แม้ว่าพฤติกรรมอันธพาลของเขาจะไม่เข้ากับชุดที่ใส่ แต่ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงความมั่นใจในการแสดงออกของเขาในช่วงเวลานั้น ผู้คนก็มุงดูเหตุการณ์อยู่เยอะพอสมควร พวกเขาบางเข้ามาใกล้และบางคนจดจำนายลูอิสได้“โอ้ดูสิมิสเตอร์เซน ลูอิส มาหาผู้หญิงเหมือนอย่างเคย”“พวกคุณอาจจะไม่ได้ระวังตัว ห้างนี้เป็นที่ที่มิสเตอร์ลูอิสออกล่าสาวสวยเพราะเขาเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานอำนาจเงินของเขาได้”“สาวไอดอลก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะเข้าถึงยาก แต่สุดท้ายเธอก็ยังถูกมิสเตอร์ลูอิสพิชิตใจเธอเพราะใช้เงินเป็นล้านดอลลาร์กับเธอ ฉันได้ยินเธอเรียกมิสเตอร์ลูอิสว่า "พ่อ" และในที่สุดก็ตามเขากลับบ้านเพื่อ "สอนงาน" กัน“โชคดีมากที่ได้เป็นลูกน้องของเขาเพราะมิสเตอร์ลูอิสจะส่งต่อ ‘ธุระ’ หลังเสร็จภารกิจแล้ว ฉันอิจฉาเขาจริง ๆ !”“ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะมีโชว์ดี ๆ ให้ชมกันอีกแล้วสิ” “ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก มันทำให้ฉันอยากช่วยเธอในสถานการณ์แบบนี้”“เลิกคิดไปได้เลย มิสเตอร์ลูอิสจะได้เข้ามาตบพวกเธอนะสิ”เห็นได้ชัดว่าผู้คนจำนวนมากในร้านอาหารแห่งนี้เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของมิดเตอร์ลูกอิสมาก่อน พวกเขากำลังซุบซิบราวกับว่านี่เป็นธุ
ในตอนนั้นเอง มีมือหนึ่งเอื้อมไปตีมือของมิสเตอร์ลูอิส พร้อมฮาร์วี่ย์ก็ยืนขึ้นและเข้าไปยืนคั่นระหว่างมิสเตอร์ลูอิสกับแมนดี้เขาทำให้มิสเตอร์ลูอิสไม่พอใจแมนดี้รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นฮาร์วี่ย์ลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องเธอ แต่ก็รู้สึกผิดหวังอีกครั้งหลังจากเห็นว่าฮาร์วี่ย์ไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากแค่ตีมือของลูอิส“ดี ดี ดีจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าการกระทำสิ้นคิดนั่นจะออกมาจากลูกเขยที่ไร้ประโยชน์อย่างคุณ” มิสเตอร์ลูอิสสะบัดมือพร้อมพูดล้อเลียนฮาร์วี่ย์“ฉันไม่อยากจะโชคร้าวหลังจากที่ได้มาเจอกับผู้ชายที่น่าสงสารและน่าสมเพชแบบคุณ” นายลูอิสยังคงยิ้มเยาะเย้ยฮาร์วี่ย์“รีบไสหัวไปซะเด็กน้อย กลับไปที่ที่แกมา ไม่งั้นฉันจะจัดการกับแกถ้าแกยังกล้าสร้างปัญหาให้กับมิสเตอร์ลูอิส” ลูกน้องจองเขาตะคอกออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว“เฮ้ เราเป็นคนที่มีการศึกษา อย่าไปขู่คนแบบนั้นสิ นายเป็นอะไรไป? อันธพาลหรือไง?” มิสเตอร์ลูอิสจ้องไปที่ลูกน้องของตัวเองก่อนที่เขาจะตบที่หน้าฮาร์วีย์เบา ๆ “เฮ้เพื่อน ผู้หญิงของนายทำให้ฉันสนใจแล้วทำไมนายไม่ทำให้ฉันพอใจและพาตัวเองออกไปจากที่นี่ในตอนที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ล่ะ ฉันสามารถให้เงินนายได้ถ้า
"ผลที่ตามมางั้นเหรอ? คุณเสียสติไปแล้วหรือเปล่า? โอ้ ฉันอยากรู้ว่าอะไรคือผลที่จะตามมาที่นายพูดถึงงั้นเหรอ” มิสเตอร์ลูอิสยิ้มเยาะทั้งยังคิดจะเอื้อมมือไปหาแมนดี้ปัก!ในช่วงจังหวะที่มิสเตอร์ลูอิสกำลังเอื้อมมือไปหาแมนดี้ฮาร์วี่ย์ก็คว้าคอเสื้อแล้วกระแทกศีรษะของเขาลงบนโต๊ะอาหารเลือดไหลออกจากจมูกและปากของมิสเตอร์ลูทันทีหลังถูกกระแทกลงบนโต๊ะอาหารฮาร์วี่ย์ยังคงกระแทกศีรษะของนายเขาอยู่แม้ว่าสภาพของมิสเตอร์ลูอิสจะเลือดไหลออกมาเยอะแล้วก็ตามปัก! ปัก! ปัก!กระจกบนโต๊ะแตกตามแรกกระแทกในขณะที่ใบหน้าของมิสเตอร์ลูอิสอาบไปด้วยเลือดดูน่าสยดสยองผู้หญิงบางคนกรีดร้องตกใจ และในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ตกตะลึงกับการกระทำของฮาร์วี่ย์แมนดี้ตกใจกับฉากตรงหน้า ไม่ใช่เพราะเลือด แต่เป็นเพราะกระทำของฮาร์วี่ย์ เธอไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วี่ย์จะจริงจังกับการจัดการคนที่คุกคามเธอขนาดนี้ แม้ว่าจะอยู่ในที่ที่มีระดับแบบนี้ก็ตามแมนดี้ไม่เคยรู้สึกปลอดภัยมากขนาดนี้มาก่อน ความผิดหวังและความเสียใจของเธอหายไปทันทีความคิดเรื่องการหย่าร้างเธอทิ้งมันไว้ข้างหลัง ทันทีที่เห็นว่าฮาร์วี่ย์ทำแบบนี้เป็นครั้งแรก นั่นเพียงพอที่จะบอกว่
มันไม่ยากเลยที่จะเห็นว่ามิสเตอร์ลูอิสเป็นคนแบบไหน ท้ายที่สุดแล้วท่าทางที่แข็งแกร่งเหมือนอันธพาลของเขาที่แม้แต่คนรวยก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา ยังคงมีคนที่กล้าท้าทายเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ชายคนนี้ที่ดูเหมือนคนอนาถาทุบตีทำร้ายเขาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งยังไม่มีความเคารพยำเกรงในตัวของลูอิสแม้แต่น้อย“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? นายทำร้ายฉันงั้นเหรอ? นายกล้าทำแบบนี้กับฉัน!” มิสเตอร์ลูอิสตะโกนใส่ฮาร์วีย์ในจังหวะที่เขาเอามือปิดหน้าตัวเอง“นายกล้าทำได้อย่างไร!”ลูกน้องของเขารียล้วงโทรศัพท์ออกมาทันทีเพื่อโทรหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งพวกเขาก็มาถึงในเวลาไม่กี่นาทีมิสเตอร์ลูอิสเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย กล่าวอีกนัยหนึ่งภูมิหลังของเขาเกี่ยวข้องกับอันธพาลโดยตรง และบังเอิญว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยของเขาดูแลห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วยเช่นกันฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาลูบฝ่ามือของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ผมโอกาสให้คุณคุกเข่าต่อหน้าภรรยาของผมและขอโทษเธอซะ ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณแย่ลงไปกว่านี้จริง ๆ ”ทุกคนต่างตกตะลึงกับความกล้าหาญและท้าทายของฮาร์วีย์ และพูดก
ในทางกลับกันผู้หญิงที่คบหาผู้ชายเพื่อหวังแค่เงินที่ตรงนั้นกลับชื่นชมมิสเตอร์ลูอิสราวกับว่าเขาเป็นเจ้าชายที่ทรงเสน่ห์สำหรับฮาร์วีย์แล้วผู้หญิงที่คบหาผู้ชายเพื่อเงินต่างดูหมิ่นเหยียดหยามเขาเพราะเขาช่างดูน่าเวทนา พวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์พยายามทำตัวเย่อหยิ่งกล้าหาญชาญชัยต่อหน้าพวกหล่อนเท่านั้นและพวกเขามั่นใจมากว่าฮาร์วีย์จะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองเซนจัดระเบียบตัวเองในขณะที่หลงระเริงไปกับคำชื่นชมจากฝูงชน เพราะเกือบทุกอย่างในนิอัมมี่จะเป็นไปตามความต้องการของเขา นั่นก็เพราะสถานะของเขาเขากุมท้องตัวเองขณะเดินไปหาฮาร์วีย์ ข้าง ๆ เขาห้อมล้อมไปด้วยลูกน้องของเขา“ไอ้สารเลว! แกคิดว่าใครแกสามารถทำร้านฉันแบบนั้นได้หรือไงฮะ!” เซนคะคอกทั้งยังชี้หน้าฮาร์วีย์“ฉันอยู่ในนิอัมมี่มานาน ไม่เคยมีใครกล้าดูถูกฉันแบบนี้!”“แต่แก แกมาทำลายกฎของฉัน ฉันจะทำให้แกได้รู้ว่าเคราะห์กรรมของแกเป็นยังไง”“โอกาสสุดท้าย คุกเข่าลงแล้วเลียรองเท้าของฉันซะ! แล้วส่งตัวผู้หญิงของแกไปที่บ้านของฉัน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครพูดเรื่องของเราที่เกิดขึ้นในวันนี้ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่าแกในวันนี้ก็ตาม”เซนข่มขู่ด้วยใบหน้าที่น่ากลัว ภ
หลังจากได้ยินเซนพูดแบบนั้น ไวแอตต์รู้สึกโล่งใจมากเพราะเขารู้ว่าครอบครัวของเขาไม่ได้ใหญ่พอที่จะต่อรองกับเซนได้“นายและผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ นายออกไปได้ ฉันจะไม่ทำอะไรกับร้านของนายเช่นกัน ฉันต้องการชิ้นไอ้ผู้ชายคนนี้ และผู้หญิงอีกคนฉันต้องการให้เธออยู่กับฉันในคืนนี้” เซนพูดอย่างเจ้าเล่ห์"มิสเตอร์ลูอิส…”“คุณควรจฝเหลือไว้แค่ผู้ชายคนนั้น แต่ผู้หญิงสองคนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน ได้โปรดปล่อยพวกเขาไป”ไวแอตต์ขอร้องและพยายามโยนความผิดกลับไปที่ฮาร์วีย์“นายต้องการอะไรจอห์นสัน? ฉันไม่ได้เมตตากับนายมากพอแล้วเหรอ? นายไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปเหรอ?”เซนถามด้วยความโกรธ“เข้าใจแล้ว! ผมเข้าใจแล้วครับ!" ไวแอตต์พยักหน้าอย่างขอโทษ“ถ้าอย่างนั้นไม่งั้นฉันจะจัดการคุณเหมือนกัน” เซนขู่“ไปกันเถอะไวแอตต์” เซซิเลียพูด เธอกำลังจะร้องไห้ออกมา“ที่รัก มันจะดีขึ้น ปล่อยให้ผมจัดการมันเอง” ฮาร์วีย์บอกกับแมนดี้ด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาไม่เห็นลูกน้องของเซนยืนรายล้อมเขาฮาร์วีย์หันไปเผชิญหน้ากับเซน“หมายความว่าคุณจะไม่คว้าโอกาสที่ผมหยิบยื่นให้สินะ?” ฮาร์วีย์กล่าว“นายเป็นใครถึงต้องให้ฉันไปขอร้องอ้อนวอ
“แล้วถ้าคุณปล่อยให้ภรรยาของผมและเพื่อน ๆ ของเธอไป แล้วเรามาเล่นสนุกกัน ในตอนนี้คุณมีลูกบอลอยู่ในมือแล้ว” ฮาร์วีย์เสนอ“ได้สิ” เซนตอบรับด้วยใบหน้าที่จริงจัง เขาไม่ต้องการให้หลายคนต้องมาเห็นว่าเขาคิดวางแผนจะทำอะไรกับฮาร์วีย์“นายหาเรื่องใส่ตัวเองฮาร์วีย์ มันไม่ใช่ธุระของเราอีกต่อไป!” เซซิเลียตะโกนใส่ฮาร์วีย์ในขณะเดียวกัเธอก็ลากแมนดี้ออกจากห้องไวแอตต์ก็เดินตามหญิงสาวออกไปด้วยเช่นกันและปิดประตูลงทันทีเพราะเขากลัวว่าเซนอาจเปลี่ยนใจเมื่อแมนดี้หายจากอาการช็อกเธอก็พบว่าตัวเองอยู่นอกร้านอาหารกับเซซิเลียและไวแอตต์แล้ว“ไม่! ฉันจะกลับไปหาที่ฮาร์วีย์!” แมนดี้พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกแมนดี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอจะยืนหยัดเพื่อเธอในสถานการณ์เช่นนี้“เธอเสียสติไปแล้วเหรอแมนดี้? เธออาจจะไม่ได้ออกมาอีกถ้าเธอกลับเข้าไป!” เซซิเลียคัดค้านทันที“แต่…”“ไวแอตต์ นายรู้จักคนมากมายใช่ไหม ช่วยฉันที” แมนดี้ถามอย่างกังวล“แมนดี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยนะ แตคุณเห็นสถานการณ์นั่นไหมที่สามีของคุณที่ทำร้ายมิสเตอร์ลูอิส การพาคุณทั้งสองออกไปคือสิ่งที่ฉันควรทำมากที่สุด” ไวแอตต์พูดตอบและก็แ
ทุกคนในห้องตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็นรวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อเซนคุกเข่าลงต่อหน้าฮาร์วีย์“ผมขอโทษครับท่าน ผมไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร ได้โปรดเมตตาผมด้วย”"ได้โปรด…""มันเป็นความผิดของผมเองทั้งหมด ผมขอโทษจริง ๆ ครับท่าน…”เซนขอโทษ ทั้งยังตบหน้าตัวเองจนตอนนี้มันบวมเหมือนปลาปักเป้า“ได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง!” เซนขอร้องอ้อนวอนเพราะในตอนนี้เขาได้รับการยืนยันแล้วว่าฮาร์วีย์เป็นประธานคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ จริง ๆ เซนรู้ว่าเขาจะอาจต้องสูญเสียทุกอย่างไปในทันทีหากเขาไม่สามารถโน้มน้าวฮาร์วีย์ได้ เช่นเดียวกันว่มันจะดีแค่ไหนถ้าหากเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากยอร์ก“ท่านกำลังทำอะไรครับมิสเตอร์ลูอิส? ทำไมท่านถึงคุกเข่าให้ไอ้ขยะไร้ค่านี้” ลูกน้องของเขาถามออกมาในขณะที่พยายามดึงเซนให้กลับมายืนขึ้นอีกครั้ง“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” เซนตะโกนใส่ลูกน้องของตัวเอง พร้อมทั้งตบและเตะเขาลงไปที่พื้น“ถ้าพูดอีกคำ ฉันจะฆ่าแก!” เซนขู่ในขณะนั้นน้ำตาของเซนกำลังจะหยดลงมาในขณะที่เขาขอร้องความเมตตาจากฮาร์วีย์ เซนกลัวว่าการกระทำและคำพูดของลูกน้องที่โง่เขลาอาจทำให้เขาเดือดร้อนมากขึ้นลูกน้องกุมท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข