คนขับรถคนเดิมรีบเดินพรวดพราดเข้ามา ก่อนจะถามว่า “เจ๊ใหญ่ มีอะไรเหรอครับ?”“สืบหาที่อยู่ของฉู่เฉินเจอหรือยัง?” โจวเทียนเฟิ่งถามอย่างร้อนใจเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ผิวหนังมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แม้แต่อวัยวะภายในก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาด้วย“สืบเจอแล้วครับ เจ๊ใหญ่ จะจัดการเขาเหรอครับ?” เสียวหู่ฉีกยิ้มมุมปากเขาแทบอดใจลงมือสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นไม่ไหวแล้ว!กล้าพูดจาล่วงเกินเจ๊ใหญ่ บัดซบ!“จัดการอะไรล่ะ! รีบเตรียมรถ ฉันจะไปหาฉู่เฉิน!” โจวเทียนเฟิ่งถลึงตาใส่เสียวหู่พอขึ้นมาบนรถ โจวเทียนเฟิ่งเจ็บจนเหงื่อเริ่มซึม ผิวของเธอเน่าเปื่อยเร็วกว่าที่เธอคิดเสียอีก ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากตัวเธอแล้ว กลิ่นนั้นเหมือนกลิ่นเหม็นเน่าของศพไม่มีผิด“เร็วเข้า! ไปหาฉู่เฉินที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่!” โจวเทียนเฟิ่งร้อนรน“ครับ!” เสียวหู่เองก็ร้อนใจเช่นกัน ดูก็รู้ว่าอาการของเจ๊ใหญ่ไม่สู้ดีย้อนกลับมาฝั่งฉู่เฉิน เขาพ่นลมหายใจออกมา พลังวิญญาณในจุดตันเถียนถูกเติมเต็มเกือบเจ็ดแปดส่วนแล้วฉู่เฉินลุกขึ้นเดินไปทางลานสวน เด็ดใบไม้ติดมือมาหนึ่งใบ จากนั้นก็ตวัดออกไป!ใบไม้พุ่งแหวกอากาศออ
โจวเทียนเฟิ่งกับเสียวหู่ตะลึงตาค้างไปทันทีไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่เฉินจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ เขาไม่เห็นโจวเทียนเฟิ่งอยู่ในสายตาเลยสักนิด“ฉู่เฉิน! รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”โจวเทียนเฟิ่งเบิกดวงตางามกว้าง สายตาคมกริบสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง เธอเป็นถึงเจ๊ใหญ่แห่งเมืองเจียงจงเชียวนะ!เป็นบุคคลที่เมื่อขานเรียกใคร ผู้นั้นก็ต้องตอบรับฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับกล้าไล่เธอให้ไสหัวไป?เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?“ผมย่อมรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ ขอบอกให้รู้ว่าปัญหาของคุณเกิดจากพิษศพ เป็นโรคที่เกิดจากพลังหยิน หมอทั่วไปรักษาไม่หายหรอก”“ถึงคุณจะรักษายังไงก็ต้องตาย พูดง่ายๆ ก็คือ โรคของคุณมีแต่ผมที่รักษาได้!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“ฉู่เฉิน อย่าคิดว่าอวดฉลาดโชว์ความสามารถต่อหน้าผู้คนได้นิดหน่อยแล้วจะยกย่องตัวเองเป็นปรมาจารย์ได้จริงๆ! รีบรักษาให้ฉันซะ ก่อนที่ฉันจะโมโห!”โจวเทียนเฟิ่งพูดอย่างไม่พอใจสุดขีดหลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดอย่างนี้กับเธอ“ไอ้เด็กเปรต! รีบรักษาให้เจ๊ใหญ่เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันตัดไอ้จ้อนของแก!
“มีแต่ฉู่เฉินที่รักษาได้จริงเหรอ?” โจวเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว มองลำคอที่เริ่มเน่าเปื่อยของตนเองในกระจกสุดท้าย เธอได้แต่กัดฟันแล้วเลือกที่จะก้มหัวเพื่อยอมประนีประนอม “ไปหาฉู่เฉิน”เสียวหู่พยักหัว เขาเหยียบคันเร่งพาโจวเทียนเฟิ่งกลับไปยังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่อีกครั้งเพียงแต่ ครั้งนี้เสียวหู่และโจวเทียนเฟิ่งไม่ได้วางตัวสูงส่งไม่เห็นหัวใครอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว“คุณฉู่ๆ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”พริบตาเดียว เสียวหู่ตะโกนเข้าไปในห้องรับแขกอย่างนอบน้อม ทิ้งความอวดดีไปจนสิ้น“ไม่ช่วย ไสหัวไป!”เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังออกมาจากในบ้านเสียวหู่ขมวดคิ้ว เขากัดฟันคุกเข่าอยู่หน้าประตู ตะโกนอีกครั้งว่า “คุณฉู่ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”“ขอแค่คุณยอมช่วย จะให้ผมจงอาหู่คนนี้ทำอะไรก็ยอม!”“แม้จะสั่งให้ผมเอาหัวโขกจนตายตอนนี้เลย ผมก็ยอม”เสียวหู่โขกหัวกับพื้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเลือดไหลอาบหน้าผากโจวเทียนเฟิ่งทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ลดมาดอวดดีลง ก่อนจะตะโกนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้ล่วงเกินแล้ว ได้โปรดเมตตาให้อภัยผู้น้อยสักครั้งเถอะ”“ขอแค่คุณยอมช่วย
ซี้ด!จนกระทั่งโจวเทียนเฟิ่งถอดชุดกี่เพ้าออกจนหมด ฉู่เฉินจึงได้เห็นอย่างแท้จริงว่าผู้หญิงคนนี้มีเรือนร่างราวกับนางพญามาร!ความอวบอิ่มด้านหน้า ทั้งกลมกลึงและเต่งตึง เว้าโค้งได้รูปจนน่าทึ่ง งดงามมากจริงๆเอวคอดแบบบาง โอบมือเดียวก็รอบแล้วส่วนบั้นท้ายก็ยิ่งผายกลมได้รูปตามแบบฉบับบั้นท้ายลูกพีช!ปกติผู้หญิงคนนี้ออกกำลังกายด้วยเหรอ?ถึงได้รักษาหุ่นได้ดีขนาดนี้!เรือนร่างของนางพญามารชัดๆ!หลิ่วชิงเหอเทียบกับเธอไม่ติดฝุ่นเลยแม้แต่น้อยเรียกว่านางพญามารไม่เกินจริงเลยแม้ว่าผิวหนังของเธอในตอนนี้จะเน่าเปื่อยไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังเสน่ห์อันเหลือล้นของเธอได้อยู่ดีนี่สิที่เรียกว่าผู้หญิงที่โตเต็มวัย และโตเต็มที่ทุกส่วนแล้วเสียด้วย“พู่…”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจ ข่มอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ก่อนพูดว่า “นอนคว่ำลงไปครับ”“อืม…” โจวเทียนเฟิ่งรับคำ อดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง และนอนคว่ำลงไปจากนั้น ฉู่เฉินเริ่มทายาสีดำสนิทลงตามตัวของโจวเทียนเฟิ่งเริ่มจากแผ่นหลัง ทาไล่ลงมาถึงบั้นท้ายฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความกลมกลึงและแน่นของบั้นท้ายของโจวเทียนเฟิ่
“ฉู่เฉิน...”โจวเทียนเฟิ่งพึมพำชื่อของฉู่เฉิน พ่นลมหายใจออกมา ถึงจะพบว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ข้างในนี้“คุณฉู่ ช่วยเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”ภายในห้องอาบน้ำ มีเสียงของโจวเทียนเฟิ่งดังออกมาฉู่เฉินตอบกลับว่า “สักครู่นะครับ”ทันใดนั้น เขาหยิบผ้าห่มจากข้างนอก ส่งให้โจวเทียนเฟิ่งอยู่ข้างในผ่านช่องแยกระหว่างประตู และพูดว่า “ที่บ้านผมไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำ ดังนั้นใช้ผ้าผืนนี้เช็ดไปก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะ” โจวเทียนเฟิ่งแอบอยู่หลังประตู แง้มประตูออก เธอยืนแขนขาวออกไปรับผ้าห่มจากฉู่เฉินฉู่เฉินกลอกตา เห็นทรวงอกอวบอ้วนสีขาวเหมือนหิมะและร่องเนินที่ชวนให้คนหลงใหลซี้ดๆ!นี่มันลูกแตงโม!ลูกแตงโมชัดๆ!โจวเทียนเฟิ่งรับรู้ได้ถึงสายตาของฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภายในใจก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา เธออยากจะแกล้งผู้ชายคนนี้มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมขึ้นมา ทันใดนั้นช่องระหว่างประตูก็เปิดกว้างขึ้น“ฟู่!”ฉู่เฉินพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เขารับไม่ได้กับภาพความงามอันหอมกรุ่นที่กำลังอาบน้ำอยู่ ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังกลับและจากไปโจวเทียนเฟิ่งยิ้ม
ฉู่เฉินคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเขาคงไม่ควรทอดทิ้งสองสาวสวยไว้ใช่ไหม?ไม่นานเขาก็ถึงที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปยังห้องโถง ก็มองเห็นกู้รั่วเสวี่ยและถังเจียวเจียวกึ่งนั่งกึ่งนอนตรงโซฟา“พี่ฉู่เฉิน ตรงนี้ค่ะ”กู้รั่วเสวี่ยโบกมือ ตะโกนเรียกฉู่เฉินสองมือของฉู่เฉินล้วงกระเป๋าอยู่ เดินเข้าไป พร้อมกับถามอย่างสงสัยว่า “พวกคุณสองคนมาเจอกันที่เมื่อไหร่กันครับ?”กู้รั่วเสวี่ยยิ้มพร้อมกับควงแขนฉู่เฉินให้นั่งลง พูดขึ้นมาว่า “ฮ่าๆ ฉันกับเจียวเจียวเป็นเพื่อนรักกันแล้วน่ะค่ะ”“เพื่อนรัก?” ฉู่เฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยมิตรภาพระหว่างผู้หญิงมันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?ฉู่เฉินกวาดสายตาไปที่ถังเจียวเจียวที่นั่งอยู่ เธอยังคงมีท่าทีที่สูงส่ง มีเพียงแต่ครั้นเมื่อมองตัวเขา เธอก็จะเก็บความหยิ่งทะนงนั้นไว้ ตะโกนขึ้นมาว่า “ปรมาจารย์ฉู่”ฉู่เฉินพูดขึ้นมา “ช่างมันเถอะ คุณถัง เรียกผมว่าปรมาจารย์ฉู่มันดูห่างไกลกันเกินไป เรียกผมว่าฉู่เฉินก็ได้ครับ”ถังเจียวเจียวอึ้งไปชั่วครู่ มองไปยังกู้รั่วเสวี่ยแวบหนึ่ง กู้รั่วเสวี่ยยิ้มพร้อมพูดอย่างรีบร้อนว่า “เจียวเจียวเอางี้ไหม เธอก็เรียกเ
“ฮ่าๆๆ!”พวกอันธพาลต่างพากันหัวเราะ ทำเอาถังเจียวเจียวโกรธจนหน้าซีดเซียว ด่าขึ้นมาว่า “แก พวกแกมันหน้าไม่อาย!”“คนสวย จะบอกความจริงให้พวกเธอนะ ที่นี่แจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์ หากไม่อยากทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ก็เชื่อฟังแล้วไปแช่ออนเซ็นกับพี่เป้าของพวกเราซะดีๆ”“พี่เป้าของพวกเราเป็นคนใจกว้าง ขอเพียงแค่พวกเธอทำให้พอใจ กระเป๋าแบรนด์เนมเอย อยากได้อะไรก็จะได้”หัวทองหนึ่งในนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“ถุย! ใครอยากได้กระเป๋าจากเขากัน! ไสหัวไปนะ!”กู้รั่วเสวี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ทว่าอันธพาลพวกนั้นกลับไม่ยอมหลีกทางให้ ไม่พอยังก้าวมาข้างหน้าอีกหลายก้าว สิ่งนี้ทำให้กู้รั่วเสวี่ยต้องถอยกลับไปสองสามก้าว จนโซซัดโซเซเกือบจะล้มลงยังดีที่ฉู่เฉินโอบเอวเล็กของกู้รั่วเสวี่ยไว้ทัน หลังจากนั้นเขาก็ไปบังข้างหน้าสองสาวเอาไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้เวลาพวกแกสิบวินาที หายไปจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นละก็ผลลัพธ์ที่ตามมาพวกแกก็รับผิดชอบเองนะ!”“อะไรนะ? ไอ้หนุ่มแกพูดอีกรอบสิ?”หัวทองเอียงหัว ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถึงขนาดยืนมือ ใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกพ
“ได้! ไอ้เวร แกอย่าได้เสียใจทีหลังล่ะ!”หลินเป้าตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือด ควักโทรศัพท์ออกมา กดสายไปยังเบอร์หนึ่ง“ฮัลโหล พี่หู่ นี่ผมเองอาเป้า ผมกับพวกลูกน้องถูกคนทำร้ายอยู่ที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง พี่รีบพาคนมาหน่อยครับ”ด้านปลายสายจงอาหู่เพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของโจวเทียนเฟิ่ง ขึ้นรถก็กดรับสาย ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น ใบหน้าดำมืด กล่าวอย่าไม่พอใจว่า “แกว่าอะไรนะ? แกโดนทำร้ายงั้นเหรอ? แกไม่ได้บอกว่าแกเป็นคนของสำนักเฟิ่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของจงอาหู่เหรอ?”“บอกแล้วครับพี่หู่ แต่ว่าฝั่งตรงข้ามมันกำแหงมากครับ มันไม่เห็นสำนักเฟิ่งกับพี่อยู่ในสายตาเลย” หลินเป้าถลึงตาใส่ฉู่เฉินพร้อมกับพูดไปด้วย“แม่งเอ๊ย! ได้ ฉันรับรู้แล้ว รออีกสักพักเดี๋ยวฉันก็จะถึงแล้ว!” จงอาหู่พูดด้วยความโมโห วางสายไป เรียกเหล่าลูกน้อง เหยียบคันเร่งบึ่งไปยังคลับน้ำพุร้อนอวี้หลงภายในล็อบบีน้ำพุร้อนอวี้หลงหลินเป้าจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่เยาะเย้ยที่น่ากลัวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา และตะโกนว่า “ไอ้น้อง ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่รอดแน่! รอให้พี่หู่ของพวกฉันมาถึงเถอะ แกได้เจอดีแน่!”“ถ้าเข้าใจสถานการณ์แล้วก็รีบคุกเข่ากราบขอโท
ถุย!หลิงเสวี่ยจ้องฉู่เฉินด้วยความเกลียดชังเธอคุกเข่าบนพื้นมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว นวดจนแขนทั้งปวดทั้งเมื่อย ฉู่เฉินม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงเลยงั้นเหรอ?แม้แต่น้ำสักอึกก็ไม่ให้เธอดื่ม อย่างน้อยก็น่าจะให้เธอได้พักบ้างสิ“ฉู่เฉิน คุณคงไม่คิดจริงๆ หรอกนะว่าพวกเราในวังว่านเจี้ยนจะกลัวคุณ? ตราบใดที่กำลังเสริมมาถึง คนเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกก็จะถูกขับไล่ออกไป ถึงเวลานั้น... ถึงเวลานั้นคุณจะมาร้องไห้ก็ไม่ทันแล้ว!”หลิงเสวี่ยไม่อาจทนได้อีกต่อไป กัดฟันเงยหน้าขึ้นมองฉู่เฉินด้วยความโกรธแค้นฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ ส่ายหัวและกล่าวว่า “วังว่านเจี้ยน? กำลังเสริม? คุณคิดง่ายเกินไปแล้ว”กล่าวถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็ค่อยๆ วางถ้วยชาลงและกล่าวอย่างใจเย็น “คุณคงไม่คิดว่าผมจงใจปล่อยข่าวออกไปเพื่อจัดการกับพวกคุณโดยเฉพาะหรอกใช่ไหม?”“ถ้าคิดแบบนั้น คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”อย่าว่าแต่พวกคุณสามสำนักเลย ต่อให้สามสิบหรือสามร้อย ผมก็ไม่ใส่ใจ”โอ้ย บ้าจริง!คุณนี่โม้เกินไปแล้ว!หลิงเสวี่ยโกรธจนฝ่ามือคันยุบยิบ อยากจะตบฉู่เฉินสักสองฉาดเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและกล่าวว่า “ไม่เชื่
“ปรมาจารย์ อย่ารับปากเขานะครับ!”“ปรมาจารย์ วังว่านเจี้ยนของเรายังจะกลัวเขาที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระคนเดียวอีกเหรอ!”“ปรมาจารย์ ผมอาสาไปเฝ้าประตูเขาเพื่อปกป้องสำนักเองครับ!”เหล่าศิษย์ต่างตาเบิกโพลงด้วยความโกรธแค้น!ความหมายในคำพูดของฉู่เฉิน นั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด คือต้องการใช้หลิงเสวี่ยแลกกับความปลอดภัยของทั้งสำนักเทียนเจี้ยนของพวกเขา!ใครในที่นี้ที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายอกสามศอกบ้าง?ยิ่งไปกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังเป็นศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนแล้วจะให้นั่งดูศิษย์น้องสาวที่สวยดั่งเทพธิดาไปอุ่นเตียงให้สารเลวฉู่เฉินนั่นได้ยังไง?!“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของวังเทียนเจี้ยน ให้ฉันได้ไตร่ตรองก่อน”ถึงปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะหน้าหนาแค่ไหน ก็ไม่อาจตอบรับฉู่เฉินได้โดยง่าย ท้ายที่สุดแล้วก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักเทียนเจี้ยนโดยเฉพาะในโลกแห่งการหยั่งรู้ มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ว่าอยู่อย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นนิกายหรือสำนักไหน การส่งศิษย์หญิงให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นกระถางหลอมเพื่อบำเพ็ญคู่หรือเพื่ออุ่นเตียง ล้วนเท่ากับเป็นการยอมจำนนต่ออีกฝ่ายวังเทียนเจี้ยนแค่ประสบ
ต้องรีบกำจัดหายนะนี่ออกไปโดยด่วน ไม่งั้นแม้แต่ประตูหินหนักหมื่นชั่งของวังเทียนเจี้ยนคงจะทนได้อีกไม่นานแม้ประตูหินบานนั้นจะเป็นสิ่งที่บรรพจารย์ทิ้งไว้ แม้แต่ผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณก็ไม่อาจทำอะไรวังเทียนเจี้ยนได้ในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้หน้าประตูวังเทียนเจี้ยนกลับมีเสียงดังกึกก้องดังขึ้นถ้าจะบอกว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่กังวล นั่นก็เป็นโกหกอย่างไรเสียก็มีสำนักชิงอวิ๋นเป็นตัวอย่างอยู่ตรงหน้า ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจึงตระหนักถึงความร้ายกาจในเรื่องนี้ดี“ไม่ต้องรีบร้อน ใช่แล้ว ที่นี่มีห้องรับรองแขกไหม?”ฉู่เฉินวางถ้วยชาลง เอามือเท้าคาง เอนตัวนอนบนเก้าอี้ยาวและเงยหน้าขึ้นกวาดตามองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งอะไรนะ?ห้องรับรองแขกเหรอ?ตอนนี้เหล่าศิษย์ทุกคนในวังเทียนเจี้ยน ล้วนมีสีหน้าโกรธจัด!ฉู่เฉินคิดว่าวังเทียนเจี้ยนเป็นโรงแรมหรือไง? ยังจะขอห้องรับรองแขกอีก!“กึก...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนกัดฟัน ก่อนจะพยักหน้ากล่าว “แน่นอนว่ามีครับ คุณฉู่...”“หาว …”ฉู่เฉินหาว ขยี้ตาแล้วกล่าวว่า “งั้นก็ดีเลย รบกวนเจ้าสำนักจัดให้ผมสักห้องด้วยครับ ผมอยากพูดคุยเรื่องชีวิตกับศิษย์น้องหลิงเสวี่ยอย่างลึก
อะไรนะ?!ดวงตาคู่สวยของหลิงเสวี่ยจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินฉู่เฉินเข้าไปทั้งเป็นเหล่าศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ ต่างก็พากันจ้องฉู่เฉินเขม็งด้วยสายตาอาฆาตหลิงเสวี่ยคือหนึ่งในสามหญิงงามแห่งวังเทียนเจี้ยน โดยปกติแล้ว ถือเป็นคู่ครองในอุดมคติของบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ที่น่าเสียดายก็คือหลิงเสวี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจใครเลยกระทั่งศิษย์พี่ใหญ่ถานเฟิงก็ยังโดนศิษย์น้องหลิงเสวี่ยปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เจ้าเด็กฉู่เฉินคนนี้กลับขอให้ศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าใฝ่ฝันมานวดขาให้เขาเนี่ยนะ?“ปรมาจารย์ คนคนนี้จองหองเกินไป ผม...”“ถอยไป!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนถลึงตาจ้องถานเฟิงอย่างดุดัน การฆ่าฉู่เฉินยังไม่ง่าย?แต่ถ้าฆ่าฉู่เฉินแล้ว แล้วเหล่ายอดฝีมือที่เขาเอาชนะมาได้จะทำยังไง?จะให้วังเทียนเจี้ยนถูกทำลายงั้นเหรอ?เมื่อถานเฟิงเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของปรมาจารย์ว่านเจี้ยน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าไปและรีบถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง“หลิงเสวี่ย ไม่ได้ยินที่คุณฉู่สั่งเหรอ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนสีหน้ามืดมน กัดฟันเอ่ยถาม“อะไรนะ? ปรมาจารย์ ฉัน...”หลิ
เมื่อปรมาจารย์ว่านเจี้ยนได้ยินรายงานจากศิษย์ในสำนัก ก็รีบร้อนสั่งว่า “ใครก็ได้ รีบปิดประตูเขาเร็วเข้า ห้ามผู้ใดบุกรุกเข้ามาโดยเฉพาะฉู่เฉิน ห้ามให้เขาเข้ามาเด็ดขาด”น่ากลัวเกินไปแล้ว แม้วังเทียนเจี้ยนจะมีคนหนุนหลังอยู่ แต่ศึกใหญ่นี้ ถ้าปะทุขึ้นในวังเทียนเจี้ยน ทั้งวังเทียนเจี้ยนก็อาจจะพินาศย่อยยับ ถึงจะชนะแล้วยังไงล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายล้วนเป็นสำนักระดับสูงสุดในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้อำนาจเบื้องหลังวังเทียนเจี้ยน ก็ใช่ว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้แต่ในเวลานี้ เพียงเห็นเงาร่างผู้หนึ่งพุ่งทะยานมาทางประตูเขาวังเทียนเจี้ยนรวดเร็วดั่งสายลมกรรโชก“ปรมาจารย์ ท่านดู...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองตามปลายนิ้วของศิษย์ในสำนักไป เพียงเห็นฉู่เฉินสภาพเปื้อนฝุ่น กำลังวิ่งหน้าตั้งมาทางวังเทียนเจี้ยนด้วยรอยยิ้มจางบนใบหน้าแม่ง!รูม่านตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนหดแคบลงทันที กลัวอะไรก็เจออย่างนั้นจริงๆดาวหายนะฉู่เฉิน ดันมาแล้วจริงๆ !“เร็ว… รีบปิดประตูเขาเดี๋ยวนี้!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนตกใจจนพูดจาตะกุกตะกักเขาไม่ได้กลัวฉู่เฉิน แต่กลัวกลุ่มคนที่ตามหลังฉู่เฉินมาไกลๆ ต่างหาก!เปรี้ยง!พร้อมด้วยเสียงดังส
“ถอยไป!”ทันทีที่เทพสังหารชูขวานยักษ์ขึ้น ว่านโซ่วเซียนเวิงก็เอ่ยปากห้ามอย่างกะทันหัน“ท่านอาจารย์ เขา...”“หืม?!”ดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงเย็นเยียบลง ทำให้เทพสังหารตกใจรีบถอยไปหลายก้าว ก้มศีรษะลงต่ำ“สหายน้อย เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? มอบยาสร้างกล้ามเนื้อ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย พลางแบมือออกกล่าวว่า “ทุกท่าน หากไม่เชื่อก็สามารถตรวจดูด้วยตัวเองได้ ถ้าเป็นของปลอมแม้แต่น้อย เอาผิดกับผมได้!”เมื่อกล่าวจบ ว่านโซ่วเซียนเวิงกับผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็ก้าวออกมาเกือบจะในเวลาเดียวกัน รวดเร็วราวสายฟ้า แย่งชิงยาสร้างกล้ามเนื้อจากมือของฉู่เฉินไปคนละเม็ดผู้มีอิทธิพลระดับทารกวิญญาณคนอื่นๆ ก็ทยอยกันมาหยิบยาสร้างกล้ามเนื้อไปคนละเม็ดเช่นกัน แล้วตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่นาน“เป็นยาสร้างกล้ามเนื้อจริงๆ!”ในดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงมีประกายแสงวาบผ่าน ก่อนจะเหลือบตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยถามว่า “ยาลูกกลอนนี้ แกไปได้มาจากที่ไหน?”แม้ยาสร้างกล้ามเนื้อจะไม่ได้ระดับสูงนัก แต่คนที่สามารถหลอมได้กลับมีน้อยอย่างยิ่งอย่าว่าแต่ในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้แต่ในเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าสิบทศภูมิ ล้วนเป็นยาวิเศษล้ำค
ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นทำหน้าร้องห่มร้องไห้ อ้อนวอนติดต่อกันเมื่อเห็นว่าพวกเทพสังหารลับมีดเตรียมลงมือต่อสู้อีกครั้ง ประตูใหญ่สำนักชิงอวิ๋นของเขายังจะเหลืออยู่อีกเหรอ“เห็นแก่ที่คุณมีความจริงใจเต็มเปี่ยม ผมปล่อยคุณไปสักครั้งก็ได้ แต่ว่าผมเดินทางมาไกลมาก คุณคงไม่ให้ผมจากไปมือเปล่าหรอกใช่ไหม?”ฉู่เฉินค่อย ๆ ลุกขึ้น เอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ก้มมองท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า“ขอให้คุณฉู่ระบุให้ชัดเจนด้วย”คราวนี้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นร้องไห้แล้วจริง ๆ นับตั้งแต่รับตำแหน่งเจ้าสำนักมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจนย่อยยับ ที่สำคัญคือเขายังไม่กล้าโต้แย้งสักคำด้วยอัดอั้นตันใจจนกระอักเลือดแล้วจริง ๆ “พูดไปแล้วก็ง่ายนิดเดียว คุณดูสมุนไพรในรายการนี้ แล้วเตรียมมาคนละชุด”ฉู่เฉินกล่าวพลางล้วงใบรายการออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพอได้เห็น ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ร้อนใจแล้วบนนั้นเป็นสมุนไพรหายากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหญ้าเสวียนเทียน ดอกร้อยสีสัน รากวิญญาณปฐพี...ถึงขนาดที่มีสมุนไพรบางตัวที่แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห
“ฉู่เฉิน คุณคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของผมถึงตายเลยหรือไง!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกัดฟันกรอด ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง!ทุกอย่างล้วนเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินก่อขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะฉู่เฉินฆ่าลูกศิษย์ของเขา เขาจะเล่นงานฉู่เฉินหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?และตอนนี้ฉู่เฉินชักนำหายนะร้ายแรงมา แต่อยากให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนเหรอ?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็เป็นเจ้าสำนัก อย่าว่าแต่ใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำเลย แค่เขาคุกเข่าต่อหน้าลูกศิษย์หลายร้อยคนของสำนักชิงอวิ๋น อนาคตเขายังมีหน้าไปปกครองสำนักชิงอวิ๋นได้อย่างไร? “คุณก็เป็นเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมพูดจาเหมือนเด็กที่ยังฟันไม่ขึ้นล่ะ? เห็นชัด ๆ ว่าคุณเป็นคนเชิญผมมา คุณอยากจะฆ่าผมให้ตาย คุณคิดว่าผมยังใส่ใจเรื่องเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของพวกคุณอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ เอ่ยด้วยใบหน้าดูแคลนถึงอย่างไรข้าวของที่ถูกทำลายตอนนี้ก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของฉู่เฉิน ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ครั้งนี้ ฉู่เฉินอยากให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเข้าใจหลักการที่ว่าเชิญเทพง่าย แต่ส
วินาทีต่อมา เทพสังหารตวัดขวานศึกในมือผ่านอากาศ พุ่งตรงลงมาบนศีรษะของท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นขวานนี้คล้ายกับมีพลังที่สามารถผ่าภูผาได้เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารมาถึงแล้ว ปราณแท้รอบกายท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพลันพุ่งพล่าน กระบี่ยาวในมือปล่อยรัศมีแสงงดงามหมื่นสาย ตวัดกระบี่ออกไปเต็มแรงรับขวานศึกของเทพสังหารขวานศึกฟาดฟัน กระบี่ยาวผ่าอากาศ! เคร้ง!แม้ว่าท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นออกแรงอย่างสุดกำลัง แต่เขายังคงโดนขวานของเทพสังหารกระแทกจนกระเด็นออกไปแล้วพรวด!ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกระอักเลือดออกมา เขากระเด็นออกไปสิบเมตร ก่อนจะร่วงกระแทกลงมาบนบันไดหินอย่างหนักหน่วง บันไดหินเหล็กโดนกระแทกจนเป็นหลุมลึก พลังแตกต่างกันมากเกินไป เทพสังหารไม่ใช่คนที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นสามารถต่อกรได้เลยหากไม่ใช่เพราะยังมีลมปราณน่าสะพรึงกลัวหลายสายในฝูงชนพุ่งเป้ามาที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ขวานนี้เพียงพอที่จะส่งเขาไปสู่ปรโลกแล้ว“หยกโลหิตกิเลนไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักว่านเซียนของพวกคุณเลย พวกคุณปล้นกันชัด ๆ! ตะ...ต่อให้ผมตายก็ไม่ยอม!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพยายา