"ผมคิดว่าคุณต้องการชิ้นส่วนของผมซะอีก?" ฮาร์วีย์ถาม"ผมผิดไป!" เซนตอบในขณะที่เขาเอื้อมมือไปหยิบมีดสเต็กและแทงตัวเองที่ฝ่ามือซ้ายเซนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ยังคงรักษาท่วงท่าของเขาอยู่บนพื้นหวังว่าฮาร์วีย์จะให้อภัยเขาได้หลังจากเห็นสิ่งตรงหน้า ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นยืนช้า ๆ และตบหัวเซนก่อนจะเดินออกจากห้องไปหลังจากฮาร์วีย์จากไป เซนก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าหวาดกลัวขณะที่มองไปที่ด้านหลังของฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์จะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของเขานับจากนี้เป็นต้นไป"สามี!" แมนดี้โห่ร้องตะโกนในขณะที่วิ่งเข้าหาเขา“ฉันดีใจที่คุณสบายดี!” แมนดี้รู้สึกโล่งใจ“แน่นอน ผมไม่เป็นไร!” ฮาร์วีย์ตอบด้วยรอยยิ้ม“ฮึ่ม นายควรจะขอบคุณภรรยาของนายที่ช่วยโทรแจ้งตำรวจไม่อย่างนั้นนายคงจะไม่สามารถออกมาจากที่นั่นได้โดยปราศจากรอยขีดข่วน นายก็มีค่าแค่ขยะที่ไร้ค่า!” เซซิเลียเยาะเย้ยในทางกลับกันไวแอตต์รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่เห็นว่าฮาร์วีย์ปลอดภัยในขณะนั้นทั้งสามคนคิดว่าที่ฮาร์วีย์ปลอดภัยนั้นเพราะตำรวจมา“ทำไมคุณถึงเรียกตำรวจมาล่ะที่รัก” ฮาร์วีย์ถามแมนดี้“ขออภัยด้วยครับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มันเป็นเพียงการเข้าใจผิดเล
“ฉันกลัวว่าคุณจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ถึงแม้ว่าฉันจะทำข้อตกลงกับตระกูลยอร์กได้แล้ว…” แมนดี้ถอนหายใจและส่ายหัวเมื่อเธอรู้ว่าคนตระกูลซิมเมอร์จะไม่ดีใจถ้าพวกเขารู้ว่าเงินทุนลดลงจากห้าสิบล้านดอลลาร์เป็นสามสิบล้านดอลลาร์ในตอนนี้ทั้งคู่จากไปหลังจากกล่าวคำอำลากับเซซิเลียณ ยอร์ก อ็นเทอร์ไพรส์ อีวอนน์กำลังจะออกจากสำนักงาน เธอเพิ่งจัดการกับเหตุการณ์ที่ร้านอาหารนอร์ทแลนด์ ขณะที่เธอเดินผ่านสำนักงานของเวนดี้ เธอก็เห็นเวนดี้กำลังขมวดคิ้วอยู่พร้อมกับถือกระเป๋าหรูหราขนาดใหญ่ด้วยความที่เป็นผู้หญิง อีวอนน์จึงค่อนข้างสนใจในเรื่องนี้“ดูเหมือนว่าคนรวยบางคนพยายามจะให้เกี้ยวคุณนะ มิสซอร์เรล” อีวอนน์พูดด้วยรอยยิ้ม“คนรวยอะไรกัน? ก็แค่แซ็คเท่านั้นเอง เขาพยายามทำให้ฉันอนุมัติการลงทุนในตระกูลซิมเมอร์ ฉันเป็นใครจะไปสามารถตัดสินใจได้ หลังจากที่ท่านประธานมีแผนร่วมกับตระูลซิมเมอร์เรียบร้อยแล้ว” เวนดี้พูดในขณะที่ยังขมวดคิ้ว“โอ้ มิสอีวอนน์ คุณช่วยพาฉันไปที่คฤหาสน์ตระกูลซิมเมอร์เพื่อส่งของเหล่านี้คืนให้แซ็คได้ไหม? หวังว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ได้ไม่เช่นนั้นโทรศัพท์มือถือของฉันคงจะระเบิดจากการโทรเข้ามาจากแซ็คในช่
ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัดบนใบหน้าของเขาเนื่องจากตระกูลซิมเมอร์จะไม่ได้รับผลกำไรมากนักจากข้อตกลงนี้“แมนดี้ เงื่อนไขเปลี่ยนแปลงไปมากแบบนี้ได้อย่างไร? แน่นอนว่าเธอคงไม่ได้วางแผนที่จะตีกรอบให้กับตระกูลเพื่อดีลกับคนภายนอกใช่ไหม” ฌอนถามแมนดี้หลังจากได้ยินที่ฌอนถามทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มเชื่อคำกล่าวหาของฌอนเนื่องจากทุกคนเคยทำสิ่งที่คล้ายกันมาก่อน ใช้เวลาไม่นานนักที่พวกเขาจะสงสัยเกี่ยวกับแมนดี้แมนดี้รู้สึกอยากจะบ้าตายเพราะความพยายามทั้งหมดของเธอไม่ได้รับการยอมรับแถมยังถูกกล่าวหาว่าสร้างกรอบให้ตระกูลแหมะ!ก่อนที่แมนดี้จะพูดอะไรต่อ แตงโมชิ้นหนึ่งก็ลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงบนใบหน้าของฌอน"ฮึ! ถุย!” ฌอนถ่มน้ำลายด้วยความขยะแขยงในขณะที่เขาค่อนข้างกลัวเชื้อโรค“นายทำอะไรลงไป? นายมันต่ำต้อยเหมือขยะ!” แซ็คตะโกนใส่ฮาร์วีย์ขณะที่เขาเห็นพ่อของเขาโดนแตงโมตกใส่“ฉันแค่ทิ้งขยะ” ฮาร์วีย์ตอบด้วยท่าทางมั่นใจแซ็คไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไปนั่นเพราะฮาร์วีย์ดูถูกพ่อของเขา เขาคว้าที่เขี่ยบุหรี่ใกล้ ๆ และพยายามจะทำร้ายฮาร์วีย์หมับ!“บ้าอะไรเนี่ย!” แซ็คกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ฮา
ลึก ๆ แล้วในใจของแมนดี้ก็เห็นด้วยว่าฌอนและแซ็คสมควรได้รับความอัปยศอดสูนั่นแล้วฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะแก้ตัวใด ๆ เขาคว้าแตงโมอีกชิ้นทันที“ไม่มีอะไร ผมก็แค่จะทิ้งขยะ มันไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อยที่คำพูดของใครบางคนเหม็นเหมือนถังขยะ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“ไอ้…” ฌอนเช็ดหน้าตัวเองพร้อม ๆ กับที่เขาจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ฌอนรู้สึกโกรธมากจนร่างกายสั่นอย่างห้ามไม่อยู่“แล้วผมล่ะ? เป็นเพราะลูกชายของคุณที่ทำให้เกิดปัญหาซึ่งภรรยาของผมก็ต้องเข้าไปจัดการ แม้จะเมินเฉยความพยายามของเธอและไม่มีแม้แต่จะขอบคุณที่เธอ แต่พวกคุณก็ยังใส่ร้ายกล่าวหาว่าเธอทำร้ายครอบครัว มันน่าตลกอะไรเช่นนี้? ได้ งั้นให้ลูกชายของคุณจัดการแล้วกัน!” ฮาร์วีย์พูดอย่างท้าทายฌอน“ฮาร์วีย์ นายเป็นแค่ลูกเขย นายคิดว่านายสามารถเสนออะไรในที่ประชุมของบ้านเราได้งั้นหรือ”“ฐานะคนของซิมเมอร์เองแมนดี้ควรทำงานเพื่อตระกูลของเราอยู่แล้ว…” ฌอนตะโกนใส่ฮาร์วีย์“และปล่อยให้ลูกชายสุดที่รักของคุณมาชุบมือเปิปไปใช่ไหมล่ะ” ฮาร์วีย์พูดแทรก“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาไปคุกคามพนักงานของพวกเขาอีกและอาจทำให้เราล้มละลายอีกครั้ง? คุณก็ไม่ควรกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…” แมนดี้ไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับคำขอนั่น เธอส่งสายตาไปหาฮาร์วีย์โดยไม่ได้ตั้งใจ“ก็แค่ยอมรับคำขอไป” ผู้อาวุโสซิมเมอร์หัวเราะขณะที่เขาคิดว่าแมนดี้มีคงจะคอนเนคชั่นที่ดีกับผู้บริหารระดับสูงบางคนของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ที่ทำให้เขาคิดอย่างน้ันเป็นเพราะหลังจากเห็นแมนดี้สามารถทำงานที่ยากเช่นนี้ให้สำเร็จได้“ได้ค่ะคุณปู่ หนูสัญญา…”“ไม่!” ฮาร์วีย์แทรกกลางในขณะที่แมนดี้กำลังจะยอมรับคำขอนั่น“เป็นบ้าอะไรของนาย! นายเป็นใครที่จะมาปฏิเสธ?” แซ็คตะโกนออกมาในขณะที่เขาก็กุมหัวตัวเองเช่นกัน เขาไม่ควรที่จะประมาทกับการกระทำที่ประมาทของฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ ฉันไม่สนใจการกระทำที่หยาบคายของนายก่อนหน้านี้เพราะฉันเคารพการตัดติดใจของแมนดี้ นายคิดว่านายยังมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะพูดออกเสียงในบ้านหลังนี้งั้นหรือ?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขู่ในขณะที่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชานั่นเพราะฮาร์วีย์ก่อความวุ่นวายหลายครั้งแล้ว“ก่อนหน้านี้คุณสัญญาว่าแมนดี้จะได้เป็นประธานหากเธอทำข้อตกลงได้ แต่ตอนนี้คุณมาสร้างเงื่อนไขใหม่และปล่อยให้เธอทำบางสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ผมคิดว่าคุณแค่พยายามทำให้ภรรยาของฉันดูแย่”
“แซ็คคือความหวังของครอบครัวเราอย่างแท้จริง!”“ดูเหมือนว่าแม้จะไม่มี ‘ใครบางคน’ ที่ไปมาเมื่อเช้านี้ พวกตระกูลยอร์กก็ยังติดต่อเรามา”ทุกคนเปลี่ยนจุดยืนอีกครั้ง คราวนี้หันมาต่อต้านแมนดี้แทน“นายแน่ใจใช่ไหมแซ็ค” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว"แน่นอน!" แซ็คตอบขณะที่เขาโทรหาเวนดี้และเปิดโหมดลำโพง“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์ซิมเมอร์” เสียงนุ่ม ๆ ของเวนดี้ดังออกมาจากลำโพง“สวัสดีครับคุณเซอร์เรล ผมได้แจ้งให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ทราบแล้วเกี่ยวกับการของคุณในคืนนี้ ผมขอทราบได้ไหมว่าคุณจะมาถึงเมื่อไหร่” แซ็คตอบพร้อมยิ้มเยาะ“ไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมอะไรหรอกค่ะ ดิฉันแค่มาเพื่อมอบของบางอย่างให้คุณ” เวนดี้ตอบ"ด้วยความยินดีครับ คุณต้องการให้ไปรับไหมครับ” แซ็คเสนอ“ไม่จำเป็นค่ะ ดิฉันมีรถของตัวเอง ดิฉันจะไปถึงประมาณ 19.00 น.” เวนดี้ตอบ“ได้ครับ เรากำลังรอคุณ!” แซ็คตอบด้วยความภาคภูมิใจก่อนวางสาย‘ของงั้นเหรอ? ของอะไร? มันอาจจะเป็นสัญญาหรือไม่?' ทุกคนต่างตกตะลึง“แซ็ค ฉันจำได้ว่าเธอบอกให้นายไสหัวไปให้พ้นเมื่อสองสามวันก่อน เป็นไปได้ยังไง…” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามด้วยท่าทางประหลาดใจ“คุณปู่ ไม่รู้หรือว่า
“คุณปู่…” แมนดี้มองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์อย่างเป็นกังวลผู้อาวุโสซิมเมอร์ยิ้มและพูดออกมา “แมนดี้ ปู่รู้ว่าวันนี้ปู่ทำผิดกับหลาน แต่ถึงอย่างไรก็ตามสัญญาที่หลานนำกลับมานี้ไ่ม่มีประโยชน์อะไรเลยกับเรา แน่นอนปู่จะไม่ลืมว่าหลานก็มีส่วนในเรื่องนี้ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ? เมื่อทุกอย่างเข้าที่และเราได้รับผลกำไรแล้วปู่จะให้มากกว่าที่สัญญาไว้ ดีไหม?”อาวุโสซิมเมอร์ไม่ปริปากพูดเกี่ยวกับตำแหน่งประธานเลยแม้แต่น้อย เขาโยนประเด็นเรื่องนั้นออกไปโดยไม่แม้แค่ได้ทบทวนมันอีกเขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกหลานสาวคนนี้เลยแม่แต่น้อย เขาคิดแค่ว่าผู้หญิงเป็นเพียงสินค้าที่ใช้แทนตัวเงินไม่ช้าก็เร็ว และมันก็ช่วยไม่ได้อีกที่สามีของเธอเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ค่าเขาเคยมองเห็นคุณค่าของเธอเพราะเธอสามารถทำสัญญากับยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ได้ แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าแซ็คมีความสามารถมากกว่าเธอ เขาถึงกับเมินเฉยเหมือนอย่างเคยแมนดี้นั่งลงอย่างเงียบ ๆ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีก คำพูดของผู้อาวุโสซิมเมอร์ถือเป็นที่สิ้นสุด หากเธอยังคงโต้เถียงกับเขาต่อไปมันจะสร้างความไม่พอใจส่งผลเสียให้กับเธอมากขึ้นเท่านั้น แมนดี้ทำได้เพียงแค่รุ่มร้อนอยู่เพีย
ที่หน้าคฤหาสน์ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ยกแขนขึ้นเพื่อดูเวลาบนนาฬิกาสีทองที่สวมอยู่บนข้อมือ เขาเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาจึงโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็พูดว่า “จำไว้ว่าคืนนี้เป็นคืนที่สำคัญสำหรับพวกเราตระกูลซิมเมอร์ คืนนี้จะตัดสินว่าครอบครัวของเราจะสามารถยกระดับเป็นตระกูลเฟิร์สคลาสในนิอัมมี่ได้หรือไม่ ทุกคนต้องทำให้เต็มที่และระมัดระวังที่จะโน้มน้าวแขกของเรา เข้าใจไหม?""รับทราบค่ะ!" ทุกคนตอบขานรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เวนดี้เป็นเหมืองแหล่งขุมทรัพย์สำหรับพวกเขา พวกเขาย่อมต้องการสร้างความประทับใจให้กับเธอเป็นอย่างดีจู่ ๆ แซ็คก็กระซิบว่า “คุณปู่ ผมมีข้อเสนอ”“ได้สิ หลานชายที่รักของปู่ บอกปู่มาเถอะว่าหลานคิดอะไรอยู่” ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกตื่นเต้นเขาค่อนข้างผิดหวังกับพฤติกรรมของแซ็คก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามคืนนี้เขารู้สึกถูกใจเขาเป็นพิเศษที่สำคัญกว่านั้นในรุ่นที่สามของตระกูลซิมเมอร์ เขาให้ความลำเอียงต่อแซ็คต่อมากที่สุดการเลือกที่รักมักที่ชังของผู้อาวุโสซิมเมอร์ทำให้แซ็คแสดงท่าทีผ่อนคลาย เขายิ้มและพูดว่า“ คุณปู่ ผมยังไม่มีแฟน คุณปู่คิดอย่างไรถ้าเราจะจับคู่กันในคืนนี้และทำให้เวนดี้เป็
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข