ทางด้านปลายสาย ตู้เสี่ยวเยวี่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน“มีอะไร?”หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วขึ้นมา ตู้เสี่ยวเยวี่ยไม่ได้กลับเมืองหมอตูไปแล้วเหรอ?คงไม่ใช่ว่าเรื่องครั้งนั้นกับฉู่เฉินถูกตระกูลหลี่รู้เข้าใช่ไหมแต่ว่าคนที่รู้เรื่องนั้นก็มีแค่ไม่กี่คนเองเธอและหลิ่วหรูเยียนไม่มีทางพูดเรื่องแบบนั้นออกไปแน่นอน“เรื่องนั้น... โอ๊ย ช่างมันเถอะ หนูพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ฉู่เฉินมันไม่ใช่คนธรรมดาค่ะ คุณป้าอย่าไปทำให้มันโกรธเด็ดขาดนะคะ คนคนนี้ไม่ใช่คนที่คุณป้าและหรูเยียนจะไปยั่วยุเขาได้!” “ส่วนเรื่องรายละเอียดหนูขอไม่เจาะลึกไปมากกว่านี้แล้วนะคะ แต่คุณป้าจำไว้ให้แม่นว่าคนนี้ห้ามไปยั่วยุเขาก็พอแล้วค่ะ”ตู้เสี่ยวเยวี่ยตอนแรกจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลหลี่ให้หลิ่วชิงเหอฟังทั้งหมด แต่พอคิดไปคิดมาหลี่โย่วถังพึ่งถูกปลด ตัวเธอเองก็ไปรีบไปซุกหัวอยู่กับหลี่เจี้ยนจวิน เรื่องนี้ใครมันจะกล้าพูดออกไปล่ะดังนั้นเธอจึงไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดออกไป แต่พูดแบบอย่างสรุปให้หลิ่วชิงเหอฟัง“ฉู่เฉินเหรอ?”หลิ่วชิงเหองุนงงเล็กน้อยตู้เสี่ยวเยวี่ยเป็นบ้าอะไรขึ้นมา พึ่งกลับเมืองหมอตูไป ไม่คิดหาทางรักษาลูก แต่กลับมาส
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ หลิ่วหรูเยียนอดทนกับฉู่เฉินมามากพอแล้วเธอเฝ้ารอดวงดาวเฝ้ารอพระจันทร์ ในที่สุดก็รอมาจนถึงวันที่การแข่งขันแพทย์แผนจีนจะเริ่มขึ้นแล้วขอเพียงแค่เธอสามารถเปิดโปงหน้ากากจอมปลอมของฉู่เฉินออกได้ ดูสิว่าต่อไปเขาจะรังแกพวกเธอสองแม่ลูกอย่างไรคิดไปคิดมา หลิ่วหรูเยียนก็ต่อสายหาหลี่จวิ้นเฟิงหลี่จวิ้นเฟิงตอนนี้ก็กำลัง ‘เตรียมตัว’ เพื่องานแพทย์แผนจีนขั้นตอนตามกฎของการแข่งขันแพทย์แผนจีน ควรจะเป็นผู้แข่งขันจับฉลากผู้ป่วย รักษาผู้ป่วยต่อหน้า สุดท้ายใช้ผลลัพธ์เป็นตัวตัดสินแต่หลี่จวิ้นเฟิงคิดว่าหากเขาทำตามกฎเดิมของการแข่งขัน เปอร์เซ็นต์ชนะของเขาจะไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าฉู่เฉินมันไปได้สูตรยามาจากไหน ถ้าเกิดมันนำยาบำรุงปราณออกมา อาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็รักษาให้หายได้เลยไม่ใช่เหรอ?หากอยากได้รับชัยชนะก็ต้องเพิ่มความยากอีกทั้งทุกๆ รายการต้องเป็นด้านที่เขาถนัดที่สุด แบบนี้ก็เหมือนกับการมีประกันสองชั้น!ในตอนที่หลี่จวิ้นเฟิงกำลังจะใช้เส้นสายผ่านอาจารย์สำนักเพื่อเปลี่ยนกฎนั้น จู่ๆ ก็มีสายจากหลิ่วหรูเยียนโทรเข้ามา“หรูเยียน คุณโทรหาผมเหรอ?”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลาย
ฮว่าจิ่วหยางเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากแล้วพูดขึ้นมาหรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าในการแข่งขันพรุ่งนี้ หากฉู่เฉินผิดพลาดแม่แต่น้อยก็จะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งประเทศ เมื่อถึงตอนนั้นอาจจะกระทบถึงชื่อเสียงของซินฉู่ฟาร์มาติคอลได้เรื่องที่ยาบำรุงปราณขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ฮว่าจิ่วหยางเคยได้ยินมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเขาถึงเตือนสติฉู่เฉินขึ้นมา“อืม ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงผมจะไปถึงที่นั่นอย่างตรงเวลาครับ”พูดจบฉู่เฉินก็วางสายเขาขับรถมายังตึกทำงานใหม่ของซินฉู่ฟาร์มาติคอล ยังไม่ทันเดินเข้าไปในห้องทำงาน กวนเหล่ย โจวน่าและจ้าวเจวียนทั้งสามยืนเรียงกันอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ รอคอยที่จะต้อนรับฉู่เฉินโดยเฉพาะโจวน่า เขาถอดชุดเครื่องแบบของเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวแหวกขาที่เซ็กซี่มากๆ พร้อมทั้งสวมถุงน่องสีเนื้อ และใส่รองเท้าหนังสีขาว นี่สไตล์สวยใสบริสุทธิ์ชัดๆไม่กี่วันนี้ เรื่องที่ฉู่เฉินซื้อรถสปอร์ตให้จ้าวเจวียนและกวนเหล่ยตอนนี้คนทั้งบริษัทรับรู้หมดแล้วพูดจริงๆ นะ ในชีวิตนี้โจวน่าไม่เคยสัมผัสพวงมาลัยรถสปอร์ตมาก่อนเลยกว่าฉู่เฉินจะมาบริษัทแต่ละครั้งนั้นเป็นเรื่องยาก ไม่ยังไงเธอก็
หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว ฉู่เฉินก็เช็ดเหงื่อเป็นร่างของเขา กลับไปนั่งยังเก้าอี้ผู้บริหาร อิ่มเอมกับพลังวิญญาณในจุดตันเถียนและทะเลปราณที่ฟื้นฟูได้หกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“ประธานฉู่คะ พวกเธอทั้งสองคนมีรถสปอร์ตขับกันหมด คุณคงจะไม่เลือกปฏิบัติหรอกใช่ไหมคะ”โจวน่าสวมเสื้อผ้าไปด้วย พร้อมทั้งเบ้ปาก มองไปที่ฉู่เฉินด้วยน้ำตาคลอเบ้าแล้วพูดขึ้นมา“รถสปอร์ตน่าจะไม่มีแล้วครับ แต่ว่าไว้วันหลังผมจะซื้อเรือยอช์ตให้หนึ่งลำนะครับ”ฉู่เฉินพูดออกโดยไม่ได้คิดอะไร ทำเอาโจวน่างงไปเลยเรือยอช์ตงั้นเหรอ?!เรือนั่นน่ะแพงกว่ารถสปอร์ตอีกใช่ไหม?ดูเหมือนว่าในท่าเรือใหญ่ตะวันตกของเจียงจงเหมือนจะมีเรือยอช์ตจอดอยู่แค่ไม่กี่ลำนะรอบนี้เธอได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลย!ในตอนนั้นเอง เธอก็คิดว่าเธอให้ฉู่เฉินนั้นน้อยเกินไป สิ่งที่เธอได้รับมันเกินกว่าสิ่งที่เธอให้ฉู่เฉินไปหลังจากนี้เธอต้องคิดหาวิธีเพื่อตอบแทนฉู่เฉินแล้วล่ะ“ขอบคุณค่ะบอส แต่ว่าฉันได้ยินมาว่ารถยอช์ตมือสองก็แพงมากๆ ใช่ไหมคะ?” โจวน่าช่วยฉู่เฉินเช็ดเหงื่อบนร่างกายไปด้วย พร้อมทั้งถามคำถามไปเรื่อยที่สำคัญคือเธอ
ฉู่เฉินชี้ไปที่รูปภาพบนแค็ตตาล็อกแล้วพูดขึ้นมาโจวน่าเมื่อเห็นราคาเริ่มประมูลข้างล่าง หัวใจของเธอก็เต้นรัวจนแทบจะทะลักออกมา เธอหอบกายใจแล้วพูดว่า “มัน... มันก็ดีนะคะ แต่... แต่มันแพงไปไหมคะ?”“เรือลำอื่นราคาเริ่มประมูลแค่ยี่สิบถึงสิบห้าล้าน นะ... นี่มันตั้งห้าร้อยล้านเลยนะคะ”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว แววตาของเขาเหมือนจะสื่อว่า พี่ดูเหมือนคนเงินไม่พอเหรอ? ดูเธอสิทำเป็นเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน“เรื่องเงินไม่สำคัญ ที่สำคัญคือความสบายครับ”เมื่อฉู่เฉินพูดแบบนี้ออกไป โจวน่าถึงจะรู้ว่าห้องโดยสารของเรือยอช์ตลำนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องออกกำลังกายชนิดไหนก็ตามก็มีอย่างครบครัน ไม่ขาดตกบกพร่องโดยเฉพาะเปลวแขวนและลู่วิ่งที่อยู่ข้างในจะนอนก็ได้ จะนั่งก็ได้ หรือจะโยกไปมาก็ได้อืม ก็สบายจริงๆ นั่นแหละ“งั้นก็เอาลำนี้แหละครับ คุณจำเวลาไว้ด้วยนะครับ พอถึงตอนนั้นก็แจ้งให้ผมทราบด้วย เรือยอช์ตลำนี้จะต้องประมูลมาให้ได้”ฉู่เฉินพับเก็บแค็ตตาล็อกในมือ แล้วพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ“อะ... โอเคค่ะ”โจวน่าตื่นเต้นจนเทียบควบคุมไม่อยู่ ทำงานทั้งเช้าแล้วได้รับเรือยอช์ตมาหนึ่งลำ งานนี้มันจะดีก่อนไปหรือเปล่า……อีกด้านหน
ในตอนนี้ ในอะพาร์ตเมนต์หรูหราแห่งหนึ่งหลี่จวิ้นเฟิงกำลังนั่งไขว่ห้าง พร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย พูดกับผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าว่า “ครั้งนี้ไอ้คนแซ่ฉู่นั่นดวงซวยจริงๆ แล้วล่ะครับ”“ผมว่าถ้ามันรู้ว่าท่านถังเป็นกรรมการที่ทรงอิทธิพลที่สุดในการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้ เขาคงไม่มีทางปฏิบัติตัวแย่ๆ แบบนั้นกับท่านแน่”เมื่อพูดจบ ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลี่จวิ้นเฟิงก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย“ถ้าเป็นแบบที่ศิษย์หลานหลี่ว่า หลังจากที่เปลี่ยนกฎกติกาแล้ว อย่าหวังว่าจะได้ชัยชนะมาครองเลย แค่ไม่เป็นตัวตลกต่อหน้าสาธารณชนก็ดีเท่าไหร่แล้ว”เมื่อพูดถึงตอนนี้ ถังจิ้งจือก็หลุดขำออกมาหลังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยกันเรื่องรายละเอียดขั้นตอนการแข่งขันในพรุ่งนี้สุดท้ายหลี่จวิ้นเฟิงก็พาถังจิ้งจือออกมาจากอะพาร์ตเมนต์ มุ่งหน้าไปยังร้านที่มีชื่อเสียงด้านการนวดเท้าที่สุดในเจียงจงถังจิ้งจือกอดพนักงานสาวไปด้วย พลางครุ่นคิดไปด้วยว่าพรุ่งนี้จะเยาะเย้ยให้ฉู่เฉินอับอายยังไงดีถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ฉู่เฉิน เขาจะสูญเสียอาชีพการงานแบบนี้เหรอ?ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าเขาสูญเสียตำแหน่งหมอประจำตัวของท่านหลงไป ตำแหน่งของเ
เมื่อเห็นว่าถังจิ้งจือกำลังคิดหาทางจะเข้ามาจับมือเธอ หลิ่วชิงเหอก็รีบหลบทันที เธอยิ้มแหย่ๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “งั้นวันนี้รบกวนท่านถังด้วยนะคะ ถ้าคุณหลี่ชนะก็เท่ากับว่าบริษัทของเราสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตไปได้”พูดจบหลิ่วชิงเหอก็รีบดึงหลิ่วหรูเยียนเดินเข้าไปในงานด้วยความรวดเร็วเธอไม่อยากถูกตาแก่บ้ากามนั่นลูบไล้ไปเรื่อยนะ เมื่อเห็นถังจิ้งจือเธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นขาวราวขาวดั่งหิมะทั้งสองคู่ ถังจิ้งจือก็กลืนน้ำลายลงคอทั้งสองแม่ลูกนี้แค่ได้มาสักคนหนึ่ง เขาถังจิ้งจือก็รู้สึกเพียงพอแล้วในชีวิตนี้“โหย ศิษย์หลานนี่โชคดีจริงๆ แม่ลูกคู่นี้หากได้ทำสงครามรักยามค่ำคืนด้วย ชีวิตนี้ฉันคงไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลี่จวิ้นเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะมองถังจิ้งจือด้วยสายตาไม่พอใจแกคิดอยากจะเปิดศึกรักยามค่ำคืนงั้นเหรอ แม้แต่มือฉันยังไม่เคยได้จับเลย!“ท่านถังครับ ขอเพียงแค่วันนี้สามารถจัดการไอ้คนแซ่ฉู่นั่นได้ ผมจะหาวิธีนำสองแม่ลูก...”เมื่อพูดตรงนี้ หลี่จวิ้นเฟิงก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย “ผมขอหลิ่วหรูเยียน หลิ่วชิงเหอผมยกให้ท่าน เป็นไงครับ?”“ได้! ได้สิ! เหมือนที่ฉันคิดไว้เลย!”
“พี่เกี่ยวอะไรด้วย? พี่เป็นเมียผมหรือไง?!”ฉู่เฉินตอกกลับไปด้วยความไม่เกรงใจทำเอาอวี้ลู่โกรธจนใบหน้าซีด จากนั้นก็เอื้อมหนึ่งนิ้วแตะที่เอวของฉู่เฉิน แกร๊ก!วินาทีต่อมา เอวของฉู่เฉินก็มีเสียงดังลั่นขึ้นมาพลังนิ้วของอวี้ลู่ถูกกระบี่วิเศษของฉู่เฉินดูดซับจนหมดฉู่เฉินก็อึ้งไปเลย หันหน้าไปพูดกับอวี้ลู่ว่า “พี่กำลังทำลายทีมเวิร์กอยู่นะครับ”“หึ!”อวี้ลู่ก็มองบนฉู่เฉิน เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีดำที่เพิ่งซื้อจากห้างเมื่อวานพร้อมกับพี่น้องตระกูลต้วน แกว่งเรียวขาที่ยาวสวย กอดอกก้าวเดินอย่างรวดเร็ว แซงหน้ากลุ่มของฉู่เฉินไปตรงเข้าสนามกีฬาที่จริงเธอไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำการแข่งขันแพทย์แผนจีนแบบนี้ ในสายตาของสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือก็เป็นแค่เกมที่เด็กเล่นก็เท่านั้นเอง เธอไม่อยากจะดูเลยสักนิดแต่ว่าเธอก็ทนไม่ได้กับการยั่วยวนด้วยของกินจากพี่น้องตระกูลต้วนได้ได้ยินมาว่าหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว พี่น้องตระกูลต้วนจะไปถนนของกินเล่น อวี้ลู่ก็เปลี่ยนใจทันที อีกทั้งยังตื่นตอนเช้าตรู่เพื่อเรียกทุกคนตื่นเห็นได้ชัดว่าด้านเรื่องของกินเธอถลำลึกจนกู่ไม่กลับแล้ว เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้พี่น้องตระกูลต้วน
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนอดหน้ามืดไม่ได้ แทบจะเป็นลมคาที่นี่ไม่อาจใช้คำว่ามากเกินไปมาบรรยายฉู่เฉินได้แล้ว ปรมาจารย์ฝืนข่มกลั้นโทสะในใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ว่า “คุณฉู่ คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องของคุณมันมากเกินไปเลยหรือไง?”“ฆ่าคนก็แค่เอาหัวโขกพื้น คะ...คุณเห็นวังเทียนเจี้ยนของผมรังแกง่ายจริง ๆ เหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน กวาดตามองปรมารจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “รังแกคุณแล้วยังไง? เอาของตามใบรายการนี้มา แล้วผมจะหันกายจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย”“ถ้าคุณกล้าพูดคำว่าไม่สักคำละก็ ผมก็มีวิธีทำให้วังเทียนเจี้ยนของคุณหายวับไปกับตา” ข่มขู่ ข่มขู่กันอย่างโจ่งแจ้ง“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกเหิมเกริมไปแล้ว...” ไม่รอให้ศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เอ่ยปาก ปรมารจารย์ว่านเจี้ยนก็รีบยกมือห้ามเอ่ยว่า “หุบปากให้หมด!” หลังจากผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลานี้ปรมารจารย์ว่านเจี้ยรไม่สงสัยความสามารถของฉู่เฉินเลยสักนิดเดียวอย่างแย่ที่สุด ฉู่เฉินก็สามารถลากวังเทียนเจี้ยนให้ตายตกตามกันได้ต้องรีบไล่ตัวซวยคนนี้ออกไปโดยเร็วที่สุดถุงจะถูกเมื่อคิดได้ดังนั้น ปรมาจ
ไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่มีทางกระโดดจากสาวใช้ธรรมดา ๆ กลายเป็นสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นแปดภายในระยะเวลาห้าปีสั้น ๆ หรอก แต่ว่าฉู่เฉินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?เมื่อเห็นหลิงเสวี่ยตะลึงจนพูดไม่ออก ฉู่เฉินก็แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ดูท่าจะตรงตามที่ผมเดาไว้จริง ๆ ปรมาจารย์คนดีของคุณอยากเลี้ยงคุณจนสมบูรณ์แล้วค่อยดูดกลืนคุณจนแห้งไงละ” เมื่อหลิงเสวี่ยได้ยินคำพูดนี้ พลันร้อนใจขึ้น ถลึงตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ฉู่เฉิน ห้ามคุณพูดจาเหลวไหลนะ”ถึงแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะเห็นเธอเป็นของชิ้นหนึ่ง มอบเธอให้ฉู่เฉิน แต่ว่าสำนักเคยมีบุญคุณกับเธอจริง ๆ“พูดจาเหลวไหล? กลัวว่าคุณโดนคนอื่นขายแล้ว ยังช่วยเขานับเงินด้วยละมั้ง?”ฉู่เฉินหัวเราะหยัน จากนั้นก็อธิบายวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังสั้น ๆ และบอกเรื่องคุณสมบัติร่างกายพิเศษอย่างร่างธาตุสวรรค์บริสุทธิ์ว่ามีประโยชน์มากเท่าไหร่ต่อผู้ฝึกวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังตามความเป็นจริง หลังจากฟังคำพูดนี้ของฉู่เฉินจบก็ทำลายสามมุมมองของหลิงเสวี่ยอย่างแท้จริง “เป็นไปไม่ได้ ต้องไม่ใช่ความจริงแน่นอน ท่านปรมาจารย์มักจะสอนพวกเราว่าผู้บำเพ็ญเพียนต้องทำ
ถึงแม้ว่าในใจของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้ฉู่เฉินจูงมือหลิงเสวี่ยเดินเข้าไปในเรือนเจ้าสำนักที่เขาอาศัยอยู่ ในตอนที่ฉู่เฉินปิดประตูห้องจนสนิท พวกศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนต่างก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและไม่ยินยอมออกมาจบแล้ว!เทพธิดาในใจของพวกเขา น้องศิษย์เล็กที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา โดนไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินย่ำยีแบบนี้แล้วเมื่อผลักประตูเดินเข้าไปในห้องนอนด้านใน ฉู่เฉินก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ไอ้แก่ตายยากอย่างปรมาจารย์ว่านเจี้ยนคนนี้เสพสุขเก่งจริง ๆ บนเตียงหยกน้ำแข็งมีอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ครบครัน นอกจากนี้ยังมีหมอนรองเอวโดยเฉพาะอีกด้วยไอ้เชี่ยนี่ เฒ่าหัวงูถึงจะเป็นคนตัณหากลับ จริง ๆ เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องปรมาจารย์ว่านเจี้ยน หลิงเสวี่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้พลางกล่าวว่า “ทำไมในห้องของปรมาจารย์ถึงจะมีหมอนสองใบล่ะ อีกอย่าง ทำไมหมอนใบนี้ดูไปแล้ว ไม่ค่อยเหมือนเลย?” หลิงเสวี่ยพูดพลางเอื้อมมือจะไปหยิบหมอนรองเอวใบนั้นขึ้นมา แต่โดนฉู่เฉินขวางไว้ทันที“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองว่าหมอนใบนี้เอาไว้ใช้ทำอะไร เข้ามาสิ”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็ดึงหลิงเสวี่ยให้นั่งลงข้างเตียง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกว่านโซ่วเซียนเวิงก็ถอนหายใจติดต่อกันด้วยสีหน้าเสียดายในตอนนี้เอง แผ่นกระดาษสีขาวที่เขียนตำรับยาสร้างกล้ามเนื้อพลันลอยมาจากในวังเทียนเจี้ยน“ผู้อาวุโสทั้งหลาย ขอบคุณครับ”วินาทีต่อมา เสียงของฉู่เฉินดังออกมาจากห้องโถงใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนพวกว่านโซ่วเซียนเวิงรับสูตรยาที่ฉู่เฉินส่งมา ก่อนจะมองไปทางตำหนักหลักของวังเทียนเจี้ยนอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง“พวกเราไปกันเถอะ”ว่านโซ่วเซียนเวิงคัดลอกสูตรยาไว้หนึ่งชุด แล้วก็พาลูกศิษย์แห่งสำนักว่านเซียนหันกายเดินจากไป“เหอะ ๆ... ไอ้หนูมีน้ำใจแล้ว ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณเธอแล้ว ไว้พบกันใหม่”ผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็คว้าสูตรยามาเช่นกันก่อนจะคัดลอกทันที จากนั้นเขาก็หันกายพาหลินเจี้ยนเฟิงลอยจากไปไม่นานนัก ผู้คนที่มามุงดูความคึกคักรอบนอกวังเทียนเจี้ยนก็ทยอยกันแยกย้ายไปหมดฉู่เฉินมองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนที่หน้าแดงก่ำดูอับอายอย่างยิ่งยวด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าใครใกล้ตายนะ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองฉู่เฉินพลางกัดฟันกรอด แม้ว่าตอนนี้ภัยคุกคามของวังเทียนเจี้ยนจะถูกขจัดไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่กล้าแตะต้องฉู่เฉ
เวลานี้เอง ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่ชิงเฟิงจะโกรธจริง ๆนอกจากนี้ ประตูใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนโดนทำลาย วันหน้าสถานะของวังเทียนเจี้ยนในหมู่สำนักรอบนอกภูเขาหลางจวีซวีย่อมลดลงไปอีกขั้นอย่างแน่นอแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนในตอนนี้จะร้องทุกข์มิรู้วาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเลยสักนิดเดียวเวลานี้จื่อเยว่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ต้องชื่นชมความโชคดีของฉู่เฉินเช่นกันถึงแม้ความสามารถของเขาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาศัยสติปัญญาและแผนการเรียกยอดคนอย่างลู่ชิงเฟิงออกมายืนอยู่ฝ่ายเขาได้นับว่าผ่านด่านยากตรงหน้าได้ชั่วคราวแล้วจริง ๆ “ศิษย์พี่หญิง ฉู่เฉินคงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับลู่ชิงเฟิงใช่ไหม?”หลิงรั่วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา“เกี่ยวข้องกับลู่ชิงเฟิง? ไม่มีทางหรอก!”จื่อเยว่หัวเราะหยันพลางส่ายศีรษะลู่ชิงเฟิงนั้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวังเต๋าคุนหลุน ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าสำนัก แต่ในวังเต๋าคุนหลุน นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ปลีกวิเวกไม่ออกมาเหล่านั้นแล้ว เขาก็เป็นตัวแทนพลังรบสูงสุดเลยก็ว่าได้แม้ว่าฉู่เฉินเพียงแค่รู้จักลู่ชิงเฟิงเท่านั้น แ
มันอยู่เหนือระดับที่พวกเขาสามารถประมาณค่าได้ไปแล้ว!นักพรตแห่งน้ำไฟผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเมื่อกี้ ตอนนี้ก็เหงื่อเย็นแตกพลั่ก ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธแม้แต่คำเดียวเมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็เปลี่ยนไปทันที มองสำรวจฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เจ้าหนู ดูเหมือนว่าการคำนวณของมนุษย์จะสู้การคำนวณของสวรรค์ไม่ได้จริงๆ คุณคงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยใช่ไหมล่ะ”“ยังกล้าให้ฉันมอบศิษย์ไปอุ่นเตียงให้แกอีกเหรอ? หึ!”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “ฉันแนะนำให้แกรีบส่งหยกโลหิตกิเลนมา แล้วฆ่าตัวตายรชดใช้ความผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่งั้น...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ในดวงตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ระเบิดรังสีอำมหิตออกมาสองสายสถานการณ์พลิกผันเร็วเกินไป จนกระทั่งหลิงเสวี่ยยังไม่ได้สติ แต่ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่เปลี่ยนสีหน้าเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?ฉู่เฉินหรี่ตาลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณแน่ใจเหรอ?”“หึ เจ้าหนู ใกล้ตายแล้ว อย่าดิ้นรนไปให้เปลืองแรงเลย!”ขณะกล่าว ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ชักกระบี่ออกมาทันที กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งระดับควบแ