“คุณปู่…” แมนดี้มองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์อย่างเป็นกังวลผู้อาวุโสซิมเมอร์ยิ้มและพูดออกมา “แมนดี้ ปู่รู้ว่าวันนี้ปู่ทำผิดกับหลาน แต่ถึงอย่างไรก็ตามสัญญาที่หลานนำกลับมานี้ไ่ม่มีประโยชน์อะไรเลยกับเรา แน่นอนปู่จะไม่ลืมว่าหลานก็มีส่วนในเรื่องนี้ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ? เมื่อทุกอย่างเข้าที่และเราได้รับผลกำไรแล้วปู่จะให้มากกว่าที่สัญญาไว้ ดีไหม?”อาวุโสซิมเมอร์ไม่ปริปากพูดเกี่ยวกับตำแหน่งประธานเลยแม้แต่น้อย เขาโยนประเด็นเรื่องนั้นออกไปโดยไม่แม้แค่ได้ทบทวนมันอีกเขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกหลานสาวคนนี้เลยแม่แต่น้อย เขาคิดแค่ว่าผู้หญิงเป็นเพียงสินค้าที่ใช้แทนตัวเงินไม่ช้าก็เร็ว และมันก็ช่วยไม่ได้อีกที่สามีของเธอเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ค่าเขาเคยมองเห็นคุณค่าของเธอเพราะเธอสามารถทำสัญญากับยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ได้ แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าแซ็คมีความสามารถมากกว่าเธอ เขาถึงกับเมินเฉยเหมือนอย่างเคยแมนดี้นั่งลงอย่างเงียบ ๆ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีก คำพูดของผู้อาวุโสซิมเมอร์ถือเป็นที่สิ้นสุด หากเธอยังคงโต้เถียงกับเขาต่อไปมันจะสร้างความไม่พอใจส่งผลเสียให้กับเธอมากขึ้นเท่านั้น แมนดี้ทำได้เพียงแค่รุ่มร้อนอยู่เพีย
ที่หน้าคฤหาสน์ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ยกแขนขึ้นเพื่อดูเวลาบนนาฬิกาสีทองที่สวมอยู่บนข้อมือ เขาเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาจึงโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็พูดว่า “จำไว้ว่าคืนนี้เป็นคืนที่สำคัญสำหรับพวกเราตระกูลซิมเมอร์ คืนนี้จะตัดสินว่าครอบครัวของเราจะสามารถยกระดับเป็นตระกูลเฟิร์สคลาสในนิอัมมี่ได้หรือไม่ ทุกคนต้องทำให้เต็มที่และระมัดระวังที่จะโน้มน้าวแขกของเรา เข้าใจไหม?""รับทราบค่ะ!" ทุกคนตอบขานรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เวนดี้เป็นเหมืองแหล่งขุมทรัพย์สำหรับพวกเขา พวกเขาย่อมต้องการสร้างความประทับใจให้กับเธอเป็นอย่างดีจู่ ๆ แซ็คก็กระซิบว่า “คุณปู่ ผมมีข้อเสนอ”“ได้สิ หลานชายที่รักของปู่ บอกปู่มาเถอะว่าหลานคิดอะไรอยู่” ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกตื่นเต้นเขาค่อนข้างผิดหวังกับพฤติกรรมของแซ็คก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามคืนนี้เขารู้สึกถูกใจเขาเป็นพิเศษที่สำคัญกว่านั้นในรุ่นที่สามของตระกูลซิมเมอร์ เขาให้ความลำเอียงต่อแซ็คต่อมากที่สุดการเลือกที่รักมักที่ชังของผู้อาวุโสซิมเมอร์ทำให้แซ็คแสดงท่าทีผ่อนคลาย เขายิ้มและพูดว่า“ คุณปู่ ผมยังไม่มีแฟน คุณปู่คิดอย่างไรถ้าเราจะจับคู่กันในคืนนี้และทำให้เวนดี้เป็
ทุกคนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อรูปปั้นม้าขนาดเล็กสีทองอยู่ในกล่อง แม้ว่าจะมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่นั่นก็มีราคาแพงมาก! มันเป็นของเก่า แต่มีราคาติดอยู่ด้วยจริง ๆ แล้วโยฮันน์ สโตน และผู้อาวุโสซิมเมอร์มีสถานะเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญที่ดีเช่นนี้เมื่อพวกเขาต้องพบเจอกัน แต่มนวันนี้เขากลับทำตัวเป็นคนถ่อมตัวซึ่งนั่นทำให้ชื่อเสียงของตระกูลซิมเมอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก“ได้สิ แน่นอน มั่นใจได้เลย ใครก็ตามที่เดินผ่านประตูนี้เข้ามาคือแขกของเราทุกคน เชิญนั่งก่อนเถอะผู้จัดการสโตน ครั้งหน้าไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนี้ ผมคงจะต้องจะรับของขวัญนี้ด้วยความเกรงใจ!” รอยยิ้มของผู้อาวุโสซิมเมอร์กว้างมากจนเขาแทบจะปิดปากไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่เป็นเรื่องชื่อเสียง แม้ว่าโยฮันน์จะสงสัยและรู้ว่าเวนดี้ เซอร์เรลและเลขาซาเวียร์กำลังมา แต่เขาก็เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เพียงแค่ไม่เปิดเผยด้านนี้ของเขาหลังจากทักทายโยฮันน์แล้ว ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็เรียกแซ็คมา “เลขาซาเวียร์คนนี้คือใครที่ไอ้แก่สโตนนี่พูดถึง?”“เลขาซาเวียร์?” แซ็คหันมาด้วยท่าทางดีใจ “คุณปู่เลขาซาเวียร์เป็นเลขาของแระธานยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ คำพูดของเธอถ
ผู้อาวุโสซิมเมอร์สังเกตเห็นอาการของเธอและถอนหายใจเธอต้องเป็นผู้หญิงที่ไม่มีประสบการณ์เลยดูจะตกใจง่าย เธอคงเป็นประเภทที่ถูกชักจูงได้ง่ายแซ็คเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างและยื่นมือออกไป “ยินดีต้อนรับผู้จัดการเซอร์เรล รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณได้มาที่นี่ ขออนุญาตแนะนำ นี่คือผู้อาวุโสของตระกูลเรา…”เวนดี้ทำตัวสุภาพ เธอเพียงแค่ถอยกลับไปครึ่งก้าวโดยไม่มีแสดงท่าทีใด ๆ การแสดงออกของเธอเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ดิฉันเคยเห็นผู้อาวุโสมาก่อนค่ะ”มือของแซ็คแข็งค้างทันที แต่เขายังคงรักษาอาการเพียงแค่เปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว “คุณมาที่นี่แล้ว ผู้จัดการเซอร์เรลโปรดทานอาหารร่วมกันก่อนที่เราจะไปคุยเรื่องธุระกัน คุณจะโอเคไหม”เวนดี้ลังเลเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ฉันมีเพื่อนคนอื่นมาด้วย ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะเห็นด้วยกับคำเชิญรับประทานอาหารค่ำหรือไม่”จากนั้นไม่นานหญิงสาวสวยในชุดสูทมาดธุรกิจที่มัดผมเป็นหางม้าก็เดินลงมาจากฝั่งคนขับร่างกายของแซ็คสั่นและถัดมาเขาพุ่งเข้าหาเธอทันที “ผมไม่ได้สังเกตว่าเป็นคุณ เลขาซาเวียร์ ยินดีต้อนรับครับ ขออภัยความไม่มีมารยาทของเราที่ไม่ได้ต้อนรับคุณก่อนห
ตระกูลซิมเมอร์ต้อนรับเช่นนี้ ทำให้เวนดี้และอีวอนน์ต่างก็เขินอาย แต่พวกเขาก็นั่งลงอย่างสุภาพ พวกหล่อนไม่ได้ถูกข่มขู่จากตระกูลซิมเมอร์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามพวกหล่อนจำได้ว่าภรรยาของท่านประธานเป็นคนในตระกูลซิมเมอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแสดงความมีมารยาทออกมา มิฉะนั้นถ้ามีใครพูดออกไปว่าพวกหล่อนหยาบคายพวกหล่อนอาจสูญเสียโอกาสในมื้ออาหารในอนาคตไปด้วยอีวอนน์และเวนดี้นั่งที่ที่นั่งตรงกลางของโต๊ะ ข้าง ๆ พวกหล่อนมีผู้อาวุโสซิมเมอร์ ฌอนและแซ็คนั่งอยู่ข้าง ๆ พวกหล่อน อีกด้านหนึ่งเป็นโยฮันน์ สโตน ซาคาริอาห์ บรู๊ค และผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ ก็นั่งลงเช่นกัน คนเหล่านี้ล้วนมีระดับนเมืองนิอัมมี่ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่กล้าที่จะพูดจาไม่สุภาพใด ๆ ออกมาอย่างไรก็ตามเมื่อลูกหลานของตระกูลซิมเมอร์เห็นฉากตรงหน้านี้ ดวงตาของพวกเขาก็จะส่อแววความโกรธเคืองออกมา ไอ้แซ็คคนกะล่อนคนนี้คงโชคดีมาก เขาไม่เพียงแต่จัดการให้เวนดี้มาที่นี่ได้เท่านั้น แต่เขายังทำให้อีวอนน์มาร่วมงานเลี้ยงนี้อีกด้วย“วันนี้สาวสวยสองคนมาจับมือกันมาที่นี่ คุณทำให้ได้หน้าจริง ๆ ผมจะไม่ถ่อมตัวตัวอีกต่อไป ก่อนอื่นขอดื่มอวยพรให้กับสองสาวก่อน!” แซ็คหัวเราะด
อีวอนน์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อเธอจ้องมองไปที่ฝูงชนเธอก็ตกใจที่สุดที่เห็นใครบางคนที่ดูคุ้น ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์ค!เธอมองเห็นฮาร์วีย์นั่งอยู่ตรงมุมห้อง เธอรู้สึกไม่อยากอาหารอีกเลยและรีบเดินไปยังทิศทางที่ฮาร์วีย์นั่งอยู่ เธอมีอากรวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดความสนใจของทุกคนจับจ้องมาที่เธอและสงสัยว่าเธอกำลังจะทำอะไร เธอเดินเข้าไปหาชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าราคาถูกที่ซื้อมาจากแผงขายของข้างถนน สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเธอไปยืนอยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลซิมเมอร์ ใบหน้าของผทุกคนเปลี่ยนไปในทันที!ลูกเขยคนนี้ไปก่อเรื่องอะไรมา? ไอ้ขยะไร้ค่านี้ทำให้เลขาซาเวียร์ขุ่นเคืองงั้นหรือ? เธอถึงกับต้องวิ่งไปหาเขาทันทีที่เธอเห็นเขา?ความเยือกเย็นแล่นไปตามกระดูกสันหลังของผู้อาวุโสซิมเมอร์ เลขาซาเวียร์เป็นคน ๆ หนึ่งที่ไม่สมควรต้องมาโกรธเคืองใด ๆ ถ้าฮาร์วีย์ทำให้เธอโกรธเขาจะหั่นฮาร์วีย์ให้เป็นชิ้น ๆ “อะไรกัน…เกิดอะไรขึ้น รู้สึกจะมีเค้าลางแห่งความโชคร้ายอีกแล้ว!” แซ็คหมิ่นสบถออกมา“ไงเพื่อนเก่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ฮาร์วีย์พูดแทรกขึ้นมาและยิ้มก่อนที่อีวอนน์จะมีโอกาสได้พูดอะ
แซ็คออกอาการพูดไม่ออกกับการตัดสินใจที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่คิดว่าปู่ของเขาจะปฏิบัติกับเขาอย่างดีถึงขนาดที่นำสิ่งของเหล่านี้ออกมาทั้งหมดท่าทีของผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด พวกเขาแบบเดียวกันที่บ้านของพวกเขา แต่สุดท้ายแล้วของพวกนี้เป็นสิ่งที่นิยมสำหรับสังคมชนชั้นสูงของนิอัมมี่ผู้อาวุโสซิมเมอร์หันไปทางอีวอนน์และเวนดี้ จากนั้นเขาก็ยิ้ม “เรียนแขกผู้มีเกียรติไหน ๆ มาเยือนที่นี่แล้ว ทำไมไม่มาดูชุดของล้ำค่าของเราที่เป็นของตระกูลซิมเมอร์ละ?”อีวอนน์และเวนดี้กำลังจะปฏิเสธ แต่เมื่อพวกเขาเห็นของหรูหราในกล่องไม่กี่ชิ้นผู้หญิงคนไหน ๆ ก็ต้องหวั่นไหว ดังนั้นทั้งสองจึงไม่สามารถต้านทานได้ที่จะเหลือบไปมองผู้อาวุโสซิมเมอร์สังเกตท่าทีการแสดงออกของพวกเขา เขายืนกรานแน่ที่จะได้รับชัยชนะในคืนนี้ จากนั้นเขาก็โบกมือและพูดว่า "ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเชิญมาดูได้เลย"บอดี้การ์ดคนแรกเปิดกล่อง ภายในเป็นชุดเครื่องประดับหกชิ้นที่ทำจากทองคำขาวตั้งแต่สร้อยคอจนถึงแหวน มันเป็นชุดเครื่องประดับที่สมบูรณ์แบบ เพชรโมเสคขนาดใหญ่แวววาวสะท้อนแสงด้วยความเจิดจรัส"ว้าว! นั่นคือชุดหมั้นของ Tiffany & Co. ทั้งหก
เธอไม่ได้หวังว่าจะถูกขอแต่งงาน สิ่งที่เธอหวังเพียงอยากมีความสุขในพิธีแต่งงาน ถึงอย่างนั้นสามีของเธอคนนี้ ...เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้แมนดี้ ซิมเมอร์ ก็ถอนหายใจเงียบ ๆ อีกครั้ง“ฮาร์วีย์ ไอ้เศษขยะ!” ซีนเธียร์ที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาหันมาทำท่าทางโมโหร้ายและจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ “ดูพวกเขาแล้วย้อนมองดูตัวเองสิ! อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องการขอแต่งงานเลย นายแต่งงานกับพี่สาวของฉันมาหลายปีแล้ว นายเคยให้อะไรกับเธอบ้าง? ถ้านายเป็นลูกผู้ชายจริง นายควรหย่าซะ นายไม่เหมาะกับพี่สาวของฉัน นายไม่สามารถที่จะมอบความสุขให้เธอได้เลย!”“ซีนเธียร์!” แมนดี้จ้องมองไปที่น้องสาวตัวน้อยของเธอ แต่เก็บความคิดที่เหลือไว้กับตัวเอง“พี่คะ อย่าปกป้องเขาอีกต่อไปเลย ขยะก็คือขยะ ขี้แพ้คือขี้แพ้ นี่คือธรรมชาติของเขา เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ ถ้าฉันเป็นเขาฉันคงหาที่ไหนสักแห่งซ่อนตัวเองไปตั้งนานแล้ว ฉันจะมีหน้ามาอยู่ที่นี่และดูภาพการขอแต่งงานนี้ได้อย่างไร? เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลยหรือไง? เขาไม่รู้หรือไงว่าแซ็คนั้โรแมนติกแค่ไหน? เมื่อเทียบกับความเลวทรรมและความสิ้นหวังของเขา?” ความโกรธเกรี้ยวฉาบไปทั่วใบหน้าของซีนเธียร์ “พี
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข