เพียงระยะเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งคืน ข่าวที่ตระกูลหลี่ถูกกลุ่มผู้นำในแวดวงธุรกิจของเมืองเจียงจงร่วมมือกันแบนได้กระจายไปทั่วทั้งเมืองเช้าวันต่อมา หลิวฉางเจียงที่เตรียมตัวเดินทางกลับมณฑล หลังจากได้รับข่าว ก็สูดหายใจด้วยความตกใจไม่ต้องถาม ต้องเป็นฝีมือของฉู่เฉินอย่างแน่นอน!เพียงคำสั่งแบนจากยาบำรุงปราณ ก็สามารถโจมตีศัตรูที่อยู่คนละแวดวงอย่างบริษัทการเงินได้?แม่งเอ๊ย!พอนึกถึงท่าทีที่เขามีต่อฉู่เฉินเมื่อวาน หลิวฉางเจียงก็เหงื่อท่วมขึ้นมาทันที!ด้วยอิทธิพลของยาบำรุงปราณในตอนนี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นที่นิยมไปทั้งประเทศแน่นอน ฉู่เฉินสามารถใช้วิธีเดียวกันนี้แบนบริษัทของพวกเขาได้ทุกเมื่อเช่นกัน“ที่รัก เป็นอะไรไปคะ?”ปี้เวยเห็นหลิวฉางเจียงนั่งเหม่ออยู่บนเตียงด้วยสายตาว่างเปล่า เหงื่อไหลท่วมหัว จึงนึกว่าโรคเก่าของเขากำเริบอีกแล้วเธอแทบอยากจะให้ไอ้แก่หลิวฉางเจียงลงโลงไปเสียเร็วๆ เธอจะได้สืบทอดกิจการครึ่งหนึ่งของตระกูลหลิว และเลี้ยงผู้ชายได้ตามอำเภอใจ“มะ… ไม่มีอะไร”ผ่านไปครู่ใหญ่ หลิวฉางเจียงถึงได้ดึงสติกลับมาได้ เขาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ก่อนหันไปพูดกับปี้เวยว่า “เร็วเข้า ยกเลิกตั๋ว เลื่อน
พอเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก ฉู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะรับสาย “ผมฉู่เฉิน นั่นใครครับ?”“คุณฉู่ ผมเอง หลิวฉางเจียง เมื่อวานพวกเราเจอกันครั้งหนึ่ง ผมตั้งใจโทรมาขอโทษคุณโดยเฉพาะ เมื่อวานผมผิดเอง ไม่น่าไร้มารยาทกับคุณฉู่แบบนั้นเลย”“เมื่อคืนผมคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณฉู่เป็นคนคิดค้นยาบำรุงปราณขึ้นมา การแบ่งผลกำไรหนึ่งต่อเก้าจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล ผมเลยอยากหาโอกาสขอโทษคุณฉู่ ไม่ทราบคุณฉู่จะให้โอกาสได้ไหมครับ?”หลิวฉางเจียง?ฉู่เฉินขมวดคิ้ว “ประธานหลิวบอกให้ผมคอยดูไว้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้กลับคำขอโทษผมเร็วขนาดนี้กันล่ะ?”หลิวฉางเจียงที่อยู่ปลายสายรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพย “คุณฉู่ โปรดอย่าถือโทษโกรธผมเลยนะครับ บางทีผมก็สมองเลอะเลือน หวังว่าคุณฉู่จะเห็นแก่หน้าคุณหนูกู้ อย่าถือสาคนอย่างผมเลยนะครับ!”“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ พวกเราเจอกันที่ซิงฮุยมิวสิคพลาซ่าตอนเที่ยงตรง ผมจะขอดื่มเพื่อเป็นการขอโทษคุณฉู่ต่อหน้า”ฉู่เฉินยิ้มเยาะ “ขอโทษคงไม่ต้องแล้ว วันนี้ผมยังมีธุระ”หลิวฉางเจียงได้ยินอย่างนั้นก็ร้อนอกร้อนใจไม่ยอมไว้หน้า นั่นก็หมายความว่าฉู่เฉินเกลียดเขาไปแล้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย!นึกมา
เซี่ยฉีฉีไม่ได้แค่เกิดมาพร้อมกับหน้าตาที่สวยธรรมชาติอย่างเดียว แต่ยังหุ่นดีมากด้วย แต่ในความทรงจำของฉู่เฉิน ไม่ว่าจะตอนเรียนหรือตอนนี้ เซี่ยฉีฉีมักแต่งตัวรัดกุมเสมอเหมือนวันงานเลี้ยงรุ่นวันนั้น เซี่ยฉีฉีก็ใส่แค่ชุดเดรสที่ยาวคลุมข้อเท้าเท่านั้น และชุดที่เธอเตรียมไว้หลังรถ ก็มีแต่แบบที่เรียบร้อยและรัดกุมเหมือนกันแต่การแต่งตัวของเซี่ยฉีฉีในวันนี้ กลับดูไม่เข้ากับสไตล์ของเธออย่างชัดเจนเซี่ยฉีฉีหลบสายตาของฉู่เฉินอย่างเห็นได้ชัด เธอเสยปอยผมขึ้นทัดหู ก่อนตอบด้วยเสียงลนลานว่า “คือ… ฉัน… ฉันมาเจอเพื่อนน่ะ”“ถ้าไม่มีอะไร ฉันไปก่อนนะ”พูดจบ เซี่ยฉีฉีก็รีบหันหลังเดินหนีโดยไม่มองทาง“โอ๊ย!”เซี่ยฉีฉีไม่ทันสังเกตหลิวฉางเจียงกับปี้เวย เธอชนกับปี้เวยเข้าอย่างจัง ทำเอาซิลิโคนสองลูกของปี้เวยแทบร่วง“ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ!”เซี่ยฉีฉีขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในซิงฮุยมิวสิกพลาซ่าเหมือนกำลังโดนฉู่เฉินไล่ตามฉู่เฉินมองแผ่นหลังของเซี่ยฉีฉีที่ไกลออกไป พลันขมวดคิ้วขึ้นมา“คุณฉู่ สาวน้อยคนสวยเมื่อกี้เป็นเพื่อนของคุณเหรอคะ?”ปี้เวยจัดทรงซิลิโคนที่ถูกชนจนเบี้ยว พลางหันไปมองเซี่ยฉีฉีที่วิ่ง
สายตาของฉู่เฉินกวาดมองผ่านเรือนร่างอันงดงามพวกนั้น แม้ผู้หญิงพวกนี้จะตัวสูงหุ่นดี แต่เมื่อเทียบขนาดหน้าอกกับปี้เวย แทบจะเหมือนบ้านเล็กเจอบ้านใหญ่!เรียกได้ว่าคนละชั้นกันเลยทีเดียว!อีกอย่าง เรียวขาคู่นั้นของปี้เวย ไม่เพียงแต่ยาว แต่ทั้งเรียวและขาวเนียน ที่สำคัญคือเท้าเล็กๆ คู่นั้นก็น่าดึงดูดมากเช่นกัน“คนที่อยู่ในห้องนี้ เลือกได้หมดเลยเหรอครับ?”ฉู่เฉินถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย“แน่นอน วันนี้คุณเป็นแขกคนสำคัญนี่ครับ”หลิวฉางเจียงพยักหน้าโดยไม่คิดมาก“คุณ!”ฉู่เฉินชี้พร้อมกับพูดออกไปชั่วพริบตา ทั่วทั้งห้องเงียบกริบไปทันที!ไม่ใช่แค่ผู้จัดการกับสาวสวยสิบกว่าคนที่ตะลึงค้าง แม้แต่หลิวฉางเจียงกับปี้เวยก็อึ้งเหมือนกันคนที่ฉู่เฉินชี้ ก็คือปี้เวย!แม่งเอ๊ย!หลิวฉางเจียงสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนกำลังเล่นงิ้วเปลี่ยนหน้า“ผมว่าแล้วคุณฉู่เป็นหนุ่มคนมีความสามารถ สายตาไม่เลว เวยเวย เธอไปดูแลคุณฉู่ก่อนเถอะ”หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หลิวฉางเจียงถึงได้ฝืนฉีกยิ้ม พลางตบหน้าตักของปี้เวย“เหอะ!”ปี้เวยทำปากจู๋ ทำเสียงกระเง้ากระงอด หน้าตาเหมือนไม่เต็มใจที่จริงเธอดีใจจนแทบอยากลุกขึ้นมาเต้
ผ่านไปไม่นาน จงอาหู่พาชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ถือท่อเหล็กยี่สิบกว่าคนมาถึงหน้าห้องหมายเลขแปดพอมองเข้าไปในหน้าต่างทรงหกเหลี่ยม จงอาหู่จำฉู่เฉินได้ตั้งแต่แวบแรก“ซี้ด!”จงอาหู่หดหัวด้วยความตกใจ โชคดีที่ไม่ได้บุกเข้าไปทันที ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่จังหวะที่ฉู่เฉินชนแก้วกับปี้เวย บังเอิญเหลือบเห็นจงอาหู่ที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดี พอสายตาสบประสานกัน จงอาหู่มีเหรอจะกล้ารบกวน เขารีบโบกมือสั่งลูกน้องข้างหลังให้ถอยออกไปจากนั้นเขาก็เปิดประตูเดินเข้าไปเวลานี้ หลิวฉางเจียงกำลังประคองลูกท้อลูกใหญ่สองลูกกัดแทะเล่นอยู่ตรงนั้น พอเห็นประตูห้องถูกคนแปลกหน้าเปิดเข้ามา หมายจะระเบิดโทสะ กลับเห็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนมีคนยืนอยู่หน้าประตูจำนวนมากอารมณ์เดือดดาลที่กำลังจะระเบิดออกมา ถูกกลืนกลับเข้าไปในคออีกครั้งจงอาหู่ไม่สนใจหลิวฉางเจียงแม้แต่น้อย เขาเดินฉีกยิ้มไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน “คุณฉู่ มาได้ยังไงครับเนี่ย? มาเที่ยวผับของเราเองทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ ผมจะได้ออกไปต้อนรับเอง”ฉู่เฉินกวาดมองจงอาหู่แวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วตบโซฟาข้างตัวเอง “อาหู่เองเหรอ นั่งสิ”จงอาหู่มีเหรอจะกล้าปฏิเสธ?หลังจากรินเหล้าให้ฉู่เฉิน
ปี้เวยรับบัตรเครดิตไป ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินกลับไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน ดวงหน้าเรียวแดงระเรื่อ ลมหายใจกระชั้นชิด “คุณฉู่ คุณอยากจะหยั่งความลึกของฉันไม่ใช่เหรอคะ?”“อืม”ฉู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็วางแก้วเบียร์ลง และเดินตามปี้เวยออกไปจากห้องเงียบๆกลางวันแสกๆ ทั้งซิงฮุยมีแต่โต๊ะของฉู่เฉิน ห้องอื่นๆ ล้วนว่างหมดปี้เวยดึงแขนของฉู่เฉิน ลากเขาเข้าไปในห้องข้างๆ ที่มืดสนิทห้องหนึ่ง จากนั้นก็คว้ามือของฉู่เฉิน ถลกกระโปรงขึ้นอย่างรอไม่ไหวอีกต่อไป พลางพูดเสียงกระเส่าว่า “คนอื่นเขาจะอาบน้ำให้คุณ”เชี่ย!แม่สาวคนนี้ใจร้อนจริงๆ!นี่เก็บกดมานานแค่ไหนแล้ว ถึงได้ชุ่มแฉะได้ขนาดนี้“บีตบ็อกซ์ที่คุณพูดถึงเมื่อกี้ล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มอย่างมั่นใจ มองปี้เวยที่หายใจไม่เป็นจังหวะปี้เวยหยักยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเย้ายวน แค่ดีดมือเล็กๆ ข้างนั้นนิดเดียว เข็มขัดของฉู่เฉินก็ถูกปลดออกทันทีโอ้โฮ!ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?ถึงแม้ปี้เวยจะเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว แต่ก็ยังคงอึ้งกับฉู่เฉินอยู่ดีซี้ด!ฉู่เฉินเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เขาหลับตาและครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดินด้
เซี่ยฉีฉีมองเสื้อผ้าที่เหมือนเชือกระโยงระยางก้อนหนึ่ง ดวงหน้าเล็กๆ นั่นแดงแปร๊ดไปทั้งดวง เธอรีบเบี่ยงหน้าไปอีกข้าง ไม่กล้าแม้แต่จะมองนานท่าทางเขินอายของเซี่ยฉีฉี ทำให้ดวงตาของเฉินหย่งเป็นประกายขึ้นมา เขาจ้องเซี่ยฉีฉีอย่างเร่าร้อน พลางถามว่า “ฉีฉี นี่… นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกของเธอหรอกนะ?”เสียงของเฉินหย่งฟังดูสั่นเทาเล็กน้อยเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะได้ลิ้มลองของสดใหม่ด้วย“พี่หย่ง คือ… ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม?”เซี่ยฉีฉีถูกสายตาร้อนแรงเหมือนไฟของเฉินหย่งจับจ้อง หน้าของเธอก็ยิ่งแดงแปร๊ดกว่าเดิม เธอผลักเฉินหย่งที่โน้มตัวเข้ามา ก่อนจะพูดอย่างแตกตื่น“ได้สิ!”เฉินหย่งหัวเราะเสียงดัง ยกแก้วเบียร์ขึ้นมา “แต่เธอต้องดื่มเบียร์แก้วนี้ก่อน ไม่งั้น พี่จะนั่งดูเธอฉี่ในห้องนี้แหละ”เซี่ยฉีฉีสัมผัสได้ถึงลมหายใจหนักหน่วงของเฉินหย่ง เธอตกใจรีบแย่งแก้วเบียร์ในมือเขาไปกระดกครึ่งแก้วในคราวเดียว จากนั้นก็รีบวางแก้วเบียร์ และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเหมือนหนีตายท่อนขาเรียวสวยของเซี่ยฉีฉี และขอบลูกไม้ที่โผล่ออกมาให้เห็นวับๆ แวมๆ นั่น ทำให้เฉินหย่งเหงื่อชุ่มเต็มฝ่ามือพอคิดว่าใกล้จะได้ครอบครองเรือนร
เธอต้องนอนกับจางหย่ง หรือหวังหย่งอีกหรือไม่?ชีวิตของเธอต้องมาพังลงแบบนี้งั้นเหรอ?ในตอนนี้เอง เสียงของเฉินหย่งดังขึ้นที่หน้าห้องน้ำ “ที่รักจ๋า เปิดประตูหน่อยเร็ว พี่อยากดูเธอฉี่”เซี่ยฉีฉีได้ยินคำพูดลามกไร้ยางอายก็รู้สึกอยากจะอาเจียน!แต่เฉินหย่งไม่ใช่คนธรรมดา แค่ลูกน้องของเขาก็มีหลายสิบคนแล้ว อีกอย่าง เมื่อกี้ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้อง หน้าประตูก็มีลูกน้องของเขายืนเฝ้าอย่างแน่นหนาด้วยถ้าคิดจะกลับออกไปอย่างปลอดภัย คงต้องเกลี้ยกล่อมเฉินหย่งให้ได้ก่อน!นึกมาถึงตรงนี้ เซี่ยฉีฉีรีบวางสาย เธอสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักว่า “พี่หย่ง ประจำเดือนฉันมา วันนี้คงนอนกับพี่ไม่ได้แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันอื่นได้หรือเปล่า?”เซี่ยฉีฉีเปิดประตู จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเฉินหยงหัวเราะในลำคอ กวาดมองชักโครกแวบหนึ่ง ก่อนหันมาจ้องสะโพกอันผึ่งผายของเซี่ยฉีฉี เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะอันเย็นชาว่า “ฉีฉี ถึงต้องฝ่าไฟแดง วันนี้เธอก็ต้องเสร็จพี่อยู่ดี!”“อีกอย่าง เธอไม่รู้สึกว่าเบียร์ที่กินเข้าไปเมื่อกี้ มีอะไรผิดปกติบ้างเหรอ?”พูดมาถึงตรงนี้ เฉินหยงล้วงห่อกระดาษสีขาวห่อหนึ่งออกมาจากกระเป๋
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี