“อ๊ะ!”ในตอนนั้นเอง หลินชือหย่าก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเธอ เธอเจ็บจนล้มนั่งลงไป ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมออกมาตามผิวหนังของหลินชือหย่าอีกทั้งทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เยือกเย็นเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฉู่เฉินก็หลับตาลง หลังจากนั้นเขาชี้นิ้วของเขาเหมือนกระบี่ พลังวิญญาณก็เข้าสู่ร่างกายของหลินชือหย่าทันที หลังจากที่พลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายแล้ว สถานการณ์ของหลินชือหย่าก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดก็ค่อยๆ บรรเทาลงไปฉู่เฉินถึงโบกมือให้หลินชือหย่า “คุณหลิน ใส่เสื้อผ้าเถอะครับ”หลินชือหย่าลังเลไปครู่หนึ่ง เธอที่สวมแค่ชุดเดรสเพียงชิ้นเดียว ข้างในโล่งไปหมด สีหน้ากระวนกระวายนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง ดวงตางดงามมองไปที่ฉู่เฉิน ถามขึ้นมาว่า “คุณฉู่คะ ฉันจัดอยู่ในสถานการณ์ไหนเหรอคะ?” ฉู่เฉินจิบชาเข้าไปหนึ่งอึก ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณหลินไปมีเรื่องกับใครมาไหมครับ? ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงใช้หนอนกู่ที่ร้ายแรงแบบนี้มาทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้”หนอนกู่งั้นเหรอ?!หลินชือหย่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ขนลุก
“ใช่แล้วล่ะ!”ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดว่า “อีกอย่างที่เมื่อกี้คุณบอกว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่ของคุณไม่ชอบมาพากลใช่ไหมครับ? ผมจะบอกให้เลยนะครับว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่คุณ จะต้องเกี่ยวข้องกับหนอนกู่อย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหลินชือหย่าก็เปลี่ยนเล็กน้อย ในดวงตาของเธอมีความเคียดแค้นปรากฏขึ้นมา “จะบอกว่าอาสองของฉันเป็นผู้วางแผนตั้งแต่แรกงั้นเหรอคะ?”ตอนนั้นเธอคิดว่าการเสียชีวิตกะทันหันพ่อแม่ของเธอมันน่าสงสัยแต่ว่าถึงจะเป็นการชันสูตรศพก็ตรวจไม่พบข้อสงสัยใดๆ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ปล่อยผ่านไปแต่ดูจากวันนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนที่หลินฟางเจิ้งวางแผนไว้ตั้งแต่แรกฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “หนอนกู่ชนิดนี้ที่จริงแล้วเป็นหนอนกู่ตัวแม่ชนิดหนึ่ง ตราบใดที่มีมันอยู่ มันจะไม่มีทางมีอยู่ตัวเดียวเป็นแน่ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ญาติคนอื่นในตระกูลของคุณก็มีปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาการอาจจะแค่ยังไม่แสดงออกมา”ตามบันทึกของวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ หนอนกู่กลืนวิญญาณมาจากการรวมตัวกันของหนอนกู่ตัวแม่และตัวลูกหนอนกู่ตัวแม่จะมีแค่ตัวเดียว แต่กลับสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นผ่านอาหารและน้ำ
“ฉันสามารถนำออกมาได้ยี่สิบถึงสี่สิบล้านค่ะ”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องเงินไม่เป็นไรครับ เพียงแต่ว่าผมจำเป็นต้องบอกคุณก่อน ตั้งแต่วันที่เริ่มรักษาวันแรก คุณไม่สามารถแตะต้องผู้ชายเด็ดขาด ผมว่าคุณคงเข้าใจที่ผมจะสื่อนะครับ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าเล็กของหลินชือหย่าก็แดงระเรื่อ “คุณ... คุณฉู่คะ พูดตามตรงจนถึงตอนนี้ฉัน... ฉันยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยค่ะ เงื่อนไขไม่ได้ยากเลยค่ะ”หืม?ฉู่เฉินมองไปที่หลินชือหย่าด้วยความประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ออนเซ็นวันนั้นผู้หญิงคนนี้ดูช่ำชองมากๆ เลยนะถ้าฉู่เฉินไม่หยุดเธอจากการไปถึงจุดนั้น แม้แต่หลิ่วชิงเหอที่เคยผ่านสิ่งนี้มาก่อนก็อาจไม่เก่งเท่าเธอนี่มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด!“แล้วนอกจากนี้ล่ะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยถามขึ้นมาอย่างกังวล“ต้องมาทำการรักษาทุกๆ ครึ่งเดือน ประมาณสองเดือนหนอนกู่ในตัวคุณจึงจะถูกจำกัดออกไปจนหมด”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมหลินชือหย่าถึงโล่งใจขึ้นมา อย่างน้อยก่อนที่เธอจะล้างแค้นให้พ่อแม่ของเธอ เธอจะตายไม่ได้เด็ดขาดจะไม่มีทางให้หลินฟางเจิ้งสมหวังเป็นอันขาด!“ได้ค่ะคุณฉู่ ต้องรักษาอย่างไรฉันจะทำตามคุณทั้งอย่างเลยค่ะ
อินซู่ซู่ใช้ความกล้าทั้งหมดมองไปที่ฝ่ามือของฉู่เฉิน เห็นได้ชัดว่ามีแมลงพิษที่ยังไม่ตายยังคงดิ้นอยู่ในมือของฉู่เฉิน“นายท่าน... มือของคุณ...”ฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ เมื่อพลังวิญญาณนั้นค่อยๆ ออกมาจากฝ่ามือของเขา แมลงพิษเหล่านั้นก็เหมือนพบกับศัตรู พวกมันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งหลังจากนั้นก็สลายกลายเป็นเลือด!“ช่วยเธอจัดการหน่อย”ฉู่เฉินพูดกับอินซู่ซู่ และชี้ไปที่เลือดบนหน้าอกของหลินชือหย่า “ได้ค่ะ”อินซู่ซู่ตอบกลับไป หลังจากนั้นเธอก็รีบนำผ้าเช็ดตัวร้อนมา ช่วยหลินชือหย่าเช็กเลือดบนร่างกาย หลินชือหย่าถึงจะสวมเสื้อผา กลับไปนั่งบนเก้าอี้ฉู่เฉินล้างมือที่เปื้อนเลือดแล้ว จึงพูดกับหลินชือหย่าว่า “ตอนนี้ตรงหน้าอกยังมีอาการอะไรอยู่ไหมครับ?”“อืม”หลินชือหย่าพยักหน้าอย่างแรง “ร้อน... นิดหน่อย...”ฟู่!ฉู่เฉินเกือบจะสำลักเลือดออกมา เอามือปิดไว้ครึ่งชั่วโมง แม้แต่ภูเขาน้ำแข็งก็ร้อนขึ้นมาปัญหาคือที่เขาถามไม่ใช่อันนี้“งั้น... นอกจากความรู้สึกนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินถามขึ้นมาด้วยความจำใจ“ไม่มีแล้วค่ะ ความรู้สึกก่อนหน้านี้ที่เหมือนมีอะไรเข้ามาก็ไม่มีแล้วค่ะ อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนเด็กลงไปเยอะด้วยค
การรักษาโรค…สบายขนาดนี้เชียวเหรอ?ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังเป็นระยะเข้ามาจากนอกประตูแม้อีกฝ่ายจงใจปิดซ่อนร่องรอย แต่อินซู่ซู่ก็ยังจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติแม้จะน้อยนิดก็ตาม“ใคร!”อินซู่ซู่หันไปมองป่าที่อยู่นอกลานบ้านเสียงสวบสาบนั่น เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะก่อนหน้านี้ เธอก็เป็นนักฆ่ามืออาชีพคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่เคยสังหารเป้าหมายในยามกลางวันเห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายใจกล้ากว่าเธอมาก และใช้วิธีการที่ดั้งเดิมกว่าด้วย!เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของเธอ เสียงฝีเท้าด้านนอกหยุดชะงักไปทันที ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงเสียงที่เกิดจากลมพัดเท่านั้น!“เหอะ ต่างก็เป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นมือสมัครเล่นแบบนี้หรอก!”อินซู่ซู่ตะโกนเสียงต่ำ ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงสวนออกไป เธอมองเห็นสีแดงเลือดรางๆ ในป่าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากอินซู่ซู่เพ่งมองอย่างละเอียด ก่อนจะค้นพบว่า นั่นเป็นเงาแผ่นหลังที่เคลื่อนไหวห่างออกไปแล้วดูจากท่าทางของอีกฝ่าย น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งทีเดียว“คิดจะหนีเหรอ?”สิ้นเสียง อินซู่ซู่สาวเท้าวิ่งตามไปด้วยความเร็วเหมือนโบยบินแต่ในตอนที่เธอใกล้จะไล
ในห้อง ฉู่เฉินที่กำลังรบอย่างเมามันเพิ่งจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม กลับต้องชะงักนิ่งไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง!ทำไมถึงได้มีไอสังหารแผ่ปกคลุมแถวๆ นี้ได้ล่ะ?เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวกระโดดลงจากเตียง“มีอะไรเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยปาดเหงื่อบนหน้าผากกลมมน ก่อนมองฉู่เฉินอย่างแปลกใจ“เปล่า คุณอยู่ในห้องก่อนนะ อย่าออกไปเด็ดขาด”กำชับเสร็จ ฉู่เฉินก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่ จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะและเดินไปที่ลานสวน เขาปล่อยดวงจิตออกไป แล้วภาพที่อินซู่ซู่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ผุดขึ้นมาในหัวทันทีหญิงสาวชุดแดงลงมือว่องไวดังสายฟ้า มีดผีเสื้อที่มีความยาวเพียงสามนิ้วตวัดออกไปพร้อมกับประกายแสงอันเย็นเยียบ พุ่งไปทางลำคอของอินซู่ซู่!“กรี๊ด…”อินซู่ซู่เบิกตากว้าง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขัดขืนแต่ในเสี้ยววินาทีที่หญิงชุดแดงใช้มีดพุ่งแทงออกมา ร่างกายของอินซู่ซู่หนักอึ้งไปทั้งตัว แม้แต่แขนก็ยังยกไม่ขึ้นหญิงชุดแดงยังคงมีรอยยิ้มที่งดงามล่มเมืองประดับอยู่บนใบหน้า ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นแค่ความบันเทิงอย่างหนึ่งเท่านั้น“สวบ!”เสียงปลายมีดอันแหลมคมแหวกอากาศดังมา อินซู่ซู่หลับตาทั้งสองข้างอย่างสิ้นหวัง หากโดนใบม
รอยช้ำบนหน้าผากของอินซู่ซู่ ก็คงจะเกิดจากกระบวนท่านี้ของเธอเหมือนกันสินะ“จะทดลองใช้งานไม่ใช่เหรอ? หลบทำไมล่ะ”หญิงชุดแดงยิ้มหวาน ทว่าไอสังหารในดวงตากลับยิ่งเข้มขึ้น ฉู่เฉินยังไม่ทันตอบโต้ เธอก็พุ่งสังหารเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฉู่เฉินหรี่ตา ยกนิ้วมือขึ้นมาแตะกลางอากาศ บึ้ม!เพียงนิ้วเดียวก็ทำให้หญิงชุดแดงถอยหลังไปไกลหลายก้าว ขณะที่หญิงชุดแดงฝีเท้าซวนเซ กระดุมตรงรอยแหวกบนกระโปรงกี่เพ้าก็กระเด้งหลุดออกไปถึงสองเม็ดชั่ววินาทีนั้น เรียวขายาวงามสองข้าง และเอวคอดบางปรากฏสู่สายตาในทันใดสายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้หญิงชุดแดงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยอยู่ รอยยิ้มหวานหยดย้อยพลันหุบลง สีหน้าขึ้งเคียดและอับอายเข้ามาแทนที่แต่การที่เขาสามารถทำให้เธอถอยหลังได้เพียงใช้นิ้วเดียว นั่นแสดงว่าข้อมูลที่สมาคมจันทราโลหิตให้เธอมามีความผิดพลาดฉู่เฉินไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์แต่อย่างใด แต่เป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าขั้นมหาปรมาจารย์ยุทธ์ซะอีกดูท่าเธอคงประมาทเกินไป ไม่น่ารีบลงมือโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเลยในเมื่อแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไม่อย่างนั้น ถ้าถูกฉู่เฉินโจมตีบาดเ
“เหอะ!”หญิงชุดแดงตวัดมองมีดผีเสื้อด้วยแววตาไม่ยี่หระ ก่อนจะหันหน้าเรียวงามไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้นก็แค่ตาย อย่าคิดว่าฉู่เฉินจะได้ข้อมูลอะไรจากปากเธอไปแม้แต่นิดเดียวในฐานะนักฆ่าระดับเอสเอส เธอยังพอมีจิตสำนึกในอาชีพอยู่บ้างหนำซ้ำ นับตั้งแต่วันที่เธอเริ่มเดินเส้นทางนี้ เธอก็เคยคิดไว้แล้วว่าตัวเองอาจต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเองเพียงแต่การที่ต้องตายด้วยน้ำมือของฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่เธอเจ็บใจจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลผิดพลาด บวกกับเธอประมาทศัตรูเกินไป ฉู่เฉินคงตายไปแล้ว!“ฉันขอเตือนเธอให้สารภาพมาซะดีกว่า ไม่งั้นเธอจะได้ตายด้วยวิธีการที่หอมหวานเชียวล่ะ ฉันคิดว่าเธอเข้าใจดีว่าฉันหมายถึงอะไร”พูดจบ ฉู่เฉินก็เลื่อนมีดผีเสื้อที่จ่อลำคอยาวระหงลงไปด้านล่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่บนภูเขาสองลูกตรงหน้าอกของเธอ“แคว่ก!”ปลายมีดแหลมคมกรีดกี่เพ้าของหญิงชุดแดง เผยให้เห็นขอบชุดชั้นในลูกไม้สีแดงที่อยู่ด้านใน“แกจะทำอะไร!”หญิงชุดแดงเริ่มลนลานอย่างเห็นได้ชัดแต่จนใจที่ฉู่เฉินสกัดจุดลมปราณของเธอไว้ ตอนนี้แม้จะอยากฆ่าตัวตาย แต่แค่จะยกแขน
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉู่เฉินไม่เพียงแต่ช่วยท่านเฉียวเท่านั้น แต่ยังช่วยท่านหลง และให้ข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งแก่แก๊งมังกรฉู่เฉินในตอนนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่านหลงและถานเฟยไปแล้ว เฉียวเทียนฉี่จะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆเสียที่ไหน?แตะต้องฉู่เฉิน ไม่ใช่แค่ท่านหลงฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด่านนายท่านใหญ่เฉียวที่เขาผ่านไปไม่ได้“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่รู้สึกว่านิสัยของคนตระกูลหลูมีปัญหาก็เท่านั้น ผมได้ยินมาว่าผู้ว่าการเฉียวสนิทกับตระกูลหลูมาก แต่อย่าติดร่างแหไปกับตระกูลหลูเด็ดขาดนะครับ”คำพูดของฉู่เฉินดังขึ้น เฉียวเทียนฉี่จากทางปลายสายก็ตกสู่ห้วงแห่งความคิดในทันทีคำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนกำลังพูดถึงนิสัยของตระกูลหลู แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังเตือนเฉียวเทียนฉี่ว่าตระกูลหลูกำลังโชคร้ายครั้งใหญ่แล้วถึงยังไงฉู่เฉินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีสายใยแน่นแฟ้นกับสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรหรือจะบอกว่า แก๊งมังกรเตรียมจะจัดการตระกูลหลูแล้ว?เฉียวเทียนฉี่คิดถึงความเป็นไปได้ในจุดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ตรัสรู้เจตนาของฉู่เฉินจึงรีบกล่า
ได้! นี่คุณพูดเองนะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณยังคงหยิ่งยโสได้เหมือนตอนนี้!”ฉู่เฉินพูดพร้อมกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาหยางเทียนหลงทันทีไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงนอบน้อมของหยางเทียนหลงดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ผมหยางเทียนหลง ไม่ทราบคุณต้องการให้รับใช้อะไรครับ?”หยางเทียนหลงขณะนี้เชื่องเหมือนแมวตัวหนึ่งโดยสิ้นเชิงเรื่องที่ลูกชายของเขาตาย หยางเทียนหลงจะไปกล้าคิดเล็กคิดน้อยได้ที่ไหนอีก?เมืองหลงเฉิงล้วนสยบอยู่ใต้เท้าของฉู่เฉินทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าได้สาบานและจงรักภักดีต่อฉู่เฉิน แค่มีใจคิดคดทรยศเพียงเล็กน้อย คนของตระกูลหยางจะต้องถูกจำกัดสลายกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา“รีบยุติการค้าความร่วมมือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลูเดี๋ยวนี้”ฉู่เฉินกล่าวราบเรียบหลูไคหมิงฟังแล้วก็คิ้วกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุฉู่เฉินมีอิทธิพลถึงขั้นนั้นเชียวหรือขนาดหยางเทียนหลงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองเจียงจงยังเคารพนอบน้อมต่อฉู่เฉิน ทั้งยังฟังคำสั่งอีกด้วย?ในช่วงที่หลูไคหมิงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหยางเทียนหลงจากปลายสายตอบกลับมาว่า “ครับ! ภายในห้านาที ตระกูลหยางจะตัดขาดความร่วมมือทางการค้าทั้งหมดก
“กล้าพูดอีกคำเดียว ตาย!”สายตาฉู่เฉินโหดเหี้ยม จ้องเขม็งอู่เย่าปังพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ผมพูดไปแล้ว วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา พวกคุณสองพ่อลูกไม่ให้ตอบตามที่ผมพอใจละก็ ใครก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่ได้เลย”อู่เย่าปังสับสนมึนงงสุดๆทำไมฉู่เฉินมันกล้าขนาดนี้ ตบหน้าเขาต่อหน้าคุณหลูก็ช่างมันเถอะ ยังกล้าข่มขู่เขาได้ขนาดนี้อีก?ทำเหมือนคุณหลูเป็นอากาศธาตุไปแล้วจริงเหรอ?ขณะนี้สีหน้าหลูไคหมิงขรึมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “คุณฉู่ ผมเห็นแก่ที่คุณเคยช่วยพูดกับผู้ว่าการเฉียวให้ตระกูลหลูถึงไม่เอาความกับคุณ”“แต่มาทำร้ายสุนัขของผมต่อหน้าผมคุณเห็นตระกูลหลูสามารถรังแกได้ง่ายๆ อย่างนั้นจริงๆเหรอะ?!”ได้ยินคำพูดนี้แล้วฉู่เฉินก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ กวาดตามองหลูไคหมิงแวบหนึ่ง “รังแกตระกูลหลูคุณ? เป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ คุณคิดว่าคุณคู่ควรให้ผมลงมือรังแกคุณเองเหรอะ?”“ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งก็คือรังแก?”ฉู่เฉินพูดถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “หลูไคหมิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย คิดให้ดี เรื่องในวันนี้จะจัดการยังไงกันแน่”ได้ยินคำนี้แล้วแม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เริ่มสับสนขึ้นมา นี่ฉู่เฉินกำลังพู
หลูไคหมิงกุมท่อเหล็กมุ่งตรงไปยังหลิ่วชิงเหอ เจียงถิงเริ่มลนลานรีบไปข้างหน้าของหลิ่วชิงเหอกันทางไว้และกล่าวกับหลูไคหมิง “ไคหมิง นายทำอะไร? รีบวางมันลงซะ!”“ทำอะไร? ฉู่เฉินมันคิดจะซ่อนตัวไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะรอดูว่ามันจะซ่อนไปถึงเมื่อไหร่!”สิ้นเสียงหลูไคหมิงก็ผลักเจียงถิงออกไป ยกท่อเหล็กขึ้นกะจะฟาดไปที่ศีรษะของหลิ่วชิงเหอ!“ว๊าย!”หลิ่วชิงเหอตกใจกรีดร้องออกมาปิดตาโดยไม่รู้ตัวทันทีช่วงขณะที่ท่อเหล็กของหลูไคหมิงใกล้จะฟาดถึง เสียงปังดังลั่นขึ้นมา ทำเอาท่อเหล็กในมือหลูไคหมิงค้างกลางอากาศ“แกกล้าแตะต้องเธอก็ลองดู!”จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นหลูไคหมิงหันหน้าไปมองทางประตูก็เห็นฉู่เฉินกำลังพังประตูเข้ามาและพุ่งมาหาเขาทางนี้“เหอะๆ คุณฉู่!”เมื่อเห็นฉู่เฉินแล้วหลูไคหมิงฉีกยิ้มขึ้นมาจากนั้นโยนท่อเหล็กในมือไปอีกทางทันทีพ่อลูกอู่เย่าปังตกใจตื่นจนไปหลบข้างหลังหลูไคหมิง และจ้องมองฉู่เฉินด้วยสายตาขลาดกลัว“คุณหลู ระวังไอ้หนุ่มนี่ลงมือกะทันหันนะครับ”อู่เย่าปังที่หลบอยู่ด้านหลังของหลูไคหมิงกระซิบกล่าวเตือนหลูไคหมิงกลอกตาใส่อู่เย่าปังอย่างดุ จากนั้นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มประดับหน้า ย
แต่หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะพูดเสร็จ ฉู่เฉินก็ออกแรงหันหน้าเล็กของเธอไปอีกทางและเอามือปิดปากเล็กๆ เธอไว้เสียงเคาะและตะโกนจากนอกประตูเร็วขึ้น ฉู่เฉินก็ยิ่งร้องขออย่างเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆหลิ่วหรูเยียนหัวใจตกมาอยู่ตาตุ่ม เธอกลัวว่าประตูจะถูกผลักเปิดออก และก็กลัวว่าหลิ่วชิงเหอจะเกิดเรื่องอะไรไม่คาดฝันขึ้นนั่นคือตระกูลหลูเชียวนะตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแทบจะมีอำนาจมีอิทธิพลล้นฟ้าราวกับพลิกฝ่ามือทำไมจนถึงตอนนี้ฉู่เฉินยังมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้อยู่?แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ฉู่เฉินก็กดเธอแนบหน้าต่างบานกระจกของตึกไว้อย่างแน่นหนาเอี๊ยดอ๊าด!เมื่อได้ยินเสียงแหลมดังขึ้น ต้าหลิงจื่อที่อยู่นอกประตูก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และค่อยๆ ผลักประตูเปิดออกเป็นช่องว่างเล็กๆ อย่างเบามือยังไม่ทันที่เธอชะโงกหน้าไปมองก็ได้กลิ่นฟีโรโมนผสมผสานกันกระแทกหน้า“อ๊า!”ต้าหลิงจื่อตกใจจนรีบปิดประตูแน่น กลับไปหลบซ่อนในทางเดิน“ทำยังไงดี ทำยังไงดีนะ”ต้าหลิงจื่อก็เคยผ่านประสบการณ์มามาก รู้ดีเลยว่าฉู่เฉินในเวลานี้ต่อให้ฟ้าพังทลายก็ไม่สามารถไปขัดจังหวะเขาได้แต่ค
หลิ่วชิงเหอถอนหายใจลึกๆ ที่จริงสีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผยคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว“แต่… หนู…”หลิ่วหรูเยียนชะงัก เธออยากจะพูดว่าเธอยังมีราชันมังกร บางทีราชันมังกรอาจจะสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอสองแม่ลูกได้แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจพูดออกไปได้เป็นไปตามที่หลิ่วชิงเหอเคยพูดไว้ ฉู่เฉินเป็นคนที่ออกโรงในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ราชันมังกรก็เหมือนอย่างตอนนี้ ราชันมังกรดูเหมือนจะอยู่แค่ในจินตนาการของเธอเท่านั้นและในความเป็นจริงอู่จวิ้นเจี๋ยพาลูกน้องสิบกว่าคนเข้ามาใช้กำลังพาตัวเธอจากชั้นบนไปยังห้องประชุมซึ่งดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสักคนยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคืออู่จวิ้นเจี๋ยกระทำเรื่องเสื่อมเสียกับเธอต่อหน้าผู้ติดตามสิบกว่าคนนั้นการปรากฏตัวของฉู่เฉินทำให้เธอเลี่ยงภัยอันตรายนี้ไปได้ในตอนที่เธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน “อันที่จริงฉู่เฉินมีอะไรไม่ดีเหรอ? ติดตามเขา ไม่มีใครกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูก ติดตามเขา บริษัทเราสามารถเป็นบริษัทร่วมลงทุนยาบำรุงปราณได้ทันที” “อีกทั้งฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่น หล่อเหลา กำลังวังชาก็ไม่เลว…”หลิ่วชิงเหอกล่าวถึงตรงนี้แล้วก็เ
ต่อให้อู่เย่าปังมีกำลังทรัพย์เกินใคร แต่การสูญเสียปรมาจารย์คนหนึ่งไปก็เจ็บปวดเหลือทนสำหรับตระกูลอู่!“ไป?”ฉู่เฉินหัวเราะมองอู่เย่าปังเหมือนกำลังมองคนบ้าและกล่าว “ไม่ใช่แค่ผมจะไม่ไป วันนี้พวกคุณพ่อลูกอย่าคิดรอดออกไปจากตึกนี้ถ้าไม่ทำให้ผมพอใจ”“อธิบดีเจียง!”กลัวอะไรจะได้สิ่งนั้นจริงๆเจียงเหวินป๋อกัดฟันยิ้มที่แย่กว่าร้องไห้พร้อมกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ คุณเรียกผม?”“รบกวนอธิบดีเจียงช่วยหน่อยนะ จับตาดูสองพ่อลูก จำไว้ อย่าให้พวกมันหนีไปล่ะไม่งั้นผมจะให้คุณรับผิดชอบ”หา?เจียงเหวินป๋อแทบร้องไห้ในใจแล้ว เรื่องในนี้เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?“ผม… ผม…”เมื่อเห็นสีหน้าฉู่เฉินเริ่มเย็นชา เจียงเหวินป๋อทำได้แค่หยุดพูดแล้วกลืนน้ำลายพยักหน้ากล่าวอย่างจนปัญญา “ก็ตามคุณฉู่เลยครับ”ฉู่เฉินจึงพยักหน้าอย่างพอใจและกล่าว “อู่เย่าปัง คุณฟังให้ดี ไม่ว่าใครมา ถ้าผมยังไม่กลับมาแล้วคุณกล้าออกจากประตูไปแค่ก้าวเดียว ผมจะกวาดล้างตระกูลอู่ของคุณ!”อู่เย่าปังตกใจจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉู่เฉินเอาความมั่นใจมาจากไหน?ใครคือคนหนุนหลังฉู่เฉินกันแน่?ขณะนี้อู่เย่าปังกระวนกระวายใจใจเต้นตึกตันราวกับเสียงกลอง