จี้ซือหานต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาสองอาทิตย์ ซูหว่านคอยอยู่ดูแลข้างกายเขาตลอด กินกับเขา นอนกับเขา ราวกับได้กลับไปอยู่ในช่วงเวลาสมัยก่อนเพียงแต่เขาเป็นคนที่รักความสะอาดมาก ต่อให้หมอจะกำชับเอาไว้แล้วว่าห้ามขยับตัวมาก แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่ดีทุกครั้งหลังจากที่เขาเดินออกจากห้องน้ำ ก็จะผูกผ้าขนหนูไว้ผืนเดียว เผยให้เห็นหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแปดแพค เดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าของเธออย่างไม่ปกปิดเมื่อซูหว่านเห็นเขาแบบนี้ ก็มักจะรู้สึกว่าที่เขาอาบน้ำบ่อยๆ ไม่ใช่เพราะว่ารักความสะอาด แต่เขาแค่ใช้วิธีนี้ในการยั่วยวนเธอมากกว่า...โดยเฉพาะตอนกลางคืน เขาก็มักจะกอดและจูบเธออย่างบ้าคลั่งอย่างควบคุมไม่ได้ความรู้สึกที่พยายามจะควบคุมอารมณ์เพราะต้องการเคารบความต้องการของเธออย่างที่สุด ได้โจมตีจิตใจลึกๆ ในใจของซูหว่านทุกๆ ครั้งหนึ่งวันก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล เขาอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขากอดตัวซูหว่าน ให้ตัวของเธอพิงไปกับกำแพง แล้วกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ ถามว่า"หว่านหว่าน ให้ผมเถอะนะ หืม?"ซูหว่านเงยหน้าขึ้นมองไปยังสายตาที่ถูกความปรารถนาครอบงำจนแทบ
เมื่อหมอและบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเห็นผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด ก็เหมือนจะเข้าใจอะไรได้ในทันทีมิน่าท่านประธานคนนี้ถึงตอนค่ำก็ยังไม่ยอมเปิดประตู ที่แท้เพิ่งจะหายดีก็อดไม่ได้ที่จะเล่นเกมบนเตียงกับภรรยาตัวน้อยซะแล้วพวกเขาสิบกว่าคนถึงแม้สีหน้าจะทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น แต่ในใจของทุกคนต่างรู้ดี...ซูหว่านที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ามีคนเฝ้าอยู่หน้าประตูมากมายขนาดนี้ ใบหน้าขาวสะอาดก็แดงขึ้นมาในฉับพลันเธอรีบก้มหน้างุด ซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของจี้ซือหานอยู่อย่างนั้น...แต่จี้ซือหานกลับไม่เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตาเลยสักนิด เขาโอบตัวซูหว่านเดินผ่านคนพวกนั้นไปทางนอกโรงพยาบาลหน้าตาเฉยหลังจากที่ซูหว่านเข้าไปนั่งในรถแล้ว ใบหน้าที่แดงก่ำก็ค่อยๆ แดงน้อยลงบ้าง แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลับยังพาพวกหมอเดินออกมาส่งอีกเมื่อเธอเห็นว่าจู่ๆ จี้ซือหานก็เปิดประตูรถออก ทำให้เธออายจนต้องรีบดึงเอาชุดสูทของเขามาคลุมหัวไว้ทันที...เมื่อจี้ซือหานเห็นดังนั้น ฉับพลันเขาก็รู้สึกว่าซูหว่านในโหมดนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน จนเขาอดไม่ได้ที่จะอยากมีอะไรกับเธออีกครั้งผู้อำนวยการโ
เมื่อเห็นจี้ซือหานแบบนี้ ซูหว่านก็รับรู้ถึงความไม่สบายใจของเขาได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่สบายใจเธอทำได้เพียงยื่นมือไปโอบกอดเขาไว้ ซุกหัวลงไปบนไหล่ของเขา แล้วตอบกลับอย่างเชื่อฟังว่า "ได้"เธอเป็นของเขา ตั้งแต่ที่เธอยอมรับในตัวเขา ก็เป็นของเขาแล้ว...หลังจากที่จี้ซือหานได้รับการตอบกลับอันอ่อนโยนของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดของเขาก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นมาเขาจูบไปที่ข้างแก้มของเธอ ปรับเบาะที่นั่งในรถลงดวงตาดำขลับสดใสของซูหว่านเบิกกว้างขึ้นในทันที"จี้ซือหาน ร่างกายของคุณเพิ่งจะดีขึ้นเอง อย่าทำแบบนี้..."ชายหนุ่มก้มตัวลงมา ขบไปที่ติ่งหูของเธอเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า "หืม? ผมทำแบบไหนเหรอ?"ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล จนมาถึงนอกเมืองนี้ ก็ผ่านไปอีกคืนหนึ่งแล้วชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวที่ยังนอนหลับอย่างสบายในอ้อมแขนเขาเอาไว้ หลังจากที่มองดูเธออย่างรักใคร่ลึกซึ้งไปสักพัก ก็หยิบกระดาษทิชชู่เปียกขึ้นมาหลายแผ่นช่วยเธอเช็ดเม็ดเหงื่อเปียกชื้นตามร่างกายอย่างอ่อนโยนจี้ซือหานยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตามีประกายแห่งความสุขเล็กๆ ทำให้คนที่ดูเย็นชาดุจหิมะอย่างเขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาไม่น้อยห
ซูหว่านนอนหลับยาวจนถึงเย็น พอตื่นมาก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวราวกับโดนรถทับ ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวเธอนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ทำให้มองเห็นหน้าอกกว้างที่แข็งแกร่งของเขา อีกทั้งกล้ามท้องลอนสวยเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเธอตื่นแล้ว เขาก็ยกนิ้วมือเรียวของตัวเองลูบไปบนเส้นผมกับแก้มของเธอซูหว่านรีบผลักตัวของเขาออกอย่างแรง อยากจะพลิกตัวลงจากเตียงใครจะรู้ว่ายังไม่ทันจะเคลื่อนตัวไปถึงขอบเตียง ก็ถูกชายหนุ่มดึงตัวกลับมาบนเตียงอีกครั้งเธอที่ล้มตัวลงบนฟูกนุ่ม ใช้สายตาออดอ้อนมองไปที่จี้ซือหานจี้ซือหานขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่แววตาของเขาจะปรากฎเป็นรอยยิ้มขึ้นมาหลังจากที่ถูกจัดการไปอีกสองยก ชายหนุ่มก็อุ้มตัวเธอเข้าไปในห้องน้ำ ช่วยเธอทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็อุ้มเธอที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำลงมาที่ห้องอาหารบนโต๊ะรับประทานอาหารยาวแบบตะวันตกวางอาหารไว้มากมายหลายอย่าง คนรับใช้ยืนเป็นแถวรอฟังคำสั่งจากเจ้าของคฤหาสน์อยู่ด้านข้างจี้ซือหานอุ้มซูหว่านนั่งลงตรงที่นั่งของเจ้าบ้าน เขายกช้อนทองไปตักซุปไก่แล้วยื่นไปใกล้ๆ กับริมฝีปากของซูหว่าน"ดื่มซุปก่อน บำรุงร่างกาย..."ซูหว่านมองดูซุปหล
จี้ซือหานป้อนอาหารบำรุงร่างกายให้ซูหว่านต่อไป หลังจากที่อ้อนให้เธอกินเยอะๆ ก็อุ้มเธอมาที่ห้องดูหนังซูหว่านเข้าใจว่าชั้นใต้ดินของคฤหาสน์หลังนี้เป็นโรงจอดรถ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นโรงหนังทั้งชั้นแบบนี้เมื่อได้เห็นห้องดูหนังที่ใหญ่ยิ่งกว่าโรงหนังแม็กซ์หลายเท่า เธอก็อึ้งไป แล้วค่อยๆ หันไปมองที่จี้ซือหาน"ปกติคุณชอบดูหนังเหรอ?"จี้ซือหานก้มหน้าลงมามองเธอ แล้วตอบว่า "ไม่ชอบ"ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล เขาจงใจสั่งให้คนมารีโนเวทใหม่ เพราะกลัวว่าต่อไปตอนที่เธออยู่ที่บ้านจะรู้สึกเบื่อหลังจากที่เขาอุ้มซูหว่านไปวางบนโซฟาหนังสำหรับสองคนแล้ว ก็เปิดโปรแกรมหนังแล้วถามเธอว่า "หว่านหว่าน ปกติคุณชอบดูอะไรเหรอ?"ซูหว่านมองไปยังจอขนาดใหญ่ จากนั้นก็ชี้ไปที่หนังฝรั่งเรื่องหนึ่งแบบไม่ใส่ใจหลังจากที่จี้ซือหานกดเล่นหนัง ก็ปิดไฟ แล้วมานั่งอยู่ข้างตัวเธอ กอดเอวของเธอเอาไว้ ดูหนังกับเธอตอนเริ่มไม่กี่นาทีแรก หนังก็ดำเนินเรื่องไปปกติ แต่พอยิ่งฉายไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งแปลกๆ...เมื่อจี้ซือหานเห็นฉากที่ออกจะติดเรทค่อนข้างมากก็อดที่จะเลิกคิ้วเข้มขึ้นไม่ได้เขาก้มหน้าไปมองซูหว่านที่หน้าแดงอย่างผิดปกติ แล้วยิ้มมุมปากออ
ซูหว่านมองดูเขาที่อยู่ดีๆ ก็หงุดหงิด ราวกับได้เห็นจี้ซือหานในสมัยก่อนอีกครั้ง ตอนนั้นเขาก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้เธอค่อนข้างกลัวเขาที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้เลือกที่จะเงียบเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่พยายามหาสาเหตุจากตัวเองเธอคิดทบทวนถึงบทสนทนาของทั้งสองคนเมื่อครู่ ถึงค่อยๆ เข้าใจ...เธอพูดกับชายหนุ่มที่จูบตัวเองว่า "จี้ซือหาน ฉันไม่ได้ไม่อยากคลอดลูกของเรานะ ฉันแค่ยังไม่พร้อม คุณอย่าได้เข้าใจผิด"เมื่อชายหนุ่มได้ยินที่เธออธิบายแบบนี้สายตาของเขาก็ปรากฎร่องรอยของความรู้สึกผิดขึ้นมาเขายื่นมือออกไปกอดซูหว่าน แล้วซุกหน้าลงไปที่ลำคอของเธออย่างหมดเรี่ยวแรง"หว่านหว่าน ขอโทษนะ เป็นความผิดของผมเอง..."เป็นเขาที่รู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นเขาที่กลัว กลัวว่าสักวันเธอจะจากเขาไปโดยไม่หันกลับมาความรู้สึกไม่สบายใจนี้ทรมานเขา ทำให้ถึงแม้เขาจะมีเธออยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริงเลยราวกับเป็นความฝันที่งดงามฉากหนึ่ง ที่มีสักวันจะต้องพังทลายลง เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น...เมื่อซูหว่านได้เห็นเขาที่ไม่สบายใจแบบนี้ก็ยื่นมือออกไปโอบคอของเขาเอง แล้วจูบไปที่ริมฝีปากของเขา"ซือหาน ฉันก็อยู่กั
การฝีมือของจี้ซือหานเธอก็พอจะรู้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากจะคิดมาก จึงตอบไปว่า "บางทีอาจจะแค่ออกไปจากวอชิงตันแล้วก็ได้"เสิ่นหนานอี้ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ บอกบ๊ายบายจากนั้นก็วางสายไปเลยซูหว่านเพิ่งจะกดออกจากหน้าบันทึกการโทรเข้าออก ซานซานก็วีดีโอคอลเข้ามาพอดีเธอกดปุ่มรับสาย จากนั้นซานซานที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าบาร์ก็ปรากฎขึ้นมาในมือถือเธอถือมือถือไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งคีบบุหรี่ตัวหนึ่งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าซูหว่านรับโทรศัพท์แล้ว จึงรีบยิ้มกับหน้าจอมือถือทันที"หว่านหว่าน เธอไปอยู่วอชิงตันตั้งครึ่งเดือนกว่าแล้ว คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?""แน่นอนสิ"ซูหว่านยิ้มตอบ เมื่อเห็นบุหรี่ในมือของเธอ จึงได้พูดเตือนขึ้น "ซานซาน เธอสูบบุหรี่ให้น้อยลงหน่อยเถอะ"เธอติดบุหรี่ค่อนข้างหนัก เพิ่งจะเลิกได้ไม่กี่วันก็สูบใหม่อีกแล้วร่างกายของผู้หญิง ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับพวกเหล้าบุหรี่มากนัก แต่ซานซานกลับไม่สนเรื่องพวกนี้เลยเธอแทบจะไม่ห่างเหล้าบุหรี่เลย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของไนท์คลับ ทำให้เธออยากเลิกก็เลิกไม่ได้ซานซานเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่สนใจ "บุหรี่ชั้นดี ไม่ทำลายสุขภาพหรอก วางใจเถอะ"ซูหว่านถอนหายใจห
ซูหว่านเขินจนหน้าแทบจะไหม้อยู่แล้ว กำลังจะพูดตอกกลับซานซานสักสองประโยคอย่างไม่ยอมแพ้ ก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเงาหนึ่งโผล่ขึ้นในวีดีโอคอลผู้ชายที่สวมเสื้อสูทสีขาวคนนั้น ยื่นมือมาแย่งบุหรี่ในมือของซานซานไป ดับไฟก่อนจะโยนทิ้งลงไปในถังขยะ แล้วก้มหน้ามองเธอ"บอกคุณหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าสูบบุหรี่ ทำไมคุณถึงไม่ฟังบ้าง?"ซูหว่านที่เห็นจี้เหลียงชวนที่จู่ๆ ก็ปรากฎตัวออกมาอีกฝั่งของวีดีโอคอล ก็ตกใจอึ้งอยู่ตรงนั้นแต่ซานซานกลับตกใจยิ่งกว่าเธออีก ราวกับคิดไม่ถึงเลยว่าจี้เหลียงชวนจะมาไนท์คลับ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าเขาจะเดินเข้ามาพูดกับเธอเองแบบนี้หลังจากที่พวกเขามีเรื่องจนแยกย้ายกันอย่างไม่ค่อยสวยเท่าไรที่ไนท์คลับในครั้งนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย อารมณ์ประมาณไม่ต้องติดต่อกันอีกตลอดชีวิตแต่จี้เหลียงชวนกลับลดตัวมาที่ไนท์คลับของเธออีกครั้งหลังจากที่ระยะเวลาผ่านไปนานหลายเดือน แถมยังแย่งบุหรี่ของเธอไปเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วยนี่ทำให้ซานซานไม่ค่อยเข้าใจเลย...ทั้งๆ ที่ครั้งก่อนตอนอยู่ในโรงพยาบาล เห็นเขาเดินเข้าแผนกสูตินารีเวชกับหญิงสาวหน้าตาดีมากคนหนึ่งท่าทางการประคองที่ระมัดระวังแบบนั้น เห็นชั