หืม?เจิ้งหู่อึ้งไปแล้ว! ไม่เพียงแต่เขาที่ตกตะลึง แม้แต่พวกหลูฉีเหว่ยกับหลี่เฟิงต่างก็อึ้งเซ่อซ่าไปโดยสิ้นเชิง นี่ฉู่เฉินกำลังรนหาที่ตายเลยนะ!ขนาดหลูฉีเหว่ยที่เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ก็ไม่กล้าพูดคำว่าไม่กับเจิ้งหู่สักครึ่งคำ ไอ้สวะขี้ขลาดอย่างฉู่เฉินแม่งทำตัวอวดดีในตอนนี้เนี่ยนะ! ปล่อยให้เจิ้งหู่พาเซี่ยฉีฉีไปมีความสุขหน่อยจะเป็นอะไรไป?“ฉู่เฉิน ฉันขอเตือนนายว่าทางที่ดีแม่งอย่าไปยุ่งจะดีกว่า!” ใบหน้าของหลูฉีเหว่ยบิดเบี้ยวแล้ว เวลานี้เอง เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงอ้อนวอนขอความช่วยเหลือของเถียนลู่ลู่ดังมาจากในห้องส่วนตัวข้าง ๆ หลูฉีเหว่ยก็โกรธจนถึงขีดสุดแล้ว! อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าระบายโทสะกับเจิ้งหู่ ทำได้เพียงเอาฉู่เฉินมาเป็นที่ระบายอารมณ์ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเอานิ้วชี้ไปทางห้องส่วนตัวข้าง ๆ แล้วพูดว่า “ผู้หญิงของนายกำลังถูกคนย่ำยีจนตาย ความกล้าของนายล่ะ?”เมื่อคำพูดนี้ออกมา โทสะที่หลูฉีเหว่ยสะกดกลั้นไว้ในใจก็ลุกโชนขึ้นมาโดยสมบูรณ์! แต่เขากำลังคิดจะลุกขึ้นมา ผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ที่อยู่ด้านหลังเจิ้งหู่แค่ใช้สายตาเย็นชาก็ทำให้โทสะทั้งหมดของเข
เชี่ย!พอเห็นฉากนี้ ผู้หญิงเกือบทุกคนต่างอิจฉาเซี่ยฉีฉีจะตายอยู่แล้วฉู่เฉินแม่งโคตรหล่อเลยจริง ๆ ท่าทางสง่างามที่ดูเย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใครนั้นราวกับเป็นร่างสถิตของราชาจอมโอ้อวดเลยการได้มีแฟนแบบฉู่เฉินคงเป็นความฝันที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มแต่พวกหลูฉีเหว่ยกับหลี่เฟิงกลับตกใจจนหน้าซีดเผือด! ที่แท้ฉู่เฉินแสร้งทำตัวเป็นหมูหลอกกินเสือมาโดยตลอด ล่วงเกินปรมาจารย์ย่อมต้องตายแน่นอน แต่พวกเขากลับล่วงเกินมหาปรมาจารย์ยุทธ์ แค่คิดถึงผลที่ตามมาอันน่าสะพรึงกลัวต่าง ๆ นานา ไม่ต้องรอให้ฉู่เฉินมาหาพวกเขา พวกหลูฉีเหว่ยก็ฉี่ราดกางเกงแล้วเวลาผ่านไปพักใหญ่ เจิ้งหู่ถึงค่อยฝืนลุกขึ้นมาจากพื้นภายใต้การประคองของลูกน้องสองคนสมแล้วที่เป็นคนเหี้ยมโหดรองจากมังกรหาญหงส์สวรรค์ ขนาดกระดูกขาสีขาวซีดแทงทะลุกางเกงโผล่ออกมาข้างนอก เจิ้งหู่ก็ไม่ได้ร้องออกมาเป็นครั้งที่สอง“ไอ้หนู ถ้าแน่จริงก็อย่าไป กล้าหักขาซ้ายของฉัน วันนี้ฉันจะให้แกชดใช้ด้วยชีวิต!”เจิ้งหู่แทบจะเค้นคำพูดออกมาจากไรฟัน “อาศัยแกเหรอ? หรือว่าอาศัยเขาล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มมองเจิ้งหู่กับปรมาจารย์ที่อยู่ข้างกายเขาเหมือนมองคนเขลาก็ไม่ปาน “ท่า
“ท่านหลง!”ปรมาจารย์วัยกลางคนรีบพยุงเจิ้งหู่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ามาใกล้ ๆ จางหลง เมื่อมองจางหลงที่ทำหน้าขรึมราวกับน้ำ เจิ้งหู่ก็ปาดเหงื่อเย็น ๆ บนใบหน้า เขากำลังคิดอยู่ว่าจะแจ้งข่าวให้ท่านหลงอย่างไรดี แต่ไม่คิดว่าท่านหลงจะมาเองนี่ทำให้เขาดีใจอย่างเหนือความคาดหมาย จางหลงขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ชอบปกป้องคนใกล้ชิดในวงการใต้ดินของเจียงจงเจิ้งหู่ติดตามจางหลงมาสิบกว่าปี เขาโดนหักขา จางหลงย่อมไม่มีทางปล่อยฉู่เฉินให้มีชีวิตรอดออกไปจากเมืองเอ็นเตอร์เทนเมนต์ตี้ตูอย่างแน่นอน นอกจากนี้เจิ้งหู่คลุกคลีอยู่ในวงการใต้ดินมาหลายปีขนาดนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความสูญเสียใหญ่หลวงขนาดนี้ในเงื้อมมือของคนรุ่นเยาว์ ถ้าเกิดเรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไป เขายังจะอยู่ในวงการใต้ดินของเจียงจงได้อีกอย่างไร?เมื่อสังเกตเห็นชายวัยกลางคนที่ถือกระบี่ยาวตามหลังจางหลง เจิ้งหู่ก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นนั่นเป็นมหาปรมาจารย์ยุทธ์เชียวนะ มองไปทั่วทั้งเจียงจงก็หาคนที่สองไม่ได้ เพียงแต่ว่าสถานะของคนผู้นี้ซับซ้อนนิดหน่อย ดังนั้นจางหลงถึงให้เขาลงมือน้อยมาก แต่ว่าขอเพียงคนผู้นี้ลงมือก็ไม่มีทางรอดชีวิตไป
ทั้งหมดที่เขามีล้วนแต่เป็นสิ่งที่ท่านหลงมอบให้ทั้งนั้นแต่ตอนนี้เขากลับทำให้จางหลงซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตที่ต้องปฏิบัติด้วยความเคารพไม่พอใจ อย่างนั้นสิ่งที่รอเขาอยู่คือหนทางแห่งความตายใช่หรือไม่?“ท่านหลง... ฟังผมก่อนนะครับ เรื่องนี้มันเป็นเจ้าอาคุนนั่น...”เจิ้งหู่ร้อนรน เขาเล่าอย่างสั้นๆ ถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งเดียวจางหลงมองไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จ้องอย่างเยือกเย็นไปที่เจิ้งหู่ “แหกตาหมาๆ ของแกดูให้ดี คุณฉู่ผู้นี้เป็นผู้มีพระคุณของฉันจางหลง!”“ฉันไม่ได้บอกไปเพียงครั้งเดียว ใครไม่เคารพคุณฉู่แสดงว่าไม่เห็นหัวฉันจางหลง!”ซี้ดๆ !เจิ้งหู่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ตอนกลางวัน จางหลงได้ส่งข้อความพร้อมกับรูปภาพมาในกลุ่มจริงๆเพียงแต่ว่าตอนนั้นเจิ้งหู่เพิ่งดื่มกับเหล่าลูกน้อง เขาไม่ได้ดูอย่างละเอียดด้วยซ้ำแย่แล้วล่ะ!เจิ้งหู่ต้องทนกับความเจ็บปวด คุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉินเสียงดังตึง ก้มหัวแล้วพูดซ้ำๆ ว่า “คุณฉู่ ขอโทษด้วยครับที่ตาของผมหามีแววไม่ บังอาจไปปะทะกับคุณฉู่ คุณฉู่ลงโทษผมเถอะครับ”เจิ้งหู่ในตอนนี้ยอมจำนนเป็นอย่างมาก เขาไม่แม้แต่จะกล้าร้องขอชีวิตเขา
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง รถโคโรล่าสีชมพูก็ค่อยๆ จอดตรงหน้าประตูบ้านใหญ่ เซี่ยฉีฉีรวบรวมความกล้าของเธอ ค่อยๆ หอมไปที่แก้มของฉู่เฉินเบาๆ ราวกับแมลงปอที่บินมาเกาะตรงหน้าฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงริมฝีปากที่ค่อยๆ ประทับลงมาบนหน้าของเขาเบาๆ เขาหันไปมองเซี่ยฉีฉีอย่างอดไม่ได้“ขอบคุณนะที่วันนี้นายช่วยฉันไว้”ใบหน้าของเซี่ยฉีฉีแดงก่ำ นำศีรษะของเธอมุดเข้าไปที่หน้าอกของเขา ไม่แม้แต่จะกล้ามองฉู่เฉิน“มันสมควรอยู่แล้ว ทุกคนเป็นเพื่อนไงครับ”ฉู่เฉินยื่นมือลูบไปที่หน้าผากของเซี่ยฉีฉี แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เดินไปทางบ้านใหญ่ตระกูลฉู่จนกระทั่งฉู่เฉินเดินจากไปไกลแล้ว หัวใจดวงน้อยๆ ของเซี่ยฉีฉีก็ยังเต้นไม่หยุดพูดจริงๆ เลยนะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอใจเต้นกับผู้ชาย อีกทั้งจูบเมื่อกี้นับว่าเป็นจูบครั้งแรกของเธออีกด้วยภายในหัวของเธอยังจินตนาการว่าฉู่เฉินจะให้กอดเธอหรือทำอะไรอย่างอื่นไหมแต่ผ่านไปได้สักพักแล้ว ก็ไม่เห็นท่าทีว่าฉู่เฉินจะทำอะไร เซี่ยฉีฉีถึงพบว่าฉู่เฉินได้เดินจากไปไกลตั้งนานแล้ว“ฉู่เฉิน...”ฉู่เฉินได้ยินเสียงตะโกนร้องของเซี่ยฉีฉี ก็หันกลับมายิ้มพร้อมกับโบกมือให้เซี่ยฉีฉีเซี่ยฉีฉีสูดหายใจล
แต่เมื่อดูได้แค่แป๊บเดียว สีหน้าของหลิ่วชิงเหอก็เปลี่ยนไปเป็นเกรี้ยวกราดเธอเห็นแต่วิดีโอที่วันนั้นฉู่เฉินรักษาโรคร้ายแรงของเน็ตไอดอลสาวเสี่ยวหลินต่อหน้าสาธารณชน โดยที่คอมเมนต์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวิดีโอแต่ประเด็นกลับเอาแต่พูดถึงฉู่เฉินและหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกโดยเฉพาะประโยคที่ฉู่เฉินพูดในช่องไลฟ์สดวันนั้น ผมมั่วกับใครก็คงต้องให้หลิ่วหรูเยียนไปถามแม่ของเธอแล้วล่ะครับยิ่งทำให้ชาวเน็ตคิดกันไปต่างๆ นานากระทั่งที่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เดาถูก“ทำไมเป็นแบบนี้!”หลิ่วชิงเหอร้อนรนไปหมดเรื่องไลฟ์สดตอนนั้นผ่านไปก็เกือบสี่ห้าวันแล้ว ทำไมยังมีคนไม่ยอมปล่อยผ่านไปอีกนะ?อีกทั้งที่สำคัญก็คือคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เดาถูกว่าระหว่างเธอและฉู่เฉินมีความเป็นไปได้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่เธอถูกฉู่เฉินบังคับและข่มขู่นะหากฉู่เฉินไม่บังคับให้เธอยอมจำนน เธอจะยอมให้ไอ้สัตว์เดรัจฉานแบบฉู่เฉินฉวยโอกาสเธอได้อย่างไร“พึ่บ!”หลิ่วชิงเหอลุกขึ้นมากะทันหัน ไม่สนใจหยดน้ำที่ไหลตามร่างกาย สวมใส่รองเท้าแตะแล้วรีบออกไปจากห้องอาบน้ำ“ฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ไม่สามา
ประโยคนั้นของหลิ่วชิงเหอจบลง แววตาประหลาดใจของป้าอู๋ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น หลังจากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “คุณผู้หญิง ฉัน... ฉันเป็นแค่คนรับใช้ทั่วไปนะคะ”เมื่อได้ยินประโยคนั้น หลิ่วชิงเหอก็หัวเราะออกมาเบาๆ “สมาคมจันทราโลหิต!”ซี้ดๆ !ป้าอู๋ได้ยินคำนี้ สีหน้าก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที“ยังต้องให้ฉันพูดอะไรอีกไหม?”หลิ่วชิงเหอเอามือกอดอกไว้ กอดลูกกลมอวบอ้วนสองลูกบนหน้าอกของเธอ ดูเหมือนตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แล้วเดินไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ป้าอู๋ แกเป็นนักฆ่าระดับบีของสมาคมจันทราโลหิตใช่ไหม?”“ชื่อเดิมของแกไม่ได้ชื่ออู๋ซุ่ยเหลียน แต่เป็นอู๋อวิ๋นเซียง!”“ที่ฉันพูดน่าจะไม่ผิดใช่ไหม?”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของป้าอู๋ซีดกว่าเดิมหลายเท่าสมาคมจันทราโลหิตเป็นสมาคมนักฆ่าที่ลึกลับเป็นอย่างมาก ภายในมีนักฆ่ากี่คนไม่มีใครรู้แต่ในสมาคมจันทราโลหิต นักฆ่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้หญิง!ขอเพียงแค่มีรายชื่อในลิสต์สังหาร ก็แทบจะไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากความตายได้สมัยที่ป้าอู๋ยังอายุน้อย เธอเป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมาคมจันทราโลหิตเพียงแต่ว่าตั้งแต่เธอติดตามสองแม่ลูกตระกูลหลิ่ว ก็
“คุณผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้อันตรายมากๆ นะคะ ว่ากันว่าเธอยังได้ลอบสังหารประมุขแห่งรัฐของประเทศใดประเทศหนึ่งในแอฟริกา และหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยด้วย หลังจากนั้นเธอก็สังหารนายจ้างของเธอ”ป้าอู๋เพียงแค่แวบเดียวก็จำกุหลาบเพลิงได้แล้ว จึงเตือนด้วยความหวังดีหลิ่วชิงเหอหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา มองดูรูปลักษณ์อันน่ารักและน่าดึงดูดใจในภาพถ่าย กุหลาบเพลิงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน มุมปากของเธอก็เผยรอยยิ้มเยือกเย็นขึ้นมานี่มันสเปคไอ้เลวฉู่เฉินไม่ใช่เหรอ?ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับส่วนเว้าส่วนโค้งอยู่นั้น ใช้โอกาสที่เขาไม่ทันระวังตัวใช้มีดปาดคอเขา นั่นมันเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? “เธอนี่แหละ ฉันโอนเงินให้แก รีบไปจัดการให้เร็ว ความอดทนของฉันมีจำกัด”หลิ่วชิงเหอพูดขึ้นมาอย่างไม่สงสัยป้าอู๋ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำตามที่หลิ่วชิงเหอสั่ง จ่ายเงินมัดจำอีกทั้งนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องของฉู่เฉินส่งให้ฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่ทุกอย่างจัดการเสร็จสิ้นแล้ว หลิ่วชิงเหอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉาน อย่าได้คิดจะแม้จะแตะต้องเส้นผมของเธอ!หลิ่วชิงเหอที่
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉู่เฉินไม่เพียงแต่ช่วยท่านเฉียวเท่านั้น แต่ยังช่วยท่านหลง และให้ข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งแก่แก๊งมังกรฉู่เฉินในตอนนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่านหลงและถานเฟยไปแล้ว เฉียวเทียนฉี่จะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆเสียที่ไหน?แตะต้องฉู่เฉิน ไม่ใช่แค่ท่านหลงฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด่านนายท่านใหญ่เฉียวที่เขาผ่านไปไม่ได้“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่รู้สึกว่านิสัยของคนตระกูลหลูมีปัญหาก็เท่านั้น ผมได้ยินมาว่าผู้ว่าการเฉียวสนิทกับตระกูลหลูมาก แต่อย่าติดร่างแหไปกับตระกูลหลูเด็ดขาดนะครับ”คำพูดของฉู่เฉินดังขึ้น เฉียวเทียนฉี่จากทางปลายสายก็ตกสู่ห้วงแห่งความคิดในทันทีคำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนกำลังพูดถึงนิสัยของตระกูลหลู แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังเตือนเฉียวเทียนฉี่ว่าตระกูลหลูกำลังโชคร้ายครั้งใหญ่แล้วถึงยังไงฉู่เฉินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีสายใยแน่นแฟ้นกับสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรหรือจะบอกว่า แก๊งมังกรเตรียมจะจัดการตระกูลหลูแล้ว?เฉียวเทียนฉี่คิดถึงความเป็นไปได้ในจุดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ตรัสรู้เจตนาของฉู่เฉินจึงรีบกล่า
ได้! นี่คุณพูดเองนะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณยังคงหยิ่งยโสได้เหมือนตอนนี้!”ฉู่เฉินพูดพร้อมกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาหยางเทียนหลงทันทีไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงนอบน้อมของหยางเทียนหลงดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ผมหยางเทียนหลง ไม่ทราบคุณต้องการให้รับใช้อะไรครับ?”หยางเทียนหลงขณะนี้เชื่องเหมือนแมวตัวหนึ่งโดยสิ้นเชิงเรื่องที่ลูกชายของเขาตาย หยางเทียนหลงจะไปกล้าคิดเล็กคิดน้อยได้ที่ไหนอีก?เมืองหลงเฉิงล้วนสยบอยู่ใต้เท้าของฉู่เฉินทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าได้สาบานและจงรักภักดีต่อฉู่เฉิน แค่มีใจคิดคดทรยศเพียงเล็กน้อย คนของตระกูลหยางจะต้องถูกจำกัดสลายกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา“รีบยุติการค้าความร่วมมือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลูเดี๋ยวนี้”ฉู่เฉินกล่าวราบเรียบหลูไคหมิงฟังแล้วก็คิ้วกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุฉู่เฉินมีอิทธิพลถึงขั้นนั้นเชียวหรือขนาดหยางเทียนหลงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองเจียงจงยังเคารพนอบน้อมต่อฉู่เฉิน ทั้งยังฟังคำสั่งอีกด้วย?ในช่วงที่หลูไคหมิงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหยางเทียนหลงจากปลายสายตอบกลับมาว่า “ครับ! ภายในห้านาที ตระกูลหยางจะตัดขาดความร่วมมือทางการค้าทั้งหมดก
“กล้าพูดอีกคำเดียว ตาย!”สายตาฉู่เฉินโหดเหี้ยม จ้องเขม็งอู่เย่าปังพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ผมพูดไปแล้ว วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา พวกคุณสองพ่อลูกไม่ให้ตอบตามที่ผมพอใจละก็ ใครก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่ได้เลย”อู่เย่าปังสับสนมึนงงสุดๆทำไมฉู่เฉินมันกล้าขนาดนี้ ตบหน้าเขาต่อหน้าคุณหลูก็ช่างมันเถอะ ยังกล้าข่มขู่เขาได้ขนาดนี้อีก?ทำเหมือนคุณหลูเป็นอากาศธาตุไปแล้วจริงเหรอ?ขณะนี้สีหน้าหลูไคหมิงขรึมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “คุณฉู่ ผมเห็นแก่ที่คุณเคยช่วยพูดกับผู้ว่าการเฉียวให้ตระกูลหลูถึงไม่เอาความกับคุณ”“แต่มาทำร้ายสุนัขของผมต่อหน้าผมคุณเห็นตระกูลหลูสามารถรังแกได้ง่ายๆ อย่างนั้นจริงๆเหรอะ?!”ได้ยินคำพูดนี้แล้วฉู่เฉินก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ กวาดตามองหลูไคหมิงแวบหนึ่ง “รังแกตระกูลหลูคุณ? เป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ คุณคิดว่าคุณคู่ควรให้ผมลงมือรังแกคุณเองเหรอะ?”“ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งก็คือรังแก?”ฉู่เฉินพูดถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “หลูไคหมิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย คิดให้ดี เรื่องในวันนี้จะจัดการยังไงกันแน่”ได้ยินคำนี้แล้วแม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เริ่มสับสนขึ้นมา นี่ฉู่เฉินกำลังพู
หลูไคหมิงกุมท่อเหล็กมุ่งตรงไปยังหลิ่วชิงเหอ เจียงถิงเริ่มลนลานรีบไปข้างหน้าของหลิ่วชิงเหอกันทางไว้และกล่าวกับหลูไคหมิง “ไคหมิง นายทำอะไร? รีบวางมันลงซะ!”“ทำอะไร? ฉู่เฉินมันคิดจะซ่อนตัวไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะรอดูว่ามันจะซ่อนไปถึงเมื่อไหร่!”สิ้นเสียงหลูไคหมิงก็ผลักเจียงถิงออกไป ยกท่อเหล็กขึ้นกะจะฟาดไปที่ศีรษะของหลิ่วชิงเหอ!“ว๊าย!”หลิ่วชิงเหอตกใจกรีดร้องออกมาปิดตาโดยไม่รู้ตัวทันทีช่วงขณะที่ท่อเหล็กของหลูไคหมิงใกล้จะฟาดถึง เสียงปังดังลั่นขึ้นมา ทำเอาท่อเหล็กในมือหลูไคหมิงค้างกลางอากาศ“แกกล้าแตะต้องเธอก็ลองดู!”จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นหลูไคหมิงหันหน้าไปมองทางประตูก็เห็นฉู่เฉินกำลังพังประตูเข้ามาและพุ่งมาหาเขาทางนี้“เหอะๆ คุณฉู่!”เมื่อเห็นฉู่เฉินแล้วหลูไคหมิงฉีกยิ้มขึ้นมาจากนั้นโยนท่อเหล็กในมือไปอีกทางทันทีพ่อลูกอู่เย่าปังตกใจตื่นจนไปหลบข้างหลังหลูไคหมิง และจ้องมองฉู่เฉินด้วยสายตาขลาดกลัว“คุณหลู ระวังไอ้หนุ่มนี่ลงมือกะทันหันนะครับ”อู่เย่าปังที่หลบอยู่ด้านหลังของหลูไคหมิงกระซิบกล่าวเตือนหลูไคหมิงกลอกตาใส่อู่เย่าปังอย่างดุ จากนั้นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มประดับหน้า ย
แต่หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะพูดเสร็จ ฉู่เฉินก็ออกแรงหันหน้าเล็กของเธอไปอีกทางและเอามือปิดปากเล็กๆ เธอไว้เสียงเคาะและตะโกนจากนอกประตูเร็วขึ้น ฉู่เฉินก็ยิ่งร้องขออย่างเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆหลิ่วหรูเยียนหัวใจตกมาอยู่ตาตุ่ม เธอกลัวว่าประตูจะถูกผลักเปิดออก และก็กลัวว่าหลิ่วชิงเหอจะเกิดเรื่องอะไรไม่คาดฝันขึ้นนั่นคือตระกูลหลูเชียวนะตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแทบจะมีอำนาจมีอิทธิพลล้นฟ้าราวกับพลิกฝ่ามือทำไมจนถึงตอนนี้ฉู่เฉินยังมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้อยู่?แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ฉู่เฉินก็กดเธอแนบหน้าต่างบานกระจกของตึกไว้อย่างแน่นหนาเอี๊ยดอ๊าด!เมื่อได้ยินเสียงแหลมดังขึ้น ต้าหลิงจื่อที่อยู่นอกประตูก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และค่อยๆ ผลักประตูเปิดออกเป็นช่องว่างเล็กๆ อย่างเบามือยังไม่ทันที่เธอชะโงกหน้าไปมองก็ได้กลิ่นฟีโรโมนผสมผสานกันกระแทกหน้า“อ๊า!”ต้าหลิงจื่อตกใจจนรีบปิดประตูแน่น กลับไปหลบซ่อนในทางเดิน“ทำยังไงดี ทำยังไงดีนะ”ต้าหลิงจื่อก็เคยผ่านประสบการณ์มามาก รู้ดีเลยว่าฉู่เฉินในเวลานี้ต่อให้ฟ้าพังทลายก็ไม่สามารถไปขัดจังหวะเขาได้แต่ค
หลิ่วชิงเหอถอนหายใจลึกๆ ที่จริงสีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผยคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว“แต่… หนู…”หลิ่วหรูเยียนชะงัก เธออยากจะพูดว่าเธอยังมีราชันมังกร บางทีราชันมังกรอาจจะสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอสองแม่ลูกได้แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจพูดออกไปได้เป็นไปตามที่หลิ่วชิงเหอเคยพูดไว้ ฉู่เฉินเป็นคนที่ออกโรงในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ราชันมังกรก็เหมือนอย่างตอนนี้ ราชันมังกรดูเหมือนจะอยู่แค่ในจินตนาการของเธอเท่านั้นและในความเป็นจริงอู่จวิ้นเจี๋ยพาลูกน้องสิบกว่าคนเข้ามาใช้กำลังพาตัวเธอจากชั้นบนไปยังห้องประชุมซึ่งดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสักคนยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคืออู่จวิ้นเจี๋ยกระทำเรื่องเสื่อมเสียกับเธอต่อหน้าผู้ติดตามสิบกว่าคนนั้นการปรากฏตัวของฉู่เฉินทำให้เธอเลี่ยงภัยอันตรายนี้ไปได้ในตอนที่เธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน “อันที่จริงฉู่เฉินมีอะไรไม่ดีเหรอ? ติดตามเขา ไม่มีใครกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูก ติดตามเขา บริษัทเราสามารถเป็นบริษัทร่วมลงทุนยาบำรุงปราณได้ทันที” “อีกทั้งฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่น หล่อเหลา กำลังวังชาก็ไม่เลว…”หลิ่วชิงเหอกล่าวถึงตรงนี้แล้วก็เ
ต่อให้อู่เย่าปังมีกำลังทรัพย์เกินใคร แต่การสูญเสียปรมาจารย์คนหนึ่งไปก็เจ็บปวดเหลือทนสำหรับตระกูลอู่!“ไป?”ฉู่เฉินหัวเราะมองอู่เย่าปังเหมือนกำลังมองคนบ้าและกล่าว “ไม่ใช่แค่ผมจะไม่ไป วันนี้พวกคุณพ่อลูกอย่าคิดรอดออกไปจากตึกนี้ถ้าไม่ทำให้ผมพอใจ”“อธิบดีเจียง!”กลัวอะไรจะได้สิ่งนั้นจริงๆเจียงเหวินป๋อกัดฟันยิ้มที่แย่กว่าร้องไห้พร้อมกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ คุณเรียกผม?”“รบกวนอธิบดีเจียงช่วยหน่อยนะ จับตาดูสองพ่อลูก จำไว้ อย่าให้พวกมันหนีไปล่ะไม่งั้นผมจะให้คุณรับผิดชอบ”หา?เจียงเหวินป๋อแทบร้องไห้ในใจแล้ว เรื่องในนี้เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?“ผม… ผม…”เมื่อเห็นสีหน้าฉู่เฉินเริ่มเย็นชา เจียงเหวินป๋อทำได้แค่หยุดพูดแล้วกลืนน้ำลายพยักหน้ากล่าวอย่างจนปัญญา “ก็ตามคุณฉู่เลยครับ”ฉู่เฉินจึงพยักหน้าอย่างพอใจและกล่าว “อู่เย่าปัง คุณฟังให้ดี ไม่ว่าใครมา ถ้าผมยังไม่กลับมาแล้วคุณกล้าออกจากประตูไปแค่ก้าวเดียว ผมจะกวาดล้างตระกูลอู่ของคุณ!”อู่เย่าปังตกใจจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉู่เฉินเอาความมั่นใจมาจากไหน?ใครคือคนหนุนหลังฉู่เฉินกันแน่?ขณะนี้อู่เย่าปังกระวนกระวายใจใจเต้นตึกตันราวกับเสียงกลอง