“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมมาที่นี่ก็เพื่อเลี้ยงอาหารคุณย่าจริง ๆ“ท้ายที่สุดแล้วผมยังไม่เคยพูดคุยกับคุณย่าอย่างเป็นมิตรเลย“การรับประทานอาหารพร้อมกับพูดคุยกันเล็กน้อย เป็นวิธีการแสดงความเคารพของผม! คุณย่าไม่ควรปฏิเสธผมแบบนี้นะ!ฮาร์วีย์ยิ้มเบิกบาน“นอกจากนี้แม้แต่อาชญากรที่ชั่วร้ายที่สุดก็ยังได้อาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่จะถูกประหารด้วยซ้ำไป“คุณย่าแน่ใจเหรอว่าไม่อยากกิน?“นี่เป็นอาหารชั้นเลิศ! ผมยังได้ไวน์รีสลิ่งปีแปดสองมาหนึ่งขวดด้วย!”จากนั้นฮาร์วีย์ก็เทไวน์ให้ตัวเองหนึ่งแก้ว แอลกอฮอล์สีอำพันมีรสหวานละมุนลิ้น ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นไวน์คุณภาพเยี่ยมคุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าเย็นชาหลังจากเห็นการเสแสร้งของฮาร์วีย์ ที่ทำราวกับว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลชั้นนำ“ถ้าอยากจะฆ่าฉันก็ฆ่าเลยสิ! แกทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?!“ไอ้สารเลว!“เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วฉันไม่กลัวที่จะบอกแกหรอก!“ฉันจ่ายเงินสามร้อยล้านดอลลาร์ให้กับเจ็ดนักฆ่าไร้เทียมทาน ฉันถึงกับสัญญาว่าจะมอบทรัพย์สินของตระกูลคอบบ์ให้พวกเขาครึ่งหนึ่ง ถ้าพวกเขาฆ่าดีนและแกได้!“น่าเสียดายที่แผนการมักจะล้มเหลวอยู่ตลอด!“เชิญลงมือในสิ่งที่แกต้องทำได้แล้
“ว่ากันว่าแม้แต่ประเทศตะวันตกที่ทรงอำนาจมากที่สุดก็ยังเคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ“กลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา...“ชีวิตชั่วนิรันดร์“การศึกษาขั้นพื้นฐานและสภาพเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว โลกตะวันตกถือครองทรัพยากรเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของโลก“เป็นธรรมดาที่ผู้ปกครองประเทศของพวกเขาจะอยากมีชีวิตที่ยืนยาว เพื่อที่เขาจะได้ครองอำนาจได้ตลอดไป และกลายเป็นพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่!“นั่นคือสาเหตุว่าทำไมจึงเกิดเรื่องวุ่นวายในราชวงศ์ยุคโบราณมาเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีแล้ว“แต่ถึงกระนั้น โลกตะวันตกก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในการมีอายุยืนยาวได้เลย“และเนื่องจากการกดขี่ของคนพวกนั้น ในที่สุดประเทศ H ก็ลุกขึ้นและอ้างสิทธิ์ในความรุ่งโรจน์หลังจากผ่านไปห้าพันปี“โลกตะวันตกถูกกวาดล้างด้วยความโลภของพวกเขาเอง“หนึ่งร้อยปีต่อมาการต่อสู้ระหว่างยุโรปกับอเมริกาก็เกิดขึ้น การต่อสู้ดูเหมือนจะแตกต่างยุคราชวงศ์แส้ แต่เกิดขึ้นจากเหตุผลเดียวกัน“นี่เป็นความอัปยศอดสู ห้าประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดประสบกับความล้มเหลวมากยิ่งขึ้น“หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้บดขยี้คนพวกนั้นเพียงลำพัง และทำให้ประเทศ H ยืนอยู่ในตำแหน่
"เสแสร้งต่อไปเถอะ!”คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม“แกคิดว่าแกจะใส่ร้ายฉันด้วยข่าวลือที่ได้ยินมาเหรอ?!“ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ที่ฉันทำทั้งหมดนี้ก็เพื่ออำนาจเท่านั้น!”ฮาร์วีย์ทำสีหน้าเคร่งขรึม“ไม่หรอก คุณย่าไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นหรอก“สิ่งที่คุณย่ากำลังค้นหาอยู่ก็คือชีวิตชั่วนิรันดร์“องค์กรที่คุณย่าเข้าไปร่วมด้วยก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก 'เอเวอร์มอร์' นั่นเองดวงตาของคุณย่าคอบบ์กระตุกหลังจากได้ยินชื่อองค์กรแห่งนั้นฮาร์วีย์ฉีกยิ้ม“เอาอย่างนี้ไหม? นี่คือข้อตกลง...“ถ้าคุณย่าเล่าเรื่องเอเวอร์มอร์ให้ผมฟังทั้งหมด ผมก็จะปล่อยให้คุณย่ามีชีวิตอยู่ต่อไป คุณย่าว่าดีไหม?“ผมจะให้ผู้อาวุโสคอบบ์เป็นคนตัดสินชะตากรรมของคุณย่าด้วย“บางทีคุณย่าอาจชอบวิธีนี้มากกว่าก็ได้?“ท้ายที่สุดแล้วเขาอาจให้โอกาสคุณย่าเปลี่ยนใจ เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคุณย่ากับเขา"คุณย่าคอบบ์ปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“แกช่างไร้เดียงสาจริงนะฮาร์วีย์! แกคิดว่าแกสามารถจะเอาทุกอย่างไปจากฉันด้วยวิธีแบบนี้เหรอ?!“แกไม่มีสิทธิ์หรอก!“เอเวอร์มอร์ได้ทำสงครามโดยบีบบังคับกองกำลังภายนอกจำนวนมาก ให้มาต่อสู้กับประเทศ H เ
“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณย่า แต่ผมก็สามารถขุดคุ้ยสมาชิกขององค์กรเอเวอร์มอร์ที่อยู่ในประเทศของผมได้ทุกคน“แล้วทำไมถึงไม่บอกรายละเอียดมาให้หมดล่ะ?”คุณย่าคอบบ์ได้แต่หัวเราะอย่างเย็นชา“ฉันคงจะกลายเป็นผีไม่มีหลุมถ้าฉันพูดอะไรออกไปมากกว่านี้!“ศพของฉันจะถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน!จากนั้นเธอก็เทไวน์ให้ตัวเองก่อนจะยกขึ้นจิบ“จะยังไงก็ตาม ฉันก็ตายไปแล้ว! ทำไมฉันต้องบอกแกเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยล่ะ?!”ความงดงามของชีวิตสามารถสัมผัสได้จากรสชาติหวานอมขมของไวน์ คุณย่าคอบบ์มีแต่ความรู้สึกคิดถึงบ้านเมื่อเธอจิบไวน์เข้าไปท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นคนของเอเวอร์มอร์ แล้วก็ค้นหาชีวิตอันเป็นนิรันดร์ด้วยฮาร์วีย์ยิ้มอีกครั้ง“ก็เพราะคุณย่าจะได้อะไรมากขึ้นถ้าทำอย่างนั้นน่ะสิ!“ยกตัวอย่างเช่น ผมได้ทำลายแผนการของคุณย่าไปหมดแล้วเมื่อมาถึงจุดนี้ ผมจะทำข้อตกลงกับเอเวอร์มอร์ ถ้าคุณย่าเล่าให้ผมฟังทุกอย่าง...“บางทีคุณย่าอาจฆ่าผมด้วยวิธีนี้ เพื่อเป็นการแก้แค้นผมก็ได้“หรือบางทีผมอาจคิดปล่อยคุณย่าและคนในตระกูลต้องตาย โดยศพของพวกคุณย่าจะไม่บุบสลายและถูกฝังในพื้นทีดี ๆ"คุณย่าคอบบ์ตัวแข็ง
“เลิกพูดอะไรอ้อมค้อมกันได้แล้ว!“บอกข้อมูลของเอเวอร์มอร์มาซะ!“แล้วผมจะให้โอกาสพวกคุณได้มีชีวิตอยู่ต่อไป“แต่ถ้าไม่บอกผมก็จะเอาพวกคุณทั้งคู่ไปโยนให้ปลากิน!”ฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะสงบนิ่งอีกต่อไป เขาได้พูดสิ่งที่เขาต้องการออกไปทุกอย่างแล้วใบหน้าของคุณย่าคอบบ์ดูมืดมนลงทันที“แกคิดว่าฉันรู้อะไรมากมายเพียงเพราะฉันเป็นพวกเดียวกับเขาเหรอ?“สุดท้ายแล้วฉันก็เป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้น!“ฉันไม่ได้รู้อะไรมากมายขนาดนั้นหรอก!“ฉันได้บอกแกไปหมดแล้ว!”ฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่ที่หยิบเนื้อราดซอสขึ้นมาชิ้นหนึ่ง“ผมเชื่อว่าถ้าคุณย่าเป็นคนอื่น...“แต่คุณย่าก็ยังเป็นคุณย่าคอบบ์อยู่นั่นเอง!“คุณย่าปล่อยให้ท่านอาวุโสคอบบ์ค้นหาสุสานโบราณโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอได้ยังไงกัน? ผมแน่ใจว่าคุณย่าได้วางแผนเอาไว้แล้ว“ถ้าไม่มีตำแหน่งของคุณย่าแล้วล่ะก็ ทำไมคุณย่าถึงพยายามฆ่าเทพสงครามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกล่ะ?“พูดง่าย ๆ ก็คือคุณย่าจะไม่ทำอะไรมากมายให้เอเวอร์มอร์หรอก ถ้าพวกเขาไม่ให้การช่วยเหลือคุณย่าอย่างเต็มที่"ฮาร์วีย์ยิ้ม เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับเอเวอร์มอร์ค่อนข้างน้อย การคาดเดาของเขาส่วนใหญ่ก็เป็นการเก็บโน่
มาร์เซลส่งข้อความกลับมา โดยบอกว่าภรรยาของเขามีลูกอีกคนแล้ว และได้จากมาเพื่อหลบหลีกตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงที่อาจจะมาสร้างปัญหาหนักข้อขึ้นได้ เพื่อที่พวกเขาจะเลี้ยงลูกได้อย่างสงบฮาร์วีย์รู้สึกดีใจกับทั้งสองคนอย่างมาก เขารีบลบประวัติการส่งข้อความทันที เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากกล่าวคำอำลาพวกเขาแล้ว ฮาร์วีย์ก็ขอให้ควินนี่ไปส่งเขาที่สนามบิน เขาวางแผนที่จะเดินทางไปยังโกลด์เด้น แซนด์ในคืนนั้นเลยภายในรถโรลส์รอยซ์รุ่นฐานล้อยาวนั้น ควินนี่สวมถุงน่องสีดำยื่นแก้วแชมเปญให้กับฮาร์วีย์“คุณจะไม่อยู่ต่ออีกสักสองสามวันจริง ๆ เหรอ?“นายท่านบอกฉันเอาไว้แล้ว คุณได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ได้อย่างถาวรถ้าคุณต้องการ”“ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงนั้นเป็นของผม แต่คุณก็เป็นเจ้าของได้เช่นกัน...”จู่ ๆ สีหน้าที่ดูเย็นชาและเหินห่างของควินนี่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสดทันทีเธอรีบหันหน้ากลับเพื่อซ่อนสีหน้าของเธอเอาไว้ฮาร์วีย์อวดร้อยยิ้มจาง ๆ ราวกับว่าเขามองไม่เห็นอะไรเลย“นั่นก็ดีอยู่หรอก แต่คุณย่ายอร์กไม่ค่อยต้อนรับผมที่นี่สักเท่าไหร่“ในที่สุดคุณก็สามารถยุติเรื่องราวที่นี่ได้ ถ้าผมอยู่ต่อก็ม
"อะไรนะ? คุณรู้เรื่องพวกเขาด้วยเหรอ?”ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของห้าตระกูลลี้ลับ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้จักเอเวอร์มอร์ เนื่องจากพวกเขาอยู่แถวนี้มาเป็นเวลานานมากแล้วควินนี่เงียบเสียงไปก่อนจะตอบเบา ๆ "ไม่มีใครรู้ว่าองค์กรแห่งนี้มาจากไหนอีกต่อไป...“นับตั้งแต่ราชวงศ์แส้เป็นต้นมา เอเวอร์มอร์ก็มีบทบาทให้ประเทศ H มากที่สุด“ประเทศหมู่เกาะตามมาเป็นอันดับสอง“เป้าหมายของพวกเขาก็เป็นอะไรง่าย ๆ นั่นคือการมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์“พวกเขาได้ทำสิ่งชั่วร้ายมามากมายก็เพื่อเป้าหมายนี้เพียงอย่างเดียว”พวกเขากลายเป็นนักฆ่าและผู้ทรงอำนาจ ร่องรอยของพวกเขายังปรากฏให้เห็นอยู่ในประเทศเล็ก ๆ บางประเทศ พร้อมกับกองกำลังของรัฐบาลในทะเลใต้“พูดง่าย ๆ ก็คือเอเวอร์มอร์จะไม่หยุดยั้งในการหาหนทางที่จะได้มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์”แต่ยังไงก็ตามด้วยความที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในด้านมืดของประวัติศาสตร์ พวกเขาจึงมีอิทธิพลต่อประเทศนี้มาหลายปีแล้ว“ทั้งห้าตระกูลลึกลับลับและสิบตระกูลชั้นนำจะกล้าเป็นศัตรูกับเอเวอร์มอร์ก็ต่อเมื่อเราจำเป็นต้องทำ“แต่ถึงกระนั้นหลังจากที่ปักหลักอยู่ในฮ่องกงและลาสเวกัสแล้ว
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น รถก็แล่นไปถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงหลังจากกอดควินนี่อย่างอบอุ่นแล้ว ฮาร์วีย์ก็เดินเข้าไปในสนามบินฮาร์วีย์ต่างจากคนอื่น ๆ เขาเดินเข้าไปในทางเดินสำหรับวีไอพีและนั่งในชั้นเฟิร์สคลาสหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแบล็คเบิร์น ซิตี้ ฮาร์วีย์ก็รู้ว่าการนั่งในชั้นเฟิร์สคลาสจะช่วยให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ได้มากมายหลังจากนั้นก็มีกลิ่นหอม ๆ ลอยมามีผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อเชิร์ตสีดำเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายรูปร่างกำยำในชุดสูทสองคนฮาร์วีย์เหลือบมองโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะเห็นผู้หญิงคนนั้นสวมแว่นกันแดดกุ๊ชชี่ขนาดใหญ่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ในเวลาเดียวกันเธอก็เดินกระแทกส้นสูงในขณะสวมกางเกงหนังขาสั้นจู๋เรียวขาอันเรียวยาวของเธอช่างดูสวยสะดุดตามาก ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากกระโจนเข้าหาตั้งแต่แรกเห็นท้ายที่สุดแล้วขาของผู้หญิงคนนั้นช่างดูขาวจั๊วะและอ่อนนุ่มเป็นอย่างมากแม้แต่ฮาร์วีย์ยังอดที่จะจ้องมองไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเบนสายตาไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นซึ่งก็เห็นแค่ริมฝีปากกับคางแหลม ๆ เท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะรู้ได้ว่าเธอเป็นคนสวยชายในชุดสูทสองคนนั้นจ้อง
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข