“อืมส์ อืมส์” เสียงครางในลำคอดังขึ้นเป็นระยะ หนุ่มสาวผลัดกันคลอเคลียดื่มด่ำความหอมหวานของกันและกันผ่านลิ้นอุ่น ๆ ในโพรงปากอย่างกระหาย
คาริสาสลัดรองเท้าทิ้งอัตโนมัติ เสื้อแขนยาวถูกเขาถอดและโยนทิ้งเกะกะเรี่ยราดทั่วห้องของคอนโดหรู มือหนาลูบสัมผัสร่างกายผอมเพรียวผ่านร่มผ้าที่เหลืออยู่ก่อนจะจัดการถอดมันออก
แต่ในจังหวะนั้น มือน้อย ๆ ก็มาขัดให้เขาหยุดการกระทำ คาริสาเลี่ยงตัวเองออกจากอ้อมกอดของแฟนหนุ่ม
“หิวข้าว ขอกินข้าวก่อนได้ไหม”
“กินฉันแทนก็ได้” แดเนียลพูดแล้วดึงแฟนสาวมาบดจูบบริเวณซอกคอ และโลมเลียลิ้นร้ายไปทั่วพวงแก้ม
“อืมส์แดน ฉันหิวข้าว อ๊าส์ ขอกินข้าวก่อนนะ”
“ไหนบอกว่าอยากเสร็จไง แล้วทำไมอยู่ ๆ มาบ่นว่าหิวข้าว” แดเนียลพูดออกมาหลังจากที่โดนขัดใจอีกครั้ง มือหนาล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแล้วต่อสายหาคนของเขาเพื่อสั่งข้าวมาให้แฟนสาว
เมื่อจัดการเสร็จสรรพ เขาจึงก้มหน้ามารอคำตอบจากแฟนสาว แต่ทว่าเธอกลับผลักเขาออกห่างจากตัว
“เป็นอะไรของเธอเคส” ชายหนุ่มที่ถูกผลักไสเมื่อครู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เขาตั้งคำถามกับแฟนสาวที่มักมีอารมณ์ข
“ว้ายยยยย!”แดเนียลโยนร่างคาริสาลงบนเตียง จากนั้นปลดกระดุมเสื้อแล้วถอดมันเขวี้ยงทิ้งไป เผยให้เห็นกล้ามลอนสวยน่าฟัด ทำเอาคนนอนบิดไปบิดมาบนเตียงถึงกับกลืนน้ำลายตัวเองไปหลายอึก เมื่อแดเนียลยื่นมือมาหวังจะถอดกางเกงของแฟนสาวทั้งที่มีมือน้อย ๆ พยายามขัดขืนอยู่ ร่างกายของเธอบิดเร้าไปมา“อย่าขัดขืนฉันเพราะยังไงวันนี้เธอก็ไปไหนไม่รอด”“นายก็ใจเย็น ๆ หน่อยไม่ได้เหรอ ทำไมต้องรีบร้อนด้วยล่ะ”“จะเร็วหรือช้าเธอก็เสร็จฉันอยู่ดี” ทันทีที่ดึงกางเกงออกจากเรียวขาได้สำเร็จ แดเนียลก็จัดการขึ้นไปคร่อมบนตัวหญิงสาว“แดน... อืมส์” เขาก้มไปบดจูบริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ไม่สนใจเสียงเรียกจากเธอแม้แต่น้อย มือหนารวบสองมือขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนสอดมือเข้าไปบีบคลึงสองเต้างาม“วันนี้ฉันจะคิดบัญชีกับเธอ” เขาพูดทั้งที่ปากคลอเคลียพวงแก้มของคนใต้ร่าง เขาพรมน้ำลายจนทั่วใบหน้าสวย“บัญชีอะไรไหนพูด”“ทุกเรื่องที่เธอทำให้ฉันไม่พอใจ” ขณะที่พูดอยู่มือของเขาก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้น ๆ“จัดมาเลยค่ะพี่ หนูพร้อมรับผิดทุกข้อกล่าวหา”“แน่ใจ?” เขาก้มหน้าลงมาถาม ข
สองร่างในสภาพที่เปล่าเปลือยนอนกอดกันอย่างแนบแน่นจนแทบจะเป็นร่างเดียวกันภายใต้ผ้าห่มผืนหนาหนึ่งผืนใหญ่ คาริสาค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ ด้วยอาการเพลียเล็กน้อย เธอจ้องมองผู้ชายที่นอนกอดเธอไว้ในอ้อมอก ก่อนที่จะค่อย ๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มสากของเขาแดเนียลรู้สึกตัวทันทีเมื่อมีริมฝีปากอวบอิ่มมาสัมผัสที่แก้ม เขาแอบกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจหลังจากที่ดื่มด่ำแก้มสากจนพอใจคาริสาก็ยื่นริมฝีปากอวบอิ่มเข้าไปสัมผัสกับริมฝีปากหนาของชายหนุ่ม ริมฝีปากของทั้งคู่ยังไม่ทันได้สัมผัสกันคาริสาก็รีบหลบหน้าหนีอย่างไว เมื่อเห็นว่าแดเนียลกำลังจ้องมองการกระทำของเธออยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัวคาริสาพยายามจะมุดเข้าไปในผ้าห่มอย่างเขินอายแต่แดเนียลก็คว้าตัวเธอขึ้นมาบดจูบปากอย่างดูดดื่มแขนทั้งสองโอบรัดหญิงสาวจนทุกส่วนของร่างกายแนบชิดกัน“อืมส์ อืมส์”แดเนียลจับขาข้างหนึ่งของคาริสามาพาดกับเอวในขณะที่ริมฝีปากดื่มด่ำแลกรสหวานยามเช้า แต่เมื่อโดนจู่โจมมากเกินไปคาริสาจึงผละแดเนียลออกจากตัวแล้วพยายามจะลุกหนีแต่แดเนียลก็คว้าตัวคาริสาไว้ไม่ให้ไปไหน“อยากจูบฉันไม่ใช่เหรอ หืม” เขาพูดในขณะที่มือเสยผม
“เซอร์ไพรส์!” แอเรียลชายวัยทำงานพูดเสียงเรียบพลางส่งสายตามองลูกชายที่ตอนนี้มีเพียงผ้าสีขาวพันรอบเอว“ผมไม่เซอร์ไพรส์นะพ่อ คิดจะมาก็มา ไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ผมไม่โอเคเลยนะ”“ฉันก็โทรบอกแกแล้วไง”“โทรบอกก่อนหน้านี้ไม่ถึงห้านาที”“ฮึ ฉันก็ถือว่าฉันได้บอกแกแล้ว หรือว่าแต่แกมีแขกอยู่ในห้องนอน” แดเนียลไม่เปิดโอกาสให้ผู้เป็นพ่อเอ่ยจบประโยค เขาก็รีบพูดตัดบททันที“ก็แค่แก้เบื่อ ว่าแต่พ่อมีธุระอะไรไว้คุยกันที่บ้านนะ ตอนนี้ผมขอเวลาส่วนตัว”“ฉันเพิ่งเข้ามายังไม่ทันจะหายเหนื่อยเลย นี่แกไล่ฉันแล้วเหรอ”“ก็รู้ตัวนี่ครับ”“ไปลากตัวคนที่อยู่ในห้องนอนของแดเนียลออกมา”แอเรียลออกคำสั่งกับลูกน้องผู้ติดตามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่ซ่อนความดุดัน ทำเอาแดเนียลรู้สึกกลัวจนใจหายเมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านาย เหล่าลูกน้องก็ไม่รอช้า รีบมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของแดเนียล“พวกมึงหยุดนะ กูไม่อนุญาต!” แดเนียลกำราบคนของพ่อให้หยุด อีกทั้งยังใช้คำหยาบคายในการสนทนา“คำสั่งของฉัน! ฉันมีสิทธิ์!” แอเรียลขึ้นเสียงดัง ทำให้คาริสาที่เปิดประตูออกมาจากห้
หลายชั่วโมงต่อมา...“อื้อ” เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นในลำคอ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังมาจากข้างหลัง คาริสารีบหันไปมอง จึงเห็นว่าคนที่กำลังเดินมุ่งหน้าเข้ามาหานั้นกลับเป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี“เต... ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง”“ก่อนจะถามอะไร นึกให้ดี ๆ ก่อนไหม ว่าทำไมถึงไปเดินให้รถชน” คาริสานึกย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเรื่อง!อยู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา แม้ว่าเธอจะพยายามอดกลั้นมันเอาไว้แล้วก็ตาม“ว่าไงล่ะ จะตอบฉันได้หรือยังว่าทำไมถึงเดินกลางถนนแบบนั้น คนอย่างเธอใช้ชีวิตอย่างมีสติและรอบคอบเสมอไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมวันนี้ที่ฉันเห็น เหมือนไม่ใช่เธอเลยนะ”“ฉันแค่เหนื่อย!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาปนเศร้า แต่คนฟังกลับเค้นหัวเราะออกมา“เหตุผลปัญญาอ่อน” เขาพูดแล้วส่ายหัว คาริสาเงยหน้ามองเตชินที่ทำท่าเหมือนหัวเราะเยาะ“หมายความว่าไง”“ก็หมายความว่าเธอมีเรื่องปิดบังอยู่ แต่จะว่าไปฉันก็ไม่เคยเห็นเธอเปิดเผยเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว”“ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม ที่จริงนายไม่มีสิทธิ์มาตั้งคำถามแบบนี้กับฉันตั้ง
“กลับมาได้แล้วเหรอ รู้ไหมว่าฉันรอเธอนานแค่ไหน”น้ำเสียงของแดเนียลชี้ชัดว่ากำลังโกรธเคืองเธออยู่แต่คนที่ควรอยู่ในอารมณ์นี้ไม่ใช่เขาเเต่ต้องเป็นเธอต่างหากคาริสาทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่แดเนียลพูด เธอตรงดิ่งไปที่ห้องนอนทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในห้องนี้แต่ถึงอย่างนั้นแดเนียลก็ไม่ปล่อยให้เธอทำตัวเย็นชากับตนแบบนี้ เขากระโจนไปคว้าตัวคาริสามาไว้ในอ้อมกอด แต่คาริสากลับบ่ายเบี่ยงพยายามที่ผลักเขาออกจากตัว“นี่ทำอะไรปล่อยนะ”“ไม่ปล่อย”“ทำแบบนี้ทำไม”“มาง้อแฟน แฟนงอน”“ฉันไม่ได้งอนแต่ฉันโกรธ ปล่อย!”เขากอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม คาริสาดิ้นรนสุดชีวิตเธอจะไม่ปล่อยให้คนอย่างเขามาทำอะไรตามใจชอบกับเธออีกต่อไป“ปล่อยสิ ฉันบอกให้ปล่อยไง”เพี๊ยะ!เมื่อสิ้นเสียงร้อง แรงตบที่หนักหน่วงกลับดังขึ้นแทน ทำเอาคนร่างโตหน้าหันแดเนียลไม่คาดคิดว่าเธอจะเกรี้ยวกราดขนาดนี้ถึงมันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอตบเขาแต่มันคือครั้งที่แรกที่ทำแดเนียลรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของเธอ คาริสาก็ตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป จะบอกว่าเธอพลั้งมือเธอไ
คาริสาเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของคุณหญิงตามปกติ ก่อนจะหยุดนิ่งพลางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงคนสนทนากันอยู่ในห้อง“คนของแม่ไม่ได้คิดจะมาจับลูกชายผมใช่ไหม!” แอเรียลขึ้นเสียงดังใส่ผู้เป็นแม่“แน่นอน! คนของฉันมีศักดิ์ศรีพอ” คุณหญิงมีหรือที่น้อยหน้า เห็นลูกชายตัวดีขึ้นเสียงดังใส่ อีกทั้งยังลุกขึ้นยืนค่ำศีรษะท่านราวกับไม่ให้เกียรติขนาดนั้น“เด็กคนนั้นปั่นหัวอะไรมา ถึงได้ออกโรงปกป้องกันออกนอกหน้าขนาดนั้น”“ทำไม ฉันรักฉันเอ็นดูของฉัน ฉันอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้”“หลงนังเด็กนั่นจนไม่สนว่ามีหัวนอนปลายเท้าหรือเปล่า”“อย่ามาว่าคนของฉันนะ” แอเรียลยังไม่ทันจะพูดจบประโยค คุณหญิงก็ตะเบ็งเสียงขึ้นแทรก “คนที่แกถามหาหัวนอนปลายเท้า คือคนที่มีบุญคุณกับฉันและบริษัทฯ นี้มาก ในขณะที่แกช่วยอะไรไม่ได้เลย”ท่านเอ่ยเสียงสั้นในประโยคสุดท้าย ทั้งโกรธทั้งน้อยใจลูกชาย“หมายความว่าไง”“ช่างมันเถอะ ฉันขออย่างเดียว เรื่องเดียวเลยนะ คาริสาคือคนของฉัน ถ้าแกแตะต้องเด็กคนนี้แม้แต่ปลายเล็บแล้วก็... ฉันไม่ยอมแน่!”“ผมจะไปทำนังเด็กนั่นทำไม ถ้ามันไม่มาสร้างควา
“ออกไป!”“นายหมายความว่าไง”“อย่าโง่ได้ปะ หมดหน้าที่ของเธอแล้ว ออกไป! ฉันบอกให้ออกไปไง!”“อึก!”เหตุการณ์เดิม ๆ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาซ้ำ ๆ แดเนียลยกเหล้าซดดื่มราวกับน้ำเปล่า มืออีกข้างกุมขมับด้วยความล้าไม่รู้ว่าเพราะความเมาเหล้าหรือเมารักที่คนที่ไม่เคยต้องมานั่งคิดมากเรื่องผู้หญิงกลับไม่เหลือสภาพความเป็นแบดบอย เขาผลักไสไล่ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คนเดียวที่เขาต้องการเจอคือคาริสา แต่เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ“ตกลงระหว่างเรามันเป็นความรักหรือความใคร่วะ”มือหนายังคงยกเหล้าซดดื่มไม่หยุดหย่อน อยู่ ๆ เสียงริงโทนก็ดังขึ้น รายชื่อของคาริสาปรากฏอยู่ตรงหน้าจอเขาอยากจะกดรับสายแฟนสาวเดี๋ยวนั้น แต่ไว้ฟอร์มหน่อยดีกว่า ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าก็พลันเงียบหายไป นานนับสิบนาทีที่คาริสาไม่ได้โทรมาอีก“เล่นตลกอะไรของเธอเคส คิดจะให้ฉันโทรกลับหรือไง ไม่มีทาง!” ดวงตาคมจ้องมองมือถือของตนชนิดที่ตาไม่กะพริบ “โทรมาสิ เธอต้องโทรมา...”ตึ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆคาริสา : แดนฉันมีเรื่องอยากคุย
“ฉันรักนาย อึก! ฉันรักนายนะแดน!”เฮือก!คาริสาตะโกนจนสุดเสียงก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา เสียงหายใจดังเฮือก จากสายตาพร่ามัวค่อย ๆ ปรับให้เธอมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวชัดขึ้น“ฉันอยู่ที่ไหน”ในห้องที่เงียบจนทำให้คาริสาได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความล้าของร่างกายทำให้ตัวของเธอค่อย ๆ ขยับตัวอย่างช้า ๆ สายตาหญิงสาวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องก็เห็นผู้ชายร่างสูงยืนกอดอกเฝ้ามองเธออยู่ตรงประตู และตอนนี้เขาก็กำลังมุ่งหน้ามาหาคาริสา“เจอเธอทีไรมีเรื่องตลอด”เขาพูดพร้อมหยิบขวดน้ำเทใส่แก้วแล้วยื่นให้คาริสา “อ่ะ ดื่มน้ำก่อน”เตชินประคองให้คาริสาลุกมาดื่มน้ำ“ที่นี่ที่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” คำถามกลับไร้คำตอบ แต่แล้วอยู่ ๆ คาริสาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นสมองเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง“โอ๊ยยยยย!” ความทรงจำที่ค่อย ๆ ไหลเข้าหัว มองเห็นภาพเป็นฉาก ๆรถตู้ที่ขับมาจอดกะทันหันตรงหน้าเธอในห้องที่มืดโทรศัพท์ที่แบตเตอรี่เหลือ 20%“เคสฉันรักเธอ”เสียงของแดเนียลเสียงตัวเองร้องไห้ภาพที่ถูกใครบางคนตบหน้า
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทฯ ของฉันกำลังจะล้มละลาย หนำซ้ำยังมาเจอเรื่องซวย เมื่อคนขับรถของที่บ้านดันไปชนเด็กอายุราว ๆ เท่าหลานชาย ทว่ายังโชคดีที่เด็กคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก"คุณมีปัญหาที่บริษัทฯ เหรอคะ" เด็กสาวเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบสงัดในห้องผู้ป่วย"หนูได้ยินที่ฉันพูดด้วยเหรอ มันคงรบกวนให้หนูตื่นสินะ" ฉันหันไปถามเด็กสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวาน"หนูช่วยคุณได้นะคะ" ได้ยินอย่างนั้นฉันก็เผลอหลุดขำออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเครียดอยู่เลย"อายุเท่าไหร่เราอ่ะ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่ควรยุ่งนะ""หนูจะสิบแปดแล้วนะ" เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจกับสิ่งที่ตนเองเอ่ยพูดไปเมื่อครู่ ฉันได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับไปอีกครั้ง"ก็นั่นแหละจ๊ะ ควรตั้งใจเรียนก่อนไหม"เด็กสาวทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน ก่อนจะหันหลังดึงผ้ามาห่ม ทำราวกับว่าต้องการพักผ่อนแต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็หันมาสนทนากับฉันต่อ ทุกคำที่เด็กสาวพูดออกมามันทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้ช่างพูดช่างเจรจาเสียจริงสภาพจิตใจย่ำแย่ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ล
“หนูชื่ออะไร” ภาคินชายวัยสามสิบปลาย ๆ พยายามทำความรู้จักกับเด็กน้อยอายุเก้าขวบ“คาริสาค่ะ ชื่อเล่นชื่อเคส”“ว้าว ชื่อเพราะจังใครตั้งให้”“หนูไม่รู้ค่ะ” ทั้งคู่นั่งสนทนากันอยู่ภายในรถคันหรูเด็กน้อยกอดหนังสือเล่มหนึ่งไว้แน่น สีหน้าของเธอดูไม่อยากจะสนทนากับเขานัก สังเกตจากคำพูดที่ถามคำตอบคำ“นั่นหนังสืออะไร ขอลุงดูหน่อยได้ไหม” เธอยื่นหนังสือเล่มนั้นให้เขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“มีคนให้หนูมาค่ะ หนูชอบมากเลย”เพียงแค่เห็นปกหนังสือก็ทำเอาภาคินขมวดคิ้วเป็นปม เนื่องจากมันเป็นหนังสือคณิตศาสตร์หลักสูตรมัธยมปลาย“หนังสือเล่มนี้เป็นเนื้อหาของม.ปลาย เลยนะ หนูอ่านเข้าใจด้วยเหรอ”“...” นานนับนาทีกว่าเด็กน้อยจะพยักหน้ารับ“เด็กเก้าขวบเนี่ยนะ” ภาคินพึมพำ เขาไม่อยากจะเชื่อ“...” คาริสาเม้มปากเบา ๆ หลายคนในสถานสงเคราะห์ก็คิดแบบเดียวกับภาคิน“ใครเป็นคนให้หนูมา” คาริสาชี้ไปที่มุมบนขวาหน้าแรกของหนังสือ ซึ่งมีชื่อที่ถูกเขียนด้วยหมึกดำบ่งบอกความเป็นเจ้าของ “หนูรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร”“หนูจะรู้ได้ไงคะ หนูเด็กเก้
คาริสาเข้ามานั่งที่เบาะหลังรถโดยที่มีเรติกานั่งรออยู่ และมีเตชินเป็นคนขับรถให้“แหม หายไปทั้งคืนเลยนะยะ รู้ไหมว่าเพื่อนเป็นห่วง”“โอ๊ย! เบา ๆ อย่าจับแรง”คาริสาร้องเจ็บเมื่อเรติกาเอามือไปวางบนหน้าขาของเธอ เนื่องจากว่าน้ำหนักมือของเพื่อนสาวที่วางลงมาหนักไปหน่อย“ทำเป็นร้องเจ็บด้วย ไปทำอะไรมาล่ะถึงได้เจ็บตรงนี้ หืม”“แกก็...” สองสาวต่างหัวเราะให้กันและกันอย่างรู้ใจ จังหวะเดียวกันนั้นเตชินก็หักพวงมาลัยรถเลี้ยวผ่านหน้าคอนโด“เตหยุดรถก่อน” เรติกาส่งเสียงให้เพื่อนอีกคนหยุดรถกะทันหัน ซึ่งเตชินก็ค่อย ๆ ชะลอแล้วทอดสายตามองออกไปข้างนอกกระจกรถ“เคส ไอ้แอเรียลกำลังจะเข้าไปในคอนโด” คาริสาชะเง้อหน้าหันไปมองตามที่เพื่อนสาวบอก เรติกาฉุนเมื่อเห็นหน้าคนใจโหดอย่างแอเรียล “เห็นหน้ามันแล้วอยากจะลั่นกระสุนใส่หัวมันจริง ๆ”“เรย์ใจเย็น” คาริสาพูดแล้วชักกระบอกปืนออกมาจากเก๊ะอย่างลืมตัว“เดี๋ยว ๆ ฉันว่าคนที่ควรจะใจเย็นคือแกนะ เอาปืนลงก่อนเดี๋ยวลั่นจริง ๆ”ขณะที่เดินทางกลับไปยังองค์กร ดวงตาคู่หนึ่งมองดูความวุ่นวายของรถราที่แล่นไปมาบนถนนใหญ่
บทรักล่วงเลยไปนานเกือบสองชั่วโมง ดูเหมือนแดเนียลยังไม่สาแก่ใจ เขายังมีแรงมากพอที่จะสร้างบทรักอันเร่าร้อนกับเธอต่อคาริสาเริ่มหายใจหอบ สองขาเรียวสั่นเทาด้วยความเหนื่อยล้า เนื่องจากต้องเกี่ยวเข้ากับเอวสอบเอาไว้เป็นเวลานาน แดเนียลเล่นคาเจ้าเอ็นอุ่นไว้ในร่างกายของหญิงสาวไม่ยอมถอดออกเมื่อรู้สึกว่ามันกลับมาแข็งตัวได้อีกครั้ง เขาก็ออกรบอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนจนน้ำรักมันไหลล้นเต็มง่ามขา“แดน ไปต่อที่เตียงเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว เมื่อยขาไปหมดแล้ว” คาริสาพูดพลางแนบใบหน้าลงบนไหล่กว้าง“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ” หากเป็นเมื่อก่อนแค่สามสี่รอบคาริสาก็แทบจะสลบคาอกเขาแล้ว แต่ทว่าตอนนี้แดเนียลคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ“ไปต่อที่เตียงก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันยังไม่พอใจ เธอจะต้องโดนเอาอีกหลายท่า”แดเนียลโอบรัดเอวบางแล้วกระแทกกายแกร่งอันใหญ่ยาวเข้าไปอย่างหนักหน่วง เมื่อรู้สึกว่ามันแข็งตัวขึ้นมาอีกแล้ว ร่องสาวได้แต่กระตุกระรัวเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงกระแทกกระทั้น“อืมส์ อ๊ะส์” ความใหญ่ถูกดันเข้าไปในช่องรักตามจังหวะการก้าวเดินไปจนถึงเตียงนอนที่คุ้นเคย
ณ คอนโดของแดเนียล“วันนี้คุยอะไรกับย่าของแก”“ก็คุยกันเรื่องทั่วไป พรุ่งนี้คุณย่าไม่ได้ไปส่งที่สนามบินเพราะติดธุระสำคัญ”“อะไรจะสำคัญกว่าหลานชายตัวเอง”“ไม่เป็นไรหรอกพ่อ ผมลาคุณย่าเรียบร้อยแล้ว”“ฮึ! ถึงเวลาที่แกจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองสักที”แดเนียลชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาเก็บข่มความโกรธแค้นเอาไว้ภายในใจหลังจากที่ผ่านความเจ็บปวดทรมานมาเกือบเดือน บัดนี้เขาจะต้องดูแลหัวใจตัวเองให้ดีที่สุดดีเหมือนกัน เขาจะได้ลืมเธอสักที“ฉันจัดการทุกอย่างให้แกเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากแกจะอาลัยอาวรณ์กับคอนโดนี่นัก ฉันก็จะอนุญาตให้แกพักผ่อนที่นี่เป็นคืนสุดท้าย”“ไม่ต้องส่งใครมานะ ผมอยากอยู่คนเดียว”“ฉันจะตามใจแกวันหนึ่งแล้วกัน”หลังจากที่พูดคุยกับแอเรียลผู้เป็นพ่อเสร็จสรรพ แดเนียลเดินเข้ามาภายในห้องนอน เขาคงคิดถึงห้องนี้มาก เพราะตั้งแต่เข้ามาเรียนในมหาลัย เขาอยู่จนผูกพันกับที่นี่มากกว่าที่บ้านเสียอีก ทว่าเสียงที่ไม่ชอบมาพากลก็ดังสวนขึ้นมาภายในห้องนั่งเล่น แดเนียลจึงเดินออกไปดู“นั่นใคร!”คาริสามารอเจอแดเนียล ส
“ฉันรักนาย อึก! ฉันรักนายนะแดน!”เฮือก!คาริสาตะโกนจนสุดเสียงก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา เสียงหายใจดังเฮือก จากสายตาพร่ามัวค่อย ๆ ปรับให้เธอมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวชัดขึ้น“ฉันอยู่ที่ไหน”ในห้องที่เงียบจนทำให้คาริสาได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความล้าของร่างกายทำให้ตัวของเธอค่อย ๆ ขยับตัวอย่างช้า ๆ สายตาหญิงสาวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องก็เห็นผู้ชายร่างสูงยืนกอดอกเฝ้ามองเธออยู่ตรงประตู และตอนนี้เขาก็กำลังมุ่งหน้ามาหาคาริสา“เจอเธอทีไรมีเรื่องตลอด”เขาพูดพร้อมหยิบขวดน้ำเทใส่แก้วแล้วยื่นให้คาริสา “อ่ะ ดื่มน้ำก่อน”เตชินประคองให้คาริสาลุกมาดื่มน้ำ“ที่นี่ที่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” คำถามกลับไร้คำตอบ แต่แล้วอยู่ ๆ คาริสาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นสมองเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง“โอ๊ยยยยย!” ความทรงจำที่ค่อย ๆ ไหลเข้าหัว มองเห็นภาพเป็นฉาก ๆรถตู้ที่ขับมาจอดกะทันหันตรงหน้าเธอในห้องที่มืดโทรศัพท์ที่แบตเตอรี่เหลือ 20%“เคสฉันรักเธอ”เสียงของแดเนียลเสียงตัวเองร้องไห้ภาพที่ถูกใครบางคนตบหน้า
“ออกไป!”“นายหมายความว่าไง”“อย่าโง่ได้ปะ หมดหน้าที่ของเธอแล้ว ออกไป! ฉันบอกให้ออกไปไง!”“อึก!”เหตุการณ์เดิม ๆ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาซ้ำ ๆ แดเนียลยกเหล้าซดดื่มราวกับน้ำเปล่า มืออีกข้างกุมขมับด้วยความล้าไม่รู้ว่าเพราะความเมาเหล้าหรือเมารักที่คนที่ไม่เคยต้องมานั่งคิดมากเรื่องผู้หญิงกลับไม่เหลือสภาพความเป็นแบดบอย เขาผลักไสไล่ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คนเดียวที่เขาต้องการเจอคือคาริสา แต่เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ“ตกลงระหว่างเรามันเป็นความรักหรือความใคร่วะ”มือหนายังคงยกเหล้าซดดื่มไม่หยุดหย่อน อยู่ ๆ เสียงริงโทนก็ดังขึ้น รายชื่อของคาริสาปรากฏอยู่ตรงหน้าจอเขาอยากจะกดรับสายแฟนสาวเดี๋ยวนั้น แต่ไว้ฟอร์มหน่อยดีกว่า ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าก็พลันเงียบหายไป นานนับสิบนาทีที่คาริสาไม่ได้โทรมาอีก“เล่นตลกอะไรของเธอเคส คิดจะให้ฉันโทรกลับหรือไง ไม่มีทาง!” ดวงตาคมจ้องมองมือถือของตนชนิดที่ตาไม่กะพริบ “โทรมาสิ เธอต้องโทรมา...”ตึ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆคาริสา : แดนฉันมีเรื่องอยากคุย
คาริสาเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของคุณหญิงตามปกติ ก่อนจะหยุดนิ่งพลางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงคนสนทนากันอยู่ในห้อง“คนของแม่ไม่ได้คิดจะมาจับลูกชายผมใช่ไหม!” แอเรียลขึ้นเสียงดังใส่ผู้เป็นแม่“แน่นอน! คนของฉันมีศักดิ์ศรีพอ” คุณหญิงมีหรือที่น้อยหน้า เห็นลูกชายตัวดีขึ้นเสียงดังใส่ อีกทั้งยังลุกขึ้นยืนค่ำศีรษะท่านราวกับไม่ให้เกียรติขนาดนั้น“เด็กคนนั้นปั่นหัวอะไรมา ถึงได้ออกโรงปกป้องกันออกนอกหน้าขนาดนั้น”“ทำไม ฉันรักฉันเอ็นดูของฉัน ฉันอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้”“หลงนังเด็กนั่นจนไม่สนว่ามีหัวนอนปลายเท้าหรือเปล่า”“อย่ามาว่าคนของฉันนะ” แอเรียลยังไม่ทันจะพูดจบประโยค คุณหญิงก็ตะเบ็งเสียงขึ้นแทรก “คนที่แกถามหาหัวนอนปลายเท้า คือคนที่มีบุญคุณกับฉันและบริษัทฯ นี้มาก ในขณะที่แกช่วยอะไรไม่ได้เลย”ท่านเอ่ยเสียงสั้นในประโยคสุดท้าย ทั้งโกรธทั้งน้อยใจลูกชาย“หมายความว่าไง”“ช่างมันเถอะ ฉันขออย่างเดียว เรื่องเดียวเลยนะ คาริสาคือคนของฉัน ถ้าแกแตะต้องเด็กคนนี้แม้แต่ปลายเล็บแล้วก็... ฉันไม่ยอมแน่!”“ผมจะไปทำนังเด็กนั่นทำไม ถ้ามันไม่มาสร้างควา
“กลับมาได้แล้วเหรอ รู้ไหมว่าฉันรอเธอนานแค่ไหน”น้ำเสียงของแดเนียลชี้ชัดว่ากำลังโกรธเคืองเธออยู่แต่คนที่ควรอยู่ในอารมณ์นี้ไม่ใช่เขาเเต่ต้องเป็นเธอต่างหากคาริสาทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่แดเนียลพูด เธอตรงดิ่งไปที่ห้องนอนทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในห้องนี้แต่ถึงอย่างนั้นแดเนียลก็ไม่ปล่อยให้เธอทำตัวเย็นชากับตนแบบนี้ เขากระโจนไปคว้าตัวคาริสามาไว้ในอ้อมกอด แต่คาริสากลับบ่ายเบี่ยงพยายามที่ผลักเขาออกจากตัว“นี่ทำอะไรปล่อยนะ”“ไม่ปล่อย”“ทำแบบนี้ทำไม”“มาง้อแฟน แฟนงอน”“ฉันไม่ได้งอนแต่ฉันโกรธ ปล่อย!”เขากอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม คาริสาดิ้นรนสุดชีวิตเธอจะไม่ปล่อยให้คนอย่างเขามาทำอะไรตามใจชอบกับเธออีกต่อไป“ปล่อยสิ ฉันบอกให้ปล่อยไง”เพี๊ยะ!เมื่อสิ้นเสียงร้อง แรงตบที่หนักหน่วงกลับดังขึ้นแทน ทำเอาคนร่างโตหน้าหันแดเนียลไม่คาดคิดว่าเธอจะเกรี้ยวกราดขนาดนี้ถึงมันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอตบเขาแต่มันคือครั้งที่แรกที่ทำแดเนียลรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของเธอ คาริสาก็ตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป จะบอกว่าเธอพลั้งมือเธอไ