ฮาร์วีย์ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ แต่เขาทนที่จะเห็นชายชราคนนี้ต้องทนทุกข์ทรมาณไม่ได้หลังจากใคร่ครวญในเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า "คุณปู่ของคุณมีอะไรไม่ดีอยู่ในตัว"“ที่คุณต้องประสบอุบัติเหตุก็เพราะเรื่องนี้นั่นแหละ“ผมแนะนำให้คุณไป…”“อะไรไม่ดีเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นเดือดดาลเป็นอย่างมาก“แกพยายามฆ่าคุณปู่ของฉันเพียงเพี่อจะเอาเงิน!“แล้วยังกล้าพูดแบบนั้นเพื่อเอาตัวรอดจากเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!“ฉันจะตีแกให้น่วมเลยถ้ายังพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อยู่อีก!”ผู้หญิงคนนั้นเริ่มรู้สึกโกรธมากขึ้นก่อนจะเหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าแปะ!การตบของเธอไม่ได้ฟาดลงบนใบหน้าของฮาร์วีย์เพราะซีนเธียร์ได้ยกมือขึ้นมากันเอาไว้“พี่เขยของฉันเป็นคนดีนะคุณผู้หญิง!“เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ลุกขึ้นมาช่วยคุณ! คุณไม่ได้ขอบคุณเขาก็แย่พอแล้วนะ นี่ยังจะพยายามตบตีเขาอีกเหรอ?!“คุณโทรเรียกตำรวจได้เลยถ้าคุณคิดว่าการกระทำของเขาทำให้คุณปู่ของคุณต้องทนทุกข์ทรมานล่ะก็!“ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการให้เรารับผิดชอบเราก็ยอม!“แต่อย่าอาจหาญมาทำร้ายกันเพียงเพราะเราเข้าไปช่วยคุณ!”ท่าทีดุดันของซีนเธีย
ฮาร์วีย์เปิดท้ายรถเพื่อหยิบกระเป๋าเดินทางของเขาเขามองเห็นกล่องของขวัญเรียบง่ายอยู่ข้างใน มันคือหัวไชเท้าที่เต็มไปด้วยโคลน“เมล็ดแฟลกซ์จากเกรท ไวท์ เมาท์เท่นเหรอ?ฮาร์วียงุนงงสับสน เขาไม่คิดว่าแดเรียลจะมาทำเซอร์ไพรส์เขาที่นี่นี่เป็นยาชูกำลังอันยอดเยี่ยมที่มักจะใช้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ชายสูงอายุด้วยความที่ฮาร์วีย์วางแผนจะแต่งงานใหม่ เขาจึงต้องได้รับความยินยอมจากลิเลียนและไซม่อนก่อน หลังจากคิดใคร่ครวญถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็ตัดสินใจหยิบเมล็ดแฟลกซ์ขึ้นมาแมนดี้ได้ออกจากวิลล่าไปหลังจากได้รับข่าวนั้นเธอตกตะลึงเมื่อเห็นถุงพลาสติกในมือของฮาร์วีย์“นี่คือ...”“ก็แค่ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับพ่อกับแม่ไงครับ” ฮาร์วีย์ตอบโดยไม่ได้ชี้แจงอะไรเพิ่มเติมซีนเธียแลบลิ้นออกมาก่อนจะหลบออกไปเงียบ ๆ หลังเห็นพี่สาวของเธอแมนดี้ตกตะลึงหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะยังเตรียมของขวัญมาให้พ่อแม่ด้วย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยถูกกันก็ตาม“ลูกอุปถัมภ์ของพวกเขาพร้อมทั้งภรรยาก็อยู่ที่นี่ด้วย" แมนดี้บอกหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“คำพูดของพวกเขาไม่น่าฟังเลยนะ พยายามอย่าทะเลาะ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! คุณเอามาด้วยเหรอ?กาเบรียลระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะมองไปที่ถุงพลาสติกของฮาร์วีย์“คุณจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ใช่ไหม?“คุณเดินทางมาที่นี่เพียงเพื่อขอความยินยอมจากพ่อแม่ในการแต่งงานใหม่ แต่คุณยังเอาของขวัญแบบนี้มาให้เหรอ?ก่อนที่แมนดี้จะทันได้พูดอะไร กาเบรียลก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าถุงพลาสติกออกมาจากมือของฮาร์วีย์หลังจากนั้นก็เปิดถุงดูแล้วเห็นหัวไชเท้าสด ๆ วางอยู่ในถุง“หัวไชเท้าเหรอ? คุณเพิ่งดึงเจ้านี่ขึ้นมาจากพื้นดินเหรอ?“มีราคาถึงหนึ่งดอลลาร์หรือเปล่าเนี่ย?“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พ่อแม่เอาแต่เรียกคุณว่าไอ้คนโสโครกไร้ประโยชน์!“คุณนำสิ่งนี้มาให้เพื่อขอความยินยอมจากพวกท่านเหรอ?“ทำไมถึงได้หน้าด้านอย่างนี้?“ออกไปซะ!“ครอบครัวของเราไม่ต้อนรับคุณ!”ในขณะที่กาเบรียลกำลังพูดอยู่นั้น เหล่าคนร่ำรวยที่มีความคุ้ยเคยกับไซม่อนและลิเลียนต่างก็ทำสีหน้าแปลก ๆ ในขณะจ้องมองฮาร์วีย์สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาเชื่อว่าการปรากฎตัวของฮาร์วีย์จะทำให้มาตรฐานของการมาพบเจอกันต้องลดลงฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะจัดการกับผู้คนที่นี่ เขารู้ว่าคนพวกนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยว
“ฉันไม่ใช่ลูกในไส้ของพ่อกับแม่ ฉันเป็นเพียงลูกอุปถัมภ์ที่ไม่มีสถานะอะไรเลย...“แต่ฉันรู้ว่าฉันควรทำให้พวกท่านมีความสุขไม่ว่าจะมีราคาสูงขนาดไหนก็ตาม!“ตราบใดที่ฉันได้ยินเสียงหัวเราะจากพวกท่าน ฉันก็จะทุ่มเงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตเพื่อพวกเขา!“แต่เธอบอกว่าสิ่งที่เธอซื้อมาจากไหนก็ไม่รู้เพื่อเอามาหลอกพวกท่านนั้นดีพอแล้วเหรอ?!“เฮ้อ! ท้ายที่สุดแล้วดูเหมือนว่าฉันจะเป็นเพียงคนนอกสินะ!“ฉันพยายามปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ฉันไม่สามารถแข่งขันกับไอ้หัวไชเท้าเจ้ากรรมนั้นได้หรอก!”ดูเหมือนกาเบรียลจะทำอะไรไม่ถูกก่อนที่จะทำสีหน้าเคร่งเครียดเอเวอรี่รีบเข้าไปพะยุงกาเบรียลเอาไว้เมื่อเขาทำท่าจะเวียนหัวขึ้นมาเล็กน้อย“ฉันบอกคุณหลายครั้งแล้วนะกาเบรียล!” เธอกระซิบบอก“คุณปฏิบัติต่อพวกท่านราวกับเป็นพ่อแม่ของตัวเองจริง ๆ แต่ไม่มีทางที่คุณจะเอาชนะสายเลือดที่แท้จริงของครอบครัวได้หรอก!”ฝูงชนต่างถอนหายใจในขณะที่พวกเขาทำสีหน้าที่ดูเวทนากาเบรียล“ใช่แล้ว! ทุกวันนี้มีคนที่น่าเคารพอย่างกาเบรียลอยู่ไม่มากนักหรอก!“นับเป็นบุญของพวกเขานะที่มีลูกอย่างกาเบรียล!”ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขาให้ความเคาร
ผู้ชายที่มีความสามารถอย่างแท้จริงจะไม่ยอมเป็นลูกเขยที่เกาะภรรยาหรอกนะที่สำคัญกว่านั้นก็คือแขกเหรื่อพวกนั้นย่อมยืนอยู่ข้างเดียวกับกาเบรียลเป็นธรรมดา เพราะพวกเขาได้บางสิ่งบางอย่างจากเขา“หุบปากซะเถอะถ้าแกไม่รู้เรื่องอะไรฮาร์วีย์! หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!“ใช่แล้ว! ดูสภาพตัวเองสิ! แกกล้าใส่ร้ายกาเบรียลอย่างนั้นได้ยังไง!?!“แกอวดอ้างตัวว่าเป็นมืออาชีพหรือยังไง?! แกคิดว่านี่เป็นของปลอมเพียงเพราะแกบอกอย่างนั้นเหรอ?“ฉันได้ยินว่าแกไม่มีพื้นเพทางการศึกษามาเลยด้วยซ้ำ! แกไม่มีสิทธิ์มาตีราคาภาพวิจิตรอักษรนี้ถ้าแกยังอ่านอะไรไม่ออกเลย!“กาเบรียลเป็นนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองนี้! ถ้าเขาบอกว่าเป็นของจริงก็ต้องเป็นของจริงอย่างแน่นอน!”ฝูงชนต่างอยู่ในความโกลาหล พวกเขาทำการเยาะเย้ยฮาร์วีย์อย่างไม่ปราณี ซึ่งเป็นอะไรที่บาดหูมากสีหน้าของแมนดี้และซีนเธียดูมืดมนลงทันทีพวกเขาไม่คิดว่ากาเบรียลจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้“เราแค่ต้องหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมาตีราคาภาพนี้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“ฉันจะเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้กับผู้เชี่ยวชาญเอง"หัวใจของกาเบรียลเต้นไม่เป็นจังหวะนอกจากท่าทีที่ดู
รูม่านตาดำของลิเลียนหดตัวลงทันทีที่เธอเห็นฮาร์วีย์จากนั้นเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะพูดว่า "เอาภาพวาดมาให้แม่ดูหน่อยสิลูกรักพ่อกับแม่ขอตรวจตราดูหน่อยทั้งสองคนต่างก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวย จึงเป็นเรื่องธรรมดาพี่พวกเขาจะมีประสบการณ์ในเรื่องนี้บ้างด้วยความที่ไซม่อนเคยทำการศึกษาเรื่องของสะสมในทุกประเภทมาอย่างทุกข์ทรมาณตอนที่อยู่ในเซาธ์ไลท์ เขาจึงมีความรู้ในการตีราคาโดยทั่วไปมากกว่าไม่อย่างนั้นกาเบรียลคงไม่ซื้อภาพเกลาดิอุสมาหรอกกาเบรียลจ้องมองฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะยื่นภาพวาดนั้นให้กับไซม่อนไซม่อนหยิบแว่นขยายออกมาก่อนจะแสร้งทำเป็นตรวจดูทั่วทั้งภาพวาดนั้นไม่กี่นาทีต่อมาไซม่อมก็เริ่มกระซิบกระซาบให้ลิเลียนฟังลิเลียนจ้องมองกาเบรียลโดยสัญชาตญาณสีหน้าของเธอดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งกาเบรียลยืนตัวสั่นอยู่ในรองเท้าบู้ททันที สายตาของลิเลียนช่างดูน่ากลัวเหลือเกินเห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้แล้วว่าภาพวาดนั้นเป็นของปลอมแมนดี้กับซีนเธียร์ก็จองมองไปที่กาเบรียลอย่างเย็นชาเช่นกัน'ลูกบุญธรรมคนนี้กล้าดียังไงถึงเอาของปลอมมาหลอกเพื่อหวังประโยชน์จากตระกูลนี้?'แ
“ใช่แล้ว! เขาเป็นผู้ชายที่เกาะภรรยากิน! เขากำลังจะโดนไล่ออกจากตระกูลอยู่แล้ว! ทำต้องมาสนใจเขาในเรื่องนี้ด้วยล่ะ?“ถ้าลูกเขยที่เกาะภรรยากินสามารรถอ่านออกเขียนได้ล่ะก็ หมูก็คงเริ่มบินได้แล้วมั้ง!“กาเบรียลเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมากในเมืองนี้! เขาจะไม่พยายามหลอกใครด้วยภาพวาดปลอม ๆ หรอก!”ผู้คนต่างจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม“มาตรงนี้แล้วขอโทษซะ! เลิกทำให้พ่อกับแม่โมโหได้แล้ว!” กาเบรียลร้องบอกอย่างภาคภูมิใจเขาทำท่าหยิ่งยะโสราวกับว่าเขาเป็นลูกแท้ ๆ ของครอบครัวนี้ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อกาเบรียลอย่างสิ้นเชิง และยิ้มเริงร่าอยู่ตรงหน้าลิเลียนไม่ใช่ว่าเธอแยกไม่ออกว่าภาพวาดนั้นเป็นของปลอม...แต่ในใจของเธอนั้นฮาร์วีย์เป็นเพียงลูกเขยที่พยายามจะขึ้นสู่อำนาจในตระกูลนี้เมื่อดูจากความคับแค้นใจระหว่างคนทั้งสองแล้ว ก็ถือว่าลิเลียนใจดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ทำอะไรกับฮาร์วีย์ แล้วทำไมเธอต้องผดุงความยุติธรรมในเรื่องนี้ไว้ด้วยล่ะ?กาเบรียลไม่เพียงแต่ให้ความเคารพลิเลียนและไซม่อนเป็นอย่างมากเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่มีความสามารถในโกลด์เด้น แซนด์ด้วยถึงแม้ว่ากาเบรียลจะเป็นเพียงสุนัข
ทุกคนตกใจมาก พวกเขามองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความไม่เชื่อเป็นอย่างยิ่งเอเวอรี่อ้าปากค้างทันที เธอไม่รู้จะพูดอะไรในขณะนั้นทุกคนอยากจะเยาะเย้ยฮาร์วีย์ แต่ใบหน้าของพวกเขากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงสดท้ายที่สุดแล้วทุกคนรู้ว่าการขโมยอะไรจากพิพิธภัณฑ์บรรพบุรุษนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าจะมีใครทำอย่างนั้น แต่พวกเขาก็คงจะไม่ขายภาพนั้นในราคาเพียงหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์หรอกที่สำคัญกว่านั้นก็คือป่านนี้คงมีข่าวใหญ่โตแล้ว ถ้าภาพวาดนั้นถูกขโมยไปจริง ๆด้วยความที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย ฉะนั้นแม้แต่คนโง่เง่าก็ยังรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนต่างจ้องมองกาเบรียลด้วยสีหน้าแปลก ๆ'อย่างน้อยก็น่าจะเลือกภาพที่โด่งดังน้อยกว่านี้หน่อย ถ้าคุณอยากจะทำอะไรแบบนี้ล่ะก็!''ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาถูกเปิดเผยความจริงด้วยข่าวออนไลน์นั้น...'กาเบรียลผู้ภาคภูมิใจรู้สึกว่าใบหน้าของเขาได้กลายเป็นสีแดงแจ๊ดฮาร์วีย์ไม่ได้ตบหน้าเขาโดยตรง แต่ก็รู้สึกเหมือนตบหน้านั่นแหละใบหน้าของลิเลียนดูมืดมนลงทันที“หยุดทำอวดเบ่งได้แล้ว!“ถึงแม้ว่าภาพนี้จะเป็นของปลอม แต่ก็ถูกเตรียมการมาอย่างดี!“ที่เราโดนหลอกก็เพราะว่