ในตอนนี้ ในอะพาร์ตเมนต์หรูหราแห่งหนึ่งหลี่จวิ้นเฟิงกำลังนั่งไขว่ห้าง พร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย พูดกับผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าว่า “ครั้งนี้ไอ้คนแซ่ฉู่นั่นดวงซวยจริงๆ แล้วล่ะครับ”“ผมว่าถ้ามันรู้ว่าท่านถังเป็นกรรมการที่ทรงอิทธิพลที่สุดในการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้ เขาคงไม่มีทางปฏิบัติตัวแย่ๆ แบบนั้นกับท่านแน่”เมื่อพูดจบ ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลี่จวิ้นเฟิงก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย“ถ้าเป็นแบบที่ศิษย์หลานหลี่ว่า หลังจากที่เปลี่ยนกฎกติกาแล้ว อย่าหวังว่าจะได้ชัยชนะมาครองเลย แค่ไม่เป็นตัวตลกต่อหน้าสาธารณชนก็ดีเท่าไหร่แล้ว”เมื่อพูดถึงตอนนี้ ถังจิ้งจือก็หลุดขำออกมาหลังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยกันเรื่องรายละเอียดขั้นตอนการแข่งขันในพรุ่งนี้สุดท้ายหลี่จวิ้นเฟิงก็พาถังจิ้งจือออกมาจากอะพาร์ตเมนต์ มุ่งหน้าไปยังร้านที่มีชื่อเสียงด้านการนวดเท้าที่สุดในเจียงจงถังจิ้งจือกอดพนักงานสาวไปด้วย พลางครุ่นคิดไปด้วยว่าพรุ่งนี้จะเยาะเย้ยให้ฉู่เฉินอับอายยังไงดีถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ฉู่เฉิน เขาจะสูญเสียอาชีพการงานแบบนี้เหรอ?ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าเขาสูญเสียตำแหน่งหมอประจำตัวของท่านหลงไป ตำแหน่งของเ
เมื่อเห็นว่าถังจิ้งจือกำลังคิดหาทางจะเข้ามาจับมือเธอ หลิ่วชิงเหอก็รีบหลบทันที เธอยิ้มแหย่ๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “งั้นวันนี้รบกวนท่านถังด้วยนะคะ ถ้าคุณหลี่ชนะก็เท่ากับว่าบริษัทของเราสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตไปได้”พูดจบหลิ่วชิงเหอก็รีบดึงหลิ่วหรูเยียนเดินเข้าไปในงานด้วยความรวดเร็วเธอไม่อยากถูกตาแก่บ้ากามนั่นลูบไล้ไปเรื่อยนะ เมื่อเห็นถังจิ้งจือเธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นขาวราวขาวดั่งหิมะทั้งสองคู่ ถังจิ้งจือก็กลืนน้ำลายลงคอทั้งสองแม่ลูกนี้แค่ได้มาสักคนหนึ่ง เขาถังจิ้งจือก็รู้สึกเพียงพอแล้วในชีวิตนี้“โหย ศิษย์หลานนี่โชคดีจริงๆ แม่ลูกคู่นี้หากได้ทำสงครามรักยามค่ำคืนด้วย ชีวิตนี้ฉันคงไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลี่จวิ้นเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะมองถังจิ้งจือด้วยสายตาไม่พอใจแกคิดอยากจะเปิดศึกรักยามค่ำคืนงั้นเหรอ แม้แต่มือฉันยังไม่เคยได้จับเลย!“ท่านถังครับ ขอเพียงแค่วันนี้สามารถจัดการไอ้คนแซ่ฉู่นั่นได้ ผมจะหาวิธีนำสองแม่ลูก...”เมื่อพูดตรงนี้ หลี่จวิ้นเฟิงก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย “ผมขอหลิ่วหรูเยียน หลิ่วชิงเหอผมยกให้ท่าน เป็นไงครับ?”“ได้! ได้สิ! เหมือนที่ฉันคิดไว้เลย!”
“พี่เกี่ยวอะไรด้วย? พี่เป็นเมียผมหรือไง?!”ฉู่เฉินตอกกลับไปด้วยความไม่เกรงใจทำเอาอวี้ลู่โกรธจนใบหน้าซีด จากนั้นก็เอื้อมหนึ่งนิ้วแตะที่เอวของฉู่เฉิน แกร๊ก!วินาทีต่อมา เอวของฉู่เฉินก็มีเสียงดังลั่นขึ้นมาพลังนิ้วของอวี้ลู่ถูกกระบี่วิเศษของฉู่เฉินดูดซับจนหมดฉู่เฉินก็อึ้งไปเลย หันหน้าไปพูดกับอวี้ลู่ว่า “พี่กำลังทำลายทีมเวิร์กอยู่นะครับ”“หึ!”อวี้ลู่ก็มองบนฉู่เฉิน เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีดำที่เพิ่งซื้อจากห้างเมื่อวานพร้อมกับพี่น้องตระกูลต้วน แกว่งเรียวขาที่ยาวสวย กอดอกก้าวเดินอย่างรวดเร็ว แซงหน้ากลุ่มของฉู่เฉินไปตรงเข้าสนามกีฬาที่จริงเธอไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำการแข่งขันแพทย์แผนจีนแบบนี้ ในสายตาของสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือก็เป็นแค่เกมที่เด็กเล่นก็เท่านั้นเอง เธอไม่อยากจะดูเลยสักนิดแต่ว่าเธอก็ทนไม่ได้กับการยั่วยวนด้วยของกินจากพี่น้องตระกูลต้วนได้ได้ยินมาว่าหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว พี่น้องตระกูลต้วนจะไปถนนของกินเล่น อวี้ลู่ก็เปลี่ยนใจทันที อีกทั้งยังตื่นตอนเช้าตรู่เพื่อเรียกทุกคนตื่นเห็นได้ชัดว่าด้านเรื่องของกินเธอถลำลึกจนกู่ไม่กลับแล้ว เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้พี่น้องตระกูลต้วน
เมื่อได้ยินเสียงอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของกวนเหล่ย ฉู่เฉินก็แทบจะเป็นลมถ้าไม่ผิดจากที่ฉู่เฉินเดา กวนเหล่ย จ้าวเจวียน รวมทั้งโจวน่าสามคนนี้จะต้องยืนห่างจากเขาออกไปเป็นระยะทางหนึ่งขั้นบันไดเป็นแน่ขาเรียวยาวทั้งสามคู่ เครื่องมือสังหารที่น่าภูมิใจทั้งสามคู่ นี่มันปราบผู้ชายได้จำนวนไม่ถ้วนโดยเฉพาะกวนเหล่ยที่วันนี้ตั้งใจใส่ชุดคลุมคอลึกถึงหน้าอก แทบจะปิดหน้าอกเอาไว้ไม่อยู่แล้วใบหน้ารูปไข่นั้นยังใส่แว่นตากรอบสีดำอีกด้วยดวงตาที่น่าดึงดูดใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอยังใส่คอนแท็กต์เลนส์มาอีกด้วย ยั่วยวนไม่มีใครเท่า“พวกเธอมาได้ยังไงกัน วันนี้บริษัทหยุดเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว เขาพูดอย่างจงใจแสดงสถานะของหญิงสาวเหล่านั้น“ใช่น่ะสิคะ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นวันนี้พวกเราก็เลยมาดูความโดดเด่นของประธานฉู่ด้วยกัน พร้อมทั้งมารเป็นกำลังใจให้คุณด้วยค่ะ”กวนเหล่ยกำหมัดเล็ก ๆ แล้วยกหน้าอกขึ้นสูงอย่างภาคภูมิใจคนที่ผ่านไปผ่านมารอบๆ ก็งุนงงไปหมดก็ได้ฉู่เฉินเช็ดเหงื่อ ตอนนี้เขาทำได้อดทนเหตุผลนี้ของกวนเหล่ยไร้ข้อกังขาบางครั้งการที่รอบตัวมีแต่ผู้หญิงก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องดีอะไรฉู
ฟางอวี่เจิ้งรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลแต่ฉู่เฉินไม่ให้โอกาสเขาเปลี่ยนใจเลย ตอนนี้ฉู่เฉินเดินไปที่โซนพักผ่อนของผู้เข้าแข่งขันทันทีฉิบหายละ!ฟางอวี่เจิ้งรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังเขาสู่บทใหม่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอึดอัดหันหลังไปหาเหล่าสาวงาม “แม่หนู ขออภัยด้วยจริงๆ วันนี้การจัดการที่นั่ง...”“ฟางอวี่ ไม่ต้องให้คุณจัดการหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเราไปนั่งตรงนั้นก็ได้ค่ะ”เจียงอิ่งชี้นิ้วไปทางที่นั่งที่ยังว่างอยู่เป็นแถวยาวที่นั่งตรงนั้นเป็นที่ที่จัดไว้ให้เพื่อนร่วมงานที่แพทย์สภมีที่ว่างพอดี แม้ว่าพวกเขาจะมาแล้ว เจียงอิ่งก็ถลึงตาใส่พวกเขาก็สามารถไล่พวกเขาไปได้แล้วพอพูดถึงตรงนี้ ฟางอวี่เจิ้งก็พูดอะไรไม่ออก เขาทำได้แค่หันหน้าไปมองทางฉู่เฉิน พูดกับตัวเองในใจว่าน้องฉู่เอ๊ย ขอโทษจริงๆ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากจะช่วยนะ แต่ว่ามีคนแทรกน่ะสิขอโทษด้วยจริงๆ ไอ้น้องเมื่อเห็นเหล่าสาวงามนั่งเรียงกันเป็นเป็นระเบียบตรงเก้าอี้ข้างหน้าเขา ฉู่เฉินที่กำลังจะดื่มน้ำก็น้ำพุ่งออกมาจากปากฟางอวี่เจิ้ง!แม่งเรียกว่าแยกพาเธอออกจากกันแล้วเหรอ?งานเลี้ยงจะเริ่มละมั้งเนี่ยหลังจากที่ไร้คำพูดใดๆ ฉู่เฉิน
ระหว่างที่พูด ถังจิ้งจือก็บอกรายละเอียดกฎกติกาของการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งผู้เข้าแข่งขันหลายคนหลังจากที่ได้ยินถังจิ้งจือพูดจบแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไปกฎนี่มันทำให้คนลำบากใจจริงๆ นะภายในสิบนาทีถังจิ้งจือจะบอกจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หลังจากนั้นผู้เข้าแข่งขันจะต้องฝังเข็มให้ตรงจุดในหุ่นทองแดง ภายในหนึ่งนาทีหลังจากที่เขาอ่านจบอย่างแรกนั่นคือหุ่นทองแดงนะไม่ใช่หุ่นฟางหมอทั่วไปจะมีพลังมากขนาดนั้นได้ยังไง?อีกอย่างจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หากฝังผิดพลาดไปสักจุดสองจุดก็ถือว่าต้องออกจากแข่งขันไป แบบนี้ใครจะมั่นใจได้ล่ะว่าจะไม่ฝังผิดจุด?อัตราการผิดพลาดเกือบจะเป็นศูนย์อย่าว่าแต่พวกเขาที่อึ้งเลย แม้แต่ผู้ชมที่อยู่ข้างล่างเวทีก็อึ้งเช่นกัน“การแข่งขันปีนี้จะยากไปไหม?”“นั่นน่ะสิ นี่มันบีบบังคับกันเกินไปหรือเปล่า? การฝังเข็มบนหุ่นทองแดงพวกนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“ใช่น่ะสิ อีกทั้งยังต้องฝังทั้งแปดสิบเอ็ดจุด ถ้าระหว่างกลางคันฝังผิดไปจุดสองจุดก็ถือว่าแพ้ไป นี่มันยากเกินไปจริงๆ”แม้แต่ฮว่าจิ่วหยาง จางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นล้วนแต่เป
ไม่เพียงแต่ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกสีหน้าจะดูไม่ได้ แม้แต่กรรมการอย่างจางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็สีหน้าไม่ดีเช่นกัน“คุณฉู่ คุณหมายถึง...”เฝิงว่านชางเคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินมาก่อน ดังนั้นเขาจึงหันไปถามฉู่เฉินด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจมากๆ“หึ ฉันว่าเขาฝังไม่เป็นมากกว่า เขาถึงได้พูดจาโอ้อวดแบบนี้”หลิ่วหรูเยียนไม่รอให้ฉู่เฉินปริปากพูด เธอก็สวนขึ้นมาทันทีในตอนนั้นเหล่ามวลชนที่อยู่ทั้งบนและล่างเวทีต่างก็พากันพยักหน้า คิดว่าที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาก็มีเหตุผลตอนนั้นเองผู้ชมในช่องไลฟ์สดของแต่ละแอปก็เริ่มกระหน่ำคอมเมนต์อย่างบ้าคลั่ง “ไอ้เจ้านี่เป็นใครกันเนี่ย มีหน้ามาพูดว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไม่มีทางฝัง ถ้าแน่จริงแกก็ฝังให้ฉันดูสิ” “ไอ้ห่า โคตรเกลียดไอ้พวกดีแต่ปากแบบนี้จริงๆ !”“ไล่มันลงไปสิ ไอ้คนแบบนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าความรู้ทางการแพทย์ไม่เท่าไหร่หรอก ทำเป็นแค่พูดโม้เท่านั้นแหละ!”ในช่องไลฟ์สด หลายคนที่ไม่เคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินก็ต่างพากันด่าเขา แต่ในขณะเดียวกันคนที่เคยดูการถ่ายสดครั้งก่อนก็คอมเมนต์ให้กำลังใจฉู่เฉิน“พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายคนนี้ทักษะการแพทย
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉู่เฉินก็เปลี่ยนประเด็นทันที เขายิ้มขึ้นมาอย่างนิ่งๆ “อีกอย่างทำไมหมาถึงกลายเป็นคำด่าล่ะครับ?”“หมามันซื่อสัตย์กับเจ้าของจะตาย เฝ้าบ้าน อีกทั้งคนก็ชอบ ทำไมถึงกลายเป็นเป็นคำดูถูกได้ล่ะครับ?”“หรือว่าคุณและท่านหลี่ดูถูกหมาอย่างนั้นเหรอครับ?”เมื่อคำพูดนี้ออกไป ถังจิ้งจือและหลี่จวิ้นเฟิงก็โกรธจนหน้าซีดเซียวแต่ต่อหน้าชาวเน็ตหลายแสนคน พวกเขาไม่กล้าตอกกลับฉู่เฉินจริงๆใครจะกล้ารับประกันได้ว่าในนี้จะไม่มีคนรักหมา ถ้าสมมุติตกหลุมพรางของฉู่เฉิน แค่คนรักหมาพวกนั้นก็สามารถทำให้พวกเขาสองคนจมดินได้“ถือว่าแกแน่! เดี๋ยวรอคอยดูกัน!”หลี่จวิ้นเฟิงโกรธจนหน้าบูดเบี้ยวไปหมด เมื่อกลับมายังที่เก้าอี้ ก็ปล่อยลมปู๊ดป๊าดออกมาเสียงดังหลายครั้งติดกัน“รอแม่แกสิ! จะตอบหรือไม่ตอบ รีบบอกมาสิ!”ฉู่เฉินลองบนหลี่จวิ้นเฟิง หลังจากนั้นด่าหลี่จวิ้นเฟิงออกไปหลี่จวิ้นเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาว่า “ตกลง! เริ่มการแข่งขันใหม่ตอนนี้เลย!”โมโหแล้วนะ!เขาโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ครั้งแรกที่ถูกด่าอย่างเจ็บแสบแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย แต่กลับตอกกลับไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนก
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี