“กินข้าวเหรอ?”ฉู่เฉินเหลือบมองไปที่นาฬิกาข้อมือ เที่ยงพอดี นี่ก็ถึงเวลากินข้าวแล้ว เขาจึงพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ได้ครับ คุณเลือกเลยครับว่าจะทานที่ไหน ส่งที่อยู่มาให้ผมก็พอครับ”ซูซูเห็นว่าฉู่เฉินตอบรับทันที ภายในใจก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก รีบตอบกลับไปว่า “โอเคค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะคุณฉู่”พูดจบก็วางสายไปเวลาผ่านไปไม่นาน ซูซูก็ส่งโลเคชั่นมาให้ฉู่เฉินเธอเลือกเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นชื่อนาราอิซากายะ ค่าใช้จ่ายที่นี่จะค่อนไปทางสูง แต่สไตล์การตกแต่งมีเอกลักษณ์ร้านอาหารร้านนี้ไม่มีห้องโถง แต่เป็นการแบ่งห้องแต่ละห้องเป็นห้องเล็กๆ สไตล์ญี่ปุ่นภายในห้องเต็มไปด้วยเสื่อทาทามิ มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กยาวกว่าหนึ่งเมตรตั้งอยู่ตรงกลาง ข้างๆ ยังมีห้องเล็กๆ เพื่อให้แขกได้พักผ่อนอีกด้วยข้างในมีเครื่องนอนทุกชนิด ซูซูมาทานข้าวร้านนี้เป็นประจำ หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ ยังสามารถงีบกลางวันได้ด้วยวันนี้ที่นัดฉู่เฉินมาที่นี่ก็เพื่อความก้าวหน้าในอนาคตของเธอแม้ว่าเธอจะเป็นแค่พิธีกรตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ก็มองออกได้ไม่ยากผ่านรายการไลฟ์สดวันนั้น ผู้อาวุโสฮว่าได้ให้ความสำคัญต่อฉู่เฉินไม่แน่ในอนา
เวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานก็นำอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ ตอนที่เขาออกจากห้องไปยังปิดประตูอีกด้วย“คุณฉู่ มาค่ะ ฉันดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”ซูซูเทสาเกเต็มแก้วให้ฉู่เฉิน หลังจากนั้นก็เทให้ตัวเองแก้วหนึ่ง แขนหยกขาวราวหิมะยกแก้วเหล้าพร้อมพูดขึ้นมาฉู่เฉินยกแก้วขึ้นมาพร้อมยิ้มเล็กน้อย ชนแก้วกับซูซู หลังจากนั้นก็ดื่มจนหมดแก้วซูซูลุกขึ้นมาชนแก้ว เข็มขัดของกระโปรงเอวสูงเกี่ยวโดนมุมโต๊ะพอดี หลังจากที่เธอลุกขึ้นมา เสียงดังแควก กระโปรงถูกเกี่ยวจนฉีกกลายเป็นรอยฉีกรอยใหญ่ในตอนนั้นเอง ซูซูก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ สาเกที่อยู่ในแก้วเหล้าก็หกใส่ร่างของเธอจนหมด“โอ๊ย คุณฉู่ น่าอายจริงๆ เลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”ซูซูพลางอธิบายให้ฉู่เฉิน พลางดึงทิชชูมาเช็ดเสื้อผ้าที่เลอะเหล้าอยู่“ผมช่วยครับ”ฉู่เฉินหยิบผ้าขนหนูมาหนึ่งผืน ลุกเดินมายังที่นั่งของซูซูแต่ว่าไม่เช็ดก็ดีนะ พอเช็ดแล้วเหล้าก็กระจายไปหมด ชุดหน้าปกติก็บางอยู่แล้ว เวลาแค่แป๊บเดียวก็ถูกน้ำหกจนเปียกไปทั่วชั่วขณะหนึ่ง ผิวขาวราวกับหิมะของซูซู พร้อมทั้งส่วนโค้งเว้าที่น่าภูมิใจก็ถูกฉู่เฉินเห็นหมดในคราเดียวแม้แต่กางเกงในสีชมพูนั้นก็เห็นได้อย่างชัดเจนซูซูร
“ฉันคือฉู่เฉิน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”ฉู่เฉินเดินมาที่มุมทางเดิน พูดขึ้นใส่จงอาหู่ที่อยู่ปลายสาย“คุณฉู่ พวกเพื่อนของผมต้องการซื้อยาบำรุงปราณบางส่วน ไม่มีคำอนุญาตจากคุณ ผมจะกล้าตัดสินใจได้อย่างไรครับ? คุณว่าขายได้ไหมครับ?”ปลายสาย จงอาหู่พูดด้วยน้ำเสียงเคารพฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ได้ แต่ต้องควบคุมให้ขายแค่สิบเม็ดนะ ส่วนเรื่องราคานายก็ลองพิจารณาเองแล้วกัน”พูดจบฉู่เฉินก็วางสายลง เดินกลับไปยังห้องเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินกลับมาแล้ว ซูซูลูบไหล่ของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “คุณฉู่คะ ทักษะการแพทย์ของคุณดีขนาดนั้น ช่วยสอนฉันนวดหน่อยได้ไหมคะ”“พวกเราที่ทำงานเป็นพิธีกรเป็นโรคกระดูกสันหลังหนักมาก เพียงแค่นั่งนานหน่อย คอและไหล่ก็ปวดไปหมดเลยค่ะ”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอย่างเรียบนิ่งแล้วพูดว่า “ง่ายนิดเดียวครับ เขยิบมาครับ เดี๋ยวผมจะสอนคุณ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูซูก็ยิ้มออกมา คลานเข่าไปข้างๆ ฉู่เฉิน แผ่นหลังหยกเนียนทั้งหมดปรากฏต่อหน้าของฉู่เฉิน “ขอบคุณค่ะคุณฉู่”ฉู่เฉินนำพลังวิญญาณโคจรไว้ในมือ กดเข้าไปที่คอหยกอ่อนนุ่มของซูซูด้วยแรงกดและการถูที่ปลายนิ้วของฉู่เฉิน ในเวลาแค่แพล็
“อ๊ะ? ขอโทษค่ะผู้จัดการ ฉัน.. ฉันกำลังจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ...”เสียวเสวี่ยพนักงานหญิงคนนั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างแรง มือข้างหนึ่งกุมใบหน้าที่เขินอายไว้ รีบเดินไปยังอีกห้องหนึ่ง......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องของภัตตาคารพาราเมาท์ การแย่งชิงยาบำรุงปราณก็เข้าสู่ขั้นที่ดุเดือดหลี่ฮุยเหลือบมองไปที่สวี่เทียนหลาย เมื่อเห็นว่าชายขี้เหนียวแบบเขา ยังเสนอราคาหนึ่งเม็ดสองล้านห้า นี่ก็แสดงให้เห็นปัญหา!เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ฮุยก็หัวเราะออกมา พูดกับสวี่เทียนหลายว่า “คุณชายสวี่ คุณกินไปแล้วหนึ่งเม็ด ก็ไม่ต้องมาแย่งกับคนอื่นแล้ว ให้พวกเขาได้ลิ้มลองอย่างทั่วถึงเถอะ”พูดจบ ก็หันหน้าไปหาจงอาหู่พูดขึ้นมาว่า “อาหู่ นายสบายใจเถอะ พวกเราไม่มีทางทำให้นายขาดทุนหรอก คุณชายสวี่เสนอสองล้านห้า ฉันให้สามล้านเป็นไง?”“ฉันให้สามล้านห้า!”“สามล้านเจ็ดแสนห้าหมื่น!”“สี่ล้าน!”ฉิบหาย!เมื่อหลี่ฮุยพูดจบ คนอื่นๆ อีกสามคนก็รีบเพิ่มราคาอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาหลี่ฮุยถึงกับช็อกไปเลยนี่แม่งเป็นการโก่งราคามาใช่เหรอ?“ห้าล้าน!”สวี่เทียนหลายตบโต๊ะด้วยความรุนแรง ถลึงตาโตที่เหมือนกระดิ่งทองแดง ตะคอกออกมาเสียงดัง“สิบล้าน!
ยาบำรุงปราณเป็นยาที่ถูกบันทึกในวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ เป็นแค่ยาลูกกลอนระดับต้นชนิดหนึ่งเท่านั้นเมื่อระดับพลังของฉู่เฉินยกระดับขึ้น ตอนนี้เขาสามารถหลอมยาฟื้นฟูวิญญาณระดับที่สูงยิ่งกว่าได้แล้วอีกหน่อยถ้าเขาจะเผยแพร่ยาฟื้นฟูวิญญาณ ก็คงจะขาดกำลังของสำนักเฟิ่งไปไม่ได้ ดังนั้นส่วนแบ่งยาบำรุงปราณให้เยอะหน่อยนั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลโจวเทียนเฟิ่งเอาแต่คิดว่าเธอแก่กว่าฉู่เฉินหลายปีแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเกินกว่าคำว่ามิตรภาพไปแล้ว แต่อย่างมากเธอก็เป็นได้แค่หนึ่งในคนรักที่มากมายของฉู่เฉินอีกทั้งยังเป็นแบบคนรักที่เขาไม่ให้ความสำคัญที่สุดอีกด้วยกลับคาดไม่ถึงว่าตัวเธอจะมีความสำคัญในใจฉู่เฉินเช่นนี้เหมือนที่โบราณเขาบอกไว้ว่า ในโลกของผู้ใหญ่ หากนำเวลาและเงินทองมอบให้ผู้อื่น แสดงว่านั่นคือรักที่แท้จริงฉู่เฉินถึงขั้นแบ่งปันความมั่งคั่งนี้ให้เธอ นั่นก็แสดงว่าตำแหน่งของเธอในใจของฉู่เฉินดูจะสูงกว่าที่เธอจินตนาการไว้ซะอีกเมื่อคิดได้ดังนั้น บนหน้าของโจวเทียนเฟิ่งก็ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มที่น่าปีติหลังจากนำเงินหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าล้านโอนเข้าบัญชีฉู่เฉินแล้ว โจวเทียนเฟิ่งก็แบ่งให้จง
“บอกมา ยาลูกกลอนนี่แกซื้อมาจากที่ไหน!”สีหน้าของสวี่หมิงเทาเคร่งขรึม จ้องมองสวี่เทียนหลายด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ผม... ผมซื้อมาจากจงอาหู่ครับ”สวี่เทียนหลายไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นท่าทีของพ่อเขาที่เหมือนจะใช้กฎครอบครัวลงโทษเขา ทำเอาเขากลัวจนหัวหด รีบก้มหัวลงไป“จงอาหู่เหรอ? ไร้สาระน่า!”สวี่หมิงเทาตบโต๊ะดังปัง พูดขึ้นมาด้วยความโมโหว่า “มันเป็นแค่คนขับรถ จะเอายาลูกกลอนมาจากไหนกัน! หากยังไม่พูดความจริงอีกละก็ ลองดูว่าฉันจะตบแกให้ตายยังไง!”“พ่อครับ ที่ผมพูดคือความจริงทั้งหมด จงอาหู่บอกว่าเป็นโจวเทียนเฟิ่งที่เชิญแพทย์แผนจีนอาวุโสมอบยานี้ให้เขา ผม... ผมถามแล้วว่าแพทย์แผนจีนอาวุโสนั่นเป็นใคร แต่เขาไม่ยอมบอกครับ”“ยา... ยาพวกนี้ ผมแย่งมาด้วยราคาสูง... ถึงจะแย่งมาได้ครับ”สวี่เทียนหลายพูดด้วยท่าทางกล้ำกลืนหา?แพทย์แผนจีนอาวุโสงั้นเหรอ?ดวงตาของสวี่หมิงเทากลอกไปมาหลายที ส่ายหัวเล็กน้อยแม้ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีนที่เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหลอมยาลูกกลอนที่ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ได้ ไม่แน่คนที่เธอเชิญมาจะเป็น...นักหลอมยาเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ จู่ๆ สวี่หมิงเท
ไม่เพียงแค่ตระกูลสวี่ที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ ตระกูลอื่นสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกันบ่ายวันนั้น สวี่เทียนหลาย หลี่ฮุยและคนอื่นๆ โทรหาจงอาหู่ติดต่อกันสองสามครั้งหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน จงอาหู่อาจจะนัดประชุมเพื่อบอกความจริงกับคนอื่นๆ ตามความเป็นจริงว่าฉู่เฉินให้ยาบำรุงปราณเขามามากกว่าหนึ่งพันเม็ดแต่เมื่อหวนนึกถึงภาพในห้องนั้น จงอาหู่เปลี่ยนความคิดทันทีสีหน้ากล้ำกลืนพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ย ยาบำรุงปราณในมือผมก็ไม่เยอะนะ ตอนกลางวันที่ทานข้าวก็ได้แบ่งให้ทุกคนไปหมดแล้ว หากต้องการสั่งเพิ่มอีก อย่างนั้นต้องไปขอร้องแพทย์แผนจีนอาวุโสคนนั้นแล้วล่ะครับ”“เรื่องที่จะขอร้องคนอื่นน่ะ...”สวี่เทียนหลายเมื่อได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้เลยทันที จึงโอนเงินเข้าบัญชีให้จงอาหู่ห้าร้อยล้าน“พี่หู่ ผมเชื่อใจพี่ที่สุด ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรต้องให้ผมห้าสิบเม็ดขึ้นไปนะครับ”สวี่เทียนหลายคำนวณเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี คำนวณไว้ที่สามล้านชิ้น หากซื้อห้าสิบชิ้น ราคาเพียงเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน และยังสามารถทำกำไรมหาศาลได้ถึงสองร้อยห้าสิบล้านเมื่อมองย้อนกลับไปที่ยาบำรุงปราณที่เหลืออีกยี่สิบเม็ด เขาเก็บไว้สองสามเม็ดเพื่อตัวเอง แ
ที่จริงแล้วฉู่เฉินให้จงอาหู่ทำแบบนี้ตอนนี้ยาบำรุงปราณได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และก็ถึงเวลาที่จะใช้ไพ่เด็ดแล้วอีกทั้งความต้องการที่มหาศาลเช่นนี้ ก็ไม่อาจจะพึ่งแค่จงอาหู่คนเดียวได้ ต้องหาองค์กรที่เชื่อถือได้มาร่วมมือกันส่วนจงอาหู่แค่ต้องรับผิดชอบจัดจ่ายสินค้าให้องค์กรพวกนั้นก็พอเมื่อได้ยินดังนี้ ประธานเฉินที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวางสายโทรศัพท์พร้อมกับถอนหายใจ......ในตอนนั้นเอง คฤหาสน์ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำในมือของหลี่ฮุยได้ถือยาบำรุงปราณไว้เม็ดหนึ่ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลิ่วหรูเยียนเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่มาจีบหลิ่วหรูเยียนเช่นกันเพียงแต่ว่าหลี่ฮุยขึ้นชื่อเรื่องงามแต่รูป ในแวดวงชั้นสูงของเจียงจงมีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นคนสำส่อนบ้าง?ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตามจีบหลิ่วหรูเยียนมาหนึ่งปีเต็มๆ แม้แต่รอยยิ้มหลิ่วหรูเยียนก็ยังไม่เคยมอบให้เขาแต่ครั้งนี้เขามีความมั่นใจว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมพลีกายให้เขาอย่างแน่นอนเพราะว่าอย่างไรสองแม่ลูกตระกูลหลิ่วก็มีฉู่ซื่อกรุ๊ป บริษัทนี้ก็ทำเกี่ยวกับธุรกิจวงการแพทย์เช่นกันช่วงนี้ยาบำรุงปราณเป็นที่นิยมไ