ผ่านไปไม่นาน กู้รั่วเสวี่ยและหลินชือหย่าทั้งสองก็มาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่วันนี้หลินชือหย่าสวมชุดเดรสสีขาว ที่เอวของเธอตั้งใจสวมเข็มขัดสีดำที่กว้างเท่าฝ่ามือ ขาสวยขาวเนียนสวมรองเท้าแตะคริสตัล ดูสดชื่นและน่ารื่นรมย์กู้รั่วเสวี่ยสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ท่อนล่างสวมใส่กระโปรงเอวสูงรัดแน่น ตามมาด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงที่ได้ยินอย่างชัดเจน ทำเอาบั้นท้ายที่อวบอั๋นนั้นสวยงามน่าหลงใหลมากกว่าเดิมระหว่างที่รอทั้งสองสาวเดินเข้าไปในห้อง กู้รั่วเสวี่ยก็มองไปที่อินซู่ซู่ด้วยความสงสัย“เธอเป็นสาวใช้ของผมครับ”ฉู่เฉินไม่รอให้กู้รั่วเสวี่ยถาม ก็รีบชิงแนะนำขึ้นมาเสียก่อนอินซู่ซู่ก็ยิ้มให้กับกู้รั่วเสวี่ยและหลินชือหย่า จากนั้นเธอก็ชงชาหอมให้ทุกคนแล้วออกจากห้องไปกู้รั่วเสวี่ยแม้ว่าภายในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปในเมื่อก่อนฉู่เฉินก็เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลฉู่ เป็นธรรมดาของคนทั่วไปที่จะมีสาวใช้ข้างกาย เธอคงไม่คาดหวังให้คุณชายใหญ่ฉู่ซักผ้า ทำกับข้าวเองหรอกใช่ไหม?เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ต้องมีคนดูแลถึงจะถูกเมื่อคิดถึงตรงนี้ กู้รั่วเสวี่ยสายตาเปลี่ยนไปมองหลินชือหย่าพร้อมพูดว่า “เสี
“อ๊ะ!”ในตอนนั้นเอง หลินชือหย่าก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเธอ เธอเจ็บจนล้มนั่งลงไป ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมออกมาตามผิวหนังของหลินชือหย่าอีกทั้งทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เยือกเย็นเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฉู่เฉินก็หลับตาลง หลังจากนั้นเขาชี้นิ้วของเขาเหมือนกระบี่ พลังวิญญาณก็เข้าสู่ร่างกายของหลินชือหย่าทันที หลังจากที่พลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายแล้ว สถานการณ์ของหลินชือหย่าก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดก็ค่อยๆ บรรเทาลงไปฉู่เฉินถึงโบกมือให้หลินชือหย่า “คุณหลิน ใส่เสื้อผ้าเถอะครับ”หลินชือหย่าลังเลไปครู่หนึ่ง เธอที่สวมแค่ชุดเดรสเพียงชิ้นเดียว ข้างในโล่งไปหมด สีหน้ากระวนกระวายนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง ดวงตางดงามมองไปที่ฉู่เฉิน ถามขึ้นมาว่า “คุณฉู่คะ ฉันจัดอยู่ในสถานการณ์ไหนเหรอคะ?” ฉู่เฉินจิบชาเข้าไปหนึ่งอึก ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณหลินไปมีเรื่องกับใครมาไหมครับ? ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงใช้หนอนกู่ที่ร้ายแรงแบบนี้มาทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้”หนอนกู่งั้นเหรอ?!หลินชือหย่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ขนลุก
“ใช่แล้วล่ะ!”ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดว่า “อีกอย่างที่เมื่อกี้คุณบอกว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่ของคุณไม่ชอบมาพากลใช่ไหมครับ? ผมจะบอกให้เลยนะครับว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่คุณ จะต้องเกี่ยวข้องกับหนอนกู่อย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหลินชือหย่าก็เปลี่ยนเล็กน้อย ในดวงตาของเธอมีความเคียดแค้นปรากฏขึ้นมา “จะบอกว่าอาสองของฉันเป็นผู้วางแผนตั้งแต่แรกงั้นเหรอคะ?”ตอนนั้นเธอคิดว่าการเสียชีวิตกะทันหันพ่อแม่ของเธอมันน่าสงสัยแต่ว่าถึงจะเป็นการชันสูตรศพก็ตรวจไม่พบข้อสงสัยใดๆ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ปล่อยผ่านไปแต่ดูจากวันนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนที่หลินฟางเจิ้งวางแผนไว้ตั้งแต่แรกฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “หนอนกู่ชนิดนี้ที่จริงแล้วเป็นหนอนกู่ตัวแม่ชนิดหนึ่ง ตราบใดที่มีมันอยู่ มันจะไม่มีทางมีอยู่ตัวเดียวเป็นแน่ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ญาติคนอื่นในตระกูลของคุณก็มีปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาการอาจจะแค่ยังไม่แสดงออกมา”ตามบันทึกของวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ หนอนกู่กลืนวิญญาณมาจากการรวมตัวกันของหนอนกู่ตัวแม่และตัวลูกหนอนกู่ตัวแม่จะมีแค่ตัวเดียว แต่กลับสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นผ่านอาหารและน้ำ
“ฉันสามารถนำออกมาได้ยี่สิบถึงสี่สิบล้านค่ะ”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องเงินไม่เป็นไรครับ เพียงแต่ว่าผมจำเป็นต้องบอกคุณก่อน ตั้งแต่วันที่เริ่มรักษาวันแรก คุณไม่สามารถแตะต้องผู้ชายเด็ดขาด ผมว่าคุณคงเข้าใจที่ผมจะสื่อนะครับ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าเล็กของหลินชือหย่าก็แดงระเรื่อ “คุณ... คุณฉู่คะ พูดตามตรงจนถึงตอนนี้ฉัน... ฉันยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยค่ะ เงื่อนไขไม่ได้ยากเลยค่ะ”หืม?ฉู่เฉินมองไปที่หลินชือหย่าด้วยความประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ออนเซ็นวันนั้นผู้หญิงคนนี้ดูช่ำชองมากๆ เลยนะถ้าฉู่เฉินไม่หยุดเธอจากการไปถึงจุดนั้น แม้แต่หลิ่วชิงเหอที่เคยผ่านสิ่งนี้มาก่อนก็อาจไม่เก่งเท่าเธอนี่มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด!“แล้วนอกจากนี้ล่ะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยถามขึ้นมาอย่างกังวล“ต้องมาทำการรักษาทุกๆ ครึ่งเดือน ประมาณสองเดือนหนอนกู่ในตัวคุณจึงจะถูกจำกัดออกไปจนหมด”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมหลินชือหย่าถึงโล่งใจขึ้นมา อย่างน้อยก่อนที่เธอจะล้างแค้นให้พ่อแม่ของเธอ เธอจะตายไม่ได้เด็ดขาดจะไม่มีทางให้หลินฟางเจิ้งสมหวังเป็นอันขาด!“ได้ค่ะคุณฉู่ ต้องรักษาอย่างไรฉันจะทำตามคุณทั้งอย่างเลยค่ะ
อินซู่ซู่ใช้ความกล้าทั้งหมดมองไปที่ฝ่ามือของฉู่เฉิน เห็นได้ชัดว่ามีแมลงพิษที่ยังไม่ตายยังคงดิ้นอยู่ในมือของฉู่เฉิน“นายท่าน... มือของคุณ...”ฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ เมื่อพลังวิญญาณนั้นค่อยๆ ออกมาจากฝ่ามือของเขา แมลงพิษเหล่านั้นก็เหมือนพบกับศัตรู พวกมันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งหลังจากนั้นก็สลายกลายเป็นเลือด!“ช่วยเธอจัดการหน่อย”ฉู่เฉินพูดกับอินซู่ซู่ และชี้ไปที่เลือดบนหน้าอกของหลินชือหย่า “ได้ค่ะ”อินซู่ซู่ตอบกลับไป หลังจากนั้นเธอก็รีบนำผ้าเช็ดตัวร้อนมา ช่วยหลินชือหย่าเช็กเลือดบนร่างกาย หลินชือหย่าถึงจะสวมเสื้อผา กลับไปนั่งบนเก้าอี้ฉู่เฉินล้างมือที่เปื้อนเลือดแล้ว จึงพูดกับหลินชือหย่าว่า “ตอนนี้ตรงหน้าอกยังมีอาการอะไรอยู่ไหมครับ?”“อืม”หลินชือหย่าพยักหน้าอย่างแรง “ร้อน... นิดหน่อย...”ฟู่!ฉู่เฉินเกือบจะสำลักเลือดออกมา เอามือปิดไว้ครึ่งชั่วโมง แม้แต่ภูเขาน้ำแข็งก็ร้อนขึ้นมาปัญหาคือที่เขาถามไม่ใช่อันนี้“งั้น... นอกจากความรู้สึกนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินถามขึ้นมาด้วยความจำใจ“ไม่มีแล้วค่ะ ความรู้สึกก่อนหน้านี้ที่เหมือนมีอะไรเข้ามาก็ไม่มีแล้วค่ะ อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนเด็กลงไปเยอะด้วยค
การรักษาโรค…สบายขนาดนี้เชียวเหรอ?ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังเป็นระยะเข้ามาจากนอกประตูแม้อีกฝ่ายจงใจปิดซ่อนร่องรอย แต่อินซู่ซู่ก็ยังจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติแม้จะน้อยนิดก็ตาม“ใคร!”อินซู่ซู่หันไปมองป่าที่อยู่นอกลานบ้านเสียงสวบสาบนั่น เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะก่อนหน้านี้ เธอก็เป็นนักฆ่ามืออาชีพคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่เคยสังหารเป้าหมายในยามกลางวันเห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายใจกล้ากว่าเธอมาก และใช้วิธีการที่ดั้งเดิมกว่าด้วย!เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของเธอ เสียงฝีเท้าด้านนอกหยุดชะงักไปทันที ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงเสียงที่เกิดจากลมพัดเท่านั้น!“เหอะ ต่างก็เป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นมือสมัครเล่นแบบนี้หรอก!”อินซู่ซู่ตะโกนเสียงต่ำ ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงสวนออกไป เธอมองเห็นสีแดงเลือดรางๆ ในป่าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากอินซู่ซู่เพ่งมองอย่างละเอียด ก่อนจะค้นพบว่า นั่นเป็นเงาแผ่นหลังที่เคลื่อนไหวห่างออกไปแล้วดูจากท่าทางของอีกฝ่าย น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งทีเดียว“คิดจะหนีเหรอ?”สิ้นเสียง อินซู่ซู่สาวเท้าวิ่งตามไปด้วยความเร็วเหมือนโบยบินแต่ในตอนที่เธอใกล้จะไล
ในห้อง ฉู่เฉินที่กำลังรบอย่างเมามันเพิ่งจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม กลับต้องชะงักนิ่งไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง!ทำไมถึงได้มีไอสังหารแผ่ปกคลุมแถวๆ นี้ได้ล่ะ?เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวกระโดดลงจากเตียง“มีอะไรเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยปาดเหงื่อบนหน้าผากกลมมน ก่อนมองฉู่เฉินอย่างแปลกใจ“เปล่า คุณอยู่ในห้องก่อนนะ อย่าออกไปเด็ดขาด”กำชับเสร็จ ฉู่เฉินก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่ จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะและเดินไปที่ลานสวน เขาปล่อยดวงจิตออกไป แล้วภาพที่อินซู่ซู่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ผุดขึ้นมาในหัวทันทีหญิงสาวชุดแดงลงมือว่องไวดังสายฟ้า มีดผีเสื้อที่มีความยาวเพียงสามนิ้วตวัดออกไปพร้อมกับประกายแสงอันเย็นเยียบ พุ่งไปทางลำคอของอินซู่ซู่!“กรี๊ด…”อินซู่ซู่เบิกตากว้าง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขัดขืนแต่ในเสี้ยววินาทีที่หญิงชุดแดงใช้มีดพุ่งแทงออกมา ร่างกายของอินซู่ซู่หนักอึ้งไปทั้งตัว แม้แต่แขนก็ยังยกไม่ขึ้นหญิงชุดแดงยังคงมีรอยยิ้มที่งดงามล่มเมืองประดับอยู่บนใบหน้า ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นแค่ความบันเทิงอย่างหนึ่งเท่านั้น“สวบ!”เสียงปลายมีดอันแหลมคมแหวกอากาศดังมา อินซู่ซู่หลับตาทั้งสองข้างอย่างสิ้นหวัง หากโดนใบม
รอยช้ำบนหน้าผากของอินซู่ซู่ ก็คงจะเกิดจากกระบวนท่านี้ของเธอเหมือนกันสินะ“จะทดลองใช้งานไม่ใช่เหรอ? หลบทำไมล่ะ”หญิงชุดแดงยิ้มหวาน ทว่าไอสังหารในดวงตากลับยิ่งเข้มขึ้น ฉู่เฉินยังไม่ทันตอบโต้ เธอก็พุ่งสังหารเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฉู่เฉินหรี่ตา ยกนิ้วมือขึ้นมาแตะกลางอากาศ บึ้ม!เพียงนิ้วเดียวก็ทำให้หญิงชุดแดงถอยหลังไปไกลหลายก้าว ขณะที่หญิงชุดแดงฝีเท้าซวนเซ กระดุมตรงรอยแหวกบนกระโปรงกี่เพ้าก็กระเด้งหลุดออกไปถึงสองเม็ดชั่ววินาทีนั้น เรียวขายาวงามสองข้าง และเอวคอดบางปรากฏสู่สายตาในทันใดสายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้หญิงชุดแดงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยอยู่ รอยยิ้มหวานหยดย้อยพลันหุบลง สีหน้าขึ้งเคียดและอับอายเข้ามาแทนที่แต่การที่เขาสามารถทำให้เธอถอยหลังได้เพียงใช้นิ้วเดียว นั่นแสดงว่าข้อมูลที่สมาคมจันทราโลหิตให้เธอมามีความผิดพลาดฉู่เฉินไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์แต่อย่างใด แต่เป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าขั้นมหาปรมาจารย์ยุทธ์ซะอีกดูท่าเธอคงประมาทเกินไป ไม่น่ารีบลงมือโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเลยในเมื่อแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไม่อย่างนั้น ถ้าถูกฉู่เฉินโจมตีบาดเ
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี