การรับประทานอาหารค่ำใต้แสงเทียนมื้อนี้จบลงท่ามกลางเสียงบรรเลงเชลโลเพลงแล้วเพลงเล่าตอนที่ซูหว่านลุกขึ้น ลมเย็นพัดผมสั้นของเธอ ผมที่ยุ่งเหยิงบังตาจี้ซือหานยื่นมือมาปัดผมออกให้เธอ แล้วหยิบเสื้อสูทขึ้นมาคลุมให้จากนั้นก็จูงมือเธออีกครั้ง แล้วพาเธอลงไปชั้นล่าง "หว่านหว่าน มีละเวที เธอ..."เขาก้มศีรษะลงและมองไปที่ซูหว่านที่อยู่ข้างๆ เมื่อเขาเห็นว่าเธอกำลังมองไปที่อาคารรัฐสภาที่อยู่ไกล ๆ เขาก็หยุดพูดเขาเผยิดหน้าให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลัง และก็มีคนเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไรจึงรีบเดินไปที่ทำเนียบขาว"หว่านหว่าน งั้นเราไปที่รัฐสภากัน"ซูหว่านเพิ่งตั้งสติได้เธอส่ายหัวให้เขา "ไม่ต้องหรอก คุณได้เตรียมละครเวทีไว้แล้ว งั้นเราก้ไปดูละครเวทีกันเถอะ"เธอแค่ได้ยินเสิ่นหนานอี้บอกว่าอาคารรัฐสภาได้แรงบันดางใจมาจากการออกแบบของกรีกและโรมโบราณ ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะมองดูนานหน่อยแต่เธอไม่คาดคิดว่าแค่เธอมองนานไปหน่อยแล้วจี้ซือหานจะพาเธอไปที่รัฐสภา นี่มันจะคำนึงถึงความรู้สึกของเธอมากเกินไปจี้ซือหานไม่ได้พูดอะไรมาก เขาแค่จับมือเธอแล้วเดินไปทางรัฐสภา...ซูหว่านคิดว่าแค่ชมรอบนอกเท่านั้น แต่เข
จี้ซือหานอุ้มเธอกลับไปที่รถแล้วเดินไปที่ สถาบันจอห์น เอฟ. เคนเนดีเพื่อศิลปะการแสดงก่อนที่เขาจะพาเธอเข้าไป เขาก็หยุดและมองลงไปที่ซูหว่าน"หว่านหว่าน คุณชอบละครเพลงหรือชอบการแสดงดนตรี?"เขามัวแต่สนใจวางแผนกิจกรรมจนลืมถามเธอเกี่ยวกับความชอบของเธอจริง ๆ แล้ว ซูหว่านไม่ได้สนใจละครเพลงมากนัก ดังนั้นเธอจึงดูลังเลเล็กน้อยเธอลังเลเพียงสองวินาที จี้ซือหานก็อ่านความคิดเธอออกอย่างรวดเร็ว เขาเผยอหน้าให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาอีกครั้งบอดี้การ์ดไปที่ห้องแสดงดนตรีทันที และหลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไป ก็มีคนพาพวกเขาไปที่ห้องชุดประธานาธิบดีบนชั้นสามเวทีคอนเสิร์ตฮอลล์ตกแต่งด้วยไปป์ออร์แกนนับไม่ถ้วนซึ่งดูสวยงามและอลังการซูหว่านกำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองก้มหน้าชมการแสดงที่น่าตื่นตาบนเวที รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ...จี้ซือหานที่มองเธอตลอดเวลา พอเห็นรอยยิ้มนั้น สายตาของเขาก็มีความสุข"หว่านหว่าน ในที่สุดเธอก็ยิ้มได้"หลังจากที่เธอกลับประเทศ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็กลายเป็นความขมขื่นที่แสร้งทำเป็นนิ่งเฉย เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขเช่นนี้มานานแล้วเมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่า
ซูหว่านถูกผลักลงไปล้มลงกับพื้น เธอได้ยินเพียงเสียงเบรกกะทันหันเธอตื่นตระหนก รีบหันไปมองที่นอนอจี้ซือหานยู่บนพื้น...เขาส่งเสียงครางและมีเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเขาอย่างช้า ๆ..."ท่านครับ"บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งลงจากรถและหน้าซีดด้วยความตกใจพวกเขารีบเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้นจะพาไปโรงพยาบาลจี้ซือหานผลักบอดี้การ์ดออกไป ยืนขึ้นฝืนเดินไปหาซูหว่านโซเซเขาคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ ช่วยพยุงเธอลุกขึ้นจากพื้น และสำรวจร่างกายของเธอจนทั่วด้วยความเป็นห่วงมาก"หว่านหว่าน เธอเป็นไรไหม?"แววตาของเขาทั้งกังวล ตื่นตระหนกและเป็นห่วงทำให้หัวใจของซูหว่านสั่นสะท้านเธอจ้องมองชายตรงหน้าที่ถูกรถชน แต่กลับเป็นห่วงเธอก่อนอย่างเอ๋อ ๆความคิดที่ซับซ้อนที่อธิบายไม่ถูกเข้าครอบงำจิตใจของเธอ ทำให้เธอตกตะลึงจนไม่พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด จี้ซือหานก็คิดไปว่าเขาใช้แรงมากไปเลยทำให้เธอบาดเจ็บ เขาจึงรีบอุ้มเธอแล้วเดินไปที่รถอย่างรวดเร็วซูหว่านที่ถูกอุ้มขึ้นไปกลางอากาศ เมื่อเธอเห็นเลือดบนริมฝีปากของเขาแล้วก็หน้าซีด"จี้ซือหาน คุณกระอักเลือด อวัยวะภายในน่าจะได้รับบาดเจ็บ รีบปล่อยฉันลง อย่าออกแรงอี
"โชคดีที่ปริมาณเลือดออกไม่มากและไม่รุนแรง เราจะให้ยารักษาก่อน หากเป็นหนักในภายหลังจะต้องเข้ารับการผ่าตัด"ผู้อํานวยการวางฟิล์มในมือลงแล้วมองไปที่จี้ซือหานซึ่งเอนตัวอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าไม่มีเลือดไหลออกริมฝีปากของเขาแล้วโชคดีที่ห้ามเลือดได้ทันเวลาและไม่มีการติดเชื้อ มิฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในโรงพยาบาลของเขา ตระกูลจี้คงจะต้องคิดบัญชีกับเขาแน่ซูหว่านซึ่งคอยดูแลอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย หลังจากได้ยินคำพูดของผู้อํานวยการก็ผ่อนคลายขึ้น"ต้องระวังเรื่องอะไรบ้างคะ ตอนนอนโรงพยาบาล""ต้องระวังเรื่องอาหาร ใส่ใจกับการพักผ่อน และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังมาก"หลังจากที่ซูหว่านจดทุกอย่างไว้ในใจแล้ว เธอก็ถามหมอที่กำลังพันผ้าพันแผลที่แขนของจี้ซือหาน"แขนเขาเป็นยังไงบ้างคะ?""แค่แผลถลอกและมีเลือดออก กระดูกไม่หัก ไม่มีอะไรร้ายแรง"ซูหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอกอีกครั้ง และมองไปที่จี้ซือหานที่กำลังจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีดำขลับหลังจากที่ทั้งสองมองหน้ากันเงียบๆ สักพัก จี้ซือหานก็บีบฝ่ามือของเธอ"หว่านหว่าน ไม่ต้องกังวล หลังจากผล
จี้ซือหานต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาสองอาทิตย์ ซูหว่านคอยอยู่ดูแลข้างกายเขาตลอด กินกับเขา นอนกับเขา ราวกับได้กลับไปอยู่ในช่วงเวลาสมัยก่อนเพียงแต่เขาเป็นคนที่รักความสะอาดมาก ต่อให้หมอจะกำชับเอาไว้แล้วว่าห้ามขยับตัวมาก แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่ดีทุกครั้งหลังจากที่เขาเดินออกจากห้องน้ำ ก็จะผูกผ้าขนหนูไว้ผืนเดียว เผยให้เห็นหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแปดแพค เดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าของเธออย่างไม่ปกปิดเมื่อซูหว่านเห็นเขาแบบนี้ ก็มักจะรู้สึกว่าที่เขาอาบน้ำบ่อยๆ ไม่ใช่เพราะว่ารักความสะอาด แต่เขาแค่ใช้วิธีนี้ในการยั่วยวนเธอมากกว่า...โดยเฉพาะตอนกลางคืน เขาก็มักจะกอดและจูบเธออย่างบ้าคลั่งอย่างควบคุมไม่ได้ความรู้สึกที่พยายามจะควบคุมอารมณ์เพราะต้องการเคารบความต้องการของเธออย่างที่สุด ได้โจมตีจิตใจลึกๆ ในใจของซูหว่านทุกๆ ครั้งหนึ่งวันก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล เขาอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขากอดตัวซูหว่าน ให้ตัวของเธอพิงไปกับกำแพง แล้วกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ ถามว่า"หว่านหว่าน ให้ผมเถอะนะ หืม?"ซูหว่านเงยหน้าขึ้นมองไปยังสายตาที่ถูกความปรารถนาครอบงำจนแทบ
เมื่อหมอและบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเห็นผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด ก็เหมือนจะเข้าใจอะไรได้ในทันทีมิน่าท่านประธานคนนี้ถึงตอนค่ำก็ยังไม่ยอมเปิดประตู ที่แท้เพิ่งจะหายดีก็อดไม่ได้ที่จะเล่นเกมบนเตียงกับภรรยาตัวน้อยซะแล้วพวกเขาสิบกว่าคนถึงแม้สีหน้าจะทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น แต่ในใจของทุกคนต่างรู้ดี...ซูหว่านที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ามีคนเฝ้าอยู่หน้าประตูมากมายขนาดนี้ ใบหน้าขาวสะอาดก็แดงขึ้นมาในฉับพลันเธอรีบก้มหน้างุด ซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของจี้ซือหานอยู่อย่างนั้น...แต่จี้ซือหานกลับไม่เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตาเลยสักนิด เขาโอบตัวซูหว่านเดินผ่านคนพวกนั้นไปทางนอกโรงพยาบาลหน้าตาเฉยหลังจากที่ซูหว่านเข้าไปนั่งในรถแล้ว ใบหน้าที่แดงก่ำก็ค่อยๆ แดงน้อยลงบ้าง แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลับยังพาพวกหมอเดินออกมาส่งอีกเมื่อเธอเห็นว่าจู่ๆ จี้ซือหานก็เปิดประตูรถออก ทำให้เธออายจนต้องรีบดึงเอาชุดสูทของเขามาคลุมหัวไว้ทันที...เมื่อจี้ซือหานเห็นดังนั้น ฉับพลันเขาก็รู้สึกว่าซูหว่านในโหมดนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน จนเขาอดไม่ได้ที่จะอยากมีอะไรกับเธออีกครั้งผู้อำนวยการโ
เมื่อเห็นจี้ซือหานแบบนี้ ซูหว่านก็รับรู้ถึงความไม่สบายใจของเขาได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่สบายใจเธอทำได้เพียงยื่นมือไปโอบกอดเขาไว้ ซุกหัวลงไปบนไหล่ของเขา แล้วตอบกลับอย่างเชื่อฟังว่า "ได้"เธอเป็นของเขา ตั้งแต่ที่เธอยอมรับในตัวเขา ก็เป็นของเขาแล้ว...หลังจากที่จี้ซือหานได้รับการตอบกลับอันอ่อนโยนของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดของเขาก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นมาเขาจูบไปที่ข้างแก้มของเธอ ปรับเบาะที่นั่งในรถลงดวงตาดำขลับสดใสของซูหว่านเบิกกว้างขึ้นในทันที"จี้ซือหาน ร่างกายของคุณเพิ่งจะดีขึ้นเอง อย่าทำแบบนี้..."ชายหนุ่มก้มตัวลงมา ขบไปที่ติ่งหูของเธอเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า "หืม? ผมทำแบบไหนเหรอ?"ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล จนมาถึงนอกเมืองนี้ ก็ผ่านไปอีกคืนหนึ่งแล้วชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวที่ยังนอนหลับอย่างสบายในอ้อมแขนเขาเอาไว้ หลังจากที่มองดูเธออย่างรักใคร่ลึกซึ้งไปสักพัก ก็หยิบกระดาษทิชชู่เปียกขึ้นมาหลายแผ่นช่วยเธอเช็ดเม็ดเหงื่อเปียกชื้นตามร่างกายอย่างอ่อนโยนจี้ซือหานยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตามีประกายแห่งความสุขเล็กๆ ทำให้คนที่ดูเย็นชาดุจหิมะอย่างเขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาไม่น้อยห
ซูหว่านนอนหลับยาวจนถึงเย็น พอตื่นมาก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวราวกับโดนรถทับ ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวเธอนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ทำให้มองเห็นหน้าอกกว้างที่แข็งแกร่งของเขา อีกทั้งกล้ามท้องลอนสวยเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเธอตื่นแล้ว เขาก็ยกนิ้วมือเรียวของตัวเองลูบไปบนเส้นผมกับแก้มของเธอซูหว่านรีบผลักตัวของเขาออกอย่างแรง อยากจะพลิกตัวลงจากเตียงใครจะรู้ว่ายังไม่ทันจะเคลื่อนตัวไปถึงขอบเตียง ก็ถูกชายหนุ่มดึงตัวกลับมาบนเตียงอีกครั้งเธอที่ล้มตัวลงบนฟูกนุ่ม ใช้สายตาออดอ้อนมองไปที่จี้ซือหานจี้ซือหานขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่แววตาของเขาจะปรากฎเป็นรอยยิ้มขึ้นมาหลังจากที่ถูกจัดการไปอีกสองยก ชายหนุ่มก็อุ้มตัวเธอเข้าไปในห้องน้ำ ช่วยเธอทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็อุ้มเธอที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำลงมาที่ห้องอาหารบนโต๊ะรับประทานอาหารยาวแบบตะวันตกวางอาหารไว้มากมายหลายอย่าง คนรับใช้ยืนเป็นแถวรอฟังคำสั่งจากเจ้าของคฤหาสน์อยู่ด้านข้างจี้ซือหานอุ้มซูหว่านนั่งลงตรงที่นั่งของเจ้าบ้าน เขายกช้อนทองไปตักซุปไก่แล้วยื่นไปใกล้ๆ กับริมฝีปากของซูหว่าน"ดื่มซุปก่อน บำรุงร่างกาย..."ซูหว่านมองดูซุปหล