กึก!ถังจิ้งจือสะดุดกึก นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่เฉินขึ้นมาได้“ปรมาจารย์ขู่ไห่ นี่มันยังไงกันแน่ครับ? คุณพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าหากย้ายรูปปั้นกวนอูออกไปก็จะไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ถังจิ้งจือถามเสียงขรึมปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าเปลี่ยนสี ยังคงพูดติดอ่าง “คือว่า เรื่องนั้น...”“เหอะ! ปรมาจารย์ขู่ไห่ วันนี้หากตระกูลถังของผมเกิดปัญหาอะไรขึ้น! คุณก็อย่าคิดจะไปไหน!” ถังจิ้งจือพูดอย่างเดือดดาล ขณะเดียวกัน มีบอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้ามาคอยจับตาดูปรมาจารย์ขู่ไห่ไว้จากนั้น ถังจิ้งจือก็เดินออกจากตัวบ้าน ก่อนสั่งการว่า “ออกรถ! ไปหาปรมาจารย์ฉู่!”ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน รถของถังจิ้งจือก็ขับมาจอดหน้าบ้านของเขา“ปรมาจารย์ฉู่ ปรมาจารย์ฉู่ครับ!”ถังจิ้งจือรีบลงจากรถ ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้านฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกู้รั่วเสวี่ย พอเห็นถังจิ้งจือที่อยู่หน้าบ้าน ก็พูดอย่างไม่พอใจ “ผู้นำตระกูลถัง คุณมาได้ยังไง?”ถังจิ้งจือรีบก้าวเข้ามา ก่อนจะประสานหมัดขอโทษ “ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมเลอะเลือนเอง ดันหลงเชื่อขู่ไห่ ปรมาจารย์ฉู่ได้โปรดช่วยหลานสา
ปรมาจารย์ขู่ไห่มาถึงลานบ้าน มองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถากถางว่า “ไอ้หนู อย่ามัวทำเป็นวางมาดอยู่เลย ในลานบ้านนี้มีปัญหาอะไรที่ไหนกัน?”ฉู่เฉินยิ้ม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าใจร้อนสิ ตาแก่ อีกเดี๋ยวได้ถูกฉีกหน้ายกใหญ่แน่!”“ฮ่าๆๆ! ฉีกหน้าฉัน? แกฝันไปเถอะ!” ปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะอย่างดูถูก“งั้นเหรอ? งั้นปรมาจารย์ขู่ไห่กล้าเดิมพันกับผมไหมล่ะ?” ฉู่เฉินเอียงคอยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปรมาจารย์ขู่ไห่อายุมากขนาดนี้แล้ว มีหรือจะทนการดูหมิ่นและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากฉู่เฉินได้ เขาหน้าแดงก่ำ ตะคอกเสียงดัง “ทำไมจะไม่กล้า? วันนี้ถ้าแกหาต้นเหตุของปัญหาเจอในลานบ้านแห่งนี้ได้ ฉันคนนี้จะปิดเขา ไม่รับดูฮวงจุ้ยให้ใครอีกชั่วชีวิต!”“นอกจากนี้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกแกว่าอาจารย์ฉู่!”“แต่ถ้าแกไม่เจออะไรเลย ไอ้หนู แกต้องคุกเข่าแล้วก็โขกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยครั้ง!”“ไม่มีปัญหา” ฉู่เฉินยิ้มตอบกู้รั่วเสวี่ยยืนปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจากที่อยู่ด้วยกันมา เธอเริ่มรู้จักฉู่เฉินมากขึ้นอีกนิดแล้วถ้าฉู่เฉินพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขามีความมั่นใจเต็มร้อย และขุดหลุมรอปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินยกมือชี้ไป
“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
คำพูดนี้แทบจะเหมือนเชื้อเชิญตรงๆ แล้วผู้ชายทั่วไป คงไม่มีใครทนการยั่วยวนของผู้จัดการร้านคนนี้ได้อย่างไรเสีย เธอก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่เลย ทรวดทรงองค์เอวนับว่าร้อนแรง โดยเฉพาะยิ่งเธอแต่งตัวเซ็กซี่อย่างนี้ จึงทำให้รู้สึกได้ถึงแรงยั่วยวนเกินต้านทางนั้น ถานเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปาก น้ำตาแทบจะร่วงลงมาแล้วเธอรู้ว่าตัวเองถูกแย่งบิลซะแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้คนอื่นเขาเป็นถึงผู้จัดการร้านนี่นาบิลนี้ ค่าคอมมิชชั่นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ได้ตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าเชียวนะ!แต่เพื่อเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น จะยอมเสียหม้อข้าวอย่างหอสมบัติไปก็ไม่คุ้มค่าเพราะอย่างไร พอคนที่บ้านหรือพวกญาติสนิทมิตรสหายได้ยินว่าเธอได้มาทำงานที่หอสมบัติ ต่างก็ภูมิใจแทนเธอกันสุดๆงานที่หอสมบัติได้เงินเดือนสามสี่หมื่น ปีหนึ่งก็ได้สี่ห้าแสนกว่าบาทเชียวนะ!ภายใต้ความจนใจ ถานเชี่ยนเชี่ยนทำได้แค่ปาดน้ำตาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ก่อนจะหันตัวเดินไปอีกทางแต่ฉู่เฉินกลับเลือกที่จะมองข้ามผู้จัดการร้าน และหันไปตะโกนเรียกถานเชี่ยนเชี่ยน “คุณอย่าเพิ่งไป มานี่ก่อนครับ”ถานเชี่ยนเชี่ยนอึ้ง เธอหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆผู้จัดการร้านเองก็อึ้งเช่น
สิ้นประโยคนี้ ไม่เพียงดวงหน้าเรียวของโจวเทียนเฟิ่งที่ตะลึงค้าง เรียวคิ้วงามของเธอปรากฏแววเย็นยะเยือก แม้แต่พนักงานในร้านที่กำลังแนะนำสิ่งของให้โจวเทียนเฟิ่งก็ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับตำหนิว่า“เงียบไปเลยนะ! คุณพูดจาเหลวไหลอะไรของคุณ? ของฝังศพอะไร ไอศพอะไรกัน?”“หอสมบัติของเราไม่เคยขายสิ่งของที่ไม่สะอาด!”“ถ้าคุณยังพูดจาไร้สาระอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ!”พนักงานในร้านสีหน้าขมึงทึงเย็นชา ถลึงตาจ้องฉู่เฉินอย่างไม่สบอารมณ์สุดขีดโจวเทียนเฟิ่งยักคิ้วงาม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณฉู่ อย่าคิดว่าเคยแสดงฝีมือต่อหน้าฉันนิดหน่อย แล้วจะคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ”“ในสายตาของฉัน คุณก็เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น”“ฉันเรียกคุณว่าคุณฉู่ก็เพราะไว้หน้า ถ้าไม่ไว้หน้า ฉันคงสั่งให้คนทุบฟันในปากให้แหลกไปแล้ว!”โจวเทียนเฟิ่งไม่พอใจอย่างมากไม่เคยมีใครกล้าพูดจาอย่างนี้กับเธอสิ่งของฝังพร้อมคนตายอะไรกัน ไหนจะไอศพ และผิวเน่าเปื่อยอะไรของเขาอีก คำพูดเหลวไหลทั้งเพ!ตั้งแต่ที่หน้าร้านแล้ว โจวเทียนเฟิ่งรู้สึกว่าสายตาที่ฉู่เฉินมองเธอไม่ปกติเจ้าหมอนี่ คงคิดอยากจะโชว์ฝี
“ใช่” จินอ้าวเทียนยิ้ม ก่อนจะเหวี่ยงหวัดใส่อากาศสองสามทีในท่าที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุด และบอกว่า “บ้านผมสืบทอดศิลปะการต่อสู้มารุ่นต่อรุ่น เปิดสำนักมวยในเมืองเจียงจงติดต่อกันมาสามรุ่นแล้ว”“ผมเองก็เรียนทุกอย่าง อย่างเทควันโด้ มวยซ่านโฉ่วอะไรพวกนั้น ผมเป็นหมดทุกอย่าง”“โดยปกติ คนสิบคนเข้าใกล้ผมไม่ได้ด้วยซ้ำ”หลิ่วหรูเยียนเผยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก “คุณชายจิน ช่วยฉันสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นที จะให้ดีทำให้มันพิการไปเลย!”“ไม่มีปัญหา แต่จบเรื่องแล้วคุณต้องไปกินข้าวกับผมนะ” จินอ้าวเทียนหรี่ตายิ้มหลิ่วหรูเยียนไม่รังเกียจ “ได้ ไม่มีปัญหา”เธอมั่นใจในหุ่นและความสวยของเธอมากถ้าใช้ประโยชน์จากเรือนร่างสั่งให้ผู้ชายทำงานแทนเธอได้ แล้วจะมัวรออะไรล่ะ?นี่ก็เป็นหนึ่งในความสามารถเหมือนกันนี่“ที่อยู่คือที่ไหน? อีกเดี๋ยวผมจะพาคนไป รับรองได้ว่าจะช่วยตัดแขนตัดขาไอ้หมอนั่นให้คุณแน่นอน” จินอ้าวเทียนพูดอย่างยโสชั่วร้าย……ขณะเดียวกันทางฝั่งฉู่เฉิน เขาพกกระถางหลอมยาไปที่ร้านขายยาอีกหลายร้าน ใช้บัตรที่ถังจิ้งจือให้ซื้อสมุนไพรมาล็อตหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่หลังจากมาถึงบ้านใหญ่ ฉู่เฉินก
ไอสังหารขุมนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว!ฉู่เฉินตกใจ พูดในใจว่าแย่แล้ว!พลังนั่นพุ่งมาทางเขา!หลิ่วชิงเหอส่งมาเหรอ?ไม่มีเวลาให้คิดมาก ฉู่เฉินรีบปลดปล่อยพลังซ่อนกลิ่นอายที่มังกรเฒ่าถ่ายทอดให้เขา เพื่อบดบังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ทั้งหลังให้หายวับไปกับตาขณะเดียวกัน เหยาฉือที่กำลังพุ่งตัวมาทางนี้พลันขมวดเรียวคิ้วงาม เธอยืนอยู่กลางอากาศ ราวกับเทพเซียนผู้งดงามและเย็นชา“กลิ่นอายนั่นหายไปแล้ว?”ดวงหน้างามล่มเมืองของเหยาฉือเย็นยะเยือกสุดขีด“ไอ้มังกรลามกบัดซบ! อย่าคิดว่าหลบพ้นครั้งหนึ่ง แล้วจะหลบพ้นไปตลอดชีวิต!”“ข้าจะหาตัวเจ้าให้พบสักวัน ขอดเกล็ดมังกรของเจ้า กระชากเอ็นมังกรของเจ้า ตรึงวิญญาณของเจ้าไว้หมื่นปี!”พูดจบ เหยาฉือปลดปล่อยดวงจิตของตัวเองออกไปเพื่อตามหาอีกหลายรอบอย่างแค้นใจ แต่ก็หากลิ่นอายของมังกรลามกไม่เจอต้องเป็นวิชาลับอำพรางของเผ่ามังกรแน่ตอนนั้น ไอ้มังกรลามกก็ใช้วิชานี้ของเผ่ามังกรเพื่อลักลอบเข้ามาในสำนักเซียนเหยาฉือ และบุกเข้ามาแอบดูนางอาบน้ำที่สระน้ำ…น่าชังนัก!เหยาฉือกำฝ่ามือเรียวงามเข้าหากันแน่น นางแค่นเสียง ก่อนจะหันหลังเหินตัวจากไปณ บ้านใหญ่ตระกูลฉู่ฉู่เฉินสัม
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี