“ฉันจะบอกแกไว้นะ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ได้รับความคุกคามจากแกอีกต่อไป!”วินาทีต่อมา ร่องรอยของความแน่วแน่ปรากฏชัดในดวงตาที่งดงามของหลิ่วชิงเหอ!ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่มันจะทำเกินไปแล้วนะ เมื่อเย็นวานก่อนก็เพิ่งหลอกเธอไป ตอนนี้ยังจะใช้อนาคตของบริษัทมาข่มขู่เธออีกหากนับตามลำดับแล้ว เธอเป็นแม่บุญธรรมของฉู่เฉินเชียวนะ ไม่ใช่ที่ระบายส่วนตัวของฉู่เฉิน ทำไมเธอต้องถูกควบคุมจากฉู่เฉินอยู่เสมอ?!“ฉันรังแกพวกเธอสองแม่ลูกงั้นเหรอ? พูดออกมาได้ไม่อายปาก!”ฉู่เฉินมองดูหลิ่วชิงเหอด้วยสายตาที่เย็นชามากขึ้น พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “อย่างอื่นฉันจะไม่พูดถึงนะ หากไม่มีตระกูลฉู่ของพวกฉัน พวกเธอสองแม่ลูกเร่ร่อนอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว”“แต่เธอตอบแทนตระกูลฉู่ของพวกฉันอย่างไร!”“สามปีที่ผ่านมานี้ พวกเธอสองแม่ลูกทำกับฉันแบบไหน!”“ที่พวกเธอติดค้างฉันชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมดหรอก ก่อนหน้านี้มันก็แค่การเก็บดอกเบี้ยเล็กน้อยเท่านั้นเอง!”หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินตอกกลับจนพูดไม่ออก ก้าวถอยหลังออกไป สีหน้ากังวลพูดขึ้นมาว่า “ฉู่เฉิน ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าโจวเทียนเฟิ่งจะฟังแก อีกทั้งยังไม่เชื่อด้วยว่าแพทย์แผนจีนอาวุโสจะเชื
“เราก็เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างเธอสนุกทุกครั้งไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อประโยคนี้ออกไป หลิ่วชิงเหอเหมือนกับถูกน้ำเย็นราดบนหัวของเธอแม้แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมทุกครั้งที่เธอมีอะไรกับฉู่เฉิน มักจะมีความรู้สึกที่แตกต่างไปทุกครั้งไม่เหมือนกันสักครั้งแต่กลับทำให้เธอหยุดไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่าเมื่อคืนเธอร้องจนเสียงเกือบแหบแต่ว่าเธอไม่ชอบเลยที่ถูกฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานข่มเหงแบบนี้“ต้องมีสักวันที่ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง!”หลิ่วชิงเหอราวกับถูกสูบวิญญาณไปจนหมด สภาพเหมือนกับศพที่เดินได้ ก้าวเท้าที่หนักอึ้งเดินไปข้างหน้าฉู่เฉินตอนนั้นเองแม้แต่ความกล้าที่จะต่อต้านก็ไม่มีเลยสักนิด ฉู่เฉินได้จับจุดอ่อนของเธอไว้แล้วนอกจากยอมแพ้ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว“อย่ามาแสร้งทำตัวน่าสงสารเลย นี่มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินมองดูหลิ่วชิงเหอที่บิดบั้นท้ายอวบอั๋น ขาขาวราวกับหิมะที่เดินเข้ามาหาเขาสั่นคลอนไปหมด สายตามองต่ำลงไปเล็กน้อย มองผ่านคอเสื้อก็จะเห็นหน้าอกสีขาวราวกับหิมะที่เป็นร่องลึกหลิ่วชิงเหอสูดหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้นมา
เธอคือหลินชือหย่า คุณหนูผู้ร่ำรวยที่สุดในมณฑลจากตระกูลแต่ก็บังเอิญเหมือนกัน กู้รั่วเสวี่ยกับหลินชือหย่าเป็นเพื่อนสมัยมหาลัย เพิ่งเจอกันที่หน้าประตูเมื่อกี้ ด้วยเหตุนี้สองสาวจึงรวมตัวกันแต่การปรากฏตัวของทั้งสองสาวงาม ดึงดูดความสนใจจากคนมาจีบหลิ่วหรูเยียนที่แต่เดิมกำลังรุมล้อมเธอได้อย่างเห็นได้ชัดเมื่อกลุ่มชายหนุ่มร่ำรวยที่มีดวงตาสีเขียวเดินเข้ามาหาเธอ หลินชือหย่าก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาอย่างกะทันหัน“รั่วเสวี่ย ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ”หลินชือหย่าพูดขึ้นมา รีบลุกขึ้นปลีกตัวออกมาจากเหล่าเศรษฐีที่มากวนใจเธอ รีบเดินตรงไปทางหนีไฟอย่างรวดเร็วแต่เมื่อเธอกำลังผลักเปิดประตูช่องเล็กๆ ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างใน ทำให้ตัวของหลินชือหย่าตัวแข็งทื่อทันทีทำไมมีเสียงแบบนี้ดังออกมาได้นะ...ทันใดนั้นเองหลิ่วชิงเหอที่กำลังดื่มด่ำก็ไม่รู้ตัว แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้ถึงหลินชือหย่าที่อยู่ทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าประตูนานแล้ว“ประธานหลิ่วอร่อยไหม?”ฉู่เฉินก้มศีรษะลงไปถามอย่างจงใจหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ฉวยโอกาสจากเธอไปแล้ว ยังจะเอาแต่พูดไม่หยุดเธอจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างดุร้า
ความตกตะลึงที่ฉู่เฉินมอบให้หลินชือหย่า ไม่น้อยไปกว่าระเบิดลูกใหญ่เลยแม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ถึงแม้ว่าไม่เคยกินหมู แต่จะเคยเจอหมูวิ่งมาก่อนเหรอ? เธอเคยเห็นการกระทำพวกนั้นในหนังผู้ใหญ่ พระเอกทำต่อเนื่องได้มากสุดก็แค่สิบนาทีกว่าๆ เองไม่ใช่เหรอ?อีกอย่างเขายังเป็นมืออาชีพอีกด้วยครั้งนี้หลินชือหย่าภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัย มองลองผ่านช่องประตูเล็กๆ มองไปยังภาพที่เร่าร้อนของทั้งสองคนแต่ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ ครั้งนี้เธอไม่มีความเหนียมอายเลยแม้แต่น้อย กลับกันร่างกายของเธอยังร้อนรุ่มอีกด้วย และบนใบหน้าเล็กขาวนั้นก็เปลี่ยนแดงก่ำ ร่องรอยสีชมพูก็ปรากฏขึ้นผ่านไปหลายนาทีหลิ่วชิงเหอค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอึก!หลินชือหย่าก็กลืนน้ำลายตามไปด้วย“ตึกๆๆ”เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้นดังขึ้นมา หลินชือหย่าตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รีบร้อนถอยหลังออกไป รีบเข้าไปหลบในฝูงชนตามมาด้วยประตูใหญ่ที่เปิดออก หลิ่วชิงเหอเดินอย่างมั่นใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ เดินตรงไปทางหลิ่วหรูเยียนหลินชือหย่าแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองหรือว่า... หลังจากทำเรื่องอย่างว่าจะทำให้ผู้หญิงมั่นใจขึ้นงั้นเหรอ?ไม
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?หลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกก็มองไปที่จงอาหู่อย่างไม่อยากจะน่าเชื่อทำไมบริษัทเล็กๆ ที่เทียบไม่ติดกับฉู่เฉินกรุ๊ปถึงได้โควตาไป แต่ทำไมถึงไม่มีฉู่ซื่อกรุ๊ป?!“โอเคครับ ตัวแทนบริษัทที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง ตอนนี้สามารถออกจากงานไปได้เลยครับ”จงอาหู่พูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง“ฉันสงสัยว่าในนี้จะมีลับลมคมในบางอย่าง!”หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาก่อนคนแรก ถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ“ฮะ? คุณผู้หญิงท่านนี้ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ?”จงอาหู่ขมวดคิ้ว มองไปที่หลิ่วหรูเยียน“ซินฉู่ฟาร์มาติคอลบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ทำไมถึงได้สิทธิการจำหน่าย ฉู่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราด้อยกว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตรงไหนเหรอ?”“ฉันสงสัยว่าบริษัทที่ร่วมมือที่ถูกประกาศในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ได้ตรงตามความต้องการของแพทย์แผนจีนอาวุโส แต่พวกนายเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต!”หลิ่วหรูเยียนกัดฟันพูดขึ้นมาเสียงดังเธอรู้รายละเอียดของซินฉู่ฟาร์มาติคอลดีกว่าใคร บริษัทนั้นก็เป็นแค่บริษัทปลอมๆ ที่ฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นก่อตั้งขึ้นมาฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีเงินทุน ไม่มีคอนเนคชั่น ไม่มีทางที่จะสามารถได้รับสิ
หลังเสียงตะคอกของหลี่ฮุย ตอนนี้ในห้องก็เกิดประเด็นขึ้นมา“ถูกต้อง ฉันว่าเขาไม่เหมือนแพทย์แผนจีนอาวุโสเลย!”“ใครเคยเห็นแพทย์แผนจีนอาวุโสที่อายุน้อยแบบนี้บ้าง? คนแบบเขาก็สามารถคิดค้นยาบำรุงปราณยาเทวดาแบบนี้งั้นเหรอ? ตีให้ตายฉันไม่เชื่อหรอก!”“ใช่ ให้แพทย์แผนจีนอาวุโสที่แท้จริงออกมา!”ตอนนั้นเองห้องนั้นก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายฉู่เฉินสีหน้าสงบเสงี่ยมมองไปที่ฝูงชน หัวเราะขึ้นมาอย่างราบนิ่ง “ต้องการหลักงั้นเหรอ? ได้สิ อาหู่เอาหลักฐานให้พวกเขาดู”“ได้ครับ!”จงอาหู่พูดจบก็รีบวิ่งไปที่ห้องทำงาน ผ่านไปไม่นานก็ถือถุงหนังงูกลับมากลับมายังในห้องอีกครั้ง จงอาหู่หยิบขวดเซรามิกออกมาจากถุงหนังงู เทยาบำรุงปราณออกมาจากขวดหนึ่งเม็ด กล่าวกับฝูงชนว่า “ลืมตาของพวกคุณมองดูให้ชัดๆ นี่คือยาบำรุงปราณ”“ข้างในนี่คือยาบำรุงปราณทั้งหมด ล้วนแต่เป็นคุณฉู่หลอมขึ้นมาเองกับมือ”ประโยคนี้พูดออกไป เสียงเหล่าคนที่สงสัยในสถานะของฉู่เฉินก็เบาลงไปถึงขนาดที่บางคนเสียใจ ไม่ควรก่อเรื่องตามหลิ่วหรูเยียนเพราะว่าอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นงานจัดจำหน่ายภายในมณฑล ในอนาคตหากถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศไม่แน่พวกเขาอาจจะมีโอกาสได้เป็
เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงของฝูงชนข้างล่างเวที ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง “ได้ครับ ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสท่านนี้ขึ้นมาบนเวทีได้ตลอดเวลาเลยครับ ขอเรียนเชิญครับ” โจวว่านคังก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยศีรษะที่ยกสูงและมั่นใจ เดินไปตรงหน้าจงอาหู่ รับขวดเซรามิกมาจากมือของเขา ในตอนที่จะเปิดฝานั้น เขาก็ยังตั้งใจมองไปที่ฉู่เฉิน “น้องชาย ขออภัยด้วย”ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง หลังจากนั้นก็แบนสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าโจวกำลังเปิดขวดเซรามิก เทยาลูกกลอนบนฝ่ามือหนึ่งเม็ด หัวใจของทุกคนเต้นแรงว่าราวกับว่ามันจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกที่เพิ่งสงสัยฉู่เฉินไปเมื่อครู่ ก็ต่างพากันลุกยืนขึ้น เขย่งปลายเท้าเบิกตาโตจ้องมองไปที่โจวว่านคังผ่านไปสักพัก โจวว่านคังถึงนำยาลูกกลอนนั้นใส่กลับไปที่ขวดเซรามิกที่เดิมอย่างเคร่งขรึม“ท่านโจวเป็นอย่างไรบ้าง ของจริงไหมคะ?”หลิ่วชิงเหอกักเก็บความรู้สึกกังวลภายในใจไว้ไม่อยู่ จึงทำลายความเงียบนั้นเมื่อโจวว่านคังได้สติก็มองไปที่หลิ่วชิงเหอ และหลิ่วหรูเยียนสีหน้าเคร่งขรึมที่ยืนข้างๆ เขาเดินเข้าอย่างไร
หลังจากที่ขับไล่เหล่าตัวแทนบริษัทที่โห่ร้องออกไปแล้ว สีหน้าของฉู่เฉินถึงเรียบนิ่งขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ทุกท่านที่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะได้รับสิทธิการจำหน่ายยาบำรุงปราณไปแล้วหรือไม่ ในภายหลังก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเรา”“ดังนั้นผมของพูดไว้ตรงนี้เลย อย่างแรกไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนราคาได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีดำ ยกเลิกการร่วมมือกันตลอดไป!”“อย่างที่สองยาลูกกลอนทั้งหมด ราคาปกติคือราคาซื้อเม็ดละห้าล้านบาท และราคาขายเม็ดละยี่สิบห้าล้านบาท และพวกเราสองฝ่ายที่ร่วมมือกันแบ่งกันคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์”เมื่อคำพูดนี้ของฉู่เฉินออกไป เหล่าบริษัทที่ได้รับสิทธิการจำหน่ายก็ต่างพากันปรบมือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฟังดูเหมือนจำนวนไม่เยอะ แต่ยาลูกกลอนหนึ่งเม็ดกำไรสุทธิอยู่ที่ยี่สิบล้าน ถ้าห้าสิบห้าสิบก็สิบล้านเชียวนะสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนั้น ขอเพียงแค่ขายยาลูกกลอนได้สิบเม็ดก็เท่ากับมูลค่าการผลิตทั้งปีของบริษัทพวกเขาแล้วเมื่อเห็นสายตาที่ทั้งเคารพและชื่นชมฉู่เฉินจากฝูงชน หลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่อก เมื่อเดือนก่อนฉู่เฉินยังเป็นแค่ไอ
ถุย!หลิงเสวี่ยจ้องฉู่เฉินด้วยความเกลียดชังเธอคุกเข่าบนพื้นมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว นวดจนแขนทั้งปวดทั้งเมื่อย ฉู่เฉินม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงเลยงั้นเหรอ?แม้แต่น้ำสักอึกก็ไม่ให้เธอดื่ม อย่างน้อยก็น่าจะให้เธอได้พักบ้างสิ“ฉู่เฉิน คุณคงไม่คิดจริงๆ หรอกนะว่าพวกเราในวังว่านเจี้ยนจะกลัวคุณ? ตราบใดที่กำลังเสริมมาถึง คนเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกก็จะถูกขับไล่ออกไป ถึงเวลานั้น... ถึงเวลานั้นคุณจะมาร้องไห้ก็ไม่ทันแล้ว!”หลิงเสวี่ยไม่อาจทนได้อีกต่อไป กัดฟันเงยหน้าขึ้นมองฉู่เฉินด้วยความโกรธแค้นฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ ส่ายหัวและกล่าวว่า “วังว่านเจี้ยน? กำลังเสริม? คุณคิดง่ายเกินไปแล้ว”กล่าวถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็ค่อยๆ วางถ้วยชาลงและกล่าวอย่างใจเย็น “คุณคงไม่คิดว่าผมจงใจปล่อยข่าวออกไปเพื่อจัดการกับพวกคุณโดยเฉพาะหรอกใช่ไหม?”“ถ้าคิดแบบนั้น คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”อย่าว่าแต่พวกคุณสามสำนักเลย ต่อให้สามสิบหรือสามร้อย ผมก็ไม่ใส่ใจ”โอ้ย บ้าจริง!คุณนี่โม้เกินไปแล้ว!หลิงเสวี่ยโกรธจนฝ่ามือคันยุบยิบ อยากจะตบฉู่เฉินสักสองฉาดเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและกล่าวว่า “ไม่เชื่
“ปรมาจารย์ อย่ารับปากเขานะครับ!”“ปรมาจารย์ วังว่านเจี้ยนของเรายังจะกลัวเขาที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระคนเดียวอีกเหรอ!”“ปรมาจารย์ ผมอาสาไปเฝ้าประตูเขาเพื่อปกป้องสำนักเองครับ!”เหล่าศิษย์ต่างตาเบิกโพลงด้วยความโกรธแค้น!ความหมายในคำพูดของฉู่เฉิน นั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด คือต้องการใช้หลิงเสวี่ยแลกกับความปลอดภัยของทั้งสำนักเทียนเจี้ยนของพวกเขา!ใครในที่นี้ที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายอกสามศอกบ้าง?ยิ่งไปกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังเป็นศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนแล้วจะให้นั่งดูศิษย์น้องสาวที่สวยดั่งเทพธิดาไปอุ่นเตียงให้สารเลวฉู่เฉินนั่นได้ยังไง?!“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของวังเทียนเจี้ยน ให้ฉันได้ไตร่ตรองก่อน”ถึงปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะหน้าหนาแค่ไหน ก็ไม่อาจตอบรับฉู่เฉินได้โดยง่าย ท้ายที่สุดแล้วก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักเทียนเจี้ยนโดยเฉพาะในโลกแห่งการหยั่งรู้ มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ว่าอยู่อย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นนิกายหรือสำนักไหน การส่งศิษย์หญิงให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นกระถางหลอมเพื่อบำเพ็ญคู่หรือเพื่ออุ่นเตียง ล้วนเท่ากับเป็นการยอมจำนนต่ออีกฝ่ายวังเทียนเจี้ยนแค่ประสบ
ต้องรีบกำจัดหายนะนี่ออกไปโดยด่วน ไม่งั้นแม้แต่ประตูหินหนักหมื่นชั่งของวังเทียนเจี้ยนคงจะทนได้อีกไม่นานแม้ประตูหินบานนั้นจะเป็นสิ่งที่บรรพจารย์ทิ้งไว้ แม้แต่ผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณก็ไม่อาจทำอะไรวังเทียนเจี้ยนได้ในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้หน้าประตูวังเทียนเจี้ยนกลับมีเสียงดังกึกก้องดังขึ้นถ้าจะบอกว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่กังวล นั่นก็เป็นโกหกอย่างไรเสียก็มีสำนักชิงอวิ๋นเป็นตัวอย่างอยู่ตรงหน้า ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจึงตระหนักถึงความร้ายกาจในเรื่องนี้ดี“ไม่ต้องรีบร้อน ใช่แล้ว ที่นี่มีห้องรับรองแขกไหม?”ฉู่เฉินวางถ้วยชาลง เอามือเท้าคาง เอนตัวนอนบนเก้าอี้ยาวและเงยหน้าขึ้นกวาดตามองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งอะไรนะ?ห้องรับรองแขกเหรอ?ตอนนี้เหล่าศิษย์ทุกคนในวังเทียนเจี้ยน ล้วนมีสีหน้าโกรธจัด!ฉู่เฉินคิดว่าวังเทียนเจี้ยนเป็นโรงแรมหรือไง? ยังจะขอห้องรับรองแขกอีก!“กึก...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนกัดฟัน ก่อนจะพยักหน้ากล่าว “แน่นอนว่ามีครับ คุณฉู่...”“หาว …”ฉู่เฉินหาว ขยี้ตาแล้วกล่าวว่า “งั้นก็ดีเลย รบกวนเจ้าสำนักจัดให้ผมสักห้องด้วยครับ ผมอยากพูดคุยเรื่องชีวิตกับศิษย์น้องหลิงเสวี่ยอย่างลึก
อะไรนะ?!ดวงตาคู่สวยของหลิงเสวี่ยจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินฉู่เฉินเข้าไปทั้งเป็นเหล่าศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ ต่างก็พากันจ้องฉู่เฉินเขม็งด้วยสายตาอาฆาตหลิงเสวี่ยคือหนึ่งในสามหญิงงามแห่งวังเทียนเจี้ยน โดยปกติแล้ว ถือเป็นคู่ครองในอุดมคติของบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ที่น่าเสียดายก็คือหลิงเสวี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจใครเลยกระทั่งศิษย์พี่ใหญ่ถานเฟิงก็ยังโดนศิษย์น้องหลิงเสวี่ยปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เจ้าเด็กฉู่เฉินคนนี้กลับขอให้ศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าใฝ่ฝันมานวดขาให้เขาเนี่ยนะ?“ปรมาจารย์ คนคนนี้จองหองเกินไป ผม...”“ถอยไป!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนถลึงตาจ้องถานเฟิงอย่างดุดัน การฆ่าฉู่เฉินยังไม่ง่าย?แต่ถ้าฆ่าฉู่เฉินแล้ว แล้วเหล่ายอดฝีมือที่เขาเอาชนะมาได้จะทำยังไง?จะให้วังเทียนเจี้ยนถูกทำลายงั้นเหรอ?เมื่อถานเฟิงเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของปรมาจารย์ว่านเจี้ยน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าไปและรีบถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง“หลิงเสวี่ย ไม่ได้ยินที่คุณฉู่สั่งเหรอ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนสีหน้ามืดมน กัดฟันเอ่ยถาม“อะไรนะ? ปรมาจารย์ ฉัน...”หลิ
เมื่อปรมาจารย์ว่านเจี้ยนได้ยินรายงานจากศิษย์ในสำนัก ก็รีบร้อนสั่งว่า “ใครก็ได้ รีบปิดประตูเขาเร็วเข้า ห้ามผู้ใดบุกรุกเข้ามาโดยเฉพาะฉู่เฉิน ห้ามให้เขาเข้ามาเด็ดขาด”น่ากลัวเกินไปแล้ว แม้วังเทียนเจี้ยนจะมีคนหนุนหลังอยู่ แต่ศึกใหญ่นี้ ถ้าปะทุขึ้นในวังเทียนเจี้ยน ทั้งวังเทียนเจี้ยนก็อาจจะพินาศย่อยยับ ถึงจะชนะแล้วยังไงล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายล้วนเป็นสำนักระดับสูงสุดในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้อำนาจเบื้องหลังวังเทียนเจี้ยน ก็ใช่ว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้แต่ในเวลานี้ เพียงเห็นเงาร่างผู้หนึ่งพุ่งทะยานมาทางประตูเขาวังเทียนเจี้ยนรวดเร็วดั่งสายลมกรรโชก“ปรมาจารย์ ท่านดู...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองตามปลายนิ้วของศิษย์ในสำนักไป เพียงเห็นฉู่เฉินสภาพเปื้อนฝุ่น กำลังวิ่งหน้าตั้งมาทางวังเทียนเจี้ยนด้วยรอยยิ้มจางบนใบหน้าแม่ง!รูม่านตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนหดแคบลงทันที กลัวอะไรก็เจออย่างนั้นจริงๆดาวหายนะฉู่เฉิน ดันมาแล้วจริงๆ !“เร็ว… รีบปิดประตูเขาเดี๋ยวนี้!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนตกใจจนพูดจาตะกุกตะกักเขาไม่ได้กลัวฉู่เฉิน แต่กลัวกลุ่มคนที่ตามหลังฉู่เฉินมาไกลๆ ต่างหาก!เปรี้ยง!พร้อมด้วยเสียงดังส
“ถอยไป!”ทันทีที่เทพสังหารชูขวานยักษ์ขึ้น ว่านโซ่วเซียนเวิงก็เอ่ยปากห้ามอย่างกะทันหัน“ท่านอาจารย์ เขา...”“หืม?!”ดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงเย็นเยียบลง ทำให้เทพสังหารตกใจรีบถอยไปหลายก้าว ก้มศีรษะลงต่ำ“สหายน้อย เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? มอบยาสร้างกล้ามเนื้อ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย พลางแบมือออกกล่าวว่า “ทุกท่าน หากไม่เชื่อก็สามารถตรวจดูด้วยตัวเองได้ ถ้าเป็นของปลอมแม้แต่น้อย เอาผิดกับผมได้!”เมื่อกล่าวจบ ว่านโซ่วเซียนเวิงกับผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็ก้าวออกมาเกือบจะในเวลาเดียวกัน รวดเร็วราวสายฟ้า แย่งชิงยาสร้างกล้ามเนื้อจากมือของฉู่เฉินไปคนละเม็ดผู้มีอิทธิพลระดับทารกวิญญาณคนอื่นๆ ก็ทยอยกันมาหยิบยาสร้างกล้ามเนื้อไปคนละเม็ดเช่นกัน แล้วตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่นาน“เป็นยาสร้างกล้ามเนื้อจริงๆ!”ในดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงมีประกายแสงวาบผ่าน ก่อนจะเหลือบตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยถามว่า “ยาลูกกลอนนี้ แกไปได้มาจากที่ไหน?”แม้ยาสร้างกล้ามเนื้อจะไม่ได้ระดับสูงนัก แต่คนที่สามารถหลอมได้กลับมีน้อยอย่างยิ่งอย่าว่าแต่ในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้แต่ในเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าสิบทศภูมิ ล้วนเป็นยาวิเศษล้ำค
ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นทำหน้าร้องห่มร้องไห้ อ้อนวอนติดต่อกันเมื่อเห็นว่าพวกเทพสังหารลับมีดเตรียมลงมือต่อสู้อีกครั้ง ประตูใหญ่สำนักชิงอวิ๋นของเขายังจะเหลืออยู่อีกเหรอ“เห็นแก่ที่คุณมีความจริงใจเต็มเปี่ยม ผมปล่อยคุณไปสักครั้งก็ได้ แต่ว่าผมเดินทางมาไกลมาก คุณคงไม่ให้ผมจากไปมือเปล่าหรอกใช่ไหม?”ฉู่เฉินค่อย ๆ ลุกขึ้น เอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ก้มมองท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า“ขอให้คุณฉู่ระบุให้ชัดเจนด้วย”คราวนี้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นร้องไห้แล้วจริง ๆ นับตั้งแต่รับตำแหน่งเจ้าสำนักมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจนย่อยยับ ที่สำคัญคือเขายังไม่กล้าโต้แย้งสักคำด้วยอัดอั้นตันใจจนกระอักเลือดแล้วจริง ๆ “พูดไปแล้วก็ง่ายนิดเดียว คุณดูสมุนไพรในรายการนี้ แล้วเตรียมมาคนละชุด”ฉู่เฉินกล่าวพลางล้วงใบรายการออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพอได้เห็น ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ร้อนใจแล้วบนนั้นเป็นสมุนไพรหายากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหญ้าเสวียนเทียน ดอกร้อยสีสัน รากวิญญาณปฐพี...ถึงขนาดที่มีสมุนไพรบางตัวที่แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห
“ฉู่เฉิน คุณคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของผมถึงตายเลยหรือไง!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกัดฟันกรอด ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง!ทุกอย่างล้วนเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินก่อขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะฉู่เฉินฆ่าลูกศิษย์ของเขา เขาจะเล่นงานฉู่เฉินหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?และตอนนี้ฉู่เฉินชักนำหายนะร้ายแรงมา แต่อยากให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนเหรอ?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็เป็นเจ้าสำนัก อย่าว่าแต่ใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำเลย แค่เขาคุกเข่าต่อหน้าลูกศิษย์หลายร้อยคนของสำนักชิงอวิ๋น อนาคตเขายังมีหน้าไปปกครองสำนักชิงอวิ๋นได้อย่างไร? “คุณก็เป็นเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมพูดจาเหมือนเด็กที่ยังฟันไม่ขึ้นล่ะ? เห็นชัด ๆ ว่าคุณเป็นคนเชิญผมมา คุณอยากจะฆ่าผมให้ตาย คุณคิดว่าผมยังใส่ใจเรื่องเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของพวกคุณอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ เอ่ยด้วยใบหน้าดูแคลนถึงอย่างไรข้าวของที่ถูกทำลายตอนนี้ก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของฉู่เฉิน ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ครั้งนี้ ฉู่เฉินอยากให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเข้าใจหลักการที่ว่าเชิญเทพง่าย แต่ส
วินาทีต่อมา เทพสังหารตวัดขวานศึกในมือผ่านอากาศ พุ่งตรงลงมาบนศีรษะของท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นขวานนี้คล้ายกับมีพลังที่สามารถผ่าภูผาได้เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารมาถึงแล้ว ปราณแท้รอบกายท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพลันพุ่งพล่าน กระบี่ยาวในมือปล่อยรัศมีแสงงดงามหมื่นสาย ตวัดกระบี่ออกไปเต็มแรงรับขวานศึกของเทพสังหารขวานศึกฟาดฟัน กระบี่ยาวผ่าอากาศ! เคร้ง!แม้ว่าท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นออกแรงอย่างสุดกำลัง แต่เขายังคงโดนขวานของเทพสังหารกระแทกจนกระเด็นออกไปแล้วพรวด!ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกระอักเลือดออกมา เขากระเด็นออกไปสิบเมตร ก่อนจะร่วงกระแทกลงมาบนบันไดหินอย่างหนักหน่วง บันไดหินเหล็กโดนกระแทกจนเป็นหลุมลึก พลังแตกต่างกันมากเกินไป เทพสังหารไม่ใช่คนที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นสามารถต่อกรได้เลยหากไม่ใช่เพราะยังมีลมปราณน่าสะพรึงกลัวหลายสายในฝูงชนพุ่งเป้ามาที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ขวานนี้เพียงพอที่จะส่งเขาไปสู่ปรโลกแล้ว“หยกโลหิตกิเลนไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักว่านเซียนของพวกคุณเลย พวกคุณปล้นกันชัด ๆ! ตะ...ต่อให้ผมตายก็ไม่ยอม!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพยายา