่เท่ากับบอกว่าเธอเกิดอารมณ์ตัณหาจนควบคุมไม่ไหวแล
เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินค่อย ๆ วางถ้วยชาลง ฟึบ!จากนั้นก็เห็นน้ำชาในถ้วยชาก่อตัวเป็นน้ำวน ต่อมาหยดน้ำที่สาดกระเซ็นออกมาหนึ่งหยดพลันพุ่งไปหาเฉินเยว่เอ๋อร์ราวกับลูกกระสุนผัวะ!เฉินเยว่เอ๋อร์ยังไม่ทันได้สติกลับมา น้ำชาหยดนั้นก็กระแทกหมวกของเธอจนกระเด็นออกไปทันที หยดน้ำทะลวงหิน ใบไม้สังหารคนนี่คือสัญลักษณ์ของระดับสร้างรากฐานชั้นห้าแม้แต่นัยน์ตางดงามของซ่งหนิงซวงก็แข็งทื่อไปในพริบตาฉู่เฉินเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นห้าเหรอเนี่ย?“ตอนนี้เข้าใจหรือยัง?”ฉู่เฉินมองเฉินเยว่เอ๋อร์ที่ตกใจกลัวจนดวงหน้าสวยขาวซีดเล็กน้อย หลั่งเหงื่อเย็น ๆ ราวกับสายฝนตอนนี้เธอไม่สงสัยคำพูดของฉู่เฉินแม้แต่น้อยแล้ว เมื่อกี้ขอเพียงเธอกล้าชักปืนออกมา ฉู่เฉินย่อมมีวิธีการมากกว่าร้อยแบบที่จะสังหารเธอให้ตายดวงตางดงามของซ่งหนิงซวงหรี่ลงเล็กน้อย มองฉู่เฉินด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยว่า “ฉู่เฉิน คุณทำให้คนรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ แต่คุณต้องเข้าใจว่าสิ่งที่คุณต่อต้านด้วยในตอนนี้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นกองทัพของประเทศจีน”“ยาพวกนี้ ทางกองทัพ...”ไม่รอให้ซ่งหนิงซวงพูดจบ ฉู่เฉินก็แค่นเสียงเย็นแล้วโบกมือเอ่ยตัดบทว่
กระบี่แหลมคมออกจากฝัก ปราณกระบี่ราวกับสายรุ้ง!ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อแม้แต่เฉียวเทียนฉี่กับโฮ่วเจี้ยนอิงก็คิดไม่ถึงว่าเฉินเยว่เอ๋อร์จะลงมือสังหารฉู่เฉินถึงแม้ว่าเฉินเยว่เอ๋อร์จะเป็นเพียงรองขุนพลของซ่งหนิงซวง แต่รองขุนพลของขุนพลใหญ่จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?ลมปราณของผู้แข็งแกร่งระดับสร้างรากฐานชั้นสาม แผ่ออกมาผ่านคมกระบี่ ตรงไปที่จุดตายของฉู่เฉิน“คุณฉู่...”“น้องฉู่...”ปฏิกิริยาของพวกเฉียวเทียนฉี่กับฟางอวี่เจิ้งทำให้ซ่งหนิงซวงขมวดคิ้วขึ้นมาเธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าฉู่เฉินจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้ในเจียงจง ทุกคนรวมไปถึงผู้ว่าการยืนอยู่ฝั่งฉู่เฉินอย่างเห็นได้ชัดเวลานี้เธอนึกเสียใจภายหลังนิดหน่อยแล้วถ้าเกิดเฉินเยว่เอ๋อร์สังหารฉู่เฉินในกระบี่เดียว เช่นนั้นไม่ใช่แค่โลหิตโอสถศักดิ์สิทธิ์กำลังจะหมดไปเฉย ๆ เท่านั้น พวกเฉียวเทียนฉี่จะต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งแน่นอนถ้าเกิดรายงานไปถึงเมืองหลงจิงก็จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเธอถึงขนาดที่จะส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติในการเข้าร่วมการแข่งขันชิงตำแหน่งขุนพลเทพพิทักษ์ชาติของเธอด้วยหลิ่วชิงเหอที่นั่งอยู่ทางด้านข้างก็ตกใจ
คนที่มีคุณสมบัตินั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนี้ มีเพียงเฉียวเทียนฉี่และโฮ่วเจี้ยนอิงสองคนเท่านั้นแม้แต่โจวอวี้หมิงก็ได้แต่นั่งดื่มเป็นเพื่อนที่โต๊ะด้านข้างเท่านั้นเมื่อนับรวมเฉินเยว่เอ๋อร์ที่เป็นรองขุนพลของซ่งหนิงซวง ทั้งโต๊ะก็มีแค่สี่คนเท่านั้นฉู่เฉินไม่เกรงใจเช่นกัน เขานั่งลงตรงข้ามซ่งหนิงซวงทันที ก่อนจะยิ้มให้ซ่งหนิงซวงแล้วพูดว่า “คิดว่าถึงยังไงวันนี้ขุนพลหญิงเรียกผมมา คงไม่ได้เชิญผมมาเพื่อดื่มเหล้าแน่นอนหรอกใช่ไหม?”“ผมเป็นคนชอบพูดจาตรงไปตรงมา มีเรื่องอะไรก็ขอให้ขุนพลหญิงพูดให้ชัดเจน”ถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะเอ่ยคำพูดนี้ด้วยความเกรงใจมาก แต่ใบหน้ากลับไม่ได้ดูเอาอกเอาใจเลยแม้แต่น้อยซ่งหนิงซวงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ฉันก็ชอบพูดคุยกับคนฉลาดเหมือนกัน” ซ่งหนิงซวงพูดพลางล้วงใบสั่งยาแผ่นหนึ่งออกมาจากในอก แล้วส่งให้เฉินเยว่เอ๋อร์เฉินเยว่เอ๋อร์รับใบสั่งยาก่อนจะลุกขึ้นมาเดินไปหาฉู่เฉิน จากนั้นก็กางใบสั่งยาออกแล้ววางไว้ตรงหน้าฉู่เฉิน“ฉันได้ยินว่าคุณฉู่ค่อนข้างเชี่ยวชาญด้านวิชาแพทย์ ฉันคิดว่าคุณฉู่จะต้องเข้าใจใบสั่งยานี้แน่นอนเลยใช่ไหม”ซ่งหนิงซวงพูดพลางดื่มน้ำชา ฉู่เฉินกวาดตามองใบส