“นั่นเป็นเพราะเขาเป็นลูกเขยที่ได้ชื่อว่าไปอาศัยอยู่บ้านคนอื่น ไร้ประโยชน์ สำหรับผู้ชายแล้วมันช่างน่าอายที่สุด!”“เฮ้ หนุ่มหล่อคนนี้กำลังบอกว่าลูกเขยคนนี้ล่อลวงเพื่อนร่วมชั้นของเขาให้ซื้อไวน์ราคาแพงในงานเลี้ยงสังสรรค์เหรอ แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับทำมันไม่สำเร็จ แถมยังมาคุยโวว่าเขาให้คนยกเว้นการเรียกเก็บเงินสำหรับพวกเขาอีก”“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้? เสียชื่อผู้ชายที่สุด!”“ช่างเป็นขยะไร้ค่าอะไรแบบนี้! ทำไมเขาถึงไม่ถูกรถชนตาย ๆ ไปซะ?!”ผู้คนกำลังซุบซิบนินทาเกี่ยวกับเรื่องนี้และฮาร์วี่ย์เริ่มรู้สึกโกรธทันที‘วันนี้ผมอารมณ์ดี ผมเพิ่งออกมาซื้อชานมให้ภรรยาของผม ทำไมผมต้องมาเจอคนโง่แบบนี้? ทำไมผมถึงไม่รู้ว่านายช่างเป็นคนงี่เง่าน่ารังเกียจแบบนี้?ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ โฮเวิร์ดในตอนนี้ยิ่งแสดงอาการหยิ่งผยองแต่เมื่อโฮเวิร์ดกำลังจะได้ทำไรอะไร ฮาร์วี่ย์ก็วางชานมลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “โฮเวิร์ด ผมเตือนคุณแล้วนะในฐานะที่คุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม หยุดเรื่องนี้ซะ!”"ทำไม? นายทำอะไรกับฉันได้? ฉันพูดในสิ่งที่นายทำไม่ได้เหรอ?” แม้ว่าโฮเวิร์ดจะเห็นแล้วว่าฮาร์วี่ย์มีสีหน้าที
โฮเวิร์ดรู้สึกภาคภูมิใจและตั้งใจเปิดลำโพงโดยให้ทุกคนได้รับรู้เมื่อได้ยินจากปลายสาย จากนั้นเขาก็กระแอ่มไอและพูดออกมาเสียงดังว่า “ผู้จัดการครับ คุณกำลังบอกว่าท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้ลงนามในจดหมายแต่งตั้งของผมแล้วงั้นเหรอ”เมื่อโฮเวิร์ดกำลังพูดเรื่องนั้นออกมาเหล่านั้นเหล่าไทยมุงกำลังมองไปที่เขาด้วยสายตาชื่นชม“คุณชายสูงส่งคนนี้บอกว่าเขาได้ทำงานใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ด้วยเงินเดือนเจ็ดหมื่นหกพันดอลลาร์!”“เขาคงเป็นผู้บริหารระดับสูงแน่นอน ดูแล้วเขาจะมีอนาคตที่สดใส!”“นี่สิคือความหมายของการประสบความสำเร็จตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ว่ากันว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เป็นที่สนใจอยากเข้าทำงานด้วย แม้กระทั่งตำแหน่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทนี้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหลากหลายองค์กร ผู้ที่สามารถเข้าทำงานในบริษัทนี้ได้ต้องเป็นคนมีระดับในภาคอุตสาหกรรม!”ในตอนนี้หลาย ๆ คนเริ่มอิจฉาและวาดฝันว่าสักวันพวกเขาจะมาแทนที่เขาหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดจ้านยืนข้างโฮเวิร์ดและมองเขาด้วยสายตาชื่นชม ผู้ชายที่เธอเลือกเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นผู้ชายในชนชั้นคนระดับสูง ไม่มีผู้ชายธรรมดาค
ลิเลียนออกอาการเบื่อหน่ายทันทีเมื่อเธอเห็นฮาร์วี่ย์เดินเข้ามาในบ้าน “ไอ้ขยะ ทำไมนายใช้เวลาซื้อของนานแบบนี้ นายคิดว่าจะไปคลอดลูกหรือไง? นายไม่รู้หรือไงว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ส่งคนมารับนายและแมนดี้?”เมื่อฟังคำดูถูกของลิเลียนและใบหน้าที่เบื่อหน่ายของเธอ ฮาร์วี่ย์รับรู้ดีว่าการร่วมมือระหว่างตระกูลซิมเมอร์ กับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ล้มไม่เป็นท่า ตระกูลซิมเมอร์อาจทำให้แมนดี้ต้องอับอายอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นลิเลียนคงจะไม่ดูแย่ขนาดนี้ในตอนนี้แมนดี้ก็รู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน เมื่อเธอเห็นฮาร์วี่ย์กลับมาเธอก็รีบเข้าไปนั่งในรถปอร์เช่ของเขาทันที เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะกินชานมที่เขาซื้อกลับมา ฮาร์วี่ย์ไม่พูดอะไรให้มากความและรีบสตาร์ทรถอย่างรวดเร็วไม่นานฮาร์วี่ย์ แมนดี้และลิเลียนก็มาถึงคฤหาสน์ซิมเมอร์ในตอนนี้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ได้เรียกเฉพาะคนที่มีสิทธิ์ออกเสียงในตระกูลซิมเมอร์แล้วใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ เมื่อช่วงบ่ายแซ็คได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับสัญญาปลอมที่แมนดี้นำกลับมา สามีขยะของเธอช่วยเธอปลอมสัญญาด้วยเช่นกัน ครอบครัวของแมนดี้คงจะต้องถูกขับไล่ออกไปพวกเขาคงจะยอมลดความโกรธลงได้ไม่นานแมน
ผู้อาวุโสซิมเมอร์มองเธออย่างเย็นชาและไม่ต้องการที่จะอธิบาย แมนดี้เกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงและเธอก็ไม่เคยได้รับความรักจากเขา ตอนนี้เธอยังทำให้เกิดปัญหาใหญ่เช่นนี้อีก การขับไล่พวกเขาออกไปนั่นก็เป็นกรุณามกพอแล้วทั้งแมนดี้และลิเลียน ทำอะไรก็ดูเหมือนะไม่ถูกใจ ฮาร์วี่ย์ซึ่งตอนแรกเฝ้าดูอยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นช้า ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ผมคิดว่าคุณไม่ยุติธรรม”อะไรนะ?ไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ?ฮ่า ๆ ๆ ๆ!หลายคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาในจังหวะทีทั้งห้องตกอยู่ในความเครียดฮาร์วี่ย์ช่างตลกสิ้นดี นี่มันใช่จังหวะที่สมควรจะพูดเหรอ? เขาก็แค่ลูกเขยที่มาขออาศัยอยู่ก็เท่านั้นมีสิทธิ์ที่จะพูดงั้นหรือ? มาบอกว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ยุติธรรม? เขาโง่หรือเปล่า? เขาคิดว่านี่เป็นโรงละครหรือไง?ผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นคนพูดตำไหนคำนั้น เขามักจะทำในสิ่งที่ตัดสินใจลงไปแล้ว ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์คนนี้กล้าสอนเขาได้อย่างไร?ในขณะนี้ทุกคนมองไปที่ฮาร์วี่ย์ราวกับว่าพวกเขากำลังมองไปที่คนบ้าอย่างไรอย่างนั้น"นายพูดอะไร?" ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วและจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างไม่มีความสุขฮาร์วี่ย์พูดทุกคำอย่างเย็นชาว
ฮาร์วีย์ยิ้มตอบ “แซ็ค อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ว่าคุณทำอะไรไว้…”"แกรู้อะไร? พนักงานทำความสะอาดอย่างนายจะไปรู้อะไร?” แซ็คตะคอกใส่ฮาร์วี่ย์ “คุณปู่ หมอนี่พยายามจะใส่ร้ายผม ให้ใครมาจับมันโยนออกไปเร็ว ๆ เถอะครับ!”ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดออกมาอย่างเยือกว่า “ฮาร์วี่ย์ฉันให้โอกาสนายเพราะนายถือเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซิมเมอร์ คุกเข่าขอโทษแซ็คซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาโทษว่าฉันว่าหยาบคาย”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่แม้แต่จะมองไปที่ฮาร์วี่ย์เขาเชื่อว่าการลงทุนที่ถูกยกเลิกนั้นมาจากสัญญาปลอม เขาไม่ได้คิดความเป็นไปได้อื่น ๆ เลยแม้แต่น้อยสมาชิกของตระกูลซิมเมอร์ต่างก็รู้สึกพอใจที่ชายชราพูดเช่นนั้น"คุกเข่าสิ! ลูกเขยไร้ค่า! คุกเข่าเดี๋ยวนี้! เราอาจช่วยเมตตานายก็ได้!”“แซ็ค ให้เขาคุกเข่าขอโทษ ถ้าวันนี้เขาไม่ทำ เขาจะไม่สามารถออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ได้!”“ ใช่ มันก็เป็นแค่ไอ้ขยะ ยังมีหน้ามาสั่งสอนพวกเราอีก มันคิดว่ามันเป็นใครกัน? นักสืบงั้นเหรอ?”ในขณะเดียวกันลิเลียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดอย่างกังวลว่า “ฮาร์วี่ย์ รีบขอโทษผู้อาวุโสซิมเมอร์ซะ นายกำลังทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีซะอีก ฉันไม่ควรพานายมาที่นี่ด้
ผู้อาวุโสซิมเมอร์เยาะเย้ยและพูดว่า "โทรหา รปภ. วันนี้ยังไงก็ต้องทำให้มันคุกเข่าขอโทษให้ได้!”มีคนหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและโทรเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซิมเมอร์มาหลายคน พวกเขาเหล่านั้นกำลังจัดการกับฮาร์วี่ย์ “รีบร้อนอะไรกันขนาดนั้น! คุณไม่ให้เวลาผมพูดอะไรเลย หรือจริง ๆ แล้วคุณกลัวผม?” ฮาร์วี่ย์ออกมาด้วยรอยยิ้มเคลือบแคลง จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ของแมนดี้ขึ้นมาและกดเข้าแอพพลิเคชั่นหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็กดเล่นวิดีโอบนโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ติดผนผนังในห้องรับแขก“ข่าวด่วนวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ในช่วงบ่ายวันนี้กำลังแพร่ระบาดบนโลกอินเทอร์เน็ต มีคนวงในเปิดเผยว่าสุภาพบุรุษคนนี้ที่ถูกไล่ออกจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เพราะเขาได้คุกคามทางเพศพนักงานหญิงของบริษัทในห้องรับรอง! บริษัทไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้เพื่อปกป้องพนักงานของตน อย่างไรก็ตามพวกเขาจะดำเนินแจ้งความกับตำรวจ เชิญรับชมวิดีโอ…”ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปและเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องรับรองของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์บนหน้าจอ แซ็คกำลังลวนลามผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เป็นพนักงานแผนกต้อนรับด้วยท่าทางที่น่า
“ใช่ แซ็คยังหนุ่มและร่ำรวย เขาสามารถหาผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยซ้ำ!”“ฮาร์วี่ย์ นายตัดต่อวิดีโอนี้เพื่อต้องการช่วยภรรยาของนายเพื่อที่จะได้ไม่ต้องความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นใช่ไหม?”“ถ้าเป็นแบบนั้น เราประเมินนายต่ำเกินไป!”สมาชิกทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้ไว้วางใจฮาร์วี่ย์มากนัก ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นผู้อาวุโสซิมเมอร์เข้าข้างแซ็ค พวกเขาก็เอนเอียงเข้าข้างเขาทันทีเช่นเดียวกัน“คุณกำลังขอหลักฐานงั้นเหรอ…” ฮาร์วีย์ยอร์กหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็มองไปที่แมนดี้ซิมเมอร์ที่ยังรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดดขึ้นและพูดว่า "ที่รัก คุณมีเบอร์มิสซาเวียร์หรือเปล่า?""ฮะ? มีค่ะ เธอให้นามบัตรกับฉันมาก่อนหน้านี้” แมนดี้สะดุ้งตอบโดยไม่รู้ตัว“ถ้าอย่างนั้นมันก็ง่ายขึ้น ผมจะโทรหามิสซาเวียร์ต่อหน้าทุกคนและถามว่าทำไมเธอถึงไม่ร่วมมือกับเรา แล้วเราจะได้รู้คำตอบกัน!” ฮาร์วีย์บอกกับทุกคน"ได้ค่ะ!" ดวงตาของแมนดี้เป็นประกายขึ้น เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแต่ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของแซ็คก็ซีดลง เขาตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ แมนดี้! นี่ถือว่าเป็นความลำบากใจครั้งใหญ่สำหรับตระกูลซิ
ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เขาหันไปมองแมนดี้และพูดเบา ๆ “ กดโทรออกและเปิดโหมดลำโพง เชื่อผมนะ!"เสียงรอสายโทรศัพท์ก็ดังขึ้นด้วยเสียงนั้นทำให้ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานพวกเขาก็เงียบเสียงลงแม้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่โปรดปรานแซ็คก็ยังอดกลั้นไว้ เป็นเพราะความจริงที่ว่าเงินลงทุนจำนวนห้าสิบล้านดอลลาร์มีความสำคัญมาก หากพวกเขาไม่มีเงินลงทุน ตระกูลซิมเมอร์ของพวกเขาอาจถูกทำลายจนย่อยยับ“สวัสดีค่ะ? ดิฉัน อีวอนน์ เป็นเลขาของท่านประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ทราบว่าติดต่อจากไหนคะ?…” พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ไพเราะ แต่สุขุมออกมาจากปลายสายใบหน้าอันงดงามของแมนดี้เต็มไปด้วยความกังวลและอึดอัด จากนั้นเธอก็พูดว่า “มิสซาเวียร์สวัสดีค่ะ ฉัน แมนดี้ จากตระกูลซิมเมอร์ เราเจอกันเมื่อวานนี้…”“โอ้! คุณนั่นเองมิสซิมเมอร์!” เสียงอีวอนน์ฟังดูสุขุมเข้มยิ่งขึ้น “ไม่อ้อมค้อมนะคะ ท่านประธานของเราแจ้งว่าไม่ต้อนรับคนจากตระกูลซิมเมอร์ ท่านยังบอกอีกว่าจะทำให้ตระกูลซิมเมอร์ล้มละลายอย่างแน่นอน… ดังนั้นได้โปรดอย่าโทรหาฉันอีกในอนาคตอีกต่อไป ดิฉันไม่สะดวกใจ…”เมื่อได้ยินแบบนั้นตระกูลซิมเมอ