อินซู่ซู่ตกตะลึงไปทันที กัดริมฝีปากแดง พยักหน้ากล่าวเสียงอ่อย “ได้...”“เรียกนายท่านให้ฟังหน่อยสิ” ฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มอินซู่ซู่ลังเลเล็กน้อย กัดริมฝีปาก แก้มแดงก่ำ กล่าว “นายท่าน”“อืม ไปกันเถอะ ไปที่โรงแรม” ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบเฉยอินซู่ซู่ตกตะลึง สีหน้าตื่นเต้นอะไรนะ?โรงแรม...เขาคิดจะทำอะไร?ภายใต้ความลังเลเล็กน้อย อินซู่ซู่สีหน้าทั้งเขินอายทั้งโกรธ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่เพียงกัดฟัน จำต้องเดินตามฉู่เฉินออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น เปิดห้องเช็กอิน ทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วเข้าไปในโรงแรมแล้ว อินซู่ซู่สีหน้าแดงก่ำ เหมือนกับแอปเปิลที่สุกจัด ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยสักนิด“มัวยืนอยู่ทำไม? ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน” ฉู่เฉินกล่าว หันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำอินซู่ซู่ตกตะลึง ร่างกายสั่นระริก ร่างกายเกร็งไปหมดถอดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงงั้นเหรอ?เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เขาอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธออินซู่ซู่คิดหนักเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมาเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่นม
กู้รั่วเสวี่ยวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา ถอดแว่นกันแดด โอบแขนของฉู่เฉิน นำหน้าอกที่อวบอิ่มเบียดเข้ากับแขนของเขา กล่าวพร้อมรอยยิ้มหวาน “คิดถึงคุณ ไม่ได้เหรอคะ?”ฉู่เฉินเขินอายเล็กน้อย กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พอแล้วครับ มาหาผมมีธุระอะไรครับ?”“ได้ข่าวว่าคุณเปิดบริษัทเหรอคะ?” กู้รั่วเสวี่ยเข้าเรื่องทันทีฉู่เฉินกล่าว “ข่าวสารของคุณไวจังเลยนะครับ”“ฉันลงทุนหุ้นให้คุณเป็นยังไงคะ? สักห้าร้อยล้าน” กู้รั่วเสวี่ยถาม“ห้าร้อยล้าน?” ฉู่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย ย้อนถาม “เพราะอะไร?”“ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร นั่นก็เป็นเพราะฉันเชื่อคุณยังไงล่ะคะ บริษัททางการแพทย์ที่หมอเทวดาฉู่เปิด จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งวงการการแพทย์เมืองเจียงจงแน่นอน กลายเป็นยักษ์ใหญ่ ลงทุนหุ้นตอนนี้ ต่อไปจะต้องได้กำไรงามแน่” กู้รั่วเสวี่ยกล่าวพร้อมกับยิ้มหวานฉู่เฉินยิ้ม ถาม “คุณไม่กังวลว่าจะขาดทุนเลยเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยส่ายหน้า “ขาดทุนก็ขาดทุนไปสิคะ ฉันไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินสักหน่อย”เมื่อฉู่เฉินได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกจนปัญญานี่ก็คือคุณหนูของตระกูลกู้สินะ ห้าร้อยล้าน จะขาดทุนก็ช่าง“ตามใจคุณเลยครับ” ฉู่เฉินกล่าวมีคนลงทุนถือเป
เมื่อฉู่เฉินได้ยินดังนั้น เลิกคิ้ว กล่าวเสียงเย็นชา “ขออภัยครับ ผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างนิดหน่อยจริง ๆ”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของชายชราก็เคร่งขรึมทันที ขมวดคิ้วขาว พ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม ไม่พอใจเป็นอย่างมากข้างกายของเขามีชายวัยกลางคน ที่ท่าทางหมกมุ่นมากเกินไปตาเขียวปัด กล่าวอย่างเยาะเย้ยทันที“คุณหนูใหญ่กู้ ทำไม ตระกูลกู้ของพวกคุณไม่มีคนแล้วหรือว่ายังไงกัน? ถึงได้ไปลากไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมข้างถนนมาตรวจประเมินได้?”“ผมว่า คุณพากลับไปเถอะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขายหน้า”“ถ้าหากไม่ไหวจริง ๆ ทางผมมีปรมาจารย์ตรวจประเมินหยกและของโบราณอยู่หลายท่าน คุณเลือกเอาสักคนตามสบาย”กู้รั่วเสวี่ยสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาและไม่พอใจ “หวังคุน! ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย ตระกูลกู้จะหาใครมาตรวจประเมิน ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณที่ต้องมายุ่ง!”หวังคุนแค่นหัวเราะ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “คุณหนูใหญ่กู้ คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ คนที่มาในวันนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักของเจียงจง เจียงเป่ย เจียงเฉิงทั้งสามเมืองเชียวนะครับ”“แม้แต่ปรมาจารย์ตรวจประเมินหยกและของโบราณที่พามาด้วย ล้ว
“อีกอย่าง สร้อยประคำ ฉันให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หลายท่านตรวจประเมินมาแล้ว ยังมีหนังสือรับรองอีกด้วย”“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าพูดว่ามันเป็นของปลอมสมัยปัจจุบัน?”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจทีหนึ่ง กล่าว “ใช่หรือไม่ใช่ของปลอมสมัยปัจจุบัน คุณลองเคาะดูก็รู้แล้ว”“ได้! ฉันจะลองเคาะดู ลองดูว่าเธอจะอธิบายยังไง” หวังคุนแสยะยิ้ม มั่นใจสร้อยประคำที่อยู่ในมือของตนเองมากจากนั้นเขาก็ถอดสร้อยประคำเส้นนั้นออกมาจากข้อมือ วางลงบนโต๊ะแล้วเคาะเบา ๆ เสียงไพเราะก้องกังวาน ไม่เหมือนของปลอมสมัยปัจจุบัน“เป็นยังไงละ ไอ้หนู เสียงนี้ทั้งไพเราะทั้งก้องกังวาน ปรมาจารย์ตรวจประเมินของโบราณทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ก็สามารถฟังออก ว่าเป็นของโบราณใช่ไหมครับ?” หวังคุนยิ้มอย่างลำพองใจสร้อยประคำเมล็ดรุทรักษะนี้ ยิ่งเก่า เสียงก็ยิ่งไพเราะสร้อยประคำเส้นนี้ ในวันปกติหวังคุนไม่มีทางปล่อยออกมาแน่อย่างไรเสีย ก็เป็นของอัครเสนาบดียุคก่อน จะมากจะน้อยก็มีท่าทีของอัครเสนาบดีอยู่บ้างทันทีที่เขาสวม ก็รู้สึกว่าท่าทีของตนเองนั้นไม่ธรรมดาสร้อยประคำนี้ไม่ใช่ของปลอม เขารู้ดีกว่าใคร ๆทุกคนรับประกันว่าเป็นของแท้แน่นอน!ผู้เชี่ยวชาญการตรวจ
“หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันอยากรู้นักว่าใครจะกล้าแตะต้องคุณฉู่!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวออกมา จ้องหวังคุนอย่างเย็นชา กล่าวด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “ผู้นำตระกูลหวัง ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย! คุณฉู่เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลกู้ฉัน หวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรผิดพลาด!”ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป หวังคุนสีหน้าอึมครึมทันที ความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นที่ใบหน้า จ้องมองกู้รั่วเสวี่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะตะคอก “ตระกูลกู้แล้วยังไง? อย่าลืมสิว่า ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งแต่ก็สู้อิทธิพลท้องถิ่นไม่ได้! วันนี้ ยังไงฉันก็ต้องจัดการไอ้เด็กนี่ให้ได้!”บรรยากาศชักดาบเข้าหากันสถานการณ์พร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อภายในห้องโถงเต็มไปด้วยแรงอาฆาตในเวลานี้ ชายชราในชุดคอปกจีนสีขาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณสีดำที่อยู่แถวหน้าสุด ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พอแล้ว ผู้นำตระกูลหวัง ตระกูลกู้เป็นตระกูลใหญ่กิจการใหญ่โต คุณเอาชนะไม่ได้หรอก ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ใจเย็น ๆ ทุกคนมาเพื่อหยกลายโลหิต ไม่มีความจำเป็นต้องจำให้กลายเป็นแบบนี้”“อีกอย่าง ที่นี่ก็คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ยอย่างที่ว่าจริง ๆ”“ผู้นำตระกูลหวังมีควา
ตั้งแต่เข้าเดินเข้าประตูมา ซ่งหรูเซียนก็เอาแต่หลับตาทำสมาธิ ไม่สนใจเรื่องใด ๆที่เกิดขึ้นในห้องโถงเลยแม้แต่น้อยอืม มีกลิ่นอายของความเป็นเจ้าใหญ่นายโตถังจิ้งจือ ชายชราในชุดเสื้อคอจีนสีขาวคนนั้น ฉู่เฉินยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เป็นแบบที่เคยได้ยินตั้งแต่เด็กจนโตนายท่านใหญ่ถังคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นตำนานของวงการการค้าเจียงจงคนหนึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาอย่างยาวนานจนประสบความสำเร็จจากแผงขายผักข้างถนน ค่อย ๆ พัฒนามาทีละขั้น นำตระกูลถังพัฒนาจนกลายมาเป็นสี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเจียงจงเพียงแต่ในเวลานี้ฉู่เฉินมองไป กลับพบว่าสีหน้าของถังจิ้งจือคนนี้ดูแย่มากครุ่นคิดอยู่ครู่ ฉู่เฉินเปิดใช้งานเนตรมังกร ทันทีที่แสงสีทองของดวงตากะพริบ ทันใดนั้นก็พบว่า จุดอิ้นถาง[1]ของถังจิ้งจือคนนี้ดำจนน่ากลัว ถูกอายชั่วร้ายสีดำรายล้อมวังชีวิตแต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ อายชั่วร้ายสีดำเหล่านี้ มีอยู่หลายชนิดนี่บ่งบอกถึงอะไร?บ่งบอกว่าถังจิ้งจือคนนี้ถูกวิญญาณร้ายนับร้อยติดตาม ถ้าหากว่าจัดการไม่ทันเวลา เขา จะต้องตายอย่างแน่นอน!แม้แต่วังบุตรธิดาและวังนาเรือนของเขา เต็มไปด้วยความสิ้
“ปรมาจารย์กัว”ทุกคนพยักหน้าปรมาจารย์กัวคนนั้นยิ้ม พร้อมกล่าวด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ต้องขออภัยด้วยครับ ที่ทำให้ทุกท่านต้องรอนาน ในเมื่อทุกท่านมาถึงแล้ว ผมเองก็จะไม่อุบไว้แล้ว ตรงเข้าเรื่องสำคัญ ให้ทุกท่านได้ชมของล้ำค่าก่อน”ในขณะที่พูด ปรมาจารย์กัวก็นำกล่องหนังสีเหลืองวางที่ตรงกลางของโต๊ะ มีเสียงดังแกร๊กสองที เปิดตัวล็อก แล้วเปิดกล่องด้านในกล่องคือหยกโบราณสีเลือด สีแดงสดมาก งดงามราวกับเลือดหยกโบราณทั้งก้อน เป็นสไตล์โบราณ ด้านบนยังแกะสลักด้วยลายเส้นละเอียด เหมือนกับว่าเป็นลายเส้นค่ายกล ดูออกทันทีว่าไม่ใช่สิ่งของธรรมดาอีกทั้งทันทีที่หยิบหยกลายโลหิตออกมา ทุกคนตรงนั้นก็สัมผัสได้ทันทีว่าภายในห้องโถงมีกลิ่นอายกลุ่มหนึ่ง ที่ทำให้พวกเขารู้สึกโล่งสบายไปทั้งตัว จิตใจผ่อนคลาย ไหลเวียนไปทั่วตัวราวกับได้อาบน้ำท่ามกลางลมที่พัดผ่านในฤดูใบไม้ผลิ ราวกับอยู่ในมหาสมุทร แล้วก็เข้าไปในป่าอันเขียวขจีในหุบเขาลึก ราวกับแดนสวรรค์ถังจิ้งจือและคนอื่นดวงตาเบิกกว้างเปล่งประกายทันที จ้องเขม็งไปยังหยกลายโลหิตก้อนนั้น“ของดี! นี่คือของดี!”ผู้เชี่ยวชาญการตรวจประเมินของโบราณหลายท่าน ก็ส่งเสียงชื่นชมหลาย
นับตั้งแต่ฉู่เฉินเดินเข้าประตูมา จนกระทั่งเล่นลูกไม้กับหวังคุน ซ่งหรูเซียนมองดูอยู่ตลอดเพียงแต่เขาไม่ได้สนใจฉู่เฉินเลยสักนิดคิดว่าก็เป็นแค่ตัวตลกที่เรียกร้องความสนใจแค่นั้นเองฉู่เฉินแค่นเสียงหัวเราะ เรียกคืนสายตาจากหยกลายโลหิต ย้อนถามซ่งหรูเซียน “ปรมาจารย์ซ่งใช่ไหม คุณคิดว่าหยกลายโลหิตนี่คือของวิเศษ?”“แน่นอนสิ! ตั้งแต่ฉันเป็นตรวจประเมินของโบราณมา ยังไม่เคยเห็นของวิเศษที่จริงขนาดนี้มาก่อน!”ซ่งหรูเซียนกล่าวอย่างมั่นใจมาก จากนั้นหรี่ตา กล่าวอย่างไม่พอใจ“ทำไม เธอสงสัยในความสามารถตรวจประเมินของโบราณของฉันเหรอ? จะบอกเธอให้นะ ไอ้หนู ฉันเป็นปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อยู่กับศาสตร์ฮวงจุ้ยมาสามสิบปีแล้ว! หยกลายโลหิตก้อนนี้ ใช่หรือไม่ใช่ของวิเศษ เป็นของวิเศษระดับไหน มองแวบเดียวก็รู้แล้ว”ซ่งหรูเซียนพูดจบ สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ระดับชั้นน้ำของวงการศาสตร์ฮวงจุ้ยแห่งเจียงเป่ย เมื่อครู่นี้ตอนที่หยิบหยกลายโลหิตก้อนนั้นออกมา เขาสัมผัสได้ถึงลักษณะฮวงจุ้ยของในบ้านหลังนี้ที่เปลี่ยนไปแดนสวรรค์!คือแดนสวรรค์ของโลกมนุษย์!ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าหยก