ฝูงชนต่างนิ่งเงียบทันทีที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์พวกเขามองฮาร์วีย์ด้วยความตกใจ บางคนอดที่จะดึงหูตัวเองไม่ได้ เพื่อจะเช็คดูว่าหูเขาไม่ได้ยินอะไรที่ผิดเพี้ยนไปนับเป็นเรื่องปกติที่แดเรียลจะพูดจาอะไรแบบนี้...แต่ดูเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งถ้ามีคนบ้านนอกจากไหนก็ไม่รู้มาพูดแบบเดียวกันนี้แดเรียลชะงักงันไปครู่หนึ่งแล้วทำเสียงเยาะเย้ย“น่าสนใจ! นานแล้วนะที่ไม่มีคนทำแบบนี้ต่อหน้าฉัน“แกไม่ใช่คนแรกหรอก แต่แกเป็นหนึ่งในคนที่น่าสนใจที่สุดอย่างแน่นอน“เอาอย่างนี้ไหม? หมอบคลานลงซะก่อนจะออกจากที่นี่ไป"ฮาร์วีย์พยักหน้า“ได้เลย ทำตอนนี้เลย"แดเรียลจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม'ไอ้สารเลวนี่รู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดคุยอยู่กับใคร?'“ไอ้ผู้ชายคนนี้ไม่ให้ความเคารพคุณเลยครับนายน้อยแจ็คสัน!”“เขาอยากให้คุณหมอบคลานเลยเหรอ?! ไม่มีทาง!”“ดูเหมือนคุณต้องให้บทเรียบกับเขาหน่อยที่มาพูดจาแบบนั้นนะนายน้อยแจ็คสัน!”เพื่อน ๆ ของแดเรียลส่งเสียงเชียร์ดังลั่น พวกเขาต้องการให้เกิดความวุ่นวายแดเรียลรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมากเมื่อเห็นฝูงชนเยาะเย้ยอย่างไม่ปราณี“ฉันให้ความเคารพแกอยู่นะไอ้สารเลว!
"กล้าดียังไงมาทำร้ายฉันไอ้สารเลว?!”แดเรียลซวนเซล้มลงกับพื้นสีหน้าของเขามีแต่ความโกรธเกรี้ยวและขุ่นเคือง เขาจ้องมองฮาร์วีย์พร้อมกับกัดฟันกรอด“แกตายแน่!”“แกได้ยินไหม?!”เพื่อน ๆ ของเขาก็เงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน โดยจ้องมองฮาร์วีย์และแมนดี้อย่างดูถูกเหยียดหยามแน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าทั้งสองคนนี้จะต้องจบเห่แน่พนักงานเสิร์ฟสาวสวยรีบโทรหากลุ่มผู้ชายในชุดสูทอย่างรวดเร็ว พวกเขาอาจเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านนี้ก็ได้ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อคนพวกนั้น แล้วจิบชาที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทีสบาย ๆ“ตอนนี้แกยังมีโอกาสจะได้คุกเข่าอยู่นะ แต่ถ้าแกยังไม่ยอมหยุดล่ะก็ ฉันก็คงต้องหักแขนของแกแล้วล่ะ”ฝูงชนต่างส่งเสียงเยาะเย้ยคำพูดของฮาร์วีย์พวกเขาทั้งหมดคิดว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงไอ้ขี้แพ้ที่ไม่มีสิทธิ์มาต่อกรกับทายาทผู้ร่ำรวยท้ายที่สุดแล้วในสถานที่อย่างโกลด์เด้น แซนด์นี้ ความสามารถเพียงน้อยนิดไม่สามารถพาใครไปได้ไกลนักหรอกในเมืองใหญ่เช่นนี้มีแต่ความแข็งแกร่ง ภูมิหลัง เส้นสาย และอำนาจเท่านั้นแหละที่มีความสำคัญฮาร์วีย์จบเห่แน่ที่มาท้าทายผู้ทรงอำนาจเช่นนี้!“แกตายแน่ ไอ้คนบ้านนอก!”พนักงานเสิร
ในที่สุดแดเรียลก็แสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาเมื่อเพื่อน ๆ ได้ยินคำพูดของเขา คนทั้งหมดนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับถือขวดเบียร์อยู่ในมือ พร้อมที่จะตีหัวฮาร์วีย์ให้แตกสีหน้าของแมนดี้ดูเย็นชาขึ้นมาเลย“คุณยังพยายามจะทำอะไรอีกเหรอ?!“ฉันจะโทรเรียกตำรวจถ้าคุณทำอะไรโง่ ๆ ล่ะก็!”“โทรหาตำรวจเหรอ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”พนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา“เราจะเริ่มเรียกคุณว่ามามี๊ถ้าคุณสามารถทำอะไรแบบนั้นได้! “ฉันจะบอกอะไรให้นะ! สถานีตำรวจทั้งหมดล้วนมีสายสัมพันธ์กับนายน้อยแจ็คสันทั้งนั้น!“ถึงแม้ว่าคุณจะเริ่มขอความช่วยเหลือจากพวกเขา...“พวกเขาก็จะไม่ทำอะไรเลย!”“ไม่เป็นไรหรอกแมนดี้ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง"ฮาร์วีย์ห้ามแมนดี้ไม่ให้โทรศัพท์ออกไป แล้วเหลือบมองแดเรียลอย่างใจเย็น“แกกำลังบอกว่าจะไม่ร้องขอความเมตตาอย่างงั้นเหรอ?”แดเรียลหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนจะกระอักออกมาเป็นเลือด“แกจะร้องขอความเมตตาจากฉันเหรอ? แกมีสิทธิ์จะทำอย่างนั้นเหรอ?“อย่างนั้นเหรอ? ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์เลยเหรอ?”ฮาร์วีย์ดึงนามบัตรออกมาแล้วสะบัดออกไปทางหัวของแดเรียล“แล้วตอนนี้ล่ะ?“เฮ้! เรายังอวดเบ่งกั
แดเรียลไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ดูเหมือนเป็นไอ้ขี้แพ้นั้นถึงมีสิทธิ์ได้รับนามบัตรของไคริมาตั้งแต่แรกแต่ยังไงก็ตามเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาทึกทักเอาว่าฮาร์วีย์ได้ไปหยิบนามบัตรใบนี้ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นมาอวดเบ่งเขากัดฟันกรอดพร้อมกับกดเบอร์โทรศัพท์ออกไป แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตัวสั่นขึ้นทันทีไคริพูดออกมาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…ว่าฮาร์วีย์เป็นเพื่อนที่ดีของเธอคำพูดที่เรียบง่ายนั้นก็เพียงพอจะทำให้แดเนียลหัวหมุน ความหวังที่เหลืออยู่ของเขาถูกบดขยี้ลงทันทีเขาวางสายโทรศัพท์แล้วกระแทกเข่าลงกับพื้นอย่างไม่ลังเลอะไรเลยเหล่าฝูงชนเต็มไปด้วยความสับสนทุกคนต่างไม่เชื่อตาตัวเองที่มองเห็นภาพนั้น พวกเขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น'ไอ้คนขี้แพ้อย่างเขาทำให้หนุ่มหล่อและร่ำรวยต้องคุกเข่าลงได้ยังไง?'“ผมขอโทษครับคุณยอร์ก ผมต้องขอโทษจริง ๆ!“ผมเป็นคนโง่เขลา! ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ!“ได้โปรด!“ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของผมเอง!"จากนั้นแดเรียลก็ตบหน้าตัวเองสองสามทีก่อนจะเริ่มคร่ำครวญเขารู้ดีว่าเขาจะต้องตายแน่ถ้าฮาร์วีย์ไม่สบอารมณ์กับเรื่องนี้“ได้โปรด! ให้โอกาสผมด้วยครับ!”เขาคงต้องจบลงอย่างเลวร
หลังจากเห็นแดเรียลคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับตบหน้าตัวเองและร้องไห้คร่ำครวญแล้ว...จู่ ๆ ฝูงชนก็ต่างรู้สึกอ่อนแรงด้วยความตกใจ และหายใจกระหืดกระหอบด้วยความลำบากทุกคนมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสงสัยและเคอะเขินในตอนแรกพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงคนโสโครกไร้ประโยชน์ที่จะถูกบดขยี้ได้ในทันทีพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์และผู้หญิงที่เขารักจะต้องจบสิ้นไปแล้ว...แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่นได้ง่าย ๆแดเรียลลงไปนอนกองอยู่บนพื้น อีกนิดเดียวเขาก็จะเห่าเหมือนสุนัขได้อยู่แล้วช่างเป็นภาพที่ดูน่าหดหู่เสียจริง ๆ!พนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนนั้นซึ่งเคยมั่นใจในตัวเองมาก่อน ก็รู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าด่ากราดออกไปเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแดเรียลจะกลัวไอ้คนบ้านนอกที่มีเพียงเขาคนเดียวถึงขนาดนี้'เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?''นามบัตรใบนั้นมันหมายถึงอะไรเหรอ?''เขามีสิทธิ์ทำให้แดเรียลต้องคุกเข่าจริง ๆ เหรอ?'ใบหน้าของแมนดี้ดูเป็นสีแสงสด แล้วมองออกไปที่เหล่าฝูงชนรอบ ๆ ตัวเธอ“ไม่เป็นไรนะฮาร์วีย์ เขาได้ขอโทษคุณแล้วนะ" เธอกระซิบบอก“ยังไม่พอหรอก" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“ถ้าวันนี้เขาเจอคนอื่น คุณคิดว่าเขาจ
ฮาร์วีย์เหลือบมองแดเรียลแล้วหัวเราะเบา ๆ“แค่นี้เหรอ?”แดเรียลตัวแข็งทื่อในขณะที่กัดฟันกรอด“นี่คือรถปอร์เช่นะครับคุณยอร์ก ผมเพิ่งซื้อมาเพื่อวานนี้เอง" เขาพูดเบา ๆ โดยได้ใส่กุญแจรถเอาไว้ในกล่องของขวัญนั้น“คุณคงไม่มีรถใช้ตั้งแต่เดินทางมาถึงนี่...“กรุณารับไปด้วยเถอะครับ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอกครับ“แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือนี่คือเบอร์โทรศัพท์ของผม! ถ้าต้องการอะไรก็โทรหาผมได้เลย ผมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ ถึงแม้คุณจะสั่งให้ผมไปทำความสะอาดห้องน้ำหรือกวาดถนนก็ตาม!”แดเรียลรีบยัดกล่องของขวัญเข้าไปในมือของฮาร์วีย์ ก่อนจะผลุนผลันออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่มองดูของขวัญกล่องนั้น และรับเอาไว้อย่างเงียบ ๆ...แต่ทันทีที่เขาแกะกล่องของขวัญออกดู ดวงตาของเขาก็ดูสว่างไสวขึ้นทันทีเขาไม่จำเป็นต้องซื้อของขวัญอะไรอีกแล้ว นี่เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก!จากนั้นเขาก็ขับรถปอร์เช่ใหม่เอี่ยมคันนั้นไปที่ร้านอาหารเวสเทิร์น ที่อยู่บนชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นนี่คือสถานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของซีนเธียร์ฮาร์วีย์รีบเดินไปที่ทางเข้าโดยไม่ได้สนใจที่จะอ่านข้อคว
เวสตินเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกับซีนเธียร์ แต่ตอนนั้นเขาเป็นคนที่มีความสุขุมมาก จึงไม่ได้เข้าใกล้เธอเลยเมื่อเขามาที่โกลด์เด้น แซนด์ ก็บังเอิญที่ซีนเธียร์จัดงานเลี้ยงวันเกิดของเธอขึ้นมาพอดีหลังจากได้รับคำเชิญนั้นเวสตินก็รู้ว่าโอกาสของเขาได้มาถึงแล้วดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะบีบบังคับผู้หญิงที่เขาโหยหาให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขาหลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์เสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์รอบตัวเขาทำให้เขาฉีกยิ้มออกมาอย่างมั่นใจเวสตินมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถต้านทานภาพโรแมนติกเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้โชว์ความร่ำรวยอันเหลือเชื่อของเขาแล้วแม้แต่ซีนเธียร์ที่ดูเหมือนมาจากหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำ ก็ยังไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้“ผมอยากจะบอกคุณตั้งแต่วันแรกที่เราเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกันแล้วนะซีนเธียร์...”เวสตินยืนถือช่อกุหลาบอยู่ตรงหน้าซีนเธียร์ด้วยสีหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยว“แต่โชคชะตาก็เล่นตลก ในตอนที่ผมกำลังจะบอกอะไรคุณนั้น คุณก็ได้ออกจากบัควู้ดไปแล้ว“ขอบคุณพระเจ้าที่พันธนาการเราเอาไว้ด้วยด้ายสีแดง! ทำให้เราบังเอิญมาเจอ
"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะเวสติน"แต่ถึงยังไงก็ตามใบหน้าของซีนเธียร์ก็ดูเย็นชา เธอรังเกียจคนที่ทำอะไรแบบนี้กับเธอเป็นอย่างมาก เกลียดคนพวกนี้มากกว่าอะไรทั้งนั้นเธอมีความรู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังพยายามบีบบังคับเธอนี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเธอนะ เธอไม่ควรจะถูกรบกวนแม้แต่การแสดงความเคารพต่อเวสตินด้วยซ้ำไป“คุณควรมอบอะไรทั้งหมดนี้ให้กับคนที่คุณรักนะ"ซีนเธียร์พูดอย่างระมัดระวัง เธอพยายามจะทำให้เวสตินโต้แย้งอะไรไม่ได้“ฉันมีคนที่อยู่ในใจฉันแล้ว“เราคบกันไม่ได้หรอก"เวสตินเป็นคนที่มีเกียรติมาก แล้วยังทั้งสูงและหล่ออีกด้วย...แต่ยังไงก็ตามซีนเธียร์ก็มีคนที่เธอรักอยู่แล้ว เธอไม่มีที่ว่างสำหรับคนอื่นอีกแล้วสีหน้าของน้องสาวเวสตินแปรเปลี่ยนไปทันที“ซีนเธียร์! เธอพูดอะไรแบบนี้เพราะความเขินอายไม่ได้นะ“ผู้หญิงที่อยากเป็นแฟนกับพี่ชายฉันยืนเรียงแถวกันจากนี่ไปจนถึงมอร์ดูเลยนะ!“ถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ เธอก็จะไม่มีโอกาสได้คบหากับผู้ชายอย่างพี่ชายของฉันได้นะ!”ในทางตรงกันข้ามคำพูดของซีนเธียร์ไม่ได้ทำให้เวสตินสะทกสะท้านอะไรแม้แต่นิดเดียว“โอ้ ซีนเธียร์! อย่าอายไปเลยน่า! ผมรู้น