“ฉู่เฉิน นี่มันเป็นที่ที่แกควรมาเหรอ?!”หลิ่วหรูเยียนเชิดหน้าของเธอสูงขึ้น และพูดขึ้นมาอย่างสูงส่งทำไมไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็เจอแต่ฉู่เฉินตัวซวยไปหมดละเนี่ย!เรื่องไลฟ์สดครั้งก่อนก็ถูกฉู่เฉินทำลายไม่เป็นชิ้นดี ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้เขาก็ต้องไล่ฉู่เฉินไปให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจยาบำรุงปราณประสบปัญหาอีกครั้งจากฉู่เฉิน หลี่ฮุยกวาดสายตาไป เขาก็ลุกขึ้นมาจากโซฟา พร้อมเดินไปทางฉู่เฉินคนอื่นเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนและหลี่ฮุย ทั้งสองคนล้วนแต่เดินไปทางฉู่เฉิน เกิดสงสัยและรวมตัวกันอย่างอดไม่ได้“อุ๊ย นี่มันคุณชายใหญ่ฉู่ไม่ใช่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าแกถูกไล่ออกจากฉู่ซื่อกรุ๊ปไปตั้งนานแล้วนี่ คงไม่ได้อาศัยชื่อของแกเพื่อมาเข้าร่วมแย่งชิงสิทธิการจัดจำหน่ายหรอกใช่ไหม?”หลี่ฮุยพูดด้วยท่าทางดูถูกเมื่อคนที่อยู่รอบๆ นั้นได้ยิน ก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมาออกจากฉู่ซื่อกรุ๊ปไป ใครมันจะยังรู้จักแกอีกฉู่เฉิน?มาถึงที่นี่เพื่อแย่งชิงสิทธิการจัดจำหน่าย นี่มันเพ้อฝันชัดๆ !ฉู่เฉินมองไปที่หลี่ก่านด้วยความเย็นชา พูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่งว่า “แล้วอย่างไงล่ะ?”หลี่ฮุยมองฉู่เฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า พยั
“ที่โรงงานของพ่อฉันกำลังขาดคนขนของพอดีเลย รอฉันกลับไปคุยกับพ่อให้นะ ฉันจะให้โอกาสคนง่อยๆ แบบแกดู บางทีอาจจะเริ่มทำงานพรุ่งนี้เลยก็ได้นะ”สวี่เทียนหลายยิ้มอย่างเย็นชาออกมาเสียงหัวเราะดังออกมาในบริเวณโดยรอบเป็นพักๆฉู่เฉินมองสวี่เทียนหลายด้วยสายตาเย็นชา พูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็นว่า “แล้วแกนับว่าเป็นตัวอะไรล่ะ?”สวี่เทียนหลายหัวเราะอย่างเย็นชา ยกแก้วไวน์ในมือขึ้นมา หรี่ตามองฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ ในแวดวงการแพทย์ทั่วทั้งเจียงจงนี้ มีใครบ้างที่ไม่เคยได้ยินชื่อเจียงจงฟาร์มาติคอลกรุ๊ปบ้าง?”“แกนี่มันช่างเป็นคนไร้ประโยชน์ที่โง่เง่าสิ้นดี ก็ยังมีหน้ากล้าที่จะมาที่นี่งั้นเหรอ? ใช่ไหมครับคุณหลิ่ว?”สวี่เทียนหลายจงใจขยิบตาให้หลิ่วหรูเยียนผู้คนที่เฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ ต่างก็มองที่ฉู่เฉินด้วยสายตาเสียดสีแม้แต่คุณชายสวี่แห่งเจียงจงฟาร์มาติคอลกรุ๊ปก็ยังไม่รู้จัก ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าฉู่เฉินถูกจำกัดออกจากแวดวงวงการแพทย์ในเจียงจงไปตั้งนานแล้วคนไม่ได้เรื่องแบบนี้ไม่ควรเข้าร่วมงานแถลงข่าวยาบำรุงปราณครั้งนี้ฉู่เฉินหันหน้าไปมองหลิ่วหรูเยียนที่ตามเขามา อีกทั้งยังมองไปที่สวี่เทียนหลาย หัวเราะอย่า
เขาเพิ่งจะเดินไปได้แค่สองก้าว จงอาหู่ก็เดินออกมาจากห้องทำงานประธานพอดี “คุณฉู่มาแล้วเหรอครับ อาเจ๊กำลังรอคุณอยู่พอดีเลยครับ หากไม่มีปัญหากับโควตาที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ผมก็จะประกาศผลตามรายชื่อเลยนะครับ”ใบหน้าของจงอาหู่เต็มไปด้วยความเคารพ พร้อมกับโค้งคำนับพูดขึ้นมา“อืม รายชื่อคนอื่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่ให้ยกเลิกสิทธิการจัดจำหน่ายของเจียงจงฟาร์มาติคอล”แม้ว่าจงอาหู่จะมีความสงสัยขึ้นในใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดเขา พยักหน้าพร้อมพูดว่า “ครับคุณฉู่ เดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนรายชื่อตอนนี้เลยครับ”พูดเสร็จ เขาก็รีบเดินลงบันไดไปในตอนนั้นเอง หลิ่วชิงเหอที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ก็มองเห็นภาพที่จงอาหู่โค้งคำนับให้ฉู่เฉินก็เกิดความประหลาดใจไปชั่วครู่ เมื่อเธอตั้งสติได้ก็พูดขึ้นมาว่า “ฉู่เฉิน แกอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ฉู่เฉินหันไปมองก็พบว่าเป็นหลิ่วชิงเหอ หัวเราะกว้างอย่างอดไม่ได้ “บังเอิญจังเลยนะที่เจอกันที่นี่” วันนี้หลิ่วชิงเหอสวมชุดสูททำงานสีดำข้างในยังมีเสื้อเชิ้ตสีขาว พร้อมกับผมลอนที่สุดแสนเซ็กซี่ เสน่ห์ที่น่าดึงดูดของเธอแผ่ซ่านออกมาอีกทั้งเนื่องจากรูปร่างของเธอร้อนแรง บ
“ฉันจะบอกแกไว้นะ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ได้รับความคุกคามจากแกอีกต่อไป!”วินาทีต่อมา ร่องรอยของความแน่วแน่ปรากฏชัดในดวงตาที่งดงามของหลิ่วชิงเหอ!ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่มันจะทำเกินไปแล้วนะ เมื่อเย็นวานก่อนก็เพิ่งหลอกเธอไป ตอนนี้ยังจะใช้อนาคตของบริษัทมาข่มขู่เธออีกหากนับตามลำดับแล้ว เธอเป็นแม่บุญธรรมของฉู่เฉินเชียวนะ ไม่ใช่ที่ระบายส่วนตัวของฉู่เฉิน ทำไมเธอต้องถูกควบคุมจากฉู่เฉินอยู่เสมอ?!“ฉันรังแกพวกเธอสองแม่ลูกงั้นเหรอ? พูดออกมาได้ไม่อายปาก!”ฉู่เฉินมองดูหลิ่วชิงเหอด้วยสายตาที่เย็นชามากขึ้น พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “อย่างอื่นฉันจะไม่พูดถึงนะ หากไม่มีตระกูลฉู่ของพวกฉัน พวกเธอสองแม่ลูกเร่ร่อนอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว”“แต่เธอตอบแทนตระกูลฉู่ของพวกฉันอย่างไร!”“สามปีที่ผ่านมานี้ พวกเธอสองแม่ลูกทำกับฉันแบบไหน!”“ที่พวกเธอติดค้างฉันชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมดหรอก ก่อนหน้านี้มันก็แค่การเก็บดอกเบี้ยเล็กน้อยเท่านั้นเอง!”หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินตอกกลับจนพูดไม่ออก ก้าวถอยหลังออกไป สีหน้ากังวลพูดขึ้นมาว่า “ฉู่เฉิน ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าโจวเทียนเฟิ่งจะฟังแก อีกทั้งยังไม่เชื่อด้วยว่าแพทย์แผนจีนอาวุโสจะเชื
“เราก็เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างเธอสนุกทุกครั้งไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อประโยคนี้ออกไป หลิ่วชิงเหอเหมือนกับถูกน้ำเย็นราดบนหัวของเธอแม้แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมทุกครั้งที่เธอมีอะไรกับฉู่เฉิน มักจะมีความรู้สึกที่แตกต่างไปทุกครั้งไม่เหมือนกันสักครั้งแต่กลับทำให้เธอหยุดไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่าเมื่อคืนเธอร้องจนเสียงเกือบแหบแต่ว่าเธอไม่ชอบเลยที่ถูกฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานข่มเหงแบบนี้“ต้องมีสักวันที่ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง!”หลิ่วชิงเหอราวกับถูกสูบวิญญาณไปจนหมด สภาพเหมือนกับศพที่เดินได้ ก้าวเท้าที่หนักอึ้งเดินไปข้างหน้าฉู่เฉินตอนนั้นเองแม้แต่ความกล้าที่จะต่อต้านก็ไม่มีเลยสักนิด ฉู่เฉินได้จับจุดอ่อนของเธอไว้แล้วนอกจากยอมแพ้ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว“อย่ามาแสร้งทำตัวน่าสงสารเลย นี่มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินมองดูหลิ่วชิงเหอที่บิดบั้นท้ายอวบอั๋น ขาขาวราวกับหิมะที่เดินเข้ามาหาเขาสั่นคลอนไปหมด สายตามองต่ำลงไปเล็กน้อย มองผ่านคอเสื้อก็จะเห็นหน้าอกสีขาวราวกับหิมะที่เป็นร่องลึกหลิ่วชิงเหอสูดหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้นมา
เธอคือหลินชือหย่า คุณหนูผู้ร่ำรวยที่สุดในมณฑลจากตระกูลแต่ก็บังเอิญเหมือนกัน กู้รั่วเสวี่ยกับหลินชือหย่าเป็นเพื่อนสมัยมหาลัย เพิ่งเจอกันที่หน้าประตูเมื่อกี้ ด้วยเหตุนี้สองสาวจึงรวมตัวกันแต่การปรากฏตัวของทั้งสองสาวงาม ดึงดูดความสนใจจากคนมาจีบหลิ่วหรูเยียนที่แต่เดิมกำลังรุมล้อมเธอได้อย่างเห็นได้ชัดเมื่อกลุ่มชายหนุ่มร่ำรวยที่มีดวงตาสีเขียวเดินเข้ามาหาเธอ หลินชือหย่าก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาอย่างกะทันหัน“รั่วเสวี่ย ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ”หลินชือหย่าพูดขึ้นมา รีบลุกขึ้นปลีกตัวออกมาจากเหล่าเศรษฐีที่มากวนใจเธอ รีบเดินตรงไปทางหนีไฟอย่างรวดเร็วแต่เมื่อเธอกำลังผลักเปิดประตูช่องเล็กๆ ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างใน ทำให้ตัวของหลินชือหย่าตัวแข็งทื่อทันทีทำไมมีเสียงแบบนี้ดังออกมาได้นะ...ทันใดนั้นเองหลิ่วชิงเหอที่กำลังดื่มด่ำก็ไม่รู้ตัว แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้ถึงหลินชือหย่าที่อยู่ทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าประตูนานแล้ว“ประธานหลิ่วอร่อยไหม?”ฉู่เฉินก้มศีรษะลงไปถามอย่างจงใจหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ฉวยโอกาสจากเธอไปแล้ว ยังจะเอาแต่พูดไม่หยุดเธอจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างดุร้า
ความตกตะลึงที่ฉู่เฉินมอบให้หลินชือหย่า ไม่น้อยไปกว่าระเบิดลูกใหญ่เลยแม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ถึงแม้ว่าไม่เคยกินหมู แต่จะเคยเจอหมูวิ่งมาก่อนเหรอ? เธอเคยเห็นการกระทำพวกนั้นในหนังผู้ใหญ่ พระเอกทำต่อเนื่องได้มากสุดก็แค่สิบนาทีกว่าๆ เองไม่ใช่เหรอ?อีกอย่างเขายังเป็นมืออาชีพอีกด้วยครั้งนี้หลินชือหย่าภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัย มองลองผ่านช่องประตูเล็กๆ มองไปยังภาพที่เร่าร้อนของทั้งสองคนแต่ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ ครั้งนี้เธอไม่มีความเหนียมอายเลยแม้แต่น้อย กลับกันร่างกายของเธอยังร้อนรุ่มอีกด้วย และบนใบหน้าเล็กขาวนั้นก็เปลี่ยนแดงก่ำ ร่องรอยสีชมพูก็ปรากฏขึ้นผ่านไปหลายนาทีหลิ่วชิงเหอค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอึก!หลินชือหย่าก็กลืนน้ำลายตามไปด้วย“ตึกๆๆ”เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้นดังขึ้นมา หลินชือหย่าตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รีบร้อนถอยหลังออกไป รีบเข้าไปหลบในฝูงชนตามมาด้วยประตูใหญ่ที่เปิดออก หลิ่วชิงเหอเดินอย่างมั่นใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ เดินตรงไปทางหลิ่วหรูเยียนหลินชือหย่าแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองหรือว่า... หลังจากทำเรื่องอย่างว่าจะทำให้ผู้หญิงมั่นใจขึ้นงั้นเหรอ?ไม
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?หลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกก็มองไปที่จงอาหู่อย่างไม่อยากจะน่าเชื่อทำไมบริษัทเล็กๆ ที่เทียบไม่ติดกับฉู่เฉินกรุ๊ปถึงได้โควตาไป แต่ทำไมถึงไม่มีฉู่ซื่อกรุ๊ป?!“โอเคครับ ตัวแทนบริษัทที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง ตอนนี้สามารถออกจากงานไปได้เลยครับ”จงอาหู่พูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง“ฉันสงสัยว่าในนี้จะมีลับลมคมในบางอย่าง!”หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาก่อนคนแรก ถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ“ฮะ? คุณผู้หญิงท่านนี้ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ?”จงอาหู่ขมวดคิ้ว มองไปที่หลิ่วหรูเยียน“ซินฉู่ฟาร์มาติคอลบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ทำไมถึงได้สิทธิการจำหน่าย ฉู่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราด้อยกว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตรงไหนเหรอ?”“ฉันสงสัยว่าบริษัทที่ร่วมมือที่ถูกประกาศในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ได้ตรงตามความต้องการของแพทย์แผนจีนอาวุโส แต่พวกนายเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต!”หลิ่วหรูเยียนกัดฟันพูดขึ้นมาเสียงดังเธอรู้รายละเอียดของซินฉู่ฟาร์มาติคอลดีกว่าใคร บริษัทนั้นก็เป็นแค่บริษัทปลอมๆ ที่ฉู่เฉินไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นก่อตั้งขึ้นมาฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีเงินทุน ไม่มีคอนเนคชั่น ไม่มีทางที่จะสามารถได้รับสิ
“ฉัน…”หลิ่วหรูเยียนหน้าซีด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดสินะเธอกำปากกาเซ็นเอกสารในมือแน่น พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปทางฉู่เฉินฉู่เฉินควานหาบุหรี่ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลม ควันนั้นจึงลอยไปปะทะหน้าฟางเหว่ย จนฟางเหว่ยไอแค่กๆ“เมื่อกี้นายพูดไม่ใช่หรือไงว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องประชุมน่ะ!” ฟางเหว่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจ“ฉันนี่แหละคนกำหนดกฎ นายมาพูดเรื่องกฎกับฉันเหรอะ? นายมีคุณสมบัตินั้นไหม?”ฉู่เฉินเหลือบมองฟางเหว่ยอย่างดูแคลน จากนั้นก้าวไปที่หน้าโต๊ะแล้วหยิบกองเอกสารหนาปึกขึ้นมาโปรยราวกับดอกไม้จนกระจายไปทั่ว“นายทำอะไรน่ะ! เก็บเอกสารขึ้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ต้วนเคอเห็นฉู่เฉินโปรยหนังสือสัญญาโอนหุ้นที่เขาเอาออกมาลงพื้นแล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างซึ่งเปี่ยมไปด้วยอำนาจฉู่เฉินยิ้มเยาะแล้วก้าวไปหาและพูดอย่างเฉยเมยกับต้วนเคอ “เรื่องไหนยังไงก็ต้องมีเหตุผลกันบ้างสิ ต่อให้ผู้ถือหุ้นโอนหุ้นให้คนแซ่ฉีแล้ว พวกเราก็มีสิทธิ์ไม่มอบบริษัทให้เหมือนกัน”“อย่างมากก็แค่ชดใช้เงินให้ก็เท่านั้น ในฐานะที่นายเป็นหัวหน้ากรมพาณิชย์ ไม่เข้าใจหลักเหตุผลข้อนี้หรือไง?”ต้วนเคอหัวเรา
“ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว การประชุมบอร์ดผู้บริหารสามารถเริ่มได้ยังคะ? พวกผู้ถือหุ้นเริ่มจะทนรอไม่ไหวแล้วค่ะ”เวลานี้เองเสมียนของฉู่ซื่อกรุ๊ปก้าวเข้ามายังห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่อย่างเร่งรีบ และกล่าวกับหลิ่วหรูเยียน“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ให้พวกเขารออีกหนึ่งนาที”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจบแล้วหันหน้ามามองฉู่เฉิน“ได้ค่ะ”เสมียนตอบรับแล้วรีบเดินออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว“ฉู่เฉิน…”หลิ่วหรูเยียนไม่ทันกล่าว ฉู่เฉินก็ยกมือกล่าวตัดบท “หลิ่วชิงเหอล่ะ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้หลิ่วชิงเหอคงไม่ได้ให้เธอมาคนเดียวใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วหน้าซีดเล็กน้อย กล่าวด้วยท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ “เอ่อ แม่ฉันมีเรื่องสำคัญมาก เมื่อคืนวานก็ออกจากเจียงจงไปแล้ว”“น่าจะวันมะรืนถึงจะกลับมา ดังนั้นเรื่องของบริษัท นายช่วยฉันได้ไหม?”ฉู่เฉินฟังแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย จ้องหลิ่วหรูเยียนที่เริ่มลนลานสักพัก จึงพยักหน้ากล่าว “ไปกันเถอะ ต่อให้หลบยังไงก็หลบไม่พ้นเหมือนสำนวนจีนที่ว่าลูกสะใภ้ขี้เหร่ยังไงก็ต้องเจอพ่อแม่สามี”กล่าวจบ ฉู่เฉินก็จูงข้อมือของหลิ่วหรูเยียนและเดินไปยังห้องประชุมปัง!ฉู่เฉินผลักประตูห้องประชุมอย่างแรง
……ในตอนที่ฉู่เฉินและต้วนหลิงเวยออกจากห้องอาบน้ำอีกครั้งก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วดูเหมือนว่าเนื่องจากการเพิ่มระดับพลังสองขั้นรวดแล้ว ใบหน้าเล็กที่แสนจะแดงก่ำของต้วนหลิงเวยนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่ายังมีเวลาห่างจากการประชุมบอร์ดผู้บริหารของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ฉู่เฉินจึงกินข้าวเช้าหนึ่งคำอย่างลวก ๆ จากนั้นรีบเดินออกจากประตูวิลล่าจนมาถึงประตูใหญ่ของวิลล่าเฟิ่งหมิง ก็เห็นเจ้าทึ่มซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เงยหน้ามองดูพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแสงสว่างจ้าฉู่เฉินขมวดคิ้วคิดว่าไม่ค่อยเข้ากับเสื้อชุดนี้สักเท่าไหร่ จึงเข้าไปนั่งในรถแล้วสั่งให้ต้วนหลิงเวยไปซื้อชุดยามรักษาความปลอดภัยกลับมาเปลี่ยนให้เจ้าทึ่มเห็นประตูใหญ่ก็ต้องทำให้สมกับได้เห็นประตูใหญ่หน่อยสิฉู่เฉินสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับจนมาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในเวลาไม่นานต้าหลิงจื่อกำลังยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยความร้อนใจก็เห็นฉู่เฉินเปิดประตูรถลงมา จึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยรองเท้าส้นสูงแม้ว่าขาสวยงามของต้าหลิงจื่อจะดูหนาไปเล็กน้อย แต่ถุงน่องสีเนื้อใต้ชุดกระโปรงทำงานสั้นนั้นก็ทำให้คนร
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิชาของมังกรเฒ่าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆด้วยวิชาบำเพ็ญคู่บวกกับการแช่โอสถ ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกถึงพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานก็บรรลุจุดวิกฤติในการเลื่อนขั้นนั้นได้อีกครั้งตูม!พลังวิญญาณทำลายพันธนาการ รอบกายฉู่เฉินเกิดแสงเรืองรองสีทองเคลือบหนึ่งชั้นภายในห้องอาบน้ำสว่างจ้าไปด้วยแสงสีทองแม้แต่เงาร่างเสมือนมังกรภายในกายของฉู่เฉินก็เปลี่ยนแปลงจนเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัดของน้ำที่กระเซ็นส่วนต้วนหลิงเสวี่ยที่นอนราบข้างอ่างอาบน้ำ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระทบอย่างต่อเนื่องจากด้านหลังจนพลังวิญญาณภายในร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อนต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็ทะลวงจนเลื่อนขั้นได้อีกครั้ง ระดับพลังหยุดอยู่ที่ระดับฝึกปราณชั้นแปดและในชั่วพริบตาที่ต้วนหลิงเสวี่ยกำลังเลื่อนขั้นพลังได้นั้นเอง ฉู่เฉินก็ทำลายพันธนาการจนทะลวงเลื่อนสู่ระดับระดับสร้างรากฐานขั้นสี่เลื่อนขั้นระดับพลังได้ติดต่อกับสามขั้นรวดเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นฉู่เฉินก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ขณะที่ปราณและเลือดภายในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำเอา
ก๊อก!ในเวลาที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้น ใต้โต๊ะก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง!เซียวเฟิงก้มหน้ามองไปยังใต้โต๊ะด้วยความแปลกใจ หลิ่วหรูเยียนเก็บมือกลับมาในช่วงเวลาเดียวกับที่เซียวเฟิงก้มตัวมอง แต่เพราะเหตุนี้เมื่อมองจากมุมของเซียวเฟิงก็ทำให้เขาตะลึงมากเวลาฉู่เฉินกินข้าว ตรงนั้นห้าวหาญได้ขนาดนี้เชียว?หลิ่วหรูเยียนฉวยโอกาสนี้วางตะเกียบและถ้วยชามลง จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าวกับทุกคนว่า “พวกคุณกินกันก่อนได้เลยค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ”ฮะ?ฉู่เฉินรีบเงยหน้าหันขวับไปมองหลิ่วหรูเยียนแกล้งฉันเกินครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ฉันเกือบจะถูกเปิดโปงใต้โต๊ะแล้ว แต่เธอบอกจะไปก็ไปเนี่ยนะ?“ขอบคุณการรักษาด้วยสปาของคุณฉู่นะคะ บ๊ายบาย”หลิ่วหรูเยียนยังไม่ลืมโบกมือลาฉู่เฉินที่หน้าแดงก่ำอยู่ จากนั้นขาเรียวงามนั้นก็เดินส่ายสะโพกสวยไปมาแล้วหายไปจากสายตาของฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนลุกจากที่นั่งแล้ว ต้วนหลิงเวยก็ไม่พลาดโอกาสเข้ามาแทนที่จึงได้นั่งข้างฉู่เฉิน ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองใต้โต๊ะเป็นระยะ ๆอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ดวงตาคู่งามของเธอนั้นระยิบระยับมีเสน่ห์เวลาไม่นาน
ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะมีอคติกับฉู่เฉินตลอดมา แต่วันนั้นฉู่เฉินทั้งโอบทั้งกอดน้องเซียวเสวี่ยอิ๋งของเขาต่อหน้าคนมากมายแบบนั้น ทั้งที่ทั้งสองคนยังไม่ได้คบกันอย่างเปิดเผยสักหน่อย แต่รอบกายฉู่เฉินกลับมีผู้หญิงมากมายขนาดนั้นแล้วนี่คืออะไรกัน?สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่อาจทนเห็นเซียวเสวี่ยอิ๋งเสียเปรียบได้นั่นเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาเลยนะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ซิสค่อน แต่เซียวเฟิงจะไม่ยอมให้ฉู่เฉินมีคนอื่นแต่ก็ยังเหล่น้องสาวเขาแน่“ท่านนี้คือผู้จัดการใหญ่หลิ่วของฉู่ซื่อกรุ๊ป ชื่อหลิ่วหรูเยียน มาให้ฉันช่วยรักษาอาการให้น่ะ เมื่อกี้รักษาด้วยวารีบำบัดให้เขา เสียงกรีดร้องนั้นพวกคุณก็ได้ยินกันแล้วสินะ?”ฉู่เฉินตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรักษาด้วยวารีบำบัด?หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วเม้มปากโดยไม่รู้ตัว วารีบำบัดที่ไหนทำกันแบบนี้ฮะ?จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดอยู่เลยนะ“วะ…วารีบำบัด?”ไม่เพียงแค่เซียวเฟิงคนเดียวที่ขมวดคิ้ว แม้แต่ถานเฟยก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ“ไม่จำเป็นต้องมาสนใจเรื่องยิบย่อยเหล่านี้ ทุกคนคงหิวกันแล้วใช่ไหม กินข้าวกันเถอะ”ขณะกล่าวฉู่เฉินก็เดินไปนั่งตรงกลางระหว่างต้วนหลิงเสวี่
เซียวเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับถานเฟย แต่สายตายังคงมองไปทางอาคารปีกตะวันออกเป็นระยะหลังจากผ่านไปสิบกว่านาทีเต็ม ประตูห้องรับแขกก็เปิดออก ก่อนที่ฉู่เฉินจะเดินเข้ามาในห้องรับแขก“คุณฉู่”ถานเฟยกับเซียวเฟิงพากันลุกขึ้น แล้วผงกศีรษะทักทายฉู่เฉินฉู่เฉินยิ้มพลางโบกมือกล่าวว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน นั่งสิครับ”เมื่อพูดจบก็ให้ต้วนหลิงเวยรินชาหอมให้ทั้งสองคน ฉู่เฉินดื่มน้ำชาไปด้วย ยิ้มพลางเอ่ยปากพูดไปด้วยว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน ดึกดื่นมาเยี่ยมกัน มีธุระเหรอครับ?” ถานเฟยสบตากับเซียวเฟิงแวบหนึ่งแล้วค่อยเอ่ยปากพูดอย่างเขินอายว่า “คุณชายฉู่ พูดแบบไม่ปิดบังเลยนะครับ ผมมาเจียงจงครั้งนี้ก็เพื่อขอให้คุณฉู่ลงมือช่วยเหลือ”“คุณยังจำเรื่องของสำนักว่านเซี๋ยได้หรือเปล่าครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยภาพถ่ายที่ถานเฟยให้เขาดูบนเฮลิคอปเตอร์ แต่ละใบล้วนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบรวมไปถึงซากแขนขาที่มีเลือดนองพื้น ฉู่เฉินไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต“จากเบาะแสที่คุณฉู่ให้มา ตอนนี้แก๊งมังกรจับตัวคนของสำนักว่านเซี๋ยได้หลายคนแล้วจริง ๆ จากคำให้การของพวกเขา ยังมีบุ
ฉู่เฉินที่ถลกชายกระโปรงของต้วนหลิงเวยขึ้นมา เตรียมจะทำการใหญ่ก็ตกใจเสียงร้องของหลิ่วหรูเยียนจนสะดุ้ง เขารีบหันหน้ามองไปทางหน้าประตู เห็นว่าเป็นหลิ่วหรูเยียนก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้เจ้าทึ่มไม่ดูประตูใหญ่ หนีไปเตร็ดเตร่ที่ไหนอีกแล้วคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ยังบุกเข้ามาในห้องอาบน้ำของอาคารปีกตะวันออกได้โชคดีที่เป็นคนที่มาอาบนวดให้เขา ถ้าเกิดเป็นคนร้ายละก็ เช่นนั้นก็เป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงแล้วไม่ใช่หรือไง“ฉะ ฉู่เฉิน นาย...”ฉู่เฉินเหลือกตาใส่หลิ่วหรูเยียนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “อะไรของเธอ เข้ามาทดสอบอุณหภูมิน้ำสิ” เขากล่าวจบก็ตบสะโพกอวบอิ่มของต้วนหลิงเวยที่ทำหน้าผิดหวังไปหนึ่งฉาด ฝ่ายหลังได้แต่ทำปากยื่น กระทืบเท้า บิดเอวแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนมองฉู่เฉินที่แทบจะระเบิดโลก ในใจรู้สึกประหม่าถึงขีดสุดด้วยความรู้สึกที่ทั้งอยากรู้และประหม่า หลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ถอดชุดทำงานและกระโปรงมินิสเกิร์ตออก เหลือไว้เพียงชุดชั้นในลูกไม้สีดำ เรียวขาขาวเนียนทั้งสองข้างส่ายไหว บิดเอวก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำเสียงน้ำดังซ่า ๆ ควบคู่ไปกับฉู่เฉินที่ก้าวเข้ามาใกล้หลิ่วหรูเยียน เขาเอื้อมมือไปจั
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนักพรตชิวสุ่ยที่ช่วยย้ายบ้านเมื่อตอนกลางวัน ต้วนหลิงเวยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมถึงเป็นคุณ?”นักพรตชิวสุ่ยรีบทำหน้ายิ้มแย้มให้ แล้วกวักมือเรียกนักพรตเด็กหลายคนที่อยู่ด้านหลัง นักพรตเด็กสิบกว่าคนที่แบกถุงกระสอบก็เดินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว“คุณหนูท่านนี้ หลายวันก่อนรู้ว่าคุณฉู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังหาโอกาสเหมาะ ๆ มาแสดงความห่วงใยไม่ได้เลย นี่เป็นสมุนไพรร้อยปีที่เก็บรักษาไว้ในคลังยาของสำนักเสวียนเทียนเรา ตั้งใจนำมามอบให้คุณฉู่โดยเฉพาะครับ” นักพรตชิวสุ่ยกล่าวจบก็ยังชะเง้อคอ มองเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงแวบหนึ่ง“มองอะไร!”ต้วนหลิงเวยถลึงดวงตางาม เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ทิ้งสมุนไพรไว้ คุณไปได้แล้ว รบกวนการพักผ่อนของนายท่าน ระวังหัวของคุณไว้ด้วยละ!”เดิมทีต้วนหลิงเวยข่มกลั้นเพลิงตัณหาไว้ในใจอยู่แล้ว เมื่อเห็นดวงตาสองข้างของนักพรตชิวสุ่ยกวาดมองไปทั่วก็ยิ่งเดือดดาล เธอหิ้วถุงกระสอบบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะหันกายเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงเงาหลังอันอ่อนช้อยให้นักพรตชิวสุ่ยเมื่อโดนปิดประตูไม่ต้อนรับแขก นักพรตชิวสุ่ยก็ได้แต่จากไปด้วยความอับอายแต่เขาเ