เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงของฝูงชนข้างล่างเวที ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง “ได้ครับ ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสท่านนี้ขึ้นมาบนเวทีได้ตลอดเวลาเลยครับ ขอเรียนเชิญครับ” โจวว่านคังก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยศีรษะที่ยกสูงและมั่นใจ เดินไปตรงหน้าจงอาหู่ รับขวดเซรามิกมาจากมือของเขา ในตอนที่จะเปิดฝานั้น เขาก็ยังตั้งใจมองไปที่ฉู่เฉิน “น้องชาย ขออภัยด้วย”ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง หลังจากนั้นก็แบนสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าโจวกำลังเปิดขวดเซรามิก เทยาลูกกลอนบนฝ่ามือหนึ่งเม็ด หัวใจของทุกคนเต้นแรงว่าราวกับว่ามันจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกที่เพิ่งสงสัยฉู่เฉินไปเมื่อครู่ ก็ต่างพากันลุกยืนขึ้น เขย่งปลายเท้าเบิกตาโตจ้องมองไปที่โจวว่านคังผ่านไปสักพัก โจวว่านคังถึงนำยาลูกกลอนนั้นใส่กลับไปที่ขวดเซรามิกที่เดิมอย่างเคร่งขรึม“ท่านโจวเป็นอย่างไรบ้าง ของจริงไหมคะ?”หลิ่วชิงเหอกักเก็บความรู้สึกกังวลภายในใจไว้ไม่อยู่ จึงทำลายความเงียบนั้นเมื่อโจวว่านคังได้สติก็มองไปที่หลิ่วชิงเหอ และหลิ่วหรูเยียนสีหน้าเคร่งขรึมที่ยืนข้างๆ เขาเดินเข้าอย่างไร
หลังจากที่ขับไล่เหล่าตัวแทนบริษัทที่โห่ร้องออกไปแล้ว สีหน้าของฉู่เฉินถึงเรียบนิ่งขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ทุกท่านที่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะได้รับสิทธิการจำหน่ายยาบำรุงปราณไปแล้วหรือไม่ ในภายหลังก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเรา”“ดังนั้นผมของพูดไว้ตรงนี้เลย อย่างแรกไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนราคาได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีดำ ยกเลิกการร่วมมือกันตลอดไป!”“อย่างที่สองยาลูกกลอนทั้งหมด ราคาปกติคือราคาซื้อเม็ดละห้าล้านบาท และราคาขายเม็ดละยี่สิบห้าล้านบาท และพวกเราสองฝ่ายที่ร่วมมือกันแบ่งกันคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์”เมื่อคำพูดนี้ของฉู่เฉินออกไป เหล่าบริษัทที่ได้รับสิทธิการจำหน่ายก็ต่างพากันปรบมือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฟังดูเหมือนจำนวนไม่เยอะ แต่ยาลูกกลอนหนึ่งเม็ดกำไรสุทธิอยู่ที่ยี่สิบล้าน ถ้าห้าสิบห้าสิบก็สิบล้านเชียวนะสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนั้น ขอเพียงแค่ขายยาลูกกลอนได้สิบเม็ดก็เท่ากับมูลค่าการผลิตทั้งปีของบริษัทพวกเขาแล้วเมื่อเห็นสายตาที่ทั้งเคารพและชื่นชมฉู่เฉินจากฝูงชน หลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่อก เมื่อเดือนก่อนฉู่เฉินยังเป็นแค่ไอ
หลิ่วหรูเยียนในขณะนี้ กลับใช้สายตาลุกเป็นไฟมองไปที่ฉู่เฉิน แววตาไม่มีความเกลียดชังแม้แต่น้อย แต่กลับมีความกระตือรือร้นที่ไม่อาจปกปิดได้เพราะว่าในตอนนี้ในมือเธอยังมีไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้ใช้!บางทีฉู่เฉินในวันนี้ อาจจะเป็นตัวเธอในอนาคต ไม่สิ!ความสำเร็จของเธอจะต้องไปไกลกว่าฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อย่างแน่นอนเมื่อนึกได้แบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างฮึกเหิม ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ“โอเคครับ เวลาหลังจากนี้ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้เลยนะครับ หากมีปัญหาอะไรผมสามารถตอบทุกคนได้ทุกเมื่อครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็เดินลงมาจากแท่นพูดเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินมาถึงก็นั่งลงโต๊ะกลมข้างๆ แท่นพูด โจวว่านคังก็รีบเดินตามไป“คุณฉู่ ผมประทับใจในความสำเร็จของคุณในทางการแพทย์มากๆ ผมคนนี้ประทับใจมากจริงๆ ผมมีเรื่องอยากจะร้องขอคุณฉู่เรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าคุณฉู่จะตอบตกลงหรือไม่?”ฉู่เฉินได้รับความชื่นชมจากโจวว่านคังมากถึงขนาดที่เขาแสดงทัศนคติที่ถ่อมตัวมากฉู่เฉินมีความประทับใจที่ดีมากต่อโจวว่านคัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ท่านมีเรื่องอะไรพูดออกมาได้เลยครับ หากผมสามารถทำได้
“ท่านโจว ทำไมท่านทำแบบนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินรีบพยุงโจวว่านคังขึ้นมาจากพื้น“คุณฉู่ ทักษะการแพทย์ของคุณขั้นเทพแล้วครับ ผมก็ได้มีประสบการณ์บางอย่างในชีวิตมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครที่สามารถเปรียบเทียบกับคุณฉู่ได้ในรอบหลายสิบปีเลย”“หากใช้พรสวรรค์ของคุณ อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด หากถามความเห็นของผม ผมว่าคุณฉู่ควรจะแสดงให้คนทั้งโลกประจักษ์ความสามารถของคุณนะครับ และการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นเวทีที่ไม่เลวเลย ไม่ทราบว่าคุณฉู่เคยคิดเข้าร่วมบ้างไหมครับ?”โจวว่านคังพูดถึงความคิดภายในใจตนเองอย่างไม่อ้อมค้อมบุคคลที่มีความสามารถแบบฉู่เฉินแบบนี้ หากไม่ได้เฉิดฉาย เช่นนั้นก็จะเป็นความสูญเสียของวงการแพทย์แผนจีน อีกทั้งยังเป็นความสูญเสียของแดนมังกรอีกด้วยในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนจีน โจวว่านคังแทบจะใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อเชื้อเชิญฉู่เฉิน“การแข่งขันแพทย์แผนจีนอีกแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันก่อนฮว่าจิ่วหยางมาเชิญเขาด้วยตนเอง อีกทั้งฉู่เฉินเองก็ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ว่าวันนี้โจวว่านคังก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าร่วม นั่นกลับทำให้ฉู่เฉินกลัดกลุ้มใ
หลินชือหย่าที่เดินไปทางลานจอดรถไปด้วย กำลังต่อสายหาประธานหลินหลินฟางเจิ้งของหลินซื่อกรุ๊ปไปด้วย ก็นำผลงานแถลงข่าวรายงานให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ได้! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องได้รับสิทธิการจำหน่ายมาให้ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลินซื่อกรุ๊ป! หลาน เมื่อกี้หลานพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนแซ่ฉู่นั่นดูไม่ได้เป็นคนดีมากเท่าไหร่...”“อารองคงไม่ได้จะให้หนู...”ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหลินชือหย่าสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวราวกับกระดาษทันที“แน่นอนว่าอาไม่ได้จะให้หลานอุทิศตนให้แพทย์แผนจีนต่ำต้อยนั่น สิ่งของที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะถูกไม่เห็นค่าเสมอ เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวอาจะรีบไปที่ตึกเทียนเฟิ่ง หลานรออาอยู่ที่ลานจอดรถ เมื่อถึงตอนนั้นทำตามที่อาบอกก็พอ”พูดจบก็ตัดสายไปใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของหลินชือหย่าแสดงความเศร้าเล็กน้อยตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลินซื่อกรุ๊ปก็ถูกส่งต่อไปให้อารองแต่ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้หลินฟางเจิ้งพยายามคิดหาวิธีที่จะใช้หลินชือหย่า และยังบังคับให้เธอตกเป็นเหยื่อของการแต่งงานเพื่อธุรกิจหลายครั้งแ
ใช่แล้วล่ะ!ในใจของเธอ ฉู่เฉินก็เป็นแค่คนโกหกหลอกลวงคนหนึ่งคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะสามารถหลอมยาบำรุงปราณออกมาได้อย่างไร?หากฉู่เฉินมีความสามารถแบบนั้นจริง ทำไมพวกเธอสองแม่ลูกจึงไม่รู้ล่ะ อีกทั้งยังถูกขังไว้นานกว่าสามปีอีกด้วย?แค่คิดก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว“เธอดูมั่นใจมากเลยนะ?”สายตาที่คุกคามมองไปที่เนินหิมะขาวของหลิ่วหรูเยียน“มองอะไร แกมันก็แค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ มองไปก็เท่านั้น!”หลิ่วหรูเยียนรีบยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอก เธอสาปแช่งด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า“มองเธองั้นเหรอ? เธอประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า อีกอย่างนะส่วนไหนในร่างกายของเธอบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น? แม้แต่ปานบนก้นเธอรูปร่างเป็นอย่างไร ฉันก็รู้หมดนั่นแหละ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์สามปีที่ผ่านมานี้สองแม่ลูกไม่เคยแม้แต่จะหลบซ่อนเขาตอนอาบน้ำเลย แล้วจะมีความลับอะไรอีกล่ะ?“แก... หน้าไม่อาย!”หลิ่วหรูเยียนกระทืบเท้าเล็ก ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ “ฉู่เฉิน แกอย่าได้ใจให้มันมากไปเลย ในการแข่งขันแพทย์แผนจีนฉันจะเปิดโปงแกต่อหน้าทุกคน!”“ให้ทุกคนได้เห็นว่าธาตุแท้ของคนไม่ได้เรื่องแบบแกเป็นอย่างไร!”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นก็อ
ฉู่เฉินก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป ระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาที ภายในรถก็มีเสียงครางไม่ได้ศัพท์ดังออกมาในขณะที่ฉู่เฉินกำลังโชว์ศักยภาพของเขาอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน ทำเอากู้รั่วเสวี่ยที่กำลังร่วมสงครามรักอยู่นั้นตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านก็ถูกดับลงทันทีเธอหอยหายใจผละออกมาจากอ้อมอกของฉู่เฉินเธอมองไปที่ปลายสาย เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของที่บ้านโทรมา กู้รั่วเสวี่ยก็โกรธขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“หนูบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าได้รับสิทธิการจำหน่ายมาแล้ว แต่ว่าแบ่งกับหลายบริษัท ไม่มีใครได้ไปแค่คนเดียว!”กู้รั่วเสวี่ยเบ้ปากพูดด้วยความโมโหเวลาสำคัญแบบนี้โทรมาหามันน่ารำคาญจริงๆฝ่ายตรงข้ามสนทนากับกู้รั่วเสวี่ยอีกเพียงแค่มากี่ประโยคก็ตัดสายไป“หึ น่ารำคาญจริงๆ เซ็งหมดแล้วเนี่ย!”กู้รั่วเสวี่ยโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอเม้มริมฝีปากแล้วแนะนำขึ้นมาว่า “ฉู่เฉินเย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหมคะ ฉันรับรองค่ะว่าครั้งนี้จะไม่ใส่เกลือลงไปเยอะแล้ว” ฉู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พูดขึ้นมาว่า “วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ ในสถานการณ์งานแถลงข่าววันนี้คุณก็เ
คลับอวิ๋นติ่งเป็นคลับใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นานในเจียงจง เป็นออนเซ็นสุขภาพขนาดใหญ่ที่รวบรวมไว้ทั้งที่พัก อาหาร และความบันเทิงแค่พื้นที่ก็ครอบคลุมไปกว่าหลายพันตารางเมตรหลินชือหย่าพาฉู่เฉินมายังห้องอาบน้ำส่วนตัวในสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งในสนาม กลีบดอกไม้ที่โปรยไว้ล่วงหน้า และไฟในห้องก็ปรับเป็นโทนสีอุ่น และอบอุ่นเป็นอย่างมาก“คุณฉู่คะ งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาค่ะ”พูดจบหลินชือหย่าก็เดินเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องข้างๆใช้เวลาไม่นานเธอก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกมา สวมบิกินี่สีขาวและสีน้ำเงินเท่านั้นอยู่ข้างใต้ ผลักประตูแล้วเดินออกมาในตอนที่เธอปรากฏกายข้างหน้าฉู่เฉินเป็นครั้งที่สอง แม้แต่ฉู่เฉินที่มีประสบการณ์มามากมายก็สายตาลุกวาวขึ้นมาหลินชือหย่าที่มองไปดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร คิดไม่ถึงว่าเรือนร่างของเธอจะเป็นภัยได้ถึงขนาดนี้?บางทีอาจจะเป็นเพราะหลินชือหย่ามักจะออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นท้องน้อยหรือขาเรียวยาวขาวสวยนั่นไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยผิวกายขาวเนียนกระชับบั้นท้ายคู่นั้นที่กลมฟูโค้งงอนราวกับลูกท้อที่สุกงอมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ
ไม่มีเงินเหรอ?สามคำนี้ไม่ใช่แค่กำลังเพียงดูถูกดูแคลนหลิวจิ่งหง แต่เป็นดูถูกดูแคลนคนตระกูลหลิว!“โอเคค่ะ”พิธีกรสาวสวยคว้าเครื่องโพสจากพนักงานข้างๆ เธอสั่นหน้าอกใหญ่และบั้นท้ายของเธอ แล้วเดินไปหาฉู่เฉินด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุภาพบุรุษที่มีอนาคตเหมือนฉู่เฉินไม่ใช่จะพบเจอได้ในทุกวันแม้ว่าจะมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูล แต่คนจำนวนไม่น้อยมาเพราะอยากหลับนอนกับพิธีกรสาวสวยต่างหากแต่คนเหล่านั้นถ้าไม่ใช่ตาแก่หัวงูที่อายุอานามสี่ห้าสิบ ก็เป็นพวกลูกหลานเศรษฐีที่เอาแต่พึ่งพาครอบครัว ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเองแต่ฉู่เฉินเขาเป็นคนประสบความสำเร็จมีเงินมหาศาลคนแรกของตระกูล นั่นแหละคือข้อแตกต่างของพวกเขาสมมุติว่าสามารถสนิทสนมกับฉู่เฉินได้มากกว่านี้ หาสถานที่ที่ไม่มีใคร แสดงเทคนิคการใช้ปากของเธอ หรือว่าคิดท่าทางใหม่ๆ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ แล้ว“หยุด!”หลิวจิ่งหงโกรธจนหน้าเขียวแม่งเอ๊ย ในมณฑลนี้มีใครกว่าบอกว่าตระกูลหลิวไม่มีเงินบ้าง?นี่แทบจะเหมือนด่าตระกูลหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย!“คุณชายหลิว คุณยังมีเงินเหลืออยู่ไหมครับ?ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มยียวนกวนประสาท “แ
เขาใช้เงินกว่าร้อยกว่าล้านไปกับประมูลดอกไม้และของเก่าต่างๆในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่า แน่นอนว่าการเสนอราคาก็จะดุเดือดเป็นธรรมดา โดยเฉพาะฉู่เฉินที่เสนอราคาให้สูงลิบลิ่ว แม้ว่าจะใช้เงินประมูลไปร้อยกว่าล้านก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถครอบครองสิ่งนั้นได้แต่เขาก็ครุ่นคิดอีกครั้ง ฉู่เฉินมันก็แค่ไอ้แมงดา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เฉินจะท้าทายเขาขนาดนี้!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวจิ่งหงก็ชูป้ายขึ้นมาทันที “สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน!”คำพูดนี้ออกไป เหล่าสาธารณชนที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างพากันสูดลมหายใจเหน็บหนาว ราคาเริ่มต้นที่ห้าร้อยล้าน หลิวจิ่งหงเสนอราคาไปสองพันห้าร้อยล้าน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นเสนอราคาแข่งกับเขาสักพักสายตาของทุกคนก็หันไปมองฉู่เฉินนัยน์ตางดงามของพิธีกรก็มองไปทางฉู่เฉินเช่นกันหากได้รับราคาประมูลยิ่งสูง ส่วนแบ่งที่เธอจะได้ก็จะยิ่งเยอะเข้าไปอีก แม้ว่าฉู่เฉินจะทำเพื่อความสนุก แต่เธอก็ได้รับประโยชน์มาไม่น้อยเช่นกันฉู่เฉินปอกส้มเป็นชิ้นแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นหยิบป้ายประมูลขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “ห้าพันล้านบาทถ้วน”ซี้ดๆ !ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันจับจ้องฉู่เฉินอย่างตะล
“เจ้ารู้จักกระถางเก้าดาราด้วยหรือ?”อวี้ลู่มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่ประหลาดใจกระถางเก้าดาราเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่โลกเซียนเอง และยังเป็นของวิเศษสำคัญที่ใช้จัดเตรียมค่ายกลเก้าดาราสังหารอีกด้วยพลังของค่ายกลเก้าดาราสังหารแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปราณของแต่ละบุคคลอีกด้วย เช่นเดียวกับฉู่เฉินตอนนี้ หากเขาสร้างค่ายกลเก้าดาราสังหารขึ้นมา เขาก็สามารถฆ่าคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาได้ทันทีแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกว่าเขาสองระดับ เขาก็สามารถทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน หากจำนวนของฝ่ายตรงข้ามไม่มากเกินไป เขาก็สามารถฆ่าได้ตามใจ“แปลกใจเหรอครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มนิ่งๆ ให้กับอวี่ลู่ วิชาของมังกรเฒ่าครอบคลุมทุกสิ่งจะไม่มีได้อย่างไร?แม้ว่ากระถางเก้าดาราจะไม่ได้มีประโยชน์กับฉู่เฉินในตอนนี้มากนัก แต่ในภายภาคหน้าเขาจะต้องได้ใช้แน่นอน เพราะอย่างไรฉู่เฉินก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะไปทำให้ผู้มีอิทธิพลคนไหนไม่พอใจหรือไม่และคนที่อยู่ข้างกายเขาจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเสมอค่ายกลเก้าดาราสังหารเป็นตัวเลือกที่ไม่แย่“ต่อไปคือสินค้าประมูลชิ้นแรกของวันนี้ นั่นคือภาพวาดราชาสวรรค์ประทานโอร
หลินชือหย่าพยักหน้าแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อย “ฉู่เฉิน เมื่อกี้คุณล่วงเกินหลิวจิ่งหงไปแล้ว ฉันเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณจริง ๆ”ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่อยู่ชั้นหนึ่งเป็นเพียงการตบหน้าหลิวจิ่งหงด้วยคำพูด เช่นนั้นเมื่อกี้ ฉู่เฉินก็แตะขีดจำกัดล่างของตระกูลหลิวแล้ว ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าฉู่เฉินเตะแรงแค่ไหน แต่ดูจากสภาพของหลิวจิ่งหง เกรงว่าอสุจิของรุ่นถัดไปคงจะไหลจนแห้งเหือดหมดแล้ว ฐานะของตระกูลหลิวในเมืองเอกของมณฑลไม่ใช่แค่อาศัยความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเท่านั้น ได้ยินว่าตระกูลหลิวยังเป็นลูกศิษย์นอกสำนักอะไรสักแห่งด้วยเมื่อหลายปีก่อน หลิวฮ่าวฮุยบิดาของหลิวจิ่งหงก็อาศัยพลังยุทธ์บดขยี้โลกใต้ดินแทบจะทั่วทั้งเมืองเอกของมณฑล ถึงได้สร้างอาณาเขตธุรกิจของตระกูลหลิวในปัจจุบันถ้าตระกูลหลิวพุ่งเป้ามาที่ฉู่เฉิน ผลที่ตามมานั้นไม่กล้าจินตนาการจริง ๆ“ไม่เป็นไร ตระกูลหลิวแล้วยังไง ตราบใดที่พวกเขากล้ามา ผมก็กล้าฝังมัน!” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “จำไว้นะ คุณเป็นผู้หญิงของฉู่เฉิน ในโลกนี้ ใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้ทั้งนั้น”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉิน หลินชือหย่าอดไม่ได้ที่จ