ผู้อาวุโสซิมเมอร์มองเธออย่างเย็นชาและไม่ต้องการที่จะอธิบาย แมนดี้เกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงและเธอก็ไม่เคยได้รับความรักจากเขา ตอนนี้เธอยังทำให้เกิดปัญหาใหญ่เช่นนี้อีก การขับไล่พวกเขาออกไปนั่นก็เป็นกรุณามกพอแล้วทั้งแมนดี้และลิเลียน ทำอะไรก็ดูเหมือนะไม่ถูกใจ ฮาร์วี่ย์ซึ่งตอนแรกเฝ้าดูอยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นช้า ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ผมคิดว่าคุณไม่ยุติธรรม”อะไรนะ?ไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ?ฮ่า ๆ ๆ ๆ!หลายคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาในจังหวะทีทั้งห้องตกอยู่ในความเครียดฮาร์วี่ย์ช่างตลกสิ้นดี นี่มันใช่จังหวะที่สมควรจะพูดเหรอ? เขาก็แค่ลูกเขยที่มาขออาศัยอยู่ก็เท่านั้นมีสิทธิ์ที่จะพูดงั้นหรือ? มาบอกว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ยุติธรรม? เขาโง่หรือเปล่า? เขาคิดว่านี่เป็นโรงละครหรือไง?ผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นคนพูดตำไหนคำนั้น เขามักจะทำในสิ่งที่ตัดสินใจลงไปแล้ว ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์คนนี้กล้าสอนเขาได้อย่างไร?ในขณะนี้ทุกคนมองไปที่ฮาร์วี่ย์ราวกับว่าพวกเขากำลังมองไปที่คนบ้าอย่างไรอย่างนั้น"นายพูดอะไร?" ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วและจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างไม่มีความสุขฮาร์วี่ย์พูดทุกคำอย่างเย็นชาว
ฮาร์วีย์ยิ้มตอบ “แซ็ค อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ว่าคุณทำอะไรไว้…”"แกรู้อะไร? พนักงานทำความสะอาดอย่างนายจะไปรู้อะไร?” แซ็คตะคอกใส่ฮาร์วี่ย์ “คุณปู่ หมอนี่พยายามจะใส่ร้ายผม ให้ใครมาจับมันโยนออกไปเร็ว ๆ เถอะครับ!”ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดออกมาอย่างเยือกว่า “ฮาร์วี่ย์ฉันให้โอกาสนายเพราะนายถือเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซิมเมอร์ คุกเข่าขอโทษแซ็คซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาโทษว่าฉันว่าหยาบคาย”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่แม้แต่จะมองไปที่ฮาร์วี่ย์เขาเชื่อว่าการลงทุนที่ถูกยกเลิกนั้นมาจากสัญญาปลอม เขาไม่ได้คิดความเป็นไปได้อื่น ๆ เลยแม้แต่น้อยสมาชิกของตระกูลซิมเมอร์ต่างก็รู้สึกพอใจที่ชายชราพูดเช่นนั้น"คุกเข่าสิ! ลูกเขยไร้ค่า! คุกเข่าเดี๋ยวนี้! เราอาจช่วยเมตตานายก็ได้!”“แซ็ค ให้เขาคุกเข่าขอโทษ ถ้าวันนี้เขาไม่ทำ เขาจะไม่สามารถออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ได้!”“ ใช่ มันก็เป็นแค่ไอ้ขยะ ยังมีหน้ามาสั่งสอนพวกเราอีก มันคิดว่ามันเป็นใครกัน? นักสืบงั้นเหรอ?”ในขณะเดียวกันลิเลียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดอย่างกังวลว่า “ฮาร์วี่ย์ รีบขอโทษผู้อาวุโสซิมเมอร์ซะ นายกำลังทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีซะอีก ฉันไม่ควรพานายมาที่นี่ด้
ผู้อาวุโสซิมเมอร์เยาะเย้ยและพูดว่า "โทรหา รปภ. วันนี้ยังไงก็ต้องทำให้มันคุกเข่าขอโทษให้ได้!”มีคนหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและโทรเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซิมเมอร์มาหลายคน พวกเขาเหล่านั้นกำลังจัดการกับฮาร์วี่ย์ “รีบร้อนอะไรกันขนาดนั้น! คุณไม่ให้เวลาผมพูดอะไรเลย หรือจริง ๆ แล้วคุณกลัวผม?” ฮาร์วี่ย์ออกมาด้วยรอยยิ้มเคลือบแคลง จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ของแมนดี้ขึ้นมาและกดเข้าแอพพลิเคชั่นหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็กดเล่นวิดีโอบนโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ติดผนผนังในห้องรับแขก“ข่าวด่วนวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ในช่วงบ่ายวันนี้กำลังแพร่ระบาดบนโลกอินเทอร์เน็ต มีคนวงในเปิดเผยว่าสุภาพบุรุษคนนี้ที่ถูกไล่ออกจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เพราะเขาได้คุกคามทางเพศพนักงานหญิงของบริษัทในห้องรับรอง! บริษัทไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้เพื่อปกป้องพนักงานของตน อย่างไรก็ตามพวกเขาจะดำเนินแจ้งความกับตำรวจ เชิญรับชมวิดีโอ…”ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปและเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องรับรองของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์บนหน้าจอ แซ็คกำลังลวนลามผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เป็นพนักงานแผนกต้อนรับด้วยท่าทางที่น่า
“ใช่ แซ็คยังหนุ่มและร่ำรวย เขาสามารถหาผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยซ้ำ!”“ฮาร์วี่ย์ นายตัดต่อวิดีโอนี้เพื่อต้องการช่วยภรรยาของนายเพื่อที่จะได้ไม่ต้องความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นใช่ไหม?”“ถ้าเป็นแบบนั้น เราประเมินนายต่ำเกินไป!”สมาชิกทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้ไว้วางใจฮาร์วี่ย์มากนัก ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นผู้อาวุโสซิมเมอร์เข้าข้างแซ็ค พวกเขาก็เอนเอียงเข้าข้างเขาทันทีเช่นเดียวกัน“คุณกำลังขอหลักฐานงั้นเหรอ…” ฮาร์วีย์ยอร์กหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็มองไปที่แมนดี้ซิมเมอร์ที่ยังรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดดขึ้นและพูดว่า "ที่รัก คุณมีเบอร์มิสซาเวียร์หรือเปล่า?""ฮะ? มีค่ะ เธอให้นามบัตรกับฉันมาก่อนหน้านี้” แมนดี้สะดุ้งตอบโดยไม่รู้ตัว“ถ้าอย่างนั้นมันก็ง่ายขึ้น ผมจะโทรหามิสซาเวียร์ต่อหน้าทุกคนและถามว่าทำไมเธอถึงไม่ร่วมมือกับเรา แล้วเราจะได้รู้คำตอบกัน!” ฮาร์วีย์บอกกับทุกคน"ได้ค่ะ!" ดวงตาของแมนดี้เป็นประกายขึ้น เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแต่ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของแซ็คก็ซีดลง เขาตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ แมนดี้! นี่ถือว่าเป็นความลำบากใจครั้งใหญ่สำหรับตระกูลซิ
ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เขาหันไปมองแมนดี้และพูดเบา ๆ “ กดโทรออกและเปิดโหมดลำโพง เชื่อผมนะ!"เสียงรอสายโทรศัพท์ก็ดังขึ้นด้วยเสียงนั้นทำให้ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานพวกเขาก็เงียบเสียงลงแม้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่โปรดปรานแซ็คก็ยังอดกลั้นไว้ เป็นเพราะความจริงที่ว่าเงินลงทุนจำนวนห้าสิบล้านดอลลาร์มีความสำคัญมาก หากพวกเขาไม่มีเงินลงทุน ตระกูลซิมเมอร์ของพวกเขาอาจถูกทำลายจนย่อยยับ“สวัสดีค่ะ? ดิฉัน อีวอนน์ เป็นเลขาของท่านประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ทราบว่าติดต่อจากไหนคะ?…” พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ไพเราะ แต่สุขุมออกมาจากปลายสายใบหน้าอันงดงามของแมนดี้เต็มไปด้วยความกังวลและอึดอัด จากนั้นเธอก็พูดว่า “มิสซาเวียร์สวัสดีค่ะ ฉัน แมนดี้ จากตระกูลซิมเมอร์ เราเจอกันเมื่อวานนี้…”“โอ้! คุณนั่นเองมิสซิมเมอร์!” เสียงอีวอนน์ฟังดูสุขุมเข้มยิ่งขึ้น “ไม่อ้อมค้อมนะคะ ท่านประธานของเราแจ้งว่าไม่ต้อนรับคนจากตระกูลซิมเมอร์ ท่านยังบอกอีกว่าจะทำให้ตระกูลซิมเมอร์ล้มละลายอย่างแน่นอน… ดังนั้นได้โปรดอย่าโทรหาฉันอีกในอนาคตอีกต่อไป ดิฉันไม่สะดวกใจ…”เมื่อได้ยินแบบนั้นตระกูลซิมเมอ
ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานพวกเขาก็จับจ้องไปที่แซ็คอย่างคาดโทษ ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยแล้วฮาร์วี่ย์เผยยิ้มจาง ๆ และเขาเดินถอยไปที่มุม สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้นั้นไม่ใช่เรื่องของเขาอีกต่อไป ถ้าตระกูลซิมเมอร์ไม่โง่ก็ควรรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพียะ!ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก้าวไปข้างหน้าและเดินตรงเข้าไปหาแซ็ค จากนั้นเขาก็ตบแซ็คอย่างแรงด้วยความโกรธ แต่แซ็คทำได้เพียงแค่จับใบหน้าของตัวเองและเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา“ทำไมทำตัวไม่มีประโยชน์อะไรอย่างนี้! แกทำให้ฉันผิดหวังมาก! มันสูญเปล่าจริง ๆ ที่ฉันเลี้ยงดูแกในฐานะผู้สืบทอดตระกูลมาโดยตลอด แต่แก…” ผู้อาวุโสซิมเมอร์โกรธมาก ร่างกายของเขาสั่นด้วยความโกรธ“คุณปู่ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ฉันคุยกับพนักงานต้อนรับหญิงคนนั้นได้ไม่นาน ใครจะไปรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของท่านประธาน” ในตอนนั้นเองแซ็คเสียใจอย่างสุดซึ้ง“นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะทำตอนนี้ เราต้องไปแก้ไขปัญหานั้นให้ได้เสียก่อน ยังมีโอกาสให้เราแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างแทนที่จะยืนเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย!” สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์เปลี่ยนไป ไม่นาน
“ ฮาร์วี่ย์นายมันไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือไง? นายกำลังทำตัวน่าตลกไปหน่อยเลย นายคิดจะทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวได้อย่างไร? นายคิดว่านี่เป็นที่ ๆ ให้นายมาออกคววามคิดเห็นได้จริง ๆ งั้นหรือ?” ฌอนก้าวเดินไปข้างหน้าและจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างเย็นชาเป็นเพราะฮาร์วี่ย์ ลูกชายสุดที่รักของเขาต้องถูกทำให้อับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย ในตอนนี้เขารู้สึกเกลียดฮาร์วี่ย์เป็นอย่างมาก“นายอยากออกหน้าแทนแมนดี้เหรอ? เธอยอมให้นายทำอะไรแบบนั้นงั้นเหรอ? หรือถึงแม้ว่าเธอจะเห็นด้วย แต่แม่ยายของนายยังไม่คิดจะพูดอะไรออกมาด้วยซ้ำ นายมีสิทธิ์มาพูดอะไรที่นี่? นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความอาวุโสและความเหมาะสมคืออะไร! ไสหัวไปซะ!” ฌอนจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างเหยียดหยาม“สิ่งที่ฮาร์วี่ย์พูดนั้นถูกต้อง รอบนี้แมนดี้จะไม่ไปทำแบบนั้นอีกแล้ว!” ทันใดนั้นลิเลียนก็พูดขึ้น“เธอ…เธอพูดอะไรออกมา?” ฌอนยื่นนิ้วออกไปชี้ไปที่ลิเลียน เขาโกรธมาก แม้แต่นิ้วของเขาก็ยังสั่น“แล้วเรื่องนายกับฉันล่ะ? นายไม่ให้แม้แต่คำอธิบายกับเราหลังจากที่กล่าวหาแมนดี้อย่างไม่ถูกต้อง นายต้องการที่จะไล่พวกเราออกจากตระกูลซิมเมอร์ แล้วตอนนี้นายรู้แล้วว่ามีเพียงลูกสาวของฉันเท
ลิเลียนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและเธอก็รู้ว่ามันค่อนข้างสมเหตุสมผล หากนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ซิมเมอร์ล้มละลายเธอก็จะไม่มีชีวิตที่สนุกสนานอีกต่อไป“ตกลง” หลังจากคิดได้สักพักลิเลียนก็พยักหน้าเห็นด้วย"ไม่มีทาง!" ในที่สุดฮาร์วี่ย์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นอีกครั้งในขณะนั้นทุกคนจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์ด้วยความโกรธรวมทั้งลิเลียนด้วยเช่นกันทุกคนได้พูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ‘ทำไมลูกเขยคนนี้ถึงมาสร้างความวุ่นวายอีก เขาไม่เจียมตัวเองสักนิดเลยหรือ? 'ลิเลียนพูดอย่างเยือกเย็น “ฮาร์วี่ย์ นายไสหัวออกไปซะ! นี่ไม่ใช่ที่ ๆ นายจะมาความคิดเห็นได้!”“คุณแม่ครับ ผมขอพูดในนามของแมนดี้! ผมต้องการสิ่งที่ถูกต้องให้เธอ! ตอนแรกเธอเป็นคนได้เซ็นสัญญา ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แต่ตระกูลซิมเมอร์กลับไม่สนใจเรื่องนั้นเลยและพวกเขาเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ ตอนนี้ความร่วมมือตามสัญญานั่นทั้งหมดถูกปฏิเสธและตระกูลซิมเมอร์ยังต้องการให้แมนดี้เข้ามาแก้ไขด้วยตนเอง นั่นมันหมายความว่าไง?"ฮาร์วี่ย์พูดอย่างสุดทน “คุณปู่ไม่จำเป็นต้องให้คำอธิบายกับเธอเลยงั้นหรือ? อย่าบอกนะว่าเมื่อแมนดี้ทำสำเร็จและได้รับเงินลงทุนนั้นมาคุณปู่ก็จะเปลี่ยนผู้รับผิ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข