การรักษาโรค…สบายขนาดนี้เชียวเหรอ?ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังเป็นระยะเข้ามาจากนอกประตูแม้อีกฝ่ายจงใจปิดซ่อนร่องรอย แต่อินซู่ซู่ก็ยังจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติแม้จะน้อยนิดก็ตาม“ใคร!”อินซู่ซู่หันไปมองป่าที่อยู่นอกลานบ้านเสียงสวบสาบนั่น เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะก่อนหน้านี้ เธอก็เป็นนักฆ่ามืออาชีพคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่เคยสังหารเป้าหมายในยามกลางวันเห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายใจกล้ากว่าเธอมาก และใช้วิธีการที่ดั้งเดิมกว่าด้วย!เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของเธอ เสียงฝีเท้าด้านนอกหยุดชะงักไปทันที ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงเสียงที่เกิดจากลมพัดเท่านั้น!“เหอะ ต่างก็เป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นมือสมัครเล่นแบบนี้หรอก!”อินซู่ซู่ตะโกนเสียงต่ำ ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงสวนออกไป เธอมองเห็นสีแดงเลือดรางๆ ในป่าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากอินซู่ซู่เพ่งมองอย่างละเอียด ก่อนจะค้นพบว่า นั่นเป็นเงาแผ่นหลังที่เคลื่อนไหวห่างออกไปแล้วดูจากท่าทางของอีกฝ่าย น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งทีเดียว“คิดจะหนีเหรอ?”สิ้นเสียง อินซู่ซู่สาวเท้าวิ่งตามไปด้วยความเร็วเหมือนโบยบินแต่ในตอนที่เธอใกล้จะไล
ในห้อง ฉู่เฉินที่กำลังรบอย่างเมามันเพิ่งจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม กลับต้องชะงักนิ่งไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง!ทำไมถึงได้มีไอสังหารแผ่ปกคลุมแถวๆ นี้ได้ล่ะ?เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวกระโดดลงจากเตียง“มีอะไรเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยปาดเหงื่อบนหน้าผากกลมมน ก่อนมองฉู่เฉินอย่างแปลกใจ“เปล่า คุณอยู่ในห้องก่อนนะ อย่าออกไปเด็ดขาด”กำชับเสร็จ ฉู่เฉินก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่ จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะและเดินไปที่ลานสวน เขาปล่อยดวงจิตออกไป แล้วภาพที่อินซู่ซู่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ผุดขึ้นมาในหัวทันทีหญิงสาวชุดแดงลงมือว่องไวดังสายฟ้า มีดผีเสื้อที่มีความยาวเพียงสามนิ้วตวัดออกไปพร้อมกับประกายแสงอันเย็นเยียบ พุ่งไปทางลำคอของอินซู่ซู่!“กรี๊ด…”อินซู่ซู่เบิกตากว้าง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขัดขืนแต่ในเสี้ยววินาทีที่หญิงชุดแดงใช้มีดพุ่งแทงออกมา ร่างกายของอินซู่ซู่หนักอึ้งไปทั้งตัว แม้แต่แขนก็ยังยกไม่ขึ้นหญิงชุดแดงยังคงมีรอยยิ้มที่งดงามล่มเมืองประดับอยู่บนใบหน้า ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นแค่ความบันเทิงอย่างหนึ่งเท่านั้น“สวบ!”เสียงปลายมีดอันแหลมคมแหวกอากาศดังมา อินซู่ซู่หลับตาทั้งสองข้างอย่างสิ้นหวัง หากโดนใบม
รอยช้ำบนหน้าผากของอินซู่ซู่ ก็คงจะเกิดจากกระบวนท่านี้ของเธอเหมือนกันสินะ“จะทดลองใช้งานไม่ใช่เหรอ? หลบทำไมล่ะ”หญิงชุดแดงยิ้มหวาน ทว่าไอสังหารในดวงตากลับยิ่งเข้มขึ้น ฉู่เฉินยังไม่ทันตอบโต้ เธอก็พุ่งสังหารเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฉู่เฉินหรี่ตา ยกนิ้วมือขึ้นมาแตะกลางอากาศ บึ้ม!เพียงนิ้วเดียวก็ทำให้หญิงชุดแดงถอยหลังไปไกลหลายก้าว ขณะที่หญิงชุดแดงฝีเท้าซวนเซ กระดุมตรงรอยแหวกบนกระโปรงกี่เพ้าก็กระเด้งหลุดออกไปถึงสองเม็ดชั่ววินาทีนั้น เรียวขายาวงามสองข้าง และเอวคอดบางปรากฏสู่สายตาในทันใดสายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้หญิงชุดแดงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยอยู่ รอยยิ้มหวานหยดย้อยพลันหุบลง สีหน้าขึ้งเคียดและอับอายเข้ามาแทนที่แต่การที่เขาสามารถทำให้เธอถอยหลังได้เพียงใช้นิ้วเดียว นั่นแสดงว่าข้อมูลที่สมาคมจันทราโลหิตให้เธอมามีความผิดพลาดฉู่เฉินไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์แต่อย่างใด แต่เป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าขั้นมหาปรมาจารย์ยุทธ์ซะอีกดูท่าเธอคงประมาทเกินไป ไม่น่ารีบลงมือโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเลยในเมื่อแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไม่อย่างนั้น ถ้าถูกฉู่เฉินโจมตีบาดเ
“เหอะ!”หญิงชุดแดงตวัดมองมีดผีเสื้อด้วยแววตาไม่ยี่หระ ก่อนจะหันหน้าเรียวงามไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้นก็แค่ตาย อย่าคิดว่าฉู่เฉินจะได้ข้อมูลอะไรจากปากเธอไปแม้แต่นิดเดียวในฐานะนักฆ่าระดับเอสเอส เธอยังพอมีจิตสำนึกในอาชีพอยู่บ้างหนำซ้ำ นับตั้งแต่วันที่เธอเริ่มเดินเส้นทางนี้ เธอก็เคยคิดไว้แล้วว่าตัวเองอาจต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเองเพียงแต่การที่ต้องตายด้วยน้ำมือของฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่เธอเจ็บใจจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลผิดพลาด บวกกับเธอประมาทศัตรูเกินไป ฉู่เฉินคงตายไปแล้ว!“ฉันขอเตือนเธอให้สารภาพมาซะดีกว่า ไม่งั้นเธอจะได้ตายด้วยวิธีการที่หอมหวานเชียวล่ะ ฉันคิดว่าเธอเข้าใจดีว่าฉันหมายถึงอะไร”พูดจบ ฉู่เฉินก็เลื่อนมีดผีเสื้อที่จ่อลำคอยาวระหงลงไปด้านล่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่บนภูเขาสองลูกตรงหน้าอกของเธอ“แคว่ก!”ปลายมีดแหลมคมกรีดกี่เพ้าของหญิงชุดแดง เผยให้เห็นขอบชุดชั้นในลูกไม้สีแดงที่อยู่ด้านใน“แกจะทำอะไร!”หญิงชุดแดงเริ่มลนลานอย่างเห็นได้ชัดแต่จนใจที่ฉู่เฉินสกัดจุดลมปราณของเธอไว้ ตอนนี้แม้จะอยากฆ่าตัวตาย แต่แค่จะยกแขน
ในสมองของเธอมีเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ ‘เธอต้องการผู้ชาย!’เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของฉู่เฉิน หญิงชุดแดงที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืนไปนานแล้ว เธอสารภาพเรื่องของหลิ่วชิงเหอกับเรื่องสมาคมจันทราโลหิตออกมาทั้งหมดกระทั่งได้ยินคำบอกเล่าของหญิงชุดแดง ฉู่เฉินจึงค่อยดันตัวเธอลงด้านล่างอย่างพึงพอใจหลังจากการต่อสู้กันดุเดือดผ่านไป รอยแดงเรื่อบนแก้มของหญิงชุดแดงก็ค่อยๆ จางไป สติสัมปชัญญะก็ค่อยๆ กลับมาเช่นกัน“ฉู่เฉิน!”หญิงชุดแดงจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง พลางกัดฟันจ้องหน้าฉู่เฉินอย่างเคียดแค้นถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ตอนนี้ร่างกายของฉู่เฉินคงพรุนไปนานแล้ว“เมื่อกี้ไม่มีใครบังคับให้เธอทำอย่างนั้นซักหน่อย อีกอย่างเธอก็โดดเด่นกว่าคนอื่นมากนะ มีไม่กี่คนที่จะทำได้ดีขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรก”ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะหันตัวเดินไปทางบ้านใหญ่ตระกูลฉู่หญิงชุดแดงจ้องเงาหลังของฉู่เฉิน เธอกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ“คอยดูเถอะ ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”ได้ยินเสียงคำรามต่ำจากหญิงชุดแดงที่อยู่ข้างหลัง ฉู่เฉินเพียงยิ้มจางๆ “ฉันยินดีรับใช้เสมอ แต่ครั้งหน้าใส่ชุดเซ็กซี่กว่านี้หน่อยล่ะ กี่เพ้าสีนี้ไม่เ
“อะแฮ่ม!”ฉู่เฉินกระแอมเบาๆ “เธอยังเด็ก เรื่องหลายอย่างยังไม่ต้องถามมาก”“คนอื่นเขาไม่เด็กแล้วนะ”อินซู่ซู่เชิดหน้าอกขึ้นอย่างไม่ยอมรับ แต่วินาทีถัดมา เธอนึกถึงเรื่องที่หญิงชุดแดงว่าเธอว่าหน้าอกเล็ก จึงกระทืบเท้าอย่างเจ็บใจฉู่เฉินเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าสะอาด สาวเท้าออกจากประตู ก่อนไป เขาวางค่ายกลซ่อนเร้นไว้รอบๆ บ้านใหญ่ตระกูลเฉิน เผื่อตอนที่เขาไม่อยู่บ้าน กุหลาบเพลิงจะได้ไม่ย้อนกลับมาโจมตีอีกเมื่อเสียงสตาร์ตรถยนต์ดังกระหึ่ม ฉู่เฉินก็ขับรถเบนซ์จีคลาสคันนั้นของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว……เวลานี้ ณ สวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วหลิ่วชิงเหอใส่ชุดเดรสสีชมพูเข้ารูปเปิดหัวไหล่ เธอกำลังสาวเท้ายาวๆ เดินกลับไปกลับมาอยู่ในสวนดอกไม้ตั้งแต่ที่สมาคมจันทราโลหิตรับใบเสร็จสังหารฉู่เฉินไป เธอก็อดกระสับกระส่ายไม่ได้“เกิดอะไรขึ้น? นี่หรือฉันกำลังเป็นห่วงไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินนั่น? เป็นไปไม่ได้!”หลิ่วชิงเหอปฏิเสธความคิดนี้ทันทีเธอแทบอยากจะฆ่าฉู่เฉินด้วยมือตัวเอง จะเป็นห่วงเขาได้อย่างไร?ในขณะที่หลิ่วชิงเหอกำลังความคิดสับสนวุ่นวาย ป้าอู๋ก็วิ่งเข้ามาในสวนดอกไม้ ก่อนพูดด้วยสีหน้าย่ำแ
เพี๊ยะ!ฉู่เฉินไม่เปิดโอกาสให้หลิ่วชิงเหอโต้แย้ง เขาตวัดฝ่ามือใส่แก้มของเธอเสียงดังฟังชัด“ไอ้เดรัจฉาน แกกล้าตบฉันเหรอ ไม่แกก็ฉันต้องตายกันไปข้าง!”ผมยาวๆ ของหลิ่วชิงเหอสยายยุ่งอยู่บนหัวไหล่ของเธอ ก่อนจะพุ่งตัวใส่ฉู่เฉินฉู่เฉินตวัดสายตามองหลิ่วชิงเหอ ก่อนจะยิ้มเย็น คว้าข้อมือของหลิ่วชิงเหอ จากนั้นก็บังคับให้เธอหันหลัง“จะสู้ตายกับฉันเหรอ? มั่นใจว่ามีปัญญา?”ฉู่เฉินพูดจบก็จับร่างของหลิ่วชิงเหอตรึงกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าหลิ่วชิงเหอถูกหลิ่วชิงเหอตรึงร่างไว้แน่น ได้แต่กัดฟันและหันหน้าไปพูดกับฉู่เฉินที่อยู่ข้างหลังว่า “ไอ้เดรัจฉาน แกจะทำอะไร! ที่นี่บ้านฉันนะ!”“บ้านของเธอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ควรเป็นตระกูลฉู่ต่างหาก!”ขณะเอ่ย ฉู่เฉินกระชากชุดเดรสของหลิ่วชิงเหอเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดัง ก่อนที่แผ่นหลังเนียนขาวดุจหยกของหลิ่วชิงเหอจะปรากฏอยู่ต่อหน้าของฉู่เฉิน“ไอ้สารเลว แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”หลิ่วชิงเหอตะโกนกรีดร้องสุดกำลังแต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนสักแค่ไหน ร่างกายที่ถูกฉู่เฉินตรึงติดกับต้นไม้ก็ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อยฉู่เฉินเชยชมเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกลิ
ฉู่เฉินยิ้มเย็นขณะสาวเท้าเข้าไป กระชากผมของหลิ่วชิงเหอ จับร่างเธอขึงติดกับกระจกใสบานใหญ่“เธออยากให้ฉันตายมากไม่ใช่เหรอ? ฉันขอเตือนให้เธอดูเวลาตอนนี้ให้ดีๆ!”หลิ่วชิงเหอส่ายหน้า พลางออกแรงดันฉู่เฉินออกไป พร้อมกับด่าสาดเสียเทเสียไปด้วย “ไอ้ฉู่เฉิน! ไอ้เดรัจฉาน แกอย่าคิดจะแตะต้อง…”เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงพูดก็เงียบหายไปในทันที!พอเห็นเข็มนาฬิกาชี้ไปที่สามโมงตรง หลิ่วชิงเหอรีบอ้อนวอนทันที “ฉู่เฉิน ฉันขอร้องแกได้ไหม? อีกไม่นานหรูเยียนก็จะกลับมาแล้ว”“ให้ฉันได้รักษาศักดิ์ศรีความเป็นแม่คนไว้หน่อยเถอะ ได้ไหม?”ฉู่เฉินเพียงยิ้มอย่างเย็นชาเป็นคำตอบให้หลิ่วชิงเหอ“เต๊ง เต๊ง เต๊ง!”เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาสามครั้งดังขึ้นจากห้องรับแขก หัวใจของหลิ่วชิงเหอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม……ในอีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะจบการประชุมช่วงบ่ายของวันนี้ เธอบิดขี้เกียจพร้อมกับหาวกว้างๆ ชุดทำงานสีดำบนตัวถูกเบียดจนเป็นทรงนูนเว้าไปตามการเคลื่อนไหวของเธอหลังจากเก็บกวาดเล็กน้อย หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเลขาว่า “หาคนขับส่งฉันกลับบ้านด้วย ฉันเหนื่อยแล้ว”วันนี้เธอยุ่งอยู่ทั้งวัน รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวตอนนี้เ
“อีกอย่างก็คือฝีมือของคุณ ครั้งหน้าถ้าจะปลอมตัวเป็นมืออาชีพแบบนี้อีก ทางที่ดีควรเรียนรู้ให้มาก ๆ ก่อนนะ อย่าให้แข็งกระด้างเหมือนนวดศพ คนที่มีประสบการณ์นิดหน่อย เห็นแวบเดียวก็ดูคุณออกแล้ว”ฉู่เฉินทำหน้ายิ้มหยันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับเสี่ยวหนาน ความหวาดกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจบนใบหน้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่าครั่นคร้ามตามการวิเคราะห์ทีละขั้นของฉู่เฉิน!“เดิมทีอยากให้คุณไปอย่างไร้ความทรมานโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายมากที่คุณไม่รู้จักถนอมเอง” สิ้นเสียงพูด เสี่ยวหนานพลันชักมีดสั้นสองเล่มออกมาจากด้านหลัง ร่างกายอ้อนแอ้นฉับไวราวกับอสรพิษ แทงตรงไปที่ลำคอของฉู่เฉิน! “ฝึกฝนสิบปีถึงจะได้ร่วมเรือข้ามฟาก ร้อยปีถึงได้ร่วมนวดน้ำมัน คุณลงมืออำมหิตขนาดนี้ คนที่บ้านคุณรู้บ้างหรือเปล่า?”ฉู่เฉินรีบหลบการโจมตีถึงแก่ชีวิตของเสี่ยวหนาน จากนั้นก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ป๊าบ! ฉู่เฉินจับข้อมือของเธอได้แล้วชัด ๆ แต่น้ำมันในมือลื่นมากเกินไป ไม่เพียงทำให้เสี่ยวหนานสลัดหลุดได้ทันที นอกจากนี้ยังแทงมีดสั้นใส่ ท้องน้อยของฉู่เฉินหนึ่งที ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้น
เสี่ยวหนานเพิ่งจะมาอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน กลิ่นหอมประหลาดนั้นพลันรุนแรงขึ้นสุดขีดฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานโดยไม่แสดงอารมณ์ ก่อนจะพูดกับหญิงวัยกลางคนว่า “อืม เอาเธอละกัน ให้คนอื่นออกไปให้หมดเถอะ” หญิงวัยกลางคนเข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ก่อนออกจากห้อง เธอยังตั้งใจช่วยฉู่เฉินปิดประตูห้องให้เรียบร้อย ฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าฝีมือของคุณไม่เลวเอามาก ๆ?”เสี่ยวหนานหลุบตาลงต่ำ ไม่ออกความเห็น ท่าทางเหมือนเขินอายสุดขีดฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนอนคว่ำอยู่บนเตียงนวดแล้วพูดว่า “คุณเริ่มได้เลย”เสี่ยวหนานถึงค่อยเบิกตาขึ้นมา นัยน์ตาส่องประกายคู่นั้นเปล่งรัศมีเย็นเยียบออกมาราง ๆหลังจากที่จ้องมองฉู่เฉินสิบกว่าวินาที เสี่ยวหนานถึงค่อยหยิบน้ำมันนวดหลังจากทางด้านข้าง ก่อนจะเลิกเสื้อของฉู่เฉินขึ้นแล้วราดน้ำมันบนแผ่นหลังของฉู่เฉิน“คุณผู้ชายคะ กล้ามเนื้อที่หลังของคุณแน่นมากเลยนะคะ”เสี่ยวหนานนวดน้ำมันให้ฉู่เฉินพลางเอ่ยเสียงหวานฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าผิวบนหลังของคุณจะดีหรือเปล่า?”“อุ๊ย คุณนี่ร้ายจังเลยนะคะ คิดจะถอดเสื้อผ้าคนอื่นอยู่นั่นแ
“ว้าย...”โจวเทียนเฟิ่งร้องอุทาน รีบใช้ผ้าขนหนูบังดวงหน้าเล็ก ๆ ไว้ ทว่าวินาทีต่อมา เธอก็โดนฉู่เฉินผลักลงบนเตียง .....รุ่งเช้าฉู่เฉินนอนหลับยาวจนตะวันสายโด่งขณะที่กำลังกินอาหารเช้า ฟางอวี่เจิ้งก็โทรศัพท์เข้ามา“คุณฉู่ ตอนนี้คุณสะดวกไหมครับ?” อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ฟางอวี่เจิ้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม “สะดวกครับ คุณส่งตำแหน่งมาให้ผมเลยก็พอ แล้วผมจะไปหาคุณ”ฉู่เฉินกินข้าวไปด้วย พูดไปด้วย“ได้ครับ”ฟางอวี่เจิ้งตอบรับแล้วก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานก็มีข้อความแชร์ตำแหน่งถูกส่งมาที่โทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินพอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉู่เฉินก็พลอดรักกับโจวเทียนเฟิ่งสักพักแล้วค่อยออกจากเทียนเฟิ่งวิลล่า ขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านนวดอวิ๋นไท่เพิ่งจะจอดรถเสร็จ ฟางอวี่เจิ้งก็ก้าวลงมาจากรถเก๋งสีขาวที่อยู่ทางด้านหน้า “คุณฉู่ ร้านนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดในเจียงจงแน่นอนครับ”ฟางอวี่เจิ้งพูดพลางมีท่าทางเหมือนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วนิดหน่อยฉู่เฉินกวาดตามองฟางอวี่เจิ้งแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ประธานฟาง ร่างกายคุณไหวเหรอครับ?”“เอ่อ...ยังพอไหวนะครับ...”ฟางอวี่เจิ้งทำหน้ายิ้มแย้มพลางพาฉู่เฉิ
การเริงรักนี้ทำให้โจวเทียนเฟิ่งดื่มด่ำเต็มอิ่มจริง ๆพูดตามตรง ฉู่เฉินไม่ได้มาเยี่ยมเยียนเธอเกือบหนึ่งเดือนแล้วแม้ว่าในจะคิดถึงมากและร้อนรนมาก แต่เธอรู้สถานะของเธอที่อยู่ข้างกายฉู่เฉินดี อย่างมากสุดก็เป็นได้แต่หนึ่งในคนรักมากมายของเขาเท่านั้นด้วยเหตุนี้ เธอเลยได้แต่อดกลั้นแล้วอดกลั้นอีกวันนี้ก็ถือว่าได้พบเจอสายฝนหลังจากที่แห้งแล้งมาเนิ่นนาน“คุณมันเจ้าตัวป่วน ทำไมขนาดประตูก็ยังไม่ปิด ถ้าเกิดคนมาเห็นเข้าจะทำยังไง”จนกระทั่งเสร็จกิจแล้ว โจวเทียนเฟิ่งถึงค่อยสังเกตเห็นว่าประตูห้องหนังสือเปิดอ้ามาตลอด ถ้าอย่างนั้นคนอื่นคงจะได้ยินเสียงเมื่อกี้ของเธอหมดแล้วใช่หรือเปล่า? โจวเทียนเฟิ่งพูดพลางจะไปปิดประตู ฉู่เฉินกลับอุ้มเอวของเธอขึ้นมาจากด้านหลัง“อ๊าย คุณนี่มันร้ายชะมัด รีบปล่อยฉันลงเลยนะ” ฉู่เฉินหัวเราะหึ ๆ ไฉนเลยจะสนใจการดิ้นรนของเธอ เขาเดินไม่กี่ก้าวก็อุ้มโจวเทียนเฟิ่งเข้าไปในห้องน้ำในขณะที่ฉู่เฉินเตรียมตัวจะแสดงพลังกระตือรือร้นอีกครั้ง โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือพลันดังขึ้นมาจากนั้นก็เห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ฉู่เฉินกดตัดสายทันที แต่ฉู่เฉินยังไม่ทันโน้มตัวลงไป โทรศัพท์ก็ด
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ