“ตอนนี้ลูกน่าจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแม่ถึงได้ขวางลูกเอาไว้แล้วใช่ไหม” หลิ่วชิงเหอกล่าวเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เบะปากกล่าว “ถึงอย่างนั้นแล้วจะยังไง ต่อให้ป้าอู๋ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน พวกเราก็ยังสามารถหาคนที่เก่งกว่ามาจัดการมันได้อยู่ดีนี่คะ!”“ไอ้หมอนี่ ภายในระยะไม่กี่วัน ก็เก่งกาจขึ้นขนาดนี้ บนตัวจะต้องมีความลับอะไรแน่!”“หนูกล้ารับรองเลยว่า จะต้องเป็นเพราะกายาโอสถสวรรค์นั้นของมันแน่ ถึงสามารถทำให้มันเร่งฝึกวรยุทธ์ได้หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างคาดเดาหลิ่วชิงเหอครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าว “ไม่ว่าจะยังไง ต่อไป หากเจอฉู่เฉิน ลูกก็ต้องเลี่ยง ๆ หน่อย ไอ้หมอนี่ ร้ายกาจกว่าที่ลูกคิด...”“แม่กังวลว่า เขาจะเป็นผลเสียกับลูก”ตอนที่พูดประโยคนี้ ภายในหัวสมองของหลิ่วชิงเหอมีภาพร่วมรักกับฉู่เฉินที่ในห้องนอนเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัวอัปยศ!น่าอัปยศมาก!น่าโมโห!น่าโมโหที่สุด!น่ารังเกียจ ตนกำลังคิดอะไรอยู่?หลิ่วชิงเหอตกใจ คิดไม่ถึงว่าตนยังจะหวนคิดถึงภาพและความรู้สึกของการฟาดฟันอันน่าเร้าใจกับฉู่เฉินเมื่อครู่นี้อยู่อีก“แม่ กลัวอะไร หนูมีเพื่อนอยู่หลายคน เป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์แห่ง
“ต่อให้ต้องพลิกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสิบชั้นโลก ข้าก็จะต้องเลาะเอ็นมังกร ทำลายจิตวิญญาณของเจ้าให้ดับสูญ!”หญิงสาวเอ่ยปากพูด แรงอาฆาตพลุ่งพล่าน!ในเวลาเดียวกัน นางก็ขมวดคิ้วทันที สัมผัสกลิ่นอายบริเวณรอบ ๆ กล่าวอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามกนั่นแล้วแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้หายไปเสียได้...”“หรือว่า เขาเข้าสิงร่างงั้นเหรอ?”“ฮึ! มังกรลามก เจ้าคิดว่าเข้าสิงร่างแล้ว ข้าจะตามหาตัวเจ้าไม่เจออย่างนั้นหรือ?”หญิงสาวที่รูปโฉมราวกับนางฟ้า เย็นชาขึ้นภายในพริบตา“ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”หญิงสาวเอ่ยปากกล่าวอย่างเย็นยะเยือก เสียงปานกระดิ่งฮ่าวเทียน สั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ!นี่คือพลังจิตส่งเสียงอย่างหนึ่ง ผู้ที่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณจะไม่ได้ยินผลสุดท้าย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บริเวณรอบ ๆ ก็เงียบสงัด“หือ? ผู้บำเพ็ญเต๋าของที่แห่งนี้ ระดับต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ไม่มีแม้กระทั่งผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณเชียวหรือ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยปากกล่าวต่อไป “ผู้บำเพ็ญระดับควบแก่นแท้ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”ว่างเปล่า เงียบสงัดหญิ
“คิดไม่ถึงเลย ๆ ข้าซ่งชิงอวิ๋นบำเพ็ญมาตลอดทั้งชีวิต จะได้รับความเป็นอมตะ ในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้” ในใจของซ่งชิงอวิ๋นปลื้มปีติ กลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งประกาศปิดสำนัก ปิดสำนักทันที!ในเวลาเดียวกันสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่ลงมายังโลกมนุษย์ ได้เดินทางเข้าสู่เมืองเจียงจงแล้ว ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นไม่น้อยพวกอันธพาลสองสามคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นาง“ไอ้เหี้ย! สวยฉิบหายเลยเว้ย! นี่มันนักคอสเพลย์เทพเซียนอะไรกันวะ?”“ไอ้สัตว์! ทั้งรูปร่าง นม เอว ขา ผิวพรรณ พี่ ๆ ว่าเป็นยังไง?”เด็กหนุ่มทั้งหลายคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เข้าใจกันความหมายของกันและกันทันที ขวางสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเอาไว้“คนสวย ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ทันทีที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากพูด สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือยกมือโบก โครม ๆ ๆ เด็กหนุ่มทั้งหลายลอยกระเด็นออกไปทันที ตกลงบนพื้น อาเจียนออกมาเป็นเลือด หมดสติ“ไอ้ลามก! ตายซะ!”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือกล่าวเสียงเย็นชา สาวเท้าเดินจากไปจากนั้น ดวงตาของนางเบิกกว้าง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามก ภายในชั่วพริบตา ทันทีร่างกะพริบ ก็หายตัวไปจากถนนในเวลาเดียวกัน ฉู่เฉ
“หมอเทวดาฉู่?” ไป๋หลิงเผยอปากเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ รีบโทรศัพท์หากู้รั่วเสวี่ย “คุณหนู ฉันเจอกับหมอเทวดาฉู่ฉู่เฉินที่กรมพาณิชย์และอุตสาหกรรมด้วยค่ะ ดูท่าทาง เหมือนว่าเขาจะจดทะเบียนบริษัท”“จดทะเบียนบริษัท?”ปลายสายทางด้านนั้น สวมชุดนอนบางเบานอนอยู่บนเตียง หลังจากที่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังนอนเผยขาขาวดุจหิมะที่เรียวยาวได้ยิน ก็ลุกขึ้นนั่งทันที กล่าวถาม “เธอแน่ใจไหม?”“แน่ใจค่ะ เมื่อครู่นี้ฉันแอบมองแวบหนึ่ง ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลค่ะ” เลขาสาวตอบเมื่อกู้รั่วเสวี่ยได้ยินดังนั้น ก็กล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”“ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลใช่ไหม?”“เธอรีบเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย ขอเพียงแค่บริษัทจดทะเบียนสำเร็จ ใช้ชื่อของฉัน ลงทุนในหุ้นห้าร้อยล้าน! ไม่ ห้าพันล้าน!”“ฉันอยากจะช่วยฉู่เฉินทำให้ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลกลายเป็นบริษัททางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง!”“เข้าใจแล้วค่ะคุณหนู” เลขาสาวพยักหน้าแล้วกดวางสายกู้รั่วเสวี่ยเองก็ลุกขึ้นอย่างรีบร้อน ทันทีที่เปิดตู้เสื้อผ้า ก็เห็นเสื้อผ้าที่เรียงรายละลานตา จับคางขาวมน ครุ่นคิดว่าจะใส่ชุดไหนดี‘ชุดนี้ไม่เลว สะอาดบริสุทธิ์ ฉู่เฉ
อินซู่ซู่ตกตะลึงไปทันที กัดริมฝีปากแดง พยักหน้ากล่าวเสียงอ่อย “ได้...”“เรียกนายท่านให้ฟังหน่อยสิ” ฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มอินซู่ซู่ลังเลเล็กน้อย กัดริมฝีปาก แก้มแดงก่ำ กล่าว “นายท่าน”“อืม ไปกันเถอะ ไปที่โรงแรม” ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบเฉยอินซู่ซู่ตกตะลึง สีหน้าตื่นเต้นอะไรนะ?โรงแรม...เขาคิดจะทำอะไร?ภายใต้ความลังเลเล็กน้อย อินซู่ซู่สีหน้าทั้งเขินอายทั้งโกรธ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่เพียงกัดฟัน จำต้องเดินตามฉู่เฉินออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น เปิดห้องเช็กอิน ทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วเข้าไปในโรงแรมแล้ว อินซู่ซู่สีหน้าแดงก่ำ เหมือนกับแอปเปิลที่สุกจัด ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยสักนิด“มัวยืนอยู่ทำไม? ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน” ฉู่เฉินกล่าว หันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำอินซู่ซู่ตกตะลึง ร่างกายสั่นระริก ร่างกายเกร็งไปหมดถอดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงงั้นเหรอ?เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เขาอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธออินซู่ซู่คิดหนักเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมาเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่นม
กู้รั่วเสวี่ยวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา ถอดแว่นกันแดด โอบแขนของฉู่เฉิน นำหน้าอกที่อวบอิ่มเบียดเข้ากับแขนของเขา กล่าวพร้อมรอยยิ้มหวาน “คิดถึงคุณ ไม่ได้เหรอคะ?”ฉู่เฉินเขินอายเล็กน้อย กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พอแล้วครับ มาหาผมมีธุระอะไรครับ?”“ได้ข่าวว่าคุณเปิดบริษัทเหรอคะ?” กู้รั่วเสวี่ยเข้าเรื่องทันทีฉู่เฉินกล่าว “ข่าวสารของคุณไวจังเลยนะครับ”“ฉันลงทุนหุ้นให้คุณเป็นยังไงคะ? สักห้าร้อยล้าน” กู้รั่วเสวี่ยถาม“ห้าร้อยล้าน?” ฉู่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย ย้อนถาม “เพราะอะไร?”“ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร นั่นก็เป็นเพราะฉันเชื่อคุณยังไงล่ะคะ บริษัททางการแพทย์ที่หมอเทวดาฉู่เปิด จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งวงการการแพทย์เมืองเจียงจงแน่นอน กลายเป็นยักษ์ใหญ่ ลงทุนหุ้นตอนนี้ ต่อไปจะต้องได้กำไรงามแน่” กู้รั่วเสวี่ยกล่าวพร้อมกับยิ้มหวานฉู่เฉินยิ้ม ถาม “คุณไม่กังวลว่าจะขาดทุนเลยเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยส่ายหน้า “ขาดทุนก็ขาดทุนไปสิคะ ฉันไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินสักหน่อย”เมื่อฉู่เฉินได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกจนปัญญานี่ก็คือคุณหนูของตระกูลกู้สินะ ห้าร้อยล้าน จะขาดทุนก็ช่าง“ตามใจคุณเลยครับ” ฉู่เฉินกล่าวมีคนลงทุนถือเป
เมื่อฉู่เฉินได้ยินดังนั้น เลิกคิ้ว กล่าวเสียงเย็นชา “ขออภัยครับ ผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างนิดหน่อยจริง ๆ”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของชายชราก็เคร่งขรึมทันที ขมวดคิ้วขาว พ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม ไม่พอใจเป็นอย่างมากข้างกายของเขามีชายวัยกลางคน ที่ท่าทางหมกมุ่นมากเกินไปตาเขียวปัด กล่าวอย่างเยาะเย้ยทันที“คุณหนูใหญ่กู้ ทำไม ตระกูลกู้ของพวกคุณไม่มีคนแล้วหรือว่ายังไงกัน? ถึงได้ไปลากไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมข้างถนนมาตรวจประเมินได้?”“ผมว่า คุณพากลับไปเถอะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขายหน้า”“ถ้าหากไม่ไหวจริง ๆ ทางผมมีปรมาจารย์ตรวจประเมินหยกและของโบราณอยู่หลายท่าน คุณเลือกเอาสักคนตามสบาย”กู้รั่วเสวี่ยสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาและไม่พอใจ “หวังคุน! ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย ตระกูลกู้จะหาใครมาตรวจประเมิน ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณที่ต้องมายุ่ง!”หวังคุนแค่นหัวเราะ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “คุณหนูใหญ่กู้ คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ คนที่มาในวันนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักของเจียงจง เจียงเป่ย เจียงเฉิงทั้งสามเมืองเชียวนะครับ”“แม้แต่ปรมาจารย์ตรวจประเมินหยกและของโบราณที่พามาด้วย ล้ว
“อีกอย่าง สร้อยประคำ ฉันให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หลายท่านตรวจประเมินมาแล้ว ยังมีหนังสือรับรองอีกด้วย”“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าพูดว่ามันเป็นของปลอมสมัยปัจจุบัน?”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจทีหนึ่ง กล่าว “ใช่หรือไม่ใช่ของปลอมสมัยปัจจุบัน คุณลองเคาะดูก็รู้แล้ว”“ได้! ฉันจะลองเคาะดู ลองดูว่าเธอจะอธิบายยังไง” หวังคุนแสยะยิ้ม มั่นใจสร้อยประคำที่อยู่ในมือของตนเองมากจากนั้นเขาก็ถอดสร้อยประคำเส้นนั้นออกมาจากข้อมือ วางลงบนโต๊ะแล้วเคาะเบา ๆ เสียงไพเราะก้องกังวาน ไม่เหมือนของปลอมสมัยปัจจุบัน“เป็นยังไงละ ไอ้หนู เสียงนี้ทั้งไพเราะทั้งก้องกังวาน ปรมาจารย์ตรวจประเมินของโบราณทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ก็สามารถฟังออก ว่าเป็นของโบราณใช่ไหมครับ?” หวังคุนยิ้มอย่างลำพองใจสร้อยประคำเมล็ดรุทรักษะนี้ ยิ่งเก่า เสียงก็ยิ่งไพเราะสร้อยประคำเส้นนี้ ในวันปกติหวังคุนไม่มีทางปล่อยออกมาแน่อย่างไรเสีย ก็เป็นของอัครเสนาบดียุคก่อน จะมากจะน้อยก็มีท่าทีของอัครเสนาบดีอยู่บ้างทันทีที่เขาสวม ก็รู้สึกว่าท่าทีของตนเองนั้นไม่ธรรมดาสร้อยประคำนี้ไม่ใช่ของปลอม เขารู้ดีกว่าใคร ๆทุกคนรับประกันว่าเป็นของแท้แน่นอน!ผู้เชี่ยวชาญการตรวจ
ระยะนี้คำชี้แนะจากอวี้ลู่ รวมถึงวิชาที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ ความเร็วในการพัฒนาของอินซู่ซู่จึงรวดเร็วสุดขีด แต่เวลาครึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ ก็บรรลุระดับฝึกปราณชั้นห้าแล้วห่างจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติร่างกายแค่ก้าวเดียวเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของอินซู่ซู่อยู่ในสายตาของฉู่เฉินเช่นกัน ก่อนที่เขาจะนึกยินดีในใจของเพียงปรับเปลี่ยนสำเร็จ อินซู่ซู่ก็จะกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉู่เฉินถึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ลานบ้าน ทำการชี้แนะอินซู่ซู่อย่างละเอียด จากนั้นค่อยออกจากบ้านไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่รอคอยด้วยความกังวลใจให้ป้าอู๋จัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้เรียบร้อยนานแล้ว เธออาบน้ำแต่งตัวไปพลาง รอการมาเยือนของฉู่เฉินไปพลางเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลิ่วหรูเยียน ป้าอู๋ย่อมดีใจถ้าเกิดจากนี้ไปฉู่เฉินมา “เป็นแขก” ที่บ้านบ่อย ๆ ต่อให้ไม่อาจมอบความเมตตาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าแม่น้ำสายใหญ่มีน้ำ ลำธารเล็ก ๆ ย่อมไม่เหือดแห้งให้ความชุ่มชื้นเป็นบางครั้งก็สามารถบรรเทาอาการคันของสาวใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาอย่างเธอได้ “ป้าอู๋ ป้าคิดว่าชุดนี
ช่วงบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินตั้งใจนำของว่างท้องถิ่นสิบกว่าอย่างกลับไปยังบ้านเก่าของตระกูลฉู่ พูดตามตรง ความสามารถของสำนักอวี้ซือไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ ตอนนี้ฉู่เฉินเองก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานชั้นแรกเท่านั้นต่อให้เป็นคนมุทะลุ เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานห้าคนก็เกินความสามารถที่จะทำได้อยู่บ้างเหมือนกันสถานการณ์ชักจะน่าปวดหัวนิดหน่อยแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือพาอวี้ลู่แฝงตัวเข้าไปในสำนักอวี้ซือ กำจัดพวกยอดฝีมือในสำนักด้วยกัน จากนั้นค่อยยืมมือข่งเลี่ยงควบคุมสำนักอวี้ซือไว้ทั้งหมดว่ากันว่าพอติดค้างบุญคุณคนอื่นแล้วก็จะใจอ่อน ฉู่เฉินไม่ได้เตรียมแค่ของว่างท้องถิ่นให้อวี้ลู่เท่านั้น เขายังตั้งใจซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงรุ่นใหม่ทั้งหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองเอกประจำมณฑลกลับมาด้วย อวี้ลู่เห็นฉู่เฉินถือของกินอร่อย ๆ ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือชุดสวย ๆ เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากที่เธอรู้จักหมอตัวน้อยคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่คอยเอาอกเอาใจโดยไม่มีเหตุผล“ของกินอร่อย ๆ กับชุดสวย ๆ เยอะขนาดนี้ พูดมาเถอะ มีเรื่องที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือใช่หรือเปล่า?”อวี้ลู่กินปูผัดเผ็ดไปด้วย เอ่ยพล
“เธอถ่ายรูปหลิ่วชิงเหอแล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ หัวหน้าหลูต้องการสอบถามเกี่ยวกับคดี” ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินขัดขึ้นทันทีหลิ่วหรูเยียนอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยติดต่อกันว่า “ได้ ฉันจะส่งให้นายเดี๋ยวนี้”ไม่นานนัก ภาพถ่ายของหลิ่วชิงเหอที่มีจ้ำศพเต็มตัวก็ถูกส่งมาหลายใบฉู่เฉินทำการปรับภาพอย่างง่าย ๆ อีกครั้ง จากนั้นค่อยส่งให้หัวหน้าหลูแล้วพูดว่า “หัวหน้าหลู รบกวนคุณช่วยดูด้วยครับ รอยช้ำสีดำบนตัวหลิ่วชิงเหอพวกนี้ก็คือจ้ำศพ”หัวหน้าหลูพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “คุณฉู่ ช่วยส่งหลักฐานที่คุณให้มาเมื่อกี้ให้ผมได้ไหมครับ? แล้ววันมะรืน...”ฉู่เฉินรีบทำมือบ่งบอกว่าให้เงียบเสียง แล้วมองกลุ่มตำรวจที่อยู่ด้านหลังหลูติ้งไห่แวบหนึ่งหลูติ้งไห่เข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณออกไปรอกันให้หมด”“ครับ!”พวกตำรวจรีบถอยออกมาจากในห้องส่วนตัวหลังจากที่ฉู่เฉินแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟัง เขาค่อยโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่ฟังแล้วก็พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายค่อยก็ยกนิ้วโป้งให้ฉู่เฉิน “คุณฉู่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊จริง ๆ ฉลาดล้ำลึกมาก”“แต่ว่า ตระกู
ควบคุมสำนักอวี้ซือ?ข่งเลี่ยงเคยฝันถึง แต่มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อฉู่เฉินสามารถฆ่าบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอวี้ซือ แล้วก็ต้องกำจัดเจ้าสำนักเสียก่อน ปัญหาคือฉู่เฉินมีความสามารถขนาดนั้นเหรอ?“น้องชาย ขอเพียงคุณสามารถกำจัดเจ้าสำนักและผู้อาวุโสอีกหกคนได้ ผมมั่นใจว่าสามารถทำให้สำนักอวี้ซือยอมศิโรราบต่อคุณได้”ข่งเลี่ยงพูดด้วยความมั่นใจฉู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ดี ตอนนี้คุณสาบานมาว่าจะภักดีจนตาย”หา?ข่งเลี่ยงเงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบสาบานทันทีว่า “ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ...”“ฉู่เฉิน”ฉู่เฉินพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเฉยชา“ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉู่เฉินจนตาย หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า ไฟคลอก จมน้ำ ไม่ตายดี!”ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของข่งเลี่ยง ฉู่เฉินก็วาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ แล้วชี้นิ้วออกไปประทับลงบนหว่างคิ้วของข่งเลี่ยงเปรี้ยง!ข่งเลี่ยงรู้สึกได้เพียงราวกับมีสายฟ้าฟาดในสมอง เหมือนมีสิ่งลึกลับบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย ทำให้ข่งเลี่ยงตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั่วทั้งร่าง!ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรเหมือนกัน
“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
“ผมขอเตือนคุณนะ ร่างกายคนเรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ผมมีความอดทนพอ สามารถหักมันได้ทีละชิ้นนะครับ”ฉู่เฉินปรายตาลงมองเซียวจี้กวางที่เหงื่อเย็น ๆ แตกพลั่กออกมาราวกับสายฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “นอกจากนี้ ผมรับรองได้เลยว่าจะให้คุณได้สัมผัสกระบวนการทั้งหมดโดยที่มีสติครบถ้วน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด จ้องมองฉู่เฉินไม่วางตาแล้วพูดว่า “คะ...คุณมันบ้า! คุณมันปีศาจ! ตะ... ตระกูลเซียวของผมไม่มีวันปล่อย...”กร๊อบ!เสียงแตกหักดังขึ้นอีกครั้ง เซียวจี้กวางเจ็บจนเหมือนกับเขามองเห็นคุณย่าของตัวเองที่ไปสวรรค์แล้ว แต่เรื่องน่าแปลกคือ ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สติของเขาแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกเซลล์ทั่วทั้งร่างกายกำลังส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาให้เขา“พี่ชาย... ไม่ ๆ คุณปู่! ผะ...ผมบอกแล้ว!”เมื่อเห็นฉู่เฉินเหยียบต้นขาของเขาอีกครั้ง เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนรีบคว้ากอดรองเท้าหนังของฉู่เฉินไว้ พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า “เกาเซิ่งอี้ให้ผมหาหยกชิ้นหนึ่งจากบ้านแม่ลูกตระกูลหลิ่ว”“
ปรมาจารย์ข่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจหนักหน่วงของเขากับเซียวจี้กวาง และเสียงหอบหายใจของสาวสวยผมทองสองคนปัง!ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวพลันถูกคนเตะกระเด็น! ฟิ้ว!เซียวจี้กวางที่อยู่ใกล้หน้าประตูที่สุดรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงพุ่งตรงมาทางตัวเอง เขาตกใจกลัวจนรีบพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงไปที่พื้นประตูไม้แท้บานนั้นพุ่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเฉียดผ่านร่างสาวสวยผมทอง ไปหาปรมาจารย์ข่งที่กำลังยุ่งอยู่!“ใคร!”ทันทีที่ปรมาจารย์ข่งพูดจบ เวลาเดียวกันเขาก็ยกมือชี้นิ้วออกไป!“ตูม!”ประตูไม้แท้บานนั้นถูกพลังปราณที่เขาซัดออกมาระเบิดจนกลายเป็นเศษไม้กลางอากาศฉู่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋า เดินจากหน้าประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆเซียวจี้กวางกับปรมาจารย์ข่งลุกขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน สาวสวยผมทองสองคนก็กรีดร้องเสียงแหลมติดต่อกันด้วยความตกใจกลัวกับฉากเมื่อกี้ ก่อนจะคว้าผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาแล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมตัวสั่นระริก"คุณเป็นใคร? ใครส่งคุณมา?"เซียวจี้กวงหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต“คนที่จะมาเอาชีวิตคุณไง!”ฉู่เฉินยิ
“คุณทำอะไรน่ะ ไม่เห็นตัวหนังสือว่าห้ามลูกค้าเข้าหรือไง?”ฉู่เฉินเพิ่งจะผลักประตูออกมาจากทางหนีไฟ ชายร่างกำยำสวมชุดคล่องตัวสีดำไว้ทรงผมสั้นเกรียนมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา“ผมได้ยินว่าท่านรองตระกูลเซียวอยู่ข้างในเลยอยากไปเยี่ยมเขาสักหน่อย รบกวนคุณช่วยเปิดทางให้ด้วยครับ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มยิงฟันให้ชายในชุดคล่องตัวขณะเดียวกันสายตาก็มองไปที่ระเบียงทางเดินแวบหนึ่งในระเบียงทางเดินมีชายในชุดคล่องตัวยืนเรียงรายกันสองแถว ซึ่งแต่ละคนมีพลังฝึกปรืออยู่ประมาณระดับฝึกปราณชั้นสามกันเกือบทุกคน นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือสี่คนที่สวมชุดคลุม พลังไม่ด้อยไปกว่าระดับฝึกปราณชั้นสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวด้านในสุด มีความเป็นไปได้สูงว่าเซียวจี้กวางกับคนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์จากสำนักอวี้ซือคนนั้นก็อยู่ในห้องส่วนตัวแห่งนั้นด้วยเมื่อแน่ใจแล้ว ฉู่เฉินก็เดินไปทางห้องส่วนตัวโดยไม่รอให้ชายในชุดคล่องตัวคนนั้นตอบกลับ “หยุดนะ!”ชายในชุดคล่องตัวเห็นฉู่เฉินเดินตรงไปยังห้องพักที่ท่านรองเซียวกับปรมาจารย์ข่งพักผ่อนอยู่ราวกับเข้าไปยังเขตไร้ผู้คน เขาก็เดือดดาลฉับพลัน ก่
“ปรมาจารย์ผู้นั้นเขาไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว เขาสนใจแค่ผู้หญิงเป็นพิเศษ ดังนั้น...”เชี่ย!หลินชือหย่าคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ตระกูลเซียวกล้าสร้างฮาเร็มในเมืองแบบนี้แต่ว่าพอลองคิดดูมันก็ถูกนะ สถานที่ที่ยิ่งอันตรายยิ่งปลอดภัยฉู่เฉินเหลือบมองไปที่ถานเหวินหลง เขาพูดขึ้นมาอย่างครุ่นคิด “สหายถานเคยคิดเปลี่ยนเจ้านายไหมครับ”ถานเหวินหลงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ฉู่เฉินด้วยความสงสัย เขายิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะครับ ถ้ามันมีทางเลือกอื่นให้ผม ผมไม่ทำงานนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผมมีหนี้เยอะมาก พวกเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้จนจะถึงที่บ้านอยู่แล้ว นอกจากแซ่เซียวแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับผมเข้าทำงานอีกล่ะครับ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดกับหลินชือหย่าว่า “คุณลองหาตำแหน่งให้พี่คุณทำสักตำแหน่งดีไหมครับ ใช้คนของตัวเองน่าจะสบายใจกว่าใช้คนนอกนะครับ”หลินชือหย่าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจความต้องการของฉู่เฉิน แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับถานเหวินหลงดีใจแน่นอนอยู่แล้ว สามารถทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ปได้จะต้องดีกว่าทำที่ตระกูลเซียวแน่นอนกินข้าวเย็นเสร็จ หล