ซาร์ล่าไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้อีกต่อไปหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย“ผีสิงเหรอ?“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?“คุณพูดอะไรของคุณกันเนี่ย?“ทีแรกฉันก็ไม่อยากเปิดโปงคุณหรอกนะฮาร์วีย์ เพราะเห็นแกซีอีโอรุยซ์!“แล้วยังไงล่ะ? คุณทำการอวดอ้างอย่างไม่มีขอบเขตอะไรเลย!“คุณยังพูดเรื่องแบบนั้นในยุคนี้อยู่อีกเหรอ? ใคร ๆ เขาจะคิดว่าคุณบ้าเอาได้นะ!“ฉันเคยสืบประวัติคุณเหมือนกัน! คุณเป็นแค่ลูกเขยที่โดนครอบครัวภรรยาไล่ตะเพิดออกมา!“คุณไม่มีอะไรน่าประทับใจเลย!“แน่นอนว่าคุณไม่รู้เรื่องรู้ราวในศาสตร์ของการดูฮวงจุ้ยเลย!“แหม แหม!“ถึงแม้ซีอีโอรุยซ์จะไม่เปิดโปงคุณ แต่ฉันจะไม่ให้โอกาสคุณได้มีโอกาสหลอกเขาหรอกนะ!”ซาร์ล่ามองดูเคลแลนด้วยสีหน้าที่ดูชอบธรรม“ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะดูหมิ่นอะไรคุณหรอกนะซีอีโอรุยซ์ และฉันก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ต่อต้านฮาร์วีย์ด้วย" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอาย ๆ“ฉันเป็นแค่คนซื่อสัตย์คนหนึ่ง ฉันไม่ชอบผู้คนที่ชอบสร้างภาพเลยค่ะ!“คุณอย่าไปหลงเชื่อเขาง่าย ๆ นะคะ!“จริง ๆ แล้วคุณก็แค่โชคไม่ดีในช่วงไม่กี่วันมานี้“เขาคงแอบส่งคนไปตา
“อะไรกัน?”คลิฟฟ์และซาร์ล่าอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นหน้าอกของเคลแลน'เป็นไปได้ยังไงกัน?'สีหน้าของพวกเขาดูแย่ลงในทันทีพวกเขารู้ดีว่าด้วยทัศนคติของเคลแลนนั้น เขาจะไม่เปิดเผยความลับอย่างนั้นกับฮาร์วีย์ง่าย ๆ หรอก!'บางทีเขาอาจจะมีความสามารถก็ได้...'เคลแลนไม่ได้ตั้งใจที่จะคิดบัญชีกับคนทั้งสองนั่นเลย เขามีแต่ความกังวลในขณะมองดูฮาร์วีย์“นี่ไงครับคุณยอร์ก! ทำไมมันไม่รู้สึกอะไรเลย?“ตอนแรกผมก็คิดว่านี่คงเป็นแค่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์!“ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะดีกว่า"ฮาร์วีย์หรี่ตามอง“คุณต้องตายแน่ ๆ ถ้าจุดพวกนั้นมาบรรจบกันเป็นจุดเดียว"เคลแลนรู้สึกสับสน“ผมต้องเจอะเจอกับเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นในสองสามวันที่ผ่านมาก็เพราะเจ้านี่เหรอครับ?”“โชคชะตาของคุณถูกผีสิงดูดไป" ฮาร์วีย์ตอบ“เมื่อถูกดูดไปจนเกลี้ยงเราก็จะต้องจัดงานศพให้คุณในไม่ช้านี้”“ฮะ!”เคลแลนกระโดดตัวลอยด้วยความกลัวหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขาพยายามปัดผีสิงออกจากตัวโดยสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรซาร์ล่ากัดฟันกรอดด้วยความไม่เชื่อ“ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขนาดนั้นหรอก!“คุณคิดว่าเรากำลังเ
"ผมไม่มีทักษะทางการแพทย์จริง ๆ แต่ผมรู้วิธีฆ่าคน" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“คุณอยากลองดูไหมล่ะ?“ผมสามารถจบชีวิตของคุณได้ด้วยเข็มเพียงเล่มเดียว”เคลแลนตัวสั่นเทาแล้วฝืนยิ้ม“คุณตลกดีนะครับคุณยอร์ก!“ผมยังคงรอให้คุณช่วยผมอยู่นะ...”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะพูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป เขารีบเจาะนิ้วตัวเอง แล้วหยดเลือดของเขาลงบนหน้าผาก หัวใจ และในบริเวณรอบ ๆ จุดแดง ๆ บนหน้าอกของเคลแลน หลังจากนั้นเจ้าผีสิงนั่นก็เริ่มจางหายไป...“มันหายไปแล้ว! มันหายไปแล้วจริง ๆ!”เหล่าลูกน้องของเคลแลนบอกได้เลยว่าจุดแดง ๆ พวกนั้นได้ค่อย ๆ จางลง ก่อนจะเลือนหายไปจนหมดเคลแลนไม่รู้ว่าฮาร์วีย์กำลังทำอะไรในตอนแรก...แต่ยังไงก็ตามเขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขาได้ถูกปลดปล่อยแล้ว เขารู้สึกสดชื่นมาก ๆคลิฟฟ์ตกใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาคิดว่าฮาร์วีย์เป็นพวกจัดฉาก ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าตัวเขานั่นแหละที่เป็นคนใจแคบ“เก่งมากเลยครับคุณยอร์ก!“คุณต้องบ้าไปแล้ว!”เคลแลนรู้สึกเบิกบานใจมาก“มีบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจ“ผมเคยเจอมาเยอะแล้วที่บุคคลสำคัญหลายต่อหลายคน นำกระจกหลากหลายแบบมาติดเอาไว้ในบ้านหรือใ
ดวงตาของคลิฟฟ์กระตุกเล็กน้อย“คุณรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง?“ฮะ?”ซาร์ล่าตัวแข็งทื่อเธอรู้ว่าสามีของเธอจะไม่มีวันกลับไปคำนับหลุมศพของบรรพบุรุษ แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้“ง่ายมาก...คุณเป็นคนแข็งแรง แต่คุณมีดีอยู่แค่นั้นแหละ ผมรู้สึกได้ว่าบรรพบุรุษของคุณไม่ได้คอยมาปกป้องคุ้มครองคุณเลย“ถ้าไม่ใช่เพราะความตั้งใจอันแรงกล้าของคุณล่ะก็ คุณคงตายไปหลายครั้งแล้ว“ลองคิดดูสิว่าคุณเคยเฉียดตายมาหลายครั้งแล้วนับตั้งแต่ลูกชายของคุณเกิดมาใช่ไหม?”คลิฟฟ์ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“คุณช่างน่าประทับใจจริง ๆ! ไม่แปลกใจเลยที่ซีอีโอรุยซ์จะชื่นชมคุณถึงขนาดนั้น" คลิฟฟ์ร้องบอก“คุณพูดถูก ผมรอดตายมาหลายครั้งแล้ว! ผมได้รับบาดเจ็บสาหัสทุกครั้งเลย แต่ก็เอาตัวรอดมาได้“แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะแค่โชคดีหรอกใช่ไหม?”“ผู้ที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติมักจะโชคดีเหรอ...เปล่าเลย?”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ เป็นการโต้ตอบ“ผมไม่รู้เรื่องนั้นหรอก แต่...“ผมรู้ว่าเหตุผลข้อใหญ่ที่สุดที่คุณไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองก็เพราะคุณไม่มีทายาท“ผมขอแนะนำให้คุณมีลูกซะเมื่อคุณยังทำได้ จะเพศไหนก็ไม่ใช่เรื่อ
ฮาร์วีย์ออกจากซานฟรานซิสโก คลับเฮ้าส์ตอนสามทุ่มหลังทานอาหารเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็มุ่งหน้ากลับไปที่วิลล่าของตระกูลซิมเมอร์หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวัน เขาก็ไม่อยากจะเจอหน้าลิเลียนแล้วมีปากเสียงกับเธออีก ดังนั้นเขาจึงกลับเข้าห้องอย่างเงียบเชียบที่สุดแต่ก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น เขาก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากห้องแมนดี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจเขาจึงผลักประตูเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในแล้วมีกลิ่นหอมสดชื่นลอยเข้าจมูกทันทีแมนดี้คงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธอมีผ้าเช็ดตัวสีขาวจั๊วะพันไว้รอบส่วนสำคัญบนร่างกายเท่านั้น เผยให้เห็นเรียวขาที่ดูเพรียวบาง ดวงตาของฮาร์วีย์กระตุกเมื่อเห็นภาพนั้นเขาเคยเห็นผู้หญิงสวยมามากมาย และผู้หญิงแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตนเอง...แต่แมนดี้ยังเป็นเพียงผู้เดียวที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นตูมตามได้เขารู้สึกได้ว่าลมหายใจของเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาในตอนนี้เขาสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว แล้วรีบมองออกไปทางอื่น“คุณกลับมาแล้ว"แมนดี้ก้าวถอยหลังไปโดยสัญชาตญาณ แต่รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าเป็นฮาร์วีย์นั่นเอง“ผมได้ยินเสียงคุณกรีดร้องเมื่อกี้นี้ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า
ฮาร์วีย์ส่งยิ้มจาง ๆ ให้เธอ“ไม่เป็นไรหรอก ผมเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจึงเป็นหนี้บุญคุณผม”จากนั้นฮาร์วีย์ก็เปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว“จริงสิ ทำไมตอนนี้เงินทุนในสาขาของคุณถึงมีปัญหาล่ะ?“ทำไมคุณไม่บอกผมตั้งแต่แรก?”โดยปกติแล้วฮาร์วีย์จะเข้าใจถึงสถานการณ์นี้เป็นอย่างดีสาขาที่เก้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุน...แต่การขึ้นสู่อำนาจของแมนดี้นั้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลฌอง พวกเขาได้ใช้อิทธิพลในการชักใยอยู่ในตระกูลอย่างเงียบ ๆ และโอนเงินทุนของสาขาที่เก้าออกไปสาขานี้จึงได้รับความเดือดร้อนไม่น้อยหลังจากนั้นแมนดี้พยายามอย่างมากในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่พบหนทางในการจัดการอะไร ๆ ได้หลังจากที่เธอมาสะสางเรื่องยุ่ง ๆ ของตระกูลฌองในโกลด์เด้น แซนด์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยิ่งทวีความกดดันมากกว่าเดิมมากแมนดี้ได้ไปร่วมงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ทั่วทั้งเมืองนี้ เธอถึงขนาดจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารมากกว่าเดิมสองเท่า แต่ก็ยังไม่สามารถหาเงินจำนวนสามร้อยล้านดอลลาร์ได้ทันเวลานั่นคือที่มาของเรื่องยุ่ง ๆ นั้น“บอกคุณเหรอ?”แมนดี้มองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ“แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
ในช่วงเช้าตรูวันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์ตื่นจากการหลับใหลในค่ำคืนแย่ ๆ นั้น แล้วถูกแมนดี้ลากเข้าไปในรถเธอเริ่มบ่นฮาร์วีย์ทันทีที่เข้าไปอยู่ในรถทั้งสองคนพวกเขาได้พูดคุยกันเรื่องกาเบรียลจะเลี้ยงอาหารทั้งครอบครัวไปเมื่อวันก่อนแล้ว...แต่ฮาร์วีย์ก็ยังตื่นสายมากฮาร์วีย์ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้นหลังจากเข้าไปอยู่ในรถแล้วกาเบรียลเกิดโชคดีที่ได้รับผิดชอบงานโครงการที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พูดได้เลยว่าเขามีสถานะสูงขึ้นจากการรับงานนี้เบย์เลอร์ ลี น้องสาวของกาเบรียลก็ทำงานได้ดีมากด้วย พูดได้เลยว่าตระกูลของเขาช่างมีบุญมากจริง ๆลิเลียนกับไซม่อนก็อยากจะไปร่วมงานเหมือนกัน แต่พวกเขาขอให้แมนดี้ไปแทนเนื่องจากมีอะไรต้องทำหลังจากได้ยินว่าแมนดี้จะมาร่วมงาน กาเบรียลก็อยากให้ฮาร์วีย์มาร่วมงานด้วย โดยอ้างว่าเขาอยากให้คำแนะนำกับฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์รู้ดีว่ากาเบรียลไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้นแต่เขาไม่ได้สนใจอะไร ในเมื่อแมนดี้ยืนกรานว่าจะไป เขาก็ไม่รังเกียจที่จะตามเธอไปด้วยในเวลาเที่ยงตรงฮาร์วีย์กับแมนดี้ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ห้องที่สองของ 'ศาลาแดง'ห้องนี้เป็นห้องที่ดูหรูหรามาก มีโต๊ะขนาดใหญ่อย
"แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีพวกคุณทุกคนในที่นี้!“ฉันกับสามีจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อทำการขอบคุณพวกคุณทุกคนเป็นพิเศษ"พ่อของกาเบรียลลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูชอบธรรม“วันนี้เชิญดื่มกินให้เต็มที่ไปเลยนะทุก ๆ คน!” เขาร้องบอกหลังจากหัวเราะเสียงดังลั่น“ถ้าคุณต้องการอะไรก็ขอให้บอกมาเลย!“เรามีไวน์รีสลิ่งปี 1982 มากพอกับความต้องการของทุก ๆ คน!”กาเบรียลยืนขึ้นอย่างภาคภูมิใจด้วย“พ่อ แม่ และทุก ๆ คน!“ผมขอขอบคุณทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้!“ผมจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ไปจนตลอดชีวิต!“ดื่มอวยพรกันหน่อยครับ!”เขาดื่มไวน์เอื้อก ๆ ลงคอไป“คุณกับเบย์เลอร์เป็นคนเก่งมาก! ถ้ารวยแล้วก็อย่าลืมพวกเราล่ะ!“ใช่แล้ว! ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่งในขณะที่ยังอายุน้อย ๆ อยู่เลย!“คนธรรมดา ๆ จะไม่สามารถรับงานจากเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปได้หรอก!“อีคลิปส์สตูดิโอได้รับการหนุนหลังจากตระกูลพาเทลด้วย ซึ่งเบย์เลอร์เข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี!“ตระกูลของเราช่างมีคนที่ดูโดดเด่นจริง ๆ!”บรรดาญาติ ๆ ต่างรู้สึกชื่นชมยินดีในขณะมองไปที่กาเบรียลและเบย์เลอร์คุณลุงผู
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข