คุณย่าคอบบ์มีสีหน้าเหมือนเธอได้ตายมาสามวันเต็มแล้วจากนั้นกอร์ดอนก็ก้าวออกมาพร้อมกับปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่“ขอแสดงความยินดีกับการเปิดร้านของคุณด้วยครับฮาร์วีย์!“นี่คือของขวัญในนามของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ ผมหวังว่าคุณจะชอบนะครับ!”จากนั้นกอร์ดอนก็โบกมือ ก่อนที่สาวกสองสามคนขององค์กรแห่งนี้จะนำแผ่นป้ายสลักตัวอักษรออกมาแผ่นป้ายนี้มีคำสี่คำเขียนอยู่บนนั้น“น้ำอมฤตสีเงินของตระกูลคอบบ์!"นอกจากนี้ก็ยังมีลายเซ็นของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้อยู่ทางด้านล่างด้วยโดยไม่มีคำสัญญาหรือคำสั่งซื้อใด ๆ...เห็นได้ชัดว่าองค์กรแห่งนี้กำลังวางแผนที่จะซื้อยาขี้ผึ้งของฮาร์วีย์ทั้งหมด!ที่สำคัญกว่านั้นก็คือแผ่นป้ายนี้จะทำให้ไม่มีใครต่อต้านฮาร์วีย์ ถึงแม้ว่าธุรกิจนี้จะขยายออกไปในเมืองก็ตามเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเขาอย่างชัดเจน!ได้ผลประโยชน์อย่างไม่จบสิ้น!“อะไรกัน?!”โนเอมิและคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจถึงขอเท็จจริงนั้นเมื่อพวกเขาเห็นภาพที่เกิดขึ้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่โซซัดโซเลลงกับพื้นด้วยความไม่เชื่อสายตาสีหน้าของคุณย่าคอบบ
"ฮาร์วีย์ ยอร์ก"เอลเลนตกตะลึงเมื่อเธอจ้องมองคนที่เธอไม่เคยให้การยอมรับนับถือเลย...ความไม่น่าเชื่อแวบเข้ามาในจิตใจของเธออีเดนเป็นหนึ่งในปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่โด่งดังที่สุดในเมืองนี้ แต่ถ้าเขาต้องการให้บุคคลสำคัญเหล่านั้นให้ความเคารพเขา และได้รับแผ่นป้ายนั้น...ก็คงเป็นเรื่องท้าทายอยู่เหมือนกันถึงแม้ว่าเขาจะทำได้จริง แต่เขาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายสิบปีถึงจะทำอย่างนั้นได้!และด้วยความสามารถของอีเดนแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้สำเร็จหรอก!เว้นแต่ว่าเขาจะกลายเป็นเทพสงคราม...แต่เขาจะทำอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาแทบจะต่อสู้อะไรไม่ได้เลย?ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!เอลเลนเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเสียใจหลังจากตระหนักได้ถึงเรื่องทั้งหมดนี้“ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์เป็นบุคคลสำคัญของที่นี่อย่างแท้จริง“เขาช่างแข็งแกร่งมากจนสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นเพียงตัวตลกสำหรับเขา“เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาไม่โกรธไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอหรือไร้อำนาจ...“ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพราะไม่มีอะไรที่ดูสำคัญในสายตาของเขาเลย!“ฉันคิดว่าเขาเป็นแค่คนขี้แพ้ เป็นคนบ้านนอกจากประเทศอื่น...“ฉันคิดว่าเขาจะต้อง
ช่างน่าละอายเสียจริง ๆ คุณย่าคอบบ์ไล่เคทีออกจากตระกูลไป เพื่อเปิดโอกาสให้อีเดนได้ขึ้นสู่อำนาจ นี่นับเป็นการทิ้งโอกาสดี ๆ สำหรับตระกูลนี้ในการที่จะได้พบกับความเจริญรุ่งเรืองอนาคตของตระกูลได้สูญสลายไปแล้ว พวกเขาได้ไปสร้างความเคืองขุ่นอย่างมากให้กับผู้ทรงอำนาจ ที่จะช่วยจัดการในเรื่องนี้ไปซะแล้วทุกคนต่างมองคุณย่าคอบบ์โดยสัญชาตญาณด้วยสายตารังเกียจและเหยียดหยามพวกเขาอยากรู้ว่าเธอจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรคุณย่าคอบบ์จับไม่เท้าอย่างเกรี้ยวกราดในขณะกัดฟันกรอดเธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะได้หลุดรอดออกจากสถานการณ์นี้ไปได้บอกได้เลยว่าตระกูลนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนต่อความอัปยศอดสู ในขณะที่ฮาร์วีย์และเคทีต่างได้รับความชื่นชมยินดีเธอยากจะเป็นเทพสงครามแล้วตบฮาร์วีย์ลงไปกองกับพื้นซะเหลือเกิน“คุณย่าคอบบ์คะ...เคทีเดินออกมาจากทางด้านหลังของฮาร์วีย์ด้วยท่าทีสบาย ๆ“ตอนนี้คุณย่ารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองหรือยัง?”ดวงตาของคุณย่าคอบบ์กระตุกอย่างบ้าคลั่ง เธอเริ่มตีโพยตีพายราวกับว่านี่คือนี่คือฟางเส้นสุดท้ายของเธอแล้ว“ใครเป็นย่าของแก?!“แกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้แล้ว
'เข้าข้างความยุติธรรมเหรอ?''ทำในสิ่งที่ถูกต้องเหรอ?'ตระกูลคอบบ์แทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ล้อเล่นกันใช่ไหม'ก่อนที่ตระกูลคอบบ์จะทันได้พูดอะไรอีก กาเอลก็พูดออกมาด้วยท่าทีอันชอบธรรม“พวกคุณช่างไร้ยางอายกันจังที่หวังจะโยกย้ายทรัพย์สินของเคทีออกไปอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ผมได้ยื่นฟ้องเธอ!“แต่คนยุติธรรมอย่างผมจะไม่มีวันอยู่ฝ่ายเดียวกับจอมวายร้ายอย่างคุณหรอก!“ผมทำเป็นตกลงที่จะร่วมมือกับพวกคุณ และผมยังทำให้พวกคุณเชื่อด้วยว่าผมโดนฮาร์วีย์ทำร้ายจริง ๆ!“คุณติดกับดักของผมแล้วล่ะ และนั่นคือตอนที่ผมถอนฟ้องเคที และคืนทรัพย์สินของเธอกลับไป!“หลังจากนั้นก็มีการจัดเตรียมกระบวนการทั้งหมดนี้ขึ้นมา!”ฮาร์วีย์ทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเหลือบมองไปที่กาเอลจริง ๆ แล้ว เขามาขอร้องที่จะมาเป็นลูกน้องของฮาร์วีย์ แต่เขากลับทำตัวสูงส่งและทรงอำนาจในตลอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงก็เป็นไปตามคาด...ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวของเขาหรอก เขาจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่ผลที่ออกมานั้นยังคงเหมือนเดิมคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของกาเอลเค
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณย่าคอบบ์เริ่มรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากแล้วสิ่งที่เธอไม่ควรพูดล้วนหลั่งไหลออกมาจากปากของเธอ'เขาไม่มีอำนาจแต่ยังอยากให้ตระกูลต้องล่มสลายเหรอ?'ช่างตลกสิ้นดี!'ในจิตใจอันเฉียบแหลมของเธอนั้น เทพสงครามยังไม่มีความหมายอะไรกับเธอเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนแปลกหน้าล่ะโนเอมิและอัลเลนรู้สึกโล่งอกหลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าคอบบ์ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ไม่มีทางจะบดขยี้ตระกูลคอบบ์ได้ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามตระกูลคอบบ์ยังคงเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่อยู่ดี!ผู้สืบทอดของตระกูลคอบบ์คนต่อไปก็ยังถูกกำหนดให้เป็นอีเดนอยู่!พวกเขาโดนดูหมิ่นดูแคลนอยู่ในเวลานี้แล้วจะยังไงล่ะ?สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวก็คือทรัพย์สินพวกนั้น!“อย่างนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์อวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะดีดนิ้ว“ดูเหมือนว่าคุณจะพูดถูกนะครับผู้อาวุโสคอบบ์“คนที่วางยาพิษคุณก็คือคนที่คุณรักมากที่สุด!”มีเสียงของคนเหนื่อยล้าดังขึ้นจากภายในร้าน“จิตใจของผู้หญิงมักจะชั่วร้ายที่สุดได้เสมอ...”จูเลียนและไอรีนเข็นรถเข็นที่มีผู้สูงอายุคนหนึ่งนั่งอยู่ออกมาเคทีรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นคน ๆ นั้น“คุณปู
"ออกไป!”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้ทำอะไร เคทีก็ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วตบวาเลรี่ออกไปให้พ้นทาง“หลบไป! เธอทำให้ทุกคนที่นี่ต้องอับอายขายหน้า!“เธอกล้าดียังไงมาตบฉัน?!“เธอมีสิทธิ์อะไรถึงมาทำแบบนี้?”วาเลรี่เดือดดาลด้วยความโกรธ เธอเดินอาด ๆ ไปข้างหน้าเพื่อตอบโต้ แต่ก็โดนเคทีตบเข้าให้อีกครั้งคนอื่น ๆ อยากจะเข้าไปช่วย แต่พวกเขาต่างหวาดกลัวกับการจ้องมองของดีน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนดูอยู่เฉย ๆดีนเป็นเทพสงคราม ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นคนพิการมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังแผ่รังสีออร่าแห่งความดุดันออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของคุณย่าคอบบ์และการท้าทายของจูลิโอแล้วล่ะก็ เขาก็ยังคงเป็นหัวหน้าตระกูลคอบบ์อยู่“พอได้แล้ว!” คุณย่าคอบบ์ตะโกนออกมาหลังจากเห็นวาเลรี่กล้าสร้างความอับอายให้ตัวเองอีกครั้ง“หยุดสร้างความอับอายให้ตัวเองซะที! กลับมาที่นี่ได้แล้ว!“น่าประทับใจมาก ไอ้เฒ่าสารเลว!“ฉันจะจดจำแกเอาไว้นะฮาร์วีย์!” คุณย่าคอบบ์อุทานออกมาอย่างโกรธแค้น“แต่ยังไงก็ตามแกคิดว่าจะทำลายชื่อเสียงของฉันแบบนี้ได้เหรอ? แกคิดว่าจะทำให้ฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ได้เหรอ? ช่
"คุณย่าคอบบ์!”อีเดนและคืนอื่น ๆ รีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นตระหนก“แกยังสติดีอยู่หรือเปล่า?!”วาเลรี่และคนอื่น ๆ จ้องมองฮาร์วีย์และตะโกนใส่หน้าเขา“แกมันคนใจร้ายเหลือเกินนะฮาร์วีย์!“เราเคยปล่อยแกไปถึงแม้ว่าแกจะสร้างปัญหาให้เราอยู่เรื่อย ๆ ก็ตาม!“ฉันไม่คิดว่าแกจะเนรคุณเราได้ถึงขนาดนี้ และทำอะไรแบบนั้นกับคุณย่าคอบบ์!”“แกไอ้สารเลว!”ฮาร์วีย์รู้สึกไม่สบายใจกับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลของวาเลรี่และคนอื่น ๆ“ผมจะให้เวลาคุณหนึ่งวัน" เขาบอก“ถ้าเคทีไม่มีอำนาจในตระกูลนี้ภายในระยะเวลาที่ว่านั้น...“และถ้าตอนนั้นขาของอีเดนและวาเลรี่ยังไม่หักล่ะก็...“ตระกูลคอบบ์ก็จะต้องพังพินาศ!”เมื่อได้ยินน้ำเสียงสบาย ๆ ของฮาร์วีย์ คุณย่าคอบบ์ก็มองเห็นแต่ความมืดมนเท่านั้นเธอยกมือขึ้นทาบหน้าอก แล้วทำสีหน้าชั่วร้าย“แกกล้าดียังไงไอ้สารเลว?!”“ดีน! คุณกล้าร่วมมือกับคนนอกมาต่อสู้กับภรรยาของตัวเองได้ยังไงกัน?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็นในขณะเดียวกันดีนก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา“คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะฮาร์วีย์!” เอลเลนอุทานออกมาตามสัญชาตญาณ“คุณไม่เข้าใจหรือไงว่าการให้อภัยมันเป็นหนทางที่ดีกว่า?!
หลังจากนั้นไม่นานนักข่าว เหล่าคนดัง และคณะนักเต้นรำที่ต่างตกตะลึงก็มาที่ร้านของฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เคยต่อต้านฮาร์วีย์กับเคทีมาก่อน ฉะนั้นการช่วยให้ทั้งสองคนมีอารมณ์ดีขึ้นก็น่าจะเป็นการแสดงความขอโทษได้แล้วฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะตัดสินใครที่อยู่ตรงนั้น แต่เขากลับมอบเงินจำนวนมหาศาลให้กับทุกคน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง คนพวกนี้คือตัวแทนของประชาชนโดยทั่วไปตระกูลคอบบ์รู้สึกแย่มากเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาถึงกับลังเล พวกเขากำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนข้างในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้อีเดนยืนโอนเอนไปมาอยู่ท่ามกลางฝูงชนพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด เขาจับมือของเอลเลนแน่นราวกับว่าเธอเป็นความหวังเดียวของเขาแต่ยังไงก็ตามเอลเลนค่อย ๆ ดึงนิ้วของเขาออกทีละนิ้ว แล้วเดินโซซัดโซเซอย่างสิ้นหวังเข้าไปหาฮาร์วีย์“ฉันรู้ว่าทำผิดไปแล้วฮาร์วีย์!” เธอร้องบอกด้วยใบหน้าซีดเผือดเธอพยายามฝืนยิ้มอย่างสวยงาม แล้วพยายามคว้าแขนของฮาร์วีย์เอาไว้อย่างสิ้นหวัง“กลับกันเถอะค่ะ...ดีไหม?“เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันใช่ไหมคะ?”ฮาร์วีย์ก้าวถอยหลัง“เวลาไม่สามารถย้อนกลับได้“ความสัมพันธ์ของเราก็เช่นกัน"เอลเลนตัวแข็งท