“ในฐานะที่นายเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์ พูดคำว่านังสารเลวสินะ มา วันนี้ถ้านายไม่อธิบายกับฉันอย่างชัดเจน ว่าอะไรถึงเรียกว่านังสารเลว เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่านายให้ตาย”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็ชกเข้าที่ท้องน้อยของหลิวจื้อซินผลัวะ!พลังแกร่งขุมหนึ่งทะลุร่างอวบอ้วนของหลิวจื้อซินจนกระแทกเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังเขาลำพังแค่พลังแกร่งขุมเดียวก็ทำให้เก้าอี้ตัวนั้นกลายเป็นขี้เลื่อยปลิวว่อนกลางอากาศเลยทีเดียว“ต่อต้านแล้ว…ต่อต้านแล้ว เร็ว…รีบโทรแจ้งความกรมตำรวจ!”หลิวจื้อซินในเวลานี้ ทั้งปาก จมูก หูมีแต่เลือดไหลราวกับเหงื่อไหลไคลย้อยตอนนี้เขาไม่สนหน้าตาอะไรแล้ว จิตใจคิดแต่จะรอให้คนของกรมตำรวจรีบมาถึงแล้วจัดการฉู่เฉินให้ตายซะ……เวลานี้เอง รถตำรวจสิบกว่าคันและรถทหารสองคันได้มาจอดที่หน้าอาคารฉู่ซื่อกรุ๊ปแทบจะในเวลาเดียวกันหลูติ้งไห่และเซียวเสวี่ยอิ๋งที่ผลักประตูรถลงมามองสบตากันแล้วก็ตะลึงทันที“ผู้นำหลู?”“ผู้นำเซียว?”ทั้งสองจับมือกันโดยมีสีหน้าประหลาดใจ เซียวเสวี่ยอิ๋งมองตำรวจกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของหลูติ้งไห่แล้วก็ขมวดคิ้วกล่าว “ผู้นำหลู นี่คุณ…”เธอได้รับคำสั่งจากโฮ่วเจี้ยนอิง
บรรดาผู้ถือหุ้นที่เมื่อกี้ยังดูเหตุการณ์อยู่ก็คาดเดาล่วงหน้าได้ว่าหลิ่วหรูเยียนและฉู่เฉินจะถึงทางตันแน่ในเวลานี้แต่ละคนต่างออกหน้ามาทีละคนโดยมีฟางเหว่ยเป็นผู้นำหลัก“ท่านผู้นำหญิง ก็คือไอ้คนแซ่ฉู่ไม่เพียงทำร้ายต้วนเคอจนสลบ แถมยังทำร้ายผู้อำนวยการหลิวจนบาดเจ็บสาหัส ไอ้เด็กเวรนี่สมควรจะถูกยิงตายคาที่”“ใช่แล้ว ผมก็เห็นเหมือนกัน ต้วนเคอเขาก็แค่ให้นังเลวหลิ่วหรูเยียนเซ็นชื่อ ใครจะไปรู้ว่า ฉู่เฉินไม่พูดอะไรก็ลงมือทำร้ายคนทันที”“ใช่ครับ ไม่เห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตาบ้างเลย คนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะครับ”ผู้ถือหุ้นที่ก่อนหน้าที่ยังอยู่ฝั่งฉู่เฉินต่างทยอยกล่าวโทษฉู่เฉินขึ้นมาในเวลานี้หลิ่วหรูเยียนรู้สึกสิ้นหวังทันทีเมื่อได้ยินเสียงกล่าวโทษของผู้คนรอบข้างถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าตระกูลฉีเรียกคนจากฝ่ายทหารมา เธอจะต่อต้านไปทำไม?“ฉู่เฉิน นายไม่รู้หรือว่านายทำลายพวกเราสองแม่ลูก!”ในขณะพูดหลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาราวกับไข่มุกที่ขาดออกจากสร้อยเสียแรงที่เธอเชื่อใจฉู่เฉินขนาดนั้น แต่ผลลัพธ์เป็นไงล่ะ?ก็เพราะฉู่เฉินก่อเรื่องจนยุ่งเหยิงวุ่นวายครั้งนี้ไม่ใช่แค่มอบบริษัทไปแล้วจะจบง
ฉู่เฉินจะไปมีคอนเนคชั่นคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้ยังไง?“ผู้นำหลู สำนักงานพาณิชย์ของพวกเราก็ปฏิบัติตามกฎเช่นกันนะ อีกทั้งคุณชายฉีก็ถือครองหุ้นฉู่ซื่อกรุ๊ปถึงหกส่วน ดังนั้นพวกเราจึง…”ในช่วงระหว่างที่หลิวจื้อซินพยายามพูดพลิกลิ้น เซียวเสวี่ยอิ๋งก็เอามือไพล่หลังก้าวเข้ามาตูม!ลำพังเพียงกลิ่นอายเฉพาะตัวของทหารก็ทำให้หลิวจื้อซินตกใจจนกลืนคำพูดหลังจากนั้นจนหมดสิ้น“ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยในตัวพวกคุณว่ากำลังร่วมมือบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างกองทัพกับฉู่ซื่อกรุ๊ป และคุกคามความมั่นคงของชาติ”กล่าวเสร็จเซียวเสวี่ยอิ๋งเอาเอกสารตบโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังเมื่อเห็นคำว่าลับที่สุดบนซองเอกสารที่มีตราประทับสีแดงของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทหารรักษาการณ์เมืองเจียงจงแล้ว ไม่เพียงแค่ฉีเฮ่อเซวียนคนเดียวที่ตะลึงสุดขีด แม้แต่หลิวจื้อซินก็อ่อนแรงฟุบลงไปกองที่พื้นเขาถูกใส่ความถ้ารู้ว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปยังมีความสัมพันธ์ในการร่วมงานกับทางกองทัพ ให้ความกล้าเขามาใช้มากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าทำถึงขนาดนี้หรอก“ท่าน...ท่านผู้นำ พวกเรา…พวกเราถูกใส่”ฟางเหว่ยและผู้ถือหุ้นทั้งหมดต่างตกใจจนคุกเข่าวิงวอนบนพื้นการข
“แม่ จะมาอาบน้ำด้วยกันไหม? น้ำร้อนกำลังดีเลย”ในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วหรูเยียนเปลือยเปล่านั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังพูดกับหลิ่วชิงเหอที่สวมชุดนอนลายลูกไม้อยู่หน้าประตู“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ลูกอาบก่อนเลย” หลิ่วชิงเหอรับโทรศัพท์ หันไปตอบลูกจากนั้นเดินออกจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนหันไปมองฉู่เฉินในถังยาข้างๆ ที่โผล่ให้เห็นแค่ศีรษะ“มองอะไร! ถ้ายังมองอีก ฉันจะควักลูกตาแกออกมาให้หมากิน!” หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นจากอ่างน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโสเธอไม่ได้ปกปิดร่างกายขาวนวลราวหิมะและหน้าอกที่ใหญ่โตของตัวเองแม้แต่น้อย ยืนโชว์ให้ฉู่เฉินเห็นกับตา“เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนสะบัดฝ่ามือตบลงที่แผลเป็นบนใบหน้าของฉู่เฉิน “ยังกล้ามองอีก! ไอ้ขันที เดี๋ยวฉันจะควักตาสุนัขของแกออกมาเลยนี่!”ฉู่เฉินขบฟันแน่น จ้องมองหญิงสาวงดงามที่อยู่ตรงหน้า พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “หลิ่วหรูเยียน ต้องมีสักวันที่ฉันเหยียบพวกเธอสองแม่ลูกให้จมดิน! และชิงทุกอย่างที่เป็นของตระกูลฉู่ฉันคืนมา!”“แกกำลังฝันอะไรอยู่? แกก็เป็นแค่สมุนไพรมนุษย์ให้ฉันกับแม่ แขนขาก็ถูกตีหักไปหมดแล้ว ยังจะเอาอะไรมาชิงกลับไปอีก?”หลิ่วหรูเยียนหัวเราะด้วยคว
ฉู่เฉินสลบไปนานมาก เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเหมือนฝันประหลาดเป็นเวลายาวนานในความฝัน เขากลายร่างเป็นราชันมังกรแห่งแดนเหนือ ทำสงครามทั้งเก้าสวรรค์สิบพิภพ ล้มสำนักนิกายใหญ่ต่างๆ ภายในวันเดียว รวมทั้งสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ด้วย...“โอ๊ย ปวดหัวจัง...” ฉู่เฉินร้องอย่างเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นถึงพบว่าตัวเองยังอยู่ในหลุม บาดแผลและความเจ็บปวดตรงแขนขาและบนร่างทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ห่างจากความตายไม่ไกลแล้ว “เจ้าหนู ข้าได้มอบวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ วิชานี้ครอบคลุมทุกแขนง ทั้งวิชาแพทย์แห่งต้าหลัว ตำราลับวรยุทธ์โบราณ วิชาหยินหยางห้าธาตุ วิชาลึกลับฮวงจุ้ย วิชาหลอมโอสถและสร้างอาวุธวิชาเหล่านี้ข้ามอบให้เจ้าหมดแล้ว...” “เจ้าหนู จำเอาไว้! รอเจ้าฝึกฝนถึงระดับเก้าชั้นฟ้า เจ้าต้องไปนอนกับสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่หยิ่งยโสคนนั้นแทนข้าให้ได้!”ข้างหูของเขายังมีเสียงสะท้อนของมังกรฟ้าที่เรียกตัวเองว่าเป็นราชามังกรแห่งแดนเหนือที่เขาเห็นในฝันก่อนหน้านี้ วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์หรือ?ฉู่เฉินย้อนกลับมาครุ่นคิดเล็กน้อย ทันใดนั้นข้อมูลมหาศาลก็พรั่งพรูเข้ามาในสมองของเขาวิชาลับบำเพ็ญคู่ เพิ่มคว
หลิ่วชิงเหอในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฉู่เฉินแอบมองอยู่ตรงระเบียง เธอเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเปิดเผย ต่อหน้าสายตาของฉู่เฉิน เช็ดผมที่เปียกชุ่ม รูปร่างที่สมบูรณ์แล้วราวกับเป็นประติมากรรม เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าสมบูรณ์แบบอยู่บนโซฟา ปลดปล่อยเสน่หาที่มีเฉพาะหญิงสาวผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ชายรู้สึกเลือดร้อนหลิ่วชิงเหออายุสามสิบห้าสามสิบหกปีแล้ว แต่ยังคงสวยงาม รูปร่างและผิวพรรณล้วนบำรุงดูแลอย่างดี ผิวขาวนวลราวกับสาวน้อยอายุยี่สิบปีเท่านั้นตรงระเบียงห้อง ฉู่เฉินมองภาพนี้จนปากแห้ง ท้องน้อยร้อนผ่าวถึงแม้เขาจะอายุยี่สิบสองปีแล้ว แต่ยังไม่เคยแตะต้องผู้หญิงมาก่อนโดยเฉพาะสามปีมานี้ถูกหลิ่วหรูเยียนทรมาน ทำลายศักดิ์ศรีของผู้ชาย ตอนนี้เมื่อเขาเห็นภาพที่งดงามนี้ ความแค้นที่สั่งสมมาสามปีก็ระเบิดออกมาทันที!อึกเสียงหนึ่งฉู่เฉินกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ว่ากันว่าสาวน้อยน่าเย้ายวน แต่มีเพียงผู้ชายที่โตแล้วถึงรู้ว่า ผู้หญิงแบบหลิ่วชิงเหอถึงจะเย้ายวนมากที่สุดรู้มาก เป็นเยอะ ยังเอาใจฉู่เฉินยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวหลิ่วชิงเหอนะหลิ่วชิงเหอ เธอไม่ใช่ผู้หญิงปกติจริงๆเธอที่อยู่ในสายตาคนนอกสูงส่งไม่อาจเอื
แสงแดดส่องร่างกายที่ขาวนวลของหลิ่วชิงเหอ ผิวพรรณของเธอภายใต้แสงอาทิตย์ขาวใสราวกับหิมะ“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ปล่อยฉันนะ! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก อื้อ ๆ ๆ...” หลิ่วชิงเหอตะโกนขัดขืน ใช้ทั้งมือทั้งเท้าต่อยแตะฉู่เฉินไม่หยุดแต่วินาทีต่อมาปากสีชมพูของเธอก็ถูกอุดเอาไว้ ทำได้แค่ร้องเสียงอู้อี้หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงความเผด็จการและความรุนแรงของอีกฝ่าย พยายามอ้าปากตัวเอง ใบหน้าของเธอมีแต่ลมหายใจร้อนรุ่มของฉู่เฉินยิ่งขัดขืนฉู่เฉินก็ยิ่งรุนแรงหลิ่วชิงเหอที่ไม่เคยถูกผู้ชายจูบอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอจึงอ่อนแรงทันทีเหมือนกับพื้นดินที่แห้งแล้งมานานถูกคนรดน้ำให้“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ฉันจะฆ่าแกแน่ อื้อ ๆ ๆ...” หลิ่วชิงเหอทำได้เพียงร้องอู้อี้“แม่หนูกลับมาแล้ว” ทันใดนั้นด้านล่างก็มีเสียงของหลิ่วหรูเยียนจากนั้นก็มีเสียงหลิ่วหรูเยียนขึ้นบันไดมา เสียงเดินเท้าสวบสาบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆหลิ่วชิงเหอลนลานแล้ว เธอออกแรงแตะฉู่เฉินออกไป จ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้นก่นด่าออกมา “ไอ้สารเลว! ฉันเป็นแม่บุญธรรมของแก แกทำแบบนี้ฟ้าผ่าแกตายแน่!”ฉู่เฉินเลียริมฝีปาก หัวเราะอย่างชั่วร้าย “แม่บุญธรรมเหรอ? หลิ่วช
หลิ่วชิงเหอร้องคร่ำครวญ จากนั้นคุกเข่าลงที่พื้น ถอนหายใจเสียงดังเธอมองฉู่เฉินด้วยสายตาเคียดแค้นพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกมันสัตว์เดรัจฉาน! ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”“เพียะ!”ฉู่เฉินสะบัดมือออกไป ตบใบหน้าของหลิ่วชิงเหออย่างแรง เขาเสยคางเธอขึ้น พูดว่า “ฆ่าฉันงั้นเหรอ? เธอไม่อยากได้ชีวิตลูกสาวแล้วเหรอ?”“แก!”หลิ่วชิงเหอโมโหมาก เมื่อถูกคนจับจุดอ่อนได้แบบนี้ รู้สึกคับข้องใจนักเธอเป็นถึงราชินีแห่งวงการการค้า ผู้บริหารฉู่ซื่อกรุ๊ป เป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าใครเห็นล้วนต้องยำเกรงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่สูงส่งอย่างเธอ วันนี้กลับต้องมาคุกเข่าต่อหน้าไอ้บ้าคนนี้!น่าอับอาย!น่าอับอายที่สุด!ความเกลียดชังและจิตสังหารในใจของหลิ่วชิงเหอพุ่งถึงขีดสุด“หลิ่วชิงเหอ ความแค้นระหว่างเธอกับฉัน ฉันจะค่อยๆ คิดบัญชีกับเธอช้าๆ ฉู่ซื่อกรุ๊ป ฉันก็จะชิงมันกลับมา!” ฉู่เฉินสวมกางเกง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลิ่วชิงเหอจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบ ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ป่านนี้เธอคงจ้องทะลุหัวใจฉู่เฉินไปแล้ว“พอใจหรือยัง? ตอนนี้รีบช่วยลูกฉันซะ! ถ้าแกกล้าโกหกฉัน ต่อให้ต้องไล่ฆ่าแกไปสุดขอบโลก ฉันก็จะฆ่าแกให้ได้!”
ฉู่เฉินจะไปมีคอนเนคชั่นคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้ยังไง?“ผู้นำหลู สำนักงานพาณิชย์ของพวกเราก็ปฏิบัติตามกฎเช่นกันนะ อีกทั้งคุณชายฉีก็ถือครองหุ้นฉู่ซื่อกรุ๊ปถึงหกส่วน ดังนั้นพวกเราจึง…”ในช่วงระหว่างที่หลิวจื้อซินพยายามพูดพลิกลิ้น เซียวเสวี่ยอิ๋งก็เอามือไพล่หลังก้าวเข้ามาตูม!ลำพังเพียงกลิ่นอายเฉพาะตัวของทหารก็ทำให้หลิวจื้อซินตกใจจนกลืนคำพูดหลังจากนั้นจนหมดสิ้น“ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยในตัวพวกคุณว่ากำลังร่วมมือบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างกองทัพกับฉู่ซื่อกรุ๊ป และคุกคามความมั่นคงของชาติ”กล่าวเสร็จเซียวเสวี่ยอิ๋งเอาเอกสารตบโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังเมื่อเห็นคำว่าลับที่สุดบนซองเอกสารที่มีตราประทับสีแดงของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทหารรักษาการณ์เมืองเจียงจงแล้ว ไม่เพียงแค่ฉีเฮ่อเซวียนคนเดียวที่ตะลึงสุดขีด แม้แต่หลิวจื้อซินก็อ่อนแรงฟุบลงไปกองที่พื้นเขาถูกใส่ความถ้ารู้ว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปยังมีความสัมพันธ์ในการร่วมงานกับทางกองทัพ ให้ความกล้าเขามาใช้มากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าทำถึงขนาดนี้หรอก“ท่าน...ท่านผู้นำ พวกเรา…พวกเราถูกใส่”ฟางเหว่ยและผู้ถือหุ้นทั้งหมดต่างตกใจจนคุกเข่าวิงวอนบนพื้นการข
บรรดาผู้ถือหุ้นที่เมื่อกี้ยังดูเหตุการณ์อยู่ก็คาดเดาล่วงหน้าได้ว่าหลิ่วหรูเยียนและฉู่เฉินจะถึงทางตันแน่ในเวลานี้แต่ละคนต่างออกหน้ามาทีละคนโดยมีฟางเหว่ยเป็นผู้นำหลัก“ท่านผู้นำหญิง ก็คือไอ้คนแซ่ฉู่ไม่เพียงทำร้ายต้วนเคอจนสลบ แถมยังทำร้ายผู้อำนวยการหลิวจนบาดเจ็บสาหัส ไอ้เด็กเวรนี่สมควรจะถูกยิงตายคาที่”“ใช่แล้ว ผมก็เห็นเหมือนกัน ต้วนเคอเขาก็แค่ให้นังเลวหลิ่วหรูเยียนเซ็นชื่อ ใครจะไปรู้ว่า ฉู่เฉินไม่พูดอะไรก็ลงมือทำร้ายคนทันที”“ใช่ครับ ไม่เห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตาบ้างเลย คนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะครับ”ผู้ถือหุ้นที่ก่อนหน้าที่ยังอยู่ฝั่งฉู่เฉินต่างทยอยกล่าวโทษฉู่เฉินขึ้นมาในเวลานี้หลิ่วหรูเยียนรู้สึกสิ้นหวังทันทีเมื่อได้ยินเสียงกล่าวโทษของผู้คนรอบข้างถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าตระกูลฉีเรียกคนจากฝ่ายทหารมา เธอจะต่อต้านไปทำไม?“ฉู่เฉิน นายไม่รู้หรือว่านายทำลายพวกเราสองแม่ลูก!”ในขณะพูดหลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาราวกับไข่มุกที่ขาดออกจากสร้อยเสียแรงที่เธอเชื่อใจฉู่เฉินขนาดนั้น แต่ผลลัพธ์เป็นไงล่ะ?ก็เพราะฉู่เฉินก่อเรื่องจนยุ่งเหยิงวุ่นวายครั้งนี้ไม่ใช่แค่มอบบริษัทไปแล้วจะจบง
“ในฐานะที่นายเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์ พูดคำว่านังสารเลวสินะ มา วันนี้ถ้านายไม่อธิบายกับฉันอย่างชัดเจน ว่าอะไรถึงเรียกว่านังสารเลว เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่านายให้ตาย”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็ชกเข้าที่ท้องน้อยของหลิวจื้อซินผลัวะ!พลังแกร่งขุมหนึ่งทะลุร่างอวบอ้วนของหลิวจื้อซินจนกระแทกเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังเขาลำพังแค่พลังแกร่งขุมเดียวก็ทำให้เก้าอี้ตัวนั้นกลายเป็นขี้เลื่อยปลิวว่อนกลางอากาศเลยทีเดียว“ต่อต้านแล้ว…ต่อต้านแล้ว เร็ว…รีบโทรแจ้งความกรมตำรวจ!”หลิวจื้อซินในเวลานี้ ทั้งปาก จมูก หูมีแต่เลือดไหลราวกับเหงื่อไหลไคลย้อยตอนนี้เขาไม่สนหน้าตาอะไรแล้ว จิตใจคิดแต่จะรอให้คนของกรมตำรวจรีบมาถึงแล้วจัดการฉู่เฉินให้ตายซะ……เวลานี้เอง รถตำรวจสิบกว่าคันและรถทหารสองคันได้มาจอดที่หน้าอาคารฉู่ซื่อกรุ๊ปแทบจะในเวลาเดียวกันหลูติ้งไห่และเซียวเสวี่ยอิ๋งที่ผลักประตูรถลงมามองสบตากันแล้วก็ตะลึงทันที“ผู้นำหลู?”“ผู้นำเซียว?”ทั้งสองจับมือกันโดยมีสีหน้าประหลาดใจ เซียวเสวี่ยอิ๋งมองตำรวจกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของหลูติ้งไห่แล้วก็ขมวดคิ้วกล่าว “ผู้นำหลู นี่คุณ…”เธอได้รับคำสั่งจากโฮ่วเจี้ยนอิง
ฉีเฮ่อเซวียนชำเลืองมองฉู่เฉิน แล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะร่าอย่างกะทันหันแล้วกล่าว “ไอ้หนุ่ม นายดีใจเร็วเกินไปไหม? นายคิดว่าทำร้ายต้วนเคอแล้วนายจะไม่เป็นอะไรหรือ?”กล่าวเสร็จฉีเฮ่อเซวียนก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนตบบ่าฉู่เฉินและกล่าว “ไอ้หนุ่ม เรื่องสนุกมันต่อจากนี้”ไม่ทันขาดคำก็มีเสียงเท้าวุ่นวายดังขึ้นจากในทางเดินฉีเฮ่อเซวียนฉีกยิ้มกล่าว “นายลองเดาดูว่าใครมา?”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วยิ้มกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ไม่ว่าเป็นใคร อย่าคิดจะได้ฉู่ซื่อกรุ๊ปไป”“ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินกล่าวจบก็มีเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นวินาทีต่อมา ประตูห้องประชุมก็เปิดออกโดยชายวัยกลางคนสวมเสื้อลำลองเดินพุงพลุ้ยเข้ามาด้วยท่าทางที่หยิ่งผยองด้านหลังเขามีชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบประมาณหกคนเดินตามมาด้วยเมื่อเห็นชายวัยกลางคนแล้ว หลิ่วหรูเยียนถึงกับตกใจหน้าซีดในทันที ชายวัยกลางคนคนนั้นก็คือหลิวจื้อซินซึ่งเป็นผู้อำนวยการกรมพาณิชย์ของเมืองเจียงจงเหตุการณ์เริ่มร้ายแรงแล้วสิแบบนี้“ฉู่เฉิน แย่แล้ว เป็นเรื่องแล้วรอบนี้”หลิ่วหรูเยียนจับแขนของฉู่เฉินไว้และกระซิบกล่าวหน้าซีดฉู่เฉินยิ้มให้หลิ่วหรูเยียน
“ฉัน…”หลิ่วหรูเยียนหน้าซีด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดสินะเธอกำปากกาเซ็นเอกสารในมือแน่น พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปทางฉู่เฉินฉู่เฉินควานหาบุหรี่ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลม ควันนั้นจึงลอยไปปะทะหน้าฟางเหว่ย จนฟางเหว่ยไอแค่กๆ“เมื่อกี้นายพูดไม่ใช่หรือไงว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องประชุมน่ะ!” ฟางเหว่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจ“ฉันนี่แหละคนกำหนดกฎ นายมาพูดเรื่องกฎกับฉันเหรอะ? นายมีคุณสมบัตินั้นไหม?”ฉู่เฉินเหลือบมองฟางเหว่ยอย่างดูแคลน จากนั้นก้าวไปที่หน้าโต๊ะแล้วหยิบกองเอกสารหนาปึกขึ้นมาโปรยราวกับดอกไม้จนกระจายไปทั่ว“นายทำอะไรน่ะ! เก็บเอกสารขึ้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ต้วนเคอเห็นฉู่เฉินโปรยหนังสือสัญญาโอนหุ้นที่เขาเอาออกมาลงพื้นแล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างซึ่งเปี่ยมไปด้วยอำนาจฉู่เฉินยิ้มเยาะแล้วก้าวไปหาและพูดอย่างเฉยเมยกับต้วนเคอ “เรื่องไหนยังไงก็ต้องมีเหตุผลกันบ้างสิ ต่อให้ผู้ถือหุ้นโอนหุ้นให้คนแซ่ฉีแล้ว พวกเราก็มีสิทธิ์ไม่มอบบริษัทให้เหมือนกัน”“อย่างมากก็แค่ชดใช้เงินให้ก็เท่านั้น ในฐานะที่นายเป็นหัวหน้ากรมพาณิชย์ ไม่เข้าใจหลักเหตุผลข้อนี้หรือไง?”ต้วนเคอหัวเรา
“ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว การประชุมบอร์ดผู้บริหารสามารถเริ่มได้ยังคะ? พวกผู้ถือหุ้นเริ่มจะทนรอไม่ไหวแล้วค่ะ”เวลานี้เองเสมียนของฉู่ซื่อกรุ๊ปก้าวเข้ามายังห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่อย่างเร่งรีบ และกล่าวกับหลิ่วหรูเยียน“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ให้พวกเขารออีกหนึ่งนาที”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจบแล้วหันหน้ามามองฉู่เฉิน“ได้ค่ะ”เสมียนตอบรับแล้วรีบเดินออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว“ฉู่เฉิน…”หลิ่วหรูเยียนไม่ทันกล่าว ฉู่เฉินก็ยกมือกล่าวตัดบท “หลิ่วชิงเหอล่ะ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้หลิ่วชิงเหอคงไม่ได้ให้เธอมาคนเดียวใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วหน้าซีดเล็กน้อย กล่าวด้วยท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ “เอ่อ แม่ฉันมีเรื่องสำคัญมาก เมื่อคืนวานก็ออกจากเจียงจงไปแล้ว”“น่าจะวันมะรืนถึงจะกลับมา ดังนั้นเรื่องของบริษัท นายช่วยฉันได้ไหม?”ฉู่เฉินฟังแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย จ้องหลิ่วหรูเยียนที่เริ่มลนลานสักพัก จึงพยักหน้ากล่าว “ไปกันเถอะ ต่อให้หลบยังไงก็หลบไม่พ้นเหมือนสำนวนจีนที่ว่าลูกสะใภ้ขี้เหร่ยังไงก็ต้องเจอพ่อแม่สามี”กล่าวจบ ฉู่เฉินก็จูงข้อมือของหลิ่วหรูเยียนและเดินไปยังห้องประชุมปัง!ฉู่เฉินผลักประตูห้องประชุมอย่างแรง
……ในตอนที่ฉู่เฉินและต้วนหลิงเวยออกจากห้องอาบน้ำอีกครั้งก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วดูเหมือนว่าเนื่องจากการเพิ่มระดับพลังสองขั้นรวดแล้ว ใบหน้าเล็กที่แสนจะแดงก่ำของต้วนหลิงเวยนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่ายังมีเวลาห่างจากการประชุมบอร์ดผู้บริหารของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ฉู่เฉินจึงกินข้าวเช้าหนึ่งคำอย่างลวก ๆ จากนั้นรีบเดินออกจากประตูวิลล่าจนมาถึงประตูใหญ่ของวิลล่าเฟิ่งหมิง ก็เห็นเจ้าทึ่มซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เงยหน้ามองดูพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแสงสว่างจ้าฉู่เฉินขมวดคิ้วคิดว่าไม่ค่อยเข้ากับเสื้อชุดนี้สักเท่าไหร่ จึงเข้าไปนั่งในรถแล้วสั่งให้ต้วนหลิงเวยไปซื้อชุดยามรักษาความปลอดภัยกลับมาเปลี่ยนให้เจ้าทึ่มเห็นประตูใหญ่ก็ต้องทำให้สมกับได้เห็นประตูใหญ่หน่อยสิฉู่เฉินสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับจนมาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในเวลาไม่นานต้าหลิงจื่อกำลังยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยความร้อนใจก็เห็นฉู่เฉินเปิดประตูรถลงมา จึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยรองเท้าส้นสูงแม้ว่าขาสวยงามของต้าหลิงจื่อจะดูหนาไปเล็กน้อย แต่ถุงน่องสีเนื้อใต้ชุดกระโปรงทำงานสั้นนั้นก็ทำให้คนร
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิชาของมังกรเฒ่าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆด้วยวิชาบำเพ็ญคู่บวกกับการแช่โอสถ ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกถึงพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานก็บรรลุจุดวิกฤติในการเลื่อนขั้นนั้นได้อีกครั้งตูม!พลังวิญญาณทำลายพันธนาการ รอบกายฉู่เฉินเกิดแสงเรืองรองสีทองเคลือบหนึ่งชั้นภายในห้องอาบน้ำสว่างจ้าไปด้วยแสงสีทองแม้แต่เงาร่างเสมือนมังกรภายในกายของฉู่เฉินก็เปลี่ยนแปลงจนเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัดของน้ำที่กระเซ็นส่วนต้วนหลิงเสวี่ยที่นอนราบข้างอ่างอาบน้ำ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระทบอย่างต่อเนื่องจากด้านหลังจนพลังวิญญาณภายในร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อนต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็ทะลวงจนเลื่อนขั้นได้อีกครั้ง ระดับพลังหยุดอยู่ที่ระดับฝึกปราณชั้นแปดและในชั่วพริบตาที่ต้วนหลิงเสวี่ยกำลังเลื่อนขั้นพลังได้นั้นเอง ฉู่เฉินก็ทำลายพันธนาการจนทะลวงเลื่อนสู่ระดับระดับสร้างรากฐานขั้นสี่เลื่อนขั้นระดับพลังได้ติดต่อกับสามขั้นรวดเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นฉู่เฉินก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ขณะที่ปราณและเลือดภายในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำเอา
ก๊อก!ในเวลาที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้น ใต้โต๊ะก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง!เซียวเฟิงก้มหน้ามองไปยังใต้โต๊ะด้วยความแปลกใจ หลิ่วหรูเยียนเก็บมือกลับมาในช่วงเวลาเดียวกับที่เซียวเฟิงก้มตัวมอง แต่เพราะเหตุนี้เมื่อมองจากมุมของเซียวเฟิงก็ทำให้เขาตะลึงมากเวลาฉู่เฉินกินข้าว ตรงนั้นห้าวหาญได้ขนาดนี้เชียว?หลิ่วหรูเยียนฉวยโอกาสนี้วางตะเกียบและถ้วยชามลง จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าวกับทุกคนว่า “พวกคุณกินกันก่อนได้เลยค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ”ฮะ?ฉู่เฉินรีบเงยหน้าหันขวับไปมองหลิ่วหรูเยียนแกล้งฉันเกินครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ฉันเกือบจะถูกเปิดโปงใต้โต๊ะแล้ว แต่เธอบอกจะไปก็ไปเนี่ยนะ?“ขอบคุณการรักษาด้วยสปาของคุณฉู่นะคะ บ๊ายบาย”หลิ่วหรูเยียนยังไม่ลืมโบกมือลาฉู่เฉินที่หน้าแดงก่ำอยู่ จากนั้นขาเรียวงามนั้นก็เดินส่ายสะโพกสวยไปมาแล้วหายไปจากสายตาของฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนลุกจากที่นั่งแล้ว ต้วนหลิงเวยก็ไม่พลาดโอกาสเข้ามาแทนที่จึงได้นั่งข้างฉู่เฉิน ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองใต้โต๊ะเป็นระยะ ๆอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ดวงตาคู่งามของเธอนั้นระยิบระยับมีเสน่ห์เวลาไม่นาน