เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงของฝูงชนข้างล่างเวที ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง “ได้ครับ ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสท่านนี้ขึ้นมาบนเวทีได้ตลอดเวลาเลยครับ ขอเรียนเชิญครับ” โจวว่านคังก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยศีรษะที่ยกสูงและมั่นใจ เดินไปตรงหน้าจงอาหู่ รับขวดเซรามิกมาจากมือของเขา ในตอนที่จะเปิดฝานั้น เขาก็ยังตั้งใจมองไปที่ฉู่เฉิน “น้องชาย ขออภัยด้วย”ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง หลังจากนั้นก็แบนสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าโจวกำลังเปิดขวดเซรามิก เทยาลูกกลอนบนฝ่ามือหนึ่งเม็ด หัวใจของทุกคนเต้นแรงว่าราวกับว่ามันจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกที่เพิ่งสงสัยฉู่เฉินไปเมื่อครู่ ก็ต่างพากันลุกยืนขึ้น เขย่งปลายเท้าเบิกตาโตจ้องมองไปที่โจวว่านคังผ่านไปสักพัก โจวว่านคังถึงนำยาลูกกลอนนั้นใส่กลับไปที่ขวดเซรามิกที่เดิมอย่างเคร่งขรึม“ท่านโจวเป็นอย่างไรบ้าง ของจริงไหมคะ?”หลิ่วชิงเหอกักเก็บความรู้สึกกังวลภายในใจไว้ไม่อยู่ จึงทำลายความเงียบนั้นเมื่อโจวว่านคังได้สติก็มองไปที่หลิ่วชิงเหอ และหลิ่วหรูเยียนสีหน้าเคร่งขรึมที่ยืนข้างๆ เขาเดินเข้าอย่างไร
หลังจากที่ขับไล่เหล่าตัวแทนบริษัทที่โห่ร้องออกไปแล้ว สีหน้าของฉู่เฉินถึงเรียบนิ่งขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ทุกท่านที่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะได้รับสิทธิการจำหน่ายยาบำรุงปราณไปแล้วหรือไม่ ในภายหลังก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเรา”“ดังนั้นผมของพูดไว้ตรงนี้เลย อย่างแรกไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนราคาได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีดำ ยกเลิกการร่วมมือกันตลอดไป!”“อย่างที่สองยาลูกกลอนทั้งหมด ราคาปกติคือราคาซื้อเม็ดละห้าล้านบาท และราคาขายเม็ดละยี่สิบห้าล้านบาท และพวกเราสองฝ่ายที่ร่วมมือกันแบ่งกันคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์”เมื่อคำพูดนี้ของฉู่เฉินออกไป เหล่าบริษัทที่ได้รับสิทธิการจำหน่ายก็ต่างพากันปรบมือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฟังดูเหมือนจำนวนไม่เยอะ แต่ยาลูกกลอนหนึ่งเม็ดกำไรสุทธิอยู่ที่ยี่สิบล้าน ถ้าห้าสิบห้าสิบก็สิบล้านเชียวนะสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนั้น ขอเพียงแค่ขายยาลูกกลอนได้สิบเม็ดก็เท่ากับมูลค่าการผลิตทั้งปีของบริษัทพวกเขาแล้วเมื่อเห็นสายตาที่ทั้งเคารพและชื่นชมฉู่เฉินจากฝูงชน หลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่อก เมื่อเดือนก่อนฉู่เฉินยังเป็นแค่ไอ
หลิ่วหรูเยียนในขณะนี้ กลับใช้สายตาลุกเป็นไฟมองไปที่ฉู่เฉิน แววตาไม่มีความเกลียดชังแม้แต่น้อย แต่กลับมีความกระตือรือร้นที่ไม่อาจปกปิดได้เพราะว่าในตอนนี้ในมือเธอยังมีไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้ใช้!บางทีฉู่เฉินในวันนี้ อาจจะเป็นตัวเธอในอนาคต ไม่สิ!ความสำเร็จของเธอจะต้องไปไกลกว่าฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อย่างแน่นอนเมื่อนึกได้แบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างฮึกเหิม ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ“โอเคครับ เวลาหลังจากนี้ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้เลยนะครับ หากมีปัญหาอะไรผมสามารถตอบทุกคนได้ทุกเมื่อครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็เดินลงมาจากแท่นพูดเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินมาถึงก็นั่งลงโต๊ะกลมข้างๆ แท่นพูด โจวว่านคังก็รีบเดินตามไป“คุณฉู่ ผมประทับใจในความสำเร็จของคุณในทางการแพทย์มากๆ ผมคนนี้ประทับใจมากจริงๆ ผมมีเรื่องอยากจะร้องขอคุณฉู่เรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าคุณฉู่จะตอบตกลงหรือไม่?”ฉู่เฉินได้รับความชื่นชมจากโจวว่านคังมากถึงขนาดที่เขาแสดงทัศนคติที่ถ่อมตัวมากฉู่เฉินมีความประทับใจที่ดีมากต่อโจวว่านคัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ท่านมีเรื่องอะไรพูดออกมาได้เลยครับ หากผมสามารถทำได้
“ท่านโจว ทำไมท่านทำแบบนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินรีบพยุงโจวว่านคังขึ้นมาจากพื้น“คุณฉู่ ทักษะการแพทย์ของคุณขั้นเทพแล้วครับ ผมก็ได้มีประสบการณ์บางอย่างในชีวิตมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครที่สามารถเปรียบเทียบกับคุณฉู่ได้ในรอบหลายสิบปีเลย”“หากใช้พรสวรรค์ของคุณ อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด หากถามความเห็นของผม ผมว่าคุณฉู่ควรจะแสดงให้คนทั้งโลกประจักษ์ความสามารถของคุณนะครับ และการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นเวทีที่ไม่เลวเลย ไม่ทราบว่าคุณฉู่เคยคิดเข้าร่วมบ้างไหมครับ?”โจวว่านคังพูดถึงความคิดภายในใจตนเองอย่างไม่อ้อมค้อมบุคคลที่มีความสามารถแบบฉู่เฉินแบบนี้ หากไม่ได้เฉิดฉาย เช่นนั้นก็จะเป็นความสูญเสียของวงการแพทย์แผนจีน อีกทั้งยังเป็นความสูญเสียของแดนมังกรอีกด้วยในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนจีน โจวว่านคังแทบจะใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อเชื้อเชิญฉู่เฉิน“การแข่งขันแพทย์แผนจีนอีกแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันก่อนฮว่าจิ่วหยางมาเชิญเขาด้วยตนเอง อีกทั้งฉู่เฉินเองก็ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ว่าวันนี้โจวว่านคังก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าร่วม นั่นกลับทำให้ฉู่เฉินกลัดกลุ้มใ
หลินชือหย่าที่เดินไปทางลานจอดรถไปด้วย กำลังต่อสายหาประธานหลินหลินฟางเจิ้งของหลินซื่อกรุ๊ปไปด้วย ก็นำผลงานแถลงข่าวรายงานให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ได้! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องได้รับสิทธิการจำหน่ายมาให้ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลินซื่อกรุ๊ป! หลาน เมื่อกี้หลานพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนแซ่ฉู่นั่นดูไม่ได้เป็นคนดีมากเท่าไหร่...”“อารองคงไม่ได้จะให้หนู...”ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหลินชือหย่าสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวราวกับกระดาษทันที“แน่นอนว่าอาไม่ได้จะให้หลานอุทิศตนให้แพทย์แผนจีนต่ำต้อยนั่น สิ่งของที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะถูกไม่เห็นค่าเสมอ เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวอาจะรีบไปที่ตึกเทียนเฟิ่ง หลานรออาอยู่ที่ลานจอดรถ เมื่อถึงตอนนั้นทำตามที่อาบอกก็พอ”พูดจบก็ตัดสายไปใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของหลินชือหย่าแสดงความเศร้าเล็กน้อยตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลินซื่อกรุ๊ปก็ถูกส่งต่อไปให้อารองแต่ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้หลินฟางเจิ้งพยายามคิดหาวิธีที่จะใช้หลินชือหย่า และยังบังคับให้เธอตกเป็นเหยื่อของการแต่งงานเพื่อธุรกิจหลายครั้งแ
ใช่แล้วล่ะ!ในใจของเธอ ฉู่เฉินก็เป็นแค่คนโกหกหลอกลวงคนหนึ่งคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะสามารถหลอมยาบำรุงปราณออกมาได้อย่างไร?หากฉู่เฉินมีความสามารถแบบนั้นจริง ทำไมพวกเธอสองแม่ลูกจึงไม่รู้ล่ะ อีกทั้งยังถูกขังไว้นานกว่าสามปีอีกด้วย?แค่คิดก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว“เธอดูมั่นใจมากเลยนะ?”สายตาที่คุกคามมองไปที่เนินหิมะขาวของหลิ่วหรูเยียน“มองอะไร แกมันก็แค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ มองไปก็เท่านั้น!”หลิ่วหรูเยียนรีบยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอก เธอสาปแช่งด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า“มองเธองั้นเหรอ? เธอประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า อีกอย่างนะส่วนไหนในร่างกายของเธอบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น? แม้แต่ปานบนก้นเธอรูปร่างเป็นอย่างไร ฉันก็รู้หมดนั่นแหละ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์สามปีที่ผ่านมานี้สองแม่ลูกไม่เคยแม้แต่จะหลบซ่อนเขาตอนอาบน้ำเลย แล้วจะมีความลับอะไรอีกล่ะ?“แก... หน้าไม่อาย!”หลิ่วหรูเยียนกระทืบเท้าเล็ก ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ “ฉู่เฉิน แกอย่าได้ใจให้มันมากไปเลย ในการแข่งขันแพทย์แผนจีนฉันจะเปิดโปงแกต่อหน้าทุกคน!”“ให้ทุกคนได้เห็นว่าธาตุแท้ของคนไม่ได้เรื่องแบบแกเป็นอย่างไร!”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นก็อ
ฉู่เฉินก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป ระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาที ภายในรถก็มีเสียงครางไม่ได้ศัพท์ดังออกมาในขณะที่ฉู่เฉินกำลังโชว์ศักยภาพของเขาอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน ทำเอากู้รั่วเสวี่ยที่กำลังร่วมสงครามรักอยู่นั้นตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านก็ถูกดับลงทันทีเธอหอยหายใจผละออกมาจากอ้อมอกของฉู่เฉินเธอมองไปที่ปลายสาย เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของที่บ้านโทรมา กู้รั่วเสวี่ยก็โกรธขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“หนูบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าได้รับสิทธิการจำหน่ายมาแล้ว แต่ว่าแบ่งกับหลายบริษัท ไม่มีใครได้ไปแค่คนเดียว!”กู้รั่วเสวี่ยเบ้ปากพูดด้วยความโมโหเวลาสำคัญแบบนี้โทรมาหามันน่ารำคาญจริงๆฝ่ายตรงข้ามสนทนากับกู้รั่วเสวี่ยอีกเพียงแค่มากี่ประโยคก็ตัดสายไป“หึ น่ารำคาญจริงๆ เซ็งหมดแล้วเนี่ย!”กู้รั่วเสวี่ยโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอเม้มริมฝีปากแล้วแนะนำขึ้นมาว่า “ฉู่เฉินเย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหมคะ ฉันรับรองค่ะว่าครั้งนี้จะไม่ใส่เกลือลงไปเยอะแล้ว” ฉู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พูดขึ้นมาว่า “วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ ในสถานการณ์งานแถลงข่าววันนี้คุณก็เ
คลับอวิ๋นติ่งเป็นคลับใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นานในเจียงจง เป็นออนเซ็นสุขภาพขนาดใหญ่ที่รวบรวมไว้ทั้งที่พัก อาหาร และความบันเทิงแค่พื้นที่ก็ครอบคลุมไปกว่าหลายพันตารางเมตรหลินชือหย่าพาฉู่เฉินมายังห้องอาบน้ำส่วนตัวในสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งในสนาม กลีบดอกไม้ที่โปรยไว้ล่วงหน้า และไฟในห้องก็ปรับเป็นโทนสีอุ่น และอบอุ่นเป็นอย่างมาก“คุณฉู่คะ งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาค่ะ”พูดจบหลินชือหย่าก็เดินเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องข้างๆใช้เวลาไม่นานเธอก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกมา สวมบิกินี่สีขาวและสีน้ำเงินเท่านั้นอยู่ข้างใต้ ผลักประตูแล้วเดินออกมาในตอนที่เธอปรากฏกายข้างหน้าฉู่เฉินเป็นครั้งที่สอง แม้แต่ฉู่เฉินที่มีประสบการณ์มามากมายก็สายตาลุกวาวขึ้นมาหลินชือหย่าที่มองไปดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร คิดไม่ถึงว่าเรือนร่างของเธอจะเป็นภัยได้ถึงขนาดนี้?บางทีอาจจะเป็นเพราะหลินชือหย่ามักจะออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นท้องน้อยหรือขาเรียวยาวขาวสวยนั่นไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยผิวกายขาวเนียนกระชับบั้นท้ายคู่นั้นที่กลมฟูโค้งงอนราวกับลูกท้อที่สุกงอมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ