หลังจากที่ขับไล่เหล่าตัวแทนบริษัทที่โห่ร้องออกไปแล้ว สีหน้าของฉู่เฉินถึงเรียบนิ่งขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ทุกท่านที่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะได้รับสิทธิการจำหน่ายยาบำรุงปราณไปแล้วหรือไม่ ในภายหลังก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเรา”“ดังนั้นผมของพูดไว้ตรงนี้เลย อย่างแรกไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนราคาได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีดำ ยกเลิกการร่วมมือกันตลอดไป!”“อย่างที่สองยาลูกกลอนทั้งหมด ราคาปกติคือราคาซื้อเม็ดละห้าล้านบาท และราคาขายเม็ดละยี่สิบห้าล้านบาท และพวกเราสองฝ่ายที่ร่วมมือกันแบ่งกันคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์”เมื่อคำพูดนี้ของฉู่เฉินออกไป เหล่าบริษัทที่ได้รับสิทธิการจำหน่ายก็ต่างพากันปรบมือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฟังดูเหมือนจำนวนไม่เยอะ แต่ยาลูกกลอนหนึ่งเม็ดกำไรสุทธิอยู่ที่ยี่สิบล้าน ถ้าห้าสิบห้าสิบก็สิบล้านเชียวนะสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนั้น ขอเพียงแค่ขายยาลูกกลอนได้สิบเม็ดก็เท่ากับมูลค่าการผลิตทั้งปีของบริษัทพวกเขาแล้วเมื่อเห็นสายตาที่ทั้งเคารพและชื่นชมฉู่เฉินจากฝูงชน หลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่อก เมื่อเดือนก่อนฉู่เฉินยังเป็นแค่ไอ
หลิ่วหรูเยียนในขณะนี้ กลับใช้สายตาลุกเป็นไฟมองไปที่ฉู่เฉิน แววตาไม่มีความเกลียดชังแม้แต่น้อย แต่กลับมีความกระตือรือร้นที่ไม่อาจปกปิดได้เพราะว่าในตอนนี้ในมือเธอยังมีไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้ใช้!บางทีฉู่เฉินในวันนี้ อาจจะเป็นตัวเธอในอนาคต ไม่สิ!ความสำเร็จของเธอจะต้องไปไกลกว่าฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อย่างแน่นอนเมื่อนึกได้แบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างฮึกเหิม ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ“โอเคครับ เวลาหลังจากนี้ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้เลยนะครับ หากมีปัญหาอะไรผมสามารถตอบทุกคนได้ทุกเมื่อครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็เดินลงมาจากแท่นพูดเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินมาถึงก็นั่งลงโต๊ะกลมข้างๆ แท่นพูด โจวว่านคังก็รีบเดินตามไป“คุณฉู่ ผมประทับใจในความสำเร็จของคุณในทางการแพทย์มากๆ ผมคนนี้ประทับใจมากจริงๆ ผมมีเรื่องอยากจะร้องขอคุณฉู่เรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าคุณฉู่จะตอบตกลงหรือไม่?”ฉู่เฉินได้รับความชื่นชมจากโจวว่านคังมากถึงขนาดที่เขาแสดงทัศนคติที่ถ่อมตัวมากฉู่เฉินมีความประทับใจที่ดีมากต่อโจวว่านคัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ท่านมีเรื่องอะไรพูดออกมาได้เลยครับ หากผมสามารถทำได้
“ท่านโจว ทำไมท่านทำแบบนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินรีบพยุงโจวว่านคังขึ้นมาจากพื้น“คุณฉู่ ทักษะการแพทย์ของคุณขั้นเทพแล้วครับ ผมก็ได้มีประสบการณ์บางอย่างในชีวิตมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครที่สามารถเปรียบเทียบกับคุณฉู่ได้ในรอบหลายสิบปีเลย”“หากใช้พรสวรรค์ของคุณ อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด หากถามความเห็นของผม ผมว่าคุณฉู่ควรจะแสดงให้คนทั้งโลกประจักษ์ความสามารถของคุณนะครับ และการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นเวทีที่ไม่เลวเลย ไม่ทราบว่าคุณฉู่เคยคิดเข้าร่วมบ้างไหมครับ?”โจวว่านคังพูดถึงความคิดภายในใจตนเองอย่างไม่อ้อมค้อมบุคคลที่มีความสามารถแบบฉู่เฉินแบบนี้ หากไม่ได้เฉิดฉาย เช่นนั้นก็จะเป็นความสูญเสียของวงการแพทย์แผนจีน อีกทั้งยังเป็นความสูญเสียของแดนมังกรอีกด้วยในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนจีน โจวว่านคังแทบจะใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อเชื้อเชิญฉู่เฉิน“การแข่งขันแพทย์แผนจีนอีกแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันก่อนฮว่าจิ่วหยางมาเชิญเขาด้วยตนเอง อีกทั้งฉู่เฉินเองก็ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ว่าวันนี้โจวว่านคังก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าร่วม นั่นกลับทำให้ฉู่เฉินกลัดกลุ้มใ
หลินชือหย่าที่เดินไปทางลานจอดรถไปด้วย กำลังต่อสายหาประธานหลินหลินฟางเจิ้งของหลินซื่อกรุ๊ปไปด้วย ก็นำผลงานแถลงข่าวรายงานให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ได้! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องได้รับสิทธิการจำหน่ายมาให้ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลินซื่อกรุ๊ป! หลาน เมื่อกี้หลานพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนแซ่ฉู่นั่นดูไม่ได้เป็นคนดีมากเท่าไหร่...”“อารองคงไม่ได้จะให้หนู...”ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหลินชือหย่าสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวราวกับกระดาษทันที“แน่นอนว่าอาไม่ได้จะให้หลานอุทิศตนให้แพทย์แผนจีนต่ำต้อยนั่น สิ่งของที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะถูกไม่เห็นค่าเสมอ เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวอาจะรีบไปที่ตึกเทียนเฟิ่ง หลานรออาอยู่ที่ลานจอดรถ เมื่อถึงตอนนั้นทำตามที่อาบอกก็พอ”พูดจบก็ตัดสายไปใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของหลินชือหย่าแสดงความเศร้าเล็กน้อยตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลินซื่อกรุ๊ปก็ถูกส่งต่อไปให้อารองแต่ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้หลินฟางเจิ้งพยายามคิดหาวิธีที่จะใช้หลินชือหย่า และยังบังคับให้เธอตกเป็นเหยื่อของการแต่งงานเพื่อธุรกิจหลายครั้งแ
ใช่แล้วล่ะ!ในใจของเธอ ฉู่เฉินก็เป็นแค่คนโกหกหลอกลวงคนหนึ่งคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะสามารถหลอมยาบำรุงปราณออกมาได้อย่างไร?หากฉู่เฉินมีความสามารถแบบนั้นจริง ทำไมพวกเธอสองแม่ลูกจึงไม่รู้ล่ะ อีกทั้งยังถูกขังไว้นานกว่าสามปีอีกด้วย?แค่คิดก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว“เธอดูมั่นใจมากเลยนะ?”สายตาที่คุกคามมองไปที่เนินหิมะขาวของหลิ่วหรูเยียน“มองอะไร แกมันก็แค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ มองไปก็เท่านั้น!”หลิ่วหรูเยียนรีบยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอก เธอสาปแช่งด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า“มองเธองั้นเหรอ? เธอประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า อีกอย่างนะส่วนไหนในร่างกายของเธอบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น? แม้แต่ปานบนก้นเธอรูปร่างเป็นอย่างไร ฉันก็รู้หมดนั่นแหละ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์สามปีที่ผ่านมานี้สองแม่ลูกไม่เคยแม้แต่จะหลบซ่อนเขาตอนอาบน้ำเลย แล้วจะมีความลับอะไรอีกล่ะ?“แก... หน้าไม่อาย!”หลิ่วหรูเยียนกระทืบเท้าเล็ก ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ “ฉู่เฉิน แกอย่าได้ใจให้มันมากไปเลย ในการแข่งขันแพทย์แผนจีนฉันจะเปิดโปงแกต่อหน้าทุกคน!”“ให้ทุกคนได้เห็นว่าธาตุแท้ของคนไม่ได้เรื่องแบบแกเป็นอย่างไร!”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นก็อ
ฉู่เฉินก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป ระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาที ภายในรถก็มีเสียงครางไม่ได้ศัพท์ดังออกมาในขณะที่ฉู่เฉินกำลังโชว์ศักยภาพของเขาอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน ทำเอากู้รั่วเสวี่ยที่กำลังร่วมสงครามรักอยู่นั้นตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านก็ถูกดับลงทันทีเธอหอยหายใจผละออกมาจากอ้อมอกของฉู่เฉินเธอมองไปที่ปลายสาย เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของที่บ้านโทรมา กู้รั่วเสวี่ยก็โกรธขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“หนูบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าได้รับสิทธิการจำหน่ายมาแล้ว แต่ว่าแบ่งกับหลายบริษัท ไม่มีใครได้ไปแค่คนเดียว!”กู้รั่วเสวี่ยเบ้ปากพูดด้วยความโมโหเวลาสำคัญแบบนี้โทรมาหามันน่ารำคาญจริงๆฝ่ายตรงข้ามสนทนากับกู้รั่วเสวี่ยอีกเพียงแค่มากี่ประโยคก็ตัดสายไป“หึ น่ารำคาญจริงๆ เซ็งหมดแล้วเนี่ย!”กู้รั่วเสวี่ยโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอเม้มริมฝีปากแล้วแนะนำขึ้นมาว่า “ฉู่เฉินเย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหมคะ ฉันรับรองค่ะว่าครั้งนี้จะไม่ใส่เกลือลงไปเยอะแล้ว” ฉู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พูดขึ้นมาว่า “วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ ในสถานการณ์งานแถลงข่าววันนี้คุณก็เ
คลับอวิ๋นติ่งเป็นคลับใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นานในเจียงจง เป็นออนเซ็นสุขภาพขนาดใหญ่ที่รวบรวมไว้ทั้งที่พัก อาหาร และความบันเทิงแค่พื้นที่ก็ครอบคลุมไปกว่าหลายพันตารางเมตรหลินชือหย่าพาฉู่เฉินมายังห้องอาบน้ำส่วนตัวในสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งในสนาม กลีบดอกไม้ที่โปรยไว้ล่วงหน้า และไฟในห้องก็ปรับเป็นโทนสีอุ่น และอบอุ่นเป็นอย่างมาก“คุณฉู่คะ งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาค่ะ”พูดจบหลินชือหย่าก็เดินเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องข้างๆใช้เวลาไม่นานเธอก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกมา สวมบิกินี่สีขาวและสีน้ำเงินเท่านั้นอยู่ข้างใต้ ผลักประตูแล้วเดินออกมาในตอนที่เธอปรากฏกายข้างหน้าฉู่เฉินเป็นครั้งที่สอง แม้แต่ฉู่เฉินที่มีประสบการณ์มามากมายก็สายตาลุกวาวขึ้นมาหลินชือหย่าที่มองไปดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร คิดไม่ถึงว่าเรือนร่างของเธอจะเป็นภัยได้ถึงขนาดนี้?บางทีอาจจะเป็นเพราะหลินชือหย่ามักจะออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นท้องน้อยหรือขาเรียวยาวขาวสวยนั่นไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยผิวกายขาวเนียนกระชับบั้นท้ายคู่นั้นที่กลมฟูโค้งงอนราวกับลูกท้อที่สุกงอมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ
แม่สาวคนนี้ไม่ธรรมดาเมื่อคิดได้อย่างนั้น ฉู่เฉินก็สนใจในหลินชือหย่ามากยิ่งขึ้น เขาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตามที่คุณบอกเลยครับ สั่งแชมเปญที่ทำขึ้นเป็นพิเศษมาลองชิมดู”หลินชือหย่ายื่นขวดแชมเปญพร้อมฝาจุกไม้ให้ฉู่เฉิน ขณะที่เธอหยิบน้ำส้มคั้นสดหนึ่งแก้วดื่มไปแค่จิบเล็กๆ พลังวิญญาณในร่างกายของฉู่เฉินก็ปฏิกิริยาขึ้นมาวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ก็โคจรขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้ก็ใส่ยาขับเหงื่อจำนวนมากลงไปนี่เองน่าเสียดาย ยาขับเหงื่อนี่ใช้ได้ผลแค่กับคนธรรมดา สำหรับผู้บำเพ็ญพรตแล้วไม่ได้ผลอะไรเลยเมื่อเห็นฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นและจิบเข้าไปอึกใหญ่ หลินชือหย่าก็เข้าไปหยุดเขาโดยไม่รู้ตัว แต่สุดท้ายมันก็สายเกินไปฉู่เฉินมองเห็นฉากนี้จากหางตาของเขา และในที่สุดก็รู้สึกใจชื้นเล็กน้อยในใจเธอดูจิตใจดีอยู่นะ เธอกังวลว่าเขาดื่มลงไปในปริมาณเยอะๆ เขาอาจจะเป็นอันตรายได้หลินชือหย่าสังเกตตรวจสอบดูสักพัก เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินไม่ได้สลบไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจขึ้นมาแต่วินาทีต่อมาเธอนั่งลงอย่างสงบ และใช้ร่องลึกของเธอหนีบแก้วน้ำส้มคั้นไว้แล้วดื่มลงไปเชี่ย!ฉู่เฉินมองไปท
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉู่เฉินไม่เพียงแต่ช่วยท่านเฉียวเท่านั้น แต่ยังช่วยท่านหลง และให้ข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งแก่แก๊งมังกรฉู่เฉินในตอนนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่านหลงและถานเฟยไปแล้ว เฉียวเทียนฉี่จะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆเสียที่ไหน?แตะต้องฉู่เฉิน ไม่ใช่แค่ท่านหลงฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด่านนายท่านใหญ่เฉียวที่เขาผ่านไปไม่ได้“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่รู้สึกว่านิสัยของคนตระกูลหลูมีปัญหาก็เท่านั้น ผมได้ยินมาว่าผู้ว่าการเฉียวสนิทกับตระกูลหลูมาก แต่อย่าติดร่างแหไปกับตระกูลหลูเด็ดขาดนะครับ”คำพูดของฉู่เฉินดังขึ้น เฉียวเทียนฉี่จากทางปลายสายก็ตกสู่ห้วงแห่งความคิดในทันทีคำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนกำลังพูดถึงนิสัยของตระกูลหลู แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังเตือนเฉียวเทียนฉี่ว่าตระกูลหลูกำลังโชคร้ายครั้งใหญ่แล้วถึงยังไงฉู่เฉินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีสายใยแน่นแฟ้นกับสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรหรือจะบอกว่า แก๊งมังกรเตรียมจะจัดการตระกูลหลูแล้ว?เฉียวเทียนฉี่คิดถึงความเป็นไปได้ในจุดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ตรัสรู้เจตนาของฉู่เฉินจึงรีบกล่า
ได้! นี่คุณพูดเองนะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณยังคงหยิ่งยโสได้เหมือนตอนนี้!”ฉู่เฉินพูดพร้อมกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาหยางเทียนหลงทันทีไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงนอบน้อมของหยางเทียนหลงดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ผมหยางเทียนหลง ไม่ทราบคุณต้องการให้รับใช้อะไรครับ?”หยางเทียนหลงขณะนี้เชื่องเหมือนแมวตัวหนึ่งโดยสิ้นเชิงเรื่องที่ลูกชายของเขาตาย หยางเทียนหลงจะไปกล้าคิดเล็กคิดน้อยได้ที่ไหนอีก?เมืองหลงเฉิงล้วนสยบอยู่ใต้เท้าของฉู่เฉินทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าได้สาบานและจงรักภักดีต่อฉู่เฉิน แค่มีใจคิดคดทรยศเพียงเล็กน้อย คนของตระกูลหยางจะต้องถูกจำกัดสลายกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา“รีบยุติการค้าความร่วมมือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลูเดี๋ยวนี้”ฉู่เฉินกล่าวราบเรียบหลูไคหมิงฟังแล้วก็คิ้วกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุฉู่เฉินมีอิทธิพลถึงขั้นนั้นเชียวหรือขนาดหยางเทียนหลงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองเจียงจงยังเคารพนอบน้อมต่อฉู่เฉิน ทั้งยังฟังคำสั่งอีกด้วย?ในช่วงที่หลูไคหมิงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหยางเทียนหลงจากปลายสายตอบกลับมาว่า “ครับ! ภายในห้านาที ตระกูลหยางจะตัดขาดความร่วมมือทางการค้าทั้งหมดก
“กล้าพูดอีกคำเดียว ตาย!”สายตาฉู่เฉินโหดเหี้ยม จ้องเขม็งอู่เย่าปังพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ผมพูดไปแล้ว วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา พวกคุณสองพ่อลูกไม่ให้ตอบตามที่ผมพอใจละก็ ใครก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่ได้เลย”อู่เย่าปังสับสนมึนงงสุดๆทำไมฉู่เฉินมันกล้าขนาดนี้ ตบหน้าเขาต่อหน้าคุณหลูก็ช่างมันเถอะ ยังกล้าข่มขู่เขาได้ขนาดนี้อีก?ทำเหมือนคุณหลูเป็นอากาศธาตุไปแล้วจริงเหรอ?ขณะนี้สีหน้าหลูไคหมิงขรึมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “คุณฉู่ ผมเห็นแก่ที่คุณเคยช่วยพูดกับผู้ว่าการเฉียวให้ตระกูลหลูถึงไม่เอาความกับคุณ”“แต่มาทำร้ายสุนัขของผมต่อหน้าผมคุณเห็นตระกูลหลูสามารถรังแกได้ง่ายๆ อย่างนั้นจริงๆเหรอะ?!”ได้ยินคำพูดนี้แล้วฉู่เฉินก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ กวาดตามองหลูไคหมิงแวบหนึ่ง “รังแกตระกูลหลูคุณ? เป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ คุณคิดว่าคุณคู่ควรให้ผมลงมือรังแกคุณเองเหรอะ?”“ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งก็คือรังแก?”ฉู่เฉินพูดถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “หลูไคหมิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย คิดให้ดี เรื่องในวันนี้จะจัดการยังไงกันแน่”ได้ยินคำนี้แล้วแม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เริ่มสับสนขึ้นมา นี่ฉู่เฉินกำลังพู
หลูไคหมิงกุมท่อเหล็กมุ่งตรงไปยังหลิ่วชิงเหอ เจียงถิงเริ่มลนลานรีบไปข้างหน้าของหลิ่วชิงเหอกันทางไว้และกล่าวกับหลูไคหมิง “ไคหมิง นายทำอะไร? รีบวางมันลงซะ!”“ทำอะไร? ฉู่เฉินมันคิดจะซ่อนตัวไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะรอดูว่ามันจะซ่อนไปถึงเมื่อไหร่!”สิ้นเสียงหลูไคหมิงก็ผลักเจียงถิงออกไป ยกท่อเหล็กขึ้นกะจะฟาดไปที่ศีรษะของหลิ่วชิงเหอ!“ว๊าย!”หลิ่วชิงเหอตกใจกรีดร้องออกมาปิดตาโดยไม่รู้ตัวทันทีช่วงขณะที่ท่อเหล็กของหลูไคหมิงใกล้จะฟาดถึง เสียงปังดังลั่นขึ้นมา ทำเอาท่อเหล็กในมือหลูไคหมิงค้างกลางอากาศ“แกกล้าแตะต้องเธอก็ลองดู!”จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นหลูไคหมิงหันหน้าไปมองทางประตูก็เห็นฉู่เฉินกำลังพังประตูเข้ามาและพุ่งมาหาเขาทางนี้“เหอะๆ คุณฉู่!”เมื่อเห็นฉู่เฉินแล้วหลูไคหมิงฉีกยิ้มขึ้นมาจากนั้นโยนท่อเหล็กในมือไปอีกทางทันทีพ่อลูกอู่เย่าปังตกใจตื่นจนไปหลบข้างหลังหลูไคหมิง และจ้องมองฉู่เฉินด้วยสายตาขลาดกลัว“คุณหลู ระวังไอ้หนุ่มนี่ลงมือกะทันหันนะครับ”อู่เย่าปังที่หลบอยู่ด้านหลังของหลูไคหมิงกระซิบกล่าวเตือนหลูไคหมิงกลอกตาใส่อู่เย่าปังอย่างดุ จากนั้นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มประดับหน้า ย
แต่หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะพูดเสร็จ ฉู่เฉินก็ออกแรงหันหน้าเล็กของเธอไปอีกทางและเอามือปิดปากเล็กๆ เธอไว้เสียงเคาะและตะโกนจากนอกประตูเร็วขึ้น ฉู่เฉินก็ยิ่งร้องขออย่างเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆหลิ่วหรูเยียนหัวใจตกมาอยู่ตาตุ่ม เธอกลัวว่าประตูจะถูกผลักเปิดออก และก็กลัวว่าหลิ่วชิงเหอจะเกิดเรื่องอะไรไม่คาดฝันขึ้นนั่นคือตระกูลหลูเชียวนะตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแทบจะมีอำนาจมีอิทธิพลล้นฟ้าราวกับพลิกฝ่ามือทำไมจนถึงตอนนี้ฉู่เฉินยังมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้อยู่?แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ฉู่เฉินก็กดเธอแนบหน้าต่างบานกระจกของตึกไว้อย่างแน่นหนาเอี๊ยดอ๊าด!เมื่อได้ยินเสียงแหลมดังขึ้น ต้าหลิงจื่อที่อยู่นอกประตูก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และค่อยๆ ผลักประตูเปิดออกเป็นช่องว่างเล็กๆ อย่างเบามือยังไม่ทันที่เธอชะโงกหน้าไปมองก็ได้กลิ่นฟีโรโมนผสมผสานกันกระแทกหน้า“อ๊า!”ต้าหลิงจื่อตกใจจนรีบปิดประตูแน่น กลับไปหลบซ่อนในทางเดิน“ทำยังไงดี ทำยังไงดีนะ”ต้าหลิงจื่อก็เคยผ่านประสบการณ์มามาก รู้ดีเลยว่าฉู่เฉินในเวลานี้ต่อให้ฟ้าพังทลายก็ไม่สามารถไปขัดจังหวะเขาได้แต่ค
หลิ่วชิงเหอถอนหายใจลึกๆ ที่จริงสีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผยคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว“แต่… หนู…”หลิ่วหรูเยียนชะงัก เธออยากจะพูดว่าเธอยังมีราชันมังกร บางทีราชันมังกรอาจจะสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอสองแม่ลูกได้แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจพูดออกไปได้เป็นไปตามที่หลิ่วชิงเหอเคยพูดไว้ ฉู่เฉินเป็นคนที่ออกโรงในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ราชันมังกรก็เหมือนอย่างตอนนี้ ราชันมังกรดูเหมือนจะอยู่แค่ในจินตนาการของเธอเท่านั้นและในความเป็นจริงอู่จวิ้นเจี๋ยพาลูกน้องสิบกว่าคนเข้ามาใช้กำลังพาตัวเธอจากชั้นบนไปยังห้องประชุมซึ่งดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสักคนยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคืออู่จวิ้นเจี๋ยกระทำเรื่องเสื่อมเสียกับเธอต่อหน้าผู้ติดตามสิบกว่าคนนั้นการปรากฏตัวของฉู่เฉินทำให้เธอเลี่ยงภัยอันตรายนี้ไปได้ในตอนที่เธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน “อันที่จริงฉู่เฉินมีอะไรไม่ดีเหรอ? ติดตามเขา ไม่มีใครกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูก ติดตามเขา บริษัทเราสามารถเป็นบริษัทร่วมลงทุนยาบำรุงปราณได้ทันที” “อีกทั้งฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่น หล่อเหลา กำลังวังชาก็ไม่เลว…”หลิ่วชิงเหอกล่าวถึงตรงนี้แล้วก็เ
ต่อให้อู่เย่าปังมีกำลังทรัพย์เกินใคร แต่การสูญเสียปรมาจารย์คนหนึ่งไปก็เจ็บปวดเหลือทนสำหรับตระกูลอู่!“ไป?”ฉู่เฉินหัวเราะมองอู่เย่าปังเหมือนกำลังมองคนบ้าและกล่าว “ไม่ใช่แค่ผมจะไม่ไป วันนี้พวกคุณพ่อลูกอย่าคิดรอดออกไปจากตึกนี้ถ้าไม่ทำให้ผมพอใจ”“อธิบดีเจียง!”กลัวอะไรจะได้สิ่งนั้นจริงๆเจียงเหวินป๋อกัดฟันยิ้มที่แย่กว่าร้องไห้พร้อมกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ คุณเรียกผม?”“รบกวนอธิบดีเจียงช่วยหน่อยนะ จับตาดูสองพ่อลูก จำไว้ อย่าให้พวกมันหนีไปล่ะไม่งั้นผมจะให้คุณรับผิดชอบ”หา?เจียงเหวินป๋อแทบร้องไห้ในใจแล้ว เรื่องในนี้เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?“ผม… ผม…”เมื่อเห็นสีหน้าฉู่เฉินเริ่มเย็นชา เจียงเหวินป๋อทำได้แค่หยุดพูดแล้วกลืนน้ำลายพยักหน้ากล่าวอย่างจนปัญญา “ก็ตามคุณฉู่เลยครับ”ฉู่เฉินจึงพยักหน้าอย่างพอใจและกล่าว “อู่เย่าปัง คุณฟังให้ดี ไม่ว่าใครมา ถ้าผมยังไม่กลับมาแล้วคุณกล้าออกจากประตูไปแค่ก้าวเดียว ผมจะกวาดล้างตระกูลอู่ของคุณ!”อู่เย่าปังตกใจจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉู่เฉินเอาความมั่นใจมาจากไหน?ใครคือคนหนุนหลังฉู่เฉินกันแน่?ขณะนี้อู่เย่าปังกระวนกระวายใจใจเต้นตึกตันราวกับเสียงกลอง