ฉู่เฉินพูดจบก็หมุนตัว พากู้รั่วเสวี่ยออกไปทันที“สามหาว! แกว่ายังไงนะ? อยากตายรึไง?!”ถังเจียวเจียวเดือดดาลขณะที่กำลังจะก้าวขาออกจากประตู ฉู่เฉินพูดทิ้งท้ายโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง “ท่านถัง ขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอู”“อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป ไม่เพียงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพวกคุณ แต่ยังทำให้หนักขึ้นไปอีก!”“ทันทีที่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป บ้านหลังนี้จะไร้ซึ่งพลังของมันคอยกดข่มพลังร้าย ไอโลหิตพิฆาตในที่แห่งนี้จะยิ่งรุนแรง ถึงตอนนั้น ตระกูลถังของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน!”“และคนแรกที่จะถูกพลังด้านลบแว้งกัด ก็คือหลานสาวของคุณ!”“เธอจะถูกวิญญาณร้ายในที่แห่งนี้เข้าสิง ทำให้มีพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ และวิญญาณร้ายนั่น ยังเป็นวิญญาณผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอีกด้วย หากไม่จัดการให้ดี ความบริสุทธิ์ของหลานสาวคุณก็จะถูกทำลายทันที”“ดูแลตัวเองด้วยก็แล้วกัน!”พูดจบ ฉู่เฉินก้าวเท้าออกจากบ้านตระกูลถังเลยด้านหลัง ถังเจียวเจียวด่าทออย่างเกรี้ยวกราด“สารเลว! แกว่ายังไงนะ? คอยดูเถอะฉันจะเหยียบไอ้นั่นของแกให้เละ!”ถังเจียวเจียวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
กึก!ถังจิ้งจือสะดุดกึก นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่เฉินขึ้นมาได้“ปรมาจารย์ขู่ไห่ นี่มันยังไงกันแน่ครับ? คุณพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าหากย้ายรูปปั้นกวนอูออกไปก็จะไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ถังจิ้งจือถามเสียงขรึมปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าเปลี่ยนสี ยังคงพูดติดอ่าง “คือว่า เรื่องนั้น...”“เหอะ! ปรมาจารย์ขู่ไห่ วันนี้หากตระกูลถังของผมเกิดปัญหาอะไรขึ้น! คุณก็อย่าคิดจะไปไหน!” ถังจิ้งจือพูดอย่างเดือดดาล ขณะเดียวกัน มีบอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้ามาคอยจับตาดูปรมาจารย์ขู่ไห่ไว้จากนั้น ถังจิ้งจือก็เดินออกจากตัวบ้าน ก่อนสั่งการว่า “ออกรถ! ไปหาปรมาจารย์ฉู่!”ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน รถของถังจิ้งจือก็ขับมาจอดหน้าบ้านของเขา“ปรมาจารย์ฉู่ ปรมาจารย์ฉู่ครับ!”ถังจิ้งจือรีบลงจากรถ ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้านฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกู้รั่วเสวี่ย พอเห็นถังจิ้งจือที่อยู่หน้าบ้าน ก็พูดอย่างไม่พอใจ “ผู้นำตระกูลถัง คุณมาได้ยังไง?”ถังจิ้งจือรีบก้าวเข้ามา ก่อนจะประสานหมัดขอโทษ “ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมเลอะเลือนเอง ดันหลงเชื่อขู่ไห่ ปรมาจารย์ฉู่ได้โปรดช่วยหลานสา
ปรมาจารย์ขู่ไห่มาถึงลานบ้าน มองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถากถางว่า “ไอ้หนู อย่ามัวทำเป็นวางมาดอยู่เลย ในลานบ้านนี้มีปัญหาอะไรที่ไหนกัน?”ฉู่เฉินยิ้ม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าใจร้อนสิ ตาแก่ อีกเดี๋ยวได้ถูกฉีกหน้ายกใหญ่แน่!”“ฮ่าๆๆ! ฉีกหน้าฉัน? แกฝันไปเถอะ!” ปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะอย่างดูถูก“งั้นเหรอ? งั้นปรมาจารย์ขู่ไห่กล้าเดิมพันกับผมไหมล่ะ?” ฉู่เฉินเอียงคอยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปรมาจารย์ขู่ไห่อายุมากขนาดนี้แล้ว มีหรือจะทนการดูหมิ่นและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากฉู่เฉินได้ เขาหน้าแดงก่ำ ตะคอกเสียงดัง “ทำไมจะไม่กล้า? วันนี้ถ้าแกหาต้นเหตุของปัญหาเจอในลานบ้านแห่งนี้ได้ ฉันคนนี้จะปิดเขา ไม่รับดูฮวงจุ้ยให้ใครอีกชั่วชีวิต!”“นอกจากนี้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกแกว่าอาจารย์ฉู่!”“แต่ถ้าแกไม่เจออะไรเลย ไอ้หนู แกต้องคุกเข่าแล้วก็โขกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยครั้ง!”“ไม่มีปัญหา” ฉู่เฉินยิ้มตอบกู้รั่วเสวี่ยยืนปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจากที่อยู่ด้วยกันมา เธอเริ่มรู้จักฉู่เฉินมากขึ้นอีกนิดแล้วถ้าฉู่เฉินพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขามีความมั่นใจเต็มร้อย และขุดหลุมรอปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินยกมือชี้ไป
“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
คำพูดนี้แทบจะเหมือนเชื้อเชิญตรงๆ แล้วผู้ชายทั่วไป คงไม่มีใครทนการยั่วยวนของผู้จัดการร้านคนนี้ได้อย่างไรเสีย เธอก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่เลย ทรวดทรงองค์เอวนับว่าร้อนแรง โดยเฉพาะยิ่งเธอแต่งตัวเซ็กซี่อย่างนี้ จึงทำให้รู้สึกได้ถึงแรงยั่วยวนเกินต้านทางนั้น ถานเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปาก น้ำตาแทบจะร่วงลงมาแล้วเธอรู้ว่าตัวเองถูกแย่งบิลซะแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้คนอื่นเขาเป็นถึงผู้จัดการร้านนี่นาบิลนี้ ค่าคอมมิชชั่นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ได้ตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าเชียวนะ!แต่เพื่อเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น จะยอมเสียหม้อข้าวอย่างหอสมบัติไปก็ไม่คุ้มค่าเพราะอย่างไร พอคนที่บ้านหรือพวกญาติสนิทมิตรสหายได้ยินว่าเธอได้มาทำงานที่หอสมบัติ ต่างก็ภูมิใจแทนเธอกันสุดๆงานที่หอสมบัติได้เงินเดือนสามสี่หมื่น ปีหนึ่งก็ได้สี่ห้าแสนกว่าบาทเชียวนะ!ภายใต้ความจนใจ ถานเชี่ยนเชี่ยนทำได้แค่ปาดน้ำตาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ก่อนจะหันตัวเดินไปอีกทางแต่ฉู่เฉินกลับเลือกที่จะมองข้ามผู้จัดการร้าน และหันไปตะโกนเรียกถานเชี่ยนเชี่ยน “คุณอย่าเพิ่งไป มานี่ก่อนครับ”ถานเชี่ยนเชี่ยนอึ้ง เธอหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆผู้จัดการร้านเองก็อึ้งเช่น
สิ้นประโยคนี้ ไม่เพียงดวงหน้าเรียวของโจวเทียนเฟิ่งที่ตะลึงค้าง เรียวคิ้วงามของเธอปรากฏแววเย็นยะเยือก แม้แต่พนักงานในร้านที่กำลังแนะนำสิ่งของให้โจวเทียนเฟิ่งก็ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับตำหนิว่า“เงียบไปเลยนะ! คุณพูดจาเหลวไหลอะไรของคุณ? ของฝังศพอะไร ไอศพอะไรกัน?”“หอสมบัติของเราไม่เคยขายสิ่งของที่ไม่สะอาด!”“ถ้าคุณยังพูดจาไร้สาระอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ!”พนักงานในร้านสีหน้าขมึงทึงเย็นชา ถลึงตาจ้องฉู่เฉินอย่างไม่สบอารมณ์สุดขีดโจวเทียนเฟิ่งยักคิ้วงาม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณฉู่ อย่าคิดว่าเคยแสดงฝีมือต่อหน้าฉันนิดหน่อย แล้วจะคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ”“ในสายตาของฉัน คุณก็เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น”“ฉันเรียกคุณว่าคุณฉู่ก็เพราะไว้หน้า ถ้าไม่ไว้หน้า ฉันคงสั่งให้คนทุบฟันในปากให้แหลกไปแล้ว!”โจวเทียนเฟิ่งไม่พอใจอย่างมากไม่เคยมีใครกล้าพูดจาอย่างนี้กับเธอสิ่งของฝังพร้อมคนตายอะไรกัน ไหนจะไอศพ และผิวเน่าเปื่อยอะไรของเขาอีก คำพูดเหลวไหลทั้งเพ!ตั้งแต่ที่หน้าร้านแล้ว โจวเทียนเฟิ่งรู้สึกว่าสายตาที่ฉู่เฉินมองเธอไม่ปกติเจ้าหมอนี่ คงคิดอยากจะโชว์ฝี
“ใช่” จินอ้าวเทียนยิ้ม ก่อนจะเหวี่ยงหวัดใส่อากาศสองสามทีในท่าที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุด และบอกว่า “บ้านผมสืบทอดศิลปะการต่อสู้มารุ่นต่อรุ่น เปิดสำนักมวยในเมืองเจียงจงติดต่อกันมาสามรุ่นแล้ว”“ผมเองก็เรียนทุกอย่าง อย่างเทควันโด้ มวยซ่านโฉ่วอะไรพวกนั้น ผมเป็นหมดทุกอย่าง”“โดยปกติ คนสิบคนเข้าใกล้ผมไม่ได้ด้วยซ้ำ”หลิ่วหรูเยียนเผยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก “คุณชายจิน ช่วยฉันสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นที จะให้ดีทำให้มันพิการไปเลย!”“ไม่มีปัญหา แต่จบเรื่องแล้วคุณต้องไปกินข้าวกับผมนะ” จินอ้าวเทียนหรี่ตายิ้มหลิ่วหรูเยียนไม่รังเกียจ “ได้ ไม่มีปัญหา”เธอมั่นใจในหุ่นและความสวยของเธอมากถ้าใช้ประโยชน์จากเรือนร่างสั่งให้ผู้ชายทำงานแทนเธอได้ แล้วจะมัวรออะไรล่ะ?นี่ก็เป็นหนึ่งในความสามารถเหมือนกันนี่“ที่อยู่คือที่ไหน? อีกเดี๋ยวผมจะพาคนไป รับรองได้ว่าจะช่วยตัดแขนตัดขาไอ้หมอนั่นให้คุณแน่นอน” จินอ้าวเทียนพูดอย่างยโสชั่วร้าย……ขณะเดียวกันทางฝั่งฉู่เฉิน เขาพกกระถางหลอมยาไปที่ร้านขายยาอีกหลายร้าน ใช้บัตรที่ถังจิ้งจือให้ซื้อสมุนไพรมาล็อตหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่หลังจากมาถึงบ้านใหญ่ ฉู่เฉินก
ระยะนี้คำชี้แนะจากอวี้ลู่ รวมถึงวิชาที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ ความเร็วในการพัฒนาของอินซู่ซู่จึงรวดเร็วสุดขีด แต่เวลาครึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ ก็บรรลุระดับฝึกปราณชั้นห้าแล้วห่างจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติร่างกายแค่ก้าวเดียวเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของอินซู่ซู่อยู่ในสายตาของฉู่เฉินเช่นกัน ก่อนที่เขาจะนึกยินดีในใจของเพียงปรับเปลี่ยนสำเร็จ อินซู่ซู่ก็จะกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉู่เฉินถึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ลานบ้าน ทำการชี้แนะอินซู่ซู่อย่างละเอียด จากนั้นค่อยออกจากบ้านไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่รอคอยด้วยความกังวลใจให้ป้าอู๋จัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้เรียบร้อยนานแล้ว เธออาบน้ำแต่งตัวไปพลาง รอการมาเยือนของฉู่เฉินไปพลางเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลิ่วหรูเยียน ป้าอู๋ย่อมดีใจถ้าเกิดจากนี้ไปฉู่เฉินมา “เป็นแขก” ที่บ้านบ่อย ๆ ต่อให้ไม่อาจมอบความเมตตาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าแม่น้ำสายใหญ่มีน้ำ ลำธารเล็ก ๆ ย่อมไม่เหือดแห้งให้ความชุ่มชื้นเป็นบางครั้งก็สามารถบรรเทาอาการคันของสาวใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาอย่างเธอได้ “ป้าอู๋ ป้าคิดว่าชุดนี
ช่วงบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินตั้งใจนำของว่างท้องถิ่นสิบกว่าอย่างกลับไปยังบ้านเก่าของตระกูลฉู่ พูดตามตรง ความสามารถของสำนักอวี้ซือไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ ตอนนี้ฉู่เฉินเองก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานชั้นแรกเท่านั้นต่อให้เป็นคนมุทะลุ เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานห้าคนก็เกินความสามารถที่จะทำได้อยู่บ้างเหมือนกันสถานการณ์ชักจะน่าปวดหัวนิดหน่อยแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือพาอวี้ลู่แฝงตัวเข้าไปในสำนักอวี้ซือ กำจัดพวกยอดฝีมือในสำนักด้วยกัน จากนั้นค่อยยืมมือข่งเลี่ยงควบคุมสำนักอวี้ซือไว้ทั้งหมดว่ากันว่าพอติดค้างบุญคุณคนอื่นแล้วก็จะใจอ่อน ฉู่เฉินไม่ได้เตรียมแค่ของว่างท้องถิ่นให้อวี้ลู่เท่านั้น เขายังตั้งใจซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงรุ่นใหม่ทั้งหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองเอกประจำมณฑลกลับมาด้วย อวี้ลู่เห็นฉู่เฉินถือของกินอร่อย ๆ ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือชุดสวย ๆ เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากที่เธอรู้จักหมอตัวน้อยคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่คอยเอาอกเอาใจโดยไม่มีเหตุผล“ของกินอร่อย ๆ กับชุดสวย ๆ เยอะขนาดนี้ พูดมาเถอะ มีเรื่องที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือใช่หรือเปล่า?”อวี้ลู่กินปูผัดเผ็ดไปด้วย เอ่ยพล
“เธอถ่ายรูปหลิ่วชิงเหอแล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ หัวหน้าหลูต้องการสอบถามเกี่ยวกับคดี” ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินขัดขึ้นทันทีหลิ่วหรูเยียนอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยติดต่อกันว่า “ได้ ฉันจะส่งให้นายเดี๋ยวนี้”ไม่นานนัก ภาพถ่ายของหลิ่วชิงเหอที่มีจ้ำศพเต็มตัวก็ถูกส่งมาหลายใบฉู่เฉินทำการปรับภาพอย่างง่าย ๆ อีกครั้ง จากนั้นค่อยส่งให้หัวหน้าหลูแล้วพูดว่า “หัวหน้าหลู รบกวนคุณช่วยดูด้วยครับ รอยช้ำสีดำบนตัวหลิ่วชิงเหอพวกนี้ก็คือจ้ำศพ”หัวหน้าหลูพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “คุณฉู่ ช่วยส่งหลักฐานที่คุณให้มาเมื่อกี้ให้ผมได้ไหมครับ? แล้ววันมะรืน...”ฉู่เฉินรีบทำมือบ่งบอกว่าให้เงียบเสียง แล้วมองกลุ่มตำรวจที่อยู่ด้านหลังหลูติ้งไห่แวบหนึ่งหลูติ้งไห่เข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณออกไปรอกันให้หมด”“ครับ!”พวกตำรวจรีบถอยออกมาจากในห้องส่วนตัวหลังจากที่ฉู่เฉินแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟัง เขาค่อยโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่ฟังแล้วก็พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายค่อยก็ยกนิ้วโป้งให้ฉู่เฉิน “คุณฉู่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊จริง ๆ ฉลาดล้ำลึกมาก”“แต่ว่า ตระกู
ควบคุมสำนักอวี้ซือ?ข่งเลี่ยงเคยฝันถึง แต่มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อฉู่เฉินสามารถฆ่าบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอวี้ซือ แล้วก็ต้องกำจัดเจ้าสำนักเสียก่อน ปัญหาคือฉู่เฉินมีความสามารถขนาดนั้นเหรอ?“น้องชาย ขอเพียงคุณสามารถกำจัดเจ้าสำนักและผู้อาวุโสอีกหกคนได้ ผมมั่นใจว่าสามารถทำให้สำนักอวี้ซือยอมศิโรราบต่อคุณได้”ข่งเลี่ยงพูดด้วยความมั่นใจฉู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ดี ตอนนี้คุณสาบานมาว่าจะภักดีจนตาย”หา?ข่งเลี่ยงเงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบสาบานทันทีว่า “ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ...”“ฉู่เฉิน”ฉู่เฉินพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเฉยชา“ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉู่เฉินจนตาย หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า ไฟคลอก จมน้ำ ไม่ตายดี!”ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของข่งเลี่ยง ฉู่เฉินก็วาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ แล้วชี้นิ้วออกไปประทับลงบนหว่างคิ้วของข่งเลี่ยงเปรี้ยง!ข่งเลี่ยงรู้สึกได้เพียงราวกับมีสายฟ้าฟาดในสมอง เหมือนมีสิ่งลึกลับบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย ทำให้ข่งเลี่ยงตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั่วทั้งร่าง!ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรเหมือนกัน
“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
“ผมขอเตือนคุณนะ ร่างกายคนเรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ผมมีความอดทนพอ สามารถหักมันได้ทีละชิ้นนะครับ”ฉู่เฉินปรายตาลงมองเซียวจี้กวางที่เหงื่อเย็น ๆ แตกพลั่กออกมาราวกับสายฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “นอกจากนี้ ผมรับรองได้เลยว่าจะให้คุณได้สัมผัสกระบวนการทั้งหมดโดยที่มีสติครบถ้วน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด จ้องมองฉู่เฉินไม่วางตาแล้วพูดว่า “คะ...คุณมันบ้า! คุณมันปีศาจ! ตะ... ตระกูลเซียวของผมไม่มีวันปล่อย...”กร๊อบ!เสียงแตกหักดังขึ้นอีกครั้ง เซียวจี้กวางเจ็บจนเหมือนกับเขามองเห็นคุณย่าของตัวเองที่ไปสวรรค์แล้ว แต่เรื่องน่าแปลกคือ ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สติของเขาแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกเซลล์ทั่วทั้งร่างกายกำลังส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาให้เขา“พี่ชาย... ไม่ ๆ คุณปู่! ผะ...ผมบอกแล้ว!”เมื่อเห็นฉู่เฉินเหยียบต้นขาของเขาอีกครั้ง เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนรีบคว้ากอดรองเท้าหนังของฉู่เฉินไว้ พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า “เกาเซิ่งอี้ให้ผมหาหยกชิ้นหนึ่งจากบ้านแม่ลูกตระกูลหลิ่ว”“
ปรมาจารย์ข่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจหนักหน่วงของเขากับเซียวจี้กวาง และเสียงหอบหายใจของสาวสวยผมทองสองคนปัง!ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวพลันถูกคนเตะกระเด็น! ฟิ้ว!เซียวจี้กวางที่อยู่ใกล้หน้าประตูที่สุดรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงพุ่งตรงมาทางตัวเอง เขาตกใจกลัวจนรีบพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงไปที่พื้นประตูไม้แท้บานนั้นพุ่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเฉียดผ่านร่างสาวสวยผมทอง ไปหาปรมาจารย์ข่งที่กำลังยุ่งอยู่!“ใคร!”ทันทีที่ปรมาจารย์ข่งพูดจบ เวลาเดียวกันเขาก็ยกมือชี้นิ้วออกไป!“ตูม!”ประตูไม้แท้บานนั้นถูกพลังปราณที่เขาซัดออกมาระเบิดจนกลายเป็นเศษไม้กลางอากาศฉู่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋า เดินจากหน้าประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆเซียวจี้กวางกับปรมาจารย์ข่งลุกขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน สาวสวยผมทองสองคนก็กรีดร้องเสียงแหลมติดต่อกันด้วยความตกใจกลัวกับฉากเมื่อกี้ ก่อนจะคว้าผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาแล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมตัวสั่นระริก"คุณเป็นใคร? ใครส่งคุณมา?"เซียวจี้กวงหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต“คนที่จะมาเอาชีวิตคุณไง!”ฉู่เฉินยิ
“คุณทำอะไรน่ะ ไม่เห็นตัวหนังสือว่าห้ามลูกค้าเข้าหรือไง?”ฉู่เฉินเพิ่งจะผลักประตูออกมาจากทางหนีไฟ ชายร่างกำยำสวมชุดคล่องตัวสีดำไว้ทรงผมสั้นเกรียนมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา“ผมได้ยินว่าท่านรองตระกูลเซียวอยู่ข้างในเลยอยากไปเยี่ยมเขาสักหน่อย รบกวนคุณช่วยเปิดทางให้ด้วยครับ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มยิงฟันให้ชายในชุดคล่องตัวขณะเดียวกันสายตาก็มองไปที่ระเบียงทางเดินแวบหนึ่งในระเบียงทางเดินมีชายในชุดคล่องตัวยืนเรียงรายกันสองแถว ซึ่งแต่ละคนมีพลังฝึกปรืออยู่ประมาณระดับฝึกปราณชั้นสามกันเกือบทุกคน นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือสี่คนที่สวมชุดคลุม พลังไม่ด้อยไปกว่าระดับฝึกปราณชั้นสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวด้านในสุด มีความเป็นไปได้สูงว่าเซียวจี้กวางกับคนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์จากสำนักอวี้ซือคนนั้นก็อยู่ในห้องส่วนตัวแห่งนั้นด้วยเมื่อแน่ใจแล้ว ฉู่เฉินก็เดินไปทางห้องส่วนตัวโดยไม่รอให้ชายในชุดคล่องตัวคนนั้นตอบกลับ “หยุดนะ!”ชายในชุดคล่องตัวเห็นฉู่เฉินเดินตรงไปยังห้องพักที่ท่านรองเซียวกับปรมาจารย์ข่งพักผ่อนอยู่ราวกับเข้าไปยังเขตไร้ผู้คน เขาก็เดือดดาลฉับพลัน ก่
“ปรมาจารย์ผู้นั้นเขาไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว เขาสนใจแค่ผู้หญิงเป็นพิเศษ ดังนั้น...”เชี่ย!หลินชือหย่าคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ตระกูลเซียวกล้าสร้างฮาเร็มในเมืองแบบนี้แต่ว่าพอลองคิดดูมันก็ถูกนะ สถานที่ที่ยิ่งอันตรายยิ่งปลอดภัยฉู่เฉินเหลือบมองไปที่ถานเหวินหลง เขาพูดขึ้นมาอย่างครุ่นคิด “สหายถานเคยคิดเปลี่ยนเจ้านายไหมครับ”ถานเหวินหลงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ฉู่เฉินด้วยความสงสัย เขายิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะครับ ถ้ามันมีทางเลือกอื่นให้ผม ผมไม่ทำงานนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผมมีหนี้เยอะมาก พวกเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้จนจะถึงที่บ้านอยู่แล้ว นอกจากแซ่เซียวแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับผมเข้าทำงานอีกล่ะครับ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดกับหลินชือหย่าว่า “คุณลองหาตำแหน่งให้พี่คุณทำสักตำแหน่งดีไหมครับ ใช้คนของตัวเองน่าจะสบายใจกว่าใช้คนนอกนะครับ”หลินชือหย่าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจความต้องการของฉู่เฉิน แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับถานเหวินหลงดีใจแน่นอนอยู่แล้ว สามารถทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ปได้จะต้องดีกว่าทำที่ตระกูลเซียวแน่นอนกินข้าวเย็นเสร็จ หล