ความตกตะลึงที่ฉู่เฉินมอบให้หลินชือหย่า ไม่น้อยไปกว่าระเบิดลูกใหญ่เลยแม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ถึงแม้ว่าไม่เคยกินหมู แต่จะเคยเจอหมูวิ่งมาก่อนเหรอ? เธอเคยเห็นการกระทำพวกนั้นในหนังผู้ใหญ่ พระเอกทำต่อเนื่องได้มากสุดก็แค่สิบนาทีกว่าๆ เองไม่ใช่เหรอ?อีกอย่างเขายังเป็นมืออาชีพอีกด้วยครั้งนี้หลินชือหย่าภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัย มองลองผ่านช่องประตูเล็กๆ มองไปยังภาพที่เร่าร้อนของทั้งสองคนแต่ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ ครั้งนี้เธอไม่มีความเหนียมอายเลยแม้แต่น้อย กลับกันร่างกายของเธอยังร้อนรุ่มอีกด้วย และบนใบหน้าเล็กขาวนั้นก็เปลี่ยนแดงก่ำ ร่องรอยสีชมพูก็ปรากฏขึ้นผ่านไปหลายนาทีหลิ่วชิงเหอค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอึก!หลินชือหย่าก็กลืนน้ำลายตามไปด้วย“ตึกๆๆ”เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้นดังขึ้นมา หลินชือหย่าตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รีบร้อนถอยหลังออกไป รีบเข้าไปหลบในฝูงชนตามมาด้วยประตูใหญ่ที่เปิดออก หลิ่วชิงเหอเดินอย่างมั่นใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ เดินตรงไปทางหลิ่วหรูเยียนหลินชือหย่าแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองหรือว่า... หลังจากทำเรื่องอย่างว่าจะทำให้ผู้หญิงมั่นใจขึ้นงั้นเหรอ?ไม
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?หลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกก็มองไปที่จงอาหู่อย่างไม่อยากจะน่าเชื่อทำไมบริษัทเล็กๆ ที่เทียบไม่ติดกับฉู่เฉินกรุ๊ปถึงได้โควตาไป แต่ทำไมถึงไม่มีฉู่ซื่อกรุ๊ป?!“โอเคครับ ตัวแทนบริษัทที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง ตอนนี้สามารถออกจากงานไปได้เลยครับ”จงอาหู่พูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง“ฉันสงสัยว่าในนี้จะมีลับลมคมในบางอย่าง!”หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาก่อนคนแรก ถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ“ฮะ? คุณผู้หญิงท่านนี้ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ?”จงอาหู่ขมวดคิ้ว มองไปที่หลิ่วหรูเยียน“ซินฉู่ฟาร์มาติคอลบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ทำไมถึงได้สิทธิการจำหน่าย ฉู่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราด้อยกว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตรงไหนเหรอ?”“ฉันสงสัยว่าบริษัทที่ร่วมมือที่ถูกประกาศในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ได้ตรงตามความต้องการของแพทย์แผนจีนอาวุโส แต่พวกนายเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต!”หลิ่วหรูเยียนกัดฟันพูดขึ้นมาเสียงดังเธอรู้รายละเอียดของซินฉู่ฟาร์มาติคอลดีกว่าใคร บริษัทนั้นก็เป็นแค่บริษัทปลอมๆ ที่ฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นก่อตั้งขึ้นมาฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีเงินทุน ไม่มีคอนเนคชั่น ไม่มีทางที่จะสามารถได้รับสิ
หลังเสียงตะคอกของหลี่ฮุย ตอนนี้ในห้องก็เกิดประเด็นขึ้นมา“ถูกต้อง ฉันว่าเขาไม่เหมือนแพทย์แผนจีนอาวุโสเลย!”“ใครเคยเห็นแพทย์แผนจีนอาวุโสที่อายุน้อยแบบนี้บ้าง? คนแบบเขาก็สามารถคิดค้นยาบำรุงปราณยาเทวดาแบบนี้งั้นเหรอ? ตีให้ตายฉันไม่เชื่อหรอก!”“ใช่ ให้แพทย์แผนจีนอาวุโสที่แท้จริงออกมา!”ตอนนั้นเองห้องนั้นก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายฉู่เฉินสีหน้าสงบเสงี่ยมมองไปที่ฝูงชน หัวเราะขึ้นมาอย่างราบนิ่ง “ต้องการหลักงั้นเหรอ? ได้สิ อาหู่เอาหลักฐานให้พวกเขาดู”“ได้ครับ!”จงอาหู่พูดจบก็รีบวิ่งไปที่ห้องทำงาน ผ่านไปไม่นานก็ถือถุงหนังงูกลับมากลับมายังในห้องอีกครั้ง จงอาหู่หยิบขวดเซรามิกออกมาจากถุงหนังงู เทยาบำรุงปราณออกมาจากขวดหนึ่งเม็ด กล่าวกับฝูงชนว่า “ลืมตาของพวกคุณมองดูให้ชัดๆ นี่คือยาบำรุงปราณ”“ข้างในนี่คือยาบำรุงปราณทั้งหมด ล้วนแต่เป็นคุณฉู่หลอมขึ้นมาเองกับมือ”ประโยคนี้พูดออกไป เสียงเหล่าคนที่สงสัยในสถานะของฉู่เฉินก็เบาลงไปถึงขนาดที่บางคนเสียใจ ไม่ควรก่อเรื่องตามหลิ่วหรูเยียนเพราะว่าอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นงานจัดจำหน่ายภายในมณฑล ในอนาคตหากถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศไม่แน่พวกเขาอาจจะมีโอกาสได้เป็
เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงของฝูงชนข้างล่างเวที ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง “ได้ครับ ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสท่านนี้ขึ้นมาบนเวทีได้ตลอดเวลาเลยครับ ขอเรียนเชิญครับ” โจวว่านคังก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยศีรษะที่ยกสูงและมั่นใจ เดินไปตรงหน้าจงอาหู่ รับขวดเซรามิกมาจากมือของเขา ในตอนที่จะเปิดฝานั้น เขาก็ยังตั้งใจมองไปที่ฉู่เฉิน “น้องชาย ขออภัยด้วย”ฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวว่านคัง หลังจากนั้นก็แบนสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าโจวกำลังเปิดขวดเซรามิก เทยาลูกกลอนบนฝ่ามือหนึ่งเม็ด หัวใจของทุกคนเต้นแรงว่าราวกับว่ามันจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกที่เพิ่งสงสัยฉู่เฉินไปเมื่อครู่ ก็ต่างพากันลุกยืนขึ้น เขย่งปลายเท้าเบิกตาโตจ้องมองไปที่โจวว่านคังผ่านไปสักพัก โจวว่านคังถึงนำยาลูกกลอนนั้นใส่กลับไปที่ขวดเซรามิกที่เดิมอย่างเคร่งขรึม“ท่านโจวเป็นอย่างไรบ้าง ของจริงไหมคะ?”หลิ่วชิงเหอกักเก็บความรู้สึกกังวลภายในใจไว้ไม่อยู่ จึงทำลายความเงียบนั้นเมื่อโจวว่านคังได้สติก็มองไปที่หลิ่วชิงเหอ และหลิ่วหรูเยียนสีหน้าเคร่งขรึมที่ยืนข้างๆ เขาเดินเข้าอย่างไร
หลังจากที่ขับไล่เหล่าตัวแทนบริษัทที่โห่ร้องออกไปแล้ว สีหน้าของฉู่เฉินถึงเรียบนิ่งขึ้นแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ทุกท่านที่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะได้รับสิทธิการจำหน่ายยาบำรุงปราณไปแล้วหรือไม่ ในภายหลังก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเรา”“ดังนั้นผมของพูดไว้ตรงนี้เลย อย่างแรกไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนราคาได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีดำ ยกเลิกการร่วมมือกันตลอดไป!”“อย่างที่สองยาลูกกลอนทั้งหมด ราคาปกติคือราคาซื้อเม็ดละห้าล้านบาท และราคาขายเม็ดละยี่สิบห้าล้านบาท และพวกเราสองฝ่ายที่ร่วมมือกันแบ่งกันคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์”เมื่อคำพูดนี้ของฉู่เฉินออกไป เหล่าบริษัทที่ได้รับสิทธิการจำหน่ายก็ต่างพากันปรบมือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฟังดูเหมือนจำนวนไม่เยอะ แต่ยาลูกกลอนหนึ่งเม็ดกำไรสุทธิอยู่ที่ยี่สิบล้าน ถ้าห้าสิบห้าสิบก็สิบล้านเชียวนะสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนั้น ขอเพียงแค่ขายยาลูกกลอนได้สิบเม็ดก็เท่ากับมูลค่าการผลิตทั้งปีของบริษัทพวกเขาแล้วเมื่อเห็นสายตาที่ทั้งเคารพและชื่นชมฉู่เฉินจากฝูงชน หลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่อก เมื่อเดือนก่อนฉู่เฉินยังเป็นแค่ไอ
หลิ่วหรูเยียนในขณะนี้ กลับใช้สายตาลุกเป็นไฟมองไปที่ฉู่เฉิน แววตาไม่มีความเกลียดชังแม้แต่น้อย แต่กลับมีความกระตือรือร้นที่ไม่อาจปกปิดได้เพราะว่าในตอนนี้ในมือเธอยังมีไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้ใช้!บางทีฉู่เฉินในวันนี้ อาจจะเป็นตัวเธอในอนาคต ไม่สิ!ความสำเร็จของเธอจะต้องไปไกลกว่าฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อย่างแน่นอนเมื่อนึกได้แบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างฮึกเหิม ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ“โอเคครับ เวลาหลังจากนี้ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้เลยนะครับ หากมีปัญหาอะไรผมสามารถตอบทุกคนได้ทุกเมื่อครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็เดินลงมาจากแท่นพูดเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินมาถึงก็นั่งลงโต๊ะกลมข้างๆ แท่นพูด โจวว่านคังก็รีบเดินตามไป“คุณฉู่ ผมประทับใจในความสำเร็จของคุณในทางการแพทย์มากๆ ผมคนนี้ประทับใจมากจริงๆ ผมมีเรื่องอยากจะร้องขอคุณฉู่เรื่องหนึ่งไม่รู้ว่าคุณฉู่จะตอบตกลงหรือไม่?”ฉู่เฉินได้รับความชื่นชมจากโจวว่านคังมากถึงขนาดที่เขาแสดงทัศนคติที่ถ่อมตัวมากฉู่เฉินมีความประทับใจที่ดีมากต่อโจวว่านคัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ท่านมีเรื่องอะไรพูดออกมาได้เลยครับ หากผมสามารถทำได้
“ท่านโจว ทำไมท่านทำแบบนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินรีบพยุงโจวว่านคังขึ้นมาจากพื้น“คุณฉู่ ทักษะการแพทย์ของคุณขั้นเทพแล้วครับ ผมก็ได้มีประสบการณ์บางอย่างในชีวิตมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครที่สามารถเปรียบเทียบกับคุณฉู่ได้ในรอบหลายสิบปีเลย”“หากใช้พรสวรรค์ของคุณ อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด หากถามความเห็นของผม ผมว่าคุณฉู่ควรจะแสดงให้คนทั้งโลกประจักษ์ความสามารถของคุณนะครับ และการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นเวทีที่ไม่เลวเลย ไม่ทราบว่าคุณฉู่เคยคิดเข้าร่วมบ้างไหมครับ?”โจวว่านคังพูดถึงความคิดภายในใจตนเองอย่างไม่อ้อมค้อมบุคคลที่มีความสามารถแบบฉู่เฉินแบบนี้ หากไม่ได้เฉิดฉาย เช่นนั้นก็จะเป็นความสูญเสียของวงการแพทย์แผนจีน อีกทั้งยังเป็นความสูญเสียของแดนมังกรอีกด้วยในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนจีน โจวว่านคังแทบจะใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อเชื้อเชิญฉู่เฉิน“การแข่งขันแพทย์แผนจีนอีกแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันก่อนฮว่าจิ่วหยางมาเชิญเขาด้วยตนเอง อีกทั้งฉู่เฉินเองก็ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ว่าวันนี้โจวว่านคังก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าร่วม นั่นกลับทำให้ฉู่เฉินกลัดกลุ้มใ
หลินชือหย่าที่เดินไปทางลานจอดรถไปด้วย กำลังต่อสายหาประธานหลินหลินฟางเจิ้งของหลินซื่อกรุ๊ปไปด้วย ก็นำผลงานแถลงข่าวรายงานให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ได้! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องได้รับสิทธิการจำหน่ายมาให้ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลินซื่อกรุ๊ป! หลาน เมื่อกี้หลานพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนแซ่ฉู่นั่นดูไม่ได้เป็นคนดีมากเท่าไหร่...”“อารองคงไม่ได้จะให้หนู...”ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหลินชือหย่าสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวราวกับกระดาษทันที“แน่นอนว่าอาไม่ได้จะให้หลานอุทิศตนให้แพทย์แผนจีนต่ำต้อยนั่น สิ่งของที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะถูกไม่เห็นค่าเสมอ เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวอาจะรีบไปที่ตึกเทียนเฟิ่ง หลานรออาอยู่ที่ลานจอดรถ เมื่อถึงตอนนั้นทำตามที่อาบอกก็พอ”พูดจบก็ตัดสายไปใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของหลินชือหย่าแสดงความเศร้าเล็กน้อยตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลินซื่อกรุ๊ปก็ถูกส่งต่อไปให้อารองแต่ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้หลินฟางเจิ้งพยายามคิดหาวิธีที่จะใช้หลินชือหย่า และยังบังคับให้เธอตกเป็นเหยื่อของการแต่งงานเพื่อธุรกิจหลายครั้งแ
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ