“อีวอนน์ รบกวนส่งหนังสือแจ้งลงไป ยุติโครงการเมืองยานยนต์ที่มีการหารือกันเมื่อเช้า” ฮาร์วี่ย์ ยอร์ก พูดออกไปและไม่แม้แต่จะมองเควิน ควินน์ เลยสักนิด "รับทราบค่ะ!" อีวอนน์ตอบรับดูแสนธรรมดาหลังจากวางโทรศัพท์เครื่องเก่าลงบนโต๊ะแล้ว ฮาร์วี่ย์ก็มองไปที่เควินที่ตอนนี้เกือบจะคุกเข่าอยู่ที่พื้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มิสเตอร์ควินน์ คุณก้มหัวให้ผมทำไม? ก้มก็แค่เป็นขยะที่ไม่มีค่า ผมไม่สามารถจ่ายมันได้หรอก”เควินไม่กล้ายืนตัวตั้งตรง เขาทำได้เพียงหัวเราะเบา ๆ "มิสเตอร์ยอร์ก คุณกำลังพูดถึงอะไร? เมื่อกี้คุณไม่ได้เป็นคนพูดเหรอ? ว่าถ้าผมต้องขอร้องให้คุณกลับมา ผมต้องคุกเข่าและเรียกคุณว่าพ่อ…”“ไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก ผมไม่โชคร้ายขนาดที่จะมีลูกชายอย่างคุณ” ฮาร์วี่ย์โบกมือส่ายไปมา"ใช่ ๆ ผมไม่คู่ควร ก่อนหน้านี้ผมช่างโง่เขลา แต่ผมรู้ว่ามิสเตอร์ยอร์กเป็นคนใจกว้างมากพอ ได้โปรดเมตตาเถอะนะครับ” ใบหน้าของเควินแข็งทื่อไร้สีสันฮาร์วี่ย์ไม่แยแสสิ่งตรงหน้า เขากำลังพลิกเปิดดูนิตยสารบนโต๊ะเควินกัดฟันกรอดเมื่อเห็นท่าทีของฮาร์วี่ย์เช่นนั้น เขาแระจบประแจงฮาร์วี่ย์ จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “ได้โปรดยกโทษให
"ไม่ต้อง ไม่จำเป็น" เควินบอกทันที “ใครบางคนอาจจะคิดว่ามีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นที่นี่ถ้าเธอโทรแจ้งตำรวจ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา หากเราอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้…ฉันจะจัดการกับเขาเอง ฉันจะให้เงินเขาเพื่อให้จบ ๆ ไป มันไม่คุ้มเลยถ้ามาแลกกับคนแบบนี้…”เควินรู้สึกว่าเหงื่อเขากำลังจะเปียกชุ่มเสื้อไปหมดในขณะที่เขากำลังพูด‘มันเป็นความผิดของเธอ! ในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดของแมนดี้ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของสามีเลยและยังส่งเสริมให้ฉันตามติดเธออีก เธออยากให้ฉันตายเหรอ?'“เควิน ทำไมนายถึงเหงื่อออกเยอะขนาดนี้? นายร้อนหรอ?” แองเจิลไม่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติและถามอย่างออกมาสงสัย“อากาศร้อนไปหน่อย…” เควินพูดอย่างประหม่า“โอ้ งั้นก็ไม่มีอะไร อย่างไรก็ตามนายไม่จำเป็นต้องให้เขามากเกินไป แค่เพียงสามสิบดอลลาร์ก็... นายมั่นใจได้เลยเรื่องของแมนดี้ ฉันอยู่ที่นี่ทั้งคนฉันจะช่วยนายแน่นอน!” แองเจิลให้กำลังใจแล้วบอกลาด้วยรอยยิ้ม เธอไม่ต้องการเข้าไปในห้องทำงานนั่นอีก เธอรู้สึกไม่สบายเรื้อสบายตัวเมื่อต้องมองไปที่ฮาร์วีย์ในตอนนี้เธอยังคงไม่ได้รับรู้ถึงใบหน้าที่บึ้งตึงของลูกพี่ลูกน้องของเธอ
"ครับ ๆ ได้ครับ!" เควินพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เขาไม่กล้าแม่แต่จะคิดในเรื่องของการทำงานร่วมกันหลังจากนั้นเขาก็เดินไปส่งฮาร์วี่ย์ออกจากโชว์รูมและมองดูเขาขับ ปอร์เช่ พานาเมร่า ออกไป ในตอนนั้นเขารับรู้ได้เพียงว่าร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งร่าง“มิสเตอร์ควินน์ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณถึง…” หัวหน้าพนักงานขายมองเขาอย่างรู้สึกสับสนเพียะ!เควินตบเธออย่างต้องการระบายอารมณ์ “ฉันต้องอธิบายให้คุณฟังทุกครั้งที่ทำอะไรเหรอ? จำไว้! ใครก็ตามที่กล้าพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้แค่เพียงนิดเดียวฉันฆ่าแน่!”***หลังจากออกจากเมืองยานยนต์ ฮาร์วี่ย์เห็นว่ามันเย็นมากแล้ว เขาจึงไม่กลับไปที่บริษัทอีก แต่เขาไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของแทน เขาส่งข้อความหาแมนดี้และเตรียมจะพามันกลับบ้านอีกด้านหนึ่งแมนดี้รู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าฮาร์วี่ย์กำลังจะกลับบ้านแล้ว และวันนี้เธอทำงานเสร็จเร็วและกำลังจะกลับบ้านเช่นกันในห้องนั่งเล่น ลิเลียนกำลังกำโทรศัพท์ของเธอแน่น และอยู่ในอาการหวาดกลัว ผู้อาวุโสซิมเมอร์เพิ่งโทรหาเธอและต่อว่าเธอ คืนนี้เขาสั่งให้เธอพาแมนดี้และฮาร์วี่ย์ไปพบตระกูลซิมเ
ลิเลียนรู้โดยทันทีว่าคนที่ลงจากรถมานั้นคือใคร แม้ว่าคน ๆ นั้นจะกลายเป็นขี้เถ้าเพราะเขาคนนั้นคือฮาร์วี่ย์ ไอ้ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์! ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นรถปอร์เช่ แต่ก็เป็นแค่รุ่นเริ่มต้นซึ่งมีราคาประมาณแสนดอลลาร์แต่นี่ฮาร์วี่ย์ขับรถพานาเมร่ารุ่นพิเศษ ราคาอยู่ที่ประมาณสี่แสนดอลลาร์ เทียบกับรถของแมนดี้ที่มีราคาเพียงแค่เศษเสี้ยวของรุ่นนั้น แม้ว่าตระกูลซิมเมอร์จะทำธุรกิจขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นตระกูลระดับสอง เป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปที่จะจ่ายเงินจำนวนมากในคราวเดียวเพื่อซื้อรถแบบนี้รถคันนี้มันเป็นรถในฝันของลิเลียน เธอไม่สามารถออกอาการใด ๆ ได้เลยแม้ว่าลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของเธอเป็นคนที่ก้าวลงมาจากรถฮาร์วี่ย์ไม่สนใจท่าทีเหล่านั้น เขาเดินเข้าไปทักทายแมนดี้พร้อมของที่ถืออยู่ในมือ "ผมกลับมาแล้ว"แมนดี้มองไปที่ฮาร์วี่ย์แล้วมองไปที่รถปอร์เช่ที่จอดอยู่ข้างนอกด้วยสีหน้าสงสัยฮาร์วี่ย์ยิ้มและพูดขึ้นมาหลังจากเห็นแมนดี้กำลังมองมาที่เขา “ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมช่วยเพื่อนไปเลือกซื้อรถเมื่อเช้านี้? ผมเลือกคันที่ผมชอบ แต่รถคันนี้ยังไม่ได้รับใบอนุญาต ผมเลยเอามาขับชั่วคราวแค่สองสามวันนี้”แมน
ในขณะเดียวกันฮาร์วี่ย์กำลังเข้าคิวรอรับชานม โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เสียงของอีวอนน์ต่อสายมาจากอีกด้านหนึ่ง “ท่านประธานคะ คนอัปโหลดวิดีโอของแซ็คที่ถูกขับไล่ออกจากบริษัทว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตก็ตั้งคำถามกับพวกเราว่าพวกเราทำเกินไปหรือเปล่า ท่านคิดว่าเราต้องจัดงานแถลงข่าวเพื่ออธิบายเรื่องนี้หรือไม่คะ?”ฮาร์วี่ย์ครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า “วันนั้นมีภาพกล้องวงจรปิดที่ห้องประชุมอยู่อีกไหม เซ็นเซอร์ใบหน้าของพนักงานหญิงที่อยู่แผนกต้อนรับและตามหาคนโพสต์ในออนไลน์"รับทราบค่ะ!" ดวงตาของอีวอนน์เป็นประกายขึ้นเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น ‘ท่านประธานก็คือท่านประธาน เขาสามารถแก้ไขเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้ด้วยประโยคเพียงสองประโยค ทำไมฉันถึงคิดแบบนั้นไม่ได้นะ?'ฮาร์วี่ย์วางสายโทรศัพท์แล้วโดยไม่รอรับคำชมจากอีวอนน์ เขาได้ชานมและพร้อมที่จะกลับบ้านจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทางด้านหลังทันทีที่เดินไปริมถนน ทันใดนั้น Audi A4 ก็หยุดอยู่ข้างหลังฮาร์วี่ย์ และได้ยินเสียงตะโกนจากรถออกมาวินาทีต่อมาหญิงสาวที่แต่งหน้าหนาเตอะ กลิ่นน้ำหอมที่ฉุนมากแม้จะอยู่ห่างออกไปสิบเมตร กระแทกประตูรถให้เปิดและลงมาจากรถ เธ
“ใช่ค่ะ พี่โฮเวิร์ด พี่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว พี่เพิ่งได้งานที่มีเงินเดือนเจ็ดหมื่นหกพันดอลลาร์ต่อปี ลูกเขยที่ไปเกาะเขากินจะเข้าใจอะไรแบบนี้ได้ยังไง!” ผู้หญิงที่แต่งหน้าหนาเตอะยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความภาคภูมิใจราวกับว่าเธอมีสามีที่ร่ำรวยฮาร์วี่ย์มองไปที่โฮเวิร์ดด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้มีความสามารถมากทีเดียวโฮเวิร์ดคิดว่าฮาร์วี่ย์กำลังอิจฉาเมื่อเห็นว่ากำลังมองมาที่เขา เขาถ่อมตัวลงและพูดว่า “อย่าทำให้เพื่อนร่วมชั้นของฉันหงุดหงิดสิ ฉันก็แค่โชคดี ดอน แซนเดอร์ ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็เป็นผู้บริหารระดับสูงของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เขาส่งประวัติของฉันไปที่บริษัทก่อนหน้านี้และบริษัทคิดว่าฉันยอดเยี่ยมมาก พวกเขาตัดสินใจรับฉันเข้าทำงาน ก็แค่นั้น”โฮเวิร์ดยิ้มด้วยความภาคภูมิใจเมื่อเขากล่าวถึง ยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์ ท้ายที่สุดทุกคนก็รู้ว่าตระกูลยอร์กซึ่งเป็นครอบครัวอันดับต้น ๆ ในนิอัมมี่คือคนที่อยู่เบื้องหลัง ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพร์ เขาจะมีอาชีพที่ดีถ้าเขาสามารถทำงานกับตระกูลที่มีอิทธิพลเช่นนี้ได้ฮาร์วี่ย์นิ่งงันเพราะดูเหมือนโฮเวิร์ดจะยังไม่รู้ว่าดอนถูกไล่ออกแล้ว เขาคิดว่าจะได้ทุกอย่างที่ต้อง
“นั่นเป็นเพราะเขาเป็นลูกเขยที่ได้ชื่อว่าไปอาศัยอยู่บ้านคนอื่น ไร้ประโยชน์ สำหรับผู้ชายแล้วมันช่างน่าอายที่สุด!”“เฮ้ หนุ่มหล่อคนนี้กำลังบอกว่าลูกเขยคนนี้ล่อลวงเพื่อนร่วมชั้นของเขาให้ซื้อไวน์ราคาแพงในงานเลี้ยงสังสรรค์เหรอ แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับทำมันไม่สำเร็จ แถมยังมาคุยโวว่าเขาให้คนยกเว้นการเรียกเก็บเงินสำหรับพวกเขาอีก”“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้? เสียชื่อผู้ชายที่สุด!”“ช่างเป็นขยะไร้ค่าอะไรแบบนี้! ทำไมเขาถึงไม่ถูกรถชนตาย ๆ ไปซะ?!”ผู้คนกำลังซุบซิบนินทาเกี่ยวกับเรื่องนี้และฮาร์วี่ย์เริ่มรู้สึกโกรธทันที‘วันนี้ผมอารมณ์ดี ผมเพิ่งออกมาซื้อชานมให้ภรรยาของผม ทำไมผมต้องมาเจอคนโง่แบบนี้? ทำไมผมถึงไม่รู้ว่านายช่างเป็นคนงี่เง่าน่ารังเกียจแบบนี้?ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ โฮเวิร์ดในตอนนี้ยิ่งแสดงอาการหยิ่งผยองแต่เมื่อโฮเวิร์ดกำลังจะได้ทำไรอะไร ฮาร์วี่ย์ก็วางชานมลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “โฮเวิร์ด ผมเตือนคุณแล้วนะในฐานะที่คุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม หยุดเรื่องนี้ซะ!”"ทำไม? นายทำอะไรกับฉันได้? ฉันพูดในสิ่งที่นายทำไม่ได้เหรอ?” แม้ว่าโฮเวิร์ดจะเห็นแล้วว่าฮาร์วี่ย์มีสีหน้าที
โฮเวิร์ดรู้สึกภาคภูมิใจและตั้งใจเปิดลำโพงโดยให้ทุกคนได้รับรู้เมื่อได้ยินจากปลายสาย จากนั้นเขาก็กระแอ่มไอและพูดออกมาเสียงดังว่า “ผู้จัดการครับ คุณกำลังบอกว่าท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้ลงนามในจดหมายแต่งตั้งของผมแล้วงั้นเหรอ”เมื่อโฮเวิร์ดกำลังพูดเรื่องนั้นออกมาเหล่านั้นเหล่าไทยมุงกำลังมองไปที่เขาด้วยสายตาชื่นชม“คุณชายสูงส่งคนนี้บอกว่าเขาได้ทำงานใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ด้วยเงินเดือนเจ็ดหมื่นหกพันดอลลาร์!”“เขาคงเป็นผู้บริหารระดับสูงแน่นอน ดูแล้วเขาจะมีอนาคตที่สดใส!”“นี่สิคือความหมายของการประสบความสำเร็จตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ว่ากันว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เป็นที่สนใจอยากเข้าทำงานด้วย แม้กระทั่งตำแหน่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทนี้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหลากหลายองค์กร ผู้ที่สามารถเข้าทำงานในบริษัทนี้ได้ต้องเป็นคนมีระดับในภาคอุตสาหกรรม!”ในตอนนี้หลาย ๆ คนเริ่มอิจฉาและวาดฝันว่าสักวันพวกเขาจะมาแทนที่เขาหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดจ้านยืนข้างโฮเวิร์ดและมองเขาด้วยสายตาชื่นชม ผู้ชายที่เธอเลือกเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นผู้ชายในชนชั้นคนระดับสูง ไม่มีผู้ชายธรรมดาค
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข