หลังจากเจนนี่โน้มน้าวซูหว่านได้สำเร็จก็ขับรถพาพวกเขาไปแต่งหน้าทำผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าคนต่างชาติทั้งชายและหญิงให้ความสําคัญกับงานเลี้ยงอาหารค่ำเสมอและมักจะแต่งตัวเต็มยศมาร่วมงานซูหว่านสวมชุดเดรทยาวคอวีสีแหวกอกสีดำ เนื้อผ้าถูกเย็บอย่างแน่นกระชับเพื่อเน่นรูปร่างที่อกนูนก้นกระดกให้เด่นหน้าอกเต่งตึงที่ล้นออกมา เอวเพรียวคอดกิ่ว ต้นขาที่ขาวและเรียวสวยต่างก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในลุคผมสั้นประบ่าเธอรู้สึกว่าชุดนี้โป๊เกินไปจึงจะขอเปลี่ยน แต่เจนนี่กลับเร่งบอกว่าไม่ทันแล้วเธอจึงต้องขอยืมเสื้อสูทของเสิ่นหนานอี้มาคลุมตัวไว้ อย่างน้อยก็ปกปิดหลังที่เปลือยเปล่าไว้ก็ยังดีแล้วพวกเขามาถึงโรงแรมในไม่ช้า หลังจากเสิ่นหนานอี้ลงจากรถแล้วเขาก็จูงมือเธอลงมาจากรถอย่างเป็นสุภาพบุรุษเมื่อทั้งสองเดินบนพรมแดง เสิ่นหนานอี้ก็เอียงหน้าพูดกับซูหว่านว่า "เกาะแขนผมไว้เดี๋ยวจะได้ไม่มีใครมาเกาะแกะคุณ"ซูหว่านยกแขนเรียวขาวขึ้นมาจับแขนเขาไว้ทันที ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้าไปในโรงแรมในงานเลี้ยงอาหารค่ำมีคนจํานวนมาร่วมงานหลายคน แต่ไม่ใช่ผู้บริหารของนาซ่าหรือช่างเทคนิคหลัก มีแต่คนของศูนย์บริหารงานกลางเมื่อ
เธอคิดไปคิดมาแล้วสุดท้ายก็ตอบตกลงจี้ซือหานพาเธอไปที่ระเบียงและสั่งบริกรนําไวน์แดงสองแก้วมาให้พวกเขาเดิมทีซูหว่านดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ แต่อยู่กับเขาตามลำพังมันอึดอัดจนหายใจไม่ออกเธอเลยได้แต่ต้องรับแก้วไวน์มา ก้มหน้าจิบไวน์เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาสั้น ๆ ที่แสนหนักหน่วงนี้ไปจี้ซือหานเห็นว่าเธอดื่มไวน์ไปหลายอึกจึงยื่นนิ้วที่เรียวยาวออกและคว้าแก้วไวน์ในมือของเธอไป"เธอเคยผ่าตัดใหญ่มาอย่าดื่มเยอะ"เขาวางแก้วไวน์ไว้บนบาร์ข้าง ๆ หันข้างมามองซูหว่านแสงสลัวส่องลงบนใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือทำให้ผิวให้ขาวเนียนละเอียดบวกกับเครื่องหน้าที่ประณีตงดงามดูนุ่มนวลจนไร้ที่ติสายตาของเขาค่อย ๆ เลื่อนลงมา ผมสั้นยุ่งเหยิงติดอยู่ที่ต้นคอขาวเขามองแค่แวบเดียวเลือดก็เดือดพล่าน เขากลัวว่าตัวเองจะทำอะไรที่ไม่เหมาะสมอีกจึงรีบละสายตาเขายกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแล้วมองไปข้างหน้า ถามซูหว่านที่ยืนเคียงบ่าอยู่ข้างกายว่า "ตอนนี้เธอเริ่มทํางานหรือยัง"หลังจากซูหว่านส่งเสียงอืมเบา ๆ เธอก็ยกมือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างที่ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดีที่ขึ้นมาวางที่ขอบบาร์จี้ซือหานเอียงหน้ามองไปที่แผ่นหลังของเธออีกครั้งเมื่อเห็นผิวที่
จี้ซือหานสั่นไปทั้งตัว นี่คือผู้หญิงที่เขาไม่ได้สัมผัสมานานกว่าสามปีแล้ว แค่แววตาที่เธอมองมาทีเดียวก็ทําให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว นับประสาอะไรกับที่เธอมาร้องขอเขาก่อนแบบนี้แต่เธอแต่งงานแล้วและที่เธอกัดติ่งหูของเขาและพูดแบบนี้ก็เพราะถูกวางยาดื่มอะไรที่ไม่ควรดื่มเข้าไปแต่... ลมหายใจและจูบที่ร้อนระอุข้างหูทําให้เขาชาไปทั้งตัว แค่ไม่กี่วินาทีความเหมาะสมก็ถูกความปรารถนาเข้าแทนที่ทันทีเขายกนิ้วมือเรียวขึ้นมาจับเอวของเธอไว้ แล้วอุ่มร่างเล็ก ๆ ของเธอขึ้นมาเล็กน้อยดันตัวเธอติดกับบาร์มืออีกข้างที่เห็นข้อกระดูกชัดเจนจับท้ายทอยเธอไว้แล้วก้มหน้าลงไปดูดริมฝีปากเธอ เขาจูบเธออย่างบ้าคลั่งไม่สนใจอะไรอีกแล้ว…จี้ซือหานควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาต้องการเธอมาก แต่เขาก็ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง เขารู้ดีว่าไม่ควรจะทำอะไรเธอในเวลานี้จี้ซือหานกอดเธอแน่น หลังจากก้มหน้าจูบอย่างลึกซึ้งไปพักหนึ่ง เขาก็บังคับตัวเองให้อดทนต่อความเจ็บปวดและผลักเธอออกไปซูหว่านที่ถูกผลักออกไป เธอหน้ามองเขาด้วยแววตาสับสน ดวงตาของเธอขมุกขมัวจี้ซือหานก้มตัว จับคนร่างเล็กอุ้มนอนขึ้นมาและพูดเบา ๆ ว่า "หว่านหว่าน อย่าดื้อ ฉันจะพาเธ
ถ้าคืนนี้เขาไม่มา ซูหว่านคงตกอยู่ในมือของไรเดอร์แล้ว พอคิดว่าเธอเกือบถูกชายแก่แบบนี้รังแก เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!ชีวิตนี้เขาสามารถทนความเจ็บปวดยกเธอให้กับซ่งซือเยว่ได้ แต่เขาไม่สามารถทนให้ผู้ชายคนอื่นมาจ้องเธออย่างใจจดใจจ่อได้ แม้แต่มองแวบเดียวก็ไม่ได้!เมื่อไรเดอร์ได้ยินว่าจี้ซือหานจะยิงเขา เขาก็กลัวจนตัวสั่นและตะโกนด้วยความโกรธในเวลาเดียวกันก็ว่า "คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะยิงผม?!"จี้ซือหานทําเหมือนไม่ได้ยิน อุ้มซูหว่านออกจากระเบียงอย่างรวดเร็ว แล้วเดินผ่านห้องจัดเลี้ยง เข้าไปนั่งในรถลีมูซีนหลังจากเขาวางซูหว่านไว้ที่เบาะหลังที่กว้างขวางแล้ว ก็เหลือบตามองคนขับอย่างเย็นชา "วางแผ่นกั้นลง!"คนขับตกใจกับสายตาของเขาและรีบวางแผ่นกั้นลงด้วยความตกใจหลังจากปิดกั้นสายตาแล้ว คนขับรถก็ได้ยินเขาออกคําสั่งอย่างเย็นชาว่า "ภายในสิบนาทีไปถึงโรงพยาบาลซะ!"คนขับรถตอบกลับด้วยความเคารพว่าครับ และสตาร์ทรถอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเมื่อเสิ่นหนานอี้ไล่ตามออกมา ก็เห็นเพียงแค่ควันไอเสียที่รถหรูทิ้งไว้ เขาโกรธจนรีบโบกรถแล้วตามไปทันทีที่เบาะหลัง จี้ซือหานวางซูหว่านไว้ด้านข้าง เขาไม่กล้
จี้ซือหานนั่งอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย ใช้ถุงน้ำแข็งลดอุณหภูมิให้เธอร่างกายที่ร้อนและแดงของเธอค่อย ๆ กลับเป็นสีเลือดตามปกติเขาวางถุงน้ำแข็งลง ยกนิ้วขึ้นลูบแก้มของเธอเมื่อรู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอไม่ได้ร้อนขนาดนั้นแล้ว คิ้วเข้มที่ขมวดแน่นจึงค่อย ๆ คลายออกเขาจับมือเล็ก ๆ ของเธอ จ้องมองใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือนั้นอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรักล้นพ้นแต่ไม่อาจครอบครองได้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลางคืนเปลี่ยนเป็นกลางวัน คนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้จึงขมวดคิ้วและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นสิ่งที่สะท้อนสู่สายตาคือใบหน้าที่คมคาย ดวงตาคู่นั้นกําลังจ้องมองเธออย่างไม่ขยับเขยื้อนซูหว่านลดตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเขาโดยไม่รู้ตัว แต่ภาพที่เธอจูบเขานั้นกลับปรากฏขึ้นในสมองอย่างกะทันหันเธอใจสั่น เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองดื่มไปไม่กี่อึก ร่างกายก็ผิดปกติแล้ว จากนั้น...เธอแอบมองจี้ซือหานแวบหนึ่ง พอดีเห็นรอยเขียวช้ำที่คอของเขา เต็มไปด้วยรอยจูบที่แน่นขนัดเธอเป็นคนจูบเขา หลังจากดื่มเหล้าแล้ว เธอทําเรื่องบางอย่างกับเขาอย่างอุกอาจ...ซูหว่านหวนคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าก็แดงก่ำ เธอกระอักกระอ่วนมากจนรีบล
เขามองดูดวงตาดอกท้อคู่นั้นของเธอ เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด "ให้ฉันอยู่กับเธอในขณะที่เธออยู่ในวอชิงตัน"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ดวงตาพลันฉายแววไม่อยากเชื่อ ก่อนจะรีบกลับสู่ธรรมชาติอย่างรวดเร็ว "คุณจี้ มันไม่เหมาะสมค่ะ"ครั้งนี้เธอดื่มของที่ไม่ควรดื่มเข้าไป เธอถึงได้พัวพันกับจี้ซือหาน แต่ไม่จําเป็นต้องพัวพันต่อไปเพราะเหตุนี้จี้ซือหานหยักริมฝีปากบาง ยิ้มอย่างขมขื่น "คุณซู กลัวว่าสามีที่บ้านจะถือสาหรือ?"ซูหว่านส่ายหน้าเบา ๆ พูดกับเขาว่า "คุณจี้คะ ตอนที่ฉันรักคุณ ฉันเหนื่อยมาก ฉันไม่อยากทําผิดซ้ำอีกค่ะ"ครั้งแรกที่เขาได้ยินเธอพูดว่ารักเขาด้วยตัวเอง หัวใจของจี้ซือหานหยุดเต้นทันที ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย "ซูหว่าน ฉันรอประโยคนี้ของคุณ รอมาหลายปีแล้ว..."ซูหว่านเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ฉันก็รอคุณบอกรักฉันมาหลายปีแล้วเหมือนกันค่ะ..."จี้ซือหานเห็นรอยยิ้มที่ผ่อนคลายบนใบหน้าของเธอ ก็ปวดใจจนหายใจแทบไม่ออกเขาใช้มือข้างหนึ่งลูบแก้มขนาดเท่าฝ่ามือของเธอ แล้วโน้มตัวเข้าไปถามเธอว่า "ในเมื่อเรารักกัน ยังอยู่ด้วยกันได้ไหม?"ซูหว่านยังคงยิ้มและแก้ไขให้เขา "คุณจี้ เคยรั
จี้ซือหานเห็นเธอเงียบไป ก็รู้คําตอบของเธอแล้วเขายกนิ้วกดปุ่มบนเตียงในโรงพยาบาลผู้อํานวยการเดินเข้ามาจากนอกห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว "ประธานจี้ มีอะไรจะรับสั่งครับ?"จี้ซือหานเอนหลังพิงโซฟา จับจ้องใบหน้าเล็กที่ยังซีดอยู่ เอ่ยเสียงเย็นชาว่า "ช่วยเธอตรวจร่างกายหน่อย ดูว่ายาพวกนั้นทําลายอวัยวะของร่างกายหรือไม่"ผู้อํานวยการอยากบอกว่าแค่ใช้ยาธรรมดาเท่านั้น ไม่ถึงกับทําลายอวัยวะหรอกมั้งซูหว่านเองก็รู้สึกว่าไม่จําเป็น แต่ยังไม่ทันได้พูดห้ามปราม ผู้อํานวยการก็หันหลังออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้วเรื่องที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สั่งมา แม้แต่ผู้อํานวยการก็ไม่กล้าขัด เขารีบแจ้งทุกแผนกให้ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจซูหว่านถูกหมอเหล่านี้ตรวจทั่วร่างกาย แม้แต่อาการของโรคโลหิตจางก็ยังไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย และรายงานทั้งหมดให้จี้ซือหานทราบเขาดูเหมือนจะมีความกลัวทางจิตใจต่อรายงานเท็จในอดีต จึงเปลี่ยนหมอตรวจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเมื่อได้รับคําตอบที่ตรงกัน จึงยอมเชื่อพวกเขาจักษุแพทย์เป็นคนตรวจคนสุดท้าย เมื่อเขาตรวจดูดวงตาของเธอ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเขาหันกลับไปมองชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที "ประธานจี้ครับ ต
"ฉันเดินเองได้ คุณปล่อยฉันลงมาค่ะ"เธอไม่ได้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะต้องให้เขาอุ้มไปทำไมซูหว่านดิ้นรนจะลงมา แต่จี้ซือหานกลับไม่ยอมให้เธอขยับตัวหลังจากเขาอุ้มเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็พาเธอเข้าไปในรถทันที"วอชิงตันไม่ปลอดภัย ฉันจะส่งเธอกลับไป"จี้ซือหานดึงเข็มขัดนิรภัยมาผูกให้เธอแล้วส่งสัญญาณให้คนขับรถลงจากรถคนขับรถถูกส่งมาจากสาขาบริษัทของวอชิงตัน ไม่ค่อยรู้สไตล์การสั่งงานของประธานจี้นัก จึงค่อนข้างงงงวยเขาจ้องมองซูหว่านหลายครั้งก่อนจะรู้ตัวว่าท่านประธานกําลังจะจีบสาวจึงรีบเปิดประตูลงจากรถจี้ซือหานมองคนขับรถอย่างเย็นชา "วันหลังไม่ต้องมาแล้ว"คนขับรถยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ต้องมาขับรถ หรือไม่ต้องมาบริษัท?เขามองรถที่จากไปอย่างไร้ฝุ่นคันนั้น เกาหัวคิดอยู่นานถึงค่อยคิดออก"ให้ตายสิ ฉันถูกไล่ออกแล้ว!!!"จี้ซือหานสตาร์ทรถ ถอยรถด้วยมือเดียว หลังจากขับรถออกจากถนนในวอชิงตันแล้ว ก็หันไปถามซูหว่านว่า "เธอพักที่ไหน?"ซูหว่านไม่อยากให้เขาไปส่ง แต่จี้ซือหานทําตามใจชอบจนเคยชินแล้วแต่ไหนแต่ไรมาเขาอยากทําอะไรก็ทํา เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเธอจับเข็มขัดนิรภัยและบอกที่อยู่โรงแรมให้เขาอย่างไม่พ