ในช่วงเช้าตรูวันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์ตื่นจากการหลับใหลในค่ำคืนแย่ ๆ นั้น แล้วถูกแมนดี้ลากเข้าไปในรถเธอเริ่มบ่นฮาร์วีย์ทันทีที่เข้าไปอยู่ในรถทั้งสองคนพวกเขาได้พูดคุยกันเรื่องกาเบรียลจะเลี้ยงอาหารทั้งครอบครัวไปเมื่อวันก่อนแล้ว...แต่ฮาร์วีย์ก็ยังตื่นสายมากฮาร์วีย์ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้นหลังจากเข้าไปอยู่ในรถแล้วกาเบรียลเกิดโชคดีที่ได้รับผิดชอบงานโครงการที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พูดได้เลยว่าเขามีสถานะสูงขึ้นจากการรับงานนี้เบย์เลอร์ ลี น้องสาวของกาเบรียลก็ทำงานได้ดีมากด้วย พูดได้เลยว่าตระกูลของเขาช่างมีบุญมากจริง ๆลิเลียนกับไซม่อนก็อยากจะไปร่วมงานเหมือนกัน แต่พวกเขาขอให้แมนดี้ไปแทนเนื่องจากมีอะไรต้องทำหลังจากได้ยินว่าแมนดี้จะมาร่วมงาน กาเบรียลก็อยากให้ฮาร์วีย์มาร่วมงานด้วย โดยอ้างว่าเขาอยากให้คำแนะนำกับฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์รู้ดีว่ากาเบรียลไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้นแต่เขาไม่ได้สนใจอะไร ในเมื่อแมนดี้ยืนกรานว่าจะไป เขาก็ไม่รังเกียจที่จะตามเธอไปด้วยในเวลาเที่ยงตรงฮาร์วีย์กับแมนดี้ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ห้องที่สองของ 'ศาลาแดง'ห้องนี้เป็นห้องที่ดูหรูหรามาก มีโต๊ะขนาดใหญ่อย
"แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีพวกคุณทุกคนในที่นี้!“ฉันกับสามีจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อทำการขอบคุณพวกคุณทุกคนเป็นพิเศษ"พ่อของกาเบรียลลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูชอบธรรม“วันนี้เชิญดื่มกินให้เต็มที่ไปเลยนะทุก ๆ คน!” เขาร้องบอกหลังจากหัวเราะเสียงดังลั่น“ถ้าคุณต้องการอะไรก็ขอให้บอกมาเลย!“เรามีไวน์รีสลิ่งปี 1982 มากพอกับความต้องการของทุก ๆ คน!”กาเบรียลยืนขึ้นอย่างภาคภูมิใจด้วย“พ่อ แม่ และทุก ๆ คน!“ผมขอขอบคุณทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้!“ผมจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ไปจนตลอดชีวิต!“ดื่มอวยพรกันหน่อยครับ!”เขาดื่มไวน์เอื้อก ๆ ลงคอไป“คุณกับเบย์เลอร์เป็นคนเก่งมาก! ถ้ารวยแล้วก็อย่าลืมพวกเราล่ะ!“ใช่แล้ว! ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่งในขณะที่ยังอายุน้อย ๆ อยู่เลย!“คนธรรมดา ๆ จะไม่สามารถรับงานจากเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปได้หรอก!“อีคลิปส์สตูดิโอได้รับการหนุนหลังจากตระกูลพาเทลด้วย ซึ่งเบย์เลอร์เข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี!“ตระกูลของเราช่างมีคนที่ดูโดดเด่นจริง ๆ!”บรรดาญาติ ๆ ต่างรู้สึกชื่นชมยินดีในขณะมองไปที่กาเบรียลและเบย์เลอร์คุณลุงผู
สีหน้าของแมนดี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ในขณะที่กำลังจะพูดอะไรออกไปก็ถูกฮาร์วีย์ห้ามเอาไว้เขามาที่นี่เพื่อดูว่ากาเบรียลจะเตรียมทำอะไรกับเขาอยู่แล้วฉะนั้นจึงจะเป็นการหยาบคายเกินไปหน่อยที่จะไปหยุดยั้งเขาเอาไว้ ในขณะที่การแสดงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นพ่อแม่ของกาเบรียลจ้องมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม‘นี่คือลูกเขยที่เกาะภรรยาผู้กำลังจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง!’‘ลูกชายของฉันคงจะมีภรรยาคนที่สองไปแล้วถ้าไม่มีเขา! ทรัพย์สินของตระกูลซิมเมอร์ก็จะตกเป็นของเขาด้วย!’“โอ้! นี่คือลูกเขยที่เกาะภรรยาในตำนานของตระกูลซิมเมอร์ไม่ใช่เหรอ?“เขาก็ดูเหมือนคนปกติดีนี่! บางทีเขาอาจจะโง่จริง ๆ ก็ได้นะ!“ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ซื้อหัวไชเท้ามาเป็นของขวัญให้กับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาหรอก!“เขากล้าดียังไงมาอ้างว่าของขวัญของกาเบรียลนั้นเป็นของปลอม!“เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน?!“ช่างหลงตัวเองจังเลยนะไอ้โสโครก!”แน่นอนว่ากาเบรียลได้พูดจาโอ้อวดเรื่องราวทั้งหมดนั้น ก็เพียงเพื่อจะโหมไฟให้แรงขึ้นเห็นได้ชัดว่าเอเวอรี่ไม่อยากจะชี้แจงอะไรในเรื่องนั้น เนื่องจากเธออยู่ข้างเดียวกับกาเบรียลแมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินคำพูด
เอเวอรี่ยิ้มร่าเป็นเชิงเย้าแหย่“คุณควรขอบคุณพี่เขยของคุณนะ“คุณจะไม่มีวันได้งานถ้าเขาไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย"ฮาร์วีย์แสยะยิ้ม“คุณอยากให้ผมขนย้ายอิฐให้คุณจริง ๆ เหรอ? คุณแน่ใจนะว่าจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของคุณ?”“คุณคิดว่าคุณสามารถดูหมิ่นเขาแบบนั้นได้เหรอ? คุณ...”ในขณะที่เอเวอรี่กำลังจะพูดอะไรออกมาอยู่นั้น...ก็มีเสียงเปิดประตูดังปัง แล้วประตูก็ถูกเตะให้เปิดออกทันทีถ้วยในมือของฮาร์วีย์สั่นก่อนที่เขาจะหรี่ตามองไปทางนั้นมีผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตที่ดูดุดันสองสามคนเดินเข้าไปข้างในชายผมยาวที่คาบซิการ์อยู่เป็นหัวหน้ากลุ่ม“ทุกคนออกไป! เรายึดห้องนี้แล้ว!” เขาร้องบอกอย่างเย็นชาในขณะหรี่ตามองตระกูลลีกาเบรียลอยู่ในจุดที่ได้รับการสรรเสริญเยินยออย่างมาก เขาไม่สามารถทนรับการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างนี้ได้เขาเอามือทุบโต๊ะในขณะที่ในร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์“แกพูดอะไรของแก?! เรายังกินกันไม่เสร็จเลย!”“ประธานบริษัทเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปกำลังมาที่นี่! แกกำลังบอกฉันว่าแกอยากจะต่อต้านเขาอย่างนั้นเหรอ?”ผู้ชายคนที่คาบซิการ์นั้นจ้องมองกาเบรียลอย่างดูถูกเหยียดหยาม'ประธานบริษ
เบย์เลอร์ทำสีหน้าภาคภูมิใจเมื่อเธอร้องบอกออกมาว่า "ขอโทษเดี๋ยวนี้! นี่คือคำสั่ง!“คุณเข่าลงด้วยตอนที่แกขอโทษ!“ไม่อย่างนั้นก็อย่าคิดว่าจะได้งานแบกก้อนอิฐเลย!“แกจะต้องอดตายแน่!”ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อสองพี่น้องคู่นั้น แล้วเบนสายตาไปที่กลุ่มชายที่ดูดุดันพวกนั้นอย่างในเย็น“ไปเอาตัวคลิฟฟ์ ซาบันมาภายในสามนาทีนี้“ฉันบอกให้ไปเอาตัวมา“แกควรบอกเขาให้รีบ ๆ หน่อยล่ะ ถ้าเขามาไม่ทันเวลา คำขอโทษของเขาก็คงไม่ช่วยอะไรได้แล้วนะ"หลังจากได้ยินคำพูดแล้วนั้นกาเบรียลและคนอื่น ๆ ก็หน้าซีดราวกับไก่ต้มเห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์กำลังลากพวกเขาเข้าไปท้าทายคลิฟฟ์อย่างนั้นด้วย!'ผู้ชายคนนี้อยากให้เราตายกันหมดเหรอ?!'“แกเป็นใครกันเหรอ?! กล้าดียังไงมาสั่งให้เราทำแบบนั้น?!”ผู้ชายผมยาวคนนั้นจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา“แกอยากจะตายหรือยังไง?!”ในขณะที่เขากำลังจะบดขยี้ฮาร์วีย์อยู่นั้น...ผู้ชายที่พันผ้าพันแผลก็เดินเข้ามาผู้ชายคนนั้นคือผู้ชายที่ไว้ผมทรงโมฮอว์กที่ถูกเตะในซานฟรานซิสโก คลับเฮ้าส์นั่นเองเขาตัวสั่นเทาขึ้นมาทันทีพร้อมกับมีสายตาหวาดกลัวเมื่อมองเห็นหน้าฮาร์วีย์เรารีบกระซิบบอกผู้ชายผมยาวคนนั้นฮาร
ผู้คนทั้งตระกูลรู้สึกแย่มาก'เขามีสิทธิ์อะไร?''ลูกเขยที่เกาะครอบครัวภรรยามีสิทธิ์อะไรมารับคำขอโทษจากเขา?!''พวกเราทุกคนกำลังฝันไปเหรอ?'ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อตระกูลลีอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่คนพวกนั้นต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก“คราวนี้ฉันจะปล่อยผ่านไป"“ขอบคุณมากครับคุณยอร์ก!”คลิฟฟ์ยิ้มอย่างสดใสก่อนจะมองฮาร์วีย์อย่างให้ความเคารพ“ถ้าผมจะขอเบอร์โทรศัพท์จากคุณจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่าครับ?“ผมมีเรื่องบางอย่างต้องขอคำแนะนำจากคุณในเวลาอื่น!”ฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่เขาเขียนเบอร์โทรศัพท์ของเขาบนกระดาษทิชชูด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะขว้างไปตรงหน้าคลิฟฟ์“ขอบคุณครับ! ขอบคุณครับ!”คลิฟฟ์เก็บกระดาษทิชชูแผ่นนั้นไว้ราวกับเป็นของมีค่า ก่อนจะมองไปที่ตระกูลลี“ขอโทษที่ต้องรบกวนพวกคุณทุกคนนะ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"พวกลูกน้องของเขาต่างโค้งคำนับด้วยความเคารพ แต่ทำสีหน้าหวาดกลัวฮาร์วีย์โบกมือ“ออกไปซะ"ท่าทีที่ดูสบาย ๆ ของเขาทำให้รู้สึกเหมือนคลิฟฟ์และคนอื่น ๆ คือคนรับใช้ของเขาตระกูลลีไม่อาจยอมรับได้ พวกเขารู้สึกตัวชาอย่างมากในเวลานี้ในทางกลับกันแมนดี้ทำสีหน้าที่ดูชอบธรรม“ผมจะเลี้ยงคุณวันอื่น
"เอเวอร์กรีน แคปปิตอลทำแต่ธุรกิจปล่อยเงินกู้เท่านั้น! พวกเขาจึงไม่ใช่คนใจซื่อมือสะอาดตั้งแต่แรกแล้ว!“คลิฟฟ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น!“คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำอวดเบ่งเมื่อคุณเป็นเพื่อนกับผู้ชายแบบนั้น?!“เมื่อเวลาเปลี่ยนอะไร ๆ ก็ย่อมเปลี่ยน!“การทำงานอย่างซื่อสัตย์เท่านั้นที่จะคงอยู่ตลอดไป!“คนอย่างคลิฟฟ์อยู่ได้ไม่นานหรอก!เบย์เลอร์จ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม เธอทำสีหน้าภาคภูมิใจให้เห็นบนใบหน้าที่แต่งไว้อย่างงดงามในตอนนี้“ธุรกิจชั่วร้ายนั้นอยู่ได้ไม่นานหรอก! ที่นี่บริษัทของเราดีที่สุด!”แม่ของกาเบรียลทำสีหน้าที่ดูเป็นคนอวดดีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ใช่แล้ว! บริษัทของเราเป็นบริษัทเดียวที่ให้เกียรติกับบรรพบุรุษของเรา!”กาเบรียลรู้ว่าตระกูลของเขากำลังช่วยเขาทำการเยาะเย้ยฮาร์วีย์ แต่ตอนนั้นเขายังรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ระงับความรู้สึกเอาไว้ เพราะฮาร์วีย์เริ่มถูกดูหมิ่นในตอนนี้แล้ว“ทำในสิ่งที่ถูกต้อง!”ดูเหมือนเบย์เลอร์กำลังสั่งสอนฮาร์วีย์อยู่“ถ้าคุณเก่งกว่าฉันสักครึ่งหนึ่ง บางทีตระกูลซิมเมอร์ก็อาจจะให้โอกาสคุณได้กับกลับไปเป็นลูกเขยที่เกาะเมียกินอีกครั้
แต่ถึงกระนั้นแดเรียลก็ยังทำเมินเฉยต่อคนในตระกูลนั้นอย่างสิ้นเชิงเขารีบเดินไปอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์ ก่อนโค้งคำนับเขาอย่างให้ความเคารพ“คุณยอร์ก!”“คุณยอร์กเหรอครับ?!'แดเรียลพูดด้วยเสียงไม่ดังแต่ก็ไม่ค่อย...แต่คำพูดเหล่านั้นให้ความรู้สึกเหมือนมีระเบิดดังขึ้นในหัวของพ่อแม่เบย์เลอร์เบย์เลอร์ก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากด้วยบรรดาญาติ ๆ ต่างทำสีหน้าที่ดูไม่เชื่อเป็นอย่างมากในขณะที่มองดูฮาร์วีย์'อะไรกันวะเนี่ย?''คุณยอร์กอีกแล้วเหรอ?''ลูกเขยที่เกาะเมียกินคนนี้น่าประทับใจจริง ๆ เหรอ?'เบย์เลอร์ตัวแข็งทื่อ“ซีอีโอแจ็คสัน! เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะเมียกินนะคะ!”แดเรียลทำเมินเฉยต่อเบย์เลอร์อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เขาโค้งคำนับอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์อย่างนอบน้อม“คุณยอร์ก! คุณซิมเมอร์!“ผมไม่คิดว่าจะมาเจอคุณสองคนที่นี่! ช่างเป็นบุญของผมจริง ๆ!“ผมรู้สึกเป็นเกียรติจังเลยครับ!“ผมตื่นเต้นมากเลยเนี่ย!”แดเรียลดีใจมากจนเขาต้องยิ้มกว้างอยู่ตลอดเวลาทุก ๆ คนในตระกูลลีต่างตกตะลึงเมื่อเห็นแดเรียลมีความสุขอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์เบย์เลอร์อ้าปากค้างทันที เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้ในตอนนั้นเธอไม่คิดว่าฮาร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข